38 : ทำเช่นนั้นยาจะไม่ติดคอเอารึ.. “เหตุใดถึงได้ไร้มารยาทเช่นนี้” ลู่เฉิงเยี่ยนตำหนินางเบา ๆ แต่สายตากลับมองไปยังคนที่นั่งอยู่บนรถเข็น “จริงอย่างที่เมิ่งเหยาเอ่ยมา การตัดสินใจเป็นของพวกท่าน ข้าพาคนมาแล้ว คนก็บอกแล้วว่าถูกวางยาพิษ ส่วนพวกท่านจะรักษาหรือไม่ ก็หารือกันเอาเองเถอะ
“ใช้ลมปราณช่วยให้ยากระจายสู่ร่างกายได้เร็วขึ้น” นางเอ่ยหลังนำมือออกจากตัวของเสนาบดีหยวนแล้ว “เจ้ามีพลังลมปราณด้วยรึ” หมอหลวงกู่แทบไม่เชื่อในเรื่องที่ได้ยิน แม้เขาไม่มีความรู้เรื่องพลังลมปราณ ล้วนแต่ผู้มีวรยุทธ์สูงส่งเท่านั้นถึงมี สตรีนางนี้อายุเลยวัยปักปิ่นมาไม่กี่ปีเอง เหตุใ
39 : คุณหนูมีปานสีแดงด้านหลังด้วยเจ้าค่ะ หมอหลวงกู่เลยต้องเป็นคน อธิบายเรื่องการรักษาให้ทุกคนได้รู้ จากนั้นพวกเขาก็พากันเข้าไปดูเสนาบดีหยวนภายในห้อง ครั้นเห็นว่าสีหน้าของท่าน ดูดีขึ้นกว่าเดิมอยู่ไม่น้อย จึงพากันกลับออกไปรออยู่ด้านนอก “แค่อยู่อธิบายให้พวกเรารู้แค่นี้ เหตุใดนาง
“คุณหนูหลี่เจ้ามาแล้ว” นายหญิงผู้เฒ่ามีท่าทีต่างจากเมื่อวานลิบลับ เข้ามาจับมือพร้อมรอยยิ้มขอบคุณ “สามีของข้าสามารถลุกนั่งได้แล้ว ต้องขอบคุณเจ้าจริง ๆ” “การรักษามีความคืบหน้า ข้าก็วางใจเจ้าค่ะ” หลี่เมิ่งเหยาเอ่ยเสียงเรียบ ค่อย ๆ ดึงมือตัวเองออกมา “เจ้าเข้าไปดูเขาก่
40 : นั่นไม่อดีตคู่หมั้นของเจ้าหรอกรึ หยวนเหวินเซียวมองตามหลังนางไป ก่อนหันมาทางผู้เป็นย่า “ท่านย่าข้าขอตัวก่อนขอรับ” “ไปเถอะ” ซ่งหลินต๋าเข็นรถเข็นของเขา ออกจากเรือนของเสนาบดีหยวนไป พอพ้นสายตาผู้คนถึงได้ถามผู้เป็นนาย ว่าต้องการให้เข็นรถไปที่ไหน “เรือนข
“คุณชายจางอย่าได้ไปข้องแวะกับพวกเขาเลยเจ้าค่ะ” โจวหยุนเอ๋อมองเห็นรถเข็น ที่จอดอยู่ด้านข้างโต๊ะของอดีตคู่หมั้น พลันดวงตาของนางไหววูบลง แต่พอมองสตรีที่นั่งอยู่ตรงนั้น ใบหน้างดงามไม่น้อยเลยทีเดียว “ข้าเรียนสำนักศึกษาเดียวกันกับหยวนเหวินเซียว เหตุใดจะเข้าไปทักทายไม่ได้” จางอ้ายหม
41 : เถ้าแก่เนี้ยท่านทำการค้าแต่ไม่มีจุดขายของตัวเองรึ ลุงจงได้นำทางนางมาทำความรู้จัก กับเถ้าแก่เนี้ยของหอโอสถฝูหลิง ตอนแรกนึกว่าจะเป็นชายชราผู้หนึ่งเสียอีก คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแม่นางอายุราวยี่สิบปีเท่านั้น “นี่คือเถ้าแก่เนี้ยเสิ่นหลิงเซียงขอรับคุณหนู เถ้าแก่เนี้ยนี่คือคุณหนูหล
“ใช่ว่าข้าไม่เคยซื้อ แต่พวกเขากลับไม่ได้มีสูตรยาอะไรเด่นเป็นพิเศษ พอเอ่ยออกมาก็ไม่ได้ต่างจากหอโอสถอื่นเลย ข้าจะเสียเงินซื้อตัวมาแพง ๆ ทำไมกัน หากมันไม่ใช่สูตรลับแต่มีเกลื่อนท้องตลาดเช่นนั้น” หลี่เมิ่งเหยามองปัญหาของที่นี่ออกแล้ว “ข้าเข้าใจแล้วล่ะ เช่นนั้นมาเอ่ยถึงเรื่องการค้า
ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน
“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ
147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ
“ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร
“เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย
146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง
ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส
145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ
“ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว