หลี่เมิ่งเหยารีบเดินทางไปยังเรือนโลกันตร์ นางมีกุญแจประตูหลัง ที่นี่ไร้คนเฝ้ายามเพราะมีกลไก ป้องกันโจรผู้ร้ายเอาไว้ หากใครต้องการงัดแงะกุญแจที่คล้อง จะมีกรงขังหล่นลงมา ครอบคนผู้นั้นเอาไว้ นางจ้างช่างที่ทำเรื่องกลไก มาทำให้อย่างลับ ๆ ลงลายมือชื่อห้ามเปิดเผยเรื่องนี้ นางไขกุญแจเข้าไปด้านใน
131 : กรรมตามสนองชัด ๆ กงหนิวอู๋เจี๋ยกับอาซิ่ง ตกใจจนเกือบหัวใจวายตาย ตอนเห็นสองสามีภรรยา เดินออกมาจากด้านในร้าน พวกเขาคิดว่าเป็นโจรผู้ร้าย มาขโมยของในหอโอสถเสียอีก “เหตุใดท่านเซี่ยโหว ต้องสวมชุดคนไข้ของเราด้วยขอรับ ไม่สบายอย่างนั้นรึ” กงหนิวอู๋เจี๋ยเข้าใจว่าเถ้าแก่เนี้ยของตน
ฉีฟู่โบกมือให้ลูกชายคนโตอย่างหงุดหงิด “ให้เจ้าไปจัดการก็แล้วกัน” ฉีหมิงเฉียวรับปากบิดา “ได้ขอรับ” “ท่านพ่อพวกเราเรียกรวมคน บุกไปฆ่าพวกมันให้หมดเลยดีไหม ปล่อยไว้เช่นนี้มีแต่คน จะดูถูกดูแคลนคนแซ่ฉีเอาได้” ฉีเยว่ซินอยากเหยียบตระกูลเซี่ยโหวให้จมฝ่าเท้ายิ่งนัก
132 : เทศกาลตรุษจีน เรื่องราวการลอบวางเพลิงของสองตระกูล ค่อย ๆ ถูกลืมเลือนลงไป เนื่องจากทุกคนกำลังเตรียมตัวในวันตรุษจีน ที่จะถึงในไม่กี่วันนี้แล้ว แม้ว่าผู้คนยากไร้แต่คนในเมืองหยางเป่ย ไม่มีใครยอมให้วันตรุษจีน เงียบเหงาอย่างแน่นอน มีมากมีน้อยพวกเขาก็ต้องจัดวันตรุษจีนให้ได้ ก่
“บ้านเจ้าก็ทำโคมงามเหมือนกัน” “บ้านเจ้าทำรูปกระต่ายก็ดูน่ารักไม่น้อย” หญิงชราน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อย “ดีจริง ๆ ปีนี้พวกเราได้เห็นความครึกครื้นกันเสียที ต้องขอบคุณเถ้าแก่ห้างเข่อซิง นอกจากจะไม่คิดค่าเช่าหนึ่งเดือน ยังรับซื้อโคมไฟกับตุ้ยเหลียนของชาวบ้านอีกด้วย” บุตรชาย
133 : ใช่ ๆ เป็นราษฎรเหมือนกันทั้งนั้น ! หลี่เมิ่งเหยานั่งไปสักพัก ก็เห็นสามีของนางเดินเข้ามาในร้าน เด็ก ๆ ลุกขึ้นทักทายเขาอย่างสุภาพ ก่อนแยกย้ายกันไปนั่งที่โต๊ะของตนเอง “ข้าหาเจ้าตั้งนาน มาอยู่ที่นี่นี่เอง” เขาทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับภรรยา ก่อนหน้าแวะไป
เก่อซีฮันส่ายหน้าไปมาอย่างท้อแท้ “ข้าก็ไม่เข้าใจหรอก” ฮวาฮวาน้อยไม่รู้เรื่อง แต่นางส่ายหน้าตามพี่ชายไปด้วย เสี่ยวหยวน “...” เจ้าจะหัวเราะเพื่อ ทั้งโต๊ะพลันหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ทำให้บรรยากาศในร้านพลอยรื่นเริงขึ้นมา ลูกค้าโต๊ะอื่นพากันมองมาด้วยความสงส
134 : ป้าหลิวหากข้าถือโคมไฟจะดูน่าเกลียดหรือไม่ หลี่เมิ่งเหยาคิดว่าเรือนของท่านอารอง ควรได้มีกิจการเป็นของตัวเอง นางเกริ่นกับสามีให้เขาไปหารือกับบิดาในภายภาคหน้า “เจ้าจะออกเงินให้พวกเขารึ” เซี่ยโหวหานเฟิงหันมาเลิกคิ้วถามนาง “ไม่ใช่ว่าข้าอยากออกเงินให้ ข้าหมายถึงว่
ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน
“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ
147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ
“ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร
“เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย
146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง
ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส
145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ
“ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว