หน้าหลัก / โรแมนติก / บ่วงรักผีเสื้อ / บทที่ 10 หึงไม่รู้ตัว - 100%

แชร์

บทที่ 10 หึงไม่รู้ตัว - 100%

ผู้เขียน: จรสจันทร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-30 20:30:44

ไม่เกินสิบนาทีต่อมา ชายหนุ่มก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความผ่อนคลาย เห็นรวิชานั่งหน้าแดงเอียงคอ ทำหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

“คิดอะไรอยู่” ภีมพลเดินเข้าไปนั่งใกล้ ๆ เห็นสีหน้าแววตาของรวิชาตื่นเต้นเล็กน้อยก่อนที่เจ้าตัวจะรีบกลบเกลื่อนด้วยการหันมาฉีกยิ้มกว้าง แล้วรีบเบือนหน้าไปทางอื่นแทน ชายหนุ่มจึงเอามือทั้งสองข้างไปกุมใบหน้าเรียวสวยนั้นไว้ บังคับให้หันมองมาตน

“รู้ตัวหรือเปล่าว่าเราน่ะโกหกไม่เก่งเลย ว่าไงครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

รวิชาได้แต่ยิ้มแหย นัยน์ตากลมโตกวาดมองไปทางอื่นเพราะไม่กล้าสบตากับเขา ปากอิ่มเม้มแน่นตามความเคยชิน ทำเอาคนมองได้แต่จ้องริมฝีปากสีระเรื่อนั้นตาปรอย

“ก็...ก็แค่...นึกถึงวันนั้นค่ะ” วันที่เธอตื่นมาแล้วพบว่ามีผู้ชายเปลือยกายนอนหลับอยู่ข้าง ๆ แถมยังเป็นผู้ชายที่เธอไม่เคยคาดคิดว่าจะได้มาพูดคุยจนเลยเถิดมาถึงขั้นหมั้นหมายกันอย่างวันนี้…และที่สำคัญ เธอยังได้เห็นหนอนชาเขียวตัวโตเต็มวัยของเขาอีกด้วย!

“ทำไมล่ะ จะบอกให้ว่าวันนั้นน้องอายโชคดีมากแล้วรู้ไหมที่เจออา ถ้าอาไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ คราวหน้าคราวหลังห้ามหนีเที่ยวอีกนะ อยากไปไหนบอกอา อาจะเป็นคนพาไปเอง” คิดแล้วก็อดรู้สึกใจหายไม่ได้ ถ้าวันนั้นคนที่ช่วยไม่ใช่เขาแต่เป็นนักเที่ยวกลุ่มอื่นที่มาพาตัวเธอไป เขาไม่อยากจะคิดต่อเลยว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

“อย่างวันนี้ใช่ไหมคะ” เธอหัวเราะเบา ๆ ก่อนตัดสินใจโพล่งถามเขา

“วันนั้น...น้องอายเห็นอาภีมนอนไม่ใส่เสื้อผ้า” พูดแล้วก็เขิน ใบหน้านวลแดงก่ำ หลุบตาลงต่ำก้มลงมองแต่มือของตัวเอง จนได้ยินเสียงหัวเราะของเขาดังแว่วมา เธอจึงได้ช้อนตาขึ้นมอง

“ว้า...งั้นน้องอายก็เห็นของอาหมดแล้วน่ะสิ ฮ่า ๆ”

ภีมพลหัวเราะอย่างถูกใจ ยิ่งเห็นหน้าใส ๆ นั่นอ้าปากค้างเมื่อถูกเขาพูดตรงประเด็นก็ยิ่งขำจนท้องคัดท้องแข็ง

“อาภีมบ้า! ไม่คุยด้วยแล้ว” รวิชาแหวใส่เสียงดัง คนที่ควรอายน่าจะเป็นเขามากกว่า แล้วทำไมเธอต้องมาอับอายแทนด้วย ดูเขาไม่สะทกสะท้านอะไรเสียด้วยซ้ำ สงสัยจะแก้ผ้าโชว์อยู่บ่อย ๆ

ชายหนุ่มโยกศีรษะเล็กไปมาอย่างเอ็นดู ก่อนจะรั้งให้เธอเอนมาซบบ่าของเขาพร้อมกับก้มลงจูบหนัก ๆ ที่หน้าผากหนึ่งที รู้สึกได้ว่าร่างน้อยเกร็งพอสมควรในยามที่ได้แนบชิด หรือถูกเขาแสดงความรักด้วยแบบนี้

“น้องอายสบายใจได้ วันนั้นอาไม่ได้ทำอะไรน้องอายเลย อาเมาจนแทบจะเดินไม่ไหวอยู่แล้ว ถึงอยากทำแค่ไหนแต่ก็คงฝืนร่างกายไม่ไหวหรอก แล้วที่อาแก้ผ้าหมดนั่นก็เพราะอานอนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว มันคือความเคยชิน”

รวิชาค่อย ๆ ขืนตัวเองออกจากบ่าเขา เธอยังไม่ค่อยชินนักกับการใกล้ชิดแบบถึงเนื้อถึงตัว หรือเพราะการเปลี่ยนสถานะจากคนข้างบ้านมาเป็นคู่หมั้น จึงทำให้เขาแสดงออกกับเธออย่างที่เห็น เธอไม่รู้ว่าคู่หมั้นคู่อื่นจะทำกันแบบนี้หรือเปล่า แล้วอย่างเธอกับเขาจะใช้คำว่า “แฟน” กันได้หรือยัง

แต่จะว่าไปแล้ว...คนเป็นแฟนกันต้องบอกรักกันก่อนไม่ใช่หรือ แต่เขาไม่เคยบอกว่ารักเธอเลยสักคำ หรือแท้จริงแล้วเขาไม่เคยคิดอะไรกับเธอเลย หรือคิดเพียงว่าเธอคือหลาน คือเด็กสาวข้างบ้านเท่านั้นจึงรู้สึกเอ็นดูมากเป็นพิเศษ แล้วเธอเล่าคิดกับเขาอย่างไร ในใจตอนนี้เธอยังไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้เลย

รวิชาได้แต่คิดสับสนวนเวียนไปมาอยู่ในหัว คำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ คำถามที่ไม่รู้ว่าควรถามหรือปรึกษาใคร แม้กระทั่งผู้ชายที่นั่งโอบบ่าของเธออยู่

ใจหนึ่งอยากถามเรื่องค้างคาใจที่วิคกี้พูดทิ้งท้ายเอาไว้ แต่อีกใจก็คิดว่าขืนถามไปตามตรง แล้วใครที่ไหนจะยอมรับว่าตัวเองทำจริง สุดท้ายเธอจึงได้แต่ปิดปากเงียบ

 “ไปข้างล่างกันเถอะ”

ภีมพลลุกขึ้นยืนแล้วเอามือสอดประสานกับมือของรวิชา เขาพาเธอเดินลงบันไดมาจนกระทั่งพบกับพชรที่กำลังเปิดประตูห้องทำงานออกมาพอดี พชรเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเพื่อนสนิทเดินจูงมือสาวน้อยที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นป้ายแดงลงมาจากห้องพักชั้นบน

พชรเดินเข้าไปกระซิบข้างหูเพื่อนให้ได้ยินกันแค่สองคน

“โทษฐานพรากผู้เยาว์นี่...เขาติดคุกกันกี่ปีวะเพื่อน”

“ไอ้บ้า! ไม่มีอะไรเว้ย ขึ้นไปคุยกันเฉย ๆ” ภีมพลเค้นเสียงตอบ แต่ระดับเสียงเพียงกระซิบ พชรได้ยินถึงกับทำตาโต

“ว้าว! อเมซิ่งมากเลยเพื่อน แกอำฉันเล่นหรือเปล่าวะ”

เขาแทบไม่อยากจะเชื่อ คนอย่างภีมพลเนี่ยน่ะหรือจะปล่อยให้สาวหลุดมือถ้าได้ขึ้นไปถึงห้องนอนชั้นบน ปกติเห็นขึ้นไปกี่คน ๆ ก็ต้องโซซัดโซเซเดินลงมาขาแข้งอ่อนกันทุกราย

“เฮ้อ...น้องอายจ๋า เราไปกันเถอะ” ภีมพลส่ายหน้าให้เพื่อนอย่างระอา รีบจับจูงมือสาวน้อยเดินลงไปชั้นล่างทันที เพราะขืนอยู่นานกว่านี้เขาคงได้โดนพชรแซวไม่เลิก

ก่อนจะเปิดประตูออกไปสู่ฮอลล์ด้านนอก ภีมพลรั้งมือเธอไว้พลางจับไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวให้หันมาทางตน เพื่อจะพูดย้ำบางอย่างให้เธอปฏิบัติตาม

“น้องอายฟังอานะ อาไม่ได้อยู่เฝ้าน้องอายตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเวลาที่ใครมาตีสนิท มายื่นแก้วเหล้าให้ล่ะก็ อย่ารับมาอย่างเด็ดขาด เพราะเราไม่รู้ว่าในแก้วนั้นเขาใส่อะไรเอาไว้บ้าง อย่ารับฝากของจากคนแปลกหน้า หรือโต๊ะข้าง ๆ หรือใครก็ตาม เพราะเราไม่รู้ว่าในกระเป๋านั้นใส่อะไรเอาไว้ บางทีมันอาจจะมียาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายก็ได้ และที่สำคัญเลยก็คืออย่าให้เบอร์โทรศัพท์กับใครเด็ดขาด ไอดีไลน์ด้วย ถามชื่อน่ะถามได้ แต่ถ้าจะทำความรู้จักนอกเหนือไปจากนั้น ปฏิเสธไปให้หมด บอกไปเลยว่ามีแฟนแล้ว แฟนดุมากด้วย โอเคนะครับ”

ภีมพลพูดจบก็ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของรวิชาหนึ่งที เห็นเธอยังคงยืนทำหน้าเหวอ ๆ ปากอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อยจนเห็นไรฟันขาว เขาเห็นแล้วก็อยากลองลิ้มชิมรสริมฝีปากสีหวานนี้เหลือเกิน

แต่ยังไม่ถึงเวลา ทุกอย่างจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ให้เธอค่อย ๆ ชินกับการมีเขาอยู่ใกล้ ๆ ค่อย ๆ ชินกับสัมผัสของเขาไปทีละนิด แค่นี้รวิชาก็เกร็งกับสัมผัสของเขาจะแย่อยู่แล้ว ขืนบุ่มบ่ามทำตามใจตัวเองมากเกินไป คงถูกเธอตราหน้าว่าเป็นตาแก่ตัญหากลับแน่

รวิชาเอาแต่อึ้งกับประโยคสุดท้ายของเขา ตอนนี้สมองแทบไม่รับรู้แล้วว่าเขาจับจูงมือเธอเดินไปทางไหนบ้าง รู้ตัวอีกครั้งก็ตอนที่เธอมายืนอยู่เบื้องหน้าโต๊ะที่พรรณรายกับสกลธีกำลังลุกขึ้นวาดลวดลายกันแล้ว เธอหันมองเขาก็เห็นเขากำลังโน้มใบหน้าลงมากระซิบข้างหูพอดี

“อย่าลืมนะ ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็ตาม โทร. หาอาได้ตลอดเวลา แล้วอาจะรีบลงมาหา สนุกกับเพื่อนให้เต็มที่แต่ห้ามดื่มจนเมา และอย่าลืมที่อาบอกไว้ล่ะ”

ชายหนุ่มกำชับเสียงนุ่มน่าฟัง รวิชาได้แต่พยักหน้ารับพร้อมกับส่งยิ้มให้ แต่สายตาอดมองเลยไปยังโต๊ะของผู้หญิงที่เธอเห็นเขานัวเนียด้วยก่อนหน้านี้ไม่ได้

ภีมพลมองตามแล้วหันมาคลี่ยิ้มกว้างให้คู่หมั้นสาว

“อาไม่แวะหรอกน่าไม่ต้องห่วง อากลัวโดนถอนหมั้นจะตายไป น้องอายไม่รู้หรือ แล้วอีกอย่างนะ คุณคนนั้นก็มีคนมานั่งเป็นเพื่อนแล้วนั่นไง”

เขาหยิกแก้มนวลอย่างแผ่วเบา ก่อนเดินจากไป ทิ้งสัมผัสร้อนผ่าวเอาไว้ให้เจ้าตัวได้แต่นั่งอมยิ้มโดยไม่รู้ตัว

“แฟนงั้นหรือ...นี่ตกลงเราเป็นแฟนกับอาภีมแล้วหรือเนี่ย” แล้วการเป็นแฟนกันต้องปฏิบัติต่อกันยังไงบ้าง

เห็นทีเรื่องนี้คงต้องปรึกษากูรูอย่างพรรณรายเสียแล้ว

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 11 นิสิตใหม่ - 35%

    เสียงคนวิ่งตึงตังลงมาจากบันไดทำให้ผู้ที่นั่งดูข่าวเช้าทางโทรทัศน์ต้องเงยหน้าขึ้นมอง จึงเห็นบุตรสาวยืนยิ้มร่าอยู่ตรงหน้า“น้องอายดูเป็นยังไงบ้างคะคุณพ่อคุณแม่”คนพูดกางแขนหมุนตัวหนึ่งรอบให้บิดามารดาได้เห็นตนในชุดนิสิตวันแรก รวิชาอยู่ในชุดกระโปรงอัดจีบรอบตัวยาวเสมอเข่า เสื้อนักศึกษาขนาดพอดีตัวไม่หลวมโคร่ง และไม่รัดรูปจนเกินไป สวมถุงเท้าสีขาวสำหรับใส่กับคัตชูสีขาวเพื่อบ่งบอกสถานะของการเป็นน้องใหม่ เป็นการแต่งกายที่ถูกระเบียบทุกอย่างสำหรับวันรายงานตัวการเข้าเป็นนิสิตใหม่ของมหาวิทยาลัยมีชื่ออันดับต้น ๆ ของประเทศ“ดูดีที่สุดเลยลูก”อาทิตย์มองบุตรสาวด้วยความภาคภูมิใจ รวิชาไม่เคยทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาให้พ่อกับแม่ต้องปวดหัวหรือหนักใจเลยสักครั้ง ตรงกันข้าม เจ้าตัวกลับนำแต่ความชื่นชมยินดีมาให้“แล้วนี่จะไปรถเมล์จริงหรือลูก แม่ว่าเอารถที่บ้านเราไปส่งก็ได้นี่นา ไปมหาวิทยาลัยวันแรกการเดินทางน่าจะยังไม่สะดวก” มารดาถามด้วยความเป็นห่วง แต่รวิชากลับส่ายหน้าหวือ“วันแรกอย่างนี้แหละค่ะดีแล้ว น้องอายจะได้ก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 11 นิสิตใหม่ - 70%

    หญิงสาวเบือนหน้าหนีและหันไปมองอีกทางราวกับคนไม่เคยรู้จัก อารดาก็สังเกตเห็นกลวิชรเช่นกัน และเริ่มรู้สึกถึงเค้าลางความยุ่งยากต่าง ๆ ที่กำลังจะตามมาในไม่ช้า พรรณรายเล่าให้ฟังว่ากลวิชรแค้นใจไม่น้อยที่โดนสั่งสอนจนสะบักสะบอมเมื่อหลายเดือนก่อน และพูดว่าจะหาทางเอาคืนให้ได้จนเธอนึกห่วงสวัสดิภาพของรวิชาขึ้นทันที“อาย พี่วิชรจ้องแกเขม็งเลย น่ากลัวชะมัด” อารดามีสีหน้าหวาดหวั่นระหว่างที่เดินเคียงคู่ไปกับรวิชาเข้าไปในอาคาร“ช่างเขาสิ ถ้ายังอยากหาเรื่องใส่ตัวอีกก็ช่วยไม่ได้แล้วล่ะ”รวิชายักไหล่อย่างไม่ยี่หระ กลวิชรหาเหาใส่หัวเองโดยแท้ที่คิดไปแหย่คนอย่างเจ้าพ่อซุส ถึงแม้เขาจะไม่ใช่มาเฟียที่มีอิทธิพลล้นฟ้าเหมือนในซีรีส์ที่เธอชอบดู แต่เขาก็มีลูกน้องอยู่ในความดูแลเป็นจำนวนมาก หนำซ้ำยังมีเส้นสายในสายงานต่าง ๆ แบบที่เธอไม่เคยรู้และคาดไม่ถึง เพราะเขาแทบจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับงานที่เขาทำอยู่ ทุกครั้งที่เขาหนีบเธอไปทำงานด้วย เขาก็ได้แต่ใช้ให้เธอช่วยนำเอกสารไปให้เลขาฯ ที่อยู่หน้าห้องเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นคือชงกาแฟ เตรียมของว่าง และนั่งรับประทานอาหารเป็นเพื่อนเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 11 นิสิตใหม่ - 100%

    ภาพของภีมพลคลอเคลียกับผู้หญิงคนนั้นผุดวาบขึ้นในหัวของรวิชาอีกครั้ง หญิงสาวอดหวั่นไหวไปกับคำพูดของเพื่อนไม่ได้ เพราะกับเธอนั้น อย่างมากเขาแค่หอมแก้มโอบไหล่ ไม่เคยทำอะไรมากกว่านั้น จะว่าไปแล้วการกระทำของเขาไม่ต่างกับบิดาของเธอเลย หรือเขาแค่เอ็นดูเธอในฐานะของน้องคนหนึ่งอย่างที่สกลธีว่าไว้จริง ๆ“อ้าว หล่อนจะเหม่ออะไรยะ เดี๋ยวฉันเก็บเรียบหมดแล้วอย่ามากระซิก ๆ ไล่หลังฉันนะยะหล่อน ฉันไม่สำรอกออกมาหรอกนะจะบอกให้” คนพูดเคี้ยวตุ้ย ๆ พลางใช้ตะเกียบชี้หน้าเพื่อน“ตีตี้...อาภีมเขา...เขาไม่เคยทำอะไรแบบนั้นกับฉันเลยน่ะ เต็มที่เขาก็แค่จุ๊บหน้าผาก หรือหอมแก้มฉันแค่นั้นเอง” รวิชาพูดเสียงอ่อย ๆ ออกจะขัดเขินไม่น้อยที่ต้องมาเล่าเรื่องแบบนี้ให้เพื่อนฟัง“ถามจริง! ไม่มีคลุกมีเคล้า ไม่มีการเข้าถึงอะไร ๆ บ้างเลยหรือ”ชายใจหญิงทำตาโตตอนกระซิบถามเพื่อนราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เพราะเท่าที่เขารับรู้มา ภีมพลจัดว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่อเลยทีเดียว ชื่อเสียงเรื่องผู้หญิงของเจ้าพ่อซุสนั้นกระฉ่อนในเหล่าผีเสื้อราตรีไม่น้อย“ถ้างั้นเขาจะมาหม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 12 สาวน้อยช่างยั่ว - 35%

    เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นจากในกระเป๋า ส่งผลให้คนที่กำลังจะเอื้อมหยิบหนังสือนิยายบนชั้นวางต้องลดมือลงแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แว้บแรกที่เห็นรายชื่อของคนโทร. เข้า ใบหน้าเนียนใสก็คลี่ยิ้มกระจ่างเต็มวงหน้าทันที“อาภีมกลับมาแล้วหรือคะ”รวิชาทักทายคนปลายสายเสียงใส สองอาทิตย์ที่ไม่ได้เจอหน้าทำให้รู้สึกราวกับว่าชีวิตเหมือนขาดอะไรไป เพราะช่วงก่อนเปิดเทอมนั้นเวลาเขาจะไปไหนมักจะหนีบเธอไปด้วยเสมอ แม้กระทั่งตอนไปทำงานที่ออฟฟิศ เขาก็จะพาเธอไปนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ที่ห้องทำงานของเขาแทน หากว่าวันนั้นเธอไม่ได้เข้าโรงงานของครอบครัว“กลับมาแล้วครับ ลงเครื่องมาปุ๊บก็โทร. หาน้องอายเลย แล้วนี่ทำอะไรอยู่”ภีมพลหันมองลูกน้องที่เดินตามมาห่าง ๆ ซึ่งอีกฝ่ายกำลังชี้บอกเขาว่าคนขับรถมารออยู่ตรงไหน ชายหนุ่มจึงเดินตามไป“มาซื้อหนังสืออ่านเล่นค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ห้างสยามพารากอนกับตีตี้ แล้วนี่อาภีมจะกลับบ้านเลยหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามกลับไป เพราะหากภีมพลกลับบ้านเลยเธอจะได้รีบซื้อหนังสือแล้วรีบกลับไปหาเขา“อาคงเข้าออฟฟิศก่อนน่ะ ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 12 สาวน้อยช่างยั่ว - 70%

    “เค้กร้านเดิมนั่นแหละค่ะ อาภีมจะกินเลยไหมคะน้องอายไปเอาจานกับช้อนมาให้” รวิชาเดินตามมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ภีมพลยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาก่อนเอ่ยตอบ“ยังดีกว่า อายังไม่ได้กินมื้อเที่ยงเลย น้องอายกินมาหรือยัง”“กินมากับตีตี้แล้วค่ะ”หญิงสาวเดินเข้ามาตั้งใจว่าจะลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกับเขา ทว่าเพราะไม่ทันระวังเท้าจึงสะดุดเข้ากับขาโต๊ะจนคะมำไปข้างหน้าทั้งตัว รวิชาร้องเสียงหลงด้วยความตกใจไม่ต่างจากภีมพลที่รีบถลาอ้าแขนเข้าไปรับร่างของเธอไว้ได้ทันท่วงที“โอ๊ย!”รวิชาร้องเบา ๆ เมื่อร่างของตนทิ้งตัวลงไปทาบทับกับร่างของชายหนุ่ม รู้สึกเจ็บจนน้ำตาเล็ดเพราะเหมือนศีรษะจะถูกอะไรแข็ง ๆ กระแทกใส่ หญิงสาวดิ้นขลุกขลักพยายามยันกายขึ้นและค่อย ๆ เอาศอกเท้าไว้กับโซฟาก่อนจะผงกศีรษะขึ้นมอง“อาภีม! น้องอายขอโทษค่ะ น้องอายไม่ได้ตั้งใจ อาภีมเจ็บไหมคะ”รวิชาเอามือแตะริมฝีปากเขาเบา ๆ เมื่อเห็นรอยเลือดซึมออกมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาคงโดนศีรษะของเธอกระแทกเป็นแน่ในขณะที่ภีมพลรู้สึกเหมือนเห็นดาวลอยวนเวียนอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 12 สาวน้อยช่างยั่ว - 100%

    “เขาบอกไว้ก่อนแล้วล่ะ แต่ไม่คิดว่าจะออกไปเลย” พูดจบชายหนุ่มก็เดินเข้าห้อง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร. หารวิชา แต่รอสายอยู่นานก็ยังไม่มีทีท่าว่าเจ้าตัวจะรับสายจนเขาต้องถอดใจภีมพลทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่ สีหน้าครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร. ออกอีกครั้ง แต่ผลก็ยังเป็นเหมือนเดิม เขาจึงเปลี่ยนใจพิมพ์ข้อความส่งหาเธอแทน‘โกรธอาหรือครับ อาขอโทษ’ภีมพลนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่นาน แต่ไม่มีทีท่าว่าหญิงสาวจะอ่านข้อความและพิมพ์ตอบกลับมา เขาจึงวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่รวิชาคงโกรธเขาจริง ๆ หรือไม่ก็คงหวาดกลัวเป็นแน่ที่จู่ ๆ เขาไปหักหาญทำอะไรล่วงเกินไปอย่างนั้น เธอยังเด็กเหลือเกินสำหรับเขา จึงคิดว่าจะค่อย ๆ สอนไปทีละนิดทีละน้อย ให้เธอค่อย ๆ ซึมซับความสัมพันธ์ทางกายไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อที่ว่าเมื่อถึงเวลานั้นจริง เธอจะโตพอสำหรับการเริ่มต้นผูกพันลึกซึ้งกับเขาได้ตามประสาคนรักทั่วไปแต่เขาก็มาทำเสียเรื่องเข้าจนได้ เขาใจร้อนวู่วามเกินไปที่จู่ ๆ ก็ไปปล้ำจูบเธอ สมควรแล้วที่เด็กสา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 13 ทิ้งระยะห่าง - 25%

    ภีมพลนั่งอ่านรายงานที่ได้รับมาจากเจ้าหน้าที่ของทางเยอรมัน ก่อนหน้านี้มีผู้มาเช่าเครื่องบินของบริษัทลำหนึ่งเพื่อไปลงที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันนีโดยทำทีว่าเป็นข้าวใหม่ปลามันที่ต้องการไปฮันนีมูนที่นั่น แต่แล้วกลับลอบบรรทุกขนยาเสพติดจำนวนมากทั้งโคเคน ยาไอซ์ ยาอีโดยมีเจ้าหน้าที่สนามบินบางคนรู้เห็นเป็นใจ และที่สำคัญคือพนักงานบางคนของเขาก็มีส่วนร่วมด้วย จึงทำให้รอดจากการตรวจสอบไปได้เขาจะไม่เดือดร้อนเลยถ้าพนักงานของเขาจะไม่ทำเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว จากการสอบสวนลึกลงไปทำให้ได้รู้ว่าคนกลุ่มนี้ลักลอบขนของผิดกฎหมายมาหลายต่อหลายครั้งโดยใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำของบริษัทเขาเอง ทางการของเยอรมันนีจึงพุ่งเป้ามาที่เขาซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท และผู้บริหารว่าอาจจะมีเอี่ยวกับขบวนการนี้ด้วย กว่าเขาจะหาหลักฐานและเดินเรื่องเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ก็ทำให้เสียเวลาไปถึงสองอาทิตย์กลับมาถึงเมืองไทย นึกว่าจะได้อยู่กับสาวน้อยรวิชาให้หายคิดถึง แต่ดันมาเกิดเรื่องยุ่งขึ้นเสียได้เพราะความหื่นบังตาแท้ ๆ เขาอยากตามไปหาเธอที่บ้านแต่ก็เกรงว่าสาวเจ้าจะกลัวลนลานพานให้เสียความรู้สึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 13 ทิ้งระยะห่าง - 50%

    “ได้ข่าวว่าเรียนเก่งด้วยนี่ใช่ไหม...ทำเกรดให้ดีนะ ถ้าผลงานเข้าตาเกรดเฉลี่ยเป็นที่น่าพอใจ ผมมีตำแหน่งรองรับไว้ให้ไม่ต้องกลัวว่าจะตกงาน”ภีมพลพูดอย่างใจป้ำ เขาชอบคนเก่ง ซื่อสัตย์ และขยัน เพราะหากได้คนแบบนี้มาร่วมงานจะยิ่งช่วยส่งเสริมให้บริษัทก้าวหน้ามั่นคงยิ่งขึ้น“ขอบคุณค่ะอาภีม ใจดีจัง...มิน่าล่ะ ยายอายถึงได้ร้าก...รักขนาดนี้”อารดาเผลอพูดออกไปด้วยความดีใจ แต่คนฟังอย่างภีมพลนั้นหัวใจพองฟูคับอกขึ้นมา“หมดธุระแล้วล่ะ อ้อ...อย่าลืมเอาเลขที่บัญชีให้เป็นต่อด้วยนะ นายอย่าลืมพาน้องอุ้ยไปซื้อโทรศัพท์ด้วยล่ะ” ประโยคหลังเขาหันไปพูดกับเป็นต่อ อีกฝ่ายผงกศีรษะรับคำสั่งก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับอารดา“ขอบคุณมากเลยนะคะอาภีม อุ้ยลานะคะ” หญิงสาวกระพุ่มมือไหว้อย่างนอบน้อมแล้วเดินตามเป็นต่อออกไปจากห้องทำงาน ทิ้งให้เจ้าของห้องได้แต่นั่งมองรูปของคู่หมั้นสาวจากโทรศัพท์อยู่ที่เดิม“ทำอะไรอยู่นะป่านนี้ หายโกรธหายกลัวหรือยังก็ไม่รู้”ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ระหว่างที่เลื่อนดูภาพอื่น ๆ ก่อนตัดใจปิดโ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02

บทล่าสุด

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 14 เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ - 50%

    “ใครจะมองยังไงก็เรื่องของเขา เราไปห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้หรอก คนคิดดีกับเราก็มีคนคิดร้ายกับเราก็เยอะ แค่เรารู้ตัวเองก็พอแล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่ คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่างเขาอย่าไปใส่ใจเลยครับ” ชายหนุ่มบีบมือเธอเบา ๆ“หรือว่าเราอาย” ภีมพลหันหน้าไปถามก่อนจะหันไปมองถนนเบื้องหน้าต่อ“อายอะไรคะ อาภีมหมายถึงอะไร”“เราอายเพื่อนหรือเปล่าที่อาไปรับที่มหาวิทยาลัยทุกวัน หรือว่าอายเพื่อนไหมที่ต้องบอกว่าอาเป็นคู่หมั้น น้องอายบอกอาได้นะ อาอยากให้เราเปิดใจคุยกันทุกเรื่องให้เข้าใจ”ภีมพลกระแอมเล็กน้อย นึกกลัวคำตอบอยู่เหมือนกัน แต่เขาก็อยากรู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับการที่ต้องมีคู่หมั้นอายุห่างกันถึงสิบสี่ปี เด็กสาวอย่างเธอจะนึกอายเพื่อนบ้างหรือเปล่าเวลาที่ต้องแนะนำใครต่อใครว่าเขาคือคู่หมั้น“เปล่าค่ะ ไม่ได้อาย”รวิชาตอบเขาสั้น ๆ นึกอยากถามกลับไปบ้างว่าเขาล่ะอายเพื่อนบ้างหรือเปล่าที่ต้องมีคู่หมั้นเป็นเด็กน้อยปีหนึ่งอย่างเธอ ในขณะที่รอบตัวเขามีแต่สาวสวยเซ็กซี่วนเวียนมาทอดไมตรีให้ตลอด หญิงสาวชั่งใจอยู่สักพักก่อ

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 14 เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ - 25%

    เดือนแรกกับการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยในฐานะของเฟรชชี่เนื้อหอม ทำให้รวิชาต้องทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยอยู่บ่อยครั้ง มีหลายคนมาทาบทามให้หญิงสาวประกวดดาวมหาวิทยาลัย แต่เธอไม่สนใจเนื่องจากไม่ต้องการเป็นจุดเด่นจนเกินไปนัก เพราะแค่นี้รวิชาก็รู้ตัวดีว่ามีรุ่นพี่รวมถึงเพื่อนรุ่นเดียวกันหมั่นไส้ และไม่ชอบหน้าเธอหลายคนมาก สังเกตจากแววตาและสีหน้าของคนเหล่านั้นก็รู้แล้วสังคมในมหาวิทยาลัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับสังคมของเด็กมัธยมที่เธอเคยผ่านมา เพราะฉะนั้นรวิชาจึงพยายามไม่ทำอะไรที่เป็นการสร้างจุดเด่นให้ตน ยกเว้นก็แต่สุนิตาที่ดูเหมือนจะทำตรงกันข้ามกับเธออย่างสิ้นเชิง“อาย วันนี้คุณภีมมารับอีกหรือเปล่า”สุนิตาถือโอกาสตอนที่สกลธีกับอารดาไม่ได้นั่งอยู่ด้วยกัน จึงเดินเข้าไปถามและชวนคุยเหมือนทุกวัน โดยขณะที่ถามก็ทำทีเป็นเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือรวิชาเงยหน้าขึ้นปรายตามองเพื่อนสาวที่เริ่มมีพฤติกรรมแปลก ๆ จนเธออดสงสัยหลายสิ่งหลายอย่างที่เพื่อนคนนี้ทำไม่ได้“คิดว่าไม่มานะ วันนี้เราคงกลับเอง” รวิชาปดออกไป ความจริงแล้ววันนี้เขานัดกับเธอเอาไว้ว่าจะพาไปนั่ง

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 13 ทิ้งระยะห่าง - 100%

    รวิชาหันมองตามที่เพื่อนบอก เห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขามีรอยยิ้มกว้างมาแต่ไกลก็พานให้หัวใจดวงน้อยสั่นหวิว เลือดลมสูบฉีดขึ้นไปมาจนรู้สึกว่าใบหน้าเห่อร้อนวูบวาบ“อุ๊ยตาย! เขย่าใจกะเทยเหลือเกิน วันนี้ผู้ชายของหล่อนแต่งตัวกระชากวัยมากเลย ถ้าไม่บอกว่าสามสิบกว่าแล้วฉันไม่เชื่อเด็ดขาดเลยนะยะ” สกลธียกมือขึ้นทาบที่อกด้านซ้าย ทำหน้าตาเพ้อฝันเกินจริง จนเพื่อนอดหัวเราะตามไปด้วยไม่ได้รวิชามองแล้วก็เห็นด้วยกับเพื่อน วันนี้คู่หมั้นของเธอแต่งตัวได้กลมกลืนกับนักศึกษามากราวกับวัยเดียวกัน ร่างสูงสมาร์ตของเขาอยู่ในชุดกางเกงยีนกับเสื้อยืดคอวีแขนสั้นสีกาแฟขนาดพอดีตัว และเพราะบุคลิกที่ดูมาดมั่นแบบนักธุรกิจของเขาเปล่งรัศมีความเป็นผู้นำออกมาแม้จะอยู่ในชุดเสื้อผ้าที่แสนธรรมดา จึงส่งผลให้เขาดูโดดเด่นกว่าคนอื่น“สวัสดีค่ะ” อารดากับสกลธียกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยทักทายแทบจะพร้อมกัน แต่สุนิตานั้นกลับลอบสำรวจชายหนุ่มตรงหน้าอยู่เงียบ ๆ อย่างพึงพอใจนี่หรือคู่หมั้นของรวิชา ดูจากบุคลิกและเครื่องประดับที่สวมใส่ก็รู้แล้วว่าเป็นคนมีระดับแน่นอน อีกทั้งหน้าตาก็หล่อเหลาดูดี รูปร

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 13 ทิ้งระยะห่าง - 75%

    รวิชาหน้าง้ำเมื่อถูกพูดจี้ใจดำเข้าให้ เรื่องนี้นับว่าเป็นปัญหาที่เกาะกินใจเธอมานานแล้ว นั่นเพราะไม่รู้ว่าท่าทางที่เขาแสดงต่อเธอนั้นเป็นเพราะเอ็นดูในฐานะเด็กข้างบ้าน หรือว่าเขามีความรู้สึกพิเศษกับเธอในฐานะคู่หมั้นกันแน่“อาย แกอย่าไปฟังที่พี่วิชรพูดนะ แกก็รู้ว่าเขาไม่ชอบอาภีมก็เลยมาใส่ไฟ นิสัยแย่ที่สุดเลย เขาอยู่ของเขาดี ๆ ก็มายุยงให้คนแตกคอกัน”อารดาแตะแขนเพื่อนพร้อมบีบเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ เธอเองก็ไม่รู้จะช่วยคู่นี้อย่างไรเพราะดูเหมือนว่าต่างฝ่ายต่างคิดกันไปคนละอย่าง แต่ที่เธอมั่นใจคือภีมพลนั้นเป็นห่วงรวิชาอย่างแท้จริง“แต่พี่วิชรก็พูดถูกนะอุ้ย ฉันยังเคยเห็นอาภีมกอดกับผู้หญิงคนอื่นมาต่อหน้าต่อตาเลย ทีกับฉันเขายังไม่เคยเห็นทำอย่างนั้นบ้างเลย” รวิชาทำปากยื่นออกมาเล็กน้อย เรื่องคราวก่อนนั้นเธอนำมาเล่าให้เพื่อนสองคนนี้ฟังจนหมดสิ้น“โอ๊ย! หล่อนจะคิดมากทำไม ผู้ชายมันก็ต้องมีบ้างแหละที่จะซิกแซกซอกซอนเลี้ยวไปทางนั้นเลี้ยวไปทางนี้ แต่สุดท้ายจุดหมายปลายทางอยู่ตรงไหนเขารู้ดีหรอกย่ะ หล่อนไม่ต้องไปคิดแทนเขาหรอก หน้าที่ของหล่อนก็แค่ฉีกยิ้

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 13 ทิ้งระยะห่าง - 50%

    “ได้ข่าวว่าเรียนเก่งด้วยนี่ใช่ไหม...ทำเกรดให้ดีนะ ถ้าผลงานเข้าตาเกรดเฉลี่ยเป็นที่น่าพอใจ ผมมีตำแหน่งรองรับไว้ให้ไม่ต้องกลัวว่าจะตกงาน”ภีมพลพูดอย่างใจป้ำ เขาชอบคนเก่ง ซื่อสัตย์ และขยัน เพราะหากได้คนแบบนี้มาร่วมงานจะยิ่งช่วยส่งเสริมให้บริษัทก้าวหน้ามั่นคงยิ่งขึ้น“ขอบคุณค่ะอาภีม ใจดีจัง...มิน่าล่ะ ยายอายถึงได้ร้าก...รักขนาดนี้”อารดาเผลอพูดออกไปด้วยความดีใจ แต่คนฟังอย่างภีมพลนั้นหัวใจพองฟูคับอกขึ้นมา“หมดธุระแล้วล่ะ อ้อ...อย่าลืมเอาเลขที่บัญชีให้เป็นต่อด้วยนะ นายอย่าลืมพาน้องอุ้ยไปซื้อโทรศัพท์ด้วยล่ะ” ประโยคหลังเขาหันไปพูดกับเป็นต่อ อีกฝ่ายผงกศีรษะรับคำสั่งก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับอารดา“ขอบคุณมากเลยนะคะอาภีม อุ้ยลานะคะ” หญิงสาวกระพุ่มมือไหว้อย่างนอบน้อมแล้วเดินตามเป็นต่อออกไปจากห้องทำงาน ทิ้งให้เจ้าของห้องได้แต่นั่งมองรูปของคู่หมั้นสาวจากโทรศัพท์อยู่ที่เดิม“ทำอะไรอยู่นะป่านนี้ หายโกรธหายกลัวหรือยังก็ไม่รู้”ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ระหว่างที่เลื่อนดูภาพอื่น ๆ ก่อนตัดใจปิดโ

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 13 ทิ้งระยะห่าง - 25%

    ภีมพลนั่งอ่านรายงานที่ได้รับมาจากเจ้าหน้าที่ของทางเยอรมัน ก่อนหน้านี้มีผู้มาเช่าเครื่องบินของบริษัทลำหนึ่งเพื่อไปลงที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันนีโดยทำทีว่าเป็นข้าวใหม่ปลามันที่ต้องการไปฮันนีมูนที่นั่น แต่แล้วกลับลอบบรรทุกขนยาเสพติดจำนวนมากทั้งโคเคน ยาไอซ์ ยาอีโดยมีเจ้าหน้าที่สนามบินบางคนรู้เห็นเป็นใจ และที่สำคัญคือพนักงานบางคนของเขาก็มีส่วนร่วมด้วย จึงทำให้รอดจากการตรวจสอบไปได้เขาจะไม่เดือดร้อนเลยถ้าพนักงานของเขาจะไม่ทำเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว จากการสอบสวนลึกลงไปทำให้ได้รู้ว่าคนกลุ่มนี้ลักลอบขนของผิดกฎหมายมาหลายต่อหลายครั้งโดยใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำของบริษัทเขาเอง ทางการของเยอรมันนีจึงพุ่งเป้ามาที่เขาซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท และผู้บริหารว่าอาจจะมีเอี่ยวกับขบวนการนี้ด้วย กว่าเขาจะหาหลักฐานและเดินเรื่องเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ก็ทำให้เสียเวลาไปถึงสองอาทิตย์กลับมาถึงเมืองไทย นึกว่าจะได้อยู่กับสาวน้อยรวิชาให้หายคิดถึง แต่ดันมาเกิดเรื่องยุ่งขึ้นเสียได้เพราะความหื่นบังตาแท้ ๆ เขาอยากตามไปหาเธอที่บ้านแต่ก็เกรงว่าสาวเจ้าจะกลัวลนลานพานให้เสียความรู้สึ

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 12 สาวน้อยช่างยั่ว - 100%

    “เขาบอกไว้ก่อนแล้วล่ะ แต่ไม่คิดว่าจะออกไปเลย” พูดจบชายหนุ่มก็เดินเข้าห้อง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร. หารวิชา แต่รอสายอยู่นานก็ยังไม่มีทีท่าว่าเจ้าตัวจะรับสายจนเขาต้องถอดใจภีมพลทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่ สีหน้าครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร. ออกอีกครั้ง แต่ผลก็ยังเป็นเหมือนเดิม เขาจึงเปลี่ยนใจพิมพ์ข้อความส่งหาเธอแทน‘โกรธอาหรือครับ อาขอโทษ’ภีมพลนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่นาน แต่ไม่มีทีท่าว่าหญิงสาวจะอ่านข้อความและพิมพ์ตอบกลับมา เขาจึงวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่รวิชาคงโกรธเขาจริง ๆ หรือไม่ก็คงหวาดกลัวเป็นแน่ที่จู่ ๆ เขาไปหักหาญทำอะไรล่วงเกินไปอย่างนั้น เธอยังเด็กเหลือเกินสำหรับเขา จึงคิดว่าจะค่อย ๆ สอนไปทีละนิดทีละน้อย ให้เธอค่อย ๆ ซึมซับความสัมพันธ์ทางกายไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อที่ว่าเมื่อถึงเวลานั้นจริง เธอจะโตพอสำหรับการเริ่มต้นผูกพันลึกซึ้งกับเขาได้ตามประสาคนรักทั่วไปแต่เขาก็มาทำเสียเรื่องเข้าจนได้ เขาใจร้อนวู่วามเกินไปที่จู่ ๆ ก็ไปปล้ำจูบเธอ สมควรแล้วที่เด็กสา

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 12 สาวน้อยช่างยั่ว - 70%

    “เค้กร้านเดิมนั่นแหละค่ะ อาภีมจะกินเลยไหมคะน้องอายไปเอาจานกับช้อนมาให้” รวิชาเดินตามมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ภีมพลยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาก่อนเอ่ยตอบ“ยังดีกว่า อายังไม่ได้กินมื้อเที่ยงเลย น้องอายกินมาหรือยัง”“กินมากับตีตี้แล้วค่ะ”หญิงสาวเดินเข้ามาตั้งใจว่าจะลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกับเขา ทว่าเพราะไม่ทันระวังเท้าจึงสะดุดเข้ากับขาโต๊ะจนคะมำไปข้างหน้าทั้งตัว รวิชาร้องเสียงหลงด้วยความตกใจไม่ต่างจากภีมพลที่รีบถลาอ้าแขนเข้าไปรับร่างของเธอไว้ได้ทันท่วงที“โอ๊ย!”รวิชาร้องเบา ๆ เมื่อร่างของตนทิ้งตัวลงไปทาบทับกับร่างของชายหนุ่ม รู้สึกเจ็บจนน้ำตาเล็ดเพราะเหมือนศีรษะจะถูกอะไรแข็ง ๆ กระแทกใส่ หญิงสาวดิ้นขลุกขลักพยายามยันกายขึ้นและค่อย ๆ เอาศอกเท้าไว้กับโซฟาก่อนจะผงกศีรษะขึ้นมอง“อาภีม! น้องอายขอโทษค่ะ น้องอายไม่ได้ตั้งใจ อาภีมเจ็บไหมคะ”รวิชาเอามือแตะริมฝีปากเขาเบา ๆ เมื่อเห็นรอยเลือดซึมออกมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาคงโดนศีรษะของเธอกระแทกเป็นแน่ในขณะที่ภีมพลรู้สึกเหมือนเห็นดาวลอยวนเวียนอ

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 12 สาวน้อยช่างยั่ว - 35%

    เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นจากในกระเป๋า ส่งผลให้คนที่กำลังจะเอื้อมหยิบหนังสือนิยายบนชั้นวางต้องลดมือลงแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แว้บแรกที่เห็นรายชื่อของคนโทร. เข้า ใบหน้าเนียนใสก็คลี่ยิ้มกระจ่างเต็มวงหน้าทันที“อาภีมกลับมาแล้วหรือคะ”รวิชาทักทายคนปลายสายเสียงใส สองอาทิตย์ที่ไม่ได้เจอหน้าทำให้รู้สึกราวกับว่าชีวิตเหมือนขาดอะไรไป เพราะช่วงก่อนเปิดเทอมนั้นเวลาเขาจะไปไหนมักจะหนีบเธอไปด้วยเสมอ แม้กระทั่งตอนไปทำงานที่ออฟฟิศ เขาก็จะพาเธอไปนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ที่ห้องทำงานของเขาแทน หากว่าวันนั้นเธอไม่ได้เข้าโรงงานของครอบครัว“กลับมาแล้วครับ ลงเครื่องมาปุ๊บก็โทร. หาน้องอายเลย แล้วนี่ทำอะไรอยู่”ภีมพลหันมองลูกน้องที่เดินตามมาห่าง ๆ ซึ่งอีกฝ่ายกำลังชี้บอกเขาว่าคนขับรถมารออยู่ตรงไหน ชายหนุ่มจึงเดินตามไป“มาซื้อหนังสืออ่านเล่นค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ห้างสยามพารากอนกับตีตี้ แล้วนี่อาภีมจะกลับบ้านเลยหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามกลับไป เพราะหากภีมพลกลับบ้านเลยเธอจะได้รีบซื้อหนังสือแล้วรีบกลับไปหาเขา“อาคงเข้าออฟฟิศก่อนน่ะ ม

DMCA.com Protection Status