อลันยกหูโทรศัพขณะนั่งบนโซฟา เขาพูดอะไรบางอย่างในโทรศัพท์ หลังจากนั้นก็เรียกเจน “เฮ้เจน ดันน์เดาซิว่าเมื่อกี้ฉันโทรหาใคร” อลันหัวเราะเยาะดวงตาของเขาเป็นประกายขณะที่เขาพูดว่า “พี่ชายของเธอ เธอรู้ไหมว่าเขาพูดอะไร? เขาบอกว่าไม่มีใครเลยที่ชื่อเจนในครอบครัวของเขา ฮ่า ๆ เจนคุณน่าสงสารมาก! เธอฆ่าเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอเองและ จะลงเอยอย่างไร? โรซาลีนต้องเป็นผู้หญิงที่โชคร้ายที่สุดในโลกที่เป็นเพื่อนกับเธอ!”ขณะที่อลันพูดความโกรธก็ฉายผ่านดวงตาของเขา เขามองไปที่เจนราวกับว่าเขาต้องการให้เธอแตกออกเป็นสี่ส่วน!เจนก้มหน้าต่ำ ไม่มีใครเห็นสีหน้าของเธอเธอไม่ได้พยายามปกป้องตัวเองเช่นกัน เธอรู้ว่าอลันชอบโรซาลีน ... เธอไม่ได้พยายามอธิบายริมฝีปากของเธอโค้งเป็นรอยยิ้มที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ไม่มีใครเชื่อเธอ แล้วประเด็นที่พยายามอธิบายคืออะไร?ถึงกระนั้นบางแห่งในส่วนลึกของหัวใจคำพูดของเจสันก็ยังทำร้ายเธอเธอหัวเราะเบา ๆ เธอหัวเราะตัวเอง หรือที่อลัน หรือเจสัน ดันน์? ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดเธอก็ยังคงยิ้มขณะที่เธองอเข่าช้าๆอโลร่ากรีดร้อง “เจนอย่า!”แบม!มีเสียงดังจากเข่าของเธอกระทบพื้น เจนคุกเข่ากับกระดูกสันห
“เธอยังจำได้ไหมว่าตอนนั้นเธอบังคับให้โรซาลีนดื่มวิสกี้ทั้งขวดได้อย่างไร? เจน คุณเจน ดันน์ ตัวน้อย วันนี้เธอยังคิดว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งนี้อีกหรือไม่?”เจนจ้องเขม็งไปที่อลันซึ่งใบหน้าแข็งกร้าวด้วยความเกลียดชัง ในขณะเดียวกันดวงตาของเธอก็ดูลึกลับ "ฉัน? บังคับโรซาลีน? ให้ดื่มวิสกี้ทั้งขวด?”ทุกวลีล้วนเป็นคำถามสำหรับเธอ เธอจะไม่ยอมบังคับใครแบบนั้นและเธอจะไม่มีวันทำอะไรที่เลวทรามขนาดนั้นกับโรซาลีน เช่นบังคับให้เธอดื่มวิสกี้ทั้งขวดเธอจะไม่ลดตัวลงไปถึงระดับนั้น“ยังเล่นอะไรบ้า ๆ อยู่เหรอ? โอ้คุณดันน์ คุณกลับมาแล้วจริงๆ คุณอิจฉาโรซาลีนดังนั้นคุณจึงจงใจยุยงเธอและบังคับให้เธอดื่มวิสกี้ขวดนั้นโดยทางอ้อม คุณคิดว่าจะไม่มีใครรู้เพียงเพราะไม่มีใครอยู่ที่นั่นเพื่อเป็นพยานหรอ?”จู่ ๆ เจนก็เข้ามาขัดจังหวะอลันอย่างใจเย็นพลางพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง“ไม่ ฉันไม่เคยทำในสิ่งที่คุณกล่าวหาฉันเลย”“เฮอะ~” ดวงตาของอลันเต็มไปด้วยความเกลียดชังขณะที่เขาจับจ้องไปที่เธอ “เธอกำลังบอกว่าฉันกล่าวหาเธออย่างไม่ถูกต้องใช่ไหม? หรือเธอกำลังบอกว่าโรซาลีนโกหก? ย้อนกลับไปตอนนั้นโรซาลีนเมาตายอยู่ริมถนน ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันชน
ไหล่ของเจนสั่น…“เธอคิดว่าฉันมีใครอยู่ในรายชื่อเพื่อนของฉันบ้าง? เธอรู้จักพวกเขาทั้งหมดหรอ เจน”หัวใจเธออึดอัดอยู่ในอก!“อืมมม…” อโลร่าพยายามปิดปาก ดวงตาของเธอเบิกกว้าง…ไม่ ไม่! เจนไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่ม!อโลร่ามองดูขณะที่หญิงสาวที่คุกเข่ายกมือขึ้นช้าๆแล้วหยิบขวดวิสกี้จากอลันช้าๆ เธอได้ยินผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ฉันจะดื่ม”“อืม!” ไม่ ไม่! ดวงตาของอโลร่าเบิกกว้างและเธอพยายามอย่างยิ่งที่จะขยับเข้าหาเจน แต่คนที่รั้งเธอไว้กลับแข็งแรงเกินไป เบรนแดนมองเธอและเย้ยหยัน“ขอโทษนะอโลร่า แต่วันนี้เป็นเรื่องระหว่างเธอกับเรา คุณอยู่ให้พ้นจากสิ่งนี้เถอะ”“อืมมม!” ไม่นั่นไม่ใช่! เธอจะตาย! พวกเขาต้องการฆ่า เจน ดันน์จริง ๆ งั้นหรือ?!โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นในกระเป๋าของเธอ และชั่ววินาทีหนึ่งอโลร่าก็ตะลึง วินาทีต่อมาสีหน้าของเธอเปลี่ยนไป!เธอไม่รู้ว่าเธอพบจุดแข็งที่ใด แต่เธอหันกลับมาและกระแทกเข้ากับคนที่รั้งเธอไว้ ในขณะที่เขาสะดุด อโลร่าก็หยิบขึ้นมาด้วยความเร็วที่เร็วยิิ่งกว่าที่เธอเคยรู้มาก่อน “บอส! ช่วยด้วย! เราอยู่ชั้นหก…”มือปรากฏขึ้นจากแนวทแยงมุมต่อหน้าเธอ กระแทกโทรศัพท์ออกจากมือข
ทันใดนั้นมือก็จับที่คางของเธอและยกขึ้นอย่างแรง ทำให้เธอเงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่งดงามของเขาอยู่ต่อหน้าเธอ!การจ้องมองที่เยือกเย็นของฌอนจับจ้องไปบนใบหน้าของเธออย่างตั้งใจ “โรงพยาบาลหรือธนาคาร? เจน ดันน์ ฉันจะให้โอกาสเธอตัดสินใจ”ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้กับเธอมาก มากจนเธอสามารถมองเห็นเส้นเลือดผอยเลือนลางบนผิวของเขาได้ มีความมุ่งมั่นและดื้อรั้นในสายตาของเธอ “ฉันอยากไปธนาคาร” เธอพูดทีละคำโดยไม่ได้ตั้งใจที่จะอ่อนข้อให้เขา แต่อย่างใด“ไตหายไปหนึ่งข้างแล้วยังซ่ากล้าดื่มอีกหรอ?” ชายคนนั้นเตือนเธอด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “เธออยากตายไหม?”“ฉันอยากไปธนาคาร!”“แม้ว่ามันหมายความว่าเธออาจจะตายได้หรอ?”เธอมองชายตรงหน้าโดยไม่กระพริบตา ก่อนจะอ้าปากพูดอย่างใจเย็นว่า "ถูกต้อง" นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอที่เสี่ยงชีวิตและนอกจากนี้มันยังเป็นเพียงแค่เป็นวิสกี้สองอึกเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตามเธอยกมือขึ้นจากด้านข้างและจับคอเสื้อของเขาแน่น โดยที่เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ ชายคนนั้นมองเห็นทุกอย่างดวงตาที่แคบเยือกเย็นของเขามองลงมา และมองไปที่มือของเธอบนปกเสื้อโค้ทของเขา มีเส้นเลือดสั่นที่หลังมือของเธอจ
ที่โรงพยาบาลเอลิออร์นั่งลงข้าง ๆ เตียงของเจน"คุณยังโชคดีอยู่" เอลิออร์อดไม่ได้ที่จะกลอกตา “คุณไม่รู้หรอว่าสภาพคุณเป็นเช่นไร? คุณดื่มมันไปได้อย่างไร?”หลังจากที่เขาพูดอย่างนั้น เขาก็ลุกขึ้นยืน และเดินออกจากห้องไปกระแทกประตูที่ปิดอยู่ข้างหลัง ฌอนกำลังสูบบุหรี่อยู่ด้านนอกประตู“ขอฉันหนึ่ง” เอลิออร์ยื่นมือไปทางฌอน เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมา และโยนให้เอลิออร์เอลิออร์ไม่แม่แต่จะมองบุหรี่ในปาก เขาจุดมันอย่างช่ำชอง “เกิดอะไรขึ้นที่นั่น?” เขาเหลือบมองไปที่ประตูด้านหลัง เขายังจำได้ว่า เจน ดันน์ ผู้จองหองคุกเข่าต่อหน้าผู้คนมากมายในครั้งแรกที่พบกันหลังจากที่เธอได้รับการปล่อยตัวจากคุก ดังนั้นเธอจึงไม่ยอมดื่มแน่ ๆ ฌอนยังคงสูบบุหรี่โดยที่ไม่พูดอะไรสักคำเอลิออร์ก็ไม่ได้ใส่ใจถ้าชายข้าง ๆ เขาไม่ได้อยากที่จะเล่า เขายักไหล่หนึ่งครั้งก่อนจะสูบบุหรี่ในมือของเขาต่อเขาพ่นควันบุหรีออกมาพรางพูด “ฉันได้ยินมาว่านายบอกเธอว่า เธอสามารถไปไหนก็ได้ถ้าเธอให้เงินนายห้าล้านภายในหนึ่งเดือนใช่ไหม?” เขาเคาะเถ้าบุหรี่ของเขา "แล้ว? นายจะปล่อยเธอไปจริง ๆ ไหม?”“ไม่มีทาง” ชายที่เงียบก่อนหน้านี้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เ
อโลร่ารู้สึกประหม่าอย่างมาก เมื่อเธอเผชิญหน้ากับ ฌอน สจ๊วต "คุณชายสจ๊วตฉันรู้สึกแย่กับเจนค่ะ”เธอกำลังอธิบายว่าทำไมเธอถึงช่วยเจนซ่อนเงินทั้งหมดที่เธอได้รับจากชายคนนี้ คนที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ตอนนี้ฌอนอารมณ์ไม่ดีเลยคำพูดที่เสียดแทงใจสุดท้ายของผู้หญิงคนนั้นยังคงก้องอยู่ในหูของเขา และเขาไม่สามารถกำจัดมันออกไปได้ ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม เมื่อเขาได้ยินอโลร่าพูดบางอย่างเช่นเธอ “รู้สึกไม่ดีต่อเจน?” ริมฝีปากของเขาโค้งอย่างเย็นชา“อโลร่า ไม่มีผู้ใต้บังคับบัญชาของฉันคนไหนที่เป็นแม่พระนักบุญ”เธอรู้สึกแย่กับผู้หญิงคนนั้นหรอ? ...ผู้หญิงที่จะด่า และดูถูกเพื่อนซี้ผู้ล่วงลับของตัวเองอย่างนั้น?คนแบบนั้นคุ้มค่ากับความสงสารได้อย่างไร?เขาโกรธมากอย่างบอกไม่ถูก!เขาไม่ได้โกรธขนาดนี้แม้แต่น้อยเมื่อเขาเห็นว่าเธอน่าสงสารและน่าสมเพชแค่ไหน!เจนที่เขาจำได้คือผู้หญิงที่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง เธอจะไม่ทำอะไรอย่างเช่นการดูถูกคนตายแน่นอน!แต่ในวันนี้ วันนี้เธอได้แสดงให้เขาได้เห็นด้านที่แตกต่างออกไป ... เขาโกรธ และผิดหวังอย่างไม่มีเหตุผล เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาผิดหวังเรื่องอะไร!มีเม็ดเหงื่อที่ห
"ที่เธอพูดว่า ‘พวกเขา’...นี่รวมถึงคุณชายสจ๊วตด้วยหรือเปล่า?"เมื่อเธอพูดอย่างนั้นอโลร่ารู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าร่างกายของเจนแข็งทื่อไปชั่ววินาทีในอ้อมกอดของเธออโลร่าถอนหายใจอย่างไร้เสียง ... เพื่อปล่อยวางปัญหาทั้งหลายนี้พวกเขาไม่เชื่อเธอ…และ ฌอน สจ๊วต ก็ไม่ได้เชื่อเช่นกันด้วยเหตุนี้อโลร่าจึงสามารถเดาได้มากขึ้น หรืออย่างน้อยก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเจนกับหัวหน้าของเธอ โดยไม่ต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมจากส่วนของเจนเลยโรซาลีน ซัมเมอร์ … อโลร่า ทำงานให้กับฌอนมาสองปีแล้ว และเธอจำได้ลาง ๆ ว่าเคยได้ยินใครเอ่ยชื่อนั้นมาก่อนดูเหมือนเธอจะจำได้ว่า โรซาลีน ซัมเมอร์ หญิงสาวคนนี้ก็ค่อนข้างพิเศษกับเจ้านายของเธอเช่นกัน น่าเสียดายที่เธอเสียชีวิตในเหตุการณ์ที่น่าเศร้าในขณะที่ยังอยู่ในวัยสาวอยู่เลยอโลร่าไม่เคยรู้มาก่อนว่าหญิงสาวที่มีสถานะที่พิเศษในหัวใจของเจ้านายของเธอนั้นเสียชีวิตอย่างไรในที่สุดเธอก็ได้รู้แล้วถึงกระนั้น…เธอก็ไม่อยากที่จะเชื่อเจนไม่มีทางที่จะทำเช่นนั้น มันเลวร้ายเกินไปที่เจนจะสามารถทำได้อโลร่ายกมือขึ้นลูบหัวเจน เธอไม่ได้ถามเจนว่าทำไมเธอถึงไม่พยายามที่จะอธิบายอะไรกับฌ
โจเซฟ ดันน์ วางสายแล้วกระโดดลงจากเตียงคว้าเสื้อคลุมข้าง ๆ แล้วโยนมันพาดบ่าตัวเองภรรยาของเขาถามเขาอย่างงุนงง “เกิดอะไรขึ้นคะคุณ?”"เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?" โจเซฟโกรธมาก “ก็ลูกสาวตัวดีของคุณ กลายเป็นหญิงโสเภณีไปแล้ว!”ตูมมมม!รู้สึกราวกับว่ามีการระเบิดเกิดขึ้นที่หูของคุณนายดันน์!เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียงทันที "คุณพูดเรื่องอะไร?"เธอต้องได้ยินเขาผิดแน่ ๆ“ตาแก่ฮอฟฟ์แมนโทรหาฉันเป็นการส่วนตัว และบอกว่าเบรนแดนเห็นเธอด้วยตาของเขาเอง เด็กสาวผู้น่าสมเพชคนนั้นกำลังขายบริการของเธอที่ อีสต์ เอ็มเพอเรอร์ ในตอนนี้!”คุณนายดันน์ไม่สามารถนั่งนิ่งได้อีกต่อไป "ไม่มีทาง! นั่นมันเป็นไปไม่ได้! เจนเป็นผู้หญิงที่หยิ่งผยองไม่มีทางที่เธอจะยอมทำอะไรแบบนั้น! คุณชายฮอฟฟ์แมนคนนั้นเข้าใจผิดแน่ ๆ เขาจำคนผิดแน่ ๆ”“ตาแก่ฮอฟฟ์แมนถึงกับโทรรมาหาฉันด้วยตัวเอง คุณคิดว่าอย่างไร?" โจเซฟเผชิญหน้ากับภรรยาของเขาอย่างเคร่งขรึม และใบหน้าที่จริงจัง“คุณจะทำอะไร ในตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว?” คุณนายดันน์เอื้อมมือไปจับข้อมือสามีของเธอแล้วดึงไว้แน่น “โจเซฟมันสายไปแล้ว คุณทำอะไรได้บ้าง?"โจเซฟ ดันน์ อายุเกือบห้าสิบ แต่เขาดูแลร
ฉันชื่อ ลูก้า สจ๊วต มันเป็นชื่อแปลก ๆ ใช่ไหม? แบบว่ามันเหมือนกับคำว่า ‘ดูสิ! สตูว์’คุณปู่ของฉันตั้งชื่อให้ฉัน ประสบการณ์หลายปีของฉันตอนเป็นเด็กบอกฉันว่าปู่ของฉันไม่ใช่ผู้ชายที่ดีไม่ต้องนึกถึงเรื่องอื่นเลย แค่ดูชื่อที่เขาตั้งให้ฉันสิ เขามีชื่อที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบ แต่เขากลับตั้งชื่อแปลก ๆ นี้ให้กับฉันอย่างไรก็ตามทุกครั้งที่ฉันทักท้วงเรื่องนี้กับเขา เขามักจะบอกว่านั่นเป็นความผิดของพ่อฉัน ถ้าพ่อเป็นเด็กผู้หญิงนั่นจะเป็นชื่อของเขาแทนดูสิ คุณปู่เป็นคนที่ตั้งชื่อที่น่ากลัวนี้ให้ฉัน แต่เขายังคงโยนความผิดทั้งหมดให้พ่อของฉันอ้อ ลืมแนะนำตัวอย่างเป็นทางการไปเลยปู่ของฉันชื่อ ฌอน สจ๊วตเขาค่อนข้างเป็นคนที่น่าทึ่งในวัยเยาว์ย่าของฉันชื่อ เจน ดันน์บางครั้งฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทั้งสองคนลงเอยด้วยกันได้อย่างไร พวกเขาเป็นคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยนะปู่กับย่าของฉันได้หย่าร้างกันก่อนที่พ่อของฉันจะเกิดเสียอีกหลังจากการหย่าร้างครั้งนั้น ทั้งคู่ก็ไม่ได้แต่งงานกันใหม่นะพวกเขาน่าจะแยกทางกันไปอย่างสันติ แต่คุณปู่ก็ไร้ยางอายอย่างที่สุด เขาจึงคอยรบกวนคุณย่าของฉันตลอดเวลาเลยเท่าที่ฉันจำไ
ที่โรงพยาบาล ประตูวอร์ดถูกเปิดออกเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีเสียง ครั้งนี้ดอสไม่ได้แจ้งการมาถึงของแขกล่วงหน้าเมื่อเอลิออร์มาถึงอย่างรีบร้อน เขาก็เห็นผู้หญิงคนนั้นก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร อโลร่าก็ดึงเขากลับออกไปที่ทางเดิน ประตูเปิดแล้วปิดลงอีกครั้งคนบนเตียงนอนตะแคง และกำลังหลับอยู่ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังฝันถึงอะไร แต่ใบหน้าที่ขมวดคิ้วลึกแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้มีความฝันที่น่าพอใจนักมือของเขาวางอยู่บนผ้าห่ม แหวนแต่งงานของเขายังคงอยู่บนนิ้วของเขาหญิงสาวเดินเข้าไปหาเขาอย่างช้า ๆ ในที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่หน้าเตียงของเขาดวงตาของเธอสดใส และชัดเจน เธอจ้องมองแหวนบนนิ้วมือของเขาไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่เธอจ้องไปที่แหวนเป็นเวลานานนาน จนเธอรู้สึกงุนงงหลังจากนั้นไม่นานดวงตาของชายคนนั้นก็เบิกโพลง สิ่งแรกที่เขาเห็นคือคนในความฝันเขายิ้มหน้าซีดให้เธอ “โอ้ ฉันฝันไปอีกแล้วสินะ”ราวกับว่าเขากำลังคุยกับเพื่อนที่เขาไม่ได้เจอมานาน เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน และดีใจจนแทบจะเห็นได้ชัดผ่านการแสดงออกทางร่างกายของเขา "ดีแค่ไหน. คุณยังเต็มใจจะมาเยี่ยมฉันในความฝัน”หญิงสาวยืนอยู่ที่เตียงของเ
"เจน เอ๋อไห่ไม่ใช่สวรรค์หรือความสงบตามที่เธอพูดหรอก มันเป็นเพียงแค่การหลบหนีของเธอ" อโลร่ากล่าวอย่างเคร่งขรึมเธอไม่ควรพูดทั้งหมดนี้ แต่เธอเห็นบางสิ่งที่เจ้าตัวมองไม่เห็นบางทีภาพอาจจะดูชัดเจนขึ้นจากคนภายนอกที่เฝ้าดู หรือบางทีอาจจะไม่ถึงกระนั้นเธอก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเจนกำลังลังเลเมื่อสามปีก่อนเธอเคยช่วยเจนหนี เพราะเธอต้องการให้เจนมีชีวิตที่สงบสุขอย่างแท้จริงนับตั้งแต่นั้นสามปีหลาย ๆ อย่างก็เปลี่ยนไป เธอก็เติบโตขึ้นด้วยเป็นเพราะความเป็นผู้ใหญ่ที่เพิ่งค้นพบทำให้เธอไม่เคยหยุดคิดถึงเรื่องนี้เช่นกันเธอคิดถูกหรือเปล่าที่ช่วยเจนหนีเมื่อสามปีก่อน มันอาจจะเป็นความผิดพลาดหรือเปล่านะ?เธอเริ่มคิดว่าเธอคิดผิดในตอนนั้นผู้หญิงคนนี้ถูกผีเข้าเต็ม ๆ ไม่มีทางที่เธอจะหยุด และมองไปรอบ ๆ เพื่อดูผู้คน และข้อเท็จจริงตลอดสามปีที่ผ่านมาอโลร่าได้เห็นว่าฌอนไม่เคยหยุดตามหาเธอเลย ทุกคนบอกให้เขาหยุด โดยบอกว่ามันไม่มีจุดหมายปลายทางเลย บางทีเจนอาจจะตายไปนานแล้วก็ได้ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าเธอยังไม่ตายไป เหตุใดการค้นหาอย่างไม่หยุดยั้งเป็นเวลาถึงสามปีจึงไม่เกิดผลอะไรเลย?อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นปฏิเสธที่
"ที่นายมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อที่แค่จะคุยเรื่องของคุณปู่กับฉันหรือเปล่า?" ชายบนเตียงหัวเราะเบา ๆ ความไม่เชื่อเผยขึ้นในแววตาของเขาอย่างชัดเจน “ไมเคิล ลูเธอร์ ชายชราคนนั้นเขาไม่ห่วงว่าฉันจะเป็นหรือฉันจะตายหรอก เขายังมีหลานชายอีกคนที่จะสืบทอดบัลลังก์ของเขา”ไมเคิลหัวเราะอย่างแดกดัน“นายคิดว่าฉันจะกลับไปเป็นสจ๊วตจริง ๆ งั้นหรอ? สถานที่สกปรกแบบนั้น”“นายไม่ได้ต้องการ บริษัทสจ๊วตอุตสาหกรรม หรอกหรอ?” ฌอนกล่าวอย่างเย็นชา “ในกรณีนั้น ฉันกลัวว่านายจะต้องผิดหวัง”“สจ๊วตอุตสาหกรรมงั้นหรอ เฮอะ” ไมเคิลกวาดสายตามองไปยังฌอน ก่อนที่จะมองออกไปนอกหน้าต่าง“นั่นเป็นแหล่งเงินแหล่งทองชั้นดีเลย ดังนั้นฉันคิดว่าฉันต้องการมัน นายจะให้ฉันได้ไหมหล่ะ?”“ถ้าฉันไม่ให้ นายจะไม่บังคับเหรอ?”“ถ้านายเป็นคนถือมัน แน่นอน” ไมเคิลไม่พยายามปิดบังความทะเยอทะยานของเขา “แต่ถ้านายตายไป ฉันจะไม่เอามันมาจากเธอหรอก”ฌอนหรี่ตา “นายแน่ใจถึงความภักดีต่อความรู้สึกของนายที่มีต่อเธอไหม ฉันควรจะขอให้นายดูแลเธอก่อนที่ฉันจะตายหรือไม่?”“เฮ้อ ตัดเรื่องตลกออกไปก่อน นายกำลังจะตาย พวกนายทั้งสองไม่ได้หย่าร้างกันแล้วหรอ?“นั่นมันหมายค
ไมเคิล ลูเธอร์ เข้าสู่คฤหาสน์เก่าแก่ของสจ๊วต"คุณเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่างไม่ใช่เหรอ?"โดยไม่มีคำเตือนหรือบริบทใด ๆ เขาก็ตะโกนใส่ชายชราสจ๊วตที่กำลังจิบชาอย่างใจเย็นอยู่“คุณมาจากทางไหนกลับไปทางนั้นเลย…ถ้าจะมาเพื่อแสดงกิริยาความไม่เคารพต่อปู่ของคุณอย่างนี้?” ชายชราสจ๊วตวางถ้วยน้ำชาลง ใบหน้าอันแก่ชราของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนไปอย่างยากลำบาก“คุณเป็นคนวางแผนเรื่องพ่อบ้านซัมเมอร์เองไม่ใช่หรอ?“ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่มีทางกล้าทำหรอก จริงไหม?”"หมายความว่ายังไงหรอ? ฉันเป็นคนทำให้พ่อบ้านซัมเมอร์ทำอะไรอย่างนั้นเหรอ?""คุณเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุของเจน นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากที่จะรู้ความจริง เป็นคุรจริง ๆ ใช่ไหม?!" ไมเคิลยืนยันความคิดของตัวเองช่วงเวลาที่ชายชราสจ๊วตได้ยินชื่อของเจน การแสดงออกของเขาก็เคร่งขรึมลงในทันที “นี่หลานจะท้าปู่ของตัวเอง และแสดงกิริยาเช่นนี้ เพียงเพื่อเธอคนนั้นหรอ?”“นั่นคงหมายความว่า…คุณยอมรับมัน”ไมเคิลกำหมัดแน่น ทั้งตัวของเขานั้นสั่นสะท้านด้วยความโกรธ "เธอไปทำอะไรให้คุณปู่ขุ่นเคืองหรือ?""ทุก ๆ อย่าง ทุกอย่างที่เธอทำ มันทำให้ฉันขุ่นเคือง""เธอเป็นแค่เด
สามวันต่อมา บุคคลนั้นไม่ได้กลับเข้าบ้านอีกเลยเทรส และคัวโตรยืนอยู่ที่ประตูอย่างเงียบขรึมราวกับว่าพวกเขาทั้งสองคือรูปปั้นของเทพผู้พิทักษ์ที่อยู่อาศัยของเธอจากก่อนหน้านี้ได้ถูกไฟไหม้เสียหายไปบางส่วน เธอจึงกลับมาอยู่ที่คฤหาสน์สจ๊วตก่อน ลึกเข้าไปภายในคฤหาสน์ เธอไม่ได้ยินเสียงนกหรือกลิ่นดอกไม้ใด ๆ เลย พ่อบ้านก็เป็นมืออาชีพมาก ๆ เขาจัดเตรียมทุกอย่างเพรียบพร้อมไว้สำหรับเธอนอกเหนือจากเทรสและคัวโตรแล้ว เธอก็ไม่ค่อยได้พบใครเลย เธอไม่ได้พูดคุยกับใครเลยไม่แม้แต่เทรส และคัวโดรก็ไม่ได้คุยกับเธอสำหรับพ่อบ้านประจำตระกูล เขามักจะทำตัวสุภาพกับเธอทุกครั้งที่พบกันตอนนี้หูของเธอมันไร้ประโยชน์จริง ๆ แล้วปากของเธอก็คงเป็นเพียงแค่เครื่องประดับบนใบหน้าเพียงเท่านั้นคนรับใช้บางคนที่นี่ก็ดูคุ้นเคย ในขณะที่บางคนก็คงจะมาใหม่เพราะเธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน มันไม่สำคัญหรอกไม่ว่าใครในบ้านนี้เมื่อพวกเขาพบเห็นเธอ พวกเขาก็จะโค้งตัวด้วยความเคารพก่อนจะเดินจากไปทำงานของตัวเองต่อเธอนั่งมองดูคนสวนกำลังทำสวนผ่านกระจกหน้าต่างแม้ว่าในฤดูนี้ใบไม้ และดอกไม้ต่าง ๆ ในสวนจะร่วงโรยไปจนหมดแทบไม่มีสีสันในสวนหลงเหลืออยู่เล
วันผ่าตัดปลูกถ่ายไขกระดูกของเจสันเขาเปลี่ยนเป็นชุดผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว คุณหญิงดันน์อยู่ดูแลข้าง ๆ เขา"อย่าประหม่าไปเลย เจสัน ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี" คุณหญิงดันน์ปลอบใจ ถึงกระนั้นลูกชายของเธอก็ยังคงเอาแต่เงียบขณะที่เธอจ้องไปที่หน้าของลูกชายของเธอ เธอก็เอาแต่ด่าเจนในใจ"ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่มีจิตใจดีคนนี้ที่บริจาคให้กับลูก นังเจน เด็กคนนั้นก็เกือบจะฆ่าลูกแล้ว"เจสันจ้องมองอย่างไม่พอใจ"คุณแม่ พอได้แล้ว!""หือ? ลูกเป็นอะไรไป?“แม่กำลังรู้สึกเสียใจกับลูกนะ จะมาตะโกนใส่แม่ทำไม?”“คุณแม่ อย่าพูดถึงเจนแบบนั้นนะ”“ทำไมจะทำไม่ได้? เธอไม่สนใจสมาชิกในครอบครัวของเธอเองเสียด้วยซ้ำ”คุณหญิงดันน์เกลียดลูกสาวคนนี้สุดหัวใจแม้ว่าจะได้รับการชี้แจงว่าเธอเข้าใจผิดว่าเจนไม่ใช่ลูกสาวของตัวเอง แต่คุณหญิงดันน์ก็ยังคงมีอคติกับลูกสาวคนนี้ของเธออยู่ดีหลังจากนั้นเธอก็เอาแต่เลี้ยงดูลูกชาย และคอยอยู่เคียงข้างเขามาตั้งแต่เขายังเด็ก มันจึงทำให้ลูกชายของเธอสนิทกับเธอส่วนนังเด็กคนนั้น ... เด็กเลว ๆ คนนั้น เธอกลับมาที่เมืองเอสนี้ในตอนนั้น ก็เพื่อที่จะยึดทรัพย์สินทั้งหมดของ ดันน์ กรุ๊ป ไปดันน์ กรุ
วันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ชายคนนั้นมักจะทำอาหารทุกมื้อของเธอด้วยตัวของเขาเอง เมื่อเขาออกไปทำงานเขาจะพาผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ข้าง ๆ ตัวเขาตลอด ทำให้เธออยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา พวกเขาจึงดูเหมือนคู่รักที่แสนหวาน และรักกันมากมีความอิจฉาริษยาในสายตาของคนทั่ว ๆ ไป เมื่อพวกเขาเห็นเจนอยู่กับฌอนเมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ทุกคนในแวดวงต่างรู้ว่าทั้งสองมักจะตัวติดกันอยู่ตลอดเวลามีใครบางคนถอนหายใจออกมา ‘เจน ดันน์ จากตระกูลดันน์ ได้ครอบครองหัวใจชายคนนี้ในที่สุด หลังจากที่เธอไล่ตามฌอนในตอนนั้นเธอดูเป็นคนที่กล้าแสดงออกมาก 'คนทั่วไปต่างก็คิดว่า ในที่สุดเจนก็ได้รับในสิ่งที่เธอต้องการแล้วในวันหยุดสุดสัปดาห์หนึ่ง“ฉันอยากเจอเขา”"ใคร?""... พี่ชายของฉัน"มีความสั่นไหวในดวงตาของชายคนนั้น ถึงกระนั้นเขาก็ยังรักษาภาพพจน์ของตัวเอง"คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องของเจสัน"เขาพูดด้วยท่าทางสบาย ๆเจนบีบหมัดของเธอแน่น และหลังจากนั้นไม่นาน…"สภาพของเขาคงดูไม่ดีนัก ฉันจึงอยากจะเห็นด้วยตาของตัวเอง""นี่ผมปฏิบัติต่อคุณไม่ดีพอหรือ?" ชายคนนั้นเชื่ออย่างสนิทใจว่าเธอกำลังพยายามที่จะหนีจากเขาไปอีกครั้ง “เจสัน
ในที่สุดเจนก็ตื่นฟื้นขึ้นมา เมื่อเธอตื่นขึ้นมาห้องก็มืดสลัว เธอลุกขึ้น และเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เธอไม่ได้ตกใจกับชายที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาภายใต้แสงไฟอันอบอุ่นในห้องนั่งเล่นนั้นในห้องนั่งเล่นระดับเสียงของทีวีนั้นมันถูกตั้งไว้ในระดับที่ต่ำที่สุด ราวกับว่าเขากังวลว่าเขาจะรบกวนเธอจากการพักผ่อน ถ้าหากเขาเปิดเสียงดังกว่านี้เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากทางเดิน ชายคนนั้นรีบหันไปมองทันทีพวกเขาทั้งสองสบตากันอารมณ์ของพวกเขาทั้งสองดูเหมือนว่ามันจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มันดูราวกับว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากันมานานมากแล้ว และดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจซึ่งกันและกันโดยที่ไม่ต้องพูดอะไร พวกทั้งสองไม่ได้ทำลายความสงบสุขที่แปลกประหลาดนี้ทุกอย่างมันดูราวกับว่า ... พวกเขาสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติชายคนนั้นลุกขึ้นยืนและเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ เขาอุ่นโจ๊ก และวางไว้บนเคาน์เตอร์บาร์หญิงสาวเดินเข้าไปเงียบ ๆ จากนั้นเธอก็นั่งทานอาหารดูเหมือนกับว่าที่นี่มันไม่เคยมี ความรัก – ความเกลียด พัวพันระหว่างทั้งสอง ไม่มีความทรงจำที่เจ็บปวดร่วมกันเกิดขึ้นทุกคนอาจจะคิดว่าบรรยากาศช่างเต็มไปด้วยค