คณินที่เกิดลังเลว่าสิ่งที่ทำอยู่มันถูกต้องจริงๆหรือเปล่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกผิดแบบนี้ล่ะ สายตาที่เธอมองเขาก่อนหน้านี้มันดูบริสุทธิ์จนเขาเองเกิดหวั่นใจ
" มึงแน่ใจนะไอ้เสือว่ามึงจะเอาแบบนี้จริงๆ "
พยัคฆ์ถึงกับหันหน้ามามองเพื่อนสนิทของตนเพราะไม่คิดว่ามันจะพูดคำนี้ออกมาก่อนหน้านี้เขาวางแผนมาเกือบเดือนและสืบมาอย่างดีว่าเรื่องราวมันเป็นมาแบบไหนแล้วที่สำคัญเรื่องนี้ออกจากปากของเจ้าตัวไม่มีทางที่เขาจะไม่แก้แค้นให้แน่
" กูไม่เคยแน่ใจอะไรเท่านี้มาก่อน "
เมื่อได้ฟังแบบนั้นคณินจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้ายอมรับแล้วก็ปล่อยให้พยัคฆ์อุ้มร่างบอบบางขึ้นพาดไหล่กว้าง แล้วเดินขึ้นรถตู้สีดำสนิทคันหรูไป
" มึงลังเลหรอวะคณิน ไม่ว่าไอ้เสือมันจะตัดสินใจยังไงพวกเรามีหน้าที่สนับสนุนมันก็พอ มึงก็รู้ว่าคนแบบมันห้ามได้ที่ไหน กูรู้นะว่าสิ่งที่มันทำอยู่มันไม่ถูกเพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแป แต่ตลอดมาเราก็ใช้กฎหมู่ไม่ใช่กฎหมายมึงไม่ควรอ่อนไหวกับเรื่องนี้ "
คิมหันต์เอ่ยขึ้นเมื่อรถตู้ของพยัคฆ์ลับตาไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนได้กลิ่นไม่ค่อยดีหรือว่าไอ้พี่ชายตัวดีของเขามันจะมีใจให้กับศัตรูของเพื่อน
" กูรู้ กูแค่รู้สึกว่าเธออาจจะไม่ได้เป็นเหมือนที่พวกเราคิดก็ได้ "
" แค่ความรู้สึกของมึงมันเปลี่ยนแปลงความจริงไม่ได้หรอกนะคณิน มึงก็รู้ว่าความจริงมันเป็นยังไงแล้วไอ้เสือมันโกรธผู้หญิงคนนั้นมากแค่ไหน มันไม่มีทางปล่อยผู้หญิงคนนั้นไปหรอกเพราะฉะนั้นมึงทำใจเถอะ "
คิมหันต์พูดเพื่อให้คณินตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ด้วยความที่เป็นฝาแฝดกันจึงเดาใจกันได้ไม่ยาก และคณินเองก็รู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสาวน้อยอย่างเธอ
" อืม "
พยัคฆ์พาคนที่หลับปุ๋ยมายังสถานที่ที่เขาจัดเตรียมเอาไว้เป็นพิเศษสำหรับเธอ ของขวัญที่เขาตั้งใจมอบให้ผู้หญิงที่ทำให้คนที่เขารักที่สุดต้องเป็นแบบนั้น เธอจะต้องชดใช้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวของเธอเอง เขาจะไม่มีวันให้เธอได้มีความสุขนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป
เมื่อมาถึงในป่าลึกก็เจอเข้ากับกระท่อมเก่าๆหลังหนึ่งที่เตรียมไว้ ซึ่งเขาก็อุ้มเธอพาดบ่าลงมาจากรถโดยไม่ให้ลูกน้องช่วยเลยสักคน และเดินเข้าไปยังกระท่อมด้วยแรงกระแทกระหว่างเดินทำให้คนที่หลับไหลอยู่ตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ และหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาก็ตกใจสุดขีด เพราะไม่รู้ว่าคนที่จับเธอพาดบ่าอยู่ตอนนี้เป็นโจรมาจากไหน
" กรี๊ด!!! ปล่อยนะ นี่แกเป็นใครทำแบบนี้กับฉันทำไม ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยที ช่วยด้วย! "
หญิงสาวที่เริ่มสติแตกด้วยความกลัวรีบเอ่ยขอความช่วยเหลือแต่เหมือนว่าบริเวณรอบๆนี้จะน่ากลัวเกินไปมันมืดไปหมดจนเธอมองแทบไม่เห็นอะไรเลย เธอร้องขอความช่วยเหลือไปเรื่อยๆจนสุดท้ายก็โดนโยนลงมาอย่างไม่ใยดี
ตุ๊บ!
" โอ้ย! "
ร่างเล็กร้องอุทานออกมาหลังจากที่จะโดนจับโยนลงมายังแคร่ไม้เก่าๆ ด้วยความแรงทำเอาเธอเจ็บไปทั้งร่างกาย
" เลิกแหกปากสักทีน่ารำคาญ "
เสียงที่ได้ยินทำเอาร่างบอบบางถึงกับเงยหน้ามองเขาในทันที เขาคือผู้ชายที่อยู่ในงานคนที่หักหน้าเธอแล้วเขาจับตัวเธอมาทำไม แล้วที่นี่ที่ไหนคำถามที่เต็มไปหมดภายในหัวของเธอ
" คุณพยัคฆ์คุณจับฉันมาที่นี่ทำไม คุณต้องการอะไรกันแน่ "
อลิสาเลือกที่จะถามความต้องการของเขาไปตรงๆถ้าหากว่าจับเธอมาเรียกค่าไถ่ไม่น่าเป็นไปได้เพราะเขาออกจะรวยล้นฟ้าขนาดนั้นแล้วมีเหตุผลอะไรล่ะที่เขาจะจับเธอมาที่นี่
" หึ! ก็จับมึงมาทรมานไงล่ะ ผู้หญิงแพศยาน่ารังเกียจ คนแบบมึงไม่ควรมีความสุขลอยหน้าลอยตาบนความทุกข์ของคนอื่นหรอกนะ แม้ว่าคนอื่นจะทำอะไรมึงไม่ได้แต่กูเนี่ยแหละจะเป็นคนลงโทษมึงเอง "
ร่างเล็กได้แต่ขมวดคิ้วอย่างสงสัยในสิ่งที่เขาพูด เขาหมายถึงอะไรกันแน่ เธอมั่นใจว่าไม่เคยทำอะไรให้ใครเสียหายตั้งแต่เกิดมาเธอก็เป็นเด็กดีมาโดยตลอดแล้วทำไมเขาถึงมากล่าวหาเธอแบบนี้ต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆ
" หยาบคาย นี่มันเรื่องอะไรกันนายเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฉันไปทำอะไรให้นายเจ็บช้ำน้ำใจนักหนาถึงทำขนาดนี้หรือว่าพาฉันมาที่นี่จะฆ่าฉันเลยหรอ "
ในตอนนี้เธอก็ไม่เรียกเขาว่าคุณแล้วเหมือนกัน
" มึงได้ตายแน่แต่ฆ่ามึงตอนนี้มันง่ายเกินไป คนหน้าเนื้อใจเสืออย่างมึงต้องทรมานอย่างถึงที่สุดก่อนจะตาย กูจะทำให้มึงอยากตายแต่ตายไม่ได้ ทรมานทั้งกายทั้งใจ "
" บ้า! นายมันบ้าไปแล้ว ฉันไม่เคยทำอะไรให้นายสักหน่อยแล้วเราก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกันด้วยอย่ามาทำแบบนี้กับฉัน "
" อย่ามาทำเป็นใสซื่อ มึงบอกกูซิมึงชื่ออะไร "
พยัคฆ์ถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ และต้องการทบทวนเพื่อให้เธอได้คิดถึงเรื่องอะไรบางอย่างแต่นั่นเขาก็คงคิดผิดเพราะเธอทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย
" อลิน ทัตเทพกาญ "
ร่างเล็กตอบออกไปเสียงเบาเพราะจะให้เธอบอกว่าเธอชื่ออลิสาก็คงไม่ได้ เพราะมันอาจกระทบไปถึงธุรกิจของคุณพ่อและเธอก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ตลอดเวลาเธอไม่เคยเป็นลูกรักเลยแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยนึกเกลียดพี่สาวในไส้ของตัวเองเลยสักนิด ตรงกันข้ามเธอหวังดีกับพี่สาวมาโดยตลอดซึ่งก็รู้ดีว่าพี่สาวของเธอไม่ได้คิดเช่นเดียวกันกับเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ร่างเล็กเริ่มฉุดคิดอะไรบางอย่าง หรือว่าพี่อลินพี่สาวฝาแฝดของเธอไปทำอะไรให้ผู้ชายคนนี้ไม่พอใจอย่างนั้นหรือ
" ถ้ามึงชื่ออลิน ทัตเทพกาญ งั้นก็ไม่ผิดแน่ ลองนึกดูดีๆว่าไปทำอะไรกับใครไว้ถึงต้องมารับผลกรรมแบบนี้ "
" แล้วฉันไปทำอะไรให้นายเจ็บช้ำน้ำใจนักหนาหรอ "
คราวนี้เป็นคนตัวเล็กที่เกรี้ยวกราดใส่เขาบ้างเพราะเธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอเจอมันคืออะไรแล้วพี่อลินไปทำอะไรให้เขาเขาถึงได้ถึงขั้นมาเอาชีวิตแบบนี้
" มึงรู้ดีอยู่แก่ใจทบทวนตัวเองดูซะหรือว่าทำมันจนเป็นนิสัยจนจำไม่ได้แล้วว่าทำนิสัยแย่ๆกับใครไว้บ้าง "
" ฉันไม่เคยทำอะไรแบบที่นายว่าทั้งนั้นน่ะ ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจถ้าฉันหายไปคุณพ่อต้องตามหาฉันแน่ "
ร่างสูงกระตุกยิ้มมุมปากคนแบบเขาน่ะหรือจะกลัวพ่อของเธอพ่อของเธอต่างหากที่ต้องกลัวเขา
" ในงานเลี้ยงมึงก็เห็นแล้วนี่ว่ากูจะต้องกลัวพ่อมึงหรือว่าพ่อมึงจะต้องกลัวกูกันแน่ นับจากวันนี้เป็นต้นไปมึงจะต้องชดใช้ให้คนของกู เริ่มจากอะไรดีล่ะ "
พยัคฆ์ไม่พูดเปล่าแต่ยังใช้สายตาโลมเลียคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างเปิดเผย เขาเพิ่งสังเกตว่าหุ่นเธอมันเซ็กซี่แค่ไหน เธอตัวเล็กมากสูงไม่น่าจะเกิน 160 เซ็นติเมตร ต่างจากเขาที่สูงไปถึง 185 เซ็นติเมตร เอวคอดกิ่วได้รูปบวกกับหน้าอกหน้าใจของเธอที่มันใหญ่จนล้นทะลักออกมานอกเดรสสายเดี่ยวที่เธอใส่อยู่ตอนนี้ เธอคงยังไม่รู้ตัวว่าเธอนั่งอยู่ตอนนี้มันล่อตาล่อใจขนาดไหน และเมื่อเขามองไม่หยุดร่างบางเองจึงมองตามเขาแล้วก็ต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดดอกบัวคู่งามที่มันล้นทะลักออกมาเอาไว้
" อย่ามองนะ ทะลึ่ง!! "
พยัคฆ์ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวตรงหน้าเรื่อยๆพร้อมกับมือหนาที่เริ่มแกะเนคไทออกอย่างรวดเร็วพร้อมกันนั้นก็ค่อยๆถอดเสื้อสูทและค่อยๆปลดกระดุมอย่างใจเย็นทีละเม็ดจนหมดและเขวี้ยงทิ้งอย่างไม่ใยดีแล้วมองหน้าหญิงสาวที่น่ารังเกียจตรงหน้าอย่างคนไม่ชอบใจ สิ่งที่เขาจะทำกับเธอไม่ใช่เพราะความรักแต่มันมาจากความแค้นและความเกลียดชังทั้งสิ้น อัญชันเมื่อเห็นเขาถอดเสื้อออกเธอก็ตาโตเท่าไข่ห่านด้วยความตกใจเพราะไม่เคยเห็นผู้ชายมาเปลือยกายต่อหน้าแบบนี้มาก่อนอีกทั้งบนตัวเขาก็มีลายสักรูปเสืออยู่บนหน้าอกข้างขวาขนาดใหญ่มันแยกเขี้ยวน่ากลัวเขาสักพาดมาจนถึงเกือบปลายนิ้วมือตรงหลังมือก็ยังเป็นรูปเสืออยู่ ไหนจะรอยสักรูปงูใหญ่ที่อยู่ตรงเอวทั้งสองข้างเสริมให้เขาดูน่ากลัวมากยิ่งขึ้น ตอนนี้เธอกลัวจนตัวสั่นไปหมด หากแต่ตอนนั้นเขายังใส่เสื้อผ้าครบกลับไม่เห็นรอยสักเลยแม้แต่นิดเดียวถ้าเป็นเธอในไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าก็ยังคิดว่าเขาคือนักธุรกิจคนหนึ่งแต่ตอนนี้เขากลับเหมือนมาเฟียแสนเถื่อนที่เธอไม่อยากพบเจอ " หึ! มึงนี่มันสันดานร่านจริงๆ ทำไม เห็นกูถอดเสื้อแล้วเกิดอารมณ์หรอ ไม่ต้องห่วงหรอกยังไงวันนี้กูก็จะสงเคราะห์ให้เอาแบบ
ท่ามกลางความมืดมิดไม่มีแม้แต่แสงไฟสักดวงเพราะเขาไม่ติดให้แต่แรกแล้ว ตั้งใจให้เธออยู่ที่นี่อย่างยากลำบาก มีเพียงแต่แสงจากดวงจันทร์สาดส่องเข้ามาเพียงเท่านั้น กระท่อมหลังน้อยนี่คือสถานที่ที่เขาจะใช้เชือดผู้หญิงที่น่ารังเกียจคนนี้ เสียงเอ่ยห้ามของเจ้าหล่อนเบามากจนเขาฟังไม่ออกว่าเธอพูดว่าอะไร จึงตอบกลับเธอด้วยการเอ่ยขู่เธอแทน“ นับจากนี้ไปชีวิตของมึงขึ้นอยู่กับกูคนเดียวเท่านั้น ” พยัคฆ์จับแพนตี้ตัวบางของเธอเอาไว้จากนั้นก็กระชากมันออกอย่างแรง ทำให้ตอนนี้ร่างเล็กเปลือยเปล่าต่อหน้าเขา พยัคฆ์ถึงกับหายใจติดขัดเมื่อได้เห็นใจกลางความเป็นสาวของเธอผ่านม่านแสงจันทร์ชัดๆ มันสวยเสียจนเขาอดคิดไม่ได้ว่าเธออาจจะไม่เคยผ่านชายใดมาก่อน แต่จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อ....มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย“ โอ๊ย! เจ็บ ปล่อยนะ ไอ้คนบ้า ไอ้คนกักขฬะ ” อลิสาก่นด่าคนใจร้าย เธอเจ็บไปหมดทั้งตัวแล้ว อารมณ์ที่คล้อยตามเขาในคราแรก ตอนนี้มันเหือดหายไปหมดสิ้นเหลือไว้แต่ความเจ็บทั้งตัวและหัวใจ“ เจ็บหรอ ดี! เจ็บให้มันเยอะๆกูสะใจดี นี่แค่เริ่มต้นมึงยังต้องเจ็บกว่านี้อีกเยอะ เตรียมตัวรับกรรมที่มึงก่อไว้ได้เลย ” รอยยิ้มเหี้ย
โครม!!! เสียงร้องดังสนั่นในกระท่อมน้อยแสนโทรมเมื่อพยัคฆ์ตั้งใจกระแทกตัวตนใหญ่โตเข้าร่องรักของเธออย่างสุดแรง จนสุดท้ายแล้วแคร่ไม้เก่าๆมันก็พังครืนลงมาไม่เป็นท่า เขาก้นจ้ำเบ้าเข้าอย่างจังแต่ดีที่เธอนั่งอยู่บนตักแกร่งของเขาจึงไม่เจ็บมาก เพียงแต่จุกก็เท่านั้น เอ๊ะ!เขาจะห่วงเธอทำไมกัน“ อื้อ....จุก มะ....ไม่ไหว ” ร่างเล็กถึงกับหลับตาน้ำตาไหลพรากเมื่อล้มลงมาพร้อมกับเขาแต่ยังอยู่ในท่าเดิม เพิ่มเติมคือนั่งทับอย่างจังจนจุกท้องน้อยไปหมด พยัคฆ์ทั้งเจ็บ ทั้งจุก ทั้งนึกขำตัวเองที่รุนแรงจนจนได้เรื่อง ลืมไปได้ยังไงว่าแคร่ไม้มันเก่าขนาดไหน ดีนะไม่ล้มหัวฟาดพื้นไปทั้งสองคน ไม่งั้นคงได้ตำนานอีกแน่ๆ“ ไง สะใจดีไหมล่ะ ประสบการณ์ครั้งแรกจากกู ” เป็นครั้งแรกที่พยัคฆ์เผยรอยยิ้มมุมทะเล้นเล็กๆให้ได้เห็น หลังจากที่เธอไม่เคยเห็นมันเลยตั้งแต่ที่เจอกับเขา รอยยิ้มที่เผยแบบไม่ตั้งใจทำเอาอัญชันใจสั่นไหว เขาหล่อมากเธอปฏิเสธไม่ได้จึงไม่แปลกใจที่หัวใจของเธอมันจะถูกเขย่าให้สะท้าน“ ไอ้คนบ้า! พูดดีดีกับเค้าไม่เป็นหรือไง ปล่อยเลยนะ เจ็บระบมไปหมดแล้ว ” ร่างเล็กใช้กำปั้นทุบตีไปที่ไหล่ทั้งสองข้างของเขาอย่า
หลังจากที่พยัคฆ์เดินออกไปแล้ว อัญชันก็พยายามเก็บเศษผ้าที่เหลืออยู่ของเธอมาสวมใส่ที่ต้องเรียกเศษผ้าเพราะมันขาดหลุดลุ่ยจนเป็นชุดไม่ได้แล้ว และด้วยชุดเดรสมันสั้นมากอยู่แล้วอีกทั้งยังขาดเลยไม่แม้แต่จะห่อหุ้มตัวได้ ซ้ำตอนนี้เธอใส่เพียงเสื้อสูทของเขามันแหวกจนโชว์หน้าอกต้องคอยเอามือน้อยๆปิดเอาไว้ตลอดดีหน่อยที่เขาตัวสูงและเธอตัวเล็กความยาวของมันจึงเท่ากับเดรสสั้นดีๆนี่เอง ก็ยังพอใส่ไปก่อนได้ดีกว่าไม่มีอะไรใส่เลย " ไอ้คนบ้าเอ้ย! ฉันไม่ใช่นักโทษของนายสักหน่อย อย่าให้หนีไปได้นะ จะแจ้งตำรวจมาจับพวกนายให้หมดเลย " ร่างเล็กนั่งบ่นอุบอิบอยู่คนเดียวด้วยความโมโหบนพื้นหญ้าแข็งๆในกระท่อมที่ก่อนหน้านี้เป็นสนามรบระหว่างเธอกับเขา พยัคฆ์เมื่อเดินออกมาข้างนอกกระท่อมก็มองเห็นลูกน้องนับสิบที่ออกไปยืนอยู่ห่างออกไปคงจะเพราะได้ยินเสียงเขาและเธอเมื่อครู่ ดีที่ลูกน้องของเขาไม่มีใครเสียมารยาท " ไอ้ชัย มึงมานี่ " พยัคฆ์กวักมือเรียกลูกน้องคนสนิทให้มาหาตัวเองเพื่อสั่งอะไรบางอย่าง " ครับนาย " ชัยรีบเดินเข้ามาหาอย่างรู้งานมองดูสภาพเจ้านายที่เหมือนกับไปฟัดกับหมาที่ไหนมา ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมดคงจะยัง
พยัคฆ์มาถึงกระท่อมภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงด้วยซ้ำจนชัยเองยังตกใจ พร้อมกันนั้นยังมีผู้หญิงข้างกายมาด้วยอีกคน ซึ่งเป็นคุณหมอพ่วงด้วยตำแหน่งเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของนายใหญ่ชื่อหมอเฟิร์น" เกิดอะไรขึ้นชัย ยัยนั่นสร้างปัญหาอะไรอีก ไม่สบายเป็นอะไร " พยัคฆ์เผลอถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงโดยที่ไม่รู้ตัว จนชัยผู้เป็นลูกน้องลอบมอง " เมื่อเช้านิ่มเอาอาหารมาส่งก็พบว่าเธอตัวร้อนจี๋เลยครับ "" ขอเฟิร์นเข้าไปดูหน่อยได้ไหมคะคุณชัย " คราวนี้เป็นคุณหมอสาวที่ออกตัวด้วยจรรยาบรรณของแพทย์เธอพร้อมจะดูแลคนไข้เสมอไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม ชัยไม่กล้าตอบเนื่องจากเขาตอบคำถามนี้ไม่ได้นอกจากผู้เป็นเจ้านายที่เป็นคนจับตัวผู้หญิงคนนั้นมา" อืม เข้าไปดูสิ แต่เราขออย่าพูดอะไรไปมากกว่าที่หมอต้องพูดกับคนไข้ " พยัคฆ์ขู่กรายๆด้วยไม่อยากให้เพื่อนรู้มากจนเกินไปและกลัวว่าเธอจะใจอ่อนช่วยผู้หญิงใจร้ายคนนั้น เมื่อได้คำตอบหมอเฟิร์นก็รีบเข้าไปในกระท่อมพร้อมกับกระเป๋ายากล่องเล็กๆที่เธอมีติดตัวไว้ตลอดเวลาเผื่อฉุกเฉิน หมอเฟิร์นเดินเข้ามาก็พบกับหญิงสาวสองคน คนหนึ่งคือนิ่มที่เธอรู้จักดีและสาวใช้คนนี้ก็ไม่ค่อยชอ
ในเช้าของอีกวันพยัคฆ์เข้าไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปหาคุณหมอเฟิร์นด้วยตัวเอง พยาบาลหลายคนมองพยัคฆ์อย่างชื่นชมเพราะคิดว่าเขาคือคนพิเศษของคุณหมอเฟิร์นคนสวยประจำโรงพยาบาล บ้างก็กระซิบกระซาบชนิดแบบเผาขนจนพยัคฆ์เองก็ได้ยินหากแต่ไม่คิดจะสนใจและคิดว่าเฟิร์นเองก็คงไม่คิดมากเช่นกัน" อ้าว มาแล้วหรอเสือ นั่งก่อนสิ "พยัคฆ์นั่งลงแล้วรีบเข้าประเด็นทันที " อื้ม เรามาเอายาน่ะ " พยัคฆ์บอกแบบสั้นๆ คุณหมอสาวก็รีบเอายาที่เตรียมไว้ออกมาพร้อมกับบอกสรรพคุณและเวลาที่จะต้องกินทั้งก่อนอาหารและหลังอาหารจนมาถึงยาตัวสุดท้าย พยัคฆ์จึงมองหน้าไม่พอใจนัก" นี่คือยาคุมฉุกเฉินแล้วก็นี่ยาคุมกำเนิดแบบรายเดือน " คุณหมอสาวยิ้มให้อย่างเป็นมิตรพร้อมกับยื่นยาทั้งสองตัวไปให้ พยัคฆ์ชะงักไปครู่หนึ่งแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เป็นหมอเขาไม่อาจปิดบังได้อยู่แล้ว แต่ที่ไม่ชอบใจคือทำไมยัยนั่นต้องกิน" อย่าหาว่าเราก้าวก่ายเลยนะเสือ เมื่อวานที่เราตรวจร่างกายของเธอเธอมีรอยรักเต็มตัวไปหมดเราก็เลยเดาได้ไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น แล้วก็ไม่รู้ว่าได้ป้องกันหรือเปล่าเราถึงได้เตรียมยานี้เอาไว้ให้เผื่อว่าจะได้ใช้ " คุณหมอสาวพูดออก
ใบหน้าเรียวได้รูปบัดนี้มันซีดเซียวจนไม่เห็นเลือดฝาด บวกกับแสงแดดที่สาดส่องในเวลาบ่ายแก่ๆ อลิสาเดินตามชัยที่ตอนนี้กำลังพาเธอไปที่ลำธารที่อยู่ไกลพอสมควรเธอใช้เวลาเดินเท้ากว่าครึ่งชัวโมง เมื่อมาถึงอัญชันตาเบิกโพลงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ลำธารใหญ่ที่น้ำใสมากๆไม่น่าเชื่อว่าในป่ารกที่เธอคิดว่าไม่น่าจะมีสิ่งสวยงามขนาดนี้อยู่แต่ตรงกันข้ามที่นี่อาจจะเป็นที่เดียวที่เธอรู้สึกสบายใจในตอนนี้ก็ได้ และที่สำคัญเธอเหนียวตัวมากๆ เห็นน้ำใสแจ๋วขนาดนี้จึงอยากลงไปเล่น“ ที่นี่แหละครับคุณอลินที่คุณต้องมาตักน้ำกลับไปกระท่อมทุกวัน เพื่อกินและใช้ ” ชัยบอกพร้อมกับมองดูถังน้ำเก่าๆที่เขาหามาให้เธอตอนนี้เธอถือมาด้วยสองใบ“ ค่ะ รับทราบค่ะ เดี๋ยวฉันจะเอาน้ำกลับไปใส่ตุ่มเอง คุณชัยกลับไปก่อนเถอะค่ะ ” ร่างเล็กบอกติดประชดประชันหน่อยๆ ก่อนหน้านี้เธอถามชื่อเขาและถามว่าที่นี่อยู่ที่ไหนแต่ชัยก็เก็บความลับเก่งเหลือเกิน“ แต่... ”ชัยกลัวว่าเธอจะหนีจึงไม่กล้าปล่อยทิ้งไว้คนเดียว“ กลัวฉันจะหนีหรอคะ จะไปไหนได้ ฉันไม่สบายอยู่นะคะ ขืนหนีออกไปก็มีแต่ตายกับตาย วางใจเถอะค่ะฉันกลับไปกระท่อมนั่นแน่ๆ ขอเวลาส่วนตัวสักครู่นะคะ
พยัคฆ์ที่ตอนนี้อุ้มคนตัวเล็กตรงหน้าไว้แน่นและพร้อมกันนั้นก็บดจูบเธออย่างเร่าร้อนกลางลำธารยามพลบค่ำ อัญชันสมองเริ่มขาวโพลนจากแรงจูบและบรรยากาศที่แสนจะเป็นใจ คนพึ่งเคยทำอะไรแบบนี้เลยอ่อนไหวง่ายยินยอมโดยไม่รู้สึกตัว พยัคฆ์เดินมาเรื่อยๆจนถึงฝั่งในขณะที่ปากหยักก็ยังทำหน้าที่บดจูบไว้อย่างดี เขาวางเธอนั่งบนรากของต้นไม้ใหญ่พร้อมกับตัวเขาที่รีบถอดปราการที่กางกั้นเอาไว้จนหมด และถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง ซิกแพคแน่นๆของเขาทำเอาเธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ อะไรจะแน่นขนาดนั้น ไหนจะยังส่วนนั้นอีกแก้มเธอแดงปลั่งลามไปยันใบหูทำเอาพยัคฆ์ยิ้มพอใจ“ ต้องการจริงๆหรือเปล่า คราวนี้กูจะไม่บังคับ ” พยัคฆ์เอ่ยถามอีกครั้งด้วยต้องการความมั่นใจ และคำตอบที่ได้รับก็ทำเขาต้องยิ้มร้าย“ อือ ” อัญชันครางเบาๆในลำคอให้ได้ยินกันแค่สองคน ความเขินอายหมดสิ้นแล้วบัดนี้มันถูกแทนที่ด้วยความต้องการที่มากล้น พยัคฆ์ยิ้มมุมปากพอใจในสิ่งที่ได้ยิน“ สัมผัสมันหน่อยสิ มันต้องการมึงปวดหนึบไปหมดแล้ว ” พยัคฆ์เอ่ยบอกพร้อมกับมือหนาที่จับมือเรียวมาสัมผัสกับท่อนเอ็นตัวเองแล้วสอนให้เธอสัมผัสมันแบบที่เขาต้องการเพียงไม่นานคนหัวไวก็ทำเองได
2 ปีผ่านไป ตอนนี้พยัคฆ์ได้กำเนิดทายาทเป็นลูกชายเพียงคนเดียวชื่อ คอปเปอร์ ซึ่งก็มีความหมายเหมือนกับชื่อของเขานั่นแหละ จริงๆเขามีแพลนจะมีลูกผู้หญิงอีกสักหนึ่งคน แต่ตอนนี้อัญชันดูเหมือนจะยังไม่อยากมีสักเท่าไหร่เพราะอยากดูแลเจ้าคอปเปอร์ให้ดีที่สุด ถ้าถามว่าตอนนี้เขาอยู่ในสถานะไหนก็บอกได้เลยว่า“ พ่อบ้านใจกล้า” หลังจากที่ง้อเธอสำเร็จในวันนั้นเขาก็กลายเป็นพ่อบ้านทันที ทำทุกอย่างแทนเธอเหมือนกับที่เคยทำกับเธอเมื่อก่อนหน้านี้นั่นแหละเพียงแต่ว่าตอนนี้เขาทำมันด้วยความรักไม่ได้โดนบังคับแต่อย่างใด อลิสาแทบจะเป็นเจ้าหญิงสำหรับเขา เขาสัญญากับพ่อเธอว่าจะดูแลเธออย่างดีเขาก็ทำมันจริงๆ ตอนนี้แทบไม่เหลือคราบของมาเฟียเลยด้วยซ้ำ มีแต่คำว่าพ่อของลูกและสามีที่ดีของอัญชัน ส่วนทางด้านอลินและสิงหราช 2 ปีที่ผ่านมาสิงหราชเริ่มจะกลับมาเดินได้อาจจะยังไม่ปกติสักเท่าไหร่ เพราะว่ามันไม่ยอมทำกายภาพบำบัดตั้งแต่ทีแรก เลยกลายเป็นเรื่องยากที่จะกลับมาเดินได้ให้เหมือนคนปกติ แต่พอเวลาผ่านไปความตั้งใจของไอ้สิงห์มันก็เกิดผลเมื่อตอนนี้มันกำลังจะกลับมาเดินได้เป็นปกติแล้วเพียงแต่ต้องรอเวลาอีกสักหน่อยเท่านั้น และ
พยัคฆ์ใช้ลิ้นดุนดันช่องทางรักของคนตัวเล็กอย่างเอาเป็นเอาตายพร้อมกันนั้นมือหนาอีกข้างก็ยกขึ้นมาใช้นิ้วถึงสามนิ้วสอดเข้าไปในช่องทางรักของเธอพร้อมกับชักเข้าชักออกตามแรงอารมณ์ดิบเถื่อนที่ทั้งสองคนมีด้วยกัน ความรู้สึกเดียวกันมันก็คุยกันง่ายแจ๊ะ! แจ๊ะ! แจ๊ะ! เสียงนิ้วมือร้ายที่ชักเข้าชักออกในช่องทางรักของอลิสา ร่างเล็กครางระงม พยัคฆ์ได้ไปปรึกษาหมอมาแล้วว่าในช่วงนี้เขาไม่ควรมีสัมพันธ์ลึกซึ้งเพราะอยู่ในระยะที่ค่อนข้างอันตราย แต่ก็ยังสามารถมีได้เพียงแต่ว่ายังทำแรงไม่ได้นัก เขาจึงพยายามเบามือที่สุด" แรงกว่านี้ได้ไหมเสือขา อัญจะเสร็จแล้ว " พยัคฆ์เร่งมือจนสุดท้ายแล้วก็ส่งเธอไปจนถึงปลายทางสีรุ้ง คนตัวเล็กหลับตาพริ้มด้วยความสุขใจ การทำรักด้วยกันก็เหมือนเป็นการผ่อนคลายชนิดหนึ่งนั่นแหละ เมื่อเธอได้รับความสุขสมมันก็เลยแสดงออกมาทางสีหน้าได้อย่างชัดเจน คนตัวโตจับขาเรียวของเธอแยกออกจากกันกว้าง จากนั้นตัวเขาก็เข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างขาเธอ พร้อมกับชักแก่นกายออกมาชักรูดเพียงแค่สองสามครั้งแล้วก็ค่อยๆยัดมันเข้าไปจนสุดลำ" อืม...อ่าส์ เสียวชะมัด " พยัคฆ์ครางออกมาอย่างสุขสม ช่องทางรัก
" มึงจะเอาจริงหรอวะ " ลมเหนือถามเขาแค่พูดเล่นๆไม่ได้คิดว่ามันจะเอาจริง ถึงเขาจะทำแบบนั้นกับผู้หญิงคนอื่นแต่ก็ใช่ว่าอัญชันจะชอบนะ บางทีเธออาจจะเกลียดมันตลอดไปเลยก็ได้" อือ คืนนี้เลย กูใจร้อน " พยัคฆ์พูดอย่างหมายมั่น วิธีนี้แหละดีที่สุดสำหรับเราแล้ว ง้อแบบบ้าๆแบบที่เขาเคยทำบ้าๆกับเธอนั่นแหละ" ไอ้นี่มันบ้าระห่ำดีจริงๆเว้ย.. " คราวนี้เป็นคิมหันต์ที่พูดขึ้นมา แบบนี้สิถึงจะสมเป็นไอ้เสือที่พวกเขารู้จัก กล้าได้กล้าเสียบ้าให้สุด" หึ แล้วแต่มึง " คณินที่ตอนนี้ก็เห็นด้วย ถ้ามัวแต่มาตามง้อกันอยู่แบบนี้ก็คงไม่ไปไหน คงง้อไปถึงชาติหน้าเลย ดูท่าทางอัญชันใจแข็งขนาดนั้น " งั้นพวกมึงก็กลับไปได้แล้ว กูจะอยู่กับเมีย " พยัคฆ์เอ่ยปากไล่เพื่อนในทันที ตอนนี้ไม่ได้สนใจแล้วเขาต้องการแค่ไปหาเมียตัวน้อยของเขาอย่างเดียว " เอ้าไอ้นี่...พวกกูยังไม่ได้เริ่มกินกันเลยนะเว้ย มึงจะไล่แล้วหรอ มึงจะชวนมาก็ชวนนึกจะไล่ก็ไล่มึงนี่มันยังไงกันนะ " คราวนี้เป็นลมเหนือที่พูดขึ้นมา เขาเพิ่งจะมายังไม่ทันได้นั่งด้วยซ้ำมันก็จะไล่เขากลับเสียแล้ว เขาอุตส่าห์แคนเซิลนัดสาวสวยเพื่อมากินเหล้ากับมัน นึกว่ามันจะต
พยัคฆ์หลังจากที่คุยกับเกรียงไกรเสร็จแล้วเขาก็รีบมาหาเธอที่บ้านตากอากาศของไอ้คณินทันทีเพื่อมาง้อเธอ ในตอนนี้เขาทำได้เพียงอย่างเดียวคือทำใจเท่านั้น เพราะคงโดนเธอเกลียดหนักแน่ๆ เมื่อมาถึงหน้าบ้านก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ซื้อไม่ถูกแค่หวย“ นายมาทำไมอีก ” อัญชันถาม เธอไม่อยากเจอหน้าเขาอีกแล้ว ปากพร่ำบอกแบบนั้นแต่ในใจกลับไม่ได้รู้สึกเหมือนที่พูดเลยสักนิด ทำไมถึงได้ดีใจที่เขาให้ความสำคัญมาง้อถึงที่นี่ อาจด้วยเพราะเธอไม่เคยสำคัญกับใครตั้งแต่เกิดมา พอเห็นเขามาง้อเข้าหน่อยใจเจ้ากรรมกลับโอนอ่อนไปกับเขา“ พี่มาง้ออัญ จะให้พี่ทำยังก็ได้เพื่อให้อัญยกโทษให้พี่ พี่ขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นนะครับ ” พยัคฆ์บอกผ่านรั้วหน้าบ้าน เขาอยากเข้าไปแต่เธอมองเขาตาเขียวเลยใครจะกล้า“ไม่มีทางหรอกค่ะ กลับไปเถอะ”“โถ่อัญ อัญครับ....” ไม่ทันที่พยัคฆ์จะได้เอ่ยอะไรออกไปอีก อัญชันก็เดินเข้าบ้านไปเลย พยัคฆ์ถึงกับก้มหน้าอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก แต่เขาไม่สิ้นหวังแค่นี้หรอกนะ ทักข้อความหาเพื่อนทันที“ ให้พวกนั้นช่วยดีกว่ามั๊ง ขืนง้อเธอแบบนี้ง้อจนแก่เธอก็ไม่ให้อภัยหรอก ”Tiger : พวกมึง กูอยากมาปาร์ตี้บ้านไอ้คณิน บ้าน
พยัคฆ์มาหาเกรียงไกรถึงที่บริษัทเครือทัตเทพกาญเพื่อที่จะมาคุยเรื่องของอัญชันให้มันถูกต้อง ตอนนี้เขาเรียกชื่ออัญได้อย่างคล่องปากแล้ว " สวัสดีค่ะคุณพยัคฆ์มาพบท่านประธานหรอคะ " พนักงานต้อนรับพูดจาไพเราะพร้อมกับทำท่าทางยั่วยวนคนตรงหน้า แต่พยัคฆ์ก็ไม่ได้จะสนใจตอนนี้เขาต้องการทำบางอย่างให้เรียบร้อย เพื่อจะได้กลับไปง้อเมียของเขา" ครับ " " ไม่ทราบว่าได้นัดเอาไว้หรือเปล่าคะ พอดีวันนี้ท่านประธานมีประชุมในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้าค่ะ ไม่แน่ใจว่าท่านจะให้เข้าพบหรือเปล่า " พนักงานต้อนรับพูดออกไปด้วยไม่รู้ว่าพยัคฆ์คนนี้มีอิทธิพลมากแค่ไหนกับท่านประธานของเธอ เธอรู้แค่ว่าคนคนนี้เป็นคนกว้างขวางของเมืองนี้ก็แค่นั้น " บอกคุณเกรียงไกรไปว่าพยัคฆ์มาขอพบก็พอ ถ้าเขาไม่ให้เข้าพบฉันก็จะกลับ " พยัคฆ์บอกกับพนักงานออกไปทำให้พนักงานรีบต่อสายไปหาเกรียงไกรแล้วก็ได้รับคำตอบว่าให้รีบพาตัวเขาขึ้นไปหาทันที เมื่อขึ้นมาบนห้องของผู้บริหารแล้วเกรียงไกรต้อนรับเป็นอย่างดี เพราะหวังว่าจะได้ร่วมงานด้วย เกรียงไกรนั้นหวังเพียงแค่ผลประโยชน์ที่จะได้รับเพียงเท่านั้น เขาเกิดมาเป็นคนเห็นแก่ตัวเขาก็พอรู้ดี แต่นั่น
คณินพาพยัคฆ์มานั่งตรงม้านั่งหน้าบ้าน เขาไม่แม้แต่จะให้มันเข้าไปในตัวบ้านเลยเพราะในนั้นอลิสาคงไม่สะดวกใจที่จะเจอกับมันอีก " กูจะไม่ขอโทษมึงนะที่พาอลิสาออกมาโดยที่ไม่ได้บอก เพราะตอนที่กูเจอเธอ เธอเกือบไม่มีชีวิตรอดกลับมาแล้ว กูเห็นแล้วกูสงสาร ถ้ามึงจะไม่เป็นเพื่อนกับกูเพราะเหตุผลนี้กูก็เข้าใจ " " หมายความว่ายังไง เอาเรื่องมินตราก่อน เรื่องมึงกับกูไม่เคยเปลี่ยนแปลงกูทำเพราะอารมณ์ชั่ววูบ กูขอโทษ " พยัคฆ์ถามเพราะเขารู้ว่ามินตราคือต้นเหตุ แต่เหตุการณ์ที่แน่นอนนั้นยังไม่รู้ดีเพราะมัวแต่ตามหาอลิสาจนไม่ได้สนใจใคร ส่วนคณินเมื่อได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้นก็โล่งใจ เขาคิดหนักมาตลอดว่าแก๊งค์มันจะแตกจริงๆหรือ ไอ้คิมหันต์กับลมเหนือก็ไม่รู้จะช่วยยังไง บอกแค่ว่าจะไปคุยกับไอ้เสือให้ พอมาฟังวันนี้ก็รู้เลยว่ามันก็รักเพื่อนมากเหมือนกัน อย่างน้อยๆมันก็ตัดกันกับเขาไม่ขาด ต่อไปนี้เรื่องผู้หญิงจะไม่ทำให้เราทะเลาะกันอีก" มินตราลวงเธอไปฆ่ากลางทะเล หลอกว่าจะพาเธอหนี เธอไม่ได้เชื่อมินตราหรอกนะอัญชันเธอแค่ไม่มีทางเลือก เธอเลือกไปตายเอาดาบหน้ามึงคิดว่าไง กูไปเห็นเข้าพอดีเลยตามไปช่วยได้ทัน กูไม่อยากคิดเลยนะไอ้
หลังจากที่เรื่องระหว่างสิงหราชและอลินได้ผ่านไปอย่างเรียบร้อยแล้ว พยัคฆ์ก็ถึงเวลาจัดการเรื่องของตัวเองสักที เขาให้คนออกตามหาอลิสาจนได้รู้ว่าเธออยู่ในความดูแลของคณินจริงๆเหมือนที่อลินว่า " ไอ้ชัยมึงไปกับกูวันนี้กูจะไปทวงเมียกูคืน ไอ้คณินมันคอยแต่จะงาบเมียกูปล่อยไว้กับมันนานๆอัญชันจะเหลือแต่ชื่อ " พยัคฆ์พูดอย่างหมายมั่น ส่วนชัยได้แต่ทำหน้าเหวอไม่คิดว่าผู้เป็นนายจะพูดออกมาตรงๆแบบนี้ คราวนี้คงพูดออกมาได้เต็มปากแล้วสินะส่าคุณอลิสาเป็นเมีย หลังจากที่เป็นคนปากแข็งมาตั้งนาน " ครับนาย " ทั้งสองเดินทางไปจนถึงเชียงใหม่ในขณะที่บ้านพิษณุกรมีอลินพี่ช่วยดูแลน้องชายของเขาอยู่ ส่วนมินตราเขาได้จัดการลงโทษเธอไปเรียบร้อยแล้ว โดยการที่บอกเรื่องนี้กับพ่อเขาและพ่อเขาก็สืบจนรู้ว่ามัทนาและมินตราวางแผนที่จะจับเขาจริงๆ พ่อของเขาก็ทำอะไรได้ไม่มากเพราะด้วยรักมัทนาสุดหัวใจ จึงตัดสินใจพาทั้งมัทนาและมินตราไปอยู่ต่างประเทศเพื่อให้ไม่ต้องมาอยู่ใกล้เขาและสิงหราชอีก ส่วนเขาแม้จะไม่เห็นด้วยเพราะเป็นการลงโทษสถานเบาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากเพราะมินตราเกิดท้องขึ้นมา เขาเห็นแก่เด็กที่กำลังจะเกิดเลยปล่อยให้เรื่องนี้
อลินยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของสิงหราช เธอยืนถอนหายใจอยู่นี่เกือบ 10 นาทีแล้วเพราะไม่กล้าเข้าไปสักที เธอพยายามรวบรวมความกล้าแต่เหมือนมันมีน้อยเหลือเกินด้วยความไม่ได้เจอกันมานานนับปี แล้วก็จากกันไปแบบไม่ดีด้วยก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นกับเขายังไงดี จนพยัคฆ์ที่เดินมาบอกกับเธอเพราะยืนดูอยู่ห่างๆมาสักพักแล้ว หากเขาไม่ทำอะไรสักอย่างเลยคงไม่ได้การแน่ พวกเขาทั้งสองคนคงไม่ได้ปรับความเข้าใจกันสักที" เข้าไปเถอะครับ ความจริงที่ต้องเผชิญอยู่ข้างหน้าแล้ว ไม่แน่ว่าพวกคุณทั้งสองคนอาจจะรักกันมากจนไม่อยากทิ้งเป็นไปก็ได้ ถ้าปรับความเข้าใจกันได้ผมยินดีคุยกับคุณพ่อให้ ขอแค่สิงห์มีความสุขก็พอ " พยัคฆ์พูดเพื่อเป็นกำลังใจให้อลิน ถ้าหากเขาจัดการเรื่องนี้เสร็จเมื่อไหร่ เรื่องต่อไปก็คงเป็นเรื่องของเขากับน้องสาวของเธอแล้ว " ถ้ามันไม่เป็นเหมือนที่เราคิดล่ะคะ ถ้าเกิดว่าสิงห์ไม่ได้รักอลินแล้วอลินกลัวจะทำใจไม่ได้ค่ะ " พยัคฆ์ที่ยิ้มให้เพราะไม่คิดว่าสิ่งที่เธอคิดมันจะเป็นแบบนั้นตลอดเวลาน้องชายของเขาโหยหาแต่เธอมาโดยตลอด เขาคิดว่ามันคงต้องดีใจจนเนื้อเต้นเป็นแน่ที่ได้เห็นหน้าคนที่มันรัก และไม่ทันที่จะให
" มึงมากับเธอได้ยังไงคณิน " พยัคฆ์ถามด้วยความสงสัย เพราะหลังจากที่เธอหายตัวไปกล้องวงจรปิดของเขามันจับไม่ได้ แล้วก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาเลยแม้กระทั่งมินตราที่เขาพยายามเค้นความจริงจากเธอ" นี่คือคุณอลินตัวจริง เธออยากมาพบมึงแล้วก็อยากเล่าความจริงให้ฟัง มึงจะได้ตาสว่างสักที " " ความจริง? " ยังมีความจริงอะไรนอกจากที่เขาได้ยินจากปากน้องชายอีก เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้ว" ใช่ค่ะ ความจริงอีกมุมหนึ่งที่คุณอาจจะยังไม่รู้ " พยัคฆ์พาอลินเข้ามาในห้องรับแขก หลังจากนั้นตัวต้นเรื่องตัวจริงก็เริ่มเล่าทุกอย่างแบบละเอียด " ความจริงแล้วอลินกับสิงห์เรารักกันมาก เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่ไปเรียนต่อโทที่นู้น จนวันหนึ่งเราสองคนเรียนจบแล้ว แล้วก็กำลังจะกลับมาหาผู้ใหญ่ด้วยกัน แต่แล้วเรื่องที่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นก็เกิดคือพ่อกับแม่ของคุณไปหาอลินถึงคอนโด แล้วก็บอกให้เราสองคนเลิกคบกันซะ เพราะมีคนที่เหมาะสมรอสิงห์อยู่แล้ว ทีแรกอลินไม่ยอมหรอกนะคะ แต่ท้ายที่สุดแล้วสิงห์ก็ต้องมีอนาคตที่ดี และอนาคตที่ดีของสิงห์พ่อกับแม่ของเขาก็เตรียมไว้ให้แล้วโดยที่ไม่มีอลินอยู่ในนั้น " พยัคฆ์ที่ได้ฟังถึงกับงุนงง ม