ไป๋เจิ้นถังได้แต่ยิ้มเฝื่อน ส่วนเขาโล่งใจจริงหรือไม่นั้น มีเพียงเขาเองเท่านั้นที่รู้!เรื่องในเมืองหลวงเกือบจะยุติลงแล้ว หวังหยวนย่อมอยากกลับออกไปแล้วแต่ไป๋เหยียนเฟยทนไม่ยื้อไว้ไม่ได้จริง ๆ“ท่าน ข้ารู้ว่าท่านมีพรสวรรค์ หากท่านเต็มใจช่วยเหลือข้าด้วยความจริงใจ ข้าสามารถแต่งตั้งให้ท่านเป็นปรมาจารย์ เพื่อคอยช่วยเหลือฮ่องเต้ในอนาคตได้ ในอนาคตท่านยังสามารถเป็นเสนาบดี เป็นหัวหน้าของเหล่าขุนนางนับร้อยได้!”ไป๋เหยียนเฟยใช้เหยื่อล่ออย่างหนัก!หัวหน้าของเหล่าขุนนางนับร้อย เสนาบดี!นั่นไม่ใช่ตำแหน่งที่คนธรรมดาจะครอบครองได้!ความจริงแล้วหลายคนไม่อาจต้านทานสิ่งล่อใจนี้ได้!หวังหยวนก็ตกใจเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าฮองเฮาจะจริงใจถึงเพียงนี้แต่ว่า...เขายังคงส่ายหน้า แล้วพูดว่า “ฮองเฮา ข้าซาบซึ้งในความมีน้ำใจของท่าน แต่ข้าไม่สนใจราชสำนักเลย ไม่ต้องพูดถึงการเป็นขุนนางเลยพ่ะย่ะค่ะ”“ข้าเป็นคนชอบเอ้อระเหยลอยชาย ชอบกิน ดื่ม และสนุกสนานเท่านั้น”“แต่ฮองเฮาโปรดวางใจเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้ารู้ว่าข้าควรทำอย่างไร ตอนนี้ต้าเย่ตกอยู่ในความวุ่นวายแล้ว ข้าจะอยู่เคียงข้างท่านอย่างแน่นอน ฮองเฮา ตราบใดที่ต้าเย่ไม
ทันทีที่หวังหยวนจะกลับไป เขาก็แจ้งข่าวให้พวกหลี่ซื่อหานรู้!เขากังวลว่าพวกนางจะไม่เชื่อเขา เขาจึงขอให้อู๋หลิงส่งนกพิราบสื่อสารกลับมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ดังนั้นในขณะนี้ พวกหลี่ซื่อหานจึงมีความสุขมาก หลังจากได้รับจดหมายจากนกพิราบสื่อสารอีกทั้งพวกนางทุกคนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงสองวันที่ผ่านมาแล้ว จึงรู้สึกโล่งใจมากยิ่งขึ้น“สามีกำลังจะกลับมาแล้ว พวกเจ้าสองคนก็กำลังจะได้แต่งงานเสียที คงไม่นานเกินรอใช่หรือไม่?”หลี่ซื่อหานมองหูเมิ่งอิ๋งและหวงเจียวเจียว แล้วเริ่มแซวเมื่อได้ยินเช่นนั้น หูเมิ่งอิ๋งและหวงเจียวเจียวต่างก็รู้สึกเขินอายพูดตามตรง วันนี้เป็นวันที่พวกนางใฝ่ฝัน พวกนางไม่เคยมีความคาดหวังมากเช่นนี้มาก่อน!แม้ว่าจะมีประสบการณ์มากมายในชีวิต แต่ก็ไม่เคยตื่นเต้นและกังวลถึงเพียงนี้มาก่อน!เรื่องนี้ทำให้หลี่ซื่อหานรู้สึกแบบเดียวกัน แต่ในเวลานั้น นางไม่มีความรู้สึกเช่นนี้เลยตอนที่นางแต่งงานกับหวังหยวน แม้ว่าเขาจะพอมีชื่อเสียงบ้าง แต่เขาก็เป็นผู้ชายที่เหมือนจะไม่เอาไหน เมื่อนางต้องแต่งงานกับเขา นางจึงกังวลมากตอนนี้...สามีของนางเปลี่ยนนิสัยแล้ว และนางก็ชอบเขามากแม้ว่านางจะแ
ในขณะนี้ เมื่อมองห้องหอทั้งสามห้องที่ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ และสว่างไสวด้วยแสงเทียน หวังหยวนก็ลำบากใจทันใดนั้นหลี่ซื่อหานก็พูดว่า “สามี วันนี้การเข้าห้องข้านั้นไม่ง่ายเลย ข้าอยากถามคำถามทดสอบท่าน หากท่านผ่านการทดสอบของข้าได้ ข้าจะให้ท่านเข้าไป”ทันทีที่คำพูดนี้ดังขึ้น หวังหยวนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง“เอ๊ะ? ภรรยา เช่นนั้นถามมาเลย”หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลี่ซื่อหานก็ถามทันที “สามีของข้าเอาแต่พูดว่ารักภรรยามากแค่ไหน ข้าเลยจะถามท่านว่าอาหารจานโปรดของข้าคืออะไร?”หลังจากพูดเช่นนี้ หวังหยวนก็ตอบโดยไม่ลังเลเลย“หน่อไม้ ภรรยาข้าโปรดปรานหน่อไม้ที่สุด!”หลังจากพูดเช่นนี้ หวังหยวนก็มั่นใจมาก แต่ใครจะรู้ว่าหลี่ซื่อหานจะส่งเสียงถอนหายใจอย่างเย็นชา เมื่อได้ฟังคำตอบนี้“ผิด! รสนิยมของข้าเปลี่ยนไปแล้ว อาหารโปรดของข้าไม่ใช่หน่อไม้อีกต่อไป ดังนั้นคืนนี้ท่านเข้าห้องไม่ได้!”เมื่อพูดเช่นนั้น หลี่ซื่อหานก็เป่าเทียนสีแดงดับไป“สามี ไปหาน้องสาวอีกสองคนเถิด”หวังหยวนได้ฟังเช่นนั้นก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางถึงตั้งใจทำเช่นนี้ในเวลานี้ หูเมิ่งอิ๋งก็ถอนหายใจเช่นกัน“สามี ข้าเองก็อยากจะถามคำถามท่านเหม
ขณะนี้ ในหมู่บ้านต้าหวัง!หมู่บ้านต้าหวังในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!ทุกครัวเรือนมีบ้านหลังใหญ่โต อาคารทุกหลังถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตมาก หากไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นหมู่บ้านชนบทมาก่อน คงคิดว่ามันเป็นหมู่บ้านที่มีแต่คนร่ำรวย!ใจกลางหมู่บ้านต้าหวังมีคฤหาสน์ขนาดใหญ่หลังหนึ่งตั้งอยู่นี่คือที่ที่หวังหยวนอยู่!ขณะนี้ในห้องลับขนาดใหญ่ใต้ดิน หวังหยวนนั่งอยู่ข้างบนพื้นที่ยกสูงต้าหู่ยืนอยู่ข้างหลังเขา และผู้หญิงทั้งสามนั่งขนาบสองข้าง คนที่นั่งอยู่ด้านล่างได้แก่ เกาเล่อ, หวังหานซาน, วังไห่เทียน, ถังหม่าง, เอ้อหู่, จ้าวต้าฉุย, จู่ปัน, หงเยี่ย, เซี่ยซานหู่ และจ้าวป๋อเซี่ยว!ในเวลาหนึ่งปี จิตวิญญาณของทุกคนกระตือรือร้นเต็มเปี่ยมมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น แต่ละคนยังมีความรู้สึกมั่นคงอีกด้วยแม้ว่าจะผ่านไปเพียงหนึ่งปี แต่หนึ่งปีนี้ แต่ละคนทำงานหนักมาก!“เรามาเริ่มประชุมกันเลยดีกว่า เกาเล่อ มาเริ่มด้วยเครือข่ายผีเสื้อของเจ้ากันก่อน”เมื่อหวังหยวนพูด เกาเล่อก็รายงานทันทีโดยไม่มีการพูดเรื่องไร้สาระ“องค์กรเครือข่ายผีเสื้อเปิดใช้งานเต็มรูปแบบแล้ว เท่ากับว่าทั้งต้าเย่อยู่ภายใต้การคว
หลังจากได้ฟังเช่นนี้ หวังหยวนก็มีความสุขมาก!เขาทำเงินได้มากมายมหาศาล จนเสริมกำลังกองทัพให้แข็งแกร่งได้!ปัจจุบันคนสี่หมื่นคนนี้ไม่ได้อ่อนแอกว่ากองทัพใด ๆ เลย ในแง่ของประสิทธิภาพการรบในแง่ของอาวุธ ก็เพียงพอที่จะบดขยี้กองทัพใดก็ได้!เพราะปืนพกและระเบิดมือนั้น เดิมทีไม่ใช่สิ่งของที่มีอยู่ในโลกนี้ตอนนี้ผลิตออกมามากมายจนพวกเขาพอใช้กันทุกคน!เมื่อเข้าสู่สนามรบ อาจจะทำให้ทุกคนต้องตกใจ!“ดีมาก!”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ในที่สุดเขาก็หันความสนใจไปที่สตรีทั้งสามสตรีทั้งสามนั้น แต่ละคนรับผิดชอบธุรกิจของแต่ละเมืองหลี่ซื่อหานรับผิดชอบสำนักงานเมืองหลิง ย่อมมีความกดดันมากที่สุดไม่เพียงแต่ธุรกิจต้องดีเท่านั้น แต่ยังเพื่อส่งมอบสินค้าให้เพียงพอไปยังเมืองหยางและเมืองอันอีกด้วย“ในเฉิงโจว ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ สินค้าทั้งหมดถูกจัดจำหน่ายไปอย่างเป็นระเบียบ!”หูเมิ่งอิ๋งยังรายงานอีกว่า “เมืองอันก็เช่นเดียวกัน บริษัทตระกูลหวังของเราได้ผูกขาดในพื้นที่ท้องถิ่นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสินค้าของเรา สินค้าท้องถิ่น หรือสินค้าจากต่างแดน เราก็ควบคุมได้ทั้งหมด!”หวงเจียวเจียวรายงานในลักษณะเดียวกัน “สถานการณ
เซิ่งฟางสี่หรี่ตาลง ใบหน้ายังคงมีความคาดหวังไม่นานหลังจากนั้น คนรับใช้ก็เข้ามาพร้อมกับนกพิราบสื่อสาร แล้วมอบให้เซิ่งฟางสี่เซิ่งฟางสี่รีบรับนกพิราบสื่อสารมา แล้วยิ้มทันที“อย่างที่คาดไว้ กำลังรออยู่เลย!”หลังจากที่เซิ่งฟางสี่พูดจบ เขาก็พูดต่ออย่างสงบด้วยสีหน้าไม่แยแส“เหตุการณ์เป็นเช่นนี้... ไม่มีใครในแผ่นดินที่จะอยู่อย่างสุขสบายได้!”“โดยเฉพาะเจ้า... หวังหยวน!”ความเคียดแค้นชิงชังของเซิ่งฟางสี่ที่มีต่อหวังหยวน ท่วมท้นราวกับท้องฟ้า!ในที่สุดเขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อปีที่แล้ว!เหตุใดฮองเฮาจึงตัดสินใจได้ชาญฉลาดนัก เหตุใดนางจึงพระราชทานยศเจ้าผู้ครองแคว้นให้หย่งเอ๋อร์!เบื้องหลังเรื่องนี้กลับกลายเป็นฝีมือของหวังหยวน!หลังจากรู้เรื่องนี้แล้ว เซิ่งฟางสี่ก็โกรธมาก!แต่ในเวลานั้นไม่มีวิธีที่ดีที่จะจัดการกับหวังหยวนได้ ทำได้เพียงอดทนเท่านั้น!ในปีนี้เซิ่งฟางสี่ไม่ได้เกียจคร้าน ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาย่อมมีหนทางที่เตรียมวางแผนไว้แล้ว!ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งแผ่นดินต้าเย่จะไม่อาจสงบสุขได้อีกต่อไป!หลังจากที่เขาพูดเช่นนี้ สองพี่น้องเซิ่งตงที่เข้ามาหลังจากได้ข่าวก็ตกตะลึงไปครู
ใบหน้าของจ้าวหย่งมีรอยยิ้มกว้างเขาพยักหน้าแล้วพูดอย่างร่าเริง “ฮ่าฮ่า ใช่หรือไม่ล่ะ ทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบให้พี่หยวนของเรา”เมื่อจ้าวหย่งกล่าวถึงหวังหยวน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมเขายิ้มขณะกล่าวชมเชย “พี่หยวนมีวิสัยทัศน์กว้างไกล พวกโจรทุกกลุ่มที่อยู่ตามทางถูกพี่หยวนปราบหมดแล้ว แน่นอนว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยดี”ลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า แล้วพูดเสริมอย่างเห็นด้วย “แน่นอนขอรับ”“แต่ลูกชิ้นพวกนี้คงอร่อยมากจริง ๆ แค่ได้กลิ่น ข้าก็น้ำลายสอแล้ว”“ฮ่าฮ่า เช่นนั้นแสดงว่าเจ้ายังไม่เคยกินลูกชิ้นของพี่หยวนสินะ รสชาติมันอร่อยเหลือเชื่อมาก”คนกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยและหัวเราะกัน ทันใดนั้นมีเสียงฝีเท้าอันรวดเร็วดังมาจากระยะไกล!หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็ถูกกลุ่มโจรสวมชุดดำและสวมหน้ากากขวางหน้าอย่างรวดเร็วจ้าวหย่งและคนของเขาหลายคนมีสีหน้าเข้มขึ้น รีบตั้งท่าป้องกันทันที ยืนล้อมรอบสินค้า เพื่อป้องกันไม่ให้โจรกลุ่มนี้แย่งชิงไปในขณะนี้ จู่ ๆ หัวหน้าโจรคนหนึ่งก็ยกดาบยาวในมือขึ้นมาชี้ไปที่จ้าวหย่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน “ภูเขาลูกนี้ข้ายึดครองแล้ว หากอยากมีชีวิต
จ้าวหย่งวิ่งเร็วมาก เขาไม่กล้าหยุดพักเลย!แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าใต้ต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกล มีชายชุดดำคนหนึ่งยืนถือดาบจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟจ้าวหย่งเห็นเช่นนั้นก็อดทำหน้าเคร่งเครียดไม่ได้เขากำดาบยาวในมือแน่นโดยไม่รู้ตัว ก่อนคำรามด้วยความโกรธ แล้วรีบวิ่งไปหาชายคนนั้น!“ใครก็ตามที่กล้าขวางข้าจะถูกฆ่าอย่างไร้ปรานี!”สิ้นเสียงคำราม กายของจ้าวหย่งราวกับเต็มไปด้วยพลังอันไม่มีที่สิ้นสุดที่ระเบิดออกมาทันที ทำให้เขาว่องไวและเต็มไปด้วยจิตสังหาร!ชายใต้ต้นไม้สูดจมูกอย่างเย็นชา เลิกคิ้วแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เกรงว่าเจ้าจะไม่รู้จักประเมินตนเอง”“คนประเภทไหนกันที่อยากจะสู้กับข้า?”ชายคนนั้นเขย่งเท้ากระโดดขึ้น จากนั้นยกกริชในมือขึ้นสูง แล้วโจมตีไปที่ตำแหน่งของจ้าวหย่งอย่างโหดเหี้ยม!แสงเย็นวาบหนึ่งปรากฏขึ้น!ดวงตาของจ้าวหย่งเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะรู้สึกหนาวสั่นที่คอ ไม่มีแรงแม้แต่จะสู้กลับด้วยซ้ำ ร่างของเขาล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง เขาถูกสังหารด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวชายคนนั้นจ้องมองจ้าวหย่งที่ตายแบบดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่แยแส เก็บกริชในมือด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วหั
เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น
หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง
แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้
ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม
ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย
“มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญ ถือว่าเป็นแขกผู้มาเยือนได้หรือ?” ตงฟางฮั่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “ในเมื่อเจ้าชอบสถานที่นี้ ก็จงดื่มสุราอยู่ที่นี่คนเดียวเถิด” “ลาก่อน”เพียงชั่วพริบตา ตงฟางฮั่นก็ลุกขึ้นยืน ขณะที่เขากำลังจะเดินสวนกับชายคนนั้น ก็ได้ยินเสียงชายคนนั้นเอ่ยขึ้นว่า “ท่านตงฟาง ท่านพร้อมจะวางเดิมพันไว้ที่หวังหยวน แต่กลับไม่คิดจะพบกับท่านประมุขของข้าหรือ?”“ฮึ” “พวกเจ้าก็เป็นเพียงพวกหนูที่อาศัยอยู่ในความมืดมิด” “ใครเล่าจะอยากร่วมมือกับพวกเจ้า?” ตงฟางฮั่นเย้ยหยัน ไม่ได้สนใจชายผู้อยู่เบื้องหลังอีกต่อไปสีหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไป มือหนึ่งคว้ามีดสั้นจากอกเสื้อ แล้วแทงเข้าที่หลังของตงฟางฮั่นอย่างรวดเร็ว! ว่องไวราวกับสายฟ้าแลบ!“ถ้าไม่เป็นมิตร ก็ต้องเป็นศัตรู!” “ไปลงนรกซะ!”สีหน้าของตงฟางฮั่นเปลี่ยนไป แต่ตอนนี้การหลบหลีกนั้นสายเกินไปแล้ว เพราะเขาไม่ได้ฝึกวิทยายุทธใด ๆ เลย!ในขณะที่เขาเตรียมใจยอมรับชะตากรรม ก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน ปรากฏว่าเกาเล่อผู้ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และข้างกายเขายังมีสมาชิกขององค์กรเครือข่ายผีเสื้ออีกหลายคนมีกำลังคนม
“ท่านทั้งหลายไปที่นั่นแล้วจะได้ลงทะเบียนทันที!”เมื่อทราบว่าหวังหยวนไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทุกคนจึงรีบขอลา แล้วมุ่งหน้าสู่ตลาดตะวันออกด้วยความเร่งรีบ การลงทะเบียนโดยเร็วจะช่วยคลายกังวลในใจได้!เมื่อเห็นเหล่าชาวบ้านมาเร็วไปเร็วเช่นนั้น ฉุนอวี๋อันจึงบ่นหลังถอนหายใจว่า “ประชาชนพวกนี้ช่างร้อนรนนัก!”“หากมีสิ่งใดขัดขวางความประสงค์ของพวกเขา พวกเขาก็จะก่อความวุ่นวายไม่หยุด!”“โชคดีที่ข้าไม่ใช่ผู้ว่าราชการเมืองเมืองนี้แล้ว จึงบรรเทาความกดดันลงได้บ้าง…”แต่หารู้ไม่ว่าหวังหยวนยังคงยืนอยู่ข้างกายฉุนอวี๋อันหันกลับไปเห็นหวังหยวนกำลังมองตนอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ตัวสั่นเทา ตกใจกลัวจนถอยหลังไปสองก้าว และถึงกับหายใจติดขัด“ท่านผู้นำ…”“ข้าไม่ใช่หมายความเช่นนั้น”หวังหยวนเห็นท่าทีขลาดกลัวของเขาจึงส่ายหน้าแล้วยกยิ้มดูเหมือนการตัดสินใจของเขาจะถูกต้อง คนเช่นนี้จะสามารถเป็นใหญ่ในเมืองได้อย่างไร?หากปล่อยให้ฉุนอวี๋อันดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองต่อไป แม้การก่อสร้างระบบชลประทานจะแล้วเสร็จก็คงหาผลกำไรไม่ได้มากนักผลลัพธ์สุดท้ายก็คงเดาได้ไม่ยากไม่ช้าหวังหยวนและคณะก็เดินทางกลับระหว่างทางกลับ เ
“หืม?” หวังหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจทันที คงเป็นเพราะเรื่องเกณฑ์แรงงานจึงทำให้ประชาชนไม่พอใจ“ทุกคน!”“เรื่องนี้คงเกิดจากความเข้าใจผิดใช่หรือไม่?”“ข้าต้องการแรงงานมาช่วยทำงาน แต่ก็เพื่อการพัฒนาเมืองอู่เจียง!”“เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ ในฤดูฝน พวกเราก็ไม่ต้องกังวลว่าแม่น้ำจะเอ่อล้นอีกต่อไป และที่สำคัญที่สุด เวลาในการเดินทางระหว่างเมืองอู่เจียงกับเมืองต่าง ๆ ก็จะใกล้เคียงลงมาก!”“นับเป็นเรื่องที่ดีต่อแผ่นดินและประชาชน!”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ไม่ได้ใช้แรงงานโดยไม่จ่ายค่าจ้าง ข้าจะจ่ายค่าจ้างให้เดือนละหนึ่งตำลึง!” หวังหยวนอธิบายสถานการณ์โดยย่อความจริงเป็นเช่นนั้น เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ เมืองอู่เจียงจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง! ในอนาคต แม้แต่เมืองหลวงก็อาจจะพัฒนาไม่ดีเท่าเมืองอู่เจียง! แต่ทั้งหมดนี้นั้นเป็นเพราะเมืองอู่เจียงมีแม่น้ำห้าสายไหลผ่าน หากไม่เป็นเช่นนี้จะมีโอกาสสร้างระบบชลประทานได้อย่างไร?“จ่ายค่าจ้างด้วยหรือ?”“ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเช่นนั้นเลยไม่ใช่รึ?”“พวกเราคงจำผิดไปกระมัง?”“ใช่แล้ว! ข้าได้ยินมาว่าท่านผู้นำเ
“การเตรียมการต่าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง?”หวังหยวนยกถ้วยชาขึ้น สายตาจับจ้องไปยังเกาเล่อขณะเอ่ยถามเกาเล่อส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ข้าได้ค้นหาคนผู้มีความสามารถอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ราบรื่นดังที่คาดหวังไว้ขอรับ” “บางคนก็มีความรู้ความสามารถ บางคนก็ไม่อาจคาดเดาเจตนาได้ โดยสรุปแล้วก็ยังไม่พบผู้ใดที่เหมาะสมนัก”หวังหยวนพยักหน้า แท้จริงแล้ว การค้นหาคนที่ไว้ใจได้และมีความรู้ความสามารถนั้นจะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไร? เวลาเพียงสองวันนั้นย่อมไม่เพียงพอ“เช่นนั้นเจ้าจงค้นหาต่อไป” “อย่างไรเสียข้าก็ต้องอยู่ที่เมืองอู่เจียงต่อไปอีกนาน” “เรื่องต่าง ๆ ในที่นี้ ข้าจะรับผิดชอบเอง” “แต่ก่อนหน้านั้นเจ้ายังมีภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือการจัดหาแรงงานเพื่อช่วยข้าขุดคลอง” หวังหยวนสั่งการเพิ่มเติมเกาเล่อรับคำแล้วก็จากไปหลังจากอยู่ในห้องมาสองวัน แผนที่ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว หวังหยวนจึงสั่งให้คนจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จแม้ว่าฉุนอวี๋อันจะพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่เคียงข้างหวังหยวน เกาเล่อควบคุมข่าวสารต่าง ๆ แต่เรื่องราวภายในเมืองอู่เจียงนั้น ฉุนอวี๋อันย่อมรู้ดีกว่า