“เช่นนั้นก็เป็นความผิดของหวังหยวนเอง”“ข้าเป็นถึงคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเจียง บัดนี้เขากลับจัดงานเลี้ยงโดยไม่ได้เชิญข้า ช่างไม่ได้ให้เกียรติข้าเลยสักนิด!”“ข้าไม่ถือสาหาความ ยังคงเดินทางมาที่นี่ เขากลับจะไล่ข้าไปหรือเจ้าคะ?”“ข้ารู้สึกไม่ยุติธรรมยิ่งนัก!”เจียงเสี่ยวอวี๋ไม่ได้สนใจคำพูดของเจียงเซี่ยวอวิ๋น กลับผลักเจียงเซี่ยวอวิ๋นออก แล้วเดินตรงไปยังห้องโถงใหญ่รนหาที่ตายจริง ๆ!เจียงเซี่ยวอวิ๋นกำหมัดแน่น เนื่องจากเพราะมาร่วมงานเลี้ยงที่หวังหยวนจัดขึ้น จึงไม่ได้พาคนของตระกูลเจียงมาด้วย ทำให้ไม่มีผู้ติดตามรอบกาย!จึงไม่อาจจัดการกับเด็กคนนี้ได้เลย!ขณะที่เขากำลังคิดหาทางแก้ไขก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น“คุณหนูเจียง ไม่ได้พบกันนานเลยนะ!”“บิดาของเจ้าช่างใจดี ถึงกับพาเจ้ามาที่นี่ด้วยหรือ?”ผู้ที่เอ่ยขึ้นคือหวังหยวน บัดนี้เขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าเจียงเสี่ยวอวี๋“ท่านพ่อของข้าไม่ได้สนใจเรื่องนี้หรอกเจ้าค่ะ!”“ข้าแอบหนีออกมาเองไม่ได้หรือ?”“ยิ่งกว่านั้น เมื่อครู่ข้ายังถูกท่านพ่อจับได้และถูกดุเสียยกใหญ่ด้วย!”“โชคดีที่ข้าวิ่งเร็ว ไม่เช่นนั้นตอนนี้คงถูกส่งตัวกลับบ้านไปแล้ว!”เจียงเ
บัดนี้เกาเล่อกำลังนั่งอยู่ข้างกายหวังหยวน ดื่มสุราร่วมกันโดยปกติแล้ว เกาเล่อมักจะไม่ดื่มสุรา เพราะในฐานะผู้รับผิดชอบองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ เขาต้องรักษาสติอยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างจะราบรื่นหากเขาละเลยภารกิจ อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวมได้!อย่างน้อยในสายตาของเขา สุราย่อมไม่ใช่สิ่งที่ดี...แต่วันนี้เป็นวันแห่งความรื่นเริง ประกอบกับมีหวังหยวนอยู่เคียงข้าง เขาจึงดื่มไปสองสามจอก“ได้ยินว่าเจ้ากำหนดตำแหน่งของคนพวกนั้นได้แล้ว?”“ได้ทิ้งคนไว้คอยติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเขาหรือไม่?”หวังหยวนถามขึ้นตรงประเด็นในภายภาคหน้า เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในเมืองอู่เจียงแล้ว เขาจะพาตงฟางฮั่นและคนอื่น ๆ ออกเดินทางไปด้วยกันตงฟางฮั่นมีความสามารถมากจึงต้องอยู่เคียงข้างเขา คอยช่วยเหลือเขาดั่งมือขวาเสมอ แต่เมืองอู่เจียงยังไม่มีผู้ว่าราชการเมือง!หวังหยวนหมายตาหวังเถี่ยก่านไว้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดความสามารถของเขาเหมาะสมยิ่งนัก!อีกทั้งนิสัยใจคอยังตรงกับความต้องการของหวังหยวน!หากสามารถดึงคนเช่นนี้มาอยู่ข้างกายได้ และให้เขาดูแลเมืองอู่เจียง เมืองอู่เจียงจะต้องพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน!“ข้
“เช่นนั้นท่านตงฟางหมายความว่า...”หวังหยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย รอฟังคำตอบจากตงฟางฮั่น“ง่ายมาก!”“พวกเราแค่พาตัวคนเหล่านั้นมา จะต้องไปสนใจสิ่งอื่นใดเพื่ออะไร?”“เมื่อข้าวสารกลายเป็นข้าวสุก แม้ว่าคนของอาณาจักรต้าเป่ยจะมาทวงถาม เราก็สามารถปฏิเสธได้!”“อย่าลืมว่าสิ่งที่อัครเสนาบดีฝ่ายขวา ซ่งติ้งกั๋วทำลงไป ล้วนได้รับคำสั่งจากชนชั้นสูงของอาณาจักรต้าเป่ยไม่ใช่หรือ?”“แต่สุดท้ายเล่า?”“เขากลับกลายเป็นหมากที่ถูกทิ้ง พวกเราก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้...”ตงฟางฮั่นส่ายหน้าเหตุผลที่เขาและหวังหยวนร่วมมือกัน ส่วนใหญ่เป็นเพราะทั้งสองมีอุดมการณ์เดียวกัน และหลายครั้ง ความคิดของทั้งสองก็ต่างสอดคล้องกันแน่นอนว่าเขารู้ดีถึงบทบาทของซ่งติ้งกั๋ว!แม้ว่าในการจัดการเรื่องนี้ พวกเขาจะไม่ได้เปรียบและไม่ได้รับคำอธิบายใด ๆ แต่ก็ยังมีข้อดีอยู่บ้าง...นั่นคือได้ซ่งติ้งกั๋วมาอยู่ใต้คำสั่ง!ต้องรู้ว่าอัครเสนาบดีฝ่ายขวา ซ่งติ้งกั๋ว มีความสามารถอย่างแท้จริง เพียงแต่ยังไม่สะดวกที่จะเปิดเผยตัวตน!แต่ทว่าการจะพิสูจน์ความสามารถของเขานั้น ย่อมขึ้นอยู่กับการพัฒนาของเมืองโบราณ!ในอนาคต หวังหยวนจะต้องเดินทางไปยังเมืองโบร
“ท่านหวัง!”เจียงเซี่ยวอวิ๋นที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดรีบเดินออกมากล่าวว่า “ข้าเอง!”“ท่านเองหรือ?”หวังหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ถามด้วยความสงสัย “ท่านตามข้ามาเพื่ออะไร? มีเรื่องอะไรหรือ?”“ท่านหัวหน้าตระกูลเจียง ไม่ต้องเกรงใจข้า หากมีสิ่งใดให้ข้าช่วยเหลือก็บอกมาตามตรงได้เลย”“การสร้างเมืองอู่เจียงให้เจริญรุ่งเรืองยังต้องพึ่งพาพวกท่านอีกมาก!”หวังหยวนปฏิบัติต่อหัวหน้าทั้งสามตระกูลด้วยความสุภาพเจียงเซี่ยวอวิ๋นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงกล่าวด้วยรอยยิ้มแห้งว่า “ข้าเห็นว่าท่านมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเสี่ยวอวี๋บุตรสาวของข้า ไม่ทราบว่าท่านมีใจให้นางบ้างหรือไม่ขอรับ?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังหยวนก็หัวเราะออกมาเขาส่ายหน้าพลางกล่าวว่า “ท่านเจียง! ท่านล้อเล่นอะไร?”“ข้ากับเสี่ยวอวี๋อายุห่างกันมาก ข้าเห็นนางเป็นน้องสาว จะมีใจให้นางได้อย่างไร?”หรือว่าเขาคิดว่าตนเป็นคนประเภทที่เห็นผู้หญิงแล้วเดินไม่ตรงทาง?“ไม่ ไม่ ไม่!”“ท่านเข้าใจข้าผิดแล้วขอรับ!”“ข้ารู้ว่าท่านไม่ใช่คนเช่นนั้น เพียงแต่ข้ารู้สึกว่าเสี่ยวอวี๋ดูเหมือนจะมีใจให้ท่าน จึงอยากถามท่านว่าท่านมีความรู้สึกเช่นนั้นบ้างหรือไม่...”“หา
“ท่านคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์มากหรือไร?”“สตรีทั่วหล้าต้องมารุมล้อมท่านหรือ?”“ดูหน้าตาของท่านเสียก่อน ช่างเป็นใบหน้าที่ยียวนกวนประสาท!”หลิ่วหรูเยียนกอดอกพึมพำเบา ๆ แต่ถึงแม้นางจะพูดเช่นนั้น แต่ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใด นางกลับรู้สึกว่าหวังหยวนดูดีในสายตาของนางมากขึ้นเรื่อย ๆ...แม้แต่นางเองก็ยังไม่รู้ว่าเหตุใดจึงมีความคิดเช่นนี้!ช่างน่ากลัวเสียจริง!หรือว่า...นางหลงรักหวังหยวนเข้าแล้ว?หลังจากกลับถึงห้อง หวังหยวนก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง หลับไปตั้งแต่หัวค่ำเมื่อฟ้าสาง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อรู้สึกถึงความนุ่มนิ่มในอ้อมแขน เขาจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้น สายตาจับจ้องไปที่หลิ่วหรูเยียน!นี่...เหตุใดนางจึงมานอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา?ในชั่วพริบตา หวังหยวนกลับรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอย่างที่สุด!นี่ช่างเป็นการยกหินขึ้นมาทุบเท้าตัวเอง!ก่อนหน้านี้ที่เขาพาหลิ่วหรูเยียนมาอยู่ข้างกายและให้นางติดตามเขาไปทุกที่ เพียงเพื่อจับตาดูนางเท่านั้นป้องกันไม่ให้นางแอบทำอะไรลับหลังที่จะทำให้เขาเดือดร้อน!ไม่ใช่เพื่อจะได้นางมาครอบครอง!แต่ทุกคนต่างเข้าใจหวังหยวนผิด...บัดนี้ยิ่งทำให้ดูเหมือนว่าหวังหยวนและ
“ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ แม้เจ้าจะเปลือยกายอยู่ตรงหน้าข้า ข้าก็ไม่สนใจเจ้า!”หวังหยวนไม่ได้ต่อปากต่อคำกับนาง หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็เตรียมตัวออกไปข้างนอกเขายังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ นั่นคือการจัดการกับคนของหมู่บ้านเขาหยกเขียว!เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เขาจึงจะสามารถดึงตัวหวังเถี่ยก่านมาร่วมงานได้!“ท่านจะไปที่ใด?”“คิดจะชิ่งหนีไปง่าย ๆ หรือ?”ขณะที่หวังหยวนกำลังจะออกไป เสียงของหลิ่วหรูเยียนก็ดังขึ้นอีกครั้ง“ข้าจะไปที่ใด จำเป็นต้องรายงานเจ้าด้วยหรือ?”หวังหยวนตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์“ไม่ใช่เช่นนั้น”“ข้าได้ยินว่าต่งอวี่ได้กวาดล้างฐานที่มั่นของพรรคทมิฬไปหลายแห่งแล้ว เช่นนั้นท่านก็ควรทำตามสัญญา บัดนี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่ท่านจะไม่มอบยาถอนพิษให้ข้าแล้วไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาหวังหยวนกลับยกยิ้ม แล้วพูดว่า “ยาถอนพิษหรือ?”“ยังไม่อาจมอบให้เจ้าได้ในตอนนี้!”“รอให้ข้ากลับจากหมู่บ้านเขาหยกเขียวก่อน แล้วค่อยคุยเรื่องยาถอนพิษกัน!”สมควรตาย!ช่างเป็นบุรุษที่ไม่รักษาคำพูด!เมื่อหวังหยวนออกจากห้องไป หลิ่วหรูเยียนจึงยกเท้าเตะเก้าอี้ข้าง ๆ ด้วยความโมโห แ
“ได้ส่งคนไปสืบมาแล้วขอรับ”“ภายในหมู่บ้านเขาหยกเขียวมีคนอยู่หลายสิบคน ส่วนใหญ่เป็นคนรับใช้”“แต่ว่ากันว่า พวกเขาได้รวบรวมพวกโจรป่าจากบริเวณโดยรอบมาเพื่อความปลอดภัย แต่เบื้องหน้าก็เหมือนไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มโจรเหล่านั้น”“แต่ผู้คนรอบข้างต่างรู้ดีว่าพวกเขาล้วนเป็นพวกเดียวกัน!”“ลับหลังพวกเขาต่างก็ร่วมมือกัน!”ต่งอวี่รีบรายงานหวังหยวนพยักหน้า พอจะเข้าใจสถานการณ์คร่าว ๆ แล้วปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เองดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องระมัดระวังให้มากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างจะปลอดภัย และไม่ให้คนของเขาเดือดร้อน!ต้องรู้ว่าโจรป่าเหล่านั้นล้วนเป็นพวกไม่กลัวตาย ในเมื่ออีกฝ่ายสามารถดึงพวกเขามาเป็นพวกได้ นั่นแสดงว่าผู้นำของหมู่บ้านเขาหยกเขียวต้องมีความสามารถอย่างแท้จริง!ไม่เช่นนั้นคงคิดเรื่องนี้ไม่ออก!แม้ว่าภายในหมู่บ้านเขาหยกเขียวจะไม่มีคนคุ้มกันมากนัก แต่กลุ่มโจรป่าโดยรอบก็เป็นเหมือนกำแพงหลายชั้น ทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าไปในหมู่บ้านเขาหยกเขียวโดยง่าย!และยิ่งไม่กล้าเข้าไปก่อเรื่อง!น่าเสียดาย...หากเป็นคนทั่วไปคงไม่ยอมสร้างความขัดแย้งกับหมู่บ้านเขาหยกเขียวเพียงเพื่อหวังเถี่ยก่านคนเดียว
เพื่อไม่ให้ถูกพบเห็น หวังหยวนและคนอื่น ๆ จึงทยอยกันเข้าไปใกล้หมู่บ้านเขาหยกเขียว โดยไม่ทำให้ผู้ใดสงสัย!บัดนี้หวังหยวนและคนอื่น ๆ กำลังยืนอยู่บนยอดเขา มองหมู่บ้านเขาหยกเขียวที่อยู่ไม่ไกล“สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นอย่างดีจริง ๆ”“มีชัยภูมิที่ได้เปรียบยิ่งนัก!”หวังหยวนกอดอก มุมปากเผยรอยยิ้มจางบริเวณโดยรอบหมู่บ้านเขาหยกเขียวมีเทือกเขาล้อมรอบ และมีเพียงเส้นทางเดียวที่จะเข้าไปยังหมู่บ้านเขาหยกเขียวได้ เมื่อครู่พวกเขาพบว่ามีทหารซุ่มอยู่มากมาย!เรียกได้ว่าเตรียมการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา!ยิ่งไปกว่านั้น บนภูเขาหลายลูกที่อยู่ไม่ไกล กลับมีคนประจำการอยู่ที่นั่น!คาดว่าคนเหล่านั้นคงจะเป็นโจรป่า!“คนของพวกเราพร้อมแล้วขอรับ”“ข้าไม่ได้ให้คนของเราไปจัดการกับทหารซุ่มเพื่อไม่ให้พวกมันตื่นตัว!”“แต่ได้ให้คนของเราหาเส้นทางเข้าไป เพียงท่านสั่งการ พวกเราก็สามารถบุกเข้าไปได้ทันที!”“แล้วจับตัวบุคคลสำคัญในหมู่บ้านเขาหยกเขียวทั้งหมดขอรับ!”เกาเล่อกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชานับตั้งแต่ที่เขาสืบจนรู้ความลับเบื้องหลังของหมู่บ้านเขาหยกเขียว เขากลับรู้สึกรังเกียจสถานที่แห่งนี้ รวมถึงผู้คนที่อาศั
ลั่วเฉินพยักหน้า ไม่เอ่ยคำใดอีก เพียงแค่รีบพาผู้ใต้บัญชาออกไป!เสียงโห่ร้องแห่งการฆ่าฟันดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬล้มตายเป็นใบไม้ร่วง!ตานสยงเฟยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ!สมาชิกพรรคทมิฬล้วนเป็นคนที่เขาฝึกฝนเอง เขาทุ่มเทมากมายเพื่อสร้างกองกำลังที่แข็งแกร่ง!เดิมทีเขาต้องการครองแผ่นดิน แต่ไม่นึกเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้!สูญเสียกำลังพลไปเยอะมาก!ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย!“ตานสยงเฟย! อย่าหนีนะ!”“เจ้าคนสารเลว! หลอกลวงข้ามาหลายปี!”“ไม่เพียงแต่ฆ่าพ่อแม่ข้าเท่านั้น ยังฝึกฝนข้าให้เป็นเครื่องมือทำเรื่องเลวร้ายมากมาย!”“วันนี้พวกเราต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!”ขณะที่ตานสยงเฟยกำลังจะลงจากเขา หลิ่วหรูเยียนก็วิ่งเข้ามา ในมือถือกริชเปื้อนเลือด สายตาเย็นชาราวกับคมดาบจ้องมองตานสยงเฟย!“มาคนเดียวหรือ?”เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนมาคนเดียว ตานสยงเฟยก็หัวเราะในลำคอ เขาหันมาคว้าทวนยาวจากมือผู้ใต้บัญชาที่อยู่ด้านข้าง!เหตุผลที่ตานสยงเฟยสร้างฐานะขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพียงเพราะเขามีความคิดที่แตกต่าง แต่ยังเป็นเพราะฝีมือของเขาด้วย!ในยุคสงคราม ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นผู้ชนะ!ยิ่งกว่านั้น ฝีมือ
“ทุกคนขึ้นเขาเดี๋ยวนี้!”“ห้ามปล่อยให้ใครหนีรอดไปได้!”หวังหยวนออกคำสั่ง ขุนพลนายกองเริ่มเคลื่อนไหวคนที่อาศัยอยู่บนหน้าผาแห่งนี้ล้วนเป็นระดับสูงของพรรคทมิฬและมีตำแหน่งสำคัญ การกำจัดพวกเขาให้หมดสิ้น จึงจะทำให้พรรคทมิฬหายไปอย่างสมบูรณ์!ตัดวัชพืชไม่ถอนราก เมื่อลมฤดูใบไม้ผลิพัดมาก็งอกขึ้นมาใหม่!เมื่อทุกคนเข้าไปบนหน้าผาแล้ว หวังหยวนก็ออกคำสั่ง ต่งอวี่และเอ้อหู่ต่างเป็นผู้นำพาผู้ใต้บัญชาบุกขึ้นไปบนยอดเขา!ส่วนหวังหยวนและคนอื่น ๆ ก็ตามไปติด ๆ!“เจ้าจะทำอะไร?”หวังหยวนหันไปคว้าแขนหลิ่วหรูเยียน แล้วถามขึ้นหลิ่วหรูเยียนมีสีหน้าเย็นชา กำหมัดแน่น สีหน้าโกรธเกรี้ยวนางขมวดคิ้วกล่าวว่า “ข้าจะขึ้นไปล้างแค้นด้วยตัวเอง!”“ไม่เพียงแต่ข้าเกือบตายเท่านั้น แม้แต่บิดามารดาข้าก็ถูกคนของพรรคทมิฬฆ่าตาย จะปล่อยพวกมันไปได้อย่างไร?”“วันนี้ไม่มีใครหยุดข้าได้ ข้าจะฆ่าตานสยงเฟย ล้างแค้นให้พ่อแม่!”พูดจบ หลิ่วหรูเยียนก็สะบัดแขนหวังหยวนออก ก่อนจะชักกริชออกมาแล้ววิ่งขึ้นไปบนยอดเขา!แม้ว่านางจะเป็นคนบอกที่ตั้งฐานทัพนี้ให้หวังหยวน แต่ไม่มีใครรู้จักที่นี่ดีไปกว่านาง!ไม่นานพวกหวังหยวนก็ขึ้นไปถึงยอดเขา
หวังหยวนกลอกตามองเอ้อหู่ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “ชีวิตของทหารที่อยู่ข้างหลังเจ้าล้วนอยู่ในมือเจ้า!”“การที่เจ้าพาพวกเขามาเสี่ยงอันตราย หากไม่มีอะไรผิดพลาดก็ดีไป แต่หากเกิดความผิดพลาด เจ้าจะเผชิญหน้ากับครอบครัวของพวกเขาได้อย่างไร?”“อย่าลืมว่าการเป็นขุนพลไม่ใช่แค่เพื่อรบชนะ!”“แต่ต้องชนะอย่างสวยงาม ลดการสูญเสียให้มากที่สุด!”ทุกคนต่างตกตะลึงเดิมทีพวกเขาคิดว่าการติดตามหวังหยวนก็เพื่อหาเลี้ยงชีพ ในยุคสงคราม การมีข้าวกินก็ดีมากแล้วชีวิตพวกเขาจะสำคัญอะไร?ในสายตาของชนชั้นสูง ชีวิตพวกเขาไม่ต่างจากเศษหญ้า!เป็นเพียงเครื่องมือในการแย่งชิงอำนาจ!แต่หวังหยวนกลับมีเมตตา เห็นใจพวกเขา ทำให้พวกเขาซาบซึ้งจริง ๆ!ในตอนนี้ทุกคนต่างก็ตัดสินใจแล้ว แม้ว่าจะต้องสูญเสียมากมาย พวกเขาก็ยินดีสละชีพเพื่อช่วยหวังหยวนพิชิตหน้าผาแห่งนี้ และฆ่าคนของพรรคทมิฬให้หมดสิ้น!“รีบก่อไฟทำอาหาร!”“เมื่อทุกคนอิ่มท้องแล้วก็คงถึงเวลาพอดี!”“จำไว้! ห้ามส่งเสียงดัง ประเดี๋ยวพวกมันจะรู้ตัว!”“หากพวกมันรู้ตัวจะเป็นอันตรายต่อพวกเรา!”หวังหยวนกำชับทุกคนพยักหน้ารับ จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองเ
ในช่วงเวลาไม่กี่วันต่อมา ด้วยการนำทางของหลิ่วหรูเยียน หวังหยวนและคนอื่น ๆ จึงไม่หลงทาง เดินทางมาถึงเชิงผาได้อย่างรวดเร็ว!บัดนี้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อก็ได้แทรกซึมเข้าไปในพื้นที่โดยรอบแล้วหวังหยวนและคนอื่น ๆ ตั้งค่ายอยู่ในป่าแห่งหนึ่งเมื่อมองไปรอบ ๆ จะเห็นเงาคนมากมาย พวกเขาล้วนเป็นสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ“สืบทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหรือ?”หวังหยวนสวมชุดเกราะเตรียมพร้อมรับมือกรณีฉุกเฉินและป้องกันการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว!เกาเล่อรีบเข้ามารายงานด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “สืบเรียบร้อยแล้วขอรับ คนร้ายอยู่บนเขาลูกนี้!”“แต่ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังขนย้ายสิ่งของ ตั้งแต่ที่พวกเรามาถึงก็เห็นรถม้าลงมาจากเขาไม่ต่ำกว่าร้อยคันแล้ว!”“แต่พวกเราไม่ได้ลงมือเพื่อไม่ให้พวกมันตื่นตัว!”“ข้าได้ส่งคนไปตามเส้นทางที่พวกมันใช้ หลังจากที่พวกเราจัดการเรื่องบนหน้าผาแล้ว จากนั้นจึงไปกวาดล้างพวกมัน!”“แล้วทรัพย์สมบัติของพวกมันก็จะตกเป็นของพวกเรา!”หวังหยวนพยักหน้าอย่างพึงพอใจเรื่องนี้จัดการได้ดีมาก!เหตุผลที่พรรคทมิฬเติบโตอย่างรวดเร็วก็เพราะความร่ำรวย!หากตัดเส้นทางการเงินของพวกมัน แม้ว่าตานเฟยจ
ตานเฟยยิ้มอย่างพึงพอใจช่วงนี้หลังจากถูกหวังหยวนจับตามอง เขารู้สึกเหมือนมีคนคอยจ้องมองทุกการกระทำของเขาอยู่ตลอดเวลา!แม้แต่การหาสาวกใหม่ก็ยังยากลำบาก!หวังหยวนคอยขัดขวางเขา เขาจึงต้องสั่งสอนหวังหยวนบ้าง!แต่น่าเสียดาย...ยังหาโอกาสไม่ได้!ยิ่งไปกว่านั้น ตานเฟยไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีว่าตนเองต่างกับหวังหยวน แล้วจะสู้หวังหยวนได้อย่างไร?อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่ได้!ดังนั้นแม้ว่าในใจจะเคียดแค้นอาฆาต แต่ย่อมต้องหลีกเลี่ยง“ที่เจ้าทำงานสำเร็จก็แค่ช่วยถ่วงเวลาเท่านั้น”“ตราบใดที่หลิ่วหรูเยียนยังมีชีวิตอยู่ นางก็เหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ!”“ดังนั้นก่อนที่พวกเราจะฆ่านางได้ พวกเราต้องระวังตัวและดำเนินแผนการต่อไป!”“พยายามขนย้ายสิ่งของออกไป หากถึงเวลาจำเป็น พวกเราก็ต้องทิ้งฐานที่มั่นแห่งนี้”ทุกคนต่างรู้สึกเสียดายหน้าผาแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ดี ไม่เพียงแต่มีชัยภูมิที่ได้เปรียบเท่านั้น แต่ยังปลอดภัยมากอีกด้วย!จึงทำให้พวกเขาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว!แม้ว่าสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อจะกระจายอยู่ทั่วดินแดนทั้งเก้า แต่ก็ไม่ได้ตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงหน้าผาแห่งนี้!แต่น่าเสียดา
สตรีผู้นี้...หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจช่างไม่รู้จักบุญคุณเอาเสียเลย!เหตุผลที่เขาไม่อยากให้หลิ่วหรูเยียนไปด้วยก็เพื่อปกป้องนาง เพราะหลังจากที่รู้ชาติกำเนิดของนางแล้ว หวังหยวนก็รู้สึกเห็นใจ!หลายปีมานี้ นางต้องเผชิญกับความทุกข์ยากมากมาย บัดนี้ในที่สุดก็ได้พบกับญาติ จึงควรได้ใช้เวลากับครอบครัว!แต่นางกลับดื้อรั้น ยืนกรานจะตามไปเสี่ยงอันตรายกับเขา ช่างเหลวไหลยิ่งนัก!“เจ้าตัดสินใจแล้วจริงหรือ?”หวังหยวนถามย้ำ“ใช่แล้ว!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างหนักแน่น“ได้!”“เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า ประเดี๋ยวเจ้าไปเตรียมตัวได้เลย เช้านี้พวกเราจะออกเดินทาง!”ตานเฟยเจ้าเล่ห์เหมือนหมาจิ้งจอก ต้องรีบจัดการเขา ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะมีโอกาสหนีไปได้!เมื่อถึงเวลานั้นจะเสียทั้งฮูหยินและรี้พล!หวังหยวนไม่อยากพลาดโอกาสนี้!“ข้าจะไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้!”หลิ่วหรูเยียนกล่าว แล้วเดินออกไป ในดวงตาของนางปราศจากแววตื่นเต้น กลับมีแต่ความเย็นชา!การล้างแค้นคือเป้าหมายเดียวในใจนาง!ครึ่งชั่วยามต่อมา หวังหยวนและคนอื่น ๆ ต่างก็เตรียมพร้อม เนื่องจากเรื่องนี้สำคัญ หวังหยวนจึงเตรียมการอย่างรัดกุมไม่เพียงแต่เรียกทหาร
“เขาชื่อตานเฟย อายุสี่สิบกว่าปี แต่ข้ารู้แค่ชื่อ ส่วนหน้าตาที่แท้จริงเป็นอย่างไร ข้าไม่รู้”“ไม่ใช่แค่ข้าเท่านั้น แม้แต่คนอื่น ๆ ในพรรคทมิฬต่างไม่รู้เช่นกัน”“หลายปีมานี้ เขาสวมหน้ากากตลอดเวลา ไม่ให้ใครเห็นหน้าตาที่แท้จริง!”หลิ่วหรูเยียนอธิบายหวังหยวนพยักหน้า คนของพรรคทมิฬชอบปิดบังตัวตน จึงไม่ยอมเปิดเผยหน้าตาไม่เช่นนั้นคงไม่สะดวกในการทำงาน!หวังหยวนเข้าใจเรื่องนี้ดีหวังหยวนใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ แล้วถามขึ้นว่า “แล้วฐานทัพพรรคทมิฬอยู่ที่ไหน?”“เจ้าน่าจะรู้ใช่หรือไม่?”“ได้ยินว่าตานเฟยรับเจ้าเป็นลูกบุญธรรม แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อใจคนอื่น แต่ย่อมต้องเชื่อใจเจ้า และพาเจ้าไปด้วยใช่หรือไม่?”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของหลิ่วหรูเยียนก็เปลี่ยนไป นางกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัวปรากฏว่าหลายปีที่ผ่านมา นางเห็นโจรเป็นพ่อมาโดยตลอด!ซ้ำยังช่วยเหลือโจรผู้นี้ทำเรื่องเลวร้ายมากมาย!หากไม่ใช่เพราะหวังหยวนช่วยเหลือ นางคงกลายเป็นหุ่นเชิดในมือของตานเฟย!ยิ่งคิด ยิ่งโมโห!“ข้ารู้!”“สถานที่แห่งนั้นอยู่ห่างไกลและอยู่ในหุบเขาลึก แม้ว่าข้าจะบอกท่าน ท่านก็คงหาไม่พบ!”“ข้ามีวิธีหนึ่ง ให้ข้านำทางพาท่า
ในคืนนั้น หลิ่วหรูเยียนอยู่กับลุงของนางในห้อง ทั้งสองพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ อย่างเพลิดเพลินหลิ่วหรูเยียนไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนตลอดเวลาที่ผ่านมา นางเป็นเพียงคนเดียวดาย แม้ว่าประมุขพรรคทมิฬจะดูแลนาง แต่นางกลับรู้สึกว่ามีความห่างเหินกับเขา ความรู้สึกนี้ แม้แต่นางเองก็อธิบายได้ไม่ชัดเจนอาจเป็นความรู้สึกแปลกแยกกระมัง?เพราะทั้งสองไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันแม้ว่าจะเห็นเขาเป็นญาติ แต่ก็ไม่ใช่ญาติที่แท้จริง ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ...เขากลับเป็นคนที่ฆ่าบิดาของนาง!หลิ่วหรูเยียนเข้าใจทุกอย่างแล้ว หวังหยวนไม่ได้หลอกลวงนาง ทุกอย่างที่เขาพูดล้วนเป็นความจริง หลักฐานอยู่ตรงหน้า แม้จะไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ!รุ่งเช้า หวังหยวนตื่นขึ้นมาแล้วเห็นเงาของใครคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูเมื่อเขาเดินออกไปก็เห็นสตรีคนหนึ่งยืนอยู่หากไม่ใช่หลิ่วหรูเยียน แล้วจะเป็นใครได้?“เจ้าตื่นเช้าจัง!”“ลุงของเจ้าเล่า?”“เท่าที่ข้ารู้ ตั้งแต่เมื่อวานพวกเจ้าก็อยู่ด้วยกันตลอด เหตุใดตอนนี้จึงแยกกันแล้วเล่า?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม ด้วยท่าทีไม่ใส่ใจหลิ่วหรูเยียนมีสีหน้าเคร่งเครียด นางขมวดคิ้วกล่
เมื่อหลิ่วหรูเยียนและชายผู้นั้นหยดเลือดลงในชาม ก็เห็นเลือดทั้งสองหยดรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว เป็นเช่นนี้จริง ๆ!นั่นแสดงว่าทั้งสองมีสายเลือดเดียวกัน!“ท่านลุง!”ทันใดนั้น หลิ่วหรูเยียนก็ร้องไห้ออกมา แล้วจับมือชายผู้นั้นพลางเรียกเขานางไม่นึกเลยว่านางยังมีญาติอยู่ในโลกนี้!ทุกคนที่อยู่ข้าง ๆ ต่างพากันยินดีกับหลิ่วหรูเยียนช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดี!เจียงเสี่ยวอวี๋ตื่นเต้นจนน้ำตาไหลส่วนหวังหยวนส่ายหน้าพลางยิ้มฝืดเฝื่อน เขาเป็นคนต่างยุคย่อมเข้าใจความจริงอย่างหนึ่งการพิสูจน์สายเลือดด้วยการหยดเลือดลงน้ำไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดมารองรับ!ตราบใดที่เลือดสองชนิดเป็นหมู่เดียวกันย่อมสามารถรวมตัวกันได้ แต่หมู่เลือดเป็นแค่การแบ่งประเภทเท่านั้นบางทีนี่อาจเป็นฟ้าลิขิตก็ได้ใช่หรือไม่?ยิ่งกว่านั้น คนในยุคนี้ยังไม่เข้าใจเรื่องหมู่เลือดด้วย ในเมื่อเลือดของทั้งสองสามารถรวมตัวกันได้ ประกอบกับเกาเล่อได้สืบหาข้อมูลมานานแล้ว ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าทั้งสองเป็นญาติกันจริง!ยิ่งไปกว่านั้น นี่ก็เป็นการช่วยให้หลิ่วหรูเยียนมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจอีกด้วยเขาจึงไม่ขัดจังหวะ“ดี! ดี! ดี!”“น้องชายข้าม