“อย่ามาอวดดีกับข้า วันนั้นทุกคนก็เห็นว่าเจ้าอยู่กับนางเป็นคนสุดท้ายก่อนที่จะตกน้ำลงไป”
“ท่านอ๋อง ไม่คิดว่าพระองค์จะทรงเขลาถึงเพียงนี้”
“บังอาจ!”
ตันฉินหันไปตวาดกงเหรินซินที่ไม่แม้แต่จะนึกกลัวระหว่างที่พูดออกมา แม้ว่าเขาจะรู้สึกเกลียดนางไม่มาก แต่การกระทำก่อนหน้านี้ก็รู้สึกเพียงแค่ไม่ชอบสตรีนางนี้เท่านั้น จนกระทั่งวันนี้ที่นางกล้าด่าท่านอ๋องต่อหน้าเขา
“กงเหรินซิน เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้า…”
“เช่นนั้นพระองค์ก็ลองไตร่ตรองดูเถิดเพคะ ข้าคงโง่มากที่นัดนางออกมาระหว่างงานเลี้ยง แล้วยังโง่ซ้ำซ้อนที่จะผลักนางตกลงไปในสระ โง่ที่สุดก็คือตกไปพร้อมกับนางด้วย มองเช่นไรก็ดูโง่มากแต่คิดไม่ถึงเลยว่า… จะมีคนโง่กว่าข้าที่มองกลนี้ไม่ออก”
“คุณหนูกง!”
“ตันฉิน! เจ้าออกไปก่อน”
“แต่ว่า!”
“ข้าบอกให้เจ้าออกไปก่อน”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ตันฉินหันมามองหน้ากงเหรินซินอีกครั้ง คราวนี้เขาจงใจมองนางซึ่งอีกฝ่ายก็หันมายิ้มเยาะให้เขาเช่นกัน นางไม่จำเป็นจะต้องมีไมตรีกับคนที่พึ่งจะรู้จักก็กล่าวหาว่านางคือฆาตกร
“กงเหรินซิน เจ้าบอกว่า...”
“ข้าจะยอมรับก็ต่อเมื่อข้าเป็นคนทำ เรื่องก่อนหน้านั้นพระองค์เองก็เอาแต่ฟังความข้างเดียวมาโดยตลอดโดยมิได้ถามความจริง หรือว่าพระองค์ทรงตัดสินเพียงแค่สิ่งที่เห็นตรงหน้า หากเป็นเช่นนั้นอยากจะฆ่าก็ฆ่าเถิด”
หมิงเว่ยเซียวไม่คิดว่าจู่ ๆ กงเหรินซินจะพูดด้วยวาจาที่ดูคมคายและฉลาดเช่นนี้ แต่สิ่งที่นางพูดมากลับมีน้ำหนักพอที่จะทำให้เขาลังเล อีกอย่างด้วยท่าทางที่นิ่งและไม่เกรงกลัวเขา ช่างน่าประทับใจได้อย่างน่าประหลาด
“เจ้าบอกว่าวันนั้น…”
“แม้ว่าข้าจะจดจำเรื่องในวันนั้นได้ไม่หมด แต่ข้าคงไม่โง่พอที่จะลงมือทำร้ายผู้ใดในงานเลี้ยง อีกทั้งยังเป็นในเขตวังหลวง”
“เช่นนั้นวันนั้นเจ้าไปที่นั่นได้อย่างไร แล้วตกลงไปในสระนั้นพร้อมกับจินหรูได้อย่างไร”
เมื่อเขาเริ่มถาม กงเหรินซินก็เริ่มหลับตาและรู้สึกราวกับหัวจะระเบิดออกมา ในตอนนั้นคือเวลาที่นางมาเข้าร่างของกงเหรินซิน ดังนั้นเรื่องราวก่อนหน้านั้นมีเพียงความทรงจำเลือนรางของเจ้าของร่างเท่านั้นที่จดจำได้
“เจ้าเป็นอะไร เจ้า…”
นางค่อย ๆ ส่ายหัวไปมาเพราะเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ท่านอ๋องทรงถาม
“มีสาวใช้ในวัง บอกว่ามีคนรอพบที่อุทยานของวังหลัง ในตอนนั้นข้ารู้สึกเบื่อจึงได้เดินออกไป ใครจะคิดว่าเมื่อไปถึงก็พบกับ…ซ่ง..จินหรูอยู่ที่นั่น แต่ไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใดก็... หลังจากนั้น ...”
“เจ้าบอกว่ามีคนบอกเจ้า สาวใช้งั้นหรือเช่นนั้นเจ้าชี้ตัวนางได้หรือไม่”
สายตานางเริ่มเลือนราง พระพักตร์ท่านอ๋องตรงหน้าเริ่มเลือนรางอีกทั้งเสียงของพระองค์ก็เริ่มฟังไม่รู้เรื่อง
“เจ้าเป็นอะไรไป กงเหรินซิน”
“ท่านอยากถามอะไรก็รีบถามมา ข้า… ไม่ได้ฆ่าใคร ข้าไม่มีทางยอมรับผิด”
“เจ้า!”
ท่านอ๋องกำลังลุกเข้าไปเพื่อจะดูอาการของนางแต่นางกลับใช้หัวไหล่ปัดมือหนาของเขาออก ตัวนางที่แผ่ความร้อนออกมาทำเอาพระทัยท่านอ๋องรู้สึกวาบหวิวแปลก ๆ พระองค์ไม่ทราบว่านางยังไม่หายดี
“เจ้ายังมีไข้อยู่งั้นหรือ”
“อย่ามาแตะต้องตัวข้า”
ไม่นานเมื่อท่านอ๋องจะพยุงนางลุกขึ้น ตันฉินก็วิ่งเข้ามายังคุกใต้ดินด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนกอีกครั้ง
“ท่านอ๋อง เกิดเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้น”
“คุณหนูซ่งเป็นลมพ่ะย่ะค่ะ”
“อะไรนะ แล้วเรียกหมอหรือยัง”
“ท่านหมอรีบมาดูอาการแล้วพ่ะย่ะค่ะนางอยู่กับคุณหนูจาง เพียงแค่ทราบว่าพระองค์พา...เอ่อ คุณหนูกงมาที่นี่อาการของคุณหนูซ่งก็ทรุดลงไป...”
“พอแล้วไม่ต้องพูด เจ้ารีบให้คนมาพาคุณหนูกงไปพักที่ห้องรับรองแขก ข้าจะรีบกลับไปดูอาการของจินหรูแล้วจะรีบกลับมาหานาง”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ท่านอ๋องหันไปมองกงเหรินซินที่นั่งหมดแรงอยู่ที่เก้าอี้โดยมิได้กล่าวสิ่งใดอีก ท่าทีนี้ไม่เหมือนนางเลยสักนิด หากเป็นเมื่อก่อนนางคงไม่ปล่อยโอกาสที่จะเข้ามาออดอ้อนเขาเป็นแน่แต่นี่นอกจากไม่ทำ นางยังแสดงออกชัดเจนว่าเกลียดเขา
“ข้าจะส่งเจ้าไปพักที่เรือนรับรองก่อน แล้วค่อยมาสอบถามเจ้าใหม่”
“ข้าอยากกลับจวน”
“ตันฉิน จัดการด้วย”
“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อท่านอ๋องไปแล้ว ตันฉินก็รีบไปตามสาวใช้ในจวนสองสามคนเพื่อจะให้พากงเหรินซินไปพัก แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีคนที่ไปหานางก่อนที่สาวใช้ที่ตันฉินไปเรียกจะไปถึงก่อน
“เป็นเจ้าจริง ๆ”
เหรินซินได้ยินเสียงแต่ยังไม่ลืมตาขึ้นมา นางไม่แน่ใจว่าเสียงที่ได้ยินเป็นผู้ใดกันแน่ แต่น้ำเสียงนี้ฟังแล้วไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ ๆ ทำให้เหรินซินเริ่มรวบรวมกำลังทั้งหมด
“เอาน้ำมาสาดนาง”
""เจ้าค่ะ""
สาวใช้สาดน้ำมาที่เหรินซินตามคำสั่ง เมื่อถูกน้ำสาดซ้ำทำให้สตินางฟื้นคืนอีกครั้งพร้อมความตกใจ พอลืมตาขึ้นมาได้ก็เห็นหน้าผู้ที่กระทำซึ่งราวกับรู้โดยทันทีว่านางคือใคร
“กงเหรินซินเจ้ากล้าทำร้ายน้องจินหรู ผลักนางตกลงไปในสระจนเกือบตายตอนนี้เอาแต่เพ้อว่าอย่าฆ่านาง เจ้าจะชดใช้เช่นไร”
“หึ ให้ข้าชดใช้อะไรในเมื่อข้าไม่ได้ทำ เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาไต่สวนข้า”
“ข้าเป็นบุตรของเจ้ากรมขุนนาง “จางซื่อ” เจ้ากล้ากลั่นแกล้งน้องจินหรูครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งนี้ข้าจะไม่มีทางปล่อยให้เจ้าลอยนวลได้”
“น่าขัน เจ้าเป็นเพียงบุตรขุนนางยังกล้ามาบอกว่ามาที่นี่เพื่อไต่สวนข้างั้นหรือ ท่าทางของเจ้าเหมือนพวกหมาหมู่ที่ไม่กล้ามาคนเดียวเสียมากกว่า”
“เจ้า!! กงเหรินซินเหตุใดเจ้าจึงหยาบคายเช่นนี้ ต่อให้วันนี้เจ้าไม่ได้ทำข้า “จางลี่เหมย” ก็ไม่มีทางละเว้นเจ้า”
‘ที่แท้นางก็คือจางลี่เหมย สหายสนิทของซ่งจินหรูนี่เอง นางเองก็ชอบพอท่านอ๋องเหมือนกับเจ้าของร่างนี้และยังมีซ่งจินหรูคอยส่งเสริมจึงได้เกลียดกงเหรินซินสินะ’
“เจ้าหัวเราะอะไร จับนางขึ้นมาวันนี้ข้าจะตบสั่งสอนนางที่กล้าทำร้ายน้องจินหรู”
""เจ้าค่ะ""
“เจ้า… กล้าหรือ ไม่กลัวว่าท่านอ๋องจะกล่าวโทษเจ้างั้นหรือ”
“เจ้าไม่ต้องมาข่มขู่ข้า ตอนนี้ท่านอ๋องไปดูแลน้องจินหรูอยู่ป่านนี้คงลืมเจ้าไปแล้ว อย่าลืมสิกงเหรินซินว่าเจ้าเป็นคนที่ท่านอ๋องเกลียดมากที่สุด เจ้าไม่เห็นหรือว่าพระองค์ทำกับเจ้าเช่นไร เพียงแค่สอบสวนก็พาเจ้ามาที่คุกใต้ดินที่เอาไว้ขังนักโทษเดนตาย นี่เจ้ายังคิดว่าจะมีคนสนใจเจ้าอยู่งั้นหรือ”
“จางลี่เหมยหากวันนี้เจ้ากล้าแตะต้องข้า อย่าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้า”
“นี่เจ้าขู่ข้างั้นหรือ จับนางเอาไว้!”
สาวใช้สี่คนเดินมารวบตัวนางเพื่อตรึงอยู่กับที่ เหรินซินที่ไข้ขึ้นสูงและยังแทบไม่มีแรงจึงไม่สามารถใช้วรยุทธ์ได้แม้จะยังพอมีแรงเหลือ แต่พวกนางมีกันหลายคนจึงไม่สามารถช่วยตัวเองได้
“ปล่อยข้านะ!”
“เพี๊ยะ!”
“เจ้า...”
“เพี๊ยะ!!”
แรงตบด้วยความสะใจของจางลี่เหมยทำให้ใบหน้าที่เคยงดงามของเหรินซินเริ่มมีรอยเล็บ ริมฝีปากเริ่มแตก เลือดกำเดาที่จมูกเริ่มไหลออกมา แต่นางก็ยังไร้เรี่ยวแรงที่จะปกป้องตัวเอง ได้แต่พร่ำบ่นในใจ
‘ช่างน่าสังเวชยิ่งนัก ชาติก่อนถูกคนให้ร้ายว่าฆ่าอาจารย์ มาชาตินี้แม้จะเป็นคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ แต่กลับถูกใส่ร้ายว่าฆ่าคนอีกทั้งยังถูกทำร้ายไม่ต่างกัน นี่ข้าทำกรรมอะไรไว้กันแน่’
“ทำไม เจ้ากลัวแล้วงั้นหรือ ข้าจะดูสิว่าเจ้าจะทนแส้นี้ได้กี่ครั้ง”
จางลี่เหมยหยิบแส้ม้าเดินเข้ามาใกล้ เมื่อกงเหรินซินเห็นก็เริ่มเบิกตากว้างขึ้นมา
“กงเหรินซิน เจ้าเคยกลั่นแกล้งข้าและน้องจินหรูนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งนี้ได้เวลาที่ข้าจะเอาคืนแล้ว”
“เพี๊ยะ!”
“อย่านะ!! พวกเจ้าจะทำสิ่งใดปล่อยนางเดี๋ยวนี้นะ!!”
เขาตงซาน สำนัก “ไป๋ซาน” “ศิษย์พี่! นางวิ่งไปทางหน้าผา”“ตามไป”""ขอรับ""ฝีเท้าที่เร่งก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งพร้อมกับบาดแผลที่แขนด้านขวาซึ่งถูกชายที่เป็นทั้งศิษย์พี่ที่เคารพ และเป็นชายในดวงใจแทงเป็นบาดแผลลึก บาดแผลนั้นแม้จะไม่ได้อันตรายถึงชีวิตแต่ก็ลึกมากพอที่จะทำให้หัวใจของผู้ที่ถูกแทงแทบแตกสลาย“ชิงชิง!! เจ้าหยุดนะ!!”ตรงหน้าคือหน้าผา อีกฝั่งคือศิษย์ร่วมสำนักนับสิบที่รายล้อมเข้ามาเพื่อจัดการนางคนเดียว ปลายดาบของศิษย์น้องและศิษย์ร่วมสำนักหันมาหานางที่ยืนอยู่ปลายหน้าผา“แค่ต้องการจะจับข้าเพียงคนเดียว ถึงกับต้องรวบรวมคนมามากถึงเพียงนี้เชียวหรือ”“ชิงชิง เจ้ายอมแพ้แล้วกลับไปกับข้าเถอะ”“ข้ามิได้สังหารอาจารย์!!”“มาพูดตอนนี้จะมีผู้ใดเชื่อ! เจ้าเป็นคนที่อยู่กับอาจารย์ “ลั่วเฉิง” เป็นคนสุดท้าย เจ้าฆ่าอาจารย์เพราะไม่พอใจที่อาจารย์ยกตำแหน่งเจ้าสำนักให้ศิษย์พี่ “เฉินกวน” ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก”“ศิษย์น้อง พอเถอะ”“แต่ว่า!!”“ข้าบอกให้พอได้แล้ว!”“ศิษย์พี่ จนป่านนี้ท่านก็ยัง…”“พี่ลี่เจินอย่าพึ่งพูดอันใดเลยเจ้าค่ะ เรื่องในห้องของอาจารย์เป็นเช่นไรยังไม่มีผู้ใดรู้แน่ ตอนนี้ศิษย์พี่ชิงชิงก็
จวนสกุลกง “ข้ามิได้ฆ่านาง ข้าเองก็ถูกนัดไปที่นั่น ข้ามิได้ทำนะ ข้าไม่ได้ทำ!!”“เจ้าเป็นใคร”“ข้าจะกลับมาที่ร่างของข้าแต่กลับไม่ได้ เจ้านั่นแหละคือผู้ใด เหตุใดจึง…ฮือ…ข้ากลับไม่ได้แล้ว…”“เจ้า… คือใคร”“ข้าชื่อ “กงเหรินซิน” บุตรีคนที่สามของแม่ทัพใหญ่แห่งซานโจวกงฮั่ว ข้าเป็น… ข้า..”“เจ้าทำอะไรลงไป”เยว่ชิงชิงไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ทันทีที่สตินางดับสูญที่หน้าผาเขาตงซาน นางก็รู้สึกหายใจไม่ออกและไม่เคยรู้เลยว่าใต้เทือกเขาสูงนี้จะมีแม่น้ำอยู่แต่ทว่าภาพที่นางกำลังเห็นอยู่ในตอนนี้กลับทำให้นางต้องสงสัย“นี่มันเรื่องอะไรกัน เหตุใดข้าถึงเห็นภาพเหล่านี้”ไม่นานเยว่ชิงชิงจึงได้เข้าใจ สิ่งที่นางเห็นคือสิ่งที่พึ่งจะเกิดขึ้นก่อนที่นางจะถูกนำตัวมายังเตียงอุ่น ๆ ในห้องนอนนี้“ข้าเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของแม่ทัพกงฮั่วผู้ยิ่งใหญ่ มีทั้งบุญคุณต่อแผ่นดินและราชสำนัก แม้นข้าจะเป็นสตรีที่หัวรั้นและโง่เขลาที่หลงรักบุรุษเพียงคนเดียวอย่างโง่งมเช่น "หมิงชินอ๋อง" ทั้ง ๆ ที่เขามิเคยเหลียวแลข้าเลย ถึงขั้นรังเกียจด้วยซ้ำไป"“หมิงชินอ๋อง กงเหรินซิน กงฮั่วนี่มันเรื่องอะไรกัน โอ๊ย!!”ไม่นานเสียงเรียกของใครบางคนก็ทำใ
“อะไรนะ! แย่แล้วทำอย่างไรดีเล่าเจ้าคะ คุณชายรองไปที่กรมคลังยังไม่กลับเลย ตอนนี้ท่านอ๋องยังพาทหารบุกจวกมาจับท่านอีก คุณหนู…”“หมิงชินอ๋อง”“ข้าเป็นสตรีโง่เง่าที่หลงรักชายเพียงคนเดียว “หมิงเว่ยเซียว” แม้ว่าเขาจะเกลียดข้ามากข้าก็ยังรักเพียงเขา”“ที่แท้ก็เป็นเขา”“คุณหนูเจ้าคะ คราวนี้แย่แน่ ๆ ท่านเคยมีปัญหากับคุณหนูซ่งอยู่หลายครั้ง ท่านอ๋องก็คิดจะเอาเรื่องมาโดยตลอดแต่ยังไม่มีโอกาส คราวนี้พระองค์ฉวยโอกาสตอนที่คุณชายรองไม่อยู่มาหาท่านที่จวนคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ทำอย่างไรดีเจ้าคะ”“จะทำอย่างไรก็ต้องไปต้อนรับน่ะสิ”“คุณหนู แม้ว่าท่านจะชื่นชมท่านอ๋องมากเพียงใดแต่ว่าครั้งนี้…”“ข้ามิได้ทำสิ่งใดผิด เหตุใดจึงต้องกลัว”“แต่ว่า...”“ไปกันเถอะ”กงเหรินซินเดินออกไปยังเรือนหน้าซึ่งเป็นห้องโถงรับแขก เมื่อเดินเข้ามาถึงก็เห็นบุรุษหนุ่มในชุดสีขาวยืนหันหลังกอดอกอยู่พร้อมกับเหล่าทหารที่เขาพามาด้วยเมื่อนางเข้ามาเขาจึงหันมามองนางอีกครั้งแต่สายตาที่ราวกับดูถูกและเห็นคนที่เกลียดยืนอยู่ตรงหน้ามิได้ทำให้เหรินซินรู้สึกอันใด“เจ้ามาแล้วงั้นหรือ”“คุณหนูเจ้าคะ”เหรินซินหันไปมองหน้าสาวใช้ที่กระตุกแขนเสื้อนางแต่กลับไม่
“อย่ามาอวดดีกับข้า วันนั้นทุกคนก็เห็นว่าเจ้าอยู่กับนางเป็นคนสุดท้ายก่อนที่จะตกน้ำลงไป”“ท่านอ๋อง ไม่คิดว่าพระองค์จะทรงเขลาถึงเพียงนี้”“บังอาจ!”ตันฉินหันไปตวาดกงเหรินซินที่ไม่แม้แต่จะนึกกลัวระหว่างที่พูดออกมา แม้ว่าเขาจะรู้สึกเกลียดนางไม่มาก แต่การกระทำก่อนหน้านี้ก็รู้สึกเพียงแค่ไม่ชอบสตรีนางนี้เท่านั้น จนกระทั่งวันนี้ที่นางกล้าด่าท่านอ๋องต่อหน้าเขา“กงเหรินซิน เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้า…”“เช่นนั้นพระองค์ก็ลองไตร่ตรองดูเถิดเพคะ ข้าคงโง่มากที่นัดนางออกมาระหว่างงานเลี้ยง แล้วยังโง่ซ้ำซ้อนที่จะผลักนางตกลงไปในสระ โง่ที่สุดก็คือตกไปพร้อมกับนางด้วย มองเช่นไรก็ดูโง่มากแต่คิดไม่ถึงเลยว่า… จะมีคนโง่กว่าข้าที่มองกลนี้ไม่ออก”“คุณหนูกง!”“ตันฉิน! เจ้าออกไปก่อน”“แต่ว่า!”“ข้าบอกให้เจ้าออกไปก่อน”“พ่ะย่ะค่ะ”ตันฉินหันมามองหน้ากงเหรินซินอีกครั้ง คราวนี้เขาจงใจมองนางซึ่งอีกฝ่ายก็หันมายิ้มเยาะให้เขาเช่นกัน นางไม่จำเป็นจะต้องมีไมตรีกับคนที่พึ่งจะรู้จักก็กล่าวหาว่านางคือฆาตกร “กงเหรินซิน เจ้าบอกว่า...”“ข้าจะยอมรับก็ต่อเมื่อข้าเป็นคนทำ เรื่องก่อนหน้านั้นพระองค์เองก็เอาแต่ฟังความข้างเดียวมาโดยตลอดโดยมิได้
“อะไรนะ! แย่แล้วทำอย่างไรดีเล่าเจ้าคะ คุณชายรองไปที่กรมคลังยังไม่กลับเลย ตอนนี้ท่านอ๋องยังพาทหารบุกจวกมาจับท่านอีก คุณหนู…”“หมิงชินอ๋อง”“ข้าเป็นสตรีโง่เง่าที่หลงรักชายเพียงคนเดียว “หมิงเว่ยเซียว” แม้ว่าเขาจะเกลียดข้ามากข้าก็ยังรักเพียงเขา”“ที่แท้ก็เป็นเขา”“คุณหนูเจ้าคะ คราวนี้แย่แน่ ๆ ท่านเคยมีปัญหากับคุณหนูซ่งอยู่หลายครั้ง ท่านอ๋องก็คิดจะเอาเรื่องมาโดยตลอดแต่ยังไม่มีโอกาส คราวนี้พระองค์ฉวยโอกาสตอนที่คุณชายรองไม่อยู่มาหาท่านที่จวนคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ทำอย่างไรดีเจ้าคะ”“จะทำอย่างไรก็ต้องไปต้อนรับน่ะสิ”“คุณหนู แม้ว่าท่านจะชื่นชมท่านอ๋องมากเพียงใดแต่ว่าครั้งนี้…”“ข้ามิได้ทำสิ่งใดผิด เหตุใดจึงต้องกลัว”“แต่ว่า...”“ไปกันเถอะ”กงเหรินซินเดินออกไปยังเรือนหน้าซึ่งเป็นห้องโถงรับแขก เมื่อเดินเข้ามาถึงก็เห็นบุรุษหนุ่มในชุดสีขาวยืนหันหลังกอดอกอยู่พร้อมกับเหล่าทหารที่เขาพามาด้วยเมื่อนางเข้ามาเขาจึงหันมามองนางอีกครั้งแต่สายตาที่ราวกับดูถูกและเห็นคนที่เกลียดยืนอยู่ตรงหน้ามิได้ทำให้เหรินซินรู้สึกอันใด“เจ้ามาแล้วงั้นหรือ”“คุณหนูเจ้าคะ”เหรินซินหันไปมองหน้าสาวใช้ที่กระตุกแขนเสื้อนางแต่กลับไม่
จวนสกุลกง “ข้ามิได้ฆ่านาง ข้าเองก็ถูกนัดไปที่นั่น ข้ามิได้ทำนะ ข้าไม่ได้ทำ!!”“เจ้าเป็นใคร”“ข้าจะกลับมาที่ร่างของข้าแต่กลับไม่ได้ เจ้านั่นแหละคือผู้ใด เหตุใดจึง…ฮือ…ข้ากลับไม่ได้แล้ว…”“เจ้า… คือใคร”“ข้าชื่อ “กงเหรินซิน” บุตรีคนที่สามของแม่ทัพใหญ่แห่งซานโจวกงฮั่ว ข้าเป็น… ข้า..”“เจ้าทำอะไรลงไป”เยว่ชิงชิงไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ทันทีที่สตินางดับสูญที่หน้าผาเขาตงซาน นางก็รู้สึกหายใจไม่ออกและไม่เคยรู้เลยว่าใต้เทือกเขาสูงนี้จะมีแม่น้ำอยู่แต่ทว่าภาพที่นางกำลังเห็นอยู่ในตอนนี้กลับทำให้นางต้องสงสัย“นี่มันเรื่องอะไรกัน เหตุใดข้าถึงเห็นภาพเหล่านี้”ไม่นานเยว่ชิงชิงจึงได้เข้าใจ สิ่งที่นางเห็นคือสิ่งที่พึ่งจะเกิดขึ้นก่อนที่นางจะถูกนำตัวมายังเตียงอุ่น ๆ ในห้องนอนนี้“ข้าเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของแม่ทัพกงฮั่วผู้ยิ่งใหญ่ มีทั้งบุญคุณต่อแผ่นดินและราชสำนัก แม้นข้าจะเป็นสตรีที่หัวรั้นและโง่เขลาที่หลงรักบุรุษเพียงคนเดียวอย่างโง่งมเช่น "หมิงชินอ๋อง" ทั้ง ๆ ที่เขามิเคยเหลียวแลข้าเลย ถึงขั้นรังเกียจด้วยซ้ำไป"“หมิงชินอ๋อง กงเหรินซิน กงฮั่วนี่มันเรื่องอะไรกัน โอ๊ย!!”ไม่นานเสียงเรียกของใครบางคนก็ทำใ
เขาตงซาน สำนัก “ไป๋ซาน” “ศิษย์พี่! นางวิ่งไปทางหน้าผา”“ตามไป”""ขอรับ""ฝีเท้าที่เร่งก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งพร้อมกับบาดแผลที่แขนด้านขวาซึ่งถูกชายที่เป็นทั้งศิษย์พี่ที่เคารพ และเป็นชายในดวงใจแทงเป็นบาดแผลลึก บาดแผลนั้นแม้จะไม่ได้อันตรายถึงชีวิตแต่ก็ลึกมากพอที่จะทำให้หัวใจของผู้ที่ถูกแทงแทบแตกสลาย“ชิงชิง!! เจ้าหยุดนะ!!”ตรงหน้าคือหน้าผา อีกฝั่งคือศิษย์ร่วมสำนักนับสิบที่รายล้อมเข้ามาเพื่อจัดการนางคนเดียว ปลายดาบของศิษย์น้องและศิษย์ร่วมสำนักหันมาหานางที่ยืนอยู่ปลายหน้าผา“แค่ต้องการจะจับข้าเพียงคนเดียว ถึงกับต้องรวบรวมคนมามากถึงเพียงนี้เชียวหรือ”“ชิงชิง เจ้ายอมแพ้แล้วกลับไปกับข้าเถอะ”“ข้ามิได้สังหารอาจารย์!!”“มาพูดตอนนี้จะมีผู้ใดเชื่อ! เจ้าเป็นคนที่อยู่กับอาจารย์ “ลั่วเฉิง” เป็นคนสุดท้าย เจ้าฆ่าอาจารย์เพราะไม่พอใจที่อาจารย์ยกตำแหน่งเจ้าสำนักให้ศิษย์พี่ “เฉินกวน” ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก”“ศิษย์น้อง พอเถอะ”“แต่ว่า!!”“ข้าบอกให้พอได้แล้ว!”“ศิษย์พี่ จนป่านนี้ท่านก็ยัง…”“พี่ลี่เจินอย่าพึ่งพูดอันใดเลยเจ้าค่ะ เรื่องในห้องของอาจารย์เป็นเช่นไรยังไม่มีผู้ใดรู้แน่ ตอนนี้ศิษย์พี่ชิงชิงก็