ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงอาหารหน้าตาน่าทานก็ถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะอาหารประมุขของบ้านถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมระคนสงสัยเมื่อเห็นว่าคนที่ยกอาหารมาเสิร์ฟคือแฟนของบุตรชายไม่ใช่แม่บ้าน ก่อนปรายตามองหน้าภรรยาเชิงขอคำตอบ คุณหญิงอมรรัตน์เพียงไหว่ไหล่ให้ผู้เป็นสามีเบาๆ ก่อนพพูดกับเด็กสาว "หน้าตานาทานเชียว" แก้มหวานเพียงระบายยิ้มให้ผู้ใหญ่ทั้งสองบางๆ ก่อนเดินเข้าไปในครัวอีกครั้ง เมื่อเด็กสาวหายหลังไปประมุขของบ้านก็เปล่งเสียงถามผู้เป็นภรรยาทันทีพร้อมจับจ้องด้วยแววตาคาดคั้น "เป็นแผนคุณหญิงใช่ไหมคิดจะทำอะไรอีก" "เปล่าสักหน่อย" "เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอคุณหญิง คุรก็เห็นแล้วนิว่าเด็กทั้งสองเป็นแฟนกันจริงๆ แถมยังอยู่ด้วยกันมาถึงขั้นนี้แล้วคุณยังจะขัดขว้างความรักของเขาสองคนอีกเหรอ" "ฉันก็แค่คัดกรองคนที่จะเข้ามาเป็นคู่ชีวิตของลูกเราในอนาคตไงคุณแค่ทดสอบว่าเหมาะสมไหม ถ้าเข้ามาแค่ช่วยผลาญเงินแล้วทำอะไรไม่เป็นสักอย่างก็ไม่ไหวนะ เหมือนหนูระรินไงฉันก็นึกว่าจะเป็นเด็กดีมีความเป็นกุลสตรีเห็นภายนอกเรียบร้อยอ่อนหวานแต่ที่ไหนได้ดีนะที่กวินท์ทำให้ฉันได้ตาสว่างไม่อยากนั่งคงโดนเด็กหลอกไปอีกนาน" คุณหญิงอมรรัตน์
@Dris Place Condo แก้มหวานยืนถอนหายใจอยู่หน้าห้องครั้งเล่าครั้งเล่าเพราะยังคิดไม่ตกว่าจะหาเหตุผลอะไรไปบอกอาจารย์หนุ่มดีให้ดูน่าเชื่อถือที่สุด รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นประดับมุมปากเอิบอิ่มเมื่อคิดหาเหตุผลดีๆได้เธอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ข่มไม่ให้ตัวเองรู้สึกตื่นเต้น ก่อนใช้คีย์การ์ดๆเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วค่อยๆเดินย่องเข้าไปอย่างเบาที่สุด ทว่าถึงแม้จะเบาเพียงใดก็มิอาจรอดพ้นหูตาชายหนุ่มไปได้ "กลับมาแล้วเหรอแก้มหวาน" กวินท์ใช้นิ้วลูบไปตามปากแก้วคริสตัลที่มีไวน์บรรจุด้านในอย่างใจเย็นพร้อมเปล่งเสียงเรียกร่างบางที่กำลังเดินย่องผ่านเขาไปด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก คนถูกเรียกถึงกับสะดุ้งเฮือกหยุดเดินอัตโนมัติเธอพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดแล้วหันไปตอบร่างสูงบนโซฟา "ค่ะคุณกวินท์" "มานี่สิ" ดวงตาคมกริบตวัดมองร่างบางเขม็งพร้อมเปล่งเสียงเรียกอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อเธอยังยืนนิ่งไม่ไหวติ้ง สิ้นเสียงของเขาร่างบางก็เดินเข้าไปยืนตรงหน้าอย่างว่าง่ายพร้อมหลบสายตาลงต่ำอย่างคนมีความผิด "มีอะไรจะพูดไหม" "คือ.." แก้มหวานลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยวๆลงลำคอแห้งผากอึกใหญ่ก่อนพูดโกหกคำโต "ขอโทษที่ไม่ได้รับสายคุณแก้มมัวแต่ด
"อะไรของเขาสงสัยผีเข้า" แก้มหวานเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงด้วยความสงสัยกับความใจดีของอาจารย์ใบหน้าสวยพลันระบายยิ้มออกมาบางๆอย่างลืมตัวเพียงแค่คิดถึงโมเม้นดีๆของเขาแปะๆ!"บ้ายัยแก้มคิดบ้าอะไรของแกเนี่ย" มือเล็กยกขึ้นตบลงบนหน้าตัวเองเบาๆเมื่อนึกขึ้นได้ว่ากำลังเผลอไผลคิดเรื่องที่ไม่สมควรคิด เธอลอบถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆก่อนลุกเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำเธอปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจนเหลือเพียงร่างกายเปลื่อยเปล่าก่อนลงไปนั่งแช่ในอ่างจากุชชี่แล้วเอนหลังพิงขอบอ่างพร้อมหลับตาลงปล่อยให้สมองและจิตใจล่องลอยไปอย่างไม่มีจุดหมายจนเธอไม่รู้เลยว่าได้มีคนเปิดประตูเข้ามากวินท์เดินเข้ามานั่งลงริมขอบอ่างปลายเท้าหญิงสาวอย่างแผ่วเบาที่สุด เขาจับจ้องดวงหน้าเรียวของร่างบางที่หลับพริ้มๆโดยไม่คิดจะปริปากเรียกให้เธอได้รู้ตัว"อึก" น้ำลายเหนี่ยวๆถูกกลืนลงลำคอแห้งผากอึกใหญ่ในตอนที่สายตาเลื่อนลงมาปะทะเข้ากับสองเต้าอวบที่กำลังกระเพื่อมตามจังหวะการหายใจของเจ้าของจนกวินท์ต้องรีบเบี่ยงหน้าไปทางอื่นก่อนอารมณ์ของตัวเองจะพลุ่งพล่านขึ้นกว่านี้"ทำไมต้องรู้สึกกับคนที่ไม่ควรรู้สึกด้วยนะแก้มหวาน" ดวงตาคมกริบตวัดมองดวง
"มานี่แก้มหวานอย่าให้ผมต้องโมโหไปมากกว่านี้" กวินท์ประกาศเสียงกร้าวพร้อมย่างสามขุมเข้าหาร่างบางราวกับเสือร้าย ทำเอาแก้มหวานใจหล่นวูบลงไปอยู่ตาตุ่มเท้าเล็กค่อยๆถดถอยหนีตามสัญชาตญาณ "คุณสงบสติอารมณ์ก่อนนะคะ เรามาคุยกันดีๆ" "อ๊ายย""คุณกวินท์ใจเย็นๆ ค่ะ" เธอร้องกรีดด้วยความตกใจพร้อมส่าวเท้าวิ่งหนีในตอนที่อาจารย์หนุ่มพุ่งมาจับตัวเธอ แต่สุดท้ายเธอก็ยังช้ากว่าเขาอยู่ดีตุ๊บ! ร่างบางถูกกวินท์เหวี่ยงขึ้นบนเตียงอีกครั้งหลังจากเขาจับเธอได้สำเร็จ ใบหน้าสวยถึงกับเหยเกเมื่อความเจ็บแผ่ซ่านไปทั่วท้องน้อยลามถึงแผ่นหลัง"กะ..แก้มเจ็บนะ" เธอร้องบอกน้ำเสียงขาดๆ หายๆพร้อมยกมือขึ้นกอบกุมท้องน้อยเพราะเหตุนี้เธอถึงกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้เวลาเขาโกรธเธอมีแต่เจ็บตัวเปล่าๆ อย่างเช่นตอนนี้พรึ่บ!ผ้าห่มที่เธอใช้ห่อตัวถูกอาจารย์หนุ่มกระชากออกโยนทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดีเธอพยายามถดถอยหนีแต่ก็โดนเขาจับข้อเท้าแล้วดึงจนตัวเธอนอนราบไปกับที่นอน ก่อนเขาจะขึ้นมาคร่อมเธอไว้"คุณใจเย็นๆ ก่อนแก้มผิดตรงไหน แก้มก็แค่พูดไปตามความจริง" เธอพยายามยกเหตุผลมาโน้มน้าวให้ร่างสูงใจเย็นลงสุดฤทธิ์พลางยกมือขึ้นดันหน้าท้องแกร่ง"กลัว?" กวินท
"อ่อยย" ร่างบางรู้สึกตัวขึ้นมาในช่วงเช้ามืดของวันใหม่ด้วยความรู้ปวดร้าวระบมตรงช่วงล่าง และรู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆทับตัวอยู่ "ขนาดหลับยังรังแกกัน" เธอหน้านิ่วคิ้วขมวดระคนไม่พอใจเมื่อเห็นว่าอะไรบางอย่างหนักที่ทับเธออยู่คือแขนและขาอาจารย์หนุ่ม มือเล็กค่อยๆยกขึ้นจับขาและแขนของเขาลงจากตัวก่อนลุกลงจากเตียงอย่างระมัดระวังเพราะกลัวเขาตื่นเธอยังไม่พร้อมจะคุยกับเขาในตอนนี้"เจ็บชะมัด" แต่เพียงแค่เท้าแตะถึงพื้นเท่านั้นใบหน้าสวยก็ต้องเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บ เธอผ่อนลมหายใจเข้าออกเบาๆ ก่อนเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำดวงตากลมโตจ้องรอยช้ำ รอยฟันบนเนินหน้าอกและลำคอไม่เว้นแม้แต่แขน ขาที่โดนอาจารย์หนุ่มขย้ำจนเป็นรอยผ่านกระจกอ่างล้างหน้าด้วยแววตาเศร้าคนที่เธอคิดว่าเขาค่อนข้างอ่อนโยน ใจดีทำราวกับเธอเป็นหุ่นยนต์ไม่มีความรู้สึก "อึก" น้ำสีใสพลันไหลออกจากตาคู่สวยอย่างกลั้นไม่อยู่เธอคิดผิดถนัดแค่เวลาเดือนเดียวที่อาจารย์หนุ่มแสดงการกระทำดีๆด้วยก็ทำให้เธอเผลอมองเขาเป็นคนดีไปได้ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่"ฟู่""เลิกคิดๆ" เธอพ่นลมหายใจหนักๆ ออกจากปากพร้อมยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกเรียกแรงฮึบสู้ ก่อนพาตัวเองไปอาบน
"จะให้หนูทำอะไรคะอาจารย์" แก้มหวานเปล่งเสียงถามอาจารย์หนุ่มอย่างกระแทกแดกดันเมื่อเพื่อนสาวเดินออกไปจากห้องแล้วป็อกๆ!คนถูกถามยกยิ้มมุมปากอย่างคนที่เหนือกว่าพร้อมเคาะลงบนเอกสารปึกหนาที่วางอยู่บนโต๊ะวางของด้านในแทนคำตอบ แก้มหวานรู้ได้ทันทีเลยว่าเขาต้องมีแผนแกล้งเธอแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงยกออกมาให้เองแล้ว เธอลอบถอนกายใจออกมาเฮือกใหญ่มองหน้าอาจารย์หนุ่มอย่างใช้ความคิด ก่อนเปล่งเสียงพูดขึ้นอีกครั้งเพื่อหยั่งเชิงอาจารย์หนุ่ม "อาจารย์ช่วยยกออกมาให้หนูหน่อยได้ไหมคะ" "เข้ามาเอาเอง" เธอถึงกับกรอกตามองบนอย่างเอือมระอาเมื่อได้ยินคำตอบของเขาเหมือนที่เธอคาดไว้ไม่มีผิดเขาต้องแกล้งเธอแน่ๆ "ยังยืนนิ่งอยู่อีกเข้ามาเอา" เสียงทุ้มเปล่งขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าร่างบางยังคงยืนนิ่งพร้อมมองมาที่เขาด้วยแววตาสงสัย"อาจารย์คงไม่ได้คิดจะแกล้งหนูใช่ไหคะ" สิ้นเสียงของเขาร่างบางก็ถามกลับทันควันพร้อมจับจ้องหน้าเขาอย่างจับพิรุธ"...." กวินท์หาได้ตอบคำถามไม่เขาเพียงไหว่ไหล่ให้แล้วก้มหน้าอ่านเอกสารบนโต๊ะต่อทำเหมือนไม่สนใจเธอจนแก้มหวานต้องเบะปากกรอกมองบนใส่เขาอีกครั้งด้วยความหมั่นไส้ ก่อนค่อยๆเดินอ้อมไปหลังเก้าอี้อาจารย์อ
"ออกมาได้แล้ว" กวินท์ออกคำสั่งเสียงเข้มเมื่อร่างบางยังคงนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่แบบนั้นไม่มีทีท่าว่าจะลุกออกมาสักทีทั้งที่เพื่อนของเธอก็ออกจากห้องไปสักพักใหญ่แล้ว ทว่าร่างบางหาได้ทำตามคำสั่งไม่เธอเชิดหน้าขึ้นเอามือกอดอกอย่างท้าทายเพราะรู้สึกไม่ค่อยพอใจกับการกระทำของเขาสักเท่าไรทำเอาร่างสูงเริ่มไม่สบอารมณ์ดวงตาคมกริบตวัดมองร่างบางเขม็งพร้อมออกคำสั่งอีกครั้งด้วยเสียงที่ดุกว่าเดิม "บอกให้ขึ้นมา" "ถ้าแก้มไม่ลุกแล้วคุณจะทำอะไรแก้มคะเมื่อกี้ดันให้แก้มลงมานั่งตรงนี้เองไม่ใช่เหรอ" แก้มหวานยังคงพูดจาท้าทายประชดประชันไม่ยอมหยุดถึงแม้จะแอบกลัวน้อยๆ แต่ความดื้อรั้นอยากเอาชนะของเธอที่ซุกซ่อนในตัวก็มีมากเช่นกัน เธออยากจะเอาคืนเขาบ้างที่กลั้นแกล้งเธอหากไม่เป็นเพราะเขาลบรองพื้นออกเธอคงไม่ต้องมานั่งอยู่ในสภาพแบบนี้"แก้มหวาน!" เธอถึงกับสะดุ้งโหย่งในตอนที่อาจารย์หนุ่มตะคอกเธอด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดพร้อมจับจ้องด้วยแววตาดุดัน แต่กะนั้นก็ยังทำใจดีสู้เสือเธอระบายยิ้มออกมาหน้าระรื่นพร้อมเปล่งเสียงพูดจาอย่างออดอ้อน "ข๋าาาพี่กวินท์เรียกแก้มทำไมคะ" "..." กวินท์ถึงกับฉงนไม่น้อยกับการกระทำของหญิงสาว ใบหน้าหล่
@บ้านสิริราญานุกุลเรื่องของหนุ่มสาวทั้งสองคนทำเอาคุณหญิงอมรรัตน์ถึงกับกุมขมับโดยเฉพาะบุตรชายตัวดีที่ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรไปเขาก็ดูจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยจนสุดท้ายก็ต้องลากทั้งสองคนกลับมาคุยต่อที่บ้านเพราะไม่อยากคุยที่มหาวิทยาลัยกลัวข่าวจะเพ่งพายออกไป"กวินท์นะกวินท์ทำไมแกถึงรังแกหนูแก้มจนสภาพดูไม่ได้ขนาดนี้" คุณหญิงอมรรัตน์เดินมานั่งลงบนโซฟาในห้องโถงของบ้านพร้อมต่อว่าบุตรชายด้วยความไม่พอใจพร้อมมองไปยังซอกคอของเด็กสาวที่มีรอยช้ำรอยเขี้ยวเต็มไปหมดจนดูไม่ได้ ทว่ากวินท์หาได้ใส่ใจกับคำพูดของผู้เป็นแม่ไม่เขาตวัดสายตามองร่างบางอย่างเอาเรื่องพร้อมเปล่องเสียงตอบหน้าตาเฉย "ปกติมากกว่านี้อีกครับแม่"คำพูดแสนร้ายกาจของเขาทำเอาแก้มหวานถึงกับหน้าเหว่ออ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าอาจารย์หนุ่มผู้เคร่งขรึมพูดน้อยจะกล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมาแถมยังทำให้เธอรู้สึกอับอายเข้าไปอีก เธออยากจะเข้าไปทึ้งผมเขาให้หายคับแค้นใจที่ทำเธออับอายแต่ก็ทำได้เพียงสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ก่อนกัดฟันต่อว่าร่างสูงข้างๆ ด้วยความไม่พอใจ "พูดบ้าอะไร""ผมพูดความจริง" คนโดนต่อว่ายกยิ้มมุมปากไหว่ไหล่ให้หญิงสาวอย่างไม่ยีระทำเอาคุณหญิงอมรรัตน์ที่นั่ง
หลายเดือนต่อมาอ๊วกกก! เสียงอาเจียนดังเล็ดออกมาจากห้องน้ำภายในห้องนอนของแก้มหวานกับกวินท์ เจ้าของเสียงอาเจียนหาใช่หญิงสาวไม่แต่กลับเป็นชายหนุ่มที่ยืนอาเจียนหน้าอ่างล้างหน้าจนหมดไส้หมดพุงเขามีอาการแบบนี้มา 2วันติดๆ แล้วก็ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร"พี่กวินท์เป็นอะไรมากไหมคะ แก้มว่าไปหาหมอดีกว่าพี่เป็นแบบนี้มา 2-3วันแล้วนะ" แก้มหวานเดินเข้าไปลูบหลังให้แฟนหนุ่มเบาๆ พร้อมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดของเขาผ่านกระจกกวินท์ใช้มือกรอกน้ำล้างปากก่อนแหงนหน้าขึ้นสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ระบายอาการคลื่นไส้ในอกแล้วหันไปพูดกับแฟนสาวด้วยใบหน้าอิดโรย "ก็ดีเหมือนกันครับ""ค่ะ" ใบหน้าสวยเพียงพยักรับน้อยๆ มือเล็กเอื้อมไปจับแขนแกร่งไว้แล้วประคองเขาเดินออกจากห้องน้ำพาไปนั่งลงริมเตียงจากนั้นจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อออกมายื่นให้เขาเปลี่ยน "นี่ค่ะเสื้อ""ขอบคุณครับ" กวินท์รับเสื้อจากมือแฟนสาวมาวางลงข้างตัวแล้วสอดมือเข้าไปรั้งเอวคอดกิ่วของร่างบางที่ยืนตรงหน้าเข้ามาแนบชิดทำให้ตอนนี้ใบหน้าของเขาอยู่ระดับหน้าท้องแบนราบพอดี ก่อนเขาจะแหงนหน้าขึ้นมองใบหน้าแฟนสาวพลางนึกขอบคุณใน
"พี่ยังไม่ตอบแก้มเลยนะคะรู้ได้ยังไงว่าแก้มอยู่ที่นี่" แก้มหวานหันไปถามอาจารย์หนุ่มอีกครั้งขณะกำลังเดินไปหาน้องสาวกับเพื่อนริมชายหาดหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเป็นที่พอใจของอาจารย์หนุ่มแล้วเธอยังคงคาใจอยู่อยากจะรู้ว่าเขาตามหาเธอถูกได้ยังไง"ผมก็หลอกถามจากเพื่อนคุณยังไงละ" กวินท์ตอบหน้าระรื่นก่อนยกยิ้มมุมปากเขาก็แค่ส่งไลน์ไปหาเพื่อนของหญิงสาวบอกให้ทั้งสองเอาโปรเจคมาให้เขาดู แต่เพื่อนของเธอบอกว่าไม่สะดวกเพราะมาเที่ยวพัทยาเขาเลยได้รู้แล้วแสร้งตีเนียนถามข้อมูลไปเรื่อยๆ จนรู้ว่าเธอพักอยู่รีสอร์ทนี้"พี่นี่มันจริงๆ เลย" เธอถึงกับกรอกตามองบนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่กับความเจ้าเล่ห์ของเขา ทว่าอีกคนกลับหัวเราะร่าออกมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมยื่นมือไปโอบไหล่มน "ผัวคุณฉลาดไหมละ""เจ้าเล่ห์สิไม่ว่า หลอกล่อเก่ง แผนเยอะ""ก็บอกแล้วไงว่าผมเจ้าเล่ห์กับเด็กดื้ออย่างคุณคนเดียว""เพราะพี่เจ้าเล่ห์ไงแก้มก็เลยต้องดื้อ กับคนอื่นแก้มเชื่อฟังจะตาย""ผมต้องดีใจไหมที่คุณดื้อกับผมคนเดียว""ต้องดีใจสิคะ""ระวังจะโดนผมลากขึ้นไปกำราบบนเตียงนะเด็กดื้อ""คนบ้าชอบพูดจาทะลึ่งอยู่เรื่อย""ผมพูดจริงทำจริงไม่ได้ทะลึ่ง" "พอเลยไม่พูดเ
กวินท์ยืนจับจ้องแผ่นหลังร่างบางในชุดบิกินี่ด้วยแววตาดุดัน ใช้ลิ้นดันกระพุงแก้มอย่างไม่สบอารมณ์เขารู้สึกหัวเสีย และโกรธเอามากๆ แต่ก็พยายามระงับอารมณ์เอาไว้ไม่ให้ตัวเองขาดสติใช้อารมณ์เข้านำเหมือนในคืนนั้นอีก เขาผ่อนลมหายใจแล้วเดินอ้อมไปยืนข้างหน้าร่างบางที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงก้มหน้ามองดิน คิ้วเข้มถึงกับขมวดชนกันเป็นปมเมื่อเห็นหน้าอกหน้าใจที่ล้นทะลักออกมานอกบรา ไหนจะหน้าท้องขาวเนียนเรียวขาสวยนั้นอีก บิกินี่ทูพีชเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งสัดส่วนทุกอย่างชัดเจนไปหมดผู้ชายคนใดได้เห็นก็คงคิดดีไม่ได้"ทำไมใส่ชุดแบบนี้มันโป็มากรู้ไหม" เขาอดที่จะเอ็ดหญิงสาวไม่ได้อยากจะจับเธอตีก้นให้เข็ดหลาบว่าไม่ควรแต่งตัวแบบนี้อีกแต่ก็ต้องข่มอารมณ์ไว้ ก่อนถอดเสื้อแจ็กเก็ตมาห่อตัวเธอจนมิดชิด"ว๊าย!" แก้มหวานที่ยืนมองการกระทำของอาจารย์หนุ่มอย่างงงๆ ร้องอุทานด้วยความตกใจในตอนที่เขาจับตัวเธอขึ้นอุ้มพาดบ่าจนหัวห้อยโต่งเตงไม่แคร์สายตาคนที่เดินผ่านไปมา หรือสายตาน้องสาวกับเพื่อนสาวของเธอที่ยืนอ้าปากค้างมองด้วยความงุนงงสักนิด"คุณกวินท์ปล่อยแก้มลงนะคนมองหมดแล้ว" เสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มเบาๆ ด้วยความอับอายเธอไม
"พี่แก้มดีขึ้นแล้วเหรอคะ" เสียงของแก้วตาทำให้แก้มหวานที่ยืนทอดสายตามองทะเลด้วยใจเหม่อลอยสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ความคิด ก่อนปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วหันกลับไประบายยิ้มตอบน้องสาว "พี่ดีขึ้นแล้ว""งั้นไปหาอะไรกินกันเถอะเริ่มหิวแล้วอะ" มิราเอ่ยชวนทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนสาวสดชื่นขึ้นกว่าก่อนหน้านี้พร้อมใช้มือลูบวนไปมาบนท้อง "งั้นก็ไปหาอะไรกินกัน" หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับการท่าทางของเพื่อนสาวก่อนเดินไปโอบไหล่เพื่อนสาวกับน้องสาวแล้วเดินพาออกจากห้อง@ร้านอาหารทั้งสามคนเลือกมาทานอาหารทะเลร้านใกล้ๆ กับรีสอร์ทที่เดินเลียบชายหาดมาเพียง 200เมตรก็ถึงเพราะได้ชื่นชมบรรยากาศระหว่างเดินมาด้วย เมื่อได้ออกมาพปปะผู้คนข้างนอกได้ชื่นชมกับบรรยากาศริมทะเลก็ทำให้แก้มหวานรู้สึกดี และผ่อนคลายมากขึ้นลืมเรื่องอาจารย์หนุ่มไปชั่วขณะหลังจากทานอาหารเสร็จทั้งสามคนก็พากันตะเวนเที่ยวทั่วเมืองพัทยาจนค่ำจึงกลับห้องมาพักผ่อน"พรุ่งนี้เล่นน้ำกันไหม" มิราเอ่ยขึ้นหลังจากเดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาในห้องแล้ว "ไปสิคะพี่มิรา" แก้วตาตอบตกลงอย่างไม่รอช้าก่อนหันไปพูดกับพี่สาวต่อ "มาทะเลทั้งทีไม่ได้เล่นน้ำก็เหมือนมาไม่ถ
@คอนโดมิรา"ฮึก ฮื่อ" เสียงสะอื้นไห้ดังระงมเบาๆ ภายในห้องนอนของคอนโดมิราแก้มหวานเลือกหนีอาจารย์หนุ่มมาหลบที่คอนโดเพื่อนสาวเพราะคิดว่าเขาคงไม่รู้แน่นอน เธอปล่อยให้น้ำตาแห่งความเสียใจ และผิดหวังหลั่งไหลออกมาเพื่อชะล้างความรู้สึกแย่ให้หมดไป และหลังจากนั้นเธอจะเริ่มต้นใหม่"คนปากเสียมาว่าแก้มแบบนั้นได้ไง แก้มไม่ชอบคุณแล้ว" ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่เธอนอนร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนรู้สึกดีขึ้นจึงหยัดกายลุกขึ้นนั่งแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มลวกๆ ดวงตากลมโตฉายแววเด็ดเดี่ยวขึ้นในทันตาเมื่อสิ้นเสียงงึมงำ ก่อนจะลุกลงจากเตียงเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำแล้วเดินกลับมาหย่อนสะโพกนั่งริมเตียง มือเล็กเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายข้างออกมาเปิดเครื่องหลังจากที่เธอปิดเครื่องหนีอาจารย์หนุ่มก่อนหน้านี้เพื่อโทรบอกน้องสาว ทว่าเพียงแค่เปิดเครื่องเท่านั้นข้อความพยายามติดต่อจากเขาก็เด้งเข้ามาในมือถือระรัวเกือบสิบข้อความแต่เธอหาได้สนใจไม่กลับปัดข้อความเขาทิ้งแล้วต่อสายหาน้องสาว ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ(ว่าไงคะพี่แก้ม)(คืนนี้พี่นอนห้องพี่มิรานะแก้ว)(ค่ะ..เมื่อกี้เจ้านายพี่เขามาตามหาพี่
"แก้มหวาน!" กวินท์เดินปรี่ไปหาหญิงสาวที่กำลังยืนคุยกับผู้ชายหน้าระรื่นด้วยอารมณ์เดือดดาล มือหนาเอื้อมไปจับแขนเล็กแล้วกระชากให้ออกห่างเตชินเจ้านายเก่าของเธออย่างแรงจนเธอเซถลาปะทะลำตัวของเขาเต็มๆปึก!"อ๊ะ..คุณกวินท์" แก้มหวานเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บ ก่อนแหงนมองหน้าอาจารย์หนุ่มด้วยความรู้สึกตกใจเล็กน้อย ทว่าเธอก็ต้องลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยวๆ ลงลำคออึกใหญ่เมื่อเห็นสีหน้าแดงก่ำ และแววตาเกรี้ยวกราดของเขาที่จับจ้องเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ "คุณฟังแก้มก่อนได้ไหม""โอ๊ย! แก้มเจ็บนะ" เธอพยายามข่มไม่ให้ตัวเองตื่นกลัวกับท่าทางเกรี้ยวกราดของร่างสูงตรงหน้า ก่อนเปล่งเสียงพูดเพืื่ออธิบายให้เขาเข้าใจ ทว่าเธอก็ต้องร้องท้วงด้วยความรู้สึกเจ็บพร้อมใช้อีกมือแกะมือหนาออกในตอนที่มือหนาออกแรงบีบแขนของเธอแรงๆ ราวกับจะให้มันแหลกคามือยังไงยังงั้น แต่แรงอันน้อยนิดของเธอหาได้ทำให้มือหนาขยับเขยื้อนออกจากแขนเธอสักนิดไม่ "ผมคนเดียวมันไม่ถึงใจใช่ไหมถึงได้ระริกระรี้กับผู้ชายคนอื่นอีก" กวินท์โกรธและหึงจนหน้ามืดตามัวไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว เขาใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มจับจ้องหน้าเธอสลับกับชายหนุ่มอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนพรั่งพรูคำ
"เฮ้อ" แก้มหวานเดินเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งริมเตียงภายในห้องนอนด้วยสมองที่หนักอึ้งหลังจากทานมือค่ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรื่องที่คุณหญิงอมรรัตน์ไม่ยอมให้เธอย้ายออกไปแต่กลับให้น้องสาวย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันทำให้เธอคิดไม่ตกไม่รู้ว่าควรจะเอายังไงต่อไปดี แต่ที่แน่ๆ เธอไม่ให้น้องสาวรู้เรื่องความสัมพันธ์จอมปลอมระหว่างเธอกับอาจารย์เด็ดขาด'แกร็ก'เสียงปลดล็อคประตูดังขึ้นทำให้แก้มหวานหลุดออกจากห้วงความคิดก่อนปรายตามองทางประตู เธอถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อเห็นว่าคนที่เปิดประตูเข้ามาคืออาจารย์หนุ่มเธอก็คิดว่าหลังจากทานข้าวเสร็จเขาจะกลับคอนโดไปแล้วเสียอีก"คุณเข้ามามีธุระอะไรกับแก้มคะ" ดวงตากลมโตจับจ้องร่างสูงที่เดินมาหยุดยืนตรงหน้านิ่งๆ นานนับนาทีๆ ก่อนเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย"คุณจะเอายังไงต่อเรื่องที่แม่ผมให้น้องสาวย้ายมาอยู่ที่นี่กับคุณ" กวินท์หย่อนสะโพกนั่งลงข้างๆ หญิงสาวก่อนถามไถ่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าเคร่งขรึมไม่ได้แสดงท่าทางเจ้าเล่ห์ หรือกรุ่มกริ่มเหมือนที่ผ่านมา ท่าทางที่ดูจริงจังของเขาทำเอาแก้มหวานแปลกใจไม่น้อย ดวงกลมโตจับจ้องเสี้ยวหน้าหล่อเหลาอย่างใช้ความคิดปกติเขาคงจะหาเรื่องเข้ามา
@บ้านสิริราญานุกุล"ไม่ต้องมายุ่งกับแก้มคนเผด็จการ" แก้มหวานหันไปตะเบ็งเสียงใส่อาจารย์หนุ่มดังลั่นเมื่อเขายื่นมือมาดึงพวงแก้มนวลของเธอหลังจากรถจอดเรียบร้อยแล้วพร้อมยกมือขึ้นปัดมือหนาออกจากพวงแก้มจากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถเดินเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางกระเฟียดกระฟัด แต่เมื่อเข้ามาในบ้านเธอก็ต้องรีบปรับสีหน้า และท่าทางให้เป็นปกติเมื่อเห็นคุณหญิงอมรรัตน์นั่งอยู่ในห้องโถงก่อนเดินเข้าไปทักทาย "สวัสดีค่ะคุณป้า""จ้ะ" คุณหญิงอมรรัตน์พยักหน้ารับพร้อมระบายยิ้มให้เด็กสาวบางๆ แต่เธอก็ต้องขมวดคิ้วชนกันเป็นปมเมื่อเห็นบุตรชายเดินเข้ามา "ลมอะไรหอบลูกมาบ้านอีกละวันนี้" เธอแซวบุตรชายอย่างอดไม่ได้เพราะสองวันติดๆ แล้วที่บุตรชายโผล่หน้ากลับมาอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าบุตรชายของเธอนั้นกว่าจะกลับบ้านได้แต่ละทีไม่มีธุระก็เธอโทรตามเท่านั้น แต่เธอก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะพอรู้เหตุผลว่าทำไมบุตรถึงกลับบ้าน"ไม่มีลมอะไรทั้งนั้นแหละครับ" กวินท์ไหว่ไหล่ให้ผู้เป็นแม่ก่อนเดินเข้าไปนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามท่าน ดวงตาคมกริบปรายมองร่างบางที่ยืนเยื้องๆ กับโซฟาก่อนรอยยิ้มร้ายจะผุดขึ้นประดับมุมปากหนาเมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของเธอ"เผด็จกา
วันต่อมา@มหาวิทยาลัยคอนเวนต์'ติ๊ง ติ๊ง'เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้นเบาๆ ทำให้แก้มหวานที่กำลังฟังอาจารย์สอนอย่างตั้งใจละสายตาจากจอโปรเจคเตอร์ ก่อนล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายออกมาเปิดดูข้อความ"เรียนเสร็จมาหาผมที่ห้องทำงาน" เธอแบะปากน้อยๆ เมื่ออ่านข้อความที่อาจารย์หนุ่มเป็นคนส่งมาจบ "รอไปเถอะแก้มไม่ไปตามคำสั่งคุณหรอก" "งึมงำอะไรของแกแก้ม" มิราที่นั่งอยู่ข้างๆ เอียงหน้ามาถามเพื่อนสาวเบาๆ เมื่อเห็นเธอก้มมองหน้าจอมือถือแล้วงึมงำเบาๆ ราวกับคนบ้า"เปล่าาา" แก้มหวานตอบพร้อมส่งยิ้มแหย่ๆ ให้เพื่อนสาวขณะที่มือกดปิดหน้าจอมือถือแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิมไม่ได้คิดจะตอบกลับข้อความของอาจารย์หนุ่มเพราะยังรู้สึกเคืองๆ เรื่องเมื่อวานอยู่ ก่อนสนใจกับการเรียนต่อ หลังจากเรียนเสร็จเธอกับเพื่อนสาวก็เดินมานั่งที่ศาลาหน้าตึกคณะเพื่อทำโปรเจคต่อ"ฉันได้ดูโปรเจคที่แกส่งมาแล้วนะ แกทำได้ไงอะ" มิราขมวดคิ้วมองหน้าถามเพื่อนสาวด้วยความสงสัยหลังจากนั่งลงแล้วเพราะเพียงเวลาแค่ 2-3วันเพื่อนสาวก็ทำโปรเจคเกือบเสร็จแล้วแถมข้อมูลยังแน่นอีกคนถูกถามลอบถอนหายใจเบาๆระคนเหนื่อยหน่ายเธอคงต้องโกหกเพื่อนสาวอี