แชร์

บทที่ 368

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-30 18:00:01
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ถังเยาก็ตาแดง น้ำตาคลอ เธอไม่เคยรู้สึกสงสารเวินหนี่เท่านี้มาก่อน

เธอต้องเผชิญกับทุกอย่างเพียงลำพัง สามีไม่เคยมีส่วนร่วม ถ้าเป็นเธอเองก็คงทนไม่ไหว

มันเป็นกรรมอะไร ที่ทำให้เวินหนี่ต้องเจอกับการแต่งงานแบบนี้

ถังเยากอดเวินหนี่ไว้ ตบเบา ๆ ที่หลังของเธอด้วยความห่วงใย "ฉันยังอยู่ตรงนี้ ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง"

เวินหนี่พิงไหล่ของถังเยา รู้สึกได้รับการปลอบใจ

โชคดีที่เธอไม่ได้สูญเสียทุกอย่างไป

เธอยังมีสิ่งที่มีคุณค่าอีกมาก

แต่สิ่งที่เธอไม่สามารถมีได้อีกต่อไปก็คือเย่หนานโจว

หลังจากที่เวินหนี่ให้หมอฉีดน้ำเกลือเสร็จแล้ว เธอก็ออกจากโรงพยาบาล

หมอเพียงแต่เตือนว่าเธอไม่ควรทำงานหนักเกินไป และไม่ควรออกกำลังกายหนัก ๆ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วก็ไม่มีอะไรน่ากังวล

ถังเยาคอยอยู่เคียงข้างเธอ

"เธออยาก... กลับบ้านไหม?" ถังเยาถาม

เวินหนี่คิดอยู่สักครู่ เธอต้องเตรียมตัว "กลับเถอะ"

ถังเยาประคองเวินหนี่ขึ้นรถ เธอขับรถและพูดว่า "โอเค เราจะติดต่อกันตลอดเวลา ถ้าแกต้องการความช่วยเหลืออะไร ฉันจะช่วยเต็มที่"

"ช่วยจองตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศสให้ฉันสองใบ" เวินหนี่พูด

ไปฝรั่งเศส?

ถังเยามองเธออย่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Orawin
หนีไปตั้งแต่ตอนนี้เถอะ ทำตัวหายไปเลย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 369

    “วันนี้มีเรือประมงหลายลำเข้ามาที่ฝั่ง ได้ยินว่าช่วยคนไว้หลายคน ไม่แน่เราอาจจะเจอคุณเวินอยู่ในนั้น” ชายคนนั้นพูดด้วยความคาดเดา พร้อมกับปลอบใจเย่หนานโจวเพื่อไม่ให้เขาตื่นตระหนกเกินไปเย่หนานโจวใจเต้นรัว ไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน เขาจับแขนตัวเองไม่ให้คิดถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุด "เธออาจจะได้รับการช่วยเหลือไว้แล้ว" เขาพึมพำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อปลอบใจตัวเองเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า เวินหนี่จะจากไปด้วยวิธีนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะตาย เขายังไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้"ต้องรีบตรวจสอบว่าเรือลำไหนช่วยคนไว้บ้าง" เย่หนานโจวพูดด้วยน้ำเสียงเครียด ดวงตาเต็มไปด้วยความคาดหวังที่แฝงความกังวล "ไปตรวจสอบเรือทุกลำ ทุกคนที่เข้าฝั่งวันนี้เลย!"ความหวังที่อาจจะได้พบเธอยังหลงเหลืออยู่ แม้เพียงเล็กน้อยแต่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้มันหลุดลอยไปแม้สถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน แต่ตราบใดที่ยังไม่พบศพ ก็ไม่สามารถตัดสินได้ว่าเวินหนี่เสียชีวิตแล้ว เย่หนานโจวมองออกไปที่ทะเล รู้สึกเหมือนท้องฟ้าและทะเลกลายเป็นสีดำหมด เขายังไม่เชื่อว่าเวินหนี่จะจมอยู่ในน้ำเย็นเฉียบนี้ เธอต้องได้รับการช่วยเหลือแล้วแน่ ๆเย่หนาน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-31
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 370

    พ่อแม่ของเจียงซิงถงรีบร้อนเข้ามาในโรงพยาบาลเมื่อผู้เป็นแม่เห็นลูกสาวของตัวเองใบหน้าซีดเซียว นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยโดยยังไม่ฟื้น เธอก็ร้องไห้สะอื้นออกมาทันทีจนทรุดลงกับพื้น "ลูกสาวของฉัน ลูกสาวที่โชคร้ายของฉัน ถ้ารู้แบบนี้ฉันคงไม่ให้เธอกลับประเทศมาเลย ดูสิว่าเธอต้องเจออะไรบ้าง!"ส่วนผู้เป็นพ่อพยายามประคองภรรยาเอาไว้ "ลูกสาวเราจะไม่เป็นอะไร คุณอย่าเพิ่งเสียใจเกินไป ตอนนี้เธอถูกคนรังแก เราต้องช่วยลูกเรียกร้องความยุติธรรม ถ้าคุณร้องไห้จนป่วย แล้วใครจะไปช่วยลูกได้!"ได้ยินคำของสามีเธอก็พยายามหยุดร้องไห้ แววตาแน่วแน่ขึ้น "ลูกสาวฉันไม่ได้ตกลงทะเลเองหรอก มีคนผลักเธอ!"นอกห้องผู้ป่วยมีคนของตระกูลเจียง รวมถึงหลี่ถิงเป็นหลี่ถิงที่เจอเจียงซิงถงเป็นคนแรกหลี่ถิงรู้สึกกังวล เพราะไม่ได้เจอเวินหนี่นานแล้ว และยังรู้ว่าเจียงซิงถงเดินตามเวินหนี่ไป เธอเลยกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นจึงรีบไปหาทั้งคู่แต่สิ่งที่เธอพบกลับเป็นความว่างเปล่าหลี่ถิงรีบกังวลใจทันทีเมื่อเห็นเจียงซิงถงพยายามตะเกียกตะกายในทะเลอย่างหมดแรง ก่อนจะจมหายไปในน้ำเธอจึงรีบตะโกนเรียกคนมาช่วยดึงเจียงซิงถงขึ้นจากน้ำเมื่อดึงเจียงซิงถงข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-31
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 371

    เธอไม่เคยเห็นพ่อแม่ที่ไร้เหตุผลเช่นนี้มาก่อนมาบอกว่าเวินหนี่ทำร้ายเจียงซิงถงโดยไม่แยกแยะถูกผิด ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเวินหนี่ พ่อแม่ของเธอจะชดใช้ยังไง แค่คิดหลี่ถิงก็รู้สึกเจ็บปวดใจแล้ว เธอได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเวินหนี่ เธอเชื่อว่าเวินหนี่เป็นคนมีน้ำใจ และจะไม่ทำเรื่องแบบนั้นเด็ดขาดกลับกัน เจียงซิงถงคนนี้ต่างหากที่เจ้าเล่ห์ ไม่ต้องดูหลักฐานก็รู้ได้ว่าเป็นฝีมือของเธอสำหรับเรื่องที่เธอทำร้ายเวินหนี่จนตัวเองตกลงไปในทะเล นั่นเป็นผลกรรมของเธอเอง พูดได้เพียงว่าเธอสมควรโดนแล้ว!“เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูด?” นายเจียงเห็นว่าหลี่ถิงไม่สงบเสงี่ยม จึงดุเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เย่กรุ๊ปมีคนทุกประเภทจริง ๆ แม้แต่พนักงานต่ำต้อยก็ยังกล้ามาพูดแทรกฉัน!”เย่หนานโจวมองนายเจียงด้วยสายตาคมปลาบ เขาซุกมือข้างหนึ่งในกระเป๋าเพื่อควบคุมอารมณ์ตัวเอง พลางยิ้มเยาะแล้วพูดขึ้นว่า “ประธานเจียง คุณอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ เลยไม่รู้ว่าที่นี่ให้ความสำคัญกับประชาธิปไตยและเสรีภาพสินะครับ พนักงานของผมโต้กลับสองสามคำจะเป็นอะไรไป?”นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่ถิงเห็นเย่หนานโจวพูดแทนเธอ เธอรู้สึกประทับใจมากจนแทบจะร้องไห้เธอนึกว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-31
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 372

    ไม่ไกลนัก เวินหนี่มองไปที่เย่หนานโจวและตะโกนเรียกเขาเบา ๆข้างกายเธอคือถังเยา ถังเยาไม่วางใจ จึงมาที่นี่กับเธอ แต่พอมาถึงโรงพยาบาลก็เห็นเหตุการณ์วุ่นวายเช่นนี้เมื่อเย่หนานโจวได้ยินเสียงเรียก เขาก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะหันกลับไปมอง และเห็นเวินหนี่ที่ปลอดภัยดียืนอยู่ตรงหน้าเขาขณะนั้นเขารู้สึกตื่นเต้นมากคนที่เขาเกือบสูญเสียไป จู่ ๆ ก็กลับมาอยู่ข้างกายเขา เขาไม่เคยสัมผัสถึงความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยเขารีบเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว และกอดเวินหนี่ไว้ในอ้อมแขนเวินหนี่ไม่คิดว่าเขาจะมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะวางมือไว้ตรงไหน รู้สึกเพียงว่ามือของเขากระชับแน่นจนเธอแทบจะหายใจไม่ออกตอนนี้เองเย่หนานโจวถึงได้ตระหนักว่าเขากลัวมากแค่ไหนว่าจะสูญเสียเธอไปเขาไม่อยากสูญเสียเธอไปอีกแล้ว!เมื่อมีเธออยู่เคียงข้าง และสามารถสัมผัสเธอได้แบบนี้เท่านั้นถึงจะทำให้เขารู้สึกสบายใจเย่หนานโจวยกมือขึ้นลูบผมเธอ เสียงของเขาแหบแห้งและแผ่วเบา ราวกับว่าเขากลัวว่าหากเสียงดังเกินไปจะทำให้เธอหายไปอีก “เธอไปไหนมา? รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงมากแค่ไหน?”ทันทีที่เขาพูดจบ ผู้คนที่อยู่รอบข้างต่างก็ตกตะล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-31
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 373

    “ไม่ได้ยินสิ่งที่เวินหนี่พูดเหรอ เธอก็ตกลงไปในทะเลเหมือนกัน ทำอย่างกับว่าลูกสาวของคุณเป็นผู้ถูกกระทำ เวินหนี่ของพวกเราต่างหากที่เป็นเหยื่อ เรายังไม่ทันได้พูดถึงลูกสาวของคุณเลย แต่คุณกลับร้อนตัว ใส่ร้ายคนอื่นขึ้นมาก่อนซะแล้ว!” ถังเยาเห็นว่าเธอคนนั้นไม่มีเหตุผล จึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนใส่เธอแม่ของเจียงซิงถงพูดขึ้นอีกว่า “ลูกสาวของฉันจะทำร้ายคนอื่นได้ยังไง ตอนนี้เธอยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย แต่ผู้หญิงคนนี้กลับไม่เป็นอะไร นั่นก็หมายความว่าเธอทำร้ายลูกสาวของฉัน ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะพลาดตกลงไปทะเลอย่างแน่นอน! บางทีอาจเป็นเพราะเธอตั้งใจจะปกปิดความผิดของตัวเองเลยบอกว่าเธอก็ตกลงไปในทะเลด้วยเหมือนกันก็ได้!”เธอเชื่อว่าเวินหนี่อิจฉาลูกสาวของเธอ และผลักลูกสาวของเธอลงทะเลเพราะมันไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ดังนั้นเวินหนี่จะพูดโกหกยังไงก็ได้ “คุณมันไร้เหตุผลสิ้นดี แจ้งความกับตำรวจแล้วให้ตำรวจมาตรวจสอบด้วยตัวเองไปเลย!” ถังเยากล่าว“เอาสิ ตรวจสอบเลย ฉันก็อยากเห็นเหมือนกันว่าเธอจะเสแสร้งอะไรอีก!” นางเจียงพูดอย่างหยิ่งผยองเวินหนี่มองไปที่นางเจียงและพูดอย่างเรียบนิ่ง ”ฉันโทรแจ้งตำรวจเรียบร้อยแล้ว อีกเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 374

    เจียงซิงถงพูดพลางหลั่งน้ำตาและจับมือแม่ของเธอด้วยท่าทางหวาดกลัวเวินหนี่ สิ่งนี้กระตุ้นการปกป้องของคนเป็นแม่ เธอกอดเจียงซิงถงและมองเวินหนี่ด้วยความเกลียดชัง “เธอจะแก้ตัวยังไงอีก ลูกสาวของฉันชี้ตัวแล้วว่าเป็นเธอ เธอนั่นแหละที่ทำร้ายลูกสาวของฉัน ยัยผู้หญิงโหดร้าย เห็นว่าลูกสาวของฉันเก่งก็เลยอิจฉาริษยาเธอใช่ไหม!”นายเจียงเองก็ดูมั่นอกมั่นใจ เขามองไปที่เย่หนานโจวก่อนจะพูดขึ้นเสียงเย็น “ลูกสาวของผมฟื้นแล้ว เธอดิ้นไม่หลุดแน่ หากคุณเก็บผู้หญิงใจอสรพิษคนนี้ไว้ข้างกาย มันก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้กับคุณเท่านั้น!”และแล้วตำรวจก็มาถึง เมื่อนางเจียงเห็นตำรวจ ก็เหมือนได้เห็นผู้ช่วยชีวิต เธอรีบวิ่งไปคว้าเสื้อของตำรวจทันที “คุณตำรวจ พวกคุณมากันสักที ผู้หญิงคนนี้ทำร้ายลูกสาวของฉัน รีบจับเธอเข้าคุกทีค่ะ อย่าปล่อยให้เธอไปทำร้ายคนอื่นอีก!”แต่ตำรวจไม่ได้ไร้เหตุผล เขากวาดตามองผู้คนที่อยู่ตรงนั้นแล้วถามว่า “เมื่อกี้ใครเป็นคนโทรแจ้งตำรวจครับ?”เวินหนี่ยืนขึ้นมองตำรวจแล้วตอบว่า “ฉันเป็นคนแจ้งความเองค่ะ”ตำรวจหยิบปากกาและสมุดจดบันทึกขึ้นมาพร้อมกับถามว่า “พวกเราทราบสิ่งที่คุณแจ้งทางโทรศัพท์แล้ว แต่รบกวนแจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 375

    เพื่อทำตามคำขอของเจียงซิงถง นายเจียงจึงกล่าวขึ้นว่า “คุณตำรวจ พวกเราออกไปคุยกันข้างนอกเถอะครับ คุณเวินเชิญออกไปด้านนอก ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ!”เวินหนี่มองไปที่เจียงซิงถงที่กำลังเสแสร้งทำเป็นอ่อนแอ ดูไม่เหมือนคนบ้าอำนาจที่มีความมั่นใจเหมือนตอนที่อยู่ที่ท่าเรือเลยสักนิดแน่นอนว่าเธอรู้ว่าเจียงซิงถงกำลังเสแสร้งทำเป็นน่าสงสาร และทำให้ทุกคนคิดว่าเธอเป็นเหยื่อ เวินหนี่เยาะเย้ย “เธอกลัวฉัน หรือว่ากลัวความผิด? กลัวว่าฉันจะเปิดเผยเธอ หรือคิดว่าแค่การนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและแสร้งทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำ แล้วฉันจะไม่มีวิธีจัดการเธอแล้วอย่างนั้นเหรอ?!”เจียงซิงถงยังคงมีความหวัง เพราะมันไม่มีหลักฐานอะไรเลย และเธอก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากกว่าเวินหนี่ ดังนั้นจึงสามารถแถไปได้แต่เธอกังวลว่าหากพูดมากเกินไปจะเป็นการเปิดเผยตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือเธอรู้สึกกลัวความผิดในใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำอะไรแบบนี้เธออยากให้มันรีบผ่านพ้นไป และทางที่ดีที่สุดคือเวินหนี่ถูกจับเข้าคุก และเธอไม่ไม่มีความผิด แบบนั้นเธอถึงจะสบายใจลงได้ “แม่คะ รีบไล่เธอออกไปทีค่ะ หนูไม่อยากเห็นหน้าเธอแล้ว!” เจียงซิงถงจับมือแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 376

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่ลึกล้ำ ตอนแรกเขากังวลว่าเวินหนี่จะถูกเอาเปรียบไม่ว่าเธอจะผลักเจียงซิงถงจริงหรือไม่ก็ตาม เขาก็จะอยู่ฝั่งเธอหากตระกูลเจียงคิดจะจับเธอเข้าคุก เขาก็จะใช้ทุกวิธีในการข่มขู่ตระกูลเจียงเพื่อพาเธอออกมาเพราะเวินหนี่ขอให้เขาเงียบ เขาจึงปิดปากมาจนถึงตอนนี้ เขาโล่งใจที่เธอสามารถเอาตัวรอดด้วยตัวเองได้ ตำรวจหยิบเครื่องบันทึกเสียงขึ้นมาและมองสองแม่ลูกตระกูลเจียง “หากนี่เป็นสถานการณ์จริง นั่นเท่ากับว่าเป็นการจงใจฆาตกรรม แม้ว่าผู้เสียหายจะปลอดภัยดี แต่คุณก็ยังจะต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดี!”เมื่อได้ยินตำรวจพูดแบบนั้น นางเจียงก็คิดว่าพวกเขาเข้าข้างเวินหนี่ “คุณตำรวจ คุณยังไม่ทันได้ตรวจสอบอย่างชัดเจนเลยนะคะ ผู้หญิงคนนี้ต่างหากที่เป็นคนร้าย มันไม่เกี่ยวอะไรกับลูกสาวของฉันเลย พวกคุณกำลังร่วมกันปกปิดความผิด คิดว่าพวกเราไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศแล้วจะรังแกเรายังไงก็ได้อย่างนั้นเหรอ พวกเราคุณทำเกินไปแล้ว!”คำพูดของนางเจียงค่อนข้างรุนแรง จนตำรวจอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนสีหน้า “คุณกำลังตั้งคำถามกับพวกเราอยู่งั้นเหรอ?”พ่อของเจียงซิงถงรู้ว่าเรื่องราวกลับตะละปัดแล้ว คลิปเสียงต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status