ทาร่าได้ประเมินมูลค่าอาคารสำนักงานนี้ไว้ก่อนแล้วหากประเมินมูลค่าอาคารตามราคาสูงสุดในอุตสาหกรรมนี้ก็จะมีราคาเพียง 310 ล้านดอลลาร์เท่านั้นแต่ตาเฒ่าคนนี้จะขายในราคา 777 ล้าน ซึ่งแพงกว่ามูลค่าในตลาดมาก เหลวไหล! มันแพงเกินไปหลังจากที่ได้เห็นการแสดงออกของทาร่าฮาร์วีย์รู้ว่าราคานั้นไม่เหมาะสม เขายิ้มและพูดว่า “คุณโบวี่ พวกเราเป็นนักธุรกิจ เราให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์”“ราคานี้มันไม่สมเหตุสมผลเกินไปหน่อยเหรอ?”แม้ว่าเขาจะร่ำรวยมาก เขาไม่ขัดสนกับเงินจำนวนนี้อย่างแน่นอนแต่เขาไม่สามารถถูกหลอกได้เช่นกัน จริงไหม?เดวิดหรี่ตาและพูดว่า “ถ้าคุณอยากหาอาคารสำนักงานที่ราคาถูก แถวนี้ยังมีอีกมาก!”“ทำเลนี้ดี ราคาจึงสูง ผมก็อยากจะขายให้คุณในราคาที่ต่ำกว่านี้ แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้!”ฮาร์วีย์พูดตอบกลับออกไปว่า “เราอยากได้ที่นี่ แต่มูลค่า 777 ล้านดอลลาร์สำหรับอาคารหลังนี้แพงเกินไป”ทาร่ายิ้มและพูดว่า “คุณโบวี่ ถือว่าเห็นแก่ฉันเถอะนะคะ แล้วถ้ายึดราคาตามราคาตลาด ได้ไหมคะ?”เดวิดมองดูทาร่าครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “ตกลง ผมช่วยคุณได้ แต่คุณต้องต่อรองราคากับผมเอง ไม่รีบร้อน”“แต่กิริยามา
”อะไรนะคะ?”ทาร่ารู้สึกสับสน เธอไม่เข้าใจว่าเขากำลังหมายถึงอะไรเมื่อมองดูรูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์ของเธอ เดวิดก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาและพูดว่า “มิสลูอิส คุณไม่เข้าใจที่ผมหมายถึงอะไรเหรอ?”“ผมหย่าร้างมาหลายปีแล้ว และผมไม่ได้มีคนใหม่เพราะยังไม่หาคนที่เหมาะสมไม่ได้”“ช่วงเวลายามค่ำคืนของผมมักจะเปลี่ยวเหงา!”“มิสลูอิส ช่วยผมแก้ปัญหานี้ด้วย”เดวิดเปิดประตูอีกบาน ข้างในเป็นห้องที่มีเตียงอยู่“เร็วสิ! หลังจากนั้นผมจะเซ็นสัญญาและขายให้คุณในราคา 310 ล้านดอลลาร์!”เดวิดหัวเราะและพูดด้วยสายตาที่หื่นกระหาย“คุณโบวี่ ไม่ตลกเลยนะคะ!” ใบหน้าของทาร่าดูแย่มากเธออยู่ในสังคมนี้มาหลายปี มีคนมากมายที่ต้องการเธอแต่คนเหล่านั้นเป็นสุภาพบุรุษ พวกเขาแค่ฉกแวยโอกาสที่เฝ้าตามจีบเธอเท่านั้นคนพวกนั้นยอมแพ้หลังจากที่พวกเขาถูกปฏิเสธไป ทุกคนมีสามัญสำนึกที่ดี ไม่มีใครอยากลดเกียรติศักดิ์ศรีกับเรื่องแบบนี้แต่เธอไม่คิดว่าวันนี้เดวิดจะไร้ยางอายถึงขั้นทำอะไรแบบนี้ เขายังอ้างยกเรื่องเจรจาธุรกิจมาเกี่ยวข้องเดวิดคงรู้ดีอยู่แล้วว่าอาคารสำนักงานแห่งนี้มีมูลค่าสูงสุด 310 ล้านดอลลาร์เขาจงใจขึ้นราคาเพื่อขู่เธอ!
เดวิดรู้สึกว่าเขาได้จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วตูม!จู่ ๆ ก็มีเสียงดังมาจากประตูสำนักงาน ประตูที่ปิดอยู่ถูกเปิดออกกว้างเดวิดซึ่งอยู่ในสำนักงานชะงักทาร่าก็ตกใจเช่นกัน เธอรู้ว่าฮาร์วีย์นั้นเป็นคนที่น่าทึ่งมาก แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะน่าทึ่งได้มากขนาดนี้นี่เป็นสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปทำได้ใช่ไหม?ในตอนนี้ฮาร์วีย์ได้เดินเข้าไปตรงหน้าเดวิดแค่พวกอันธพาลไม่กี่คน เขาก็สามารถจัดการจนพวกมันนอนราบอยู่บนพื้นแล้วเพียะ!ฮาร์วีย์ตบหน้าเดวิดจับหัวกระแทกกำแพงจนฟันหักเจ็ดซี่“แก! กล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน! แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? แกรู้หรือไม่ว่าใครคอยดูแลของฉัน?”“แกตายแน่! ฉันสัญญาว่าแกตายแน่ ๆ !”เดวิดเคยชินกับการทำตัวหยิ่งผยอง แต่ตอนนี้เขาเหม่อลอย แล้วชี้ไปที่ฮาร์วีย์พร้อมตะโกนสาปแช่งฮาร์วีย์หัวเราะ “นานมากแล้วที่ผมเคยได้ยินใครพูดกับผมแบบนี้”“ผมอยากจะดูว่ามันจะน่ากลัวแค่ไหน”“ดี! อย่าหนีไปซะก่อนล่ะ! ฉันจะโทรหาพวกเขาเดี๋ยวนี้!” เดวิดเย้ยหยันเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและกดหมายเลขอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็โค้งคำนับและพูดว่า “บราเทอร์ฌอน บิล ผมเอง เดวิด! มีคนมาสร้างปัญหาในถิ่นของผมแล้วยังกล้าทำร้ายผ
ชายในเสื้อเชิ้ตปักลาย คาบซิการ์ในปากเดินเข้ามา เขาพูดว่า “เดวิด นายปฏิบัติต่อฉันด้วยความเคารพมาเสมอ”“ฉันจะรักษาคำพูดด้วยการช่วยนายจัดการเรื่องนี้เอง”“แต่ฉันมาที่นี่ นายคงจะไม่ให้ฉันกลับไปมือเปล่าใช่ไหม?”คน ๆ นี้คือฌอน บิล หนึ่งในหัวหน้าใหญ่แห่งพวกนักเลงท้องถนนในเซาท์ไลท์ ไม่ไกลจากที่นี่คือถิ่นของเขาเขาเป็นคนที่คอยดูแลเดวิด และในตอนนี้เดวิดรีบหยิบเงินกองหนึ่งออกมาแล้วพูดว่า “บราเทอร์ฌอน ไหน ๆ คนของพี่อยู่ที่นี่แล้ว พวกเขาจะไม่เสียแรงเปล่า โปรดรับนี่ไว้ ของตอบแทนจากผม”เขามอบกองเงินสดให้ฌอนลูกน้องคนหนึ่งของฌอนรับไปและพยักหน้าให้ฌอนฌอนถามอย่างไม่ใส่ใจว่า “เดวิด บอกฉันทีว่าเกิดอะไรขึ้น?”เดวิดชี้ไปทางฮาร์วีย์และพูดว่า “บราเทอร์ฌอน ไอ้ผู้ชายคนนี้ทำลายช่วงเวลาดี ๆ ของผม แล้วยังตบหน้าผมด้วย!”ฌอนเหลือบมองทาร่าก่อน ดวงตาของเขาเป็นประกาย และเขาถามว่า “นี่คือของที่ดีที่สุดของนายใช่ไหม?”เดวิดเข้าใจสถานการณ์ทันที แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เขายอมกัดฟันตอบว่า “บราเทอร์ฌอน ถ้าพี่ชอบเธอ พี่ก็เล่นสนุกกับเธอก่อน ผมรอเธอหลังจากที่พี่สนุกพอแล้ว!”ทาร่านิ่งอึ้งเธอเคยพบเจอกับคนหน้าด
ฌอนโบกมือส่งสัญญาณทันทีและสูบบุหรี่อย่างสบายใจ “น่าสนใจ ไม่มีใครกล้าทำตัวหยิ่งต่อหน้าฉันแบบนี้มานานหลายปีแล้ว”“ฉันจะเขียนชื่อ ฌอน บิล สองคำนี้กลับหัว ถ้าฉันจัดการหักมือหักขาของแกไม่ได้”ฌอนเดินไปที่ด้านหน้าของฝูงชนขณะพูดเดวิดเยาะเย้ยฮาร์วีย์ “แกทำให้บราเทอร์ฌอนอยากที่จะจัดการแกด้วยตัวเขาเอง แกตายแน่!”ทาร่าถอนหายใจอย่างสิ้นหวังและอยากจะหยุดห้ามฮาร์วีย์เธอรู้สึกว่าทุกอย่างจบลงแล้ว เธออาจจะต้องตายไปพร้อมกับฮาร์วีย์ในวันนี้แน่นอนฟุบ!วินาทีต่อมา เมื่อฌอนเห็นใบหน้าของฮาร์วีย์อย่างชัดเจน เข่าของเขาก็อ่อนแรงลงจนทรุดลงต่อหน้าฮาร์วีย์ทันทีการกระทำนั้นทำให้ทุกคนตะลึงเดวิดตกตะลึงทาร่านิ่งอึ้งไปลูกน้องของฌอนทุกคนก็ตกตะลึงเช่นกันเหตุการณ์นี้ดูไม่สมเหตุสมผล มันเหมือนกับความฝันฌอน บิล ผู้ชั่วร้ายและโหดร้าย หัวหน้าใหญ่ของพวกอันธพาล กำลังคุกเข่าลงตรงหน้าฮาร์วีย์ห้องทั้งห้องเงียบสงัด ไม่มีใครกล้าพูดอะไรฮาร์วีย์มองไปที่ฌอนและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันจำนายได้”ฌอนแสดงสีหน้าที่ดูแย่มากเหมือนอยากจะร้องไห้หลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์คน ๆ นี้จำเขาได้งั้นหรือ?!จนถึงทุกวันนี้เขายั
”อื้อ!”เหงื่อเย็นเยียบของฌอนไหลลงมาที่หน้าผากของเขา เขาไม่กล้ากรีดร้องลั่นหรือดิ้นทุรนทุราย เขาพูดด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบว่า “ผมจะเอานิ้วของผมไปเป็นอาหารสุนัขหลังจากนี้ที่จบเรื่องแล้วครับ”ฮาร์วีย์ไม่แยแส เขาเพียงมองดูฉากนี้ฌอนหันกลับมามอง จ้องไปที่พวกอันธพาลคนอื่น ๆ แล้วพูดว่า “พวกแกทุกคนหักนิ้วทิ้งซะ!”วินาทีถัดมา พวกอันธพาลตัวสั่นสะท้าน แต่ก็ยอมทำตามคำสั่งพวกเขาไม่มีทางเลือก พี่ใหญ่ของพวกเขาดูน่ากลัว ถ้าพวกเขาไม่ทำ พวกเขาอาจจะไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ทาร่ามองดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ฮาร์วีย์พูดเพียงประโยคเดียว และพวกนักเลงนั่นก็หักนิ้วตัวเองระหว่างรอจนกว่าทุกคนจะหักนิ้วตัวเองเสร็จ ฌอนคุกเข่าลงต่อหน้าฮาร์วีย์และพูดอย่างถ่อมตนว่า “นายท่าน คุณกำลังมองหาที่ตั้งอาคารสำนักงานใหม่ใช่ไหม?”ฮาร์วีย์พูดโดยไม่ปฏิเสธว่า “ใช่ แต่มีใครบางคนขึ้นราคาที่นี่เป็น 777 ล้านดอลลาร์ และยังบอกให้เพื่อนของฉันไปนอนกับเขาก่อนถึงที่เขาขายให้ฉัน”“แล้วคุณกำลังพูดว่า…”“มันขึ้นอยู่กับคุณ”ฮาร์วีย์ไม่สบตาที่นี่ทำเลค่อนข้างดี แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องซื้อมันภายใต้การบังคับขู่เข็ญแบบ
”เกิดอะไรขึ้น?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว แมนดี้ไม่ค่อยแสดงท่าทางแบบนี้เท่าไหร่แมนดี้พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ข่าวที่ว่าฉันจะขยับขยายบริษัทแพร่กระจายออกไป เมื่อกี้คุณยายกับคุณลุงโทรมาบอกว่าขอซื้อหุ้น”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้วและพูดว่า “ซื้อหุ้น? พวกเขาจะลงทุนได้ยังไง? พวกเขามีเงินจำนวนมหาศาลนั้นได้ยังไง?”แมนดี้พูดต่ออีกว่า “ประเด็นของคุณลุงคือพวกเขาจะขอหนังสือหุ้นไว้ก่อน แล้วพวกเขาจะจ่ายเงินในทีหลัง”ฮาร์วีย์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินเรื่องนี้ตระกูลเยตส์พยายามจะทำร้ายพวกเขาอย่างไร้ยางอายสีหน้าของแมนดี้ดูแย่มาก เธอได้แค่ถอนหายใจและพูดว่า “คุณไปตระกูลเยตส์กับฉันนะคะ เราต้องไปจัดการปัญหานี้ ไม่อย่างนั้นเครือข่าวามสัมพันธ์ของคณลุงในบัควู้ดจะต้องทำให้เราประสบปัญหาร้ายแรงแน่นอน”ไม่นานฮาร์วีย์และแมนดี้ก็มาถึงที่พักของตระกูลเยตส์ตระกูลเยตส์จัดงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับแมนดี้เป็นพิเศษ“แมนดี้ คิดเรื่องที่ลุงบอกเมื่อเช้านี้หรือยัง?”“ตระกูลเยตส์เป็นตระกูลระดับเฟิร์สคลาสในบัควู้ด มีอำนาจ ตราบใดที่หลานให้ตระกูลเยตส์เป็นส่วนหนึ่งในบริษัทของหลาน บริษัทของหลานก็จะสามารถทะยานสู่จุดสูงสุดในบัควู้ดได้อย่างแน่นอ
แมนดี้สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “คุณยายคะ ถึงแม้ว่าหุ้นของบริษัทนี้จะอยู่ในมือของหนูและหนูเองก็เป็นประธานบริษัท แต่คนที่ควบคุมบริษัทตอนนี้คือสกาย คอร์ปอเรชั่น”“งั้นเรื่องนี้ หนูไม่สามารุตัดสินใจได้เอง!”คุณยายเยตส์ส่ายหัวและพูดว่า “หลานไม่ได้กังวลเรื่องนี้!”“ตราบใดที่หลานสัญญาและยอมให้ตระกูลเยตส์ซื้อหุ้น เราก็ไม่ได้ต้องการมากมายเพียงแค่สิบเปอร์เซ็นต์ก็พอแล้ว”“หลังจากนั้น ให้สามสิบเปอร์เซ็นต์ในหุ้นสี่สิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของหลานแก่เรา แบบนี้การควบคุมทั้งหมดของบริษัทจะอยู่ในมือของตระกูลเยตส์!”“ด้วยการที่มีตระกูลเยตส์คอยสนับสนุน หลานก็สามารถพัฒนาบริษัทของหลานได้ตามต้องการ!”“ในอนาคต เราค่อยโอนทรัพย์สินของบริษัททั้งหมดได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น!”“แมนดี้ ถ้าเป็นแบบนี้ตระกูลเยตส์จะเป็นตระกูลอันดับต้น ๆ ของเซาท์ไลท์ได้ในอนาคต!”“ทำตามที่ฉันบอก แล้วหลานจะเป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลเยตส์ในอนาคต!”“ฉันคุยกับลุงของหลาน เพื่อให้หลานเปลี่ยนนามสกุลเป็นตระกูลเยตส์ ทีนี้ใครบ้างจะกล้าเมินเฉยไม่ให้เกียรติหลานอีก?”คุณยายเยตส์ดูมั่นใจเป็นการต่อรองที่ตรงไปตรงมาอย่างแรก ให้ตระกูลเยตส์ซื้
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข