...รุ่งเช้า ที่ว่าการอำเภอ!จ้าวเว่ยหมินที่เพิ่งได้นอนกลางดึกเมื่อคืนนี้ ตื่นลุกขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันเสร็จยังไม่ได้กินข้าวด้วยซ้ำ!เจ้าหน้าที่คนนึงรีบเข้ามาและพูดว่า "นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ส่งคนมาส่งข้อความ เขามาถึงแล้วอยู่ห่างจากเมืองฝูสิบลี้ เขาต้องการตรวจสอบสถานการณ์ทั่วไปของประชาชน และขอให้ท่านไปกับเขาด้วย!"“เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ!”จ้าวเว่ยหมินขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด "เรียกผู้ตรวจการสวี่มาที่นี่!"เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของฝ่ายตรวจการ ไม่มีอำนาจตัดสินความ แต่สามารถรับฟังและรายงานเรื่องต่าง ๆ ได้คดีสำคัญในราชสำนักหลายคดีก็เป็นฝ่ายตรวจการที่เป็นคนตรวจสอบ แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสามก็อาจถูกจัดการลงได้เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกำกับดูแลไปยังสถานที่ต่าง ๆ เขาจะทำการเยี่ยมอย่างลับ ๆ อย่างง่ายดายไม่ซับซ้อน ไม่มีใครทำให้เป็นเรื่องใหญ่แบบนี้!ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ส่งข้อความมาแล้ว เขาก็ต้องไปที่นั่น ไม่เช่นนั้น ถ้าไม่ไปเจอและส่งฏีกาไปให้ ฝ่าบาทก็คงไม่เห็นเขาในสายตา และอาจจะเป็นช่องโหว่ขึ้นมาได้ไม่นานหลังจากนั้น ผู้ตรวจการสวี่ก็มาถึงมีสีหน้าเหนื่อยล้
“ข้าไม่มีเวลาพูดเรื่องไร้สาระกับเจ้า รีบบอกสูตรลับที่ตระกูลโจวต้องการให้พวกเขาเดี๋ยวนี้!”ผู้ตรวจการหลิวกังปิดจมูกปากของเขา แล้วโยนเครื่องประดับทั้งสองชิ้นลงบนพื้น“ชิงเหอ!”หลังจากหยิบเครื่องประดับขึ้นมา จ้าวต้าฉุยหน้าซีดเซียวส่ายหน้าราวกับเสียสติไปแล้ว เขารีบวิ่งไปหาหลิวกังและตะคอกใส่ "ไอ้สารเลว เจ้าทำอะไรกับลูกสาวข้า ถ้านางเป็นอะไรไป ข้าจะสู้ตายกับเจ้า!"เครื่องประดับสองชิ้นนี้ ชิ้นหนึ่งที่เขาซื้อ และอีกชิ้นที่หยวนเอ๋อร์ซื้อให้ ลูกสาวของเขาชอบมันมาก และนางใส่มันติดตัวทุกวันปัง!เขายกเข่าขึ้นถีบจ้าวต้าฉุยจนลุงไปนอนหมอบกุมท้องกับพื้น ผู้ตรวจการหลิวกังจิกหัวเขาแล้วยกขึ้น "ตอนนี้ลูกสาวของเจ้ายังสบายดี แต่ถ้าหากเจ้ายังปากแข็ง ข้าก็รับประกันไม่ได้ว่านางจะยังอยู่ดีไหม”ครั้งนี้เขาได้รับมาตั้งเงินสองร้อยตำลึงสำหรับการทำงานให้กับตระกูลโจว ดังนั้นเขาจึงตั้งใจเป็นพิเศษคนที่ตามหาหัวขโมยแล้วเอาของที่ขโมยมาซ่อนไว้ในร้านช่างตีเหล็ก เป็นฝีมือผู้ตรวจการหลิวกังทั้งนั้น"ข้าบอกแล้ว!"จ้าวต้าฉุยน้ำตาไหล "แต่ข้าอยากเจอลูกสาวข้าก่อน หากข้าเห็นว่านางไม่เป็นไร ข้าจะมอบสูตรลับให้ตระกูลโจวทันที ไ
“ชิงเหอถูกลักพาตัว!”ดวงตาของหวังหยวนแดงก่ำแทบจะระเบิดออกมา เขากำมือจนเส้นเลือดปูดออกมา แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร " ไปตระกูลโจว ทุกคนพกดาบยาวไปให้หมด!"คนหกสิบคนเข้าเมืองพร้อมดาบ อาจทำให้เกิดความตื่นตระหนกได้ง่าย พวกเขาทั้งหมดจึงเก็บดาบไว้ในรถม้า!ทหารผ่านศึกชุดเกราะทมิฬสิบคน และทหารผ่านศึกห้าสิบคนหยิบดาบยาวของพวกเขาออกมาแขวนไว้ที่เอวด้วยสีหน้าโกรธแค้นอาฆาต!เสนาธิการทางทหารต่อสู้นองเลือดที่ชายแดน ทำลายล้างทหารม้าชาวหวงหลายแสนคน และประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่!เขาได้ปกป้องผู้คนหลายสิบล้านในต้าเย่ หนึ่งในนั้นคือไอพวกตระกูลคหบดีประจำเมืองพวกนี้!แต่ผลที่ได้ไอคนเหล่านี้กลับทำร้ายญาติสนิทของเสนาธิการทหาร และจะเอาสูตรลับของเขาไป!ในขณะนี้ พวกเขาโกรธมากจนเลือดเดือดพล่าน และอยากบดขยี้คนพวกนี้!หวังหยวนไม่นั่งรถม้า แต่ขี่ม้าศึกและหยิบดาบขึ้นมาด้วยชายหกสิบคนขี่ม้าหกสิบตัวพกดาบยาวหกสิบเล่มบุกไปยังตระกูลโจวด้วยเจตนาฆ่าเมื่อการต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้น ผู้คนในร้านค้าริมถนนตัวสั่นไม่กล้าโผล่หัวออกมาซ่อนตัวอยู่ในบ้านสายตรวจสองคนที่อยู่สุดถนนเห็นเขา พวกเขาก็ถามคนแถวนั้นและหน้าถอดสี
พวกชาวหวงบุกเข้ามา ท่านอาจารย์ก็ได้ทำผลงานใหญ่ที่ทางเหนือเมื่อเขากลับมาถึงแล้ว พวกคนรวยคหบดีผู้มีอำนาจก็ต้องสังเกตท่าทีของเขานับจากนี้ต่อไปแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าท่านอาจารย์ทำอะไรไป แต่เขารู้ว่าใต้เท้าไม่ใช่คนที่พูดโกหกผู้อื่น!เมื่อเกิดเรื่องกับร้านตีเหล็กขึ้น เขาจึงจัดให้คนของเขาไปทำการตรวจตราตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แต่ในท้ายที่สุดก็เกิดเรื่องเกิดขึ้นจนได้!ตอนนี้ท่านอาจารย์กลับมาแล้ว พร้อมกับคนหกสิบคนขี่ม้ามาหกสิบตัว และพกดาบหกสิบเล่ม!เขาที่ถล่มค่ายซานหู่อย่างโหดเหี้ยม คุณหนูชิงเหอถูกลักพาตัวไปแบบนี้ เขาจะปล่อยตระกูลโจวไปได้อย่างไร?แต่ถ้าท่านอาจารย์จะจัดการตระกูลโจวขึ้นมาจริง ๆ ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับบุญกรรมของตระกูลโจวแล้ว!...เมืองฝู ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกสิบลี้จ้าวเว่ยหมินมองไปทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบฟู่ ที่แต่งตัวด้วยเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แล้วพูดว่า "เจ้าหน้าที่ตรวจสอบฟู่ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าอยากให้ข้าไปเยี่ยมดูประชาชนที่ไหนกัน"หากอยากไปเยี่ยมประชาชนจริง ๆ พวกเขาควรสวมเสื้อผ้าธรรมดา และเข้าไปเยี่ยมในหมู่บ้านอย่างลับ ๆตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคนนี้สวมเครื่องแบบ
ตอนนี้ลุงเขาถูกใส่ร้ายจับเข้าคุก แถมลูกพี่ลูกน้องของเขาก็ยังถูกลักพาตัวไปตอนกลางดึกอีก!เขาไม่รู้ว่านิสัยของท่านอาจารย์แบบนั้น จะทำเรื่องอะไรออกมาได้บ้าง!แต่เขารู้ว่าถ้าเขากลับเมืองช้าเกินไป เมืองฝูจะต้องต้องมีเรื่องใหญ่สะเทือนเลือนลั่นแน่!...ถึงไม่รู้ที่ตั้งของจวนตระกูลโจว แต่หาได้ง่ายในเมืองนี้!สิบห้านาทีหลังจากออกจากร้านตีเหล็ก หวังหยวนก็นำม้าหกสิบตัวมาถึงที่ประตูจวนตระกูลโจวแล้ว!มีสิงโตหินสองตัวอยู่หน้าลานขนาดสิบหมู่ คนรับใช้สองคนยืนอยู่หน้าประตูทั้งสาม และแผ่นโลหะสีดำที่ด้านบนมีคำว่า "บ้านตระกูลโจว" ปิดทองอยู่ธรรมเนียมปฏิบัติของต้าเย่ กำหนดไว้โดยเฉพาะว่าคำว่า "จวน" นั้นที่สามารถใช้กับป้ายหน้าประตูบ้านของขุนนางได้ไม่ว่าพ่อค้าจะรวยแค่ไหน เขาก็ยังไม่ได้อยู่ในฐานะชนชั้นสูง ใช้ได้แค่คำว่า "บ้าน" เท่านั้น!ทหารม้าหกสิบผู้ดูดุดันน่ากลัวพวกนี้ ทำให้คนรับใช้ต้องปิดประตู และรีบไปแจ้งนายท่านใหญ่ทันทีไม่นาน โจวฉางฟู่ก็ออกมาพร้อมคนรับใช้เกือบร้อยคนพร้อมด้วยอาวุธพลองหอกดาบเมื่อเห็นหวังหยวน โจวฉางฟู่ก็หรี่ตาลง "เจ้านี่เอง เจ้าโชคดีมากที่มีชีวิตรอดกลับมาจากเมืองจิ่วซานได้ พาคน
“สมควรตาย!”สายตาของทหารผ่านศึกเกราะทมิฬและทหารปลดประจำการนั้นพุ่งพล่านไปด้วยจิตสังหารในเมืองจิ่วซาน ขุนนางทุกคนตั้งแต่ระดับสี่ไปจนถึงระดับห้า เมื่อพบกับท่านเสนาธิการทางทหารยังต้องให้ความเคารพเขาอย่างยิ่งแค่ไอคหบดีกล้าอาศัยบารมีขุนนางเลขาขั้นแปดมาดูหมิ่นท่านเสนาธิการทางทหารแบบนี้น่ะรึ!พวกเขาทั้งหมดตัดสินใจติดตามหวังหยวน พวกเขาก็รู้สึกโกรธมากที่มีคนกล้ามาลบลู่เจ้านายของตัวเองเช่นนี้!"ใช่แล้ว!"หวังหยวนขำเล็กน้อย "ถ้าข้าบุกเข้าไปในตระกูลโจวของเจ้าแล้วเข้าคุกล่ะก็ แต่ถ้าหากข้าทำให้เจ้าพิการจะเกิดอะไรขึ้นกันนะ?"โจวฉางฟู่กัดฟันจ้องถลึงตา "เจ้ากล้าดียังไง!"สายตาหวังหยวนพลันเหี้ยมโหดขึ้นมา "หักขาทั้งสองข้างของเขาซะ!"กร๊อบ! กร๊อบ!ไม่รอให้คนอื่นลงมือ ผิงเจี้ยนและฉางเซินก็ลงมือจัดการให้แล้ว!"อ๊าก…"เสียงกรีดร้องโหยหวนดังก้องไปทั่วทั้งถนน โจวฉางฟู่สั่นเทิ้มไปทั้งตัว และชี้ไปที่หวังหยวน "เจ้า เจ้า!"เขาจะไปคาดคิดได้ยังไงว่าหวังหยวนจะลงมือกับเขา และหักขาของเขาทั้งคู่จริงๆ!คนรับใช้ของตระกูลโจวหลายคนตกใจมากจนขวัญหนีดีฝ่อเสียงของหวังหยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา "ข้าไม่ชอบถูกคนชี้นิ้
เมื่อพิจารณาจากทัศนคติของผู้เฒ่าที่มีต่อท่านอาจารย์หนุ่มคนนี้ ก็เห็นว่าเขาไม่ใช่คนที่ไม่มีความทะเยอทะยานยิ่งใหญ่แน่นอน!แต่สิ่งที่ทำในวันนี้ การใส่ร้ายคนในเวลากลางวันแสก ๆ นั้นช่างอาจหาญเกินไป!ฉางเซิ่งพ่นลมหายใจ “ฮึ่ม ไม่ใช่ทุกคนที่มีโอกาสได้เป็นเสนาธิการทหาร ไม่ใช่ทุกคนที่มีโอกาสทำงานให้เสนาธิการทหาร”“เสนาธิการทหาร!”ดวงตาของผู้ตรวจการสวี่เป็นประกายขึ้น เมื่อเขาได้ยินดังนั้น รีบประสานมือทันที แล้วพูดว่า “ท่านไม่ต้องกังวล ข้าน้อยจะจัดการเดี๋ยวนี้เลยขอรับ!”ครั้งหนึ่งเขาเคยมีหน้าที่รับผิดชอบ รับใช้ขบวนบุคคลสำคัญที่เดินทางไปทางใต้ และเคยได้ยินคนเหล่านั้นพูดคุยเรื่องสงครามทางตอนเหนือแม่ทัพหนุ่มได้แต่งตั้งเสนาธิการทหาร และเป็นเสนาธิการทหารที่วางแผนสังหารอ๋องถูหนาน เผาทหารของชาวหวงจำนวนสามหมื่นนายให้ตาย และใช้ค่ายกลกระทิงไฟโจมตีค่ายชาวหวงไม่น่าแปลกใจที่นายท่านใหญ่พูดเป็นนัยเช่นนั้น ปรากฏว่าเสนาธิการทหารคือท่านอาจารย์หนุ่ม!เขาสัญญาว่าจะคอยรับใช้ให้ดีที่สุด และจะไม่มีใครหยุดเขาได้!“อ๊าก ผู้ตรวจการสวี่ เจ้าทำเช่นนี้ไม่ได้ กลับมา!”โจวฉางฟู่ตะโกนเสียงดัง แต่ผู้ตรวจการสวี่ไม่หันก
ข้าคิดว่าข้าจะไม่ได้เจอท่านอีกแล้วในชีวิตนี้ท่านพี่รู้หรือไม่ข้าคิดถึงท่านมากเพียงใด?ท่านกลับมาตอนนี้ ท่านพ่อติดคุกไปแล้วตระกูลโจวทำให้ข้ากลัวทุกวัน และพวกอันธพาลก็มาทุบประตูทุกคืนข้ากลัวมาก ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วข้าคิดเสมอว่าท่านจะกลับมาเมื่อไหร่ ท่านกลับมาแล้ว ข้าฝันไปหรือเปล่า?ฮือฮือฮือ!”ความกดดัน ความคับข้องใจ และความเจ็บปวดที่อัดอั้นมายาวนาน หลั่งไหลออกมาในขณะนี้ในโลกนี้นางมีญาติเพียงสองคน คือพ่อและลูกพี่ลูกน้องของนางแม้ว่าจะบ่นลูกพี่ลูกน้องคนนี้บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยมองว่าเขาเป็นคนนอกในใจ!“ขอโทษที่พี่กลับมาช้า มันเป็นความผิดของพี่เอง พี่ควรจะกลับมาเร็วกว่านี้!”หวังหยวนถอดเสื้อคลุมตัวใหญ่คลุมร่างชิงเหอ เช็ดน้ำตานางที่ไหลออกมา ในขณะที่มองใบหน้านางที่ซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นบาดแผลบนร่างกาย ทั้งมือและเท้าของนาง เขาก็รู้สึกโกรธจนอธิบายไม่ได้ เขาเหลือบมองพวกอันธพาลทั้งสี่คน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ส่งพวกเขาไปในที่ที่ควรจะไป!”“คุณชาย โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย ตระกูลโจวบังคับให้พวกเราทำเช่นนี้!”“เราไม่ได้อยากทำ เราถูกบังคับ และเรารู้ว่าเราผิดไปแล้ว!”“คุณ
“เท่าที่ข้ารู้ พรรคทมิฬมีทรัพย์สมบัติมากมาย!”“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพื่อถามว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”“ก่อนที่ข้าจะบุกหน้าผา ได้ยินว่าของพวกนั้นถูกขนย้ายไปแล้วจริงหรือไม่?”หวังหยวนมองไปที่โอวหยางอวี่ แล้วถามตรงประเด็นโอวหยางอวี่พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เอ่ยคำใด“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ลั่วเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะลั่น“โอวหยางอวี่!”“เจ้าคิดว่าท่านประมุขไม่รู้ความทะเยอทะยานของเจ้าหรือ?”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ จะบอกคนชั่วเช่นเจ้าได้อย่างไร?”“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะประจบสอพลอก็คงไม่มีโอกาสแล้วกระมัง?”นี่...โอวหยางอวี่รู้สึกจนใจ หน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติจริง ๆ!ไม่เช่นนั้นเขาคงบอกหวังหยวนไปแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด!หวังหยวนจะมองความคิดของโอวหยางอวี่ไม่ออกได้อย่างไร?เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเตะโอวหยางอวี่ แล้วหันไปพยักหน้าให้หลิ่วหรูเยียน เขาชี้ไปที่โอวหยางอวี่ แล้วกล่าวว่า “คนผู้นี้ไร้ประโยชน์ เจ้าจัดการเขาเถิด!”“จะปล่อยเขาไปหรือจะฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้า ไม่ต้องถามข้า!”หลิ่วหรูเยียนดีใจ รู้สึกซาบซึ้งใจมากส่วนโอวหยางอวี่กลับมีสีหน้าหวาดกลัว รีบ
“ได้เลย!”หวังหยวนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นจึงพาหลิ่วหรูเยียนไปยังสวนหลังบ้านเนื่องจากงานเลี้ยงยังไม่เลิก ทุกคนยังคงดื่มกินอย่างสนุกสนาน หวังหยวนจึงใช้สวนหลังบ้านเป็นสถานที่สอบสวนไม่นานต่งอวี่ก็พาโอวหยางอวี่และลั่วเฉินมา ข้างหลังพวกเขามีทหารหลายคน“ท่านหวัง!”“ท่านโปรดอย่าทำร้ายข้าเลย!”“ก่อนหน้านี้ข้าตาบอด จึงได้ไปอยู่กับตานสยงเฟย แต่ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว หากท่านให้โอกาสข้า ต่อไปข้ายินดีรับใช้ท่านให้ดีที่สุดขอรับ!”“หากท่านไม่ต้องการใช้ข้าก็ปล่อยข้าไปเถิด ข้าจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าท่าน และจะไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้ท่านแน่นอนขอรับ!”โอวหยางอวี่รีบคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตา!ครั้งก่อน แม้แต่ตอนอยู่บนหน้าผา เขาก็หมดอำนาจแล้ว ได้แต่ถูกขังอยู่ในห้องทุกวันแม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพราะหวังหยวน แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นนักโทษ หากไม่สามารถพูดโน้มน้าวหวังหยวนได้ ต่อไปเขาก็คงมีแต่ต้องตายเท่านั้น!วันชื่นคืนสุขผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว!หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ ช่างเป็นคนขี้ขลาดนัก!เพิ่งจะพบหน้ากันก็คุกเข่าขอความเมตตาแล้วหรือ?ครั้งก
หวังหยวนเดินไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม“ข้าจำได้”“เพียงแต่...”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีลังเล ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างจากตอนนั้น ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลและรู้จักกาลเทศะ!”“ในเมื่อตานสยงเฟยมีประโยชน์ต่อท่าน ข้าจะฆ่าเขาเพื่อความสาแก่ใจเพียงครู่เดียวได้อย่างไร?”สุดท้ายหลิ่วหรูเยียนก็รีบวิ่งออกไป ไม่อยากเห็นหน้าตานสยงเฟยอีก!ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตนเองจะอดใจไม่ไหว ลงมือฆ่าเขาจนทำลายแผนการของหวังหยวน!“เจ้าช่างโชคดี”“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังรักษาหัวไว้บนบ่าได้”หวังหยวนมองตานสยงเฟยด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้เอ่ยคำใด แล้วเดินออกไปข้างหลังมีเพียงเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจของตานสยงเฟยในเมื่อเขามีไพ่ตายอยู่ในมือก็ไม่ต้องกลัวตาย!สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเป็นอิสระ!...“ช้าก่อน!”หลังจากออกจากคุกแล้ว หวังหยวนก็รีบวิ่งตามหลิ่วหรูเยียนไปหลิ่วหรูเยียนหันกลับมามองหวังหยวน แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “มีเรื่องอะไรอีกหรือ?”“ข้าแค่อยากถามเจ้าว่า ในบรรดาคนของพรรคทมิฬที่พวกเราจับมาได้มีคนระดับสูงคนอื่น ๆ อีกหรือไม่?”พรรคทมิฬมีรากฐานที่แข็งแกร่ง มีสาวกมากมาย แสดงว่าคงคนม
ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็หัวเราะลั่น ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง!“ดูเหมือนว่าข้ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง สิ่งที่เจ้าต้องการคือทรัพย์สมบัติของข้างั้นหรือ?”“แต่ก็ดี พวกเรามาทำข้อตกลงกัน!”“หากเจ้าปล่อยข้าไป ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรทั้งหมดของข้าจะเป็นของเจ้า แต่หากเจ้าไม่ยอมรับข้อเสนอ เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้สิ่งเหล่านั้น!”ตานสยงเฟยกล่าว พร้อมกับจ้องหน้าหวังหยวน“จริงสิ”“หลิ่วหรูเยียนกลายเป็นคนของเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่เชื่อคำพูดข้าก็ลองถามนางดู ว่าทรัพย์สมบัติของข้ามากมายมหาศาลจริงหรือไม่!”“ถามดูก็รู้ผล!”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างมั่นใจเหตุผลที่เขาสามารถสร้างพรรคทมิฬและรวบรวมสาวกมากมายจนมีอิทธิพลในดินแดนทั้งเก้าได้ ก็เพราะเขามีทรัพย์สมบัติมหาศาล!แม้ว่าจะเทียบกับหวังหยวนไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน!อย่างน้อยในดินแดนทั้งเก้าก็ยังมีที่ให้เขายืนหยัดในฐานะผู้นำ!หลิ่วหรูเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังหวังหยวนกำหมัดแน่น ไม่เอ่ยคำใด แต่ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของนาง!ความแค้นเพราะบิดาถูกสังหารนั้นไม่อาจลืมเลือน!ศัตรูอยู่ตรงหน้า แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้ ช่างไร้ความสามารถ!“เขาพูดจริงหรือ?”
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“
“เจ้าไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับข้า แสดงว่าเจ้าคงอารมณ์ไม่ดีจริง ๆ”“ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เล่าให้ข้าฟังสักหน่อยล่ะ อย่างน้อยก็ให้ข้าสนุกขึ้นมาบ้าง”หวังหยวนนั่งลงข้างหลิ่วหรูเยียน เขานั่งไขว่ห้างมือวางบนราวบันไดขณะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยรอยยิ้ม“เหตุใดท่านถึงน่ารำคาญนัก?”“ดูไม่ออกหรือว่าข้าไม่อยากคุยกับท่าน?”“รีบกลับไปดื่มกับพวกเขาซะเถอะ จะมานั่งขวางหูขวางตาข้าทำไม?”หลิ่วหรูเยียนกลอกตามองหวังหยวนแท้จริงแล้ว นางเพียงแค่รู้สึกว่างเปล่าหลังจากได้ล้างแค้นสำเร็จ ราวกับชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป นางไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป จึงทำให้ดูเหม่อลอยและเศร้าสร้อยแต่ไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่วังหยวนมาที่นี่ นางกลับรู้สึกเหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง“ว่ามาสิ เป็นอะไรไป?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่อง“ข้าอยากไปพบตานสยงเฟย”“ครั้งก่อนท่านสัญญากับข้าว่า เมื่อจับตานสยงเฟยได้จะให้ข้าจัดการเขา ยังจำได้หรือไม่?”หลิ่วหรูเยียนถาม“อืม...”หวังหยวนครุ่นคิด ใช้นิ้วเคาะขมับพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียเรื่องของพรรคทมิฬเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อาจตัดสินใจเพียงเพราะคำพูดของคนคนเดียวได้ ยิ่งกว่านั้น เพื่อจับตานสยงเฟย ยังต้องสูญ
“หวังหยวน! เจ้าช่างน่ารังเกียจ! กล้าเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัวหรือ?”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างเดือดดาลส่วนโอวหยางอวี่และลั่วเฉินเห็นท่าไม่ดี จึงไม่รีรอ รีบพาผู้ใต้บัญชาหนีลงจากเขา!แต่น่าเสียดาย ที่เชิงเขามีการวางกองกำลังดักไว้แล้ว!ตานสยงเฟยและคนอื่น ๆ ต่างถูกจับเป็น!การต่อสู้ครั้งนี้ หวังหยวนได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบ!แต่เนื่องจากหน้าผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ห่างไกล โดยรอบไม่มีบ้านเรือนหรือเมืองจึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่หวังหยวนต้องการเพราะที่นี่คืออาณาจักรต้าเป่ย หากหานเทารู้ว่าเขายกทัพมาในดินแดนของอาณาจักรต้าเป่ย ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร พวกเขาก็อาจจะหาเรื่องจู่โจมได้!เมื่อถึงเวลานั้น เรื่องราวคงจะวุ่นวายและเกิดความขัดแย้ง!หลังจากที่จับตานสยงเฟยและพรรคพวกได้แล้ว หวังหยวนจึงรีบกลับเมืองอู่เจียงทันที!ใช้เวลาเพียงวันครึ่งก็กลับมาถึง!ระหว่างทาง แม้ว่าจะมีคนเห็น แต่มีเกาเล่อคอยนำทาง จึงไม่ทำให้คนของอาณาจักรต้าเป่ยรู้ตัว!...ณ ที่ว่าการเมืองอู่เจียงตอนนี้ทุกคนกำลังดื่มฉลองกันอย่างสนุกสนาน!คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์คือหวังหยวน!ส่วนเอ้อหู่และคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ที่
หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใด นางจ้องมองตานสยงเฟยด้วยความโกรธแค้นนางต้องการล้างแค้น!“ชีวิตของเขาเป็นของเจ้า ข้าจะช่วยจับเป็นให้!”“ส่วนต่อไป เจ้าจะจัดการเขาอย่างไรก็สุดแล้วแต่เจ้า!”หวังหยวนกล่าวจบก็หยิบปืนคาบศิลาออกมาจากอก แล้วเล็งไปที่ตานสยงเฟย“ในเมื่อเจ้ารู้จักข้าดี”“เจ้าควรรู้ว่าอาวุธลับของข้าไม่มีผู้ใดเทียบได้ ใช่หรือไม่?”“ข้าแนะนำให้เจ้ายอมจำนนเสีย จะได้ไม่เจ็บตัว!”หวังหยวนเตือนมุมปากของตานสยงเฟยกระตุก เขาสืบเรื่องของหวังหยวนมานาน จึงรู้จักหวังหยวนดี และจำได้ว่าอาวุธในมือของหวังหยวนคืออะไร!ไม่ต้องพูดถึงเขา แม้แต่ขุนพลที่เก่งกาจก็ยังไม่อาจหลบอาวุธนี้ได้!ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็คว้าตัวสาวกพรรคทมิฬคนหนึ่งมาใช้เป็นโล่มนุษย์!“ปัง!”เสียงปืนดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬคนนั้นล้มลงกับพื้นต้องยอมรับว่าตานสยงเฟยช่างโหดเหี้ยม!เพื่อเอาชีวิตรอด กลับยอมเสียสละชีวิตคนอื่น ช่างน่ารังเกียจ!หวังหยวนยกปืนขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเล็งไปที่ตานสยงเฟย ไม่ให้เขามีโอกาสหนี!“หวังหยวน!”“วันนี้ไว้ชีวิตข้าเถิด ต่อไปข้าจะตอบแทนเจ้าแน่นอน!”“เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”“การบีบให้ข้าจนตรอกไม่ได้เป็นผลดีต่อ
ลั่วเฉินพยักหน้า ไม่เอ่ยคำใดอีก เพียงแค่รีบพาผู้ใต้บัญชาออกไป!เสียงโห่ร้องแห่งการฆ่าฟันดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬล้มตายเป็นใบไม้ร่วง!ตานสยงเฟยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ!สมาชิกพรรคทมิฬล้วนเป็นคนที่เขาฝึกฝนเอง เขาทุ่มเทมากมายเพื่อสร้างกองกำลังที่แข็งแกร่ง!เดิมทีเขาต้องการครองแผ่นดิน แต่ไม่นึกเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้!สูญเสียกำลังพลไปเยอะมาก!ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย!“ตานสยงเฟย! อย่าหนีนะ!”“เจ้าคนสารเลว! หลอกลวงข้ามาหลายปี!”“ไม่เพียงแต่ฆ่าพ่อแม่ข้าเท่านั้น ยังฝึกฝนข้าให้เป็นเครื่องมือทำเรื่องเลวร้ายมากมาย!”“วันนี้พวกเราต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!”ขณะที่ตานสยงเฟยกำลังจะลงจากเขา หลิ่วหรูเยียนก็วิ่งเข้ามา ในมือถือกริชเปื้อนเลือด สายตาเย็นชาราวกับคมดาบจ้องมองตานสยงเฟย!“มาคนเดียวหรือ?”เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนมาคนเดียว ตานสยงเฟยก็หัวเราะในลำคอ เขาหันมาคว้าทวนยาวจากมือผู้ใต้บัญชาที่อยู่ด้านข้าง!เหตุผลที่ตานสยงเฟยสร้างฐานะขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพียงเพราะเขามีความคิดที่แตกต่าง แต่ยังเป็นเพราะฝีมือของเขาด้วย!ในยุคสงคราม ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นผู้ชนะ!ยิ่งกว่านั้น ฝีมือ