ใบหน้าเรียวได้รูปบัดนี้มันซีดเซียวจนไม่เห็นเลือดฝาด บวกกับแสงแดดที่สาดส่องในเวลาบ่ายแก่ๆ อลิสาเดินตามชัยที่ตอนนี้กำลังพาเธอไปที่ลำธารที่อยู่ไกลพอสมควรเธอใช้เวลาเดินเท้ากว่าครึ่งชัวโมง เมื่อมาถึงอัญชันตาเบิกโพลงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ลำธารใหญ่ที่น้ำใสมากๆไม่น่าเชื่อว่าในป่ารกที่เธอคิดว่าไม่น่าจะมีสิ่งสวยงามขนาดนี้อยู่แต่ตรงกันข้ามที่นี่อาจจะเป็นที่เดียวที่เธอรู้สึกสบายใจในตอนนี้ก็ได้ และที่สำคัญเธอเหนียวตัวมากๆ เห็นน้ำใสแจ๋วขนาดนี้จึงอยากลงไปเล่น
“ ที่นี่แหละครับคุณอลินที่คุณต้องมาตักน้ำกลับไปกระท่อมทุกวัน เพื่อกินและใช้ ” ชัยบอกพร้อมกับมองดูถังน้ำเก่าๆที่เขาหามาให้เธอตอนนี้เธอถือมาด้วยสองใบ “ ค่ะ รับทราบค่ะ เดี๋ยวฉันจะเอาน้ำกลับไปใส่ตุ่มเอง คุณชัยกลับไปก่อนเถอะค่ะ ” ร่างเล็กบอกติดประชดประชันหน่อยๆ ก่อนหน้านี้เธอถามชื่อเขาและถามว่าที่นี่อยู่ที่ไหนแต่ชัยก็เก็บความลับเก่งเหลือเกิน “ แต่... ” ชัยกลัวว่าเธอจะหนีจึงไม่กล้าปล่อยทิ้งไว้คนเดียว “ กลัวฉันจะหนีหรอคะ จะไปไหนได้ ฉันไม่สบายอยู่นะคะ ขืนหนีออกไปก็มีแต่ตายกับตาย วางใจเถอะค่ะฉันกลับไปกระท่อมนั่นแน่ๆ ขอเวลาส่วนตัวสักครู่นะคะ ” ร่างเล็กบอกไปพร้อมกับสายตาใสซื่อจนชัยเองถอนหายใจและใจอ่อนจำต้องล่าถอยออกไปก่อน “ งั้นผมจะไปรอที่กระท่อมนะครับ เร็วๆนะครับเพราะถ้าคุณช้านายใหญ่คงมาตามถึงที่ รู้ใช่ไหมครับว่าคุณนั่นแหละที่จะไม่ปลอดภัย ” ชัยขู่เอาไว้พร้อมกับถอยหลังกลับไปกระท่อมทิ้งให้อัญชันตักน้ำแล้วเดินตามไป อัญชันที่ตอนนี้อยู่ตัวคนเดียวแล้วก็รีบตักน้ำใส่ถังจนเต็มวางไว้ข้างๆลำธาร ส่วนตัวเธอเองก็มองซ้ายขวาเห็นว่าไม่มีใครแล้วจึงถอดเสื้อผ้าลงไปเล่นน้ำอย่างสบายใจ “ เย็นชื่นใจดีจัง ไม่เห็นเคยเล่นน้ำเย็นๆแบบนี้มาก่อน สดชื่นชะมัด คิดถึงยัยแยมจัง รายนั้นชอบเล่นน้ำถ้ามาเจอน้ำเย็นๆแบบนี้คงชอบน่าดู ” อัญชันที่เล่นน้ำอย่างสบายใจโดยไม่สนว่าตัวเองจะยังไม่สบายอยู่ เมื่อคืนเธอเหนียวตัวทั้งคืนและวันนี้ทั้งวันก็ยังไม่ได้อาบน้ำแปรงฟันเลยด้วยซ้ำ ก่อนเธอลงเล่นน้ำก็กินน้ำจากลำธารจนอิ่มโดยไม่ได้นึกถึงความสะอาดหรอกเอาแค่พอประทังชีวิต เธอหิวจนไส้จะขาดอยู่แล้วถ้ารอเอาน้ำไปต้มก่อนค่อยดื่มเธอได้หิวน้ำตายจริงๆแน่ ชีวิตที่แสนลำบากนี้เธอจะไม่มีวันลืมเลย ชัยกลับมาถึงกระท่อมคนเดียวพยัคฆ์จึงดีดตัวลุกขึ้นจากแคร่ไม้ที่นั่งรอทั้งสองคนอยู่ “ แล้วยัยนั่นไปไหน ทำไมมึงกลับมาคนเดียว ” พยัคฆ์ถามหน้าเคร่งขรึม “ เอ่อ...ผมกลับมาก่อนครับนาย เธอบอกว่าขอตักน้ำแล้วจะรีบตามมา แต่เธอบอกว่าจะไม่หนีนะครับนายใหญ่ เธอบอกว่าหนีไปไม่รอดหรอกเพราะไม่สบายอยู่ครับ ” ชัยแก้ตัว “ เธอบอกไม่หนีมึงก็เชื่อหรอ ไอ้ชัยมึงทำงานกับกูมาตั้งกี่ปีไม่เคยพลาดสักเรื่อง ทำไมเรื่องแค่นี้.....” พยัคฆ์เอ่ยอย่างหงุดหงิด ส่วนชัยเขาแค่สงสารเชลยของเจ้านายจึงใจอ่อนก็เท่านั้น “ ผมขอโทษครับนาย ” ชัยเอ่ยขอโทษอย่างสำนึกผิด เขาสงสารคุณอลินจนลืมนึกไปว่าหากเธอหนีขาคงรับผิดชอบไม่ไหวแน่ “ นายจะไปไหนครับ ” เมื่อเห็นเจ้านายกำลังจะเดินหนีจึงเอ่ยถามเผื่อเขาจะชดใช้ความผิดอะไรได้บ้าง “ พวกมึงอยู่ที่นี่แหละ กูจะไปลากแม่นั่นกลับมา แล้วก็ตรวจดูความเรียบร้อยรอบๆให้ดี ” ร่างสูงสั่งพร้อมกับรีบเดินไปที่ลำธาร ไม่ได้กลัวเธอจะหนีเพราะเธอหนีออกจากที่นี่ไม่ได้อยู่แล้วถ้าไม่มีคนจากที่นี่พาหนีไป แต่เพราะตอนนี้ไกล้จะมืดแล้วหากหลงป่าขึ้นมาจะยุ่ง เมื่อเดินมาถึงลำธารที่ต้องใช้เวลาเดินเท้าเกือบๆครึ่งชั่วโมงจึงเห็นถังน้ำที่บรรจุน้ำจนเต็มถังอยู่ข้างลำธารพร้อมสำหรับกลับไปกระท่อมแล้วแต่เจ้าของถังน้ำกลับไม่อยู่จึงมองหารอบๆจนเจอเธอที่เล่นน้ำอยู่กลางลำธารคนเดียวและหันหลังให้เขา และสายตาที่กว้างไกลจึงมองเห็นว่าเธอถอดเสื้อผ้าไว้บนรากไม้ใหญ่ริมลำธาร ตัวเขาจึงเดินลงไปหาเธอเงียบๆโดยที่คนตัวเล็กไม่รู้ตัว “ กรี๊ด!! ช่วยดะ!! ” “ เงียบน่า...” ร่างเล็กกรีดร้องและกำลังจะขอความช่วยเหลือหากแต่โดนคนตัวโตร้องห้ามและเอามือปิดปากไว้ เขากอดเธอไว้จากทางด้านหลัง เธอคงจะตกใจมากจนไม่รู้ว่าที่เขากอดเธออยู่นี้เธอไม่มีอะไรปิดบังร่างกายเอาไว้เลย “ คุณมาที่นี่ได้ยังไง จะมาตามฉันไปทรมานรึไง ” “ ถ้าบอกว่าใช่ล่ะ ” พยัคฆ์พูดหากแต่ก้มลงมากระชิบข้างใบหูขาวสะอาดจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆออกมาจากร่างกายเธอ กลิ่นที่เขาเองหลงไหลเมื่อได้เชยชม “ รีบหรอ ฉันพึ่งจะออกมาไม่นานนี้เองนะ ” “ ใครจะรู้ถ้ามึงคิดหนีกูจะทำยังไง ” “ ทำใจ ” อัญชันพูดจบมือหนาก็เลื้อยขึ้นมาจนถึงเม็ดบัวคู่สวยที่ตอนนี้มันแข็งเป็นไตเพราะความเย็นจากน้ำ และเมื่อเขาจับบีบหน้าอกเธอจึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองตัวเปล่าเล่าเปลือยอยู่ “ ว๊าย!! นี่นายอย่ามองนะ ปล่อยเลยนะปล่อย ” อัญชันพยายามแกะมือที่กอบกุมเต้างามของเธอออกแต่มันก็ไม่เป็นผล ตอนนี้เธออายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว แก้ผ้าต่อหน้าผู้ชายใช้ได้ที่ไหนกัน “ หึ! พึ่งรู้ตัวหรอว่าตัวเองล่อนจ้อนหื้ม...” ร่างสูงลอบยิ้มโดยที่คนตรงหน้าไม่เห็นเพราะเธอยืนหันหลังให้ จากนั้นเขาก็จับเธอหันมาให้เผชิญหน้ากันโดยที่อัญชันหลับตาปี๋เพราะอายส่วนมือน้อยๆของเธอก็ยกขึ้นมาปิดอกอวบเอาไว้ แต่มันก็ไม่มิดเพราะหน้าอกเธอมันใหญ่เกินตัวไปมาก “ ปิดทำไม...กูเคยเห็นหมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องปิดแล้ว แล้วก็ลืมตาขึ้นกูสั่ง!! ” พยัคฆ์ออกคำสั่งเสียงเข้มขึ้นจนอัญชันต้องลืมตาขึ้นมา ตอนนี้เธออายหน้าแดงหูแดงไปหมด “ พอใจหรือยัง ถ้าพอใจแล้วก็ปล่อยสักทีฉันจะขึ้นแล้ว ” ร่างเล็กบอกพร้อมกับผลักอกแกร่งของเขาไว้ไม่ให้มาแนบชิดกับอกอวบของเธอ ใช่สิเขาใส่เสื้อผ้าครบจะไปอายอะไรแล้วเธอล่ะ “ อยากขึ้นหรอ ดีเลยตอนนี้กูก็อยากขึ้น ” คำพูดสองแง่สองง่ามทำเอาอัญชันหายใจติดขัด ความรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อนับร้อยตัวมาบินวนอยู่ในท้องเธอ “ งั้นก็ปล่อย ฉันหนาวแล้ว ” ร่างเล็กผลักเขาแต่ไม่เป็นผลเธอตัวเล็กเท่ามดเมื่อเทียบกับเขา ไม่ทันได้ตั้งตัวร่างสูงก็ล็อคคอเธอไว้แน่นพร้อมกับก้มลงมาบดจูบอย่างเอาแต่ใจ ใครใช้ให้เธอขี้ยั่วเองก็ต้องรับผิดชอบ “ อื้อ....” อัญชันตกใจที่จู่ๆเขาก็ล็อคคอเธอไว้แล้วก้มลงมาฉวยโอกาสจูบเธอ จึงทุบอกแกร่งเขาไปรัวๆ แต่เหมือนจะไม่ได้ผลนอกจากไม่ได้ผลแล้วยังสร้างแรงสวาทให้กับพยัคฆ์อีกด้วย เขาบดจูบเธอเนิ่นนานจนคนตัวเล็กแทบยืนไม่อยู่พยัคฆ์จึงจับเธอขึ้นมาอุ้มไว้ในท่าลิงอุ้มแตง อัญชันกลัวตกจึงรีบเอาแขนเล็กๆคล้องคอเขาไว้ “ จะทำอะไร ปล่อยนะ!! ” อัญชันที่บอกเขาปล่อยแต่เธอดันกอดคอเขาแน่น “ บอกกูปล่อยแต่มึงเกาะแน่นเลยนะ กูไม่ปล่อย อย่ามาสั่งกูให้ยาก ”พยัคฆ์ที่ตอนนี้อุ้มคนตัวเล็กตรงหน้าไว้แน่นและพร้อมกันนั้นก็บดจูบเธออย่างเร่าร้อนกลางลำธารยามพลบค่ำ อัญชันสมองเริ่มขาวโพลนจากแรงจูบและบรรยากาศที่แสนจะเป็นใจ คนพึ่งเคยทำอะไรแบบนี้เลยอ่อนไหวง่ายยินยอมโดยไม่รู้สึกตัว พยัคฆ์เดินมาเรื่อยๆจนถึงฝั่งในขณะที่ปากหยักก็ยังทำหน้าที่บดจูบไว้อย่างดี เขาวางเธอนั่งบนรากของต้นไม้ใหญ่พร้อมกับตัวเขาที่รีบถอดปราการที่กางกั้นเอาไว้จนหมด และถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง ซิกแพคแน่นๆของเขาทำเอาเธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ อะไรจะแน่นขนาดนั้น ไหนจะยังส่วนนั้นอีกแก้มเธอแดงปลั่งลามไปยันใบหูทำเอาพยัคฆ์ยิ้มพอใจ“ ต้องการจริงๆหรือเปล่า คราวนี้กูจะไม่บังคับ ” พยัคฆ์เอ่ยถามอีกครั้งด้วยต้องการความมั่นใจ และคำตอบที่ได้รับก็ทำเขาต้องยิ้มร้าย“ อือ ” อัญชันครางเบาๆในลำคอให้ได้ยินกันแค่สองคน ความเขินอายหมดสิ้นแล้วบัดนี้มันถูกแทนที่ด้วยความต้องการที่มากล้น พยัคฆ์ยิ้มมุมปากพอใจในสิ่งที่ได้ยิน“ สัมผัสมันหน่อยสิ มันต้องการมึงปวดหนึบไปหมดแล้ว ” พยัคฆ์เอ่ยบอกพร้อมกับมือหนาที่จับมือเรียวมาสัมผัสกับท่อนเอ็นตัวเองแล้วสอนให้เธอสัมผัสมันแบบที่เขาต้องการเพียงไม่นานคนหัวไวก็ทำเองได
พยัคฆ์ที่ใจร้อนรีบใส่ท่อนรักเข้าไปจนลืมไปว่าเธอตัวเล็กกว่าเขามากคงรับไม่ไหวแน่ เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องจากคนตรงหน้าจึงหยุดแช่แก่นกายเอาไว้เพียงเท่านั้นเพื่อให้เธอได้ปรับตัว เขาก้มมองร่องรักที่บัดนี้มันแดงแจ๋จนน่ากลัวเพราะคืนก่อนที่เขารังแกเธอก็หนักหนาเอาการแล้วยังมาวันนี้อีก“ คนบ้า! ใส่มาแบบนี้ได้ยังไง เจ็บนะ ” ร่างเล็กพูดพร้อมกับสะอื้นไห้ น้ำตาร่วงเผาะ มันไม่ใช่แค่เจ็บแต่มันจุกขนาดของเขากับเธอมันต่างกันมากเกินไปจนรู้สึกเหมือนมันกำลังจะฉีกขาดก็ไม่ปาน “ เจ็บสิดี กูอยากเห็นมึงรู้สึกทรมาน มึงจะได้รู้ซะบ้างว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง ” คนตัวโตที่หยุดการกระทำทุกอย่างแต่ก็ยังปากดีไม่เลิก มือเจ้ากรรมก็ยกขึ้นมาปาดน้ำตาให้สาวเจ้าอย่างรวดเร็ว อัญชันไม่ทันได้สังเกตพฤติกรรมอ่อนโยนนี้หรอก ตอนนี้เธอล่องลอยเกินจะต้านทานได้แล้ว“ หายใจไม่ออก ขยับที ” อัญชันเอ่ยขออย่างลืมอาย โกรธเขานะที่ทำกับเธอแบบนี้ แต่ตอนนี้กลับไม่อยากให้เขาหยุดเสียอย่างนั้น ไม่รู้ว่าตอนนี้แค่เผลอไผลหรือมีใจให้เขากันแน่ อย่านะ อย่าได้คิดมีใจให้คนใจร้ายแบบนี้เชียวนะอัญชัน“ หึ! ”ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ป
ชัยเอ่ยทักผู้เป็นเจ้านายเมื่อเห็นว่าแบกเชลยสาวกลับมาสภาพเหนื่อยล้าเต็มทีส่วนอีกคนไม่ต้องพูดถึงสลบไปแล้ว ปกติแล้วทั้งสองคนนี้แทบจะคุยกันดีดีไม่ได้เลยสักครั้ง ครั้งนี้ไหนแบกกันมาอย่างกับคนสนิทกันเสียเต็มประดาอีกทั้งพยัคฆ์ไม่เคยแบกใครแบบนี้มาก่อน ส่วนมากจะใช้บอดี้การ์ดตลอด แล้วไปตามกลับมายังไงถึงได้มาสภาพอย่างกับคนไปออกรบกันทั้งคู่ " มึงไม่ต้องพูดมากบอกคนของเราไปเอาน้ำที่ลำธารกลับมาด้วย ใส่ตุ่มให้เต็ม " พยัคฆ์บอกด้วยสายตาหงุดหงิดไม่ใช่ว่าเหนื่อยเพราะแบกเธอมาหรอกนะ แต่เพราะอายลูกน้องมากกว่าที่ทำตัวโหดกับเธอไปก่อนหน้านี้เสียเยอะ ดูเหมือนลูกน้องของเขาจะไม่เชื่อแล้วหากมองด้วยสายตาของพวกมัน เขาไม่ได้อยากใจดีกับเธอหรอกนะเหตุการณ์มันบังคับให้ต้องทำต่างหาก" อ้าว? ไหนบอกว่า... " ชัยกำลังจะเอ่ยขัด ก่อนหน้านี้ให้ทรมานเธอแทบเป็นแทบตาย ไหนกลับคำซะได้ ไอ้ชัยคนนี้งงกับนายใหญ่อยู่นะ" กูสั่ง " ยังไม่ทันที่ลูกน้องคนสนิทก็พูดจบเสียงกัมปนาทของพยัคฆ์ก็เอ่ยปรามก่อนพร้อมกับทำหน้าตึงออกคำสั่งกลบเกลื่อนทันทีจากนั้นก็เดินเข้าไปในกระท่อมแล้ววางเธอลงอย่างเบามือห่มผ้าให้อย่างดี เขาสำรวจดูรอบๆกระท่
พยัคฆ์ให้จันทร์แม่บ้านของที่นี่ยกอาหารมาให้เขากินที่ห้องทำงานเพราะไม่อยากร่วมโต๊ะกับผู้หญิงคนนั้น เขารังเกียจการอ่อยที่ไม่มีมารยาทของเธอก๊อกๆๆ" อาหารมาแล้วค่ะนายใหญ่ " จันทร์วางอาหารให้กับผู้เป็นเจ้านายของบ้านด้วยอาการกระอักกระอ่วน หน้าซืดมือสั่น ด้วยน้ำท่วมปากพูดอะไรก็ไม่ได้ " ขอบใจ มีอะไรหรือเปล่าทำไมทำหน้าแบบนั้น มีใครเป็นอะไร " พยัคฆ์ถามเพราะสังเกตสีหน้าที่เหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของแม่บ้านจนถามออกไปตรงๆเผื่อมีเรื่องไม่สบายใจเกี่ยวกับครอบครัวเขาจะได้ช่วย คนงานของเขาที่นี่ทุกคนหากใครเจ็บไข้ได้ป่วยก็ได้เขาเป็นคนช่วยทั้งนั้น เขารักลูกน้องทุกคนแม้จะปากร้ายภายนอกบุคลิกดูดุแต่เขาใจดีใครๆที่นี่ก็รู้กัน" เอ่อ...คือ...ไม่มีอะไรค่ะนายใหญ่จันทร์ขอตัวนะคะ " จันทร์เลือกที่จะไม่พูดเพราะไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว ก่อนหน้านี้เธอโดนขู่มาแล้วหนึ่งครั้งจึงไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่เพราะเธอยังอยากทำงานที่นี่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นน่าจะดีที่สุด แม้จะไม่ใช่การกระทำที่ถูกต้องสักเท่าไหร่เพราะเหมือนไม่สำนึกบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนของเจ้านายแต่นายใหญ่ก็ใช่ว่าจะอยู่บ้านทุกวันและแน่นอนถ้าเธอเลือก
ผ่านไปหลายวันในเช้าวันใหม่อลิสาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น วันนี้อาการไข้ของเธอหายแทบจะเป็นปลิดทิ้งแล้วด้วยได้ยามากินเมื่อคืน คงเหลือไว้แต่ความเศร้าหมองจากการโดนจับตัวมาเป็นนักโทษในครั้งนี้ ดวงตาของเธอเศร้าหมองจนน่าสงสารริมฝีปากเม้นแน่นด้วยความเหนื่อยล้าราวกับแบกโลกทั้งใบเอาไว้ก็ไม่ปาน" เช้าแล้วสินะ ทำไมรู้สึกเหมือนไม่อยากตื่นแบบนี้ล่ะ " ร่างเล็กที่มองซ้ายมองขวาด้วยสายตาสิ้นหวังใบหน้าดูหม่นหมองราวกับคนคิดไม่ตก" กี่โมงกี่ยามแล้วนะเนี่ย บ้าชะมัดโดนจับมาแบบเห็นเดือนเห็นตะวันแต่ไม่แม้จะรู้ว่าวันนี้คือวันอะไรวันที่เท่าไหร่หรือแม้กระทั่งตอนนี้กี่โมงก็ไม่รู้ นี่แกย้อนมาอยู่ยุคหินหรือไงนะยัยอัญชันเอ้ย " คนตัวเล็กบ่นพึมพำกับตัวเองลำพังในกระท่อมหลังเล็กจะเรียกว่าหลังเล็กก็คงไม่ถูกเรียกกระท่อมร้างก็ยังได้เพราะในนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากเสื่อผืนหมอนใบกับพื้นหญ้าที่ไกล้ตายแล้ว แกร๊ก!!! เสียงเปิดประตูกระท่อมโทรมๆที่ไม่รู้จะพังลงเมื่อไหร่ดังเข้ามาในโสตประสาททำให้อัญชันต้องหันไปมองก็พบกับผู้ชายคนเดิมที่ตามเฝ้าเธอตั้งแต่วันแรก วันนี้เธอหายไข้แล้วต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ " คุณอลิน
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงอลิสาทำทุกอย่างจนเสร็จทันพอดีชนิดที่ว่าเกือบหลับแต่กลับมาได้ ไม่ว่าจะเป็นตักน้ำใส่ตุ่มที่เธอต้องเดินถึงสามรอบกว่าจะเต็มแล้วก็ออกไปหาฟืนในป่า ระหว่างทางที่เธอหาฟืนอยู่นั้นก็มองดูทางหนีทีไล่แล้วก็พบว่าบางทีการที่เธอวิ่งไปเรื่อยๆมันอาจจะเป็นทางออกเดียวก็ได้ท้ายที่สุดแล้วถ้าหาทางออกไม่เจอก็คงต้องใช้วิธีการ “เดา” ในขณะที่อัญชันกำลังจะกินข้าวก็เกิดอาการปวดท้องขึ้นมาเพราะตอนเช้าไม่ได้กินข้าวเช้าบวกกับตัวเธอที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอยู่แล้วด้วย" โอ้ย!!! ปวดชะมัด " อลิสาปวดท้องแล้วเอามือเรียวกุมท้องเอาไว้อย่างน่าสงสารชัยเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วงเพราะไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร " คุณอลินเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้นหรือว่าเป็นวันนั้นของเดือน " ชัยถามเพราะผู้หญิงเวลามีอาการปวดท้องก็มีอยู่แค่ไม่กี่เรื่องแล้วตัวเขาเองก็มีเมียจึงคิดว่าหญิงสาวจะปวดท้องแบบนั้น " เปล่าค่ะ ฉันจะเป็นโรคกระเพาะ พอดีไม่มียาที่เคยทานประจำแต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวกินข้าวก็หายแล้วค่ะ " อัญชันตอบปัดไปแล้วก็พยายามฝืนกินข้าวให้ได้มากที่สุด ข้าวไข่ต้มง่ายๆเหยาะน้ำป
อลิสานั่งแกะเปลือกหอยมุกหลังขดหลังแข็งตั้งแต่บ่ายโมงจนตอนนี้เกือบจะ 4 ทุ่มเข้าไปแล้ว เธอยังไม่ได้พักเลยสักนาที เปลือกหอยก็บาดมือจนเธอไม่ได้รู้สึกเจ็บแล้วเพราะมันชาไปหมด เลือดเลอะถุงมือจนเธอร้องไห้แต่ไม่รู้กี่รอบแล้วทั้งเจ็บทั้งแสบแต่ก็หยุดไม่ได้ ถ้าทำไม่เสร็จไม่รู้คนใจร้ายคนนั้นจะทำอะไรกับเธออีก บวกกับความกลัวเพราะไม่เคยอยู่สถานที่แห่งนี้คนเดียว ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วยที่นี่มีแค่เธอนั่งทำงาน ไม่มีแม้แต่ชัยที่คอยเฝ้าเธอตลอดเวลาเหมือนเช่นเคย ตอนนี้ก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ อัญชันมองซ้ายขวาหวังจะเจอใครสักคนที่เธอพอจะขอความช่วยเหลือได้ หิวน้ำเหลือเกิน ไอ้คนใจดำไม่แม้แต่จะทิ้งน้ำสักขวดไว้ให้เธอดื่ม" ฮึก.....ฮึก...ให้มันได้แบบนี้สิ พี่อลินนะพี่อลินไปทำอะไรให้เขาขนาดนี้เนี่ยอย่าให้เจอนะ อัญจะบ่นชุดใหญ่ให้เลย " อลิสาคาดโทษพี่สาวพร้อมกับร้องไห้ไปด้วยอย่างไม่อายใครเพราะในตอนนี้ตรงนี้มีแค่เธอคนเดียว เธอรักพี่สาวเธอมากเกินกว่าที่ใครจะรู้ แม้ว่าทุกๆอย่างผู้เป็นพ่อจะมอบให้แต่พี่อลินเธอก็ไม่เคยคิดอิจฉาริษยาพี่สาวฝาแฝดเลย ตรงกันข้ามกลับดีใจด้วยตลอด และพี่อลินเองก็คงไม่เกลียดเธอหรอกแม้จะไม่ได้รั
พยัคฆ์โมโหเธอที่ดื้อเกินไปและก็เริ่มพาลโกรธสิ่งรอบข้างไปหมด สีหน้าของเขาตอนนี้ดูน่ากลัวมากกว่าตอนที่เขาดุเธอปกติเสียอีก เขาจ้องเธอสักพักแล้วก็ทำในสิ่งที่เธอไม่คาดคิด ร่างเล็กถึงกับร้องห้ามแทบไม่ทัน" นาย!! จะทำอะไรปล่อยนะ " อลิสาถึงกับตกใจกับสิ่งที่เขาทำ แล้วจะมาอุ้มเธอทำไมกัน เธอไม่ได้เจ็บขาสักหน่อย สมองกลับแล้วหรือไงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายใครจะตั้งรับได้ทัน" ก็อุ้มไงมองไม่เห็นหรอ อยู่นิ่งๆถ้าไม่อยากตกลงไปแข้งขาหัก ถ้าตกลงไปคราวนี้ไม่รับประกันความปลอดภัยนะ " พยัคฆ์ขู่เพราะพื้นมันลื่นถ้าเธอตกลงไปมีหวังเจ็บแน่ เธอจึงเลือกที่จะอยู่นิ่งๆตอนนี้ก็ได้บาดแผลมาเต็มร่างกายมากพอแล้ว ถ้าเพิ่มขึ้นมาอีกคืนนี้ก็นอนระบมไม่ต้องหลับต้องนอนมันแล้ว สกุ๊ปชีวิตอัญชันแท้ๆ " หึ ว่าง่ายๆแบบนี้ตั้งแต่แรกก็จบ " พยัคฆ์อุ้มเธอออกมาจากตรงนั้นกำลังพากลับกระท่อมหลังเก่าด้วยรอยยิ้มพอใจที่เผยให้เห็นเล็กน้อย แต่ก็เจอกับบอดี้การ์ดพี่ตามมาพูดขึ้นมาขัดจังหวะเขาเสียเหลือเกิน " นายใหญ่ครับให้ผมอุ้มให้ดีกว่าครับ " ด้วยความหวังดีบอดี้การ์ดจึงอาสาที่จะอุ้มอลิสาแทนให้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือพยัคฆ์มองตาเขียวปั๊
2 ปีผ่านไป ตอนนี้พยัคฆ์ได้กำเนิดทายาทเป็นลูกชายเพียงคนเดียวชื่อ คอปเปอร์ ซึ่งก็มีความหมายเหมือนกับชื่อของเขานั่นแหละ จริงๆเขามีแพลนจะมีลูกผู้หญิงอีกสักหนึ่งคน แต่ตอนนี้อัญชันดูเหมือนจะยังไม่อยากมีสักเท่าไหร่เพราะอยากดูแลเจ้าคอปเปอร์ให้ดีที่สุด ถ้าถามว่าตอนนี้เขาอยู่ในสถานะไหนก็บอกได้เลยว่า“ พ่อบ้านใจกล้า” หลังจากที่ง้อเธอสำเร็จในวันนั้นเขาก็กลายเป็นพ่อบ้านทันที ทำทุกอย่างแทนเธอเหมือนกับที่เคยทำกับเธอเมื่อก่อนหน้านี้นั่นแหละเพียงแต่ว่าตอนนี้เขาทำมันด้วยความรักไม่ได้โดนบังคับแต่อย่างใด อลิสาแทบจะเป็นเจ้าหญิงสำหรับเขา เขาสัญญากับพ่อเธอว่าจะดูแลเธออย่างดีเขาก็ทำมันจริงๆ ตอนนี้แทบไม่เหลือคราบของมาเฟียเลยด้วยซ้ำ มีแต่คำว่าพ่อของลูกและสามีที่ดีของอัญชัน ส่วนทางด้านอลินและสิงหราช 2 ปีที่ผ่านมาสิงหราชเริ่มจะกลับมาเดินได้อาจจะยังไม่ปกติสักเท่าไหร่ เพราะว่ามันไม่ยอมทำกายภาพบำบัดตั้งแต่ทีแรก เลยกลายเป็นเรื่องยากที่จะกลับมาเดินได้ให้เหมือนคนปกติ แต่พอเวลาผ่านไปความตั้งใจของไอ้สิงห์มันก็เกิดผลเมื่อตอนนี้มันกำลังจะกลับมาเดินได้เป็นปกติแล้วเพียงแต่ต้องรอเวลาอีกสักหน่อยเท่านั้น และ
พยัคฆ์ใช้ลิ้นดุนดันช่องทางรักของคนตัวเล็กอย่างเอาเป็นเอาตายพร้อมกันนั้นมือหนาอีกข้างก็ยกขึ้นมาใช้นิ้วถึงสามนิ้วสอดเข้าไปในช่องทางรักของเธอพร้อมกับชักเข้าชักออกตามแรงอารมณ์ดิบเถื่อนที่ทั้งสองคนมีด้วยกัน ความรู้สึกเดียวกันมันก็คุยกันง่ายแจ๊ะ! แจ๊ะ! แจ๊ะ! เสียงนิ้วมือร้ายที่ชักเข้าชักออกในช่องทางรักของอลิสา ร่างเล็กครางระงม พยัคฆ์ได้ไปปรึกษาหมอมาแล้วว่าในช่วงนี้เขาไม่ควรมีสัมพันธ์ลึกซึ้งเพราะอยู่ในระยะที่ค่อนข้างอันตราย แต่ก็ยังสามารถมีได้เพียงแต่ว่ายังทำแรงไม่ได้นัก เขาจึงพยายามเบามือที่สุด" แรงกว่านี้ได้ไหมเสือขา อัญจะเสร็จแล้ว " พยัคฆ์เร่งมือจนสุดท้ายแล้วก็ส่งเธอไปจนถึงปลายทางสีรุ้ง คนตัวเล็กหลับตาพริ้มด้วยความสุขใจ การทำรักด้วยกันก็เหมือนเป็นการผ่อนคลายชนิดหนึ่งนั่นแหละ เมื่อเธอได้รับความสุขสมมันก็เลยแสดงออกมาทางสีหน้าได้อย่างชัดเจน คนตัวโตจับขาเรียวของเธอแยกออกจากกันกว้าง จากนั้นตัวเขาก็เข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างขาเธอ พร้อมกับชักแก่นกายออกมาชักรูดเพียงแค่สองสามครั้งแล้วก็ค่อยๆยัดมันเข้าไปจนสุดลำ" อืม...อ่าส์ เสียวชะมัด " พยัคฆ์ครางออกมาอย่างสุขสม ช่องทางรัก
" มึงจะเอาจริงหรอวะ " ลมเหนือถามเขาแค่พูดเล่นๆไม่ได้คิดว่ามันจะเอาจริง ถึงเขาจะทำแบบนั้นกับผู้หญิงคนอื่นแต่ก็ใช่ว่าอัญชันจะชอบนะ บางทีเธออาจจะเกลียดมันตลอดไปเลยก็ได้" อือ คืนนี้เลย กูใจร้อน " พยัคฆ์พูดอย่างหมายมั่น วิธีนี้แหละดีที่สุดสำหรับเราแล้ว ง้อแบบบ้าๆแบบที่เขาเคยทำบ้าๆกับเธอนั่นแหละ" ไอ้นี่มันบ้าระห่ำดีจริงๆเว้ย.. " คราวนี้เป็นคิมหันต์ที่พูดขึ้นมา แบบนี้สิถึงจะสมเป็นไอ้เสือที่พวกเขารู้จัก กล้าได้กล้าเสียบ้าให้สุด" หึ แล้วแต่มึง " คณินที่ตอนนี้ก็เห็นด้วย ถ้ามัวแต่มาตามง้อกันอยู่แบบนี้ก็คงไม่ไปไหน คงง้อไปถึงชาติหน้าเลย ดูท่าทางอัญชันใจแข็งขนาดนั้น " งั้นพวกมึงก็กลับไปได้แล้ว กูจะอยู่กับเมีย " พยัคฆ์เอ่ยปากไล่เพื่อนในทันที ตอนนี้ไม่ได้สนใจแล้วเขาต้องการแค่ไปหาเมียตัวน้อยของเขาอย่างเดียว " เอ้าไอ้นี่...พวกกูยังไม่ได้เริ่มกินกันเลยนะเว้ย มึงจะไล่แล้วหรอ มึงจะชวนมาก็ชวนนึกจะไล่ก็ไล่มึงนี่มันยังไงกันนะ " คราวนี้เป็นลมเหนือที่พูดขึ้นมา เขาเพิ่งจะมายังไม่ทันได้นั่งด้วยซ้ำมันก็จะไล่เขากลับเสียแล้ว เขาอุตส่าห์แคนเซิลนัดสาวสวยเพื่อมากินเหล้ากับมัน นึกว่ามันจะต
พยัคฆ์หลังจากที่คุยกับเกรียงไกรเสร็จแล้วเขาก็รีบมาหาเธอที่บ้านตากอากาศของไอ้คณินทันทีเพื่อมาง้อเธอ ในตอนนี้เขาทำได้เพียงอย่างเดียวคือทำใจเท่านั้น เพราะคงโดนเธอเกลียดหนักแน่ๆ เมื่อมาถึงหน้าบ้านก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ซื้อไม่ถูกแค่หวย“ นายมาทำไมอีก ” อัญชันถาม เธอไม่อยากเจอหน้าเขาอีกแล้ว ปากพร่ำบอกแบบนั้นแต่ในใจกลับไม่ได้รู้สึกเหมือนที่พูดเลยสักนิด ทำไมถึงได้ดีใจที่เขาให้ความสำคัญมาง้อถึงที่นี่ อาจด้วยเพราะเธอไม่เคยสำคัญกับใครตั้งแต่เกิดมา พอเห็นเขามาง้อเข้าหน่อยใจเจ้ากรรมกลับโอนอ่อนไปกับเขา“ พี่มาง้ออัญ จะให้พี่ทำยังก็ได้เพื่อให้อัญยกโทษให้พี่ พี่ขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นนะครับ ” พยัคฆ์บอกผ่านรั้วหน้าบ้าน เขาอยากเข้าไปแต่เธอมองเขาตาเขียวเลยใครจะกล้า“ไม่มีทางหรอกค่ะ กลับไปเถอะ”“โถ่อัญ อัญครับ....” ไม่ทันที่พยัคฆ์จะได้เอ่ยอะไรออกไปอีก อัญชันก็เดินเข้าบ้านไปเลย พยัคฆ์ถึงกับก้มหน้าอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก แต่เขาไม่สิ้นหวังแค่นี้หรอกนะ ทักข้อความหาเพื่อนทันที“ ให้พวกนั้นช่วยดีกว่ามั๊ง ขืนง้อเธอแบบนี้ง้อจนแก่เธอก็ไม่ให้อภัยหรอก ”Tiger : พวกมึง กูอยากมาปาร์ตี้บ้านไอ้คณิน บ้าน
พยัคฆ์มาหาเกรียงไกรถึงที่บริษัทเครือทัตเทพกาญเพื่อที่จะมาคุยเรื่องของอัญชันให้มันถูกต้อง ตอนนี้เขาเรียกชื่ออัญได้อย่างคล่องปากแล้ว " สวัสดีค่ะคุณพยัคฆ์มาพบท่านประธานหรอคะ " พนักงานต้อนรับพูดจาไพเราะพร้อมกับทำท่าทางยั่วยวนคนตรงหน้า แต่พยัคฆ์ก็ไม่ได้จะสนใจตอนนี้เขาต้องการทำบางอย่างให้เรียบร้อย เพื่อจะได้กลับไปง้อเมียของเขา" ครับ " " ไม่ทราบว่าได้นัดเอาไว้หรือเปล่าคะ พอดีวันนี้ท่านประธานมีประชุมในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้าค่ะ ไม่แน่ใจว่าท่านจะให้เข้าพบหรือเปล่า " พนักงานต้อนรับพูดออกไปด้วยไม่รู้ว่าพยัคฆ์คนนี้มีอิทธิพลมากแค่ไหนกับท่านประธานของเธอ เธอรู้แค่ว่าคนคนนี้เป็นคนกว้างขวางของเมืองนี้ก็แค่นั้น " บอกคุณเกรียงไกรไปว่าพยัคฆ์มาขอพบก็พอ ถ้าเขาไม่ให้เข้าพบฉันก็จะกลับ " พยัคฆ์บอกกับพนักงานออกไปทำให้พนักงานรีบต่อสายไปหาเกรียงไกรแล้วก็ได้รับคำตอบว่าให้รีบพาตัวเขาขึ้นไปหาทันที เมื่อขึ้นมาบนห้องของผู้บริหารแล้วเกรียงไกรต้อนรับเป็นอย่างดี เพราะหวังว่าจะได้ร่วมงานด้วย เกรียงไกรนั้นหวังเพียงแค่ผลประโยชน์ที่จะได้รับเพียงเท่านั้น เขาเกิดมาเป็นคนเห็นแก่ตัวเขาก็พอรู้ดี แต่นั่น
คณินพาพยัคฆ์มานั่งตรงม้านั่งหน้าบ้าน เขาไม่แม้แต่จะให้มันเข้าไปในตัวบ้านเลยเพราะในนั้นอลิสาคงไม่สะดวกใจที่จะเจอกับมันอีก " กูจะไม่ขอโทษมึงนะที่พาอลิสาออกมาโดยที่ไม่ได้บอก เพราะตอนที่กูเจอเธอ เธอเกือบไม่มีชีวิตรอดกลับมาแล้ว กูเห็นแล้วกูสงสาร ถ้ามึงจะไม่เป็นเพื่อนกับกูเพราะเหตุผลนี้กูก็เข้าใจ " " หมายความว่ายังไง เอาเรื่องมินตราก่อน เรื่องมึงกับกูไม่เคยเปลี่ยนแปลงกูทำเพราะอารมณ์ชั่ววูบ กูขอโทษ " พยัคฆ์ถามเพราะเขารู้ว่ามินตราคือต้นเหตุ แต่เหตุการณ์ที่แน่นอนนั้นยังไม่รู้ดีเพราะมัวแต่ตามหาอลิสาจนไม่ได้สนใจใคร ส่วนคณินเมื่อได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้นก็โล่งใจ เขาคิดหนักมาตลอดว่าแก๊งค์มันจะแตกจริงๆหรือ ไอ้คิมหันต์กับลมเหนือก็ไม่รู้จะช่วยยังไง บอกแค่ว่าจะไปคุยกับไอ้เสือให้ พอมาฟังวันนี้ก็รู้เลยว่ามันก็รักเพื่อนมากเหมือนกัน อย่างน้อยๆมันก็ตัดกันกับเขาไม่ขาด ต่อไปนี้เรื่องผู้หญิงจะไม่ทำให้เราทะเลาะกันอีก" มินตราลวงเธอไปฆ่ากลางทะเล หลอกว่าจะพาเธอหนี เธอไม่ได้เชื่อมินตราหรอกนะอัญชันเธอแค่ไม่มีทางเลือก เธอเลือกไปตายเอาดาบหน้ามึงคิดว่าไง กูไปเห็นเข้าพอดีเลยตามไปช่วยได้ทัน กูไม่อยากคิดเลยนะไอ้
หลังจากที่เรื่องระหว่างสิงหราชและอลินได้ผ่านไปอย่างเรียบร้อยแล้ว พยัคฆ์ก็ถึงเวลาจัดการเรื่องของตัวเองสักที เขาให้คนออกตามหาอลิสาจนได้รู้ว่าเธออยู่ในความดูแลของคณินจริงๆเหมือนที่อลินว่า " ไอ้ชัยมึงไปกับกูวันนี้กูจะไปทวงเมียกูคืน ไอ้คณินมันคอยแต่จะงาบเมียกูปล่อยไว้กับมันนานๆอัญชันจะเหลือแต่ชื่อ " พยัคฆ์พูดอย่างหมายมั่น ส่วนชัยได้แต่ทำหน้าเหวอไม่คิดว่าผู้เป็นนายจะพูดออกมาตรงๆแบบนี้ คราวนี้คงพูดออกมาได้เต็มปากแล้วสินะส่าคุณอลิสาเป็นเมีย หลังจากที่เป็นคนปากแข็งมาตั้งนาน " ครับนาย " ทั้งสองเดินทางไปจนถึงเชียงใหม่ในขณะที่บ้านพิษณุกรมีอลินพี่ช่วยดูแลน้องชายของเขาอยู่ ส่วนมินตราเขาได้จัดการลงโทษเธอไปเรียบร้อยแล้ว โดยการที่บอกเรื่องนี้กับพ่อเขาและพ่อเขาก็สืบจนรู้ว่ามัทนาและมินตราวางแผนที่จะจับเขาจริงๆ พ่อของเขาก็ทำอะไรได้ไม่มากเพราะด้วยรักมัทนาสุดหัวใจ จึงตัดสินใจพาทั้งมัทนาและมินตราไปอยู่ต่างประเทศเพื่อให้ไม่ต้องมาอยู่ใกล้เขาและสิงหราชอีก ส่วนเขาแม้จะไม่เห็นด้วยเพราะเป็นการลงโทษสถานเบาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากเพราะมินตราเกิดท้องขึ้นมา เขาเห็นแก่เด็กที่กำลังจะเกิดเลยปล่อยให้เรื่องนี้
อลินยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของสิงหราช เธอยืนถอนหายใจอยู่นี่เกือบ 10 นาทีแล้วเพราะไม่กล้าเข้าไปสักที เธอพยายามรวบรวมความกล้าแต่เหมือนมันมีน้อยเหลือเกินด้วยความไม่ได้เจอกันมานานนับปี แล้วก็จากกันไปแบบไม่ดีด้วยก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นกับเขายังไงดี จนพยัคฆ์ที่เดินมาบอกกับเธอเพราะยืนดูอยู่ห่างๆมาสักพักแล้ว หากเขาไม่ทำอะไรสักอย่างเลยคงไม่ได้การแน่ พวกเขาทั้งสองคนคงไม่ได้ปรับความเข้าใจกันสักที" เข้าไปเถอะครับ ความจริงที่ต้องเผชิญอยู่ข้างหน้าแล้ว ไม่แน่ว่าพวกคุณทั้งสองคนอาจจะรักกันมากจนไม่อยากทิ้งเป็นไปก็ได้ ถ้าปรับความเข้าใจกันได้ผมยินดีคุยกับคุณพ่อให้ ขอแค่สิงห์มีความสุขก็พอ " พยัคฆ์พูดเพื่อเป็นกำลังใจให้อลิน ถ้าหากเขาจัดการเรื่องนี้เสร็จเมื่อไหร่ เรื่องต่อไปก็คงเป็นเรื่องของเขากับน้องสาวของเธอแล้ว " ถ้ามันไม่เป็นเหมือนที่เราคิดล่ะคะ ถ้าเกิดว่าสิงห์ไม่ได้รักอลินแล้วอลินกลัวจะทำใจไม่ได้ค่ะ " พยัคฆ์ที่ยิ้มให้เพราะไม่คิดว่าสิ่งที่เธอคิดมันจะเป็นแบบนั้นตลอดเวลาน้องชายของเขาโหยหาแต่เธอมาโดยตลอด เขาคิดว่ามันคงต้องดีใจจนเนื้อเต้นเป็นแน่ที่ได้เห็นหน้าคนที่มันรัก และไม่ทันที่จะให
" มึงมากับเธอได้ยังไงคณิน " พยัคฆ์ถามด้วยความสงสัย เพราะหลังจากที่เธอหายตัวไปกล้องวงจรปิดของเขามันจับไม่ได้ แล้วก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาเลยแม้กระทั่งมินตราที่เขาพยายามเค้นความจริงจากเธอ" นี่คือคุณอลินตัวจริง เธออยากมาพบมึงแล้วก็อยากเล่าความจริงให้ฟัง มึงจะได้ตาสว่างสักที " " ความจริง? " ยังมีความจริงอะไรนอกจากที่เขาได้ยินจากปากน้องชายอีก เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้ว" ใช่ค่ะ ความจริงอีกมุมหนึ่งที่คุณอาจจะยังไม่รู้ " พยัคฆ์พาอลินเข้ามาในห้องรับแขก หลังจากนั้นตัวต้นเรื่องตัวจริงก็เริ่มเล่าทุกอย่างแบบละเอียด " ความจริงแล้วอลินกับสิงห์เรารักกันมาก เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่ไปเรียนต่อโทที่นู้น จนวันหนึ่งเราสองคนเรียนจบแล้ว แล้วก็กำลังจะกลับมาหาผู้ใหญ่ด้วยกัน แต่แล้วเรื่องที่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นก็เกิดคือพ่อกับแม่ของคุณไปหาอลินถึงคอนโด แล้วก็บอกให้เราสองคนเลิกคบกันซะ เพราะมีคนที่เหมาะสมรอสิงห์อยู่แล้ว ทีแรกอลินไม่ยอมหรอกนะคะ แต่ท้ายที่สุดแล้วสิงห์ก็ต้องมีอนาคตที่ดี และอนาคตที่ดีของสิงห์พ่อกับแม่ของเขาก็เตรียมไว้ให้แล้วโดยที่ไม่มีอลินอยู่ในนั้น " พยัคฆ์ที่ได้ฟังถึงกับงุนงง ม