“อะ...นี่นามบัตรของฉัน เดี๋ยวแกเพิ่มเพื่อนแล้วส่งรูปที่มีมาให้ฉันให้หมด แล้วเดี๋ยวฉันให้รูปละหมื่น...โอเคนะ” คนตรงหน้ารีบตัดบทพร้อมกับยื่นนามบัตรมาให้ด้วยความรีบเร่ง เนื่องจากลิฟต์ที่จะส่งเธอให้ไปหาคนที่เธอปรารถนาได้ส่งสัญญาณว่ามาถึงแล้วจากนั้นฉันที่ไม่ทันได้เอ่ยปากพูดอะไร ร่างสวยระหงก็ก้าวเท้าหายเข้าไปในลิฟต์ของผู้บริหารแล้ว...ฉันนั่งมองดูนามบัตรในมือไปมาตลอดช่วงบ่ายด้วยความรู้สึกที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะทำตามคำสั่งของผู้หญิงมาดร้ายดีหรือไม่ เพราะเจตนาที่แท้จริงฉันแค่อยากให้เลขาคนนั้นถูกสั่งสอนจนลาออกไปมากกว่าที่จะทำให้เรื่องราวมันบานปลายใหญ่โต เพราะถ้าหากว่าเลขาสาวคนนั้นดันสำคัญต่อท่านประธานขึ้นมาจริง ๆ แล้วล่ะก็ รูปที่อยู่ในมือถือฉันมันก็จะเป็นเครื่องมือสังหารฉันดี ๆ นี่เองและก่อนที่ฉันจะทันได้ตัดสินใจอะไรผิดไป เดชะบุญที่สั่งสมมาก็พลันช่วยชีวิตฉันเอาไว้ได้ทัน เมื่อข่าวทอล์กออฟเดอะทาวน์ของบริษัทประจำวันแบบสด ๆ ร้อน ๆ ได้แพร่มาถึงยังแผนกที่ฉันทำงานอยู่พอดี“นี่ ๆ พวกเธอรู้เรื่องกันแล้วหรือยัง” หนึ่งในพนักงานขาเมาส์ประจำแผนกของฉันเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางตื่นเต้น หลังจากที่เพิ่งกึ่งเดินกึ่ง
ฉันตกตะลึงถามออกไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก หลังมั่นใจแล้วว่าใครเป็นคนโทรมา“อะ...เออ คุณมายาเองเหรอคะ ละ...แล้วนี่คุณได้เบอร์ฉันมาได้ยังไงคะ” “แกไม่ต้องสนใจหรอกย่ะว่าฉันไปได้เบอร์แกมายังไง แกสนใจแค่ว่าเมื่อไรแกจะส่งรูปที่ให้ฉันดูเมื่อวันนั้นมาให้ฉันสักที!!” ปลายสายพูดเหยียดในประโยคแรก ก่อนจะตะเบ็งเสียงใส่ในประโยคท้ายชั่วขณะเดียวกันนั้นเอง ภาพเหตุการณ์ของเพื่อนร่วมงานที่เล่าถึงเรื่องราวของคนที่โทรมาอย่างออกรสก็ทำให้ฉันได้สติและรีบโกหกออกไปอย่างคนที่ต้องการเอาตัวรอดทันที“รูป...เออ...อ๋อ...แอนต้องขอโทษคุณมายาด้วยนะคะ ระ...รูปแอนลบไปหมดแล้วค่ะ” ฉันโป้ปดออกไปเพราะไม่อยากเอาตัวเองไปพัวพันกับความรักใคร่ของผู้มีอำนาจแบบนั้นอีกแล้ว“กรี๊ดดดดด...อีโง่!! นี่แกลบรูปไปหมดเลยงั้นเหรอ อีบ้า!! อีไม่มีสมอง” ปลายเสียงผรุสวาทใส่ฉันไม่หยุด จนฉันได้แต่อึ้งไม่คิดว่าจะมาได้ยินประโยคเหล่านี้จากคนที่เรียกตัวเองว่าไฮโซจากนั้นปลายสายก็แสดงอาการฟึดฟัดเกรี้ยวกราดก่อนกดวางไป โดยที่ปล่อยให้ฉันได้แต่มึนงงคาโทรศัพท์อยู่ที่หูสักพัก...กระทั่งหลายวันต่อมา...เบอร์ที่ฉันไม่ปรารถนาที่จะเห็นอีกก็ได้โทรเข้ามาอีกครั้ง และ
แผนการที่เอื้อนเอ่ยออกมาเป็นฉากเป็นตอนทำให้ฉันยิ่งหัวใจพองโตด้วยความสุขใจ“เอาเป็นว่าตามนี้นะจ๊ะ แอนแค่พาเขาออกมาให้ได้แล้วกันและไม่ว่าบนโต๊ะอาหารเขาจะตกลงปลงใจกับแอนหรือไม่ก็ตาม แต่ว่ายานอนหลับขนานดีที่ฉันจะให้คนของฉันแอบใส่ไว้ในอาหารจะพาเขาให้ไปนอนข้างกายแอนได้อย่างแน่นอน...แล้วก็อีกอย่างแอนไม่ต้องกลัวเลยนะว่าเขาจะตื่นมาแล้วโวยวายผลักไสแอน เพราะฉันจะเตรียมตัวรออยู่ใกล้ ๆ เมื่อไรที่เขาโวยวายไม่รับผิดชอบแอนขึ้นมา ฉันนี่แหละจะใช้อำนาจที่มีและการเป็นพยานในที่เกิดเหตุบีบบังคับให้เขารับผิดชอบแอนเองจ๊ะ...เป็นไงจ๊ะแอน...เธอเห็นด้วยกับของขวัญสำหรับมิตรภาพและคำขอโทษจากใจของฉันไหมล่ะจ้ะ”ปลายสายบอกเล่าสรุปถึงแผนการที่เหลืออย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยคำเย้าจนฉันที่คิดไปไกลถึงวันนั้นได้แต่หน้าแดงก่ำด้วยความสุขใจที่ความฝันของฉันจะเป็นจริงเสียยิ่งกว่าที่ฉันปรารถนาเอาไว้...“คะ...ขอบคุณ คุณมายามากนะคะ แอนขอน้อมรับของขวัญชิ้นนี้ด้วยความเต็มใจเลยค่ะ” ฉันตอบปลายสายไปด้วยหัวใจที่พองโตแน่นคับอก ก่อนจะเอ่ยถามออกด้วยความตื่นเต้นเพราะอยากจะเริ่มแผนนี้เร็ว ๆ แล้ว“เอ่อ...แต่ว่าคุณมายาจะให้แอนเริ่มแผนเมื่
ณ โรงแรมแห่งหนึ่งหลังจากที่ฉันจัดแจงจัดฉากฝ่ายผู้ชายจนเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่ฉันจะล่อเหยื่ออีกตัวให้มาติดเบ็ดฉันจัดการเอาโทรศัพท์ของไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่ไปหลงรักนังลลินอีกคนขึ้นมาเพื่อส่งข้อความไปหลอกล่อให้มันแล่นมาตามแผนที่ฉันวางเอาไว้ และด้วยจากข้อมูลที่ได้บวกกับข้อความที่อยู่ในมือถือ จึงทำให้ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันจะใช้ล่อให้มันออกมาคือการโกหกว่ามันจะได้วิดีโอคอลหาญาติผู้ใหญ่ที่มันเคารพรักนั่นเองจากนั้นฉันก็ได้จัดการส่งข้อความพร้อมกับโลเคชันไปล่อให้มันมา และทุกอย่างก็ช่างง่ายดายเหลือเกิน ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการที่ฉันวางไว้โดยที่ฉันไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยออกแรงให้มากขึ้นแต่อย่างใดกระทั่ง...เมื่อฉันได้เหยื่ออันโอชะมากองอยู่ตรงหน้า เหยื่อที่ฉันจะใช้ล่อให้ปลาตัวใหญ่มาติดเบ็ดได้อย่างง่ายดาย มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกได้ถึงความหอมหวานในรสชาติของการแก้แค้นที่ลอยเข้ามาในจมูก จนความสุขมันล้นปรี่ออกตามรูขุมขนไปหมด“เออ...คุณมายาจะให้เราจัดการยังไงต่อครับ” เสียงของลูกน้องคนหนึ่งที่เพิ่งแบกผู้หญิงที่ไร้สติเข้ามาวางไว้ที่เตียงเอ่ยถามพลางปาดเหงื่อที่อยู่บนใบหน้าส่วนฉันที่นั่งไขว่ห้างมองภาพตรงหน้าด้วยส
--- ลลิน Talk ---ในห้วงแห่งความฝันที่เต็มไปด้วยความมืดมิด สายตาของสัตว์ร้ายที่กำลังจ้องมองมาจากมุมมืดเพื่อจ้องจะหาโอกาสทำร้ายฉันมันช่างทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัว อึดอัด และด้วยความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นมันมีมากเสียจนฉันแทบไม่อยากจะหายใจ...กรรรร ~~ กรรรร ~~ จะทรมานเธอ ~~ ตายเท่านั้น...กรรรร ~~ภาพในความฝันตัวฉันที่ยังคงยืนสั่นด้วยความหวาดกลัว พร้อมกับสายตาที่สอดส่องเพ่งมองไปทั่วในความมืดมิดด้วยความหวาดระแวง โดยในท่ามกลางความประหวั่นพรั่นพรึงนั้นฉันหวังเพียงแค่ขอให้มีแสงสว่างส่องเป็นแสงนำทางให้ฉันได้หลุดพ้นออกไปจากความมืดมิดนี้สักที“ยะ...อย่าเข้ามานะ” เสียงระส่ำเอ่ยพูดออกไปด้วยความหวาดกลัว โดยที่สายตายังส่ายไปมาอย่างไม่รู้ทิศทางกระทั่งเมื่อ...แสงสว่างจุดเล็ก ๆ ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าและนั่นก็ทำให้ฉันใจชื้นขึ้นมา“ลิน...ได้ยินพี่ไหม ~~”น้ำเสียงแสนคุ้นหูเอ่ยเรียกชื่อฉันซ้ำ ๆ ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา และก่อนที่ฉันจะทันได้ขานรับออกไป จุดแสงเล็ก ๆ ดวงนั้นก็พลันค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นจนฉายให้เห็นถึงใบหน้าของคนใจร้ายที่ฉันเกลียดสุดหัวใจ‘ปีศาจร้าย...ดีแลน!!’นี่แม้กระทั่งในความฝันเขาก็ยังตามมาหลอกหลอนฉั
ณ โกดังเก็บของ--- ดีแลน Talk ---ผมที่บุกไปลากอีตัวต้นเรื่องมาจากบ้านของมัน พร้อมกับเผาบ้านมันวอดวายทั้งหลังอย่างไม่คิดแยแสถึงผมที่จะตามมาเลยสักนิด อีกทั้งยังไม่สนใจตำแหน่งนักการเมืองที่มีแต่เปลือกของพ่อมันอีกด้วยผลั่ก!! ตุบ!!“โอ๊ยยยยย!! ดะ...ดีน มายาเจ็บนะคะ” อีคนชั่วทำเป็นสะดีดสะดิ้งร้องโอดโอยอย่างไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง และด้วยเสียงร้องดัดจริตของมันกลับไม่ทำให้ผมสงสารมันเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกขยะแขยงและรังเกียจมันมากขึ้นไปอีก“มึงไม่ต้องมาทำเป็นดัดจริต!!” เสียงกังวานตวาดลั่น พร้อมกับความรู้สึกที่แทบอยากจะปลิดชีพคนตรงหน้าลงเสียตอนนี้ เพียงแต่ผมอยากจะทรมานมันให้สาสมกับสิ่งที่มันทำเสียก่อน“ดีนทำไมรุนแรงกับมายาล่ะคะ มายาไปทำอะไรให้คุณ...ฮึก...ฮึก” คนตรงหน้ายังทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราว และคงเป็นเพราะตอนที่ผมไปลากมันออกมาจากบ้านผมยังไม่ได้พูดอะไรออกไป เนื่องจากผมอยากจะพิพากษาพวกมันพร้อมกันเลยทีเดียว“มึงนี่มันตอแหลไม่เลิกเลยนะ อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่าก่อนหน้านี้มึงนะทำเป็นใสซื่อแต่ข้างในเน่าเฟะ เพียงแต่กูไม่ได้ใส่ใจเท่านั้น แล้วมึงรู้อะไรไหม...ยิ่งกูขุดคุ้ยเรื่องของมึ
ผมนึกไปถึงข้อมูลที่ได้รับรู้มาถึงวีรกรรมของบริกรสาวคนนี้ที่มักจะชอบอาสาเจ้าของร้านซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชายของมายาทำเรื่องชั่ว ๆ ให้ตลอดเพื่อแลกกับเงิน โดยคนที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นพวกผู้หญิงที่ถูกวางยาเพื่อส่งไปสนองตัณหาของเจ้าของร้าน และเพราะด้วยอิทธิพลที่มีไม่น้อยของคนบงการจึงทำให้เหล่าบรรดาสาว ๆ ที่โดนวางยาต่างไม่กล้าไปแจ้งความและปล่อยให้เรื่องมันเงียบไป“อะ...เอ่อ...คะ...คือ” ก้อนคำพูดขึ้นมาติดอยู่ที่ลำคอของบริกรสาวทันทีอย่างคนมีพิรุธ และด้วยอากัปกิริยาที่แสดงออกมานั้น มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดจนแทบอยากจะจัดการมันให้รู้แล้วรู้รอด“หึ...มึงไม่ต้องมาอ้ำอึ้งกูถามว่ามือไหน...มึงก็แค่ตอบคำถามกูมาแล้วกูจะพิจารณาไว้ชีวิตมึง” ผมถามย้ำเสียงเย็นด้วยความเบื่อหน่ายเต็มทน“มะ...มือ...มะ...ไม่มี...หนูไม่ได้ทำ” สายตาเลิ่กลั่กอีกทั้งเหงื่อกาฬที่ผุดไหลเต็มหน้าบ่งบอกได้ดีเลยว่าบรรดาความชั่วทั้งหลายที่มันเคยทำเอาไว้ในอดีตบัดนี้ได้ทยอยผุดขึ้นมาตอกย้ำความชั่วของมันแล้วส่วนผมที่เริ่มจะไม่สบอารมณ์เต็มทีก็ได้ตัดความรำคาญพยักหน้าให้ลูกน้องจับมือของบริกรสาวเอามาวางไว้ต่อหน้าผม และด้วยอารามของค
หญิงสาวที่มีความแค้นคับแน่นอยู่ในอกเพราะไม่เหลือซึ่งความหวังที่จะได้ครอบครองชายหนุ่มตรงหน้า ยิ่งส่งให้เธอระเบิดความบ้าคลั่งออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด“ฮือออออ ฮ่าๆๆๆ สะใจจริงโว้ยยยยย...หึ...ดีแลนมึงอะมันหน้าโง่เหลือเกินทั้งที่มีกูที่เพียบพร้อมแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาในวงสังคม บารมีของครอบครัวที่จะช่วยหนุนมึงให้ขึ้นสูงกว่านี้ได้ แต่มึงก็เสือกไปเลือกมัน...อีคนชั้นต่ำไม่มีหัวนอนปลายเท้าแถมยังกำพร้าพ่อแม่อีกอย่างอีลลิน กูถามหน่อยเถอะว่านอกจากความซิงของมันแล้ว มันยังมีอะไรดีกว่ากูงั้นเหรอ...ห๊ะ!!”ความรู้สึกในใจพรั่งพรูออกมาจากปากของมายาที่เปลี่ยนจากร้องไห้เสียใจเป็นหัวเราะใส่หน้าผมอย่างคนบ้าคลั่ง พร้อมกับตัวเองที่พยายามหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงออกมา ก่อนที่เธอจะลอยหน้าลอยตาเย้ยหยันใส่ผมอย่างไม่เหลือมาดคุณหนูผู้ใสซื่ออีกต่อไป“หึ...มึงมันก็เหมือนกับไอ้พวกผู้ชายใจหมาพวกนั้นนั่นแหละที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น มึงก็แค่หลงอีลลินเพียงเพราะว่ามันมีสิ่งที่กูไม่มีนั่นก็คือความสดใหม่เท่านั้นเอง คนอย่างมึงมันก็เห็นค่าผู้หญิงแค่เท่านั้นนั่นแหละ มึงมันก็เหมือนกับผู้ช
สองเดือนผ่านไป ~~“มึงได้ข่าวลินบ้างไหมว่ะ” ผมเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทด้วยคำถามเดิมเฉกเช่นทุกครั้งยามที่มันเอาเอกสารมาให้เซ็นที่บ้าน“ยังเลยครับนาย แต่ผมก็ยังไม่ได้ให้ลูกน้องเลิกตามหาเลยนะครับ ทุกครั้งที่มีเบาะแสผมจะเป็นคนไปดูด้วยตัวเองตลอด เพียงแต่ว่า...” ริกพูดรายงานเหมือนเช่นเดิมทุกครั้ง อีกทั้งในน้ำเสียงนั้นก็ยังไม่อาจปิดบังความผิดหวังเอาไว้ได้ เนื่องด้วยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาเองก็แทบจะพลิกแผ่นดินหาคนที่เป็นดั่งหัวใจของเจ้านายตัวเอง เพียงแต่ว่ากลับไร้ซึ่งร่องรอยและไร้วี่แววเสมือนกับว่าเธอไม่เคยมีตัวตนมาก่อนบนโลกใบนี้“แล้วรามพี่ชายของลินล่ะ มึงได้ตามไปดูไหมเผื่อว่าเมียกูจะไปอยู่กับเขา” ผมถามไปถึงบุคคลอีกบุคคลหนึ่งที่ตอนนี้ได้ลาออกจากบริษัทผมไปตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องวันนั้นแล้ว ก่อนที่ตัวเองจะยกขวดแก้วใสที่ใส่น้ำสีอำพันสีเข้มกระดกปล่อยให้ของเหลวดีกรีร้อนแรงไหลลงคอต่อไป อย่างที่ต้องการจะให้มันได้เข้าไปดับความเจ็บปวดที่อยู่ข้างในให้บรรเทาเบาบางลงได้บ้างริกมองสภาพเจ้านายของตนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ภาพของชายหนุ่มที่เคยสง่างามมีออร่าเปล่งประกายแต่ทว่า...ตอนนี้กลับมีสภาพเหมือนคนพเนจรไร้จุดหมา
ดวงตากลมโตค่อย ๆ เปิดปรือขึ้นมาอย่างช้า ๆ เพื่อปรับโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า กระทั่งเมื่อความทรงจำสุดท้ายได้พาดผ่านเข้ามาในโสตประสาท นั่นจึงทำให้ฉันถึงกับกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรงทันที พร้อมกับกวาดสายตามองไปทั่วด้วยความตกใจ“ทะ...ที่นี่ที่ไหนกัน” หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อพบว่าภาพบรรยากาศตรงหน้านั้นไม่เหมือนกับภาพของสถานที่สุดท้ายที่ตัวเองได้หมดสติลงไปเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากสถานที่ตอนนี้ฉันเหมือนกับอยู่บ้านพักที่ไหนสักแห่งที่ไม่ใช่สถานีขนส่งอย่างก่อนหน้านี้จากนั้นเมื่อสติค่อย ๆ กลับคืนมา ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงก็ได้ฉายวาบเข้ามาในหัวใจทันที เมื่อนึกไปถึงใบหน้าของใครบางคนที่ใจร้ายด้วยกลัวว่าสุดท้ายแล้วฉันจะหนีจากเขาคนนั้นไม่พ้น และถูกเขาจับตัวกลับมาทรมานอีกครั้งเหมือนที่เขาเคยทำและในขณะที่ฉันกำลังคิดวิตกกังวลอยู่นั้น...เสียงที่เหมือนกับว่าจะเป็นเสียงเดียวกันกับที่ฉันได้ยินก่อนจะหมดสติไปก็ได้ดังขึ้นมาทันที“ฟื้นแล้วเหรอครับคุณลลิน เป็นยังไงบ้างครับยังรู้สึกไม่สบายตรงไหนอีกหรือเปล่า ผมจะได้เรียกหมอให้มาตรวจดูอาการให้ครับ” ใบหน้าคมเข้มดูหล่อเหลาในแบบสไตล์ผู้ชายไทยได้ปรากฏขึ้นตรงหน้า พร
“มะ...ไม่มี...อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า”พี่น้ำค้างที่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ อีกทั้งยังรีบลนลานเดินไปหายังห้องน้ำด้วยความร้อนใจ เพื่อหวังว่าจะพบร่างเมียรักของผมอยู่ในนั้นแต่แล้วทันทีที่พี่น้ำค้างเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปแล้วพบเข้ากับความว่างเปล่าเหมือนที่ผมเจอ...เธอก็เริ่มงึมงำกับตัวเองอีกครั้งทันที...ใบหน้าที่เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดของผู้เป็นพี่สาว ยิ่งทำให้ชายหนุ่มที่มีความหวังในตอนแรกเพราะคิดว่าเป็นเพียงแค่สิ่งที่พี่สาวกลั่นแกล้งตนเท่านั้น เริ่มที่จะหวาดหวั่นในใจขึ้นมาด้วยกลัวว่าสิ่งที่ตนกำลังกังวลอยู่นั้นจะเป็นจริง“หะ...หาย...หายไปได้ยังไงก็ในเมื่อตอนแรกก่อนที่ฉันจะออกไปก็ยังเห็นนอนหลับอยู่เลยไม่ใช่เหรอ” พี่น้ำค้างหันมาถามผมแทนอีกทั้งสีหน้ายังแสดงอาการตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่บนพื้นจะเต็มไปด้วยของกินที่นำมาฝากคนป่วยที่บัดนี้ได้กระจัดกระจายหล่นเต็มไปทั่วทั้งพื้นเนื่องจากคนถือตกใจจนทำร่วงหล่น“นี่พี่ไม่รู้เรื่องที่ลินหายไปจริง ๆ เหรอ” ผมที่ยังคงคลางแคลงใจคนตรงหน้าอยู่เล็กน้อยเอ่ยถามย้ำเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่การแสดงจากพี่สาว“ไอ้ดีน!! นี่แกจะบ้าเหรอ!! ฉันเนี้ยน่ะจะร
--- ดีแลน Talk ---หลังจากที่ผมจัดการชำระแค้นเรียบร้อย แม้ทุกอย่างมันจะไม่เป็นอย่างที่ผมคิดเอาไว้และค่อนข้างจะผิดแผนไปนิด แต่ทว่า...คนที่ควรจะได้รับบทลงโทษก็สมควรได้รับหมดแล้ว และคงเหลือแค่เพียงผมเท่านั้นที่ต้องกลับไปรับโทษทัณฑ์จากคนที่ผมรักสุดหัวใจด้วยความเต็มใจสักทีผมจัดการควบรถหรูคู่ใจพุ่งทะยานไปยังจุดมุ่งหมายที่ใจปรารถนา และหวังเพียงว่าจะไปได้ทันพอที่เธอจะลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี ผมปรารถนาที่จะให้เธอตื่นมาพบกับผมเป็นคนแรกเพื่อที่ผมจะได้เสนอหน้าให้เธอเห็นแม้ว่าเธอจะไม่พอใจก็ตาม...ผมใช้เวลาไม่นานมากนักเจ้ารถหรูคู่ใจก็ได้พาผมมายังจุดมุ่งหมายปลายทางพร้อมกับหัวใจที่พองโตด้วยความคิดถึงคนร่างบางที่นอนพักผ่อนอยู่บนเตียง อีกทั้งตลอดระยะทางที่ขับรถมาผมก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ เพราะผมเองนั้นก็ได้ใช้เวลาช่วงนั้นในการขบคิดหาวิธีที่จะงอนง้อขอคืนดีกับเมียรักมาตลอดทาง ด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจและตั้งใจเอาไว้ว่าจะยอมรับผลของการกระทำแต่โดยดีถ้าหากเธอจะยังไม่ยอมให้อภัยในตอนนี้...ณ โรงพยาบาลชานเมืองหัวใจที่เบิกบานพองโตส่งให้เท้ายาวก้าวกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงไปยังห้องพักคนไข้ที่ข้างในกำลั
ณ โรงพยาบาลชานเมือง--- ลลิน Talk ---“นะ...น้ำ...ขอน้ำกินหน่อย” เสียงแหบแห้งที่หลุดออกมาจากริมฝีปากที่แห้งผาก ทำให้คนที่นั่งเฝ้าด้วยความเป็นห่วงอยู่ด้านข้าง ๆ ถึงกับรีบกุลีกุจอถามฉันทันที“น้องลิน...พี่อยู่นี่แล้วค่ะ” พี่น้ำค้างรีบเดินมาลูบหัวฉันเบา ๆ พร้อมด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือด้วยความสะเทือนใจยามที่เห็นสภาพอิดโรยของฉัน และยิ่งเจ็บใจเมื่อพานคิดไปว่าที่ฉันต้องมีสภาพเป็นแบบนี้นั่นก็เพราะฝีมือของน้องชายตัวเอง“พะ...พี่น้ำค้าง ละ...ลินขอน้ำกินหน่อยค่ะ” ฉันปรือตามองพร้อมกับขยับเรียวปากอีกครั้งถึงความต้องการของตัวเอง เนื่องจากตอนนี้รู้สึกริมฝีปากและคอแห้งผากไปหมด“อะ...อ๋อ...ได้จ้ะ...ได้” จากนั้นพี่น้ำค้างก็รีบหยิบน้ำให้ฉันกิน แล้วมองฉันด้วยแววตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำใสด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ“ขะ...ขอบคุณค่ะ” ใบหน้าซีดเซียวเผยยิ้มหวานให้กับคนตรงหน้า ก่อนที่จะพยายามหยัดตัวลุกขึ้นเนื่องจากมีบางอย่างที่ต้องรีบบอกออกไปให้คนตรงหน้าได้รับรู้“อ่ะ...น้องลินค่อย ๆ นะคะ ระวังบาดแผลด้วยนะ” พี่น้ำค้างรีบเข้ามาประคองฉันให้ลุกขึ้นนั่งตามความต้องการของฉัน ก่อนที่เธอจะกดปรับเตียงนอนให้ตั้งขึ้นเพื่อให้ฉั
“กรี๊ดดดดดด ~~ อีลลินมันก็สกปรก มันก็นอนกับผู้ชายคนอื่น แล้วทำไม!! ทำไมถึงมีแค่ฉันที่สกปรกล่ะ ไม่...ไม่...ฉันไม่สกปรก ฉันสวย ฉันเพียบพร้อม ฉันมีหน้ามีตาในสังคม ฉันไม่ใช่เด็กกำพร้าไร้ยางอาย ฉันคือนางฟ้าของวงการไฮโซ กรี๊ดดดดดด ~~”เสียงหวีดร้องและอาการที่เหมือนกับคนไร้สติของหญิงสาวที่กรี๊ดออกมาไม่หยุดอย่างคนที่จบสิ้นแล้วทุกอย่างก็ทำให้คนที่เป็นพ่อแม่ถึงกับทรุดตัวลงตามเพื่อปลอบประโลมพร้อมกับร้องไห้ไปด้วยกันเนื่องจากสงสารลูกของตนเอง“มายา อย่าเป็นแบบนี้ซิลูก ฮือออออ ~~”“โธ่...มายา พ่อขอโทษ ฮึก...ฮึก ไปกันเถอะนะลูกใครไม่รักแต่พ่อรักลูกนะ”เสียงปลอบจากผู้สูงวัยทั้งสองที่ผลัดกันพูดกับคนที่ต่างฝ่ายต่างรักเหมือนกัน แต่น่าสงสารที่คำพูดเหล่านั้นเหมือนจะไปไม่ถึงหัวใจของคนที่ตนรักเลย เมื่อคำผรุสวาทที่ออกมาจากปากของหญิงสาวในประโยคถัดมาทำให้แม้กระทั่งผมยังตัวชาเพราะไม่คิดว่าเธอจะเสียสติได้ขนาดนี้“รักเหรอ...พ่อพูดคำนั้นออกมาได้ไงห๊ะ!! ไอ้พ่อไร้ประโยชน์!! แค่ลบล้างอดีตของกูยังทำไม่ได้มึงมีสิทธิ์อะไรมาอ้างความเป็นพ่อกับกู...ฮึก...ฮึก...มึงมันก็คิดถึงแค่หน้าตา แค่อำนาจ แค่ตำแหน่งจอมปลอมที่มีเอาไว้เชิด
ภาพแผ่นหลังของพ่อแม่ที่ต่างพากันประคองลูกสาวให้เดินออกไป แม้ว่าตัวผมจะรู้สึกขัดใจที่ไม่อาจลงโทษตัวตนเรื่องได้อย่างสาสมอย่างที่ใจต้องการ แต่เพราะเห็นแก่ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อหญิงสาวบวกกับในฐานะที่ผมเกือบจะได้เป็นพ่อคนนั้น จึงทำให้ผมเลือกที่จะกลั้นความโกรธเอาไว้แล้วปล่อยพวกเขาไปและในขณะที่พวกเขากำลังกึ่งดึงกึ่งลากลูกสาวของตนออกไปอยู่นั้น“ปล่อยหนูนะ...บอกให้ปล่อย!!” มายาที่สะบัดแขนพ่อแม่ของตนทิ้ง ก่อนจะหันกลับมาเพื่อเผชิญหน้ากับผมอีกครั้งอย่างคนที่ไม่เกรงกลัวอะไรอีกแล้ว“นี่ไง...กูกลับมาเจอหน้ามึงอีกครั้งแล้วนี่ไง ฆ่ากูเลยซิ!! ฆ่ากูเลย” ดวงตาเฉี่ยวจ้องมองผมอย่างแข็งกร้าว อีกทั้งยังกำมือแน่นอย่างไม่ยินยอมและไม่เกรงกลัวผมเลยแม้แต่น้อย“มายา...มึงอย่าท้ากูนะ!!” ผมชี้ปลายดาบที่ขึ้นสีเงินวาวตรงไปยังหน้าหญิงสาวที่ท้าทายด้วยความรู้สึกที่ไม่ประหวั่นกับคำท้านั้นเช่นกัน“กูไม่ได้ท้า แน่จริงก็ฆ่ากูเลยซิ หรือว่าความจริงแล้วมึงมันก็น่าตัวเมียเหมือนนิสัย!!” และคำพูดหญิงสาวที่เหมือนกับน้ำมันเติมเชื้อไฟโทสะก็ได้ราดรดลงมาสุมไฟที่ยังไม่มอดไหม้ให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง“ฮึ่ม...พวกมึงมาเอาลูกมึงไปให้พ้นหน
หญิงสาวที่มีความแค้นคับแน่นอยู่ในอกเพราะไม่เหลือซึ่งความหวังที่จะได้ครอบครองชายหนุ่มตรงหน้า ยิ่งส่งให้เธอระเบิดความบ้าคลั่งออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด“ฮือออออ ฮ่าๆๆๆ สะใจจริงโว้ยยยยย...หึ...ดีแลนมึงอะมันหน้าโง่เหลือเกินทั้งที่มีกูที่เพียบพร้อมแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาในวงสังคม บารมีของครอบครัวที่จะช่วยหนุนมึงให้ขึ้นสูงกว่านี้ได้ แต่มึงก็เสือกไปเลือกมัน...อีคนชั้นต่ำไม่มีหัวนอนปลายเท้าแถมยังกำพร้าพ่อแม่อีกอย่างอีลลิน กูถามหน่อยเถอะว่านอกจากความซิงของมันแล้ว มันยังมีอะไรดีกว่ากูงั้นเหรอ...ห๊ะ!!”ความรู้สึกในใจพรั่งพรูออกมาจากปากของมายาที่เปลี่ยนจากร้องไห้เสียใจเป็นหัวเราะใส่หน้าผมอย่างคนบ้าคลั่ง พร้อมกับตัวเองที่พยายามหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงออกมา ก่อนที่เธอจะลอยหน้าลอยตาเย้ยหยันใส่ผมอย่างไม่เหลือมาดคุณหนูผู้ใสซื่ออีกต่อไป“หึ...มึงมันก็เหมือนกับไอ้พวกผู้ชายใจหมาพวกนั้นนั่นแหละที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น มึงก็แค่หลงอีลลินเพียงเพราะว่ามันมีสิ่งที่กูไม่มีนั่นก็คือความสดใหม่เท่านั้นเอง คนอย่างมึงมันก็เห็นค่าผู้หญิงแค่เท่านั้นนั่นแหละ มึงมันก็เหมือนกับผู้ช
ผมนึกไปถึงข้อมูลที่ได้รับรู้มาถึงวีรกรรมของบริกรสาวคนนี้ที่มักจะชอบอาสาเจ้าของร้านซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชายของมายาทำเรื่องชั่ว ๆ ให้ตลอดเพื่อแลกกับเงิน โดยคนที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นพวกผู้หญิงที่ถูกวางยาเพื่อส่งไปสนองตัณหาของเจ้าของร้าน และเพราะด้วยอิทธิพลที่มีไม่น้อยของคนบงการจึงทำให้เหล่าบรรดาสาว ๆ ที่โดนวางยาต่างไม่กล้าไปแจ้งความและปล่อยให้เรื่องมันเงียบไป“อะ...เอ่อ...คะ...คือ” ก้อนคำพูดขึ้นมาติดอยู่ที่ลำคอของบริกรสาวทันทีอย่างคนมีพิรุธ และด้วยอากัปกิริยาที่แสดงออกมานั้น มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดจนแทบอยากจะจัดการมันให้รู้แล้วรู้รอด“หึ...มึงไม่ต้องมาอ้ำอึ้งกูถามว่ามือไหน...มึงก็แค่ตอบคำถามกูมาแล้วกูจะพิจารณาไว้ชีวิตมึง” ผมถามย้ำเสียงเย็นด้วยความเบื่อหน่ายเต็มทน“มะ...มือ...มะ...ไม่มี...หนูไม่ได้ทำ” สายตาเลิ่กลั่กอีกทั้งเหงื่อกาฬที่ผุดไหลเต็มหน้าบ่งบอกได้ดีเลยว่าบรรดาความชั่วทั้งหลายที่มันเคยทำเอาไว้ในอดีตบัดนี้ได้ทยอยผุดขึ้นมาตอกย้ำความชั่วของมันแล้วส่วนผมที่เริ่มจะไม่สบอารมณ์เต็มทีก็ได้ตัดความรำคาญพยักหน้าให้ลูกน้องจับมือของบริกรสาวเอามาวางไว้ต่อหน้าผม และด้วยอารามของค