“ขอพี่กินน้ำหน่อยนะลิน ตอนนี้พี่กระหายเหลือเกิน”สิ้นน้ำเสียงทุ้มที่เอ่ยร้องกระเส่าของเขา ฉันที่ตอนนี้ได้แต่นอนร้อนวูบวาบด้วยรู้สึกเขินอายที่มีสายตาคมจดจ้องตรงจุดอ่อนไหวอยู่ ก็ได้แต่ปิดหน้าหนีอายไม่ยอมตอบคำเขากลับ“ว่าไงครับทูนหัวของผัว ผัวขอกินน้ำเมียดับกระหายหน่อยได้ไหม...หืมมมม ~~” เขาที่พูดขอเหมือนอยากจะแกล้งฉันให้อายม้วนตาย จนฉันที่ทั้งรู้สึกอายและทั้งรู้สึกอยากจะระบายความเสียวที่ถูกคนตัวโตปลุกปั่นก็ได้รีบตอบเขาไปเพื่อให้เขาได้ช่วยให้ฉันพ้นจากความทรมานนี้โดยเร็ว“พะ...พี่ดีนจะทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ” (>///สิ้นเสียงอนุญาตของฉันคนตัวโตที่ทอประกายวาววาบในดวงตาก็จัดการก้มหน้าบรรจงจรดลิ้นร้ายลงกลางรอยแยกที่แนบสนิททันทีแผล็บ...แผล็บ...แผล็บ“อ่ะ...พะ...พี่ดีน” ฉันเกร็งตัวสะดุ้งร้องออกมาด้วยความรู้สึกเสียววาบตรงร่องเสียว หลังจากถูกคนตัวโตจับเรียวขาฉันอ้ากว้างออกจนเป็นรูปตัว M แล้วส่งเรียวลิ้นร้อนแลบออกมาตวัดเลียจู่โจมที่กลางร่องสาวสะบัดไปมาอย่างรวดเร็ว จนร่างบางถึงกับสะดุ้งเฮือกเลื่อนมือที่จิกผ้าปูที่นอนในตอนแรกเปลี่ยนมาเป็นกอบกุมไปยังเลือนผมสลวยของคนที่กำลังบรรเลงลิ้นอยู่ที่กลางร่องสาวขอ
ฉันหน้าบึ้งทันที หลังจากที่เขาทำทีว่าจะขอต่อ...“ไม่ค่ะ...ลินเหนื่อยแล้ว” ฉันปฏิเสธเสียงแข็ง แม้จะพยายามดันตัวคนบนร่างให้ออกไป โดยเฉพาะเจ้าลำเอ็นยักษ์ใหญ่ที่แม้จะอ่อนตัวลงไปบ้าง แต่ฉันก็ยังรับรู้ได้ถึงความแน่นที่คับอยู่ในร่องสาวอยู่ดี“นะ...นะ...อีกแค่รอบเดียว พี่ยังไม่อิ่มเลย” ก่อนที่คนตัวโตจะส่งเสียงออดอ้อน พร้อมกับขยับแก่นกายที่คาอยู่ในรูสวาทให้กระดุกกระดิกไปมาเพื่อเรียกร้องสิ่งที่เขาต้องการ“ไม่ค่ะ!!” ฉันยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง พร้อมกับออกแรงดันตัวเขาออกแต่ทว่า...มีหรือคนตัวโตจะยินยอม เพราะตอนนี้ไอ้ท่อนเอ็นอุ่นของเขานั้นมันได้ขยายพองตัวขึ้นมาอีกรอบแล้ว“รอบเดียวเองนะคร๊าบบบบ...เมียคนสวยของพี่ ถ้าขืนให้พี่กินแค่นี้คืนนี้พี่ต้องนอนหิวตายแน่ ๆ เลยนะ นะ นะ ~~” ด้วยแววตาทอประกายความหวังที่ส่งตรงมาให้ฉัน อีกทั้งน้ำเสียงออดอ้อนอย่างเสือที่กลายเป็นแมวเหมียวนั้น ทำให้ฉันเริ่มใจอ่อนให้กับเขา...“แค่รอบเดียวเท่านั้นนะคะ...” สุดท้ายฉันที่ทนเสียงรบเร้าและใบหน้าออดอ้อนของเขาไม่ไหว จำต้องยอมโอนอ่อนคล้อยตามเขาไปอีกครั้งจนได้“ครับ...” (^-^) ใบหน้ายิ้มแย้มแป้นแล้นดูระรื่นจนฉันอดหมั่นไส้ไม่ได้รีบตอบก
“อาบน้ำด้วยกันนะครับ...จุ๊บ ~~” คนตัวโตยังคงออดอ้อน ก่อนจะจูบลงมาที่แผ่นหลังเนียนของฉันจนฉันขนลุกชูชันไปทั่วร่างสาว“มะ...ไม่เอาค่ะ...ลินกลัว...” ฉันก้มหน้างุดเอียงอายเมื่อคิดจินตนาการไปถึงภาพวาบหวิวที่อาจจะเกิดขึ้นถ้าหากฉันยอมให้เขาอาบน้ำด้วย“กลัวอะไร...หืมมมม...จุ๊บ ~~” ส่วนเขาที่แสร้งทำเป็นถามออกมาเหมือนกับไม่รู้ว่าฉันกลัวอะไร อีกทั้งยังแกล้งหยอกเย้ากับแผ่นหลังเนียนจนฉันสะดุ้งแล้วสะดุ้งอีก“ก็กลัว...ไม่ต้องมาแกล้งลินเลยค่ะ พี่ดีนเองก็รู้ว่าลินกลัวอะไร...ชิ” ฉันบุ้ยปากตอบเขาออกไปด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะพยายามแกะมือปลาหมึกที่เหนียวหนึบเกาะอยู่ที่เอวของฉันออกและในจังหวะที่ฉันแกะมือเหนียวหนึบของเขาได้แล้วนั้น ฉันที่รีบหยัดตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว...“โอ๊ะ!!...อู้ยยยย...ซี๊ดดดดด ~~” ร่างทั้งร่างถึงกับทรุดลงไปนั่งกับพื้นทันที เนื่องจากขาที่ไร้เรี่ยวแรงหยัดยืน อีกทั้งอาการปวดหนึบที่แผ่ซ่านไปทั่วกึ่งกลางกายสาวและท้องน้อยจนยืนแทบไม่ไหว“ลิน...เป็นอะไรไหม” คนตัวโตเด้งลุกขึ้นพรึ่บขึ้นมาจากที่นอน ตรงเข้ามาประคองร่างฉันทันที“ก็จะเป็นอะไรได้ล่ะค่ะ...ก็เพราะพี่ดีนนั่นแหละ” ฉันยู่ปากมองค้อนใส่เขา
“อ้าปากซิ...” เขาบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า อีกทั้งยังใช้นิ้วมือเกลี่ยมาที่ริมฝีปากเอิบอิ่มของฉันไปมาด้วยท่าทางเย้ายวนส่วนฉันที่ถูกเขากระทำด้วยความเคลิบเคลิ้มแบบนั้นก็ค่อย ๆ อ้าปากทำตามคำบอกของคนตรงหน้าอย่างว่าง่าย โดยที่ดวงตากลมใสเอาแต่จ้องหัวเห็ดบานสีแดงก่ำอย่างไม่วางตาในขณะที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว...พรวด ~~อึก...แอ่ก...ดุ้นเนื้อแข็งขนาดทั้งใหญ่และยาวก็ได้ดันพรวดเข้ามาในโพรงปากอวบอิ่มของฉันโดยที่ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัว และนั่นก็ทำให้ฉันถึงกับสำลักน้ำตาคลอเบ้าทันที“อ่าาาาส์...ซี๊ดดดดด ~~ ดูดสิ...ดูดเลย ดูดให้เหมือนเวลากินไอติมแท่งโปรดอ่ะ ดูดแรง ๆ ได้เลย...อืมมมมม ~~” เขาบอกในสิ่งที่ต้องการให้ฉันทำอย่างละเอียดยิบ พร้อมกับมือหนาที่ประคองหัวทุยที่กำลังสั่นเพราะเกร็งปากค้างครอบตัวตนแข็งขันเหมือนกับต้องการล็อกเอาไว้ด้วยกลัวว่าฉันจะปล่อยความอบอุ่นออกจากดุ้นแข็งไปกระทั่งปากอวบอิ่มที่เริ่มออกอาการเมื่อยล้าหลังจากอ้าปากค้างมาสักพัก ฉันก็เริ่มขยับปากรับตัวตนขนาดใหญ่ของคนตรงหน้าแล้วทำตามอย่างที่เขาต้องการทันทีไม่มีอิดออดจ๊วบ...จ๊วบ...อ่อก...บ๊วบๆๆ ...แอ่กปากอวบอิ่มขยับรูดขึ้นรูดลงด้วยท่าทางเก
“พี่ดีนค่ะ...ยังไงรบกวนแวะร้านขายยาให้ลินด้วยนะคะ” ฉันเอ่ยบอกไป พลางเช็กความเรียบร้อยของชุดตัวเองไป“เป็นอะไรหรือเปล่า...ไม่สบายเหรอหรือว่ายังเจ็บ...เอ่อ...ตรงนั้นอยู่” เขาที่เดินมาสวมกอดฉันจากทางด้านหลังเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง“เปล่าค่ะลินไม่ได้ป่วยแล้วก็...เอ่อ...ไม่ได้เจ็บเท่าไรแล้วค่ะ” ฉันหลบสายตาตอบเขา“อ้าว...แล้วเป็นอะไรทำไมต้องแวะร้านขายยาด้วย” เขาที่ยังสงสัยเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลเหมือนเดิม“จิ๊...ก็เพราะใครล่ะคะ ที่ไม่ยอมป้องกันเลยตั้งแต่เมื่อคืน ลินก็จะไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินอีกรอบน่ะสิคะ” ฉันบุ้ยปากตอบด้วยใบหน้าเห่อร้อนนิด ๆ เมื่อคิดไปถึงบทสวาทที่ได้รับมาทั้งแต่เมื่อคืนจวบจนจะเที่ยงวันและทันทีที่คนตัวโตได้ยินคำตอบของฉัน เขาก็ถึงกับออกอาการน้อยใจทันที“ทำไม...ไม่อยากมีลูกกับพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตัดพ้อส่งตรงมาที่ฉันอย่างจัง“พี่ดีน เราคุยเรื่องนี้กันไปแล้วนะคะ...ว่าเพราะเหตุผลอะไรทำไมลินถึงยังไม่อยากมีลูก” ฉันหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขา ก่อนจะประคองใบหน้าคมเข้มพูดให้เข้าใจด้วยน้ำเสียงที่ทั้งหนักแน่นและเหนื่อยหน่ายส่วนเขาที่จนใจกับท่าทางและน้ำเสี
วันรุ่งขึ้น ~~หลังจากที่วันนี้การประชุมในช่วงเช้าและงานทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ฉันที่เพิ่งกินข้าวกับพี่รามในห้องอาหารของบริษัทเสร็จก็ถึงเวลาที่จะแยกย้ายกันไปทำงานเหมือนเช่นเคย“น้องลินเย็นนี้น้องจะหาป้านีไหมครับ” พี่รามถามเพราะพักหลัง เขากับฉันไม่ค่อยได้เจอกันที่โรงพยาบาลยามที่ฉันไปเยี่ยมป้านี เนื่องจากเวลาที่ไปไม่ค่อยตรงกันส่วนฉันหลังจากที่คุณดีนได้รับรู้แล้วว่าพี่รามรู้ถึงความสัมพันธ์ของเราสองคนแล้ว และด้วยเหตุการณ์ที่พี่รามเคยถูกคุณดีนปรับทัศนคติไปเมื่อครั้งก่อน ก็ทำให้พี่รามรู้ดีว่าควรจะปฏิบัติตัวกับฉันอย่างไร และนั่นจึงทำให้คุณดีนเขายอมปล่อยให้ฉันคุยกับพี่รามได้เหมือนอย่างเคย อีกทั้งเป็นเพราะฉันอยากจะปรึกษาพูดคุยกับพี่รามเกี่ยวกับอาการของป้านี จึงทำให้คุณดีนอนุญาตให้ฉันมากินข้าวเที่ยงกับพี่รามได้ในยามที่เขาต้องออกไปกินข้าวกับลูกค้าหรือยามที่เขายังเคลียร์งานยังไม่เสร็จ“ลินไปทุกวันแหละค่ะ ว่าแต่พี่รามเถอะทำไมลินไปไม่ค่อยเจอพี่รามที่โรงพยาบาลเลยค่ะ” ฉันตอบ พร้อมกับถามออกไปด้วยความรู้สึกสงสัย“ช่วงนี้พี่เคลียร์งานดึกทุกคืนเลยครับ บางวันก็ไม่ได้ไปหาป้านีเลย” เขาตอบด้วยท่าทีหงอย
ฉันที่แทบจะหยุดหายใจเพราะกลัวว่าเสียงหายใจจะดังออกไปจนทำให้คนที่กำลังเมาส์กันอย่างเมามันด้านนอกรู้ตัว ก่อนที่เจ้าของเสียงเดิมจะได้เริ่มเล่าเรื่องราวพร้อมกันกับฉันที่เหงื่อกาฬเริ่มแตกออกมาจนหน้าเนียนขาวเปลี่ยนเป็นซีดเผือด“คืองี้...พวกแกรู้จักยัยแอน นังแว่นเนิร์ดที่อยู่แผนกเดียวกันกับเราป่ะ” คนที่มีข้อมูลเอ่ยจั่วหัวประเด็นสนทนาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นลุ้นระทึกอย่างกับกำลังเล่าความลับระดับชาติอยู่“อือๆๆๆ แล้วไง แล้วไง” ก่อนที่เสียงของพนักงานคนที่สามที่เงียบไปนานจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเร่งรีบเพราะอยากรู้เรื่องราวเร็ว ๆ“พวกแกรู้ไหมว่านางอ่ะ...ชอบพี่รามมากกกกก ชอบแบบมั่กๆๆๆ มากเลยอ่ะ” คนเล่าเสริมทั้งท่าทางทั้งน้ำเสียงจนเรียกความตื่นเต้นได้ไม่ใช่แค่เฉพาะกลุ่มเพื่อนที่ฟัง แต่ฉันเองก็ยังอดใจสั่นตามไปด้วยไม่ได้“ห๊าาาาา / หาาาาาา” สองเสียงที่รอรับข้อมูลต่างร้องประสานออกมาพร้อมกันหลังเพิ่งได้รับข้อมูลเด็ด“นั่นแหละ...ตอนที่ฉันรู้ครั้งแรกนะฉันก็ช็อกเหมือนพวกแกนั่นแหละ ใครมันจะไปคิดว่าอีเนิร์ดอย่างมันจะสนผู้ชายหล่อขั้นเทพ...ช่างไม่เจียมตัวเลยจริง ๆ” คนพูดเบะปากใส่อย่างนึกหมั่นไส้ในความทะเยอทะยานของคน
ก่อนที่ฉันจะถามย้ำคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักไม่มั่นใจในตัวเอง หลังจากที่เห็นว่าเขายืนจ้องหน้าฉันอยู่นานแล้ว“วะ...ว่าไงคะ ท่านประธานมีอะไรจะสั่งลินหรือเปล่าคะ”และหลังจากที่คนตัวโตรู้แล้วว่าไม่สามารถง้างปากให้หญิงสาวตรงหน้าพูดในสิ่งที่อยู่ในใจของเธอได้ เขาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะบอกถึงจุดประสงค์“คืนนี้พี่อยากให้ลินไปดูงานเปิดตัวคาสิโนใหม่กับพี่นะ พี่อยากให้ลินได้เห็นพี่ในทุก ๆ ด้าน และธุรกิจทุกอย่างที่พี่ทำ” ใบหน้าคมเข้มพูดเสียงอ่อนเชิญชวน แม้ว่าเขาจะยังคงขุ่นเคืองกับคำพูดของเธอเมื่อครู่ แต่เพราะใจที่อยากพาเธอให้ไปเห็นเขาในทุก ๆ มุม และอยากให้เธอได้รับรู้ถึงความจริงใจของเขาว่าเขาจะไม่มีอะไรปิดบังต่อเธอ เพราะฉะนั้นเขาจึงอยากจะพาเธอไปเปิดตัวในงานค่ำคืนนี้ หลังจากที่คาสิโนนี้เลื่อนเปิดมานานแล้วเนื่องจากถูกก่อกวน“แต่ว่า...” ฉันลังเล เพราะไม่ใช่ว่าฉันจะไม่รู้ว่าคนอย่างเขาน่าจะมีธุรกิจสีเทาอยู่บ้างสังเกตได้ก็จากเหตุการณ์ที่ฉันถูกจับตัวมา แต่ทว่า...ฉันเองไม่ถนัดกับแหล่งอโคจรจริง ๆ“อย่าปฏิเสธพี่เลยนะ พี่อยากให้ลินไปในฐานะ...เอ่อ...นายหญิง” เขาขยับตัวเข้ามาใกล้ฉัน ก่อนจะกระ
สองเดือนผ่านไป ~~“มึงได้ข่าวลินบ้างไหมว่ะ” ผมเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทด้วยคำถามเดิมเฉกเช่นทุกครั้งยามที่มันเอาเอกสารมาให้เซ็นที่บ้าน“ยังเลยครับนาย แต่ผมก็ยังไม่ได้ให้ลูกน้องเลิกตามหาเลยนะครับ ทุกครั้งที่มีเบาะแสผมจะเป็นคนไปดูด้วยตัวเองตลอด เพียงแต่ว่า...” ริกพูดรายงานเหมือนเช่นเดิมทุกครั้ง อีกทั้งในน้ำเสียงนั้นก็ยังไม่อาจปิดบังความผิดหวังเอาไว้ได้ เนื่องด้วยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาเองก็แทบจะพลิกแผ่นดินหาคนที่เป็นดั่งหัวใจของเจ้านายตัวเอง เพียงแต่ว่ากลับไร้ซึ่งร่องรอยและไร้วี่แววเสมือนกับว่าเธอไม่เคยมีตัวตนมาก่อนบนโลกใบนี้“แล้วรามพี่ชายของลินล่ะ มึงได้ตามไปดูไหมเผื่อว่าเมียกูจะไปอยู่กับเขา” ผมถามไปถึงบุคคลอีกบุคคลหนึ่งที่ตอนนี้ได้ลาออกจากบริษัทผมไปตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องวันนั้นแล้ว ก่อนที่ตัวเองจะยกขวดแก้วใสที่ใส่น้ำสีอำพันสีเข้มกระดกปล่อยให้ของเหลวดีกรีร้อนแรงไหลลงคอต่อไป อย่างที่ต้องการจะให้มันได้เข้าไปดับความเจ็บปวดที่อยู่ข้างในให้บรรเทาเบาบางลงได้บ้างริกมองสภาพเจ้านายของตนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ภาพของชายหนุ่มที่เคยสง่างามมีออร่าเปล่งประกายแต่ทว่า...ตอนนี้กลับมีสภาพเหมือนคนพเนจรไร้จุดหมา
ดวงตากลมโตค่อย ๆ เปิดปรือขึ้นมาอย่างช้า ๆ เพื่อปรับโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า กระทั่งเมื่อความทรงจำสุดท้ายได้พาดผ่านเข้ามาในโสตประสาท นั่นจึงทำให้ฉันถึงกับกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรงทันที พร้อมกับกวาดสายตามองไปทั่วด้วยความตกใจ“ทะ...ที่นี่ที่ไหนกัน” หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อพบว่าภาพบรรยากาศตรงหน้านั้นไม่เหมือนกับภาพของสถานที่สุดท้ายที่ตัวเองได้หมดสติลงไปเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากสถานที่ตอนนี้ฉันเหมือนกับอยู่บ้านพักที่ไหนสักแห่งที่ไม่ใช่สถานีขนส่งอย่างก่อนหน้านี้จากนั้นเมื่อสติค่อย ๆ กลับคืนมา ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงก็ได้ฉายวาบเข้ามาในหัวใจทันที เมื่อนึกไปถึงใบหน้าของใครบางคนที่ใจร้ายด้วยกลัวว่าสุดท้ายแล้วฉันจะหนีจากเขาคนนั้นไม่พ้น และถูกเขาจับตัวกลับมาทรมานอีกครั้งเหมือนที่เขาเคยทำและในขณะที่ฉันกำลังคิดวิตกกังวลอยู่นั้น...เสียงที่เหมือนกับว่าจะเป็นเสียงเดียวกันกับที่ฉันได้ยินก่อนจะหมดสติไปก็ได้ดังขึ้นมาทันที“ฟื้นแล้วเหรอครับคุณลลิน เป็นยังไงบ้างครับยังรู้สึกไม่สบายตรงไหนอีกหรือเปล่า ผมจะได้เรียกหมอให้มาตรวจดูอาการให้ครับ” ใบหน้าคมเข้มดูหล่อเหลาในแบบสไตล์ผู้ชายไทยได้ปรากฏขึ้นตรงหน้า พร
“มะ...ไม่มี...อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า”พี่น้ำค้างที่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ อีกทั้งยังรีบลนลานเดินไปหายังห้องน้ำด้วยความร้อนใจ เพื่อหวังว่าจะพบร่างเมียรักของผมอยู่ในนั้นแต่แล้วทันทีที่พี่น้ำค้างเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปแล้วพบเข้ากับความว่างเปล่าเหมือนที่ผมเจอ...เธอก็เริ่มงึมงำกับตัวเองอีกครั้งทันที...ใบหน้าที่เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดของผู้เป็นพี่สาว ยิ่งทำให้ชายหนุ่มที่มีความหวังในตอนแรกเพราะคิดว่าเป็นเพียงแค่สิ่งที่พี่สาวกลั่นแกล้งตนเท่านั้น เริ่มที่จะหวาดหวั่นในใจขึ้นมาด้วยกลัวว่าสิ่งที่ตนกำลังกังวลอยู่นั้นจะเป็นจริง“หะ...หาย...หายไปได้ยังไงก็ในเมื่อตอนแรกก่อนที่ฉันจะออกไปก็ยังเห็นนอนหลับอยู่เลยไม่ใช่เหรอ” พี่น้ำค้างหันมาถามผมแทนอีกทั้งสีหน้ายังแสดงอาการตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่บนพื้นจะเต็มไปด้วยของกินที่นำมาฝากคนป่วยที่บัดนี้ได้กระจัดกระจายหล่นเต็มไปทั่วทั้งพื้นเนื่องจากคนถือตกใจจนทำร่วงหล่น“นี่พี่ไม่รู้เรื่องที่ลินหายไปจริง ๆ เหรอ” ผมที่ยังคงคลางแคลงใจคนตรงหน้าอยู่เล็กน้อยเอ่ยถามย้ำเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่การแสดงจากพี่สาว“ไอ้ดีน!! นี่แกจะบ้าเหรอ!! ฉันเนี้ยน่ะจะร
--- ดีแลน Talk ---หลังจากที่ผมจัดการชำระแค้นเรียบร้อย แม้ทุกอย่างมันจะไม่เป็นอย่างที่ผมคิดเอาไว้และค่อนข้างจะผิดแผนไปนิด แต่ทว่า...คนที่ควรจะได้รับบทลงโทษก็สมควรได้รับหมดแล้ว และคงเหลือแค่เพียงผมเท่านั้นที่ต้องกลับไปรับโทษทัณฑ์จากคนที่ผมรักสุดหัวใจด้วยความเต็มใจสักทีผมจัดการควบรถหรูคู่ใจพุ่งทะยานไปยังจุดมุ่งหมายที่ใจปรารถนา และหวังเพียงว่าจะไปได้ทันพอที่เธอจะลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี ผมปรารถนาที่จะให้เธอตื่นมาพบกับผมเป็นคนแรกเพื่อที่ผมจะได้เสนอหน้าให้เธอเห็นแม้ว่าเธอจะไม่พอใจก็ตาม...ผมใช้เวลาไม่นานมากนักเจ้ารถหรูคู่ใจก็ได้พาผมมายังจุดมุ่งหมายปลายทางพร้อมกับหัวใจที่พองโตด้วยความคิดถึงคนร่างบางที่นอนพักผ่อนอยู่บนเตียง อีกทั้งตลอดระยะทางที่ขับรถมาผมก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ เพราะผมเองนั้นก็ได้ใช้เวลาช่วงนั้นในการขบคิดหาวิธีที่จะงอนง้อขอคืนดีกับเมียรักมาตลอดทาง ด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจและตั้งใจเอาไว้ว่าจะยอมรับผลของการกระทำแต่โดยดีถ้าหากเธอจะยังไม่ยอมให้อภัยในตอนนี้...ณ โรงพยาบาลชานเมืองหัวใจที่เบิกบานพองโตส่งให้เท้ายาวก้าวกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงไปยังห้องพักคนไข้ที่ข้างในกำลั
ณ โรงพยาบาลชานเมือง--- ลลิน Talk ---“นะ...น้ำ...ขอน้ำกินหน่อย” เสียงแหบแห้งที่หลุดออกมาจากริมฝีปากที่แห้งผาก ทำให้คนที่นั่งเฝ้าด้วยความเป็นห่วงอยู่ด้านข้าง ๆ ถึงกับรีบกุลีกุจอถามฉันทันที“น้องลิน...พี่อยู่นี่แล้วค่ะ” พี่น้ำค้างรีบเดินมาลูบหัวฉันเบา ๆ พร้อมด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือด้วยความสะเทือนใจยามที่เห็นสภาพอิดโรยของฉัน และยิ่งเจ็บใจเมื่อพานคิดไปว่าที่ฉันต้องมีสภาพเป็นแบบนี้นั่นก็เพราะฝีมือของน้องชายตัวเอง“พะ...พี่น้ำค้าง ละ...ลินขอน้ำกินหน่อยค่ะ” ฉันปรือตามองพร้อมกับขยับเรียวปากอีกครั้งถึงความต้องการของตัวเอง เนื่องจากตอนนี้รู้สึกริมฝีปากและคอแห้งผากไปหมด“อะ...อ๋อ...ได้จ้ะ...ได้” จากนั้นพี่น้ำค้างก็รีบหยิบน้ำให้ฉันกิน แล้วมองฉันด้วยแววตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำใสด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ“ขะ...ขอบคุณค่ะ” ใบหน้าซีดเซียวเผยยิ้มหวานให้กับคนตรงหน้า ก่อนที่จะพยายามหยัดตัวลุกขึ้นเนื่องจากมีบางอย่างที่ต้องรีบบอกออกไปให้คนตรงหน้าได้รับรู้“อ่ะ...น้องลินค่อย ๆ นะคะ ระวังบาดแผลด้วยนะ” พี่น้ำค้างรีบเข้ามาประคองฉันให้ลุกขึ้นนั่งตามความต้องการของฉัน ก่อนที่เธอจะกดปรับเตียงนอนให้ตั้งขึ้นเพื่อให้ฉั
“กรี๊ดดดดดด ~~ อีลลินมันก็สกปรก มันก็นอนกับผู้ชายคนอื่น แล้วทำไม!! ทำไมถึงมีแค่ฉันที่สกปรกล่ะ ไม่...ไม่...ฉันไม่สกปรก ฉันสวย ฉันเพียบพร้อม ฉันมีหน้ามีตาในสังคม ฉันไม่ใช่เด็กกำพร้าไร้ยางอาย ฉันคือนางฟ้าของวงการไฮโซ กรี๊ดดดดดด ~~”เสียงหวีดร้องและอาการที่เหมือนกับคนไร้สติของหญิงสาวที่กรี๊ดออกมาไม่หยุดอย่างคนที่จบสิ้นแล้วทุกอย่างก็ทำให้คนที่เป็นพ่อแม่ถึงกับทรุดตัวลงตามเพื่อปลอบประโลมพร้อมกับร้องไห้ไปด้วยกันเนื่องจากสงสารลูกของตนเอง“มายา อย่าเป็นแบบนี้ซิลูก ฮือออออ ~~”“โธ่...มายา พ่อขอโทษ ฮึก...ฮึก ไปกันเถอะนะลูกใครไม่รักแต่พ่อรักลูกนะ”เสียงปลอบจากผู้สูงวัยทั้งสองที่ผลัดกันพูดกับคนที่ต่างฝ่ายต่างรักเหมือนกัน แต่น่าสงสารที่คำพูดเหล่านั้นเหมือนจะไปไม่ถึงหัวใจของคนที่ตนรักเลย เมื่อคำผรุสวาทที่ออกมาจากปากของหญิงสาวในประโยคถัดมาทำให้แม้กระทั่งผมยังตัวชาเพราะไม่คิดว่าเธอจะเสียสติได้ขนาดนี้“รักเหรอ...พ่อพูดคำนั้นออกมาได้ไงห๊ะ!! ไอ้พ่อไร้ประโยชน์!! แค่ลบล้างอดีตของกูยังทำไม่ได้มึงมีสิทธิ์อะไรมาอ้างความเป็นพ่อกับกู...ฮึก...ฮึก...มึงมันก็คิดถึงแค่หน้าตา แค่อำนาจ แค่ตำแหน่งจอมปลอมที่มีเอาไว้เชิด
ภาพแผ่นหลังของพ่อแม่ที่ต่างพากันประคองลูกสาวให้เดินออกไป แม้ว่าตัวผมจะรู้สึกขัดใจที่ไม่อาจลงโทษตัวตนเรื่องได้อย่างสาสมอย่างที่ใจต้องการ แต่เพราะเห็นแก่ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อหญิงสาวบวกกับในฐานะที่ผมเกือบจะได้เป็นพ่อคนนั้น จึงทำให้ผมเลือกที่จะกลั้นความโกรธเอาไว้แล้วปล่อยพวกเขาไปและในขณะที่พวกเขากำลังกึ่งดึงกึ่งลากลูกสาวของตนออกไปอยู่นั้น“ปล่อยหนูนะ...บอกให้ปล่อย!!” มายาที่สะบัดแขนพ่อแม่ของตนทิ้ง ก่อนจะหันกลับมาเพื่อเผชิญหน้ากับผมอีกครั้งอย่างคนที่ไม่เกรงกลัวอะไรอีกแล้ว“นี่ไง...กูกลับมาเจอหน้ามึงอีกครั้งแล้วนี่ไง ฆ่ากูเลยซิ!! ฆ่ากูเลย” ดวงตาเฉี่ยวจ้องมองผมอย่างแข็งกร้าว อีกทั้งยังกำมือแน่นอย่างไม่ยินยอมและไม่เกรงกลัวผมเลยแม้แต่น้อย“มายา...มึงอย่าท้ากูนะ!!” ผมชี้ปลายดาบที่ขึ้นสีเงินวาวตรงไปยังหน้าหญิงสาวที่ท้าทายด้วยความรู้สึกที่ไม่ประหวั่นกับคำท้านั้นเช่นกัน“กูไม่ได้ท้า แน่จริงก็ฆ่ากูเลยซิ หรือว่าความจริงแล้วมึงมันก็น่าตัวเมียเหมือนนิสัย!!” และคำพูดหญิงสาวที่เหมือนกับน้ำมันเติมเชื้อไฟโทสะก็ได้ราดรดลงมาสุมไฟที่ยังไม่มอดไหม้ให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง“ฮึ่ม...พวกมึงมาเอาลูกมึงไปให้พ้นหน
หญิงสาวที่มีความแค้นคับแน่นอยู่ในอกเพราะไม่เหลือซึ่งความหวังที่จะได้ครอบครองชายหนุ่มตรงหน้า ยิ่งส่งให้เธอระเบิดความบ้าคลั่งออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด“ฮือออออ ฮ่าๆๆๆ สะใจจริงโว้ยยยยย...หึ...ดีแลนมึงอะมันหน้าโง่เหลือเกินทั้งที่มีกูที่เพียบพร้อมแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาในวงสังคม บารมีของครอบครัวที่จะช่วยหนุนมึงให้ขึ้นสูงกว่านี้ได้ แต่มึงก็เสือกไปเลือกมัน...อีคนชั้นต่ำไม่มีหัวนอนปลายเท้าแถมยังกำพร้าพ่อแม่อีกอย่างอีลลิน กูถามหน่อยเถอะว่านอกจากความซิงของมันแล้ว มันยังมีอะไรดีกว่ากูงั้นเหรอ...ห๊ะ!!”ความรู้สึกในใจพรั่งพรูออกมาจากปากของมายาที่เปลี่ยนจากร้องไห้เสียใจเป็นหัวเราะใส่หน้าผมอย่างคนบ้าคลั่ง พร้อมกับตัวเองที่พยายามหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงออกมา ก่อนที่เธอจะลอยหน้าลอยตาเย้ยหยันใส่ผมอย่างไม่เหลือมาดคุณหนูผู้ใสซื่ออีกต่อไป“หึ...มึงมันก็เหมือนกับไอ้พวกผู้ชายใจหมาพวกนั้นนั่นแหละที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น มึงก็แค่หลงอีลลินเพียงเพราะว่ามันมีสิ่งที่กูไม่มีนั่นก็คือความสดใหม่เท่านั้นเอง คนอย่างมึงมันก็เห็นค่าผู้หญิงแค่เท่านั้นนั่นแหละ มึงมันก็เหมือนกับผู้ช
ผมนึกไปถึงข้อมูลที่ได้รับรู้มาถึงวีรกรรมของบริกรสาวคนนี้ที่มักจะชอบอาสาเจ้าของร้านซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชายของมายาทำเรื่องชั่ว ๆ ให้ตลอดเพื่อแลกกับเงิน โดยคนที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นพวกผู้หญิงที่ถูกวางยาเพื่อส่งไปสนองตัณหาของเจ้าของร้าน และเพราะด้วยอิทธิพลที่มีไม่น้อยของคนบงการจึงทำให้เหล่าบรรดาสาว ๆ ที่โดนวางยาต่างไม่กล้าไปแจ้งความและปล่อยให้เรื่องมันเงียบไป“อะ...เอ่อ...คะ...คือ” ก้อนคำพูดขึ้นมาติดอยู่ที่ลำคอของบริกรสาวทันทีอย่างคนมีพิรุธ และด้วยอากัปกิริยาที่แสดงออกมานั้น มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดจนแทบอยากจะจัดการมันให้รู้แล้วรู้รอด“หึ...มึงไม่ต้องมาอ้ำอึ้งกูถามว่ามือไหน...มึงก็แค่ตอบคำถามกูมาแล้วกูจะพิจารณาไว้ชีวิตมึง” ผมถามย้ำเสียงเย็นด้วยความเบื่อหน่ายเต็มทน“มะ...มือ...มะ...ไม่มี...หนูไม่ได้ทำ” สายตาเลิ่กลั่กอีกทั้งเหงื่อกาฬที่ผุดไหลเต็มหน้าบ่งบอกได้ดีเลยว่าบรรดาความชั่วทั้งหลายที่มันเคยทำเอาไว้ในอดีตบัดนี้ได้ทยอยผุดขึ้นมาตอกย้ำความชั่วของมันแล้วส่วนผมที่เริ่มจะไม่สบอารมณ์เต็มทีก็ได้ตัดความรำคาญพยักหน้าให้ลูกน้องจับมือของบริกรสาวเอามาวางไว้ต่อหน้าผม และด้วยอารามของค