จ้าวซีซีส่งลิงก์โทรศัพท์มือถือให้ฉินเฟิงแล้วพูดว่า "รุ่นพี่ รุ่นพี่ดูหน่อยนะคะ"ในเวลานี้ ผู้หญิงที่คุกเข่าให้เธอนั้นก็คุณจ้าวขอให้อภัยฉันมองมาทางเธอ"คุณจ้าวคะ ได้โปรดให้อภัยฉันด้วยนะคะ ครั้งนี้เป็นเพราะฉันผิดเอง ไม่ดูให้ดีก่อนก็มาโวยวายแบบนั้น ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเองค่ะ"การแสดงออกของจ้าวซีซีค่อนข้างซับซ้อน เธอไม่เชื่อว่าเป็นเพราะครอบครัวถูกซื้อกิจการและอีกฝ่ายจะมาขอโทษเธอจึงพูดอย่างลังเลว่า "ทําไมคุณถึงมาหาฉันล่ะ?"อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะประหลาดใจเช่นกัน แต่อธิบายอย่างรวดเร็วว่า "คุณจ้าวคะ ฉันสำนึกได้แล้วจริงๆ ให้อภัยฉันสักครั้งนะคะ""คุณลุกขึ้นก่อน""คุณจ้าว ถ้าคุณไม่ยอมให้อภัย งั้นฉันก็จะไม่ลุกอย่างเด็ดขาด"อีกฝ่ายถึงกับคุกเข่าอยู่อย่างนั้นและไม่ยอมลุกแต่อย่างใดจนกระทั่งจ้าวซีซีได้เอ่ยออกมาว่าไม่ถือสาเรื่องที่ผ่านมาแล้วนั้น อีกฝ่ายจึงยืนขึ้นด้วยแววตาของความหวาดกลัว และไม่มีความหยิ่งผยองหรืออวดดีอีกต่อไปเมื่อคนจากไปแล้ว สํานักงานจึงกลับมาเงียบอีกครั้งฉินเฟิงที่อยู่ข้างๆ ก็อ่านเนื้อหานั้นจบแล้ว เขามองจ้าวซีซีด้วยสายตาที่ซับซ้อน ไม่คิดว่าเบื้องหลังจ้าวซีซีจะทําได้ในระดับ
จ้าวซีซีฟังฮั่วซานซานบ่นพึมพำทางสายโทรศัพท์ จากนั้นนางก็ตอบกลับอย่างเย็นชาว่า "คนที่ระงับบัตรเครดิตของเธอไม่ใช่ฉันสักหน่อย ใครระงับเธอก็ไปตามเอาที่คนนั้นสิ!"เมื่อพูดจบ เธอก็ตัดสายไป แต่ฮั่วซานซานก็ยังเธอมาซ้ำแล้วซ้ำอีก และเธอก็ปรับเป็นโหมดเงียบไปโดยตรงข่าวลือครั้งนี้รุนแรงมาก แต่ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จ้าวซีซีไม่คิดว่าจะแก้ไขได้ง่ายขนาดนี้ เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อยและสัมผัสท้องเล็กๆ ของตัวเองและรู้สึกถึงชีวิตเล็กๆ น้อยๆ ในท้องขึ้นมาได้เมื่อการผ่าตัดของคุณย่าสิ้นสุดลงในปลายเดือนนี้ ความสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างเธอกับฮั่วหานฮุยก็สามารถยกเลิกได้อย่างสมบูรณ์จ้าวซีซีนึกขึ้นได้ว่าเธอควรไปตรวจคลอดแล้วเธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและนัดตรวจคลอดที่โรงพยาบาล จากนั้นก็เก็บของเตรียมตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนเวลาเลิกงาน"ซีซี เธอเลิกงานก่อนกําหนดจะกลับไปโรงเรียนเหรอ?"เมื่อได้ยินเสียงของฉินเฟิง จ้าวซีซีก็หันกลับมาตอบอย่างกระอักกระอ่วนว่า "มีเรื่องนิดหน่อยจริงๆค่ะ อีกอย่างงานของฉันก็ไม่มีอะไรมากมายแล้ว ก็เลยตั้งใจจะออกไปล่วงหน้าค่ะ ถ้ามีธุระก็อยู่จัดการต่อได้นะคะ""ไม่มีอะไร เธอวางใจเถอะ
มีความรู้สึกผิดแวบเข้ามาในดวงตาของหลินซี เธอไม่ต้องการให้คนที่บ้านของตัวเองตามหาเธอพบหรอกนะในเมื่อตอนนั้นตัวเองสามารถถูกเอามาโยนทิ้งได้ นั่นหมายความว่าครอบครัวของเธอไม่ต้องการตัวเองเลยหรือไม่สามารถเลี้ยงดูได้เลยตอนนี้สภาพของครอบครัวหลินดีมาก เธอเป็นคุณหนูใหญ่ในตระกูลหลินมาหลายปีแล้ว ทําไมเธอต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมานกับพ่อแม่แท้ๆของตัวเองด้วย?พ่อแม่แท้ๆมีความสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?หลินซีเคยต้องทนทุกข์ทรมานมากมายในสถานเลี้ยงเด็กกําพร้ามาก่อน เธอรู้ดีที่สุดว่าเงินและฐานะมีความสําคัญแค่ไหน ดังนั้นเธอจึงไม่อยากพบกับครอบครัวของตัวเองอีกแล้วหลินซีตอบอย่างไม่เต็มใจว่า "การที่จะตามหาครอบครัวเดิมของตัวเองหรือไม่ มันไม่เกี่ยวกับการที่ฉันจะหมั้นหรือไม่นะคะ ดังนั้นฉันจึงหวังว่าพวกพี่จะไปร่วมงานหมั้นของฉันและหานฮุยนะคะ"หลินเป่ยพยายามตอบกลับไปว่า "หลินซี เธอได้บรรลุเป้าหมายของเธอแล้ว ตอนนี้ฉันก็ตกลงที่จะไปผ่าตัดให้คุณหญิงฮั่ว เธอจะโลภขนาดนี้ไม่ได้นะ""พี่สาม ฉันก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหลินนะ ฉันแต่งงานแล้วขอให้พวกพี่เข้าร่วมทําไมถึงกลายเป็นความโลภไปได้ล่ะคะ""แต่ตอนแรกที่พี่ใหญ่พาเธอกลับมา
จ้าวซีซีพูดว่า "พี่สามคะ ในเมื่อพี่สามมีส่วนร่วมในการผ่าตัดนี้ ต่อไปหากการผ่าตัดของคุณย่าฮั่วมีความเป็นไปอย่างไร รบกวนพี่บอกฉันเป็นอันดับแรกด้วยนะคะ"เพราะเธอก็เป็นห่วงสุขภาพของคุณย่าฮั่วด้วยเช่นกันเมื่อหลินเป่ยเห็นน้องสาวมีจิตใจที่ดีอย่างนี้ เขาก็ถอนหายใจทันที "ซีซี น้องสบายใจได้ คุณหญิงฮั่วจะไม่เป็นอะไร พี่สัญญา"เขาจะพยายามผ่าตัดครั้งนี้ให้ดีที่สุดแน่นอน ให้น้องสาวกับครอบครัวฮั่วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกันอีกต่อไปหลังจากจ้าวซีซีจากไปแล้ว หลินเป่ยจึงโทรหาพี่ใหญ่หลินตงเย่ "พี่ใหญ่ ผมไปบอกว่าจะเข้าร่วมงานหมั้นของหลินซีตั้งแต่เมื่อไหร่?""แคกๆ ก็เป็นเพราะฉันไม่มีเวลาไปน่ะสิ?""พี่ใหญ่ เรื่องที่รับปากเองก็ต้องไปทําเอง ผมไม่เคยรับปากเลยนะ"หลินเป่ยไม่ชอบให้หลินซีใช้คุณย่ามาขู่เป็นข้ออ้างแบบนี้หากหลินซีเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายก็ไปอย่าง แต่หลินซีไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนผิวเผินเลยแม้แต่น้อย เขาไม่ชอบคนที่หน้าอย่างหลังอย่างแบบนี้เลยหลินตงเย่ถอนหายใจผ่านทางสายโทรศัพท์ "ช่างเถอะ อีกสองวันฉันจะไปที่เมืองเป่ยเฉิงสักครั้ง เพราะยังไงเสียฝั่งของซีซีก็เพิ่งจะถูกใส่ร้ายไป ฉันและพี่สะใภ้จะไปด
จ้าวซีซีมองไปที่โทรศัพท์มือถือ แต่เธอไม่รับสายเพราะยังไงเสียก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไร เธอไม่อยากจะรับมันหรอกนะแต่โทรศัพท์ก็โทรมาเรื่อย ๆ ไม่เคยหยุดเลยในที่สุดจ้าวซีซีก็รับสายอย่างเสียไม่ได้ "ฮัลโหล?""เด็กบ้า เธอกำลังทำอะไรอยู่น่ะ ทำไมไม่รับสาย รู้หรือเปล่าว่าฉันมีเรื่องด่วนต้องการจะโทรหาเธอ"จ้าวซีซีพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า "เรื่องอะไรคะ?"แม่บุญธรรมที่อยู่ปลายสายคร่ำครวญเสียงดังออกมาว่า "จ้าวซีซี เธอรีบโอนเงินห้าแสนมาให้ฉันหน่อยนะ""ห้าแสน? ทำไมไม่ปล้นกันเลยล่ะคะ?"จ้าวซีซีรู้ดีว่าการที่แม่บุญธรรมโทรมาหาเธอ คงไม่ใช่เรื่องดีอะไรอย่างแน่นอน และก็คงจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินๆทองๆเป็นแน่อ้าปากก็จะเอาห้าแสนเสียแล้ว!"จ้าวซีซีเธออย่ามาเสแสร้งแกล้งทำอยู่เลยนะ สามีของเธอออกจะรวยขนาดนั้น และเธอก็เป็นคนที่ดูแลเงินทั้งหมดด้วย ตอนนี้เธอก็ตามหาครอบครัวเจอแล้ว ยังไงก็คงไม่ขาดเงินห้าแสนนี้ไปหรอกนะ ช่วงเวลานี้ฉันไม่ได้ก่อกวนเธอ มันก็ดีกับเธอแค่ไหนแล้ว หากเธอยังไม่เอาเงินห้าแสนออกมา ฉันจะก่อกวนเธอทุกวันแบบนี้ไม่มีหยุด"จ้าวซีซีขมวดคิ้ว "คุณจะเอาเงินห้าแสนไปทำอะไร?""แฟนสาวของน้องชายเธอตั
เพราะนี่ไม่ใช่ข่าวดีอะไรเลยจริงๆหลังจากเลิกเรียนแล้ว เธอก็ออกจากมหาลัยโดยสวมหมวกและหน้ากากแมสเอาไว้ เพราะกลัวว่าพ่อแม่บุญธรรมจะจำเธอได้เพราะยังไงเสียการที่จะมาดักรอเธออยู่หน้ามหาลัยแบบนั้น พ่อแม่บุญธรรมของเธอสามารถทำได้อย่างแน่นอนหลังจากจ้าวซีซีเดินออกมาดูตาท้องถนน เมื่อไม่พบบุคคลต้องสงสัย เธอจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเตรียมเรียกแท็กซี่กลับบ้าน"เจ้าซีซี เธอหยุดเดี๋ยวนี้นะ!"รถสปอร์ตสีแดงคันหนึ่งจอดอยู่ข้างถนน จากนั้นฮั่วซานซานก็เดินลงมาจากรถอย่างโกรธๆ "คิดจะหลบไปที่ไหนอีก?"เมื่อเห็นว่าเป็นฮั่วซานซาน จ้าวซีซีก็มีสีหน้าที่สงบ "ฉันไม่ได้หลบสักหน่อย""เธอไม่ได้หลบ แล้วจะสวมหมวกและหน้ากากแมสในสภาพร้อนๆแบบนี้ได้ยังไง?"ฮั่วซานซานเดินมาขวางจ้าวซีซีเอาไว้ "นี่เธอกล้าไปฟ้องคนในบ้านฉัน จนฉันมีเงินใช้หนึ่งแสนต่อเดือนเท่านั้น มันจะพอใช้ได้อย่างไรกัน เธอต้องไปพูดกับลูกพี่ลูกน้องของฉันให้มันชัดเจน เรื่องของจางเหวินเหวินมันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย มันเป็นเพราะจางเหวินเหวินก่อขึ้นมาเพียงลำพังต่างหากล่ะ มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยนะ"หลายวันที่ผ่านมา เมื่อไม่มีเงินใช้นางก็รู้สึกอึดอัดเอาเสี
เมื่อจ้าวซีซีเห็นว่าฮั่วซานซานเตรียมที่จะกลับรถจริงๆ จึงรีบพูดขึ้นมาว่า"มีอะไรก็พูดดีๆกันได้นี่นา อย่าหุนหันพลันแล่นแบบนี้"เธอไม่ต้องการให้พ่อแม่บุญธรรมเข้ามาเกาะแกะอีกครั้งแล้วจริงๆ เพราะกว่าที่เธอจะย้ายออกมาจากชุมชนเก่านั้นได้มันไม่ง่ายเลย แม้ว่าพ่อแม่บุญธรรมจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอีกครั้ง พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรตัวเธอได้อีกต่อไปแล้วเธอไม่อยากให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่สงบสุขในตอนนี้ต้องถูกทำลายไปอีกครั้งฮั่วซานซานแสดงสีหน้าภาคภูมิใจทันที และขับรถตรงไปข้างหน้าไม่นานหลังจากนั้น จ้าวซีซีก็เห็นฮั่วซื่อกรุ๊ปที่อยู่ใกล้ๆ ไม่คิดเลยว่าจะมาที่บริษัทจริงๆฮั่วซานซานจอดรถตรงตำแหน่งพิเศษ และพูดอย่างภาคภูมิใจว่า "จ้าวซีซี ก่อนหน้านี้เธอคงไม่เคยมาที่นี่เลยล่ะสิ? ครั้งฉันจะพาเธอเดินเล่นสักหน่อย เพราะท้ายที่สุดแล้วเมื่อเธออยู่ในฐานะของคุณนายน้อยฮั่วไม่มีสิทธิ์ที่จะมา ตอนนี้ฉันจะพาเธอเข้าดูเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกนะ!"จ้าวซีซีมองเธอด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "ความจริงแล้ว ฉันมีคำถามอยากจะถามมากๆเลยนะ"ฮั่วซานซานเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "เธอถามมาสิ""เธอสามารถทำให้กลิ่นปากเหม็นกว่ากลิ่นเท้
หลินซียิ้มอย่างภาคภูมิใจเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปยังจ้าวซีซีที่อยู่ตรงนั้น ลึกๆแล้วไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่หลินซีพูดออกมาตรงๆว่า "ซานซาน เธอปล่อยหล่อนไปเสียดีกว่า เดี๋ยวพี่ชายของเธอออกมา ฉันจะพูดเรื่องบัตรเครดิตให้เอง"เห็นได้ชัดว่า เธอไม่อยากให้จ้าวซีซีพบกับฮั่วหานฮุยเสียต่างหากโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างนี้ดวงตาของฮั่วซานซานกลอกไปมา จากนั้นก็พยักหน้า แล้วพูดว่า "ได้ค่ะ จ้าวซีซีเธอไปได้แล้วล่ะ ที่นี่ไม่ต้องการเธอแล้ว"จ้าวซีซีก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อด้วยเช่นกัน เดิมทีฮั่วซานซานก็เป็นคนที่บีบบังคับให้เธอมาอยู่แล้วพอดีเลย เธอก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งด้วยเช่นกันจ้าวซีซีออกจากห้องรับแขกเพื่อเตรียมตัวออกไป แต่แล้วก็ประจวบเหมาะที่ประตูห้องประชุมที่อยู่ข้างๆถูกเปิดออกพอดี จากนั้นก็มีกลุ่มคนจำนวนมากเดินออกมานำมาด้วยผู้ชายที่สวมชุดสูทสีเข้ม ออร่าเย็นชาและสูงส่งจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ขณะนี้เขากำลังก้มลงมาพูดอะไรบางอย่างกับผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆผู้ช่วยเป็นคนที่เห็นเธอคนแรก สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "บอสครับ คุณนายน้อยมาครับ"จากนั้นฮั่วหานฮุยก็เงยหน้าขึ้นโดยไม่ร