“เดี๋ยวลูกไก่ไปห้องน้ำก่อนนะคะ” ทนไม่ไหว ขอไปทำใจให้ไกล ๆ อันเจโล่ก่อนเถอะ“น้อยใจหรือลูกไก่” รอยยิ้มนิด ๆ ผุดบนมุมปากหนา แทนที่จะปล่อยให้กฤติกาไปดังใจต้องการ เขากลับยกมือสอดไประหว่างลำตัวกลมกลึง แค่นี้เท่ากับเขาได้กอดเธอไว้ ออกแรงอีกนิดก็เท่ากับท่อนแขนกำยำรัดร่างบางให้มาแนบชิด ถามมาได้ ก็ตัวเองน่ะมีแต่ได้กับได้ ส่วนเธอน่ะมีแต่เสียกับเสีย นอกจากเสียตัวแล้ว หัวใจก็ไม่รู้ว่าเปิดรับเขามาโลดแล่นจับจองที่นั่งอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ กลีบปากอิ่มสั่นระริกจนต้องรีบขบเม้มเอาไว้ “เปล่านี่ค่ะ ไม่ได้น้อยใจ แค่ปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ” ตอบกลับเสียงค่อนไปทางสั่นเล็กน้อย“อืม...แต่ฉันว่าไม่น่าใช่นะ หน้าตาเธอบอกว่า...น้อยใจฉันมากเลยนะ”อยากปฏิเสธว่าไม่จริง ไม่ใช่ แต่กฤติกาก็ได้แต่ก้มหน้างุด รู้แล้วยังจะมาถามทำไมอีกล่ะ อยากเน้นย้ำตอกลงไปให้เธอรู้สึกเจ็บปวดมากกว่านี้หรือไง“ฉันกำลังคิดว่าจะบอกความลับกับเธออยู่แล้วเชียว แต่ท่าทางอย่างนี้คงไม่อยากฟังแล้ว” อันเจโล่แกล้งพูดยั่วให้คนตัวเล็กอยากรู้กฤติกายิ่งหน้าบึ้งตึง ตาหลุบคว่ำ หนังตากะพริบปริบ ๆ ไม่เข้าใจ...เขารู้หรือว่าเธอปวดร้าวและเสียใจกับสีหน้าเฉยชาไม่ยิน
“อือ...ไม่ต้องห่วง ทางนี้ฉันจัดการเอง เอาน่าไม่ต้องห่วง แค่ไอ้ยักษ์คนเดียวไม่มีการ์ดคอยคุ้มกันกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เท่ามดอีกคน ที่ขยี้เมื่อไหร่ก็แหลคามือ ไม่มีปัญหาหรอก เชื่อมือเถอะ ฉันจัดการได้” รอยยิ้มแต้มบนวงหน้าเรียวตอบ นัยน์ตาคนพูดนอกจากจะกระหยิ่มยิ้มย่องแล้ว ยังแฝงไว้ด้วยความเหี้ยมเกรียม“แล้วอย่าพลาดซ้ำสองล่ะ ให้ทำงานนิดเดียว ดันพลาดปล่อยให้มันรู้ตัวเสียได้ แล้วอย่างนี้จะไปทำอะไรกิน” สบถใส่อย่างไม่พอใจ“เออ...ให้มันจริงอย่างที่ปากพูดเถอะ ถ้าพลาดอีกคราวนี้ ฉันจะถลุงให้นายกินน้ำข้าวแทนหมูหัน แล้วอย่าลืมรีบไปเอาของด้วยล่ะ ขืนไอ้เจ้านั่นจับพิรุธพวกเราได้แล้วไปเอาของเสียก่อน เราเสียหายยับแน่”ของ...ของอะไร ท่าทางจะมีความสำคัญมาก พร้อมกันนั้นปลายสายมองไปรอบ ๆ ด้วยระแวดระวังด้วยกลัวจะมีคนเห็น และรีบเงี่ยหูฟังเมื่อน้ำเสียงที่ดังอยู่เมื่อครู่เบาลง คงจะกำลังไต่ถามข้อมูลกันอยู่...คงร้ายแรงเอาการ เมื่อคนถูกถามถึงมีท่าทางโกรธกรุ่นและสบถตามมาเสียงเขียวกฤติกาใจเต้นแรงรัวเร็วยิ่งกว่ารัวกลองศึกขณะออกรบ ขณะยื่นหน้าพร้อมเงี่ยหูไปใกล้คนพูดทีละนิด ๆ ด้วยอยากได้ยินคำพูดแผ่ว ๆ ที่เหมือนกับผึ้งบินมาดั
“ใครน่ะลูกไก่...เพื่อนหรือ” อันเจโล่ถามทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้ว คิ้วเข้มหนาเป็นปื้นเลิกขึ้นสูงเมื่อเห็นทางทางแปลก ๆ ของกฤติกา ยิ่งได้สอดมือยื่นไปจับมือเล็กจนได้รู้ว่าหญิงสาวเย็นจัดราวกับน้ำแข็งก็ให้สงสัยยิ่งนักไหนว่าเป็นเพื่อนกันไง แล้วทำไมแม่ลูกไก่น้อยถึงได้มีท่าทางแปลก ๆ เหมือนหวาดระแวงชายตรงหน้า พลางเหลือบนัยน์ตาเข้มจัดเขม่นมองหน้าหนุ่มผู้มาใหม่ด้วยความไม่ชอบใจอย่างยิ่งยวด อันเนื่องมาจากได้รู้ว่ากฤติกาเคยนิยมชมชอบมาก่อนนั่นเองตอนเห็นที่ชายหาดไกล ๆ ว่าดูดีน่ามองเรียกความสนใจได้ไม่ยากแล้ว มาเห็นใกล้ ๆ นี่เขาก็อึ้ง...ไปเหมือนกัน เค้าหน้าหล่อมลก็โอเคอยู่ แต่จะเรียกว่าสวยหรือ...ก็ได้เช่นกัน ผิวขาวใสออกเป็นชมพู จมูกโด่งรับกับริมฝีปากหนาหยักสีชมพูอมแดง นัยน์ตาสีน้ำตาลเสริมด้วยขนตายาวงอนขับเน้นให้หวานน่ามอง ยิ่งเจ้าตัวรู้ก็เลยมีการเล่นหูเล่นตาอีกเล็กน้อยก็ยิ่งทำให้ดูเย้ายวนเชิญชวน แปลกที่เขาอยากเห็นผู้ชายคนนี้แต่งชุดผู้หญิง ถ้าได้หามาใส่คงแยกไม่ออกเลยเชียวแหละ ต้องสวยจนใครได้เห็นเป็นต้องตกตะลึงชายแต่งหญิง...เหมือนมีอะไรมาสะกิดใจอันเจโล่ให้ต้องเพ่งมองชายหนุ่มเพื่อนกฤติกาอย่างละเอียดถี่ถ้วน
“อย่าบอกนะลูกไก่...ไอ้โหดนี่แฟนเธอ” เอ่ยถามเพื่อนสาวด้วยท่าทางตะบึงตะบอน ยกมือไปคว้าพนักเก้าอี้ข้างกฤติกาเคลื่อนมานั่งพลางยกมือขึ้นลูบไล้ปลายคางและแก้มแดงจัด มองหนุ่มร่างหนาใหญ่ซึ่งนั่งทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้และไม่สนใจ สองแขนสอดไขว้ระหว่างอก เท้าแข็งแกร่งข้างหนึ่งยกขึ้นพาดบนลำขาเสลาอีกข้าง แถมยังกระดิกปลายเท้าอย่างสบายอารมณ์เสียอีกริวาโก้เห็นแล้วอยากตะบันหน้าให้เบ้าตาเขียวช้ำ ปากเจ่อจนกินยายลูกไก่หวานไม่ได้ แต่เพราะสัดส่วนทางร่างกายที่ต่างไซด์กันเล็กน้อยและเขาพอจะล่วงรู้ถึงฝีมือการต่อสู้ของอันเจโล่ที่จัดเป็นมือหนึ่ง ไม่ยอมให้ใครทำอันตรายได้ง่าย ๆ เลยได้แต่กัดฟัดกรอด ๆ เก็บเอาความแค้นสุมเอาไว้ในทรวง รอวันมีโอกาสเอาคืน...เชื่อเถอะต้องมีวันนั้น!น่านฟ้าแทบจะยื่นคอ เอาหูแนบปากกฤติกาฟังความที่เขาเองก็อยากถามหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่กล้า แต่หนุ่มหน้ามนคนมาใหม่กลับกล้าที่เอ่ยถามแบบโต้ง ๆ“เอ่อ...” กฤติกากระอึกกระอัก เหลือบตามองอันเจโล่สลับหลุบมองปลายเท้าที่ไกล่เกลี่ยถูกกับพื้นหินปูนสีน้ำตาลเข้มจัด ไม่รู้จะตอบคำถามนี้ได้ยังไง ในเมื่อเธอเองก็ยังไม่แน่ใจเลย ตัวเองอยู่กับอันเจโล่ในตำแหน่งใด คนรักพร้อ
“ถ้าไม่คิดมาก ลองเป็นผู้ชาย...” ไล้มือไปจนถึงลำตัวด้านหน้า “อย่างผมก็ได้นะคะ รับรองได้สักครั้งแล้วจะติดใจ ลืมผู้หญิงไปเลย”ในเมื่อเขาบอกดี ๆ แล้วไม่ชอบ อยากเจ็บตัวหรือ ได้เลย คนตัวใหญ่ที่กำลังหงุดหงิดหาที่ระบายอารมณ์อยู่พอดีไม่รอช้า จับมืออีกฝ่ายแล้วบิดเต็มแรง“โอ๊ย!! ลูกไก่ ช่วยด้วย คุณน่านฟ้าสุดหล่อจะหักมือไอทิ้งแล้ว” ริวาโก้แกล้งร้อง เจ็บนิด ๆ พอเป็นกระสายที่ถูกใจเขายิ่งนัก แล้วก็ใช้โอกาสนั้นแหละโอบกอดน่านฟ้า มิหนำซ้ำบดเบียดเรือนกายแกร่งกับกล้ามเนื้อแน่นปึกของอีกฝ่าย“พยศมาก ระวังผมบุกถึงห้องสวนประตูหลังนะครับคุณน่านฟ้าสุดหล่อ” จุ๊บ!! กดปากและจมูกบนแก้มน่านฟ้าอย่างเร็วปานพายุพอ ๆ กับรีบถอยออกไปราวจรวด พร้อมเสียงหัวเราะดังลั่น“ไปแกล้งอะไรคุณน่านฟ้าอีกล่ะริวาโก้” กฤติกามองผ่านร่างเพรียวแกร่งของเพื่อนหนุ่มไปยังน่านฟ้าที่รับไม่ได้กับคำตอบของเธอ เลยเดินเตะฝุ่นระบายความหงุดหงิดในกายไปอย่างไร้จุดหมาย“เปล่านี้ ไม่ได้แกล้งสักหน่อย ยูอย่ามาหาความไอนะลูกไก่” ปฏิเสธเอาไว้ก่อน วงหน้าแย้มยิ้มยั่วเย้า ก่อนจะเบะหน้าเบื่อหน่ายเมื่อกฤติกายังส่งสายตารู้ทัน“แหม...ลูกไก่ก็ คนเขาน่าแกล้งนี่นา จะไม่ให
“ยังไม่สายเกินไปนะลูกไก่ ยูเลิกกับไอ้เจ้านั่นเถอะ ไอรักยูนะ ไอไม่อยากให้ยูเสียใจ” ยื่นไปจับมือเล็กบีบกระชับเบาๆ อย่างต้องการส่งกำลังใจให้ ด้วยเพราะสิ่งที่เขาจะพูดต่อคงบาดหัวใจกฤติกาจนเลือดไหลซิบๆ เลยเชียวแหละ“ไอไม่รู้ว่าไอควรบอกยูดีไหม”“เรื่อง?” หนาว ๆ ร้อน ๆ ในทรวงกับสายตาอย่างกับเก็บความที่มันอัดอั้นตันใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องบอก“เกี่ยวกับเจ้านั่นแหละ”“บอก...บอกมาเถอะ” แม้จะแปลกๆ เสียววาบเข้าไปถึงทรวงกับคำที่เพื่อนพูด แต่ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน ยังไงความลับก็ต้องถูกเปิดเผย ปิดไว้ไม่มีมิด ท้ายสุดแล้วเธอก็ต้องรู้อยู่ดีนั่นแหละ สู้รู้ตั้งแต่วันนี้ อย่างน้อยจะได้กลับตัวและเตรียมทำใจไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ“ไอรู้ว่าคุณชายอันเจโล่แห่งตระกูลเด โบคันวาโร่ไม่มีสิทธิ์แต่งงานกับใคร ยกเว้นคนที่พ่อหาให้ หรือถ้าหาเองก็ต้องมีความยิ่งใหญ่พอที่จะเชิดชูตระกูล ทำให้ยิ่งใหญ่กลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในประเทศได้”“แล้ว...แล้วตอนนี้...” พูดไม่ออก อึ้งและเจ็บจี๊ดกับแก้วแตกที่ฝังอยู่ในทรวงบาดทุกการหายใจ“อือ...” พยักหน้ารับ “ได้ข่าวว่ามีผู้หญิงที่ไม่ใช่แค่ฉลาดแต่ยังสวย ไม่ว่าฐานะหรือชาติตระกูลก็ควรคู่และเหมาะสม
“แค่ป่วยเล็กน้อย ไม่ถึงกับต้องฉีดยาหรอกน่า” อันเจโล่พูดกลั้วลำคอ เพิ่งเจอกับคนกล้าหาญทุกอย่าง กล้าสู้กล้าต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่กลัวถูกหักคอทิ้ง แต่กลัวเข็มอันเล็กนิดเดียว อืม...แล้ววันนั้นล่ะ ที่โดนหินบาดเท้าเอานะ สงสัยว่าอยากหนีเขาสุดฤทธิ์ ถึงได้เดินลิ่ว ๆ ไปอย่างไม่กลัวเจ็บนัยน์ตาเข้มจัดพราวระยับขณะมองแม่ลูกไก่ตัวเล็ก ไม่ได้หัวเราะเยาะเธอหรอกนะ แต่หน้าตาที่บ่งบอกถึงความเข็ดขยาดกับเข็มอันนิดเดียว ทั้งน่ารักและน่าขำในเวลาเดียวกัน“คุณเจอะ...” กฤติกาหน้างอง้ำ แก้มนวลผุดผาดแดงระเรื่อป่องออกเล็กน้อย ตวัดสายตากลมโตใส่คนตัวใหญ่ขวับโต ชอบนักล่ะกับการยั่วเธอให้งอนตุ๊บป่องน่ะ ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ เดี๋ยวจะเอาคืนให้ร้องไม่ออกเชียวอือ...คิดเอาคืนเขาเหรอลูกไก่น้อย อันเจโล่อมยิ้มยั่วเย้าคนตัวเล็กๆ พลางส่งสายตาท้าทาย แต่ปากกลับพูดไปอีกทาง “โอ๋...ไม่นะลูกไก่ ไม่งอนนะ” ถ้าจะไม่ดีแล้วละ แม่ลูกไก่น้อยตัวร้อนขึ้น หน้าตานอกจากเซียวแล้ว นัยน์ตาก็ลอย ๆ ด้วย “ไปให้หมอดูหน่อยก็ดีนะลูกไก่”“นั่นสิลูกไก่ ไอว่ายูไปหาหมอเถอะนะ ป่วยไปเที่ยวไม่สนุกนะ”เห็นว่าการคะยั้นคะยอดูท่ายังไม่ได้ผล คนตัวเล็กยังอิดออด อันเจ
“ลูกไก่!” คนกำลังเร่งรีบ ร้อนอกร้อนใจ กังวลไปสารพัด ยายลูกไก่ตัวเล็กยังมาทำฤทธิ์มากใส่อีก ผู้หญิงทำไมถึงได้เรื่องมากน่ารำคาญแบบนี้วะ!“ไม่ต้องมาเรียก จะไปตาม buffalo ที่ไหนก็เชิญ” ตวาดแว้ดใส่หน้าตาบึ้งตึง นัยน์ตาเป็นประกายวาวโรจน์ “คุณอยากทำอะไรก็ทำ ไม่เคยสนใจลูกไก่อยู่แล้วนี่” ไม่ได้แกล้งงอนเรียกความสนใจให้ต้องง้อ แต่โกรธ...รู้ไว้นะว่าโกรธจนลมออกหูแล้ว ถ้ารักจะอยู่ด้วยกัน ดูใจกันอย่างที่ปากพูด ก็ควรบอกความจริงกันบ้าง ไม่ใช่อมพะนำ ปล่อยให้เดาไปเองอย่างนี้ เธอไม่อยากกลายเป็นคนโง่ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นก็อยากรู้เรื่องราวก่อนมีอันเป็นไปโธ่เว้ย! บ้าจริงเชียว ร้อนรุ่มในทรวง ในห้องท่าทางจะเกิดปัญหาให้เขาต้องรีบเข้าไปเคลียร์ ทางนี้ผู้หญิงก็พายุ่งอีก เขาปลอบใจใครไม่เป็นซะด้วย สองมือใหญ่ยกขึ้นเท้าสะเอว “งอนตุ๊บป่องหน้าตาอย่างกับเป็ดอย่างนี้ไม่น่ามองนะลูกไก่ อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ไหม” “ใช่สิ ลูกไก่มันตัวยุ่งยากวุ่นวายแล้วก็งี่เง่าด้วย คุณจะมาสนใจอะไรละ อยากไปไหนก็ไปสิ ลูกไก่จะกลับบ้าน” สองแขนเรียวสอดไขว้ระหว่างอก เชิดหน้าขึ้นสูงด้วยไม่อยากให้น้ำตาไหลลงมา แต่ก็กลั้นไม่ไหว น้ำตาร่วงไห
“ใคร...มันเป็นใครกล้ามาอยู่ห้องลูกไก่” คิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้าหากัน “ทำอย่างนี้ได้ยังไงลูกไก่ ไหนสัญญาแล้วไง เธอจะรอฉันน่ะ” ชายหนุ่มแสร้งถามทั้งที่ก็รู้ดีว่าไม่มีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้แม่ลูกไก่น้อยของเขาได้ในระยะห้าเมตร ด้วยเขามีผู้ช่วยมือดีคอยดูแลให้อยู่ ซึ่งถ้าหากเธอรู้ละก็...มีหวังคนส่งข่าวคงกลายเป็นกระสอบทรายไม่แพ้เขานัยน์ตาเข้าสีเทาปนเขียวขี้ม้าเป็นประกายแพรวพราวระยับอย่างน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง “เป็นใครแล้วคุณยุ่งอะไรด้วยละ ไม่ได้เป็นอะไรกับฉันสักหน่อย” ตอบกลับอย่างยียวน คอยจับตามองคนตัวใหญ่ที่เต็มไปด้วยพิรุธมากมาย “อีกอย่างถ้าฉันแต่งงานมีสามีเป็นตัวเป็นตน มันผิดแปลกตรงไหน คนมันสวยนี่น่า” หญิงสาวเอ่ยพร้อมเชิดหน้าขึ้นสูงอันเจโล่เกือบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว นี่คงไม่รู้สิน่าว่าเขารู้การเคลื่อนไหวของเธอตลอดเวลานะ “ไม่จริง ก็ไหน...” แสร้งเอ่ยถามอย่างร้อนรน แต่กลับหลุดบางอย่างออกไปจนคนตัวเล็กจับพิรุธมองมาอย่างจ้องจับผิด“ไหนอะไร” กฤติกายกมือเท้าสะเอว จ้องเข้าไปในดวงตาซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้ไม่มิด “บอกมานะ ไม่งั้นลูกไก่โกรธจริง ๆ ด้วย” เธอพยายามขู่เสียงเข้มให้อีกฝ่ายกลัว ทว่าแปลกยิ่งนักที่อั
“ใคร...มันเป็นใครกล้ามาอยู่ห้องลูกไก่” คิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้าหากัน “ทำอย่างนี้ได้ยังไงลูกไก่ ไหนสัญญาแล้วไง เธอจะรอฉันน่ะ” ชายหนุ่มแสร้งถามทั้งที่ก็รู้ดีว่าไม่มีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้แม่ลูกไก่น้อยของเขาได้ในระยะห้าเมตร ด้วยเขามีผู้ช่วยมือดีคอยดูแลให้อยู่ ซึ่งถ้าหากเธอรู้ละก็...มีหวังคนส่งข่าวคงกลายเป็นกระสอบทรายไม่แพ้เขานัยน์ตาเข้าสีเทาปนเขียวขี้ม้าเป็นประกายแพรวพราวระยับอย่างน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง “เป็นใครแล้วคุณยุ่งอะไรด้วยละ ไม่ได้เป็นอะไรกับฉันสักหน่อย” ตอบกลับอย่างยียวน คอยจับตามองคนตัวใหญ่ที่เต็มไปด้วยพิรุธมากมาย “อีกอย่างถ้าฉันแต่งงานมีสามีเป็นตัวเป็นตน มันผิดแปลกตรงไหน คนมันสวยนี่น่า” หญิงสาวเอ่ยพร้อมเชิดหน้าขึ้นสูงอันเจโล่เกือบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว นี่คงไม่รู้สิน่าว่าเขารู้การเคลื่อนไหวของเธอตลอดเวลานะ “ไม่จริง ก็ไหน...” แสร้งเอ่ยถามอย่างร้อนรน แต่กลับหลุดบางอย่างออกไปจนคนตัวเล็กจับพิรุธมองมาอย่างจ้องจับผิด“ไหนอะไร” กฤติกายกมือเท้าสะเอว จ้องเข้าไปในดวงตาซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้ไม่มิด “บอกมานะ ไม่งั้นลูกไก่โกรธจริง ๆ ด้วย” เธอพยายามขู่เสียงเข้มให้อีกฝ่ายกลัว ทว่าแปลกยิ่งนักที่อั
“ยิ้มนะลูกไก่ ให้กำลังใจฉันไปทำหน้าที่ของตัวเอง เอาชนะพวกมารและจะได้รีบกลับมาหาเธอ” บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเขาตั้งใจเอ่ยคำนี้หรือเปล่า แต่เอ่ยออกไปแล้วก็ไม่ได้เสียใจ เมื่อเห็นรอยยิ้มดีใจของแม่เนื้อนุ่มหวาน“คุณเจ” หัวใจถึงกับโป่งพองราวลูกโป่งอัดแก๊ส จนลอยลิ่วไปบนฟากฟ้าสีครามสดใส ก่อนดวงหน้าผ่องพรรณจะหมองหม่นลงเมื่อเสียงประกาศเตือนดังมาอีกครั้ง ที่ทำให้เธอตัดสินใจทำอย่างแสงกล้าพูด...เอ่ยบอกเขาให้รู้ความจริงในใจ ดีกว่าเก็บเอาไว้ในอกพร้อมความเจ็บช้ำ ได้บอกรักแม้ต้องผิดหวัง ยังดีกว่าไม่ได้บอกให้เขารู้กฤติกาจับมือใหญ่ มองเข้าไปในแววตาเข้ม “ลูกไก่มาเพราะมีเรื่องสำคัญอยากบอกคุณเจค่ะ...” สูดลมหายใจเข้าปอด รวมรวมความกล้า“ลูกไก่...รักคุณเจค่ะ” กฤติกาเอ่ยเสียงเข้มและหนักแน่นอันเจโล่เต็มตื้นกับคำรักที่ได้ยินจนหัวใจคล้ายลูกโป่งที่ถูกสูบแก็สอัดไปจนเต็มลอยพุ่งขึ้นบนฟากฟ้าในทันควัน “ลูกไก่!” สมควรเป็นเขาที่ต้องเอ่ยบอกคำนี้ออกไปก่อน แต่นี่คนตัวเล็กกลับ...เขายอมแพ้ใจเธอจริงๆ แขนกำยำสอดรวบกอดร่างเล็กแนบอก“ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี คงมีแค่คำนี้...ขอบใจนะลูกไก่ที่รักคนนิสัยไม่ดีอย่างฉัน” คำเล็ก ๆ ที่มีอาน
อันเจโล่ผ่อนลมหายใจออกจากปอดแผ่วเบา แม้อยากยืดเวลาออกไปแม้แค่เสียววินาที เพื่อให้ตัวเองได้เฝ้ารอด้วยความหวังอีกครั้ง ทว่าสุดท้ายแล้วเขาก็จำต้องยอมรับความจริง กฤติกาไม่มาร่างหนาผุดลุกจากเก้าอี้ที่นั่งด้วยเท้าที่หนักอึ้งจนแทบเดินต่อไม่ไหว ในหัวใจราวกับถูกเศษแก้วแตกที่ฝังอยู่ในก้อนเนื้อบาดเฉือนทุกการหายใจ เหมือนโลกที่ยืนอยู่แปรปรวน แผ่นดินไหวโยกทำให้เขายืนทรงตัวไม่อยู่ จนต้องเฝ้าถามย้ำกับตัวเองอีกครั้ง เป็นอะไรไป?“นายครับ”“มีอะไร”“จะเปลี่ยนใจก็ยังทันนะครับ” กลับไปคราวนี้ศึกหนักหนาสาหัสรอนายอยู่ แล้วก็ไม่รู้จะใช้เวลานานเท่าไหร่ ถึงสามารถเคลียร์เรื่องราวให้มันจบลงไปด้วยดี เขาอยากให้นายได้มีเวลาอยู่กับกฤติกาอีกหน่อย ได้เก็บช่วงเวลานี้ไว้เป็นกำลังใจยามที่ต้องต่อสู้กับเรื่องร้าย“ฉันไม่เป็นไร” อาการเขาคงหนักมากจริงๆ แม้กระทั่งลูกน้องยังสังเกตเห็นได้“จะให้คุณ...”“อย่าเลย” รู้ว่าเดโก้จะเสนออะไร เขาเองก็เคยคิดแวบ ๆ แต่คิดแล้วคิดอีกหลายตลบอยู่ ส่วนหนึ่งก็เพื่อความปลอดภัยของกฤติกา แต่อีกส่วนก็มาจากตัวเองที่ดันปากหนักเองช่วยไม่ได้ ถ้าเอ่ยปากชวนแม่เนื้อนุ่มไปด้วยนะ ป่านนี้ก็มีเธอข้างกายเรียบร้
“ลูกไก่” เอ่ยเรียกเสียงแหบพร่า ฝ่ามือหนาไล้ลูบอย่างแผ่วเบาอ่อนโยน ริมฝีปากร้อนผ่าวทาบทับจุมพิตไต่เลื่อนเคลื่อนไปบนผิวกายเนียนนุ่มลื่นราวกับแพรไหมอย่างเชื่องช้า“ขา...” กฤติกาขานรับ เพียงแค่มองสบนัยน์ตากับอีกฝ่ายก็รู้แล้วว่าเขาต้องการสิ่งใด ไม่จำเป็นต้องเอ่ยด้วยคำพูดอีกแล้ว... “เมื่อไหร่คะคุณเจ” เธออยากรู้ มีเวลานานเท่าไหร่ในอ้อมแขนแกร่งนี้“พรุ่งนี้” ตอบกลับเสียงพร่าแหบราวกับในอกถูกก้อนหินไร้น้ำหนักกดทับอยู่“เร็วจังเลยนะคะ” เปรยเสียงแหบแห้ง อยากขอเขาว่าอย่างเพิ่งไปได้ไหม อยู่กับเธออีกสักวันได้ไหม แต่กฤติกาก็พูดไม่ออก ด้วยรู้ถึงความอึดอัดใจของอีกฝ่าย คงทำได้แค่...ใช้เวลาที่มีอยู่ให้มีค่าที่สุด เก็บเอาไว้เป็นความทรงจำในวันต้องจากร้างห่างลากัน“ฉัน...” ถ้าเธอพูดอะไรนอกจากนี้สักคำ เขาคงรู้สึกดีกว่าการได้รับรอยยิ้มแห้งๆ นัยน์ตาหวานเศร้าอมโศกอย่างนี้นิ้วยาวเล็กยื่นไปทาบบนปากหนา “ไม่เป็นไรค่ะ ลูกไก่รู้ว่าคุณเจจำเป็น แค่...คืนนี้ เรา...” ปวดร้าวไปหมดทั้งทรวงจนพูดไม่ออก“ฉันรู้...คืนนี้ จนถึงเวลานั้น” ไม่อยากพูดถึงเวลาจำต้องลาจาก “เราจะมีกันและกันใช่ไหมลูกไก่”“ค่ะ...เราจะมีกันและกัน” กฤติกา
“ว่าไงอันเจโล่ จะบอก หรือจะให้ลูกไก่เจ็บมากกว่านี้”“อย่านะคุณเจ อย่า...‘บอก’” กลายเป็นเสียงกรีดร้องแทน เมื่อบาดแผลถูกกดเปิดออกจนเลือดไหลซึมออกมา“ลูกไก่!” กัดฟันกรอด อยากลุกขึ้นไปช่วยแม่หวานใจจนตัวสั่น แต่เพราะถูกจับเอาไว้เลยต้องทนเห็นแม่เนื้อนุ่มร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด จะไม่สัญญาใด ๆ ทั้งสิ้น แต่มีโอกาสพาตัวเองหลุดรอดไปเมื่อไหร่ ริวาโก้ต้องรับผิดชอบในความเจ็บของลูกไก่น้อย แน่นอน!“ว่าไงอันเจโล่ หรือจะให้ฉัน...” ไม่ได้ยินดีกับความเจ็บปวดของใคร แต่มันจำเป็น“ได้” กัดฟันกรอดขณะตอบอีกฝ่าย “ฉันยอมบอก แต่แกห้ามทำร้ายลูกไก่”“ไม่นะคุณเจ! ยะ...อย่า...” กฤติการ้องห้ามก่อนเสียงจะขาดหายไป ด้วยเจ็บและหน้ามืด พ่วงด้วยความรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งร่าง แต่กลับรู้สึกเหมือนมีเหงื่อผุดไหลข้างขมับและแผ่นหลัง“อย่าคิดตุกติกนะอันเจโล่ แกทำเมื่อไหร่ เตรียมตัวเห็นลูกไก่กลายเป็นคนที่มีร่างที่ไร้วิญญาณแน่นอน” ไม่ได้ขู่แม้แต่นิดเดียว เอาจริงทุกคำพูดด้วย เขายอมทำทุกอย่างทุกทางเพื่อให้อันเจโล่และครอบครัวประสบกับความหายนะ แก้แค้นให้กับตัวเองและทุกๆ คนที่ถูกกระทำจากครอบครัวนี้ให้สาสม!อันเจโล่มองดวงหน้าผุดผาดขาวซีด
อันเจโล่หน้าตึง ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ บิดามีเบื้องลึกเบื้องหลังอันไม่ดี แต่ไม่ว่าจะยังไง ท่านก็คือบิดาผู้ให้กำเนิด “พ่อฉันไปทำอะไรแก อย่าพูดใส่ความคนอื่นลอย ๆ ถ้าหากไม่มีหลักฐาน” พ่อเขาคงไม่ได้ไปฆ่าไปแกพ่อแม่หรือผู้มีพระคุณของอีกฝ่าย ให้ต้องตามมาจองล้างจองพลาญตอนโต อย่างกับนิยายน้ำเน่าหรอกนะฮึ...ริวาโก้ปาดเหงื่อบนหน้า หันไปยิ้มหยันใส่พ่อลูกชายสุดแสนเลิศประเสริฐศรี ที่ถึงตอนนี้ยังให้ความรักและเคารพไอ้พ่อเลว ๆ ที่ทำร้ายลูกตัวเองลับหลังได้ลงคอ อยากรู้นักถ้าได้รู้ความจริง คู่ควงของตัวเองลับหลังถูกคนเป็นพ่อลากเข้าห้อง ปู้ยี้ปู้ยำไปไม่รู้สักกี่คนต่อกี่คน อันเจโล่รับได้หรือเปล่าชายหนุ่มพาร่างเพรียวเดินคล้ายคนเมา ทรงตัวไม่ได้ไปหยุดและค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งเบื้องหน้าอันเจโล่ นิ้วยาวไล้บนแก้มตอบเรื่อยลงมาถึงคางบึกบึน ก่อนลากเลยไปถึงจอนหูอีกฝั่ง โน้มใบหน้าไปแนบกับหู หลับตา ซึมซับเอาความอับอายและเจ็บปวดจากการถูกผู้ชายวัยคราวพ่อสั่งให้ถูกน้องจับเอาตัวขึ้นรถ ลากเข้าโรงแรมแล้วทำอย่างกับว่าเขาเป็นผู้หญิงขายเรือนร่าง น้ำตาอุ่น ๆ เอ่อล้นคลอหน่วยตา“พ่อแกข่มขืนฉัน!”“แกเอาเรื่องบ้าบอเฮงซวยอะไรมาใส่ความพ่อฉ
“จะไปไหนลูกไก่ มานี่เลยยายตัวดี” ยื่นมือไปอย่างเร็วจนคว้าเอาเส้นผมหนานุ่มดึงกลับมาอย่างไม่ปรานีปราศรัย วงหน้าแดงปลั่งด้วยเพลิงโทสะ นัยน์ตาฉายแววเกรี้ยวกราดกฤติการ้องโอ๊ยดังลั่น สองมือจับผมบนศีรษะ ดวงหน้าผ่องพรรณเหยเกบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บจากแรงกระตุก พลางสาวก้าวเท้าถอยกลับไปด้านหลังอย่างเร็วรี่ เพราะถ้าขืนดันทุรังไป จะทำให้ตัวเองต้องเจ็บตัวมากขึ้น“ปล่อยฉันนะริวาโก้” กฤติกาพูดเมื่อทนไม่ไหว เจ็บจนน้ำตาแทบไหล เมื่อพูดไปแล้วริวาโก้กระตุกจนในหูได้ยินเสียงดังกราว ราวกับเส้นผมจะหลุดร่วงออกมาทั้งแผง“อย่าทำอะไรลูกไก่นะไอ้ริวาโก้”“ตัวมึงเอง มึงยังเอาไม่รอดเลย ยังจะมาห่วงคนอื่น” หัวเราะใส่หน้า พลางสอดมือมาจับกุมลำคอระหง “ถ้ากูจะหักคอสวย ๆ นี่ทิ้ง มึงจะทำอะไรกูหา...ไอ้อันเจโล่”“ไอ้เลว!” อันเจโล่ฮึดฮัด แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะตัวเองก็ถูกคุมอยู่ จนแขนแทบจะหักออกเป็นสองท่อน “ถ้ากูหลุดไปได้ มึง...พลั่ก!!” พูดไม่ทันจบหมัดหนัก ๆ ก็สวนเข้ามาที่มุมปากเสียก่อน ชายหนุ่มเหลียวไปมองคนที่ทำให้เขาเจ็บด้วยนัยน์ตาดุร้ายราวกับเสือลำบาก ที่พร้อมสู้ไม่เหลียวหลังหนีอีกแล้ว“เอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่าไหมคุณอันเจโล่
“ลูกไก่ไม่เป็นอะไรค่ะ แต่คุณเจน่ะสิ รู้อยู่แล้วว่าคนพวกนั้นเขาต้องการอะไร ยังจะ...” ถ้าเธอไม่บ้าจนเพี้ยนฟังอะไรผิดพลาดไปจนจนกลายเป็นความสะเพร่า ปล่อยให้ตัวเองถูกจับเอาตัวมาเพื่อต่อรองกับอันเจโล่ละก็ ป่านนี้ชายหนุ่มจัดการพวกตัวร้ายพวกนี้จนหมอบราบคาบแก้วไปแล้วบ้าจริง...กลีบปากอิ่มนุ่มขบเม้มเข้าหากัน ก้มหน้าหมองเศร้าด้วยความรู้สึกผิด น้ำตาอุ่นร้อนเอ่อล้นคลอเบ้า เพราะเสียใจที่ตัวเองกลายเป็นต้นเหตุให้อันเจโล่ต้องเพลี่ยงพล้ำ แล้วยังกลายเป็นตัวภาระให้ชายหนุ่มต้องคอยกังวลในความปลอดภัยอีก“ร้องไห้ทำไมล่ะลูกไก่” อันเจโล่จับรั้งปลายคางมนให้แหงนขึ้นมองสบตาด้วย นิ้วยาวร้อยไกล่เกลี่ยกดซับหยดน้ำที่เอ่อล้นไหลซึมลงมาตามร่องแก้ม “หรือกลัวฉันเป็นอันตรายฮึ”“แต่ถ้าไม่มีลูกไก่สักคน คุณเจก็คงไม่...”อันเจโล่รีบยกมือปิดปากคนตัวเล็ก ศีรษะทุยสะบัดส่ายเบาๆ “ถึงไม่มีเธอ ริวาโก้ก็ต้องหาทางเล่นงานฉันจนได้นั่นแหละ เพียงแค่ประจวบเหมาะเล็กน้อยเท่านั้นเอง ไม่เป็นไรหรอกเรื่องขี้ปะติ๋ว ฉันรับมือได้สบายมาก” แม้จะกังวล ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ไม่สู้ดีเอาเสียเลย หนทางหนีแทบปิดตาย ด้วยเมื่อมองไปรอบทิศทั่วทุกทางก็ล้วนแล้วแต่ท้อ