หลังจากวันนั้นมิเอะกับวีรดาก็ใกล้ชิดกันมากขึ้น ทุกช้าและเย็นมิเอะจะทานเข้ากับวีรดา พอตกเย็นเจ้าหล่อนก็จะมาอ่านหนังสือภาษาญี่ปุ่นให้ลูกฟังทุกคืน ทั้งสองใกล้ชิดกันจนทำให้อีกฝ่ายหลงคิดไปว่าตัวเองเป็นเมียของอีกฝ่าย จนบางครั้งแอบหงุดหงิดเวลาที่เขากลับมาอ่านหนังสือให้กับลูกของตัวเองไม่ทัน เฉกเช่นกับวันนี้ วีรดานั่งหน้างอง้ำอยู่บนเตียงสายตาจ้องมองมือถือซึ่งมันก็เลยเวลาที่เขาจะกลับบ้านมานานมากแล้ว และมันก็ทำให้คนที่เริ่มเคยชินจากการกระทำของเขา เกือบ2 เดือนนี้มันชินและคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้ว“ทำไมยังไม่มาอีกนะ หรือว่าไปกับคนอื่น” เธอสบถอย่างหงุดหงิด ก่อนจะลูบท้องตัวเองบอกลูกน้อยว่าแม่ไม่สมควรโมโหเดี๋ยวจะส่งผลให้เจ้าตัวน้อยเป็นคนอารมณ์ไม่ดีตามไปด้วย“อุ๊ย!!เสียงรถ” เสียงหวานอุทานพรางรีบวิ่งไปยังหน้าต่าง ด้วยความสูงทำให้รู้แต่เพียงว่ามีรถเข้ามาแต่สีและยี่ห้อของรถมันไม่ใช่คันที่เขาขับอยู่เป็นประจำนี่นา และเมื่อเห็นคนที่ถูกพยุงลงมานั้นเป็นใครหัวใจของเธอก็เต้นรัวเหมือนกัน สายตามองไปยังหญิงสาวที่เข้ามาก้อล้อก้อติด ใบหน้าสวยก็บึ้งตึงทันที มีผู้หญิงชอบมาส่งแถมยังหอมแก้มกันด้วย หมายความว่ายังไ
ขณะที่ร่างน้อยกำลังหัวใจแตกสลาย อยู่ตรงหน้าร่างโปร่งของเขา เธอเหมือนกับถูกตบหน้าจนชานั้นแม้จะไม่ได้เอ่ยเป็นคำพูดแต่การหยุดนิ่งแล้วมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นมันทำให้เธอเองอยากกัดลิ้นตาย เห็นแบบนี้แล้วเธอยังจะมีหน้ามายืนตรงนี้อีกหรือไรวีรดา หญิงสาวบอกตัวเองระหว่างดึงชุดนอนจากปลายเท้าเอามาสวมคลุมไว้แบบเดิมนี้หมับ !!"ฉันไม่ให้เธอไป"“อ๊ะ!!อุ๊บ !!อื้อ อื้อ อื้อ” ยังไม่ทันจะยกไปคลุมไหล่ ข้อมือเรียวก็ถูกคว้าเอาไว้เพื่อหยุดกับทุกการเคลื่อนไหวนั้น ปากอิ่มของเธอก็ถูกประกบปิดอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง ดวงตากลมที่เบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ไม่คาดฝันค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ ขณะที่ลิ้นนุ่มก็เปิดต้อนให้ปลายลิ้นร้อนของเขาสอดแทรกเข้ากวาดต้อนไปทั่วโพรงปากนี้ชุดสวยนั้นล่วงลงพื้นอย่างรวดเร็วตุ๊บ !!“อื้อ จ๊วบ อืม อ่าส์” เสียงครางดังมาจากร่างโปร่งอย่างพอใจ ขณะที่ปลายลิ้นก็ตวัดรุกเร้าเจ้าชิวหานุ่มที่แสนหวานละมุนนี้ หญิงสาวไม่อดรนทนอีกต่อไปแล้ว ภาพของการที่เจ้าหล่อนจะจากไปมันแล่นเข้ามาในสมอง ทำให้เธอเองตัดสินใจทำตามที่ใจตัวเองต้องการ เพียงแค่ได้ยินคำว่าชอบเรามันก็ทำให้รู้สึกเหมือนกับท้องฟ้าที่มืดมนมันสว่างไสว
วีรดามองหน้าเขาตาหวานเยิ้มเช่นกัน ใบหน้าสวยคมที่เห็นตรงหน้าความสวยของเขาทำให้เธอใจสั่น ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มาใกล้ชิดกันขนาดนี้ คนที่อยู่แต่ในจินตนาการกลับมาให้สัมผัสตรงหน้า หญิงสาวค่อยๆ ยกมือน้อยๆ ประคองดวงหน้าสวยคมของเขาเอาไว้ สายตากรอกไปมาอย่างสำรวจ เธอเก็บทุกรายละเอียดที่เป็นเขา เธอลูบไล้ใบหน้านุ่มเนียนละเอียดด้วยปลายนิ้วโป้งไปมาเบาๆ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นหยดน้ำสีใสที่เลอะไปทั่วพวงแก้มและตรงจมูกของเขานี้ เขาบอกให้เธอเอาปากเช็ดใช่ไหม วีรดาช้อนสายตาขึ้นสบตาเขาอีกครั้งก่อนจะหลุบตามองของเหลวที่อยู่บนใบหน้าสวยคมของเขา เธอค่อยๆ แลบลิ้นออกมาอย่างช้าๆ จากนั้นก็ค่อยๆ แตะลงไปที่แก้มข้างซ้ายของเขาอย่างแผ่วเบา“อื้อ อือ อ่าส์” มิเอะครางเบาๆ อย่างพอใจ ปลายลิ้นเล็กที่นุ่มนวลแตะลงผิวของเธอนี้ แม้มันจะแผ่วเบาแต่เธอสัมผัสได้ถึงความร้อนแรงที่เร่าร้อนนี้ เธอรู้สึกถึงปลายลิ้นที่ค่อยๆ และเล็มจากข้างๆ แก้มไล่เรื่อยขึ้นไปริมฝีปากบนนั้น มิเอะถึงกับเงยหน้าครางด้วยความสยิว เธอเผยอริมฝีปากให้เจ้าหล่อนใช้ปากเช็ดทำความสะอาดนั้น เธอรู้สึกถึงความร้อนชื้นที่ค่อยๆ เล็มเลียไปทั่วริมฝีปากนี้ ร่างสูงค่อยๆ ปรือตา
มิเอะก้มมองเจ้าดุ้นยักษ์ของตัวเองก็ต้องกัดฟันแน่น ตอนนี้มันโด่เด่ขึ้นมาพร้อมใช้งานอีกแล้ว ร่างน้อยที่นอนเบียดอยู่ตรงนี้ทำให้ตรงนั้นของเธอไม่ยอมหลับไปด้วย หญิงสาวเหลือบมองใบหน้าสวยที่เอาแต่หลับปุ๋ยก่อนจะเอื้อมมือไปจับเจ้ามิเอะน้อยเพื่อปลอบมัน "อื้อ..."เสียงนี้ครางออกมาในลำคอของร่างอวบอิ่ม พรางซุกตัวเข้ามาซบร่างโปร่งของเธอ จมูกโด่งได้กลิ่นหอมจากกายเจ้าหล่อนอีกแล้ว เอาแล้วมันตื่นขึ้นมาอีกแล้วมิเอะคิดแล้วหน้าแดงไปหมดเธอรีบหันหลังให้เจ้าหล่อนเพราะเกรงว่าเจ้านั่นมันจะไปดันจนเปียก "ขนาดนอนเธอยังทำให้ฉันปวดขนาดนี้ หากลืมตาตื่นพอดีมันสำรอกออกมาแน่ ทำไงดีว่ะเนี่ย" เสียงหวานบ่นพึมพำพรางลูบคลำมิเอะน้อยก่อนจะหลับตาจินตนาการถึงร่องสวยของเจ้าหล่อน จากนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงเธอได้ทำหน้าที่พามันให้สงบด้วยห้าดัชนีร้ายของตัวเอง "อึก ๆวีๆจ๋าวีอึก อึก อื้อ อ้างงง" เสียงครางเผลอร้องออกมาเล็กน้อยพร้อมใบหน้าสวยที่ชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ร่างเธอเกรงกระตุกงึกงึกก่อนจะนอนหงายผ่อนคลายด้วยการปลดปล่อยนี้ "คะ คุณมิเอะเรียกหนูหรือคะ" เสียงงัวเงียนั้นทำให้ร่างโปร่งตกใจ เธอรีบผงกหัวตัวเองแล้วมองใจกลางกาย โชคดีที่มีผ้าห่ม
“คุณมิเอะคะ คุณมิเอะ” เสียงหวานกระซิบข้างใบหู ใบหน้าสวยร้อนผ่าวเมื่อลืมตามาแล้วพบว่าใบหน้าของเขาซุกซบอยู่ที่หน้าอกของเธอนี้ ร่างอิ่มถูกกอดรัดเอาไว้แนบแน่น แน่นเสียจนว่าเธอขยับตัวไม่ได้ วีรดาเงยหน้ามองนาฬิกาเพื่อดูเวลา ตอนนี้มันก็ใกล้สว่างขึ้นมาแล้ว เธออยากกลับห้องไปก่อนเพราะเกรงว่าสาวใช้ปิ่นจะมาเห็น แต่พอมาเจอแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกเกรงใจดูเหมือนเขากำลังหลับสบายอยู่นั้น“นายท่านคะ ตื่นได้แล้วค่ะแล้ว” เสียงหวานกระซิบข้างใบหูของเขาอีกครั้ง สายตาจ้องยังใบหน้าสวยคมที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ตื่นง่ายๆ หญิงสาวค่อยๆ ท้าวข้อซอกข้างหนึ่งนอนมองเขาก็อมยิ้ม ก่อนจะไล่สายตาพินิจดวงหน้าสวยนั้นอย่างสำรวจ คิ้วเรียวสวยคมกับดวงตากลมดุ ดวงตาทรงพลังที่ยามเธอสบตาแล้วทำให้ต้องหงุดหน้าหลบทุกครั้ง ต่อไปนี้เธอจะไม่หลับตาอีกแล้ว จะต้องตาเขาจนให้เขาละลายไปเลย หญิงสาวคิดพรางลากปลายนิ้วสัมผัสไปตามคิ้วโค้งสวยได้รูปที่เปลือกตานุ่มนิ่มของเขานี้ นิ้วโปร่งลากไล้ไต่ตรงสันจมูก“จมูกโด่งสวยจัง” วีรดาเปรยเบาๆ จากนั้นก็ล้าสายตาลงมาหาปากกระจับที่อวบอิ่ม เธอหน้าร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงความชำนาญการใช้ของเขานี้ ทุกที่ที่ริมฝีปากเขาเขาสัมผัส
มิเอะเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องนอน ในใจร้องรนเป็นที่สุด เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมวีรดาถึงได้พูดแบบนั้น ทำไมถึงได้บอกว่าตัวเองเป็นคนโง่ เป็นตัวตลก ไปรู้อะไรมา หรือว่าความลับแตกแล้ว เป็นไปไม่ได้หรอก ไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากเรา พี่โทมะ คุณพ่อ คุณแม่แล้วก็ลุงพ่อบ้าน คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องพูดถึง รายนั้นห่วงชื่อเสียงยุ่งหว่าสิ่งใด หรือว่าพี่โทมะ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะยังไงซะทั้งคู่ยังไม่เคยคุยกันและยิ่งเป็นพี่โทมะยิ่งไปกันใหญ่ เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น พ่อบ้านก็คงไม่ใช่ หรือว่า...ร่างโปร่งคิดพรางก้มมองเนื้อตัวของตัวเองจุดสนใจคือเป้าตุงๆ นั้น“ไม่น่าจะใช่ เพราะเธอไม่เคยถอดเสื้อผ้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว” หญิงสาวเปรย ก่อนจะเหลือบมองประตูห้องแล้วเงี่ยหูฟัง“วีรดา เปิดประตูหน่อย อย่าทำแบบนี้ซิ” หญิงสาวตะโกนดังขึ้นพร้อมกับเคาะมือรัวๆ“มีอะไรก็คุยกันนะวี อย่าเงียบแบบนี้ หากไม่คุยมันจะไม่เข้าใจ”เธอยังคงแนบหน้ากับประตูห้องนอนเพื่อฟังเสียง แต่ความเงียบจากข้างในทำให้เธอรู้สึกเป็นห่วง หญิงสาวมองหากุญแจสำรอง ซึ่งมันก็ทำให้เธอหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม ร่างโปร่งไม่รีรออะไรทั้งนั้นมองหาช่องทางเพื่อเข้าไปแล้วเธอก็น
“อ๊ะ อื้อ นายท่านพอก่อนค่ะ หนูหายใจไม่ทัน” วีรดารีบดันหน้าของเขาออกแล้วงาบงับอากาศ เขาเล่นจูบเธอชนิดที่แบบว่าไม่เว้นช่องว่างให้เธอได้หายใจเลยก็ว่าได้“อื้อ ก็อยากทำให้เธอแน่ใจไงว่าฉันคือนายท่านจริงๆ ” เสียงแหบพร่าเอ่ยพรางมองหน้าเจ้าหล่อนตาหวานเยิ้ม ขณะที่มือน้อยก็ลูบไล้เนื้อตัวคนบนตักไปมา ชุดคลุมท้องนั้นทุกแหวกเปิดไหล่ทั้งสองข้าง และตอนนี้มันก็เกาะอยู่ที่ก้อนเนื้อกลมแบบหมิ่นเหม่ๆ นี้“ถ้าอย่างนั้นหนูขอดูมันก่อนได้ไหมคะ หนูอยากรู้ว่ามันใช่คนเดียวกันหรือเปล่า” วีรดาก็คือวีรดา ยิ่งรู้ว่าเขาเป็นนายท่านเธอยิ่งรู้สึกสุขใจเป็นที่สุด เธอพยายามทำให้เหมือนกับค่ำคืนที่อยู่ด้วยกัน สายตาเป็นมันส์แวววาวระยิบระยับ“หืม อยากเห็นมันจริงเหรอ แต่บอกก่อนนะว่าตอนนี้มันกำลังตื่นอยู่” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ย พรางก้มมองเจ้าดุ้นยักษ์ที่อยู่ภายใต้กางเกงตัวโปรดแล้วทำตากรุ้มกริ่มใส่ งานนี้จะไม่ทรมานอีกต่อไปแล้ว“ตื่นเหรอค่ะ หนูก็ทำให้มันหลับไงคะนายท่าน” น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยขึ้น พรางหลุบตามองตามมือของเขา เธอขยับลงจากตักแล้วไปนั่งคุกเข่าก้มมองมัน ทันทีที่ซิปของเขาควักมันออกมา ดวงตาหวานก็เบิกกว้าง ด้วยความตกใจ ทั้งสีและ
ทั้งสองสาวกำลังนอนกอดกันกลมใบหน้าของทั้งคู่ปริ่มไปด้วยความสุข วีรดาดีใจเป็นที่สุดที่รู้ว่าคนที่เธอรักและติดตรึงในหัวใจของเธอนั้นเป็นคนๆ เดียวกัน มิเอะก็สุขจนล้นเพราะตอนนี้เธอได้บอกสถานะจริงเมียกับลูกไปแล้ว ต่อไปจะเป็นยังไงค่อยว่ากัน แต่เธอมั่นใจว่าคนที่เธอนอนกอดอยู่นี้ก็รักเธอเช่นเดียวกัน มันไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว“นอนคิดอะไรอยู่คะนายท่าน” วีรดาช้อนสายตาเงยหน้าถาม เธอผงกหัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองใบหน้าของเขา รอยยิ้มอ่อนๆ ปรากฏบนใบหน้า“ไม่บอก!” มิเอะแกล้งเย้าเจ้าหล่อนเล่นจะคิดอะไรล่ะ ก็คิดเรื่องของเรานั่นแหละ“แน๊!เดี่ยวนี้มีเล่นลิ้นด้วยนะคะ ” สายตาหวานหรี่มองเขาอย่างจับผิด“อื้อ แน่นอนล่ะก็ลิ้นฉันดีนี่หน่า”“อ๊ะ อุ๊บ จุ๊บ อื้อ นายท่าน พอแล้วค่ะ อื้อ” วีรดารีบหลบปากของเขาทันทีทันใดเพราะเขาพูดเสร็จก็ฉกปากเธอเข้าไปจูบลิ้นร้อนพยายามสอดแทรกเข้ามาเกี่ยวกวัด เธอหลบได้บ้างไม่ได้บ้างเพราะร่างโปร่งนี้รุกเธอเหลือเกิน ทั้งๆ ที่เราเพิ่งจะสงบศึกรักกันเมื่อประมาณครึ่งชัวโมงก่อนหน้านี้“อื้อ ก็เธอบอกว่าฉันเล่นลิ้นนี่นา” ร่างโปร่งเอ่ยเสียงแหบพร่าก่อนจะพยายามแลบลิ้นออกมาเพื่อแกล้งเลียแถวๆ ลำคอของ
มิเอะยืนรอเมียรักอยู่สักพัก ด้วยความที่อารมณ์ค้างจึงทำให้เธอหน้างอเล็กน้อย เจ้าหล่อนบอกว่าให้เธอรอโดยบอกว่าไม่นาน ไม่นานอะไรกันนี่มันเกือบ 5 นาทีแล้ว เธอจะรอไม่ไหวแล้วนะเนี่ย หญิงสาวคิดพรางแกะกระดุมเสื้อสูททักซิโด้รอเมียรักไปพรางๆ“รอนานหรือเปล่าคะนายท่าน”“วีรดา...” มิเอะอุทานออกมาเบาๆ กับสิ่งที่ปรากฏบนกระจกนั้น ภาพสะท้อนของหญิงสาวด้านหลังทำให้เธอคลายยิ้มออกมา ร่างระหงส์อยู่ในชุดนอนบางเบาสายเดี่ยวสีขาว กางเกงขาสั้นลายลูกไม้บางเบา มันบางเสียจนเห็นว่าข้างในนั้นเจ้าหล่อนไม่ได้ใส่อะไรเลยแม้แต่ชิ้นเดียว แต่ผ้าคลุมผมในชุดเจ้าสาวยังคงอยู่ตรงนั้น เสมือนกับว่ารอให้เจ้าบ่าวอย่างเธอเป็นคนเปิดมันยังไงยังนั้น สิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นก็คือผ้าปิดตาสีดำที่เจ้าหล่อนคาดเอาไว้ ยืนพิงกายข้างผนังห้องนอนนั้น ร่างโปร่งค่อยๆ หันไปมองอย่างช้าๆมิเอะเองก็ปรากฏดวงตาเป็นประกายทันที หญิงสาวนึกถึงวันแรกที่เธอพบกับเจ้าหล่อน และมันก็ทำให้อารมณ์ของเธอพุ่งขึ้นทีละนิดๆ เธอเดินเข้าไปหาร่างสวยอย่างช้าๆ รอยยิ้มยกขึ้นมุมปาก เมื่อคนที่ยืนคอยนั้นทำหน้าตาระแวดระวัง ภาพนั้นมันเหมือนกับคืนแรกที่เธอได้เจอกับเจ้าหล่อนนี้“ฉันชอบจ
วีรดานั่งมองร่างบางของตัวเองในกระจก ขณะที่สมองกลับนึกถึงเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมาของตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมี่วันนี้ วันที่แต่งชุดผ้าลูกไม้สีขาวยาวกรอมพื้น ลายเสื้อประดับด้วยมุกสีครีมไปตามเนื้อผ้า ยังมีผ้าคลุมสีเดียวกันที่ต้องติดหลังจากที่ช่างแต่งหน้าแต่งแต้มสีสันบนใบหน้านั้น คิดแล้วขอบตาสวยหวานก็ร้อนผ่าวด้วยความตื้นตัน“คุณวีรดานี่สวยมากเลยนะคะ สวยเหมือนนางฟ้าเลย” เสียงเด็กสาวที่คอยรับใช้เอ่ยขึ้นจากด้านหลัง“พูดเกินไปหรือเปล่าปิ่น”“ไม่หรอกค่ะ ช่างแต่งหน้ายังชมเลย ขนาดมีลูกแล้วนะคะเนี่ย” เด็กสาวคนไทยที่ฟังภาษาญี่ปุ่นเข้าใจเอ่ย ก่อนจะมองนายหญิงของบ้านคนใหม่อย่างภาคภูมิใจ“อื้อ ปากหวานกันจริงเชียว ว่าแต่ตาหนูอยู่ไหนเนี่ย” วีรดามองหน้าสาวใช้แล้วถามด้วยความห่วงใย“อ่ออยู่กับนายใหญ่และนายหญิงนะคะ ทั้งสองท่านไม่ปล่อยให้ถึงมือคนรับใช้แบบพวกหนูเลยค่ะ”“เหรอจ๊ะ อื้อ” หญิงสาวพยักหน้าพรางนึกถึงวันที่นายหญิงไปตามหาพวกเราที่ต่างประเทศนั้น นายหญิงขอโทษอย่างสำนึกผิดทุกอย่าง นายหญิงต้องการให้นายท่านกลับบ้าน โดยยินยอมทำตามทุกอย่างที่นายท่านต้องการ ขออย่างเดียวให้พวกเราและลูกกลับไป กลับไปอยู่บ้าน โ
“อ๊ะ อ๊ะ นายท่านขา หนูจะไม่ไหวแล้วค่ะ” วีรดาโน้มใบหน้าสามีเข้ามาบอก ตอนนี้ร่องสวยของเธอเสียวจนทนไม่ไหวอยู่แล้ว ขาสวยที่อ้าออกกว้างตอนนี้มันสั่นเทิ้มจนเกินจะทน แขนเรียวรีบคว้าร่างของเขาเอามั่น ก่อนจะแอ่นสะโพกให้เขาอัดกระแทกอย่างแรงเพื่อส่งเธอขึ้นสวรรค์นี้“อื้อ ฉันก็ไม่ไหวเหมือนกัน ซี๊ดดดด” มิเอะจับเอวเล็กนั้นแน่นพร้อมออกแรงกระแทกไปมานี้ แต่แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นขัดความสุข“อุแว๊ๆๆๆๆๆๆ !!!”สองสาวมองหน้ากันเลิกลั่นเมื่อได้ยินเสียงบุตรชยหัวแก้มหัวแหวนส่งเสียงร้อง ทุกการกระทำหยุดกึก เหงื่อซึมออกไปทั่วใบหน้า“เอาไงดีที่รักคะ” วีรดาหันมองหน้าเขาขณะที่จุดร่องสาวของเธอกำลังเชื่อมกันอยู่นี้“ไม่ต้องห่วงค่ะคนดี ฉันมีวิธี”พลึ่บ!!“ว๊าย!!อื้อ ไม่หนักหรือคะ” วีรดาร้องเสียงหลงเมื่อเขาช้อนร่างของเธออุ้มขึ้น เธอห้อยโตงเตงอยู่บนร่างของเขาโดยตรงนั้นของเรายังคงสอดรัดกันแนบแน่น ร่างโปร่งพาเธอไปยังห้องนอนของบุตรชาย ใบหน้าสวยของเธอร้อนผ่าวเป็นที่สุด เขาไม่ได้อุ้มเธอเพียงอย่างเดียว ขาเรียวที่เขาช้อนเอาไว้นั้นกับจับมันขยับเข้าออกตามจังหวะ เธอรู้สึกได้ถึงการเข้าไปข้างในที่มันลึกสุดหัวใจนี้“ไม่หนักเลยสักนิด
มิเอะได้รับโทรศัพท์จากพี่ชายฝาแฝด หลังจากกดวางก็ถอนหายใจขึ้นมาทันที ในใจยังนึกโกรธผู้เป็นแม่ แต่อีกใจก็รู้สึกสงสาร ตอนนี้ทั้งบ้านต่างโทษท่านคนเดียวที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอหนีหายไปแบบนี้ และตอนนี้ท่านกำลังได้รับผลของการกระทำนั้นอยู่ พี่โทมะบอกว่าท่านซึมเศร้าและไม่ค่อยท่านข้าวตั้งแต่ที่งานแถลงข่าวที่บ้านทาเคชิ นึกแล้วก็เริ่มใจอ่อนขึ้นมาเสียแล้ว“มีอะไรหรือเปล่าคะที่รัก ทำไมทำหน้าแบบนั้น” วีรดาวางขวดน้ำลงกับโต๊ะ ก่อนจะเดินเข้ามาหาสามีที่ยืนหน้าเครียดอยู่ตรงหน้าต่าง“พี่โทมะโทรมาบอกเรื่องคุณแม่”“นายหญิง ๆ เป็นอะไรเหรอคะ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความกังวลใจ“พี่โทมะบอกว่าท่านเศร้ามาก”“เอาแบบนี้ไหมคะ เรากลับไปเยี่ยมท่านไหมคะ”“มันไม่ง่ายอย่างที่เธอคิดนะซิ หากไปแล้วฉันกับแม่ก็คง...” มิเอะคิดถึงการสู้หน้าท่าน เธอเกรงว่าจะมองหน้ากันไม่ติด แล้วเธฮเองก็ยังไม่อยากกลับด้วย ไม่อยากให้ท่านมาเจ้ากี้เจ้าการชีวิตของเธออีก“แต่หากว่าท่านล้มป่วย ที่รักจะรู้สึกดีอยู่เหรอคะ” วีรดาเดินเข้าไปจับต้นแขนผู้เป็นสามี สายตามองจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น เธอรู้ว่าจริงๆ แล้วเธอรู้ว่าสามีรู้สึกเสียใจเช่นเดียวกัน“ไม่หรอกน่
“อุ๊แว๊ๆๆๆ !!” เสียงสวรรค์นั้นทำให้คุณพ่อลูกอ่อนวัย 4 เดือนสะดุ้ง ร่างโปร่งรีบผุดลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานแล้วตรงไปหาเพราะเกรงว่าแม่จ๋าจะไม่ได้อยู่ใกล้ ใบหน้าสวยคมดูเป็นกังวล แต่เมื่อเห็นภาพตรงหน้าก็อมยิ้ม เสียงที่เงียบไปนั้นไม่บอกก็รู้ว่าได้สิ่งที่สมใจแล้ว ปากเล็กที่ตอนนี้มีนมจากเต้าอุดอยู่มันทำให้มิเอะส่ายหัว“ลูกจ๋าของโอโต้ซังนี่นะ อ้อนดูดนมแม่นี่เอง ร้องเสียงดังเชียว” หญิงสาวยืนกอดอกพร้อมกับส่ายหัว สายตามองภาพตรงหน้าด้วยความสุขใจ นี่หากว่าเธอไม่พาวีรดาหนีออกมาป่านนี้คงต้องตามหาแม่จ๋ากันวุ่นแล้ว หรือไม่ก็ถูกจับแยกจนไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ ไม่ได้ยืนมองความน่ารักน่าเอ็นดูที่แสนอบอุ่นแบบนี้ ว่าแต่เห็นเจ้าตัวน้อยก็นึกอิจฉาได้ดูดนมแม่ทุกเวลาที่ร้องเลย ส่วนโอโต้ซังนี่ซิต้องมานอนตะกายฝาเพราะว่าคุณหมอบอกว่างดกิจกรรมหลังคลอด 3 เดือน“เฮ้ย!!นี่มัน....” มิเอะเปรยกับตัวเองพร้อมกับดวงตาเบิกกว้าง สายตคามองภาพตรงหน้าแววตาเป็นประกายเมื่อนึกถึงระยะเวลาที่หนีออกจากบ้านจนมาคลอด “มิโดริคาวะ” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอนี้“ชู่!!เบาหน่อยซิคะ ลูกจ๋ากำลังหลับอยู่ เดี๋ยวก็ตื่นหรอกค่ะ” แม่ลูกอ่อนหันมา
“จริงเหรอครับว่าทางคาวาชิตะกรุ๊ปส่งคนมาทำร้ายคุณทาเคชิน่ะครับ” เสียงนักข่าวคนหนึ่งเอ่ยถามหลังจากที่ทาเคชิและพ่อของเขาแถลงข่าว“จริงซิครับ ทางนั้นไม่ไว้หน้าผมเลย ให้คนมาทำร้ายลูกชายของผมด้วยวิธีสกปรกๆ ครับ แถมลูกชายคนโตยังมีข่าวเรื่องรักร่วมเพศด้วยนะครับ” พ่อของทาเคชิไม่ได้บอกหมดว่าวิธีสกปรกนั้นมันคืออะไร และนำข่าวลือนั้นมาบอกให้ทุกคนเพื่อเป็นข่าว ทางบ้านของมิเอะจะได้เสียชื่อเสียง“ตายจริง ไม่น่าเชื่อนะครับวาชิตะกรุ๊ปจะเป็นยากูซ่า แถมลูกชายยังเป็นรักข้ามเพศด้วย”นักข่าวบางคนเอ่ยถามพรางหันหน้าไปหาบรรดาเพื่อนักข่าวด้วยกัน และมันก็ทำให้เคนและทาเคชิยกยิ้มมุมปากด้วยความสะใจ ช่วยไม่ได้ให้แต่งก็ไม่แต่งแถมยังไม่จ่ายเงินชดใช้อีก“ใช่ครับ ไม่อยากจะเชื่อเลย” ทาเคชิเอ่ยสมทบ“หึ แล้วแกไม่บอกนักข่าวเขาไปล่ะว่า ที่ถูกทำร้ายน่ะ แกไปทำเลวอะไรไว้” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ทุกคนตกใจ โดยเฉพาะทาเคชิและเคน“คุณโทมะ !!” บรรดานักข่าวอุทานพร้อมกันพร้อมกับยื่นไมค์ไปทางผู้มาใหม่“อุ๊ย!ทุกคนดูคลิปนั่น” นักข่าวอีกคนตะโกนไปยังจอโปรเจ็คเตอร์ที่ทาเคชิเอามาเพื่อเปิดรูปตอนฟกช้ำให้กับทุกคนเห็น แต่ตอนนี้สิ่งที่ทุกค
วีรดาเริ่มร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัว กายอวบอิ่มตอนนี้ไม่มีอาภรณ์ใดๆ ปกปิดเรือนกายเลยก็ว่าได้ ร่างอวบของหญิงสาวท้องโตตอนนี้กำลังนอนพิงอยู่กับโซฟาตัวใหญ่ ใบหน้าของเธอเริ่มมีหยดน้ำผุดๆ ปรากฏขึ้นมาบ้างแล้ว เธอมองร่างโปร่งที่ตอนนี้ก็เปลือยเปล่าเช่นกัน สายตาที่เป็นมันส์ส่งมานั้นทำให้เธอหัวใจเต้นแรง“อ๊ะ นายท่าน อื้อ” ปากบางเผลออุทานเมื่อเขายกขาสวยของเธอทั้งสองข้างตั้งชันขึ้น เธอเม้มปากแน่นเมื่อร่างของเขากลับลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ด้านล่าง สายตาคมหวานช้อนขึ้นมามอง เธฮถึงกับเปลอกัดริมฝีปากตัวเองแล้วซูดลมเข้าเบาๆจุ๊บ !! “ขอกินนะคะ จุ๊บ อื้ม” เสียงแหบพร่าเอ่ยหลังจากที่จรดริมฝีปากกับต้นขาสวยของเธอข้างในนี้ ความร้อนจากริมฝีปากนุ่มทำให้ร่างสาวท้องแก่สะดุ้ง มิเอะอมยิ้มก่อนจะค่อยๆ แลบลิ้นลากปลายลิ้นไปตามสรีระของเจ้าหล่อนเธอลากมันจากหัวข่าด้านในนั้นเคลื่อนผ่านลงมารด้านล่าง ก่อนจะจุมพิตข้างๆ ขาหนีบที่ขาวสะอาดจนใครเห็นต้องอิจฉา สายตาเหลือบมองกลีบเนื้ออวบอิ่มสีชมพู ซึ่งเธฮคนเดียวที่รู้ว่ามันสวยมากขนาดไหน หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะจุมพิตตรงส่วนนั้นอย่างหวงแหนจุ๊บ !!“อื้อ นายท่านขา อ่าส์” วีรดาถึงกับเงยหน้าครางเสีย
“อะไรนะครับคุณแม่ มิเอะหายไป” โทมะอุทานเสียงดัง ใบหน้าแตกตื่นเป็นที่สุด เขาหันไปมองหน้าแม่ของตัวเองสีหน้าเป็นกังวลที่สุด ขณะที่ในใจตอนนี้กลับยิ้มร่าด้วยความสะใจ“ใช่นะสิ ไม่รู้ว่าเมื่อไรด้วย เพราะเมื่อสองวันก่อนแม่ก็ไม่ได้เข้าบริษัท มัวแต่ยุ่งๆ เรื่องจัดงานหมั้นที่จะถึง วันจันทร์หน้านี้”“เพราะคุณคนเดียว ผมไม่โทษใครนอกจากคุณ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยเสียงเข้มสายตาตำหนิภรรยาที่รักของเขา เข้าใจว่ารักครอบครัว แต่ว่ามาทำร้ายจิตใจลูกแบบนี้ไม่ได้“เพราะฉันอะไรคะ ฉันทำไปก็เพราะชื่อเสียงในวงตระกูลนะคะ”“มันจะเสียอะไรนักหนา หรือถ้าเสียก็ให้มันเสียไปซิ แล้วนี่เป็นไงเสียลูกไปแล้วคุณรู้ไหมลดา” เสียงเข้มของผู้เป็นพ่อตะโกนต่อว่าภรรยาสุดที่รัก ซึ่งเขาได้เลี้ยงดูเหมือนกับไข่ในหิน และเชิดชูให้เกียรติเจ้าหล่อนเป็นที่สุด“ไม่หรอกคุณ ฉันรู้ว่าลูกรักฉัน” น้ำเสียงผู้เป็นแม่เริ่มอ่อย หัวใจของเธอตอนนี้บีบรัวจนถึงขีดสุด“ลูกน่ะรักคุณ แล้วคุณอ่ะรักลูกบ้างไหม”“พอแล้วครับคุณพ่อ นี่คุณแม่ก็คงเสียใจมากแล้ว”“เรื่องงานวันจันทร์จะทำยังไงล่ะทีนี้ ผมเตือนคุณแล้วนะ”“ฉันไม่รู้ ฉันจะเป็นลม เอ้อออ...” ร่างท้วมแทบหงายหลังไปพิงโซฟา
วีรดานอนร้องไห้อยู่ภายในห้องนอน หญิงสาวเจ็บปวดใจที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพียงแค่คำว่าเป็นไปไม่ได้คำเดียวเท่านั้น ร่างอวบอิ่มกระเพื่อมตามแรงสะอื้น มือน้อยข้างหนึ่งปาดน้ำตา ส่วนอีกข้างก็ลูบท้องน้อยๆ ด้วยความห่วงใย“แม่จะทำยังไงดี แม่กลัวเหลือเกินที่จะไม่ได้พบลูก” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เพียงแค่คิดถึงนายหญิงจะไม่ให้เจอหน้าลูกหัวใจของเธอก็เหมือนกับถูกเข็มทิ่มเป็นพันๆ เล่ม“ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นค่ะฉันไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นแน่”“นายท่านขา อึก ๆ !อือ” เมื่อได้ยินเสียงของเขาเธอรีบผุดลุกขึ้นแล้วหันหลังไปหา ดวงตาหวานนั้นแสนเศร้า ก่อนจะโผเข้าหาร่างนั้นอย่างรวดเร็ว“เธอไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ครั้งนี้คุณแม่ทำเกินไปแล้ว” มิเอะเอ่ยเสียงเรียบ สายตามองออกไปนอกหน้าต่าง สมองของเธอตอนนี้มันมีทุกอย่างอยู่ในหัวหมดแล้ว“นายหญิงบอกว่าหากหนูคลอดลูกแล้วยังอยู่ที่นี่ท่านจะไม่ให้หนูเจอลูก” วีรดาสะอึกสะอื้นมองหน้าเขาด้วยแววตาหลากหลายความรู้สึก“เขาก็บอกให้ฉันหมั้นกับทาเคชิเหมือนกัน”“หมั้นเหรอคะ อึก อึก อือ” เมื่อได้ฟังเช่นนั้นเธอก็ปล่อยโฮขึ้นมาอีก เธอรู้ความหมายของคำว่าเป็นไปไม่ได้แล้วว่าอะไร ลำพังไม่ให้เ