ผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองรู้สึกพอใจเป็นอย่างมากเช่นเดียวกันครอบครัวของเหยื่อที่กล่าวโทษเขาในตอนแรก ได้นำผลไม้มาขอโทษและขอบคุณเขาด้วยตัวเองออสการ์ไม่ได้สนใจในการใฝ่หาชื่อเสียง ความมั่งคั่งหรือพลังอำนาจในชีวิตของเขา แต่สิ่งที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดคือการได้ลูกน้องของเขากลับคืนมาผู้คนที่ตอนแรกต้องการจะคืนคฤหาสน์ที่พวกเขาได้ซื้อจากที่ซิลเวอร์นิมบัส เมาท์เทนรีสอร์ตไป ตอนนี้พวกเขาไม่ต้องการทำเช่นนั้นอีกแล้วอย่างที่เห็น ผู้อาวุโสอาร์มสตรองไม่ได้พูดหรือโฆษณาตามอำเภอใจคุณภาพของสิ่งก่อสร้างของซิลเวอร์นิมบัส เมาท์เทนรีสอร์ตค่อนข้างดีเลยทีเดียวนอกจากนี้ ซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์จะหาทางเพื่อพัฒนาคุณภาพโดยรวมและสิ่งอำนวยความสะดวกหลังจากความล้มเหลวทั้งหมดที่เกิดขึ้นใครจะยอมคืนคฤหาสน์ที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกัน?ไม่นานธุรกิจของซิลเวอร์ นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ได้กลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง ด้วยการยกเว้นคฤหาสน์บูติกที่แมนดี้ได้เก็บไว้ ซึ่งในอนาคตเธอวางแผนที่จะใช้มันเพื่อขอความเหลือนอกจากนั้น คฤหาสน์หลังอื่น ๆ ทั้งหมดได้ถูกขายไปแล้วมันคุ้มค่าที่จะพูดว่าแมนดี้ได้เอาคฤหาสน์ที่เดิมทีถูกขายใ
ในวันต่อมาฮาร์วีย์กำลังจะออกไปที่สกาย คอร์ปอเรชั่นตอนที่แมนดี้เดินออกมาจากห้อง“ฮาร์วีย์ เมื่อสองวันก่อนฉันได้รับที่ดินบางส่วนมากและพยายามที่จะทำกระบวนการตามหลักการให้เสร็จ”“วันนี้ซีนเธียร์มีสอบ คุณช่วยไปส่งเธอหน่อยได้ไหม?” แมนดี้ถามเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นที่โด่งดังไปทั่ว ซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ไม่ได้เสียชื่อเสียงไปแต่กลับมีชื่อเสียงขึ้นมาแมนดี้ได้รับผลประโยชน์จากโอกาสนี้โดยได้รับที่ดินหลายแห่งในบัควู้ดที่เธอชื่นชอบมา เธอเตรียมที่จะซื้อที่ดินเหล่านั้นและดันธุรกิจของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ขึ้นไปอีกขั้นฮาร์วีย์ยิ้มเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่แมนดี้ตั้งใจมันเป็นสิ่งที่ดีที่ภรรยาของเขามีแรงกระตุ้นและเขาจะดูแลเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เธอเอง“ได้ เดี๋ยวผมไปส่งเธอเอง เธอจะไปสอบที่มหาวิทยาลัยบัควู้ดใช่ไหม?”“ใช่”ถึงแม้ว่าฮาร์วีย์จะไม่ชอบมหาวิทยาลัยบัควู้ดและวางแผนที่จะส่งซีนเธียร์ไปมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง…แต่ซียเธียร์ก็ยังอยากที่จะสอบเข้าด้วยตัวของเธอเอง ซึ่งวันนี้เป็นวันสอบและจวนจะถึงเวลาแล้วหลังจากที่ส่งซีนเธียร์เสร็จและกำลังจะกลับ“พี่เขย รอฉันที่นี่นะ พี่ไปส่งฉันกล
ซีนเธียร์พูดอย่างตรงไปตรงมา แต่ความจริงแล้วเธอคิดสิ่งอื่นอยู่นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับเธอที่จะเธอจะได้อยู่ใกล้กับพี่เขยของเธอฮาร์วีย์รู้สึกว่าคำพูดของซีนเธียร์มีบางอย่างผิดแปลกไป แต่ในเมื่อเธอบอกว่าทำไปเพื่อการเรียนของเธอ อย่างนั้นเขาก็ต้องช่วยเธอเขาไม่มีทางเลือกอื่น เขาต้องพยายามอย่างมากเพื่อให้น้องสะใภ้ของเขาเรียนหนักเมื่อเห็นทั้งคู่จับมือและพิงซบไหล่กัน…คนมากมายที่แอบชอบซีนเธียร์เห็นภาพดังกล่าว ทำให้พวกเขาโกรธมากจนแทบจะกระอักเลือด!“ซีนเธียร์ที่ดูบริสุทธิ์และไร้เดียงสา จริง ๆ แล้วเธอกำลังคบกับตาลุงแก่อยู่อบ่างนั้นเหรอ?!”“ไม่จริง ฉันรับไม่ได้!”“เอาน่า นายมีสิทธิ์อะไรถึงพูดอย่างนั้นได้? นายคิดว่านายเป็นใคร?!”ชายหนุ่มหลายคนรู้สึกเกรี้ยวกราดแต่พวกเขาทำได้เพียงแค่สาปแช่งจากไกล ๆ และไม่ได้พูดสิ่งใดออกมาอีกไม่นาน ซีนเธียร์ก็พาฮาร์วีย์มาถึงที่โรงอาหารพวกเขาทั้งสองนั่งทานอาหารอยู่ที่มุมของโรงอาหาร พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะยังได้ยังความสนใจมากมายทั้ง ๆ ที่ทำอย่างนี้และหลาย ๆ คนก็ยังต้องมองพวกเขาอยู่ฮาร์วีย์พูดไม่ออก “ซีนเธียร์ ต่อไปคุณหยุดแต่งตัวดูดีมาได้ไหม? เห็นไหมว่าค
ฮาร์วีย์มองเมสันกลับ จากนั้นรอยยิ้มจาง ๆ ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาไม่แปลกใจว่าทำไมซีนเธียร์ถึงอยากแสดงภาพเหล่านั้นกับเขา เพราะว่าแถวนี้ค่อนข้างมีสิ่งน่ารำคาญอยู่เต็มไปหมดและทัศนคติของสิ่งที่น่ารำคาญที่อยู่หน้าพวกเขาตอนนี้ ทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีสุด ๆ ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไป อย่างมากฮาร์วีย์ก็แค่มองดูอยู่ด้านข้างและถ้าเขามองและชื่นชมคน ๆ นั้นเขาอาจจะยื่นมือเข้าไปช่วยแต่เด็กเวรนี่แสดงท่าทีคนเจ้าชู้ที่ก้าวร้าวออกมาและฮาร์วีย์ก็คงไม่ยอมให้น้องสะใภ้ของเขาตกไปอยู่ในน้ำมือของคนแบบนี้แน่นอนฮาร์วีย์ยังไม่ทันพูดจบแต่แล้วซีนเธียร์ที่กำลังกราดเกรี้ยวตะโกนแทรกขึ้น “เมสัน วอร์เนอร์! ฉันบอกนายไปชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอว่าเราไม่เหมาะสม!”“นายมีสิทธิ์อะไรถึงได้เข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน?!”“สิทธิ์เหรอ?”เมสันหัวเราะ“ฉันแสดงทุกอย่างให้เห็นหมดแล้วในมหาวิทยาลัยบัควู้ด ว่าใครที่ฉันต้องการให้เป็นแฟนของฉันจะต้องเป็นแฟนของฉัน!”“มันเป็นกฎในมหาวิทยาลัยบัควู้ด เธอไม่เข้าใจเหรอ?”“นักศึกษาที่นี่รู้หมดแล้ว ใครที่แย่งผู้หญิงของฉันไป แขนและขาของเขาจะต้องหัก!” เมสันป่าวประกาศอย่างหยิ่งผยองเขาเป็นท
“รุ่นพี่ดเวย์น!”เมื่อเห็นร่างของคน ๆ หนึ่งปรากฏขึ้น ซีนเธียร์ก็ทักทายเขาอย่างสุภาพดเวย์น ฮาริสเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลับบัควู้ดเช่นเดียวกัน ตอนนี้เขาเรียนอยู่ปีสี่และนาน ๆ ครั้งถึงจะมาที่มหาวิทยาลัยเขายังเป็นอีกคนที่ชื่นชอบซีนเธียร์ ถึงแม้ว่าเขาจะดูสง่างามกว่าก็ตาม“เมสันทำให้เธอลำบากอีกแล้วเหรอ?”ดเวย์นไม่ได้อยู่ที่นั่นตอนที่เกิดเรื่องขึ้น แต่เขารีบเข้าหาซีนเธียร์ด้วยรอยยิ้มทันทีสำหรับเขา ยิ่งเมสันสร้างปัญหาให้กับซีนเธียร์มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมีโอกาสช่วยเหลือหญิงสาวที่กำลังลำบากมากเท่านั้นดวเย์นจ้องมองเมสอนและขมวดคิ้วพร้อมกับพูด “มิสเตอร์วอร์เนอร์ ฉันเตือนนายไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าให้หยุดก่อกวนซีนเธียร์สักที!”“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับนาย!”เมสันตะโกน ถึงแม้ว่าท่าทางของเขาดูค่อย ๆ แย่ลงกว่าเดิมเขารู้ดีว่าดเวย์นเป็นใคร ถึงแม้ว่าครอบครัวของดเวย์นจะไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น แต่พ่อของดเวย์นทำงานให้กับรัฐบาลบัควู้ด ทำให้สถานะของเขาค่อนข้างสูงหากเมสันไม่จำเป็นจริง ๆ เขาไม่ได้อยากยั่วยุดเวย์นเลย“เมื่อกี้ว่าไงนะ?”ใบหน้าของดเวย์นค่อย ๆ มืดหมองลง เมื่อเทียบกับเมสันเขามีบุคลิกที่ดี
ดเวย์น ฮาริสและเมสัน วอร์เนอร์ทั้งคู่ต่างเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากในมหาวิทยาลัยบัควู้ด คำกล่าวที่เกี่ยวกับการสู้กับของพวกเขาไปแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วและดึงดูดนักศึกษาที่อยากรู้อยากเห็นมามากมายเมสันมีสีหน้าลำบากใจ แต่ต่างจากดเวย์นที่เมินเฉย แถมยังมีเวลาโบกมือทักทายสาว ๆ รอบตัวเขาอย่างเป็นมิตรอีกด้วยเขาเป็นประธานของสมาคมเทควันโดในมหาวิทยาลัยบัควู้ดและยังมีสายดำภายใต้ชื่อของเขาอีกด้วย ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา เขาจึงมีแฟนคลับสาว ๆ ค่อนข้างมากดเวย์นรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากกับท่าทางของเมสันในวันนี้เขาเชื่อว่าถ้าเขาจัดการกับเมสันได้ ซีนเธียร์ก็จะได้รู้ว่าเธอควรเลือกผู้ชายคนไหนดเวย์นยืดแขนของเขาออกและกวักนิ้วชี้ของเขาด้วยท่าทางเยาะเย้ย ท้าให้เมสันเขาหาเขาเมสันหัวเราะออกมาอย่างเลือดเย็นก่อนที่จะโยนลูกบาสใส่ดเวย์นอย่างเกรี้ยวกราดแต่ดเวย์นกลับยกขาของเขาและเตะลูกบาสออกไปแต่ทันทีที่เขาเตะ เมสันก็ได้พุ่งตัวเข้าหาเขาและโจมตีเขาด้วยการตบเข้าที่หน้าอย่างแรงเพียะ!การตบครั้งนี้แรงพอที่ทำให้ดเวย์นกระเด็นออกไป นาทีที่เขาล้มลงกับพื้น เมสันก็ได้พุ่งตัวเข้ามาเตะเข้าท้องของเขา“อ๊าก!”ดเว
ฮาร์วีย์ไม่ได้ตั้งใจอยากที่จะทะเลาะกับเด็กแต่เมสันกำลังทำตัวราวกับว่าเขาเป็นราชาของโลกทั้งใบ แต่ในสายตาของฮาร์วีย์เขาเป็นเพียงแค่เด็กเหลือขอเท่านั้นฮาร์วีย์จะสนใจสักนิดได้อย่างไร?เขายอมคุยด้วยเพียงเพราะเขาหวังว่าเมสันจะหยุดรังควานซีนเธียร์สักทีพูดอย่างปกติ ลืมทายาทร่ำรวยแห่งรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ไปได้เลย แม้แต่คณบดีของมหาวิทยาลัยบัควู้ดยังไม่มีสิทธิ์ที่จะคุยกับเขาแต่เมสันพบว่าคำพูดของฮาร์วีย์เป็นการหยามเกียรติอย่างมากเขาชี้ตรงไปที่ฮาร์วีย์อย่างเกรี้ยวกราดและตะโกน “นายคิดว่านายเป็นใครถึงกล้ามาบอกให้ฉันขอโทษ?!”“ฉันขอเตือนนาย! ว่าฉันรู้ทันนาย!”“ฉันต้องการซีนเธียร์และคืนนี้ฉันก็จะนอนกับเธอด้วย! ไม่ใช่แค่นั้นนะ ฉันจะทำให้นายคุกเข่าและมองดูทุกอย่างข้าง ๆ !”สมุนของเมสันเผยการแสดงออกที่เลวร้ายและในทิศทางที่ผิดของคำพูดของเขาโดยปกติแล้วครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทำอย่างนี้แต่คำพูดของเมสันทำให้ฮาร์วีย์โกรธอย่างมากเขายังแทบไม่กล้าที่จะแกล้งน้องสะใภ้ของเขาอย่างนี้เลยแต่คนพวกนี้ยังกล้าที่จะพูดแบบนี้เหรอ?ฮาร์วีย์ก้าวออกไปข้างหน้าอย่างคอแข็งเมื่อเห็นท่าทางของฮาร์วีย์
“เกิดอะไรขึ้น?”“เขาถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินเหรอ?!”เริ่มแรกท่าทีเรียบง่ายและนิ่งสงบของเจคอบก็เปลี่ยนไปทันที เขายืนขึ้นด้วยความโกรธ“ประธานวอร์เนอร์ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” แมนดี้ถามเจคอบตอบกลับด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง “ประธานซิมเมอร์ ผมเกรงว่าเราคงต้องเลื่อนการเจรจาของเราออกไปอีกสองสามวันนะครับ”“ลูกชายของผมถูกทำร้ายอย่างหนักที่มหาวิทยาลัยและถูกส่งเข้าโรงพยาบาลครับ แล้วยังไม่พบคนที่ทำผิดอีกครับ ผมต้องไปตรวจสอบดูสักหน่อย”“เป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายของผมจะถูกทำร้ายโดยไม่หวังอะไร ใช่ไหม?”แมนดี้จัดการร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทด้วยความเคารพอย่างสูง เมื่อฟังเจคอบ เธอพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องไปเยี่ยมกับประธานวอร์เนอร์ด้วยเหมือนกันค่ะ”“ได้ครับ”ไม่นานทั้งสองคนได้เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลเจคอบหน้าเสียทันทีเมื่อเขาเห็นเมสันที่มีผ้าพันแผลอยู่เต็มไปหมดถูกพาออกมาจากห้องฉุกเฉิน “ใครทำให้ลูกอย่างนี้?! ไม่ได้บอกพวกเขาเหรอว่าลูกเป็นทายาทของรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์?!”ใบหน้าของเจคอบเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น“พ่อครับ ผมบอกเขาแล้ว! แต่เขาไม่ได้สนใจเลย!”“เขายังบอกด้วยว่าเขาจะหักขาของพ่อด้วย
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข