แชร์

บทที่ 368

ผู้แต่ง: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-30 18:01:02
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ถังเยาก็ตาแดง น้ำตาคลอ เธอไม่เคยรู้สึกสงสารเวินหนี่เท่านี้มาก่อน

เธอต้องเผชิญกับทุกอย่างเพียงลำพัง สามีไม่เคยมีส่วนร่วม ถ้าเป็นเธอเองก็คงทนไม่ไหว

มันเป็นกรรมอะไร ที่ทำให้เวินหนี่ต้องเจอกับการแต่งงานแบบนี้

ถังเยากอดเวินหนี่ไว้ ตบเบา ๆ ที่หลังของเธอด้วยความห่วงใย "ฉันยังอยู่ตรงนี้ ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง"

เวินหนี่พิงไหล่ของถังเยา รู้สึกได้รับการปลอบใจ

โชคดีที่เธอไม่ได้สูญเสียทุกอย่างไป

เธอยังมีสิ่งที่มีคุณค่าอีกมาก

แต่สิ่งที่เธอไม่สามารถมีได้อีกต่อไปก็คือเย่หนานโจว

หลังจากที่เวินหนี่ให้หมอฉีดน้ำเกลือเสร็จแล้ว เธอก็ออกจากโรงพยาบาล

หมอเพียงแต่เตือนว่าเธอไม่ควรทำงานหนักเกินไป และไม่ควรออกกำลังกายหนัก ๆ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วก็ไม่มีอะไรน่ากังวล

ถังเยาคอยอยู่เคียงข้างเธอ

"เธออยาก... กลับบ้านไหม?" ถังเยาถาม

เวินหนี่คิดอยู่สักครู่ เธอต้องเตรียมตัว "กลับเถอะ"

ถังเยาประคองเวินหนี่ขึ้นรถ เธอขับรถและพูดว่า "โอเค เราจะติดต่อกันตลอดเวลา ถ้าแกต้องการความช่วยเหลืออะไร ฉันจะช่วยเต็มที่"

"ช่วยจองตั๋วเครื่องบินไปฝรั่งเศสให้ฉันสองใบ" เวินหนี่พูด

ไปฝรั่งเศส?

ถังเยามองเธออย่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Orawin
หนีไปตั้งแต่ตอนนี้เถอะ ทำตัวหายไปเลย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 369

    “วันนี้มีเรือประมงหลายลำเข้ามาที่ฝั่ง ได้ยินว่าช่วยคนไว้หลายคน ไม่แน่เราอาจจะเจอคุณเวินอยู่ในนั้น” ชายคนนั้นพูดด้วยความคาดเดา พร้อมกับปลอบใจเย่หนานโจวเพื่อไม่ให้เขาตื่นตระหนกเกินไปเย่หนานโจวใจเต้นรัว ไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน เขาจับแขนตัวเองไม่ให้คิดถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุด "เธออาจจะได้รับการช่วยเหลือไว้แล้ว" เขาพึมพำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อปลอบใจตัวเองเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า เวินหนี่จะจากไปด้วยวิธีนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะตาย เขายังไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้"ต้องรีบตรวจสอบว่าเรือลำไหนช่วยคนไว้บ้าง" เย่หนานโจวพูดด้วยน้ำเสียงเครียด ดวงตาเต็มไปด้วยความคาดหวังที่แฝงความกังวล "ไปตรวจสอบเรือทุกลำ ทุกคนที่เข้าฝั่งวันนี้เลย!"ความหวังที่อาจจะได้พบเธอยังหลงเหลืออยู่ แม้เพียงเล็กน้อยแต่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้มันหลุดลอยไปแม้สถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน แต่ตราบใดที่ยังไม่พบศพ ก็ไม่สามารถตัดสินได้ว่าเวินหนี่เสียชีวิตแล้ว เย่หนานโจวมองออกไปที่ทะเล รู้สึกเหมือนท้องฟ้าและทะเลกลายเป็นสีดำหมด เขายังไม่เชื่อว่าเวินหนี่จะจมอยู่ในน้ำเย็นเฉียบนี้ เธอต้องได้รับการช่วยเหลือแล้วแน่ ๆเย่หนาน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 370

    พ่อแม่ของเจียงซิงถงรีบร้อนเข้ามาในโรงพยาบาลเมื่อผู้เป็นแม่เห็นลูกสาวของตัวเองใบหน้าซีดเซียว นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยโดยยังไม่ฟื้น เธอก็ร้องไห้สะอื้นออกมาทันทีจนทรุดลงกับพื้น "ลูกสาวของฉัน ลูกสาวที่โชคร้ายของฉัน ถ้ารู้แบบนี้ฉันคงไม่ให้เธอกลับประเทศมาเลย ดูสิว่าเธอต้องเจออะไรบ้าง!"ส่วนผู้เป็นพ่อพยายามประคองภรรยาเอาไว้ "ลูกสาวเราจะไม่เป็นอะไร คุณอย่าเพิ่งเสียใจเกินไป ตอนนี้เธอถูกคนรังแก เราต้องช่วยลูกเรียกร้องความยุติธรรม ถ้าคุณร้องไห้จนป่วย แล้วใครจะไปช่วยลูกได้!"ได้ยินคำของสามีเธอก็พยายามหยุดร้องไห้ แววตาแน่วแน่ขึ้น "ลูกสาวฉันไม่ได้ตกลงทะเลเองหรอก มีคนผลักเธอ!"นอกห้องผู้ป่วยมีคนของตระกูลเจียง รวมถึงหลี่ถิงเป็นหลี่ถิงที่เจอเจียงซิงถงเป็นคนแรกหลี่ถิงรู้สึกกังวล เพราะไม่ได้เจอเวินหนี่นานแล้ว และยังรู้ว่าเจียงซิงถงเดินตามเวินหนี่ไป เธอเลยกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นจึงรีบไปหาทั้งคู่แต่สิ่งที่เธอพบกลับเป็นความว่างเปล่าหลี่ถิงรีบกังวลใจทันทีเมื่อเห็นเจียงซิงถงพยายามตะเกียกตะกายในทะเลอย่างหมดแรง ก่อนจะจมหายไปในน้ำเธอจึงรีบตะโกนเรียกคนมาช่วยดึงเจียงซิงถงขึ้นจากน้ำเมื่อดึงเจียงซิงถงข

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 371

    เธอไม่เคยเห็นพ่อแม่ที่ไร้เหตุผลเช่นนี้มาก่อนมาบอกว่าเวินหนี่ทำร้ายเจียงซิงถงโดยไม่แยกแยะถูกผิด ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเวินหนี่ พ่อแม่ของเธอจะชดใช้ยังไง แค่คิดหลี่ถิงก็รู้สึกเจ็บปวดใจแล้ว เธอได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเวินหนี่ เธอเชื่อว่าเวินหนี่เป็นคนมีน้ำใจ และจะไม่ทำเรื่องแบบนั้นเด็ดขาดกลับกัน เจียงซิงถงคนนี้ต่างหากที่เจ้าเล่ห์ ไม่ต้องดูหลักฐานก็รู้ได้ว่าเป็นฝีมือของเธอสำหรับเรื่องที่เธอทำร้ายเวินหนี่จนตัวเองตกลงไปในทะเล นั่นเป็นผลกรรมของเธอเอง พูดได้เพียงว่าเธอสมควรโดนแล้ว!“เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูด?” นายเจียงเห็นว่าหลี่ถิงไม่สงบเสงี่ยม จึงดุเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เย่กรุ๊ปมีคนทุกประเภทจริง ๆ แม้แต่พนักงานต่ำต้อยก็ยังกล้ามาพูดแทรกฉัน!”เย่หนานโจวมองนายเจียงด้วยสายตาคมปลาบ เขาซุกมือข้างหนึ่งในกระเป๋าเพื่อควบคุมอารมณ์ตัวเอง พลางยิ้มเยาะแล้วพูดขึ้นว่า “ประธานเจียง คุณอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ เลยไม่รู้ว่าที่นี่ให้ความสำคัญกับประชาธิปไตยและเสรีภาพสินะครับ พนักงานของผมโต้กลับสองสามคำจะเป็นอะไรไป?”นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่ถิงเห็นเย่หนานโจวพูดแทนเธอ เธอรู้สึกประทับใจมากจนแทบจะร้องไห้เธอนึกว่า

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 372

    ไม่ไกลนัก เวินหนี่มองไปที่เย่หนานโจวและตะโกนเรียกเขาเบา ๆข้างกายเธอคือถังเยา ถังเยาไม่วางใจ จึงมาที่นี่กับเธอ แต่พอมาถึงโรงพยาบาลก็เห็นเหตุการณ์วุ่นวายเช่นนี้เมื่อเย่หนานโจวได้ยินเสียงเรียก เขาก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะหันกลับไปมอง และเห็นเวินหนี่ที่ปลอดภัยดียืนอยู่ตรงหน้าเขาขณะนั้นเขารู้สึกตื่นเต้นมากคนที่เขาเกือบสูญเสียไป จู่ ๆ ก็กลับมาอยู่ข้างกายเขา เขาไม่เคยสัมผัสถึงความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยเขารีบเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว และกอดเวินหนี่ไว้ในอ้อมแขนเวินหนี่ไม่คิดว่าเขาจะมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะวางมือไว้ตรงไหน รู้สึกเพียงว่ามือของเขากระชับแน่นจนเธอแทบจะหายใจไม่ออกตอนนี้เองเย่หนานโจวถึงได้ตระหนักว่าเขากลัวมากแค่ไหนว่าจะสูญเสียเธอไปเขาไม่อยากสูญเสียเธอไปอีกแล้ว!เมื่อมีเธออยู่เคียงข้าง และสามารถสัมผัสเธอได้แบบนี้เท่านั้นถึงจะทำให้เขารู้สึกสบายใจเย่หนานโจวยกมือขึ้นลูบผมเธอ เสียงของเขาแหบแห้งและแผ่วเบา ราวกับว่าเขากลัวว่าหากเสียงดังเกินไปจะทำให้เธอหายไปอีก “เธอไปไหนมา? รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงมากแค่ไหน?”ทันทีที่เขาพูดจบ ผู้คนที่อยู่รอบข้างต่างก็ตกตะล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 373

    “ไม่ได้ยินสิ่งที่เวินหนี่พูดเหรอ เธอก็ตกลงไปในทะเลเหมือนกัน ทำอย่างกับว่าลูกสาวของคุณเป็นผู้ถูกกระทำ เวินหนี่ของพวกเราต่างหากที่เป็นเหยื่อ เรายังไม่ทันได้พูดถึงลูกสาวของคุณเลย แต่คุณกลับร้อนตัว ใส่ร้ายคนอื่นขึ้นมาก่อนซะแล้ว!” ถังเยาเห็นว่าเธอคนนั้นไม่มีเหตุผล จึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนใส่เธอแม่ของเจียงซิงถงพูดขึ้นอีกว่า “ลูกสาวของฉันจะทำร้ายคนอื่นได้ยังไง ตอนนี้เธอยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย แต่ผู้หญิงคนนี้กลับไม่เป็นอะไร นั่นก็หมายความว่าเธอทำร้ายลูกสาวของฉัน ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะพลาดตกลงไปทะเลอย่างแน่นอน! บางทีอาจเป็นเพราะเธอตั้งใจจะปกปิดความผิดของตัวเองเลยบอกว่าเธอก็ตกลงไปในทะเลด้วยเหมือนกันก็ได้!”เธอเชื่อว่าเวินหนี่อิจฉาลูกสาวของเธอ และผลักลูกสาวของเธอลงทะเลเพราะมันไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ดังนั้นเวินหนี่จะพูดโกหกยังไงก็ได้ “คุณมันไร้เหตุผลสิ้นดี แจ้งความกับตำรวจแล้วให้ตำรวจมาตรวจสอบด้วยตัวเองไปเลย!” ถังเยากล่าว“เอาสิ ตรวจสอบเลย ฉันก็อยากเห็นเหมือนกันว่าเธอจะเสแสร้งอะไรอีก!” นางเจียงพูดอย่างหยิ่งผยองเวินหนี่มองไปที่นางเจียงและพูดอย่างเรียบนิ่ง ”ฉันโทรแจ้งตำรวจเรียบร้อยแล้ว อีกเ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 374

    เจียงซิงถงพูดพลางหลั่งน้ำตาและจับมือแม่ของเธอด้วยท่าทางหวาดกลัวเวินหนี่ สิ่งนี้กระตุ้นการปกป้องของคนเป็นแม่ เธอกอดเจียงซิงถงและมองเวินหนี่ด้วยความเกลียดชัง “เธอจะแก้ตัวยังไงอีก ลูกสาวของฉันชี้ตัวแล้วว่าเป็นเธอ เธอนั่นแหละที่ทำร้ายลูกสาวของฉัน ยัยผู้หญิงโหดร้าย เห็นว่าลูกสาวของฉันเก่งก็เลยอิจฉาริษยาเธอใช่ไหม!”นายเจียงเองก็ดูมั่นอกมั่นใจ เขามองไปที่เย่หนานโจวก่อนจะพูดขึ้นเสียงเย็น “ลูกสาวของผมฟื้นแล้ว เธอดิ้นไม่หลุดแน่ หากคุณเก็บผู้หญิงใจอสรพิษคนนี้ไว้ข้างกาย มันก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้กับคุณเท่านั้น!”และแล้วตำรวจก็มาถึง เมื่อนางเจียงเห็นตำรวจ ก็เหมือนได้เห็นผู้ช่วยชีวิต เธอรีบวิ่งไปคว้าเสื้อของตำรวจทันที “คุณตำรวจ พวกคุณมากันสักที ผู้หญิงคนนี้ทำร้ายลูกสาวของฉัน รีบจับเธอเข้าคุกทีค่ะ อย่าปล่อยให้เธอไปทำร้ายคนอื่นอีก!”แต่ตำรวจไม่ได้ไร้เหตุผล เขากวาดตามองผู้คนที่อยู่ตรงนั้นแล้วถามว่า “เมื่อกี้ใครเป็นคนโทรแจ้งตำรวจครับ?”เวินหนี่ยืนขึ้นมองตำรวจแล้วตอบว่า “ฉันเป็นคนแจ้งความเองค่ะ”ตำรวจหยิบปากกาและสมุดจดบันทึกขึ้นมาพร้อมกับถามว่า “พวกเราทราบสิ่งที่คุณแจ้งทางโทรศัพท์แล้ว แต่รบกวนแจ้

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 375

    เพื่อทำตามคำขอของเจียงซิงถง นายเจียงจึงกล่าวขึ้นว่า “คุณตำรวจ พวกเราออกไปคุยกันข้างนอกเถอะครับ คุณเวินเชิญออกไปด้านนอก ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ!”เวินหนี่มองไปที่เจียงซิงถงที่กำลังเสแสร้งทำเป็นอ่อนแอ ดูไม่เหมือนคนบ้าอำนาจที่มีความมั่นใจเหมือนตอนที่อยู่ที่ท่าเรือเลยสักนิดแน่นอนว่าเธอรู้ว่าเจียงซิงถงกำลังเสแสร้งทำเป็นน่าสงสาร และทำให้ทุกคนคิดว่าเธอเป็นเหยื่อ เวินหนี่เยาะเย้ย “เธอกลัวฉัน หรือว่ากลัวความผิด? กลัวว่าฉันจะเปิดเผยเธอ หรือคิดว่าแค่การนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและแสร้งทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำ แล้วฉันจะไม่มีวิธีจัดการเธอแล้วอย่างนั้นเหรอ?!”เจียงซิงถงยังคงมีความหวัง เพราะมันไม่มีหลักฐานอะไรเลย และเธอก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากกว่าเวินหนี่ ดังนั้นจึงสามารถแถไปได้แต่เธอกังวลว่าหากพูดมากเกินไปจะเป็นการเปิดเผยตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือเธอรู้สึกกลัวความผิดในใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำอะไรแบบนี้เธออยากให้มันรีบผ่านพ้นไป และทางที่ดีที่สุดคือเวินหนี่ถูกจับเข้าคุก และเธอไม่ไม่มีความผิด แบบนั้นเธอถึงจะสบายใจลงได้ “แม่คะ รีบไล่เธอออกไปทีค่ะ หนูไม่อยากเห็นหน้าเธอแล้ว!” เจียงซิงถงจับมือแ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 376

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่ลึกล้ำ ตอนแรกเขากังวลว่าเวินหนี่จะถูกเอาเปรียบไม่ว่าเธอจะผลักเจียงซิงถงจริงหรือไม่ก็ตาม เขาก็จะอยู่ฝั่งเธอหากตระกูลเจียงคิดจะจับเธอเข้าคุก เขาก็จะใช้ทุกวิธีในการข่มขู่ตระกูลเจียงเพื่อพาเธอออกมาเพราะเวินหนี่ขอให้เขาเงียบ เขาจึงปิดปากมาจนถึงตอนนี้ เขาโล่งใจที่เธอสามารถเอาตัวรอดด้วยตัวเองได้ ตำรวจหยิบเครื่องบันทึกเสียงขึ้นมาและมองสองแม่ลูกตระกูลเจียง “หากนี่เป็นสถานการณ์จริง นั่นเท่ากับว่าเป็นการจงใจฆาตกรรม แม้ว่าผู้เสียหายจะปลอดภัยดี แต่คุณก็ยังจะต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดี!”เมื่อได้ยินตำรวจพูดแบบนั้น นางเจียงก็คิดว่าพวกเขาเข้าข้างเวินหนี่ “คุณตำรวจ คุณยังไม่ทันได้ตรวจสอบอย่างชัดเจนเลยนะคะ ผู้หญิงคนนี้ต่างหากที่เป็นคนร้าย มันไม่เกี่ยวอะไรกับลูกสาวของฉันเลย พวกคุณกำลังร่วมกันปกปิดความผิด คิดว่าพวกเราไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศแล้วจะรังแกเรายังไงก็ได้อย่างนั้นเหรอ พวกเราคุณทำเกินไปแล้ว!”คำพูดของนางเจียงค่อนข้างรุนแรง จนตำรวจอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนสีหน้า “คุณกำลังตั้งคำถามกับพวกเราอยู่งั้นเหรอ?”พ่อของเจียงซิงถงรู้ว่าเรื่องราวกลับตะละปัดแล้ว คลิปเสียงต่

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 468

    “ไม่ใช่ค่ะ” เวินหนี่ตอบสีหน้าของเย่หนานโจวเปลี่ยนไปและเขาก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ใกล้จะเป็นอดีตภรรยาแล้วครับ!”คุณหมอถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินคำตอบ เขาจึงรีบตอบไปว่า “ผู้ป่วยมีอาการกระทบกระเทือนเล็กน้อยและกระดูกมือร้าว เธอจะหายดีหลังจากพักผ่อนสักระยะหนึ่ง พวกคุณไม่ต้องกังวลมากเกินไป”นี่เป็นเรื่องที่ดี เวินหนี่ตอบไปทันที “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”“ด้วยความยินดีครับ”ทั้งสองตามเย่จื่อเข้าไปในวอร์ดเวินหนี่เห็นว่าริมฝีปากของเย่จื่อดูแห้งผาก ดังนั้นจึงรีบหาน้ำอุ่นมา และชุบด้วยสำลีก่อนจะเช็ดให้ชุ่มชื้นเย่หนานโจวเฝ้าดูจากด้านข้างในวอร์ดมีคนไม่มากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยเวินหนี่ไม่วางใจ ดังนั้นเธอจึงนั่งลงตรงข้ามเขาอีกครั้ง โดยมุ่งเน้นไปที่การเฝ้าเย่จื่อหลังจากที่เฝ้าได้สักพัก เธอก็รู้สึกง่วงจนเปลือกตาสั่น จากนั้นเธอก็เผลอฟุบหลับไปเมื่อเวินหนี่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะความตกใจ เธอฝันว่ามันมืดสนิทและอยู่ในพื้นที่แคบ ๆกลัวอะไรก็ได้อย่างนั้น แม้แต่ในความฝันก็ยังไม่ปล่อยเธอไป เธอมักจะฝันแบบนี้ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลยเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีเสื้อคลุม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 467

    หรือว่าเขาจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว?เธอเคยได้ยินเย่จื่อพูดอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ได้คิดถึงเหตุผลบางทีเย่หนานโจวอาจรู้มานานแล้ว จึงเข้าใจโดยปริยาย“เวินหนี่”ลู่เซินเข้ามาหาเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พักสักหน่อยไหม เดี๋ยวร่างกายจะทนไม่ไหวเอานะ”เวินหนี่ยืนนานแล้วและรู้สึกปวดหลัง แต่เธออยากรอให้เย่จื่อออกมา จึงนั่งลงข้าง ๆ “ฉันอยากรอจนกว่าคุณอาจะฟื้น”“ผมจะรอเป็นเพื่อนคุณเอง” ลู่เซินพูดขึ้นอีกครั้งเวินหนี่พยักหน้าไปทางเขาร่างสูงของเย่หนานโจวเอนตัวไปที่กรอบประตูและเหลือบมองความกังวลของลู่เซินที่มีต่อเวินหนี่ ดวงตานั้นแทบจะมีน้ำล้นออกมาได้ และเวินหนี่ก็ดูเหมือนพร้อมยอมรับน้ำใจของเขาคลื่นแห่งความกระสับกระส่ายโจมตีร่างกายของเย่หนานโจวอีกครั้งดวงตาของเขาเย็นขึ้นและจงใจเตะเก้าอี้ข้าง ๆ ให้มีเสียงนั่นคือเก้าอี้ที่ลู่เซินนั่งอยู่ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง เย่หนานโจวก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “โทษที บังเอิญเตะโดนเข้าน่ะ!”“ไม่เป็นไร” ลู่เซินไม่ได้ติดใจอะไรเย่หนานโจวกลับพูดขึ้นอีกว่า “ตรงนี้คือพื้นที่รอสำหรับญาติ ไม่ทราบว่าคุณลู่มาที่นี่ทำไมกัน ที่บริษัทของคุณไม่ยุ่งเหรอครับ?”

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 466

    เขาไม่ได้โต้เถียงกับเธอ และเพิกเฉยต่อเสียงร้องไห้ของเธอสำหรับเขา น้ำตาของเย่ซูเฟินนั้นไร้ค่าเย่ซูเฟินในฐานะผู้หญิง เมื่อเห็นความเฉยชาของสามี มันก็ค่อย ๆ ทำลายแนวป้องกันในใจของเธอทีละน้อยและโวยวายขึ้นอย่างอารมณ์ร้อน “พูดมาสิ ทำไมถึงไม่พูดล่ะ ในสายตาของคุณ เย่จื่อสำคัญกว่าฉันใช่ไหม ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ เย่เหว่ยถิง คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้!”เธอร้องไห้จนตาแดง อยากให้สามีเอาใจใส่เธอบ้างแค่หันมามองเธอสักครั้งก็สามารถสงบความโกรธและความกังวลของเธอได้เย่เหว่ยถิงเงียบและทำเหมือนเย่ซูเฟินคือคนแปลกหน้าอย่างเย็นชาเย่หนานโจวมองการอยู่ร่วมกันของพวกเขา เขาเห็นสิ่งนี้จนชินจึงไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆสำหรับเขา พวกเขาคือพ่อแม่ของตนเพียงในนามเท่านั้นการเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ทำให้เขาชินมานานแล้วถึงขั้นทำให้เขารู้สึกไม่แยแสเย่เหว่ยถิงทนเย่ซูเฟินไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงลุกขึ้นและพูดกับเย่หนานโจวว่า “ฉันจะลงไปแล้ว ถ้าเย่จื่อฟื้นค่อยบอกฉัน!”เย่หนานโจวลดสายตาลงด้วยสายตาเย็นชาและไม่ตอบอะไรเย่เหว่ยถิงเองก็ไม่ได้รอคำตอบจากเขา เขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับเย่หนานโจว เขารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 465

    เมื่อเห็นความเฉยเมยของเขา เย่ซูเฟินจึงพูดขึ้นว่า “หนานโจว!”เย่หนานโจวไม่ต้องการฟังเธออีกและเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เย็นชาเย่ซูเฟินต้องการพูดอะไรบางอย่างกับเย่หนานโจว แต่ลู่ม่านเซิงร้องไห้และถูกรังแก เธอจึงไปไหนไม่ได้ และทำได้เพียงเดินไปพยุงลู่ม่านเซิง “เซิงเซิงลุกขึ้นเถอะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว”ลู่ม่านเซิงถูกพยุงขึ้น เธอซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟิน “คุณป้า หนูมันน่ารำคาญมากจนทุกคนไม่ชอบใช่ไหมคะ!”“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ฉันชอบเธอ ทุกคนต่างก็ชอบเธอ”เย่ซูเฟินตบหลังลู่ม่านเซิงเพื่อปลอบเธอลู่ม่านเซิงยังคงร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟินเห็นแบบนี้ แม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายผิด แต่ก็ดูเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ ใครจะกล้าไปว่าอะไรเธอได้ ถ้าที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลและมีคนอยู่มากมาย เวินหนี่คงอยากจะฉีกหน้ากากของลู่ม่านเซิงออกเพื่อดูว่าเธอจะเสแสร้งได้สักแค่ไหน แน่นอน เธอรู้ดีว่าไม่ว่าลู่ม่านเซิงจะจริงหรือเท็จแค่ไหน เย่ซูเฟินก็จะยังคงปกป้องเธอความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอดูเหมือนไม่ชัดเจนเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้น “เย่จื่อเป็นยังไงบ้าง?”เวินหนี่เงยหน้าขึ้นมองและเห็นเย่เหว่ยถิงเดินเข้ามาเขาสวมชุดสูทแ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 464

    ขณะที่เย่ซูเฟินกำลังปกป้องลู่ม่านเซิง เวินหนี่ก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชาเมื่อเย่ซูเฟินเห็นเวินหนี่พูดแบบนั้น เธอจึงพูดขึ้นว่า “เวินหนี่ เซิงเซิงเป็นถึงขนาดนี้แล้ว อย่าอาศัยโอกาสนี้ซ้ำเติมเธออีก!”ปฏิกิริยาแรกของเธอคือปกป้องคนที่อ่อนแอไว้เวินหนี่เดินเข้าไป เห็นลู่ม่านเซิงร้องไห้หนักและดูอ่อนแอจนเกินบรรยาย “ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ พวกคุณมีใครกังวลเกี่ยวกับคุณอาบ้าง สิ่งที่คุณกังวลคือกลัวว่าลูกชายจะไม่เอา ส่วนลู่ม่านเซิงเธอกล้วว่าถูกกล่าวโทษเลยมาเสแสร้งทำเป็นน่าสงสารที่นี่ ฉันเห็นกับตาตัวเองว่าคุณผลักคุณอาลงมา และลู่ม่านเซิงก็น่าจะเป็นผู้ที่ยุยง!”คุณอาถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทำให้เวินหนี่ไม่ต้องการไว้หน้าพวกเธอ “อย่ามาพูดจาไร้สาระ!” เย่ซูเฟินตวาด “ฉันผลักเย่จื่อก็จริง แต่ฉันแค่ผลักเบา ๆ ทำไมเธอถึงไม่คิดบ้างล่ะว่าเย่จื่อจงใจล้มลงไปเอง”เวินหนี่มองไปที่เย่ซูเฟิน “แรงผลักของคุณมันไม่ได้เบา เราทุกคนต่างก็เห็น”เมื่อเย่ซูเฟินเห็นท่าทีของเวินหนี่ น้ำเสียงของเธอก็ดังมากยิ่งขึ้น “เวินหนี่ เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้ ยังไงฉันก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโส เป็นแม่สามีขอ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 463

    “ไม่ใช่นะ…” เย่ซูเฟินกล่าว “ลูกยังเป็นลูกชายของแม่ แม่เสียใจมากและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดใช้ให้ลูก…”“ผมไม่ต้องการมันแล้ว” ดวงตาของเย่หนานโจวเย็นชา “การเรียกคุณว่าแม่มันคือความอดทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม และคุณก็ควรจะพอใจได้แล้ว!”เย่ซูเฟินอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปสองสามก้าวและพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ลูกจะทำกับแม่แบบนี้ไม่ได้นะ อย่าเป็นเหมือนพ่อของลูก ไม่อย่างนั้นแม่พาลูกกลับมามันจะมีความหมายอะไร!”เย่หนานโจวพูดอย่างเย็นชา “หากมีผม การเอาชนะใจสามีของคุณมันถึงจะมีความหมาย แต่น่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดของคุณมันไร้ประโยชน์!”ทุกคำพูดเหมือนมีดที่ทิ่มแทงใจของเย่ซูเฟินในตอนนั้นการแต่งงานของเธอกับเย่เหว่ยถิงนั้นค่อนข้างน่าขัน เป็นเพียงเพราะเธอดื้อดึงที่จะแต่งงานกับเขาเย่เหว่ยถิงไม่ได้รักเธอเลย ตรงกันข้ามเขาเกลียดเธอเธอคิดว่าตราบใดที่เธอแต่งงานกับเขา เย่เหว่ยถิงก็จะเป็นของเธอเมื่อเรื่องราวมันเลยจุดที่จะเข้าไปแก้ไขได้ มีอะไรที่จะผ่านไปไม่ได้อีก?แต่เธอคิดง่ายเกินไป เย่เหว่ยถิงไม่กลับบ้านและปล่อยให้เธออยู่คนเดียวในห้องที่อ้างว่างเธอใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเอาชนะใจสามีแม้กระทั่ง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 462

    “หนานโจว”ในระหว่างที่โต้เถียงกับเย่จื่ออยู่นั้นเย่ซูเฟินก็สังเกตเห็นเขา และเธอก็ตกใจเล็กน้อยเวินหนี่เองก็มองไปและเห็นเย่หนานโจวยืนอยู่ข้างหลัง ดวงตาของเขาเย็นชาและดูเหมือนจะไม่แปลกใจกับสิ่งที่พวกเธอพูดกลับกัน เขากลับยอมรับความจริงนี้อย่างสงบนิ่งเย่จื่อตกใจเมื่อเห็นดวงตาของเย่หนานโจวในขณะนี้ สิ่งที่เธอเสียใจคือการที่เธอหุนหันพลันแล่นพูดออกไปว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเย่ซูเฟิน เพราะมันถือเป็นการโจมตีเขาเธอมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอมองเพียงเย่หนานโจว “หนานโจว…”เย่หนานโจวไม่ได้พูดอะไรมากเขาเพียงแค่รู้ว่าพวกเธอมาที่สุสานและอาจจะเกิดเรื่องขึ้น เขาจึงเป็นกังวลและแวะเข้ามาดูหน่อยเท่านั้น เย่ซูเฟินโกรธมากขึ้น “เย่จื่อ เธอกำลังพูดอะไร เธอจะให้ฉันมีความสุขไม่ได้เลยใช่ไหม เธอมันสมควรตายจริง ๆ!”เธอผลักเย่จื่ออย่างแรงความสนใจของเย่จื่อมุ่งไปที่เย่หนานโจว ความโกรธของเธอลดลงมากและลดความเกรี้ยวกราดลง ในใจคิดแต่ว่ามันจะสร้างบาดแผลให้เขาหรือไม่เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นการกระทำของเย่ซูเฟินและเธอก็ถูกผลักลงบันไดไปทันทีสติของเวินหนี่ยังไม่ทันกลับมาจากการที่เย่หนานโจวไม่ใช่ลูกแท้

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 461

    “ดังนั้นเธอจึงทำทุกอย่างเพื่อทำลายครอบครัวทีละครอบครัว! เธอไม่เคยคิดถึงความผิดของตัวเองเลย!”“ฉันไม่ผิด!” เย่ซูเฟินพูดอย่างเดือดดาล “ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเธอบีบบังคับฉันเอง!”เมื่อเห็นว่าทุกคนอารมณ์ร้อน ลู่ม่านเซิงจึงเกลี้ยกล่อมจากด้านข้าง “คุณอา อย่าเถียงกับคุณป้าเลยค่ะ เธอแค่หุนหันพลันแล่นไปเท่านั้น ฉันไม่เป็นไรค่ะ และฉันก็ไม่ได้โทษคุณอาเลย คุณป้าพวกคุณต่างก็ถอยคนละก้าวเถอะนะคะ”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!” เย่จื่อมองไปที่ลู่ม่านเซิง และพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ถ้าเธอไม่ได้โทษฉัน แล้วจะเล่าให้เย่ซูเฟินฟังทำไม เธออยากให้เย่ซูเฟินออกหน้าให้ไม่ใช่เหรอ? เสแสร้งแกล้งทำ ภายนอกดูใสซื่อ แต่ภายในคิดไม่ซื่อ ฉันล่ะเกลียดคนแบบเธอที่สุด!”เมื่อเห็นแบบนั้นเย่ซูเฟินก็ผลักเธอทันที “เธอกำลังดุใคร รู้ว่าเซิงเซิงสูญเสียการได้ยิน แต่ยังแอบพูดไม่ดีลับหลังเธอ เธอมันชั่วร้ายแค่ไหนกัน?!”“ถึงฉันจะชั่วร้ายแต่ก็ไม่ได้ขาดคุณธรรมเหมือนเธอ!” เย่จื่อก็ผลักกลับคืนไปเช่นกัน“เธอลงมือกับฉันงั้นเหรอ?”เย่ซูเฟินจ้องเธอด้วยความโกรธ “วันนี้มีเธอก็ไม่มีฉัน!”“ลองดูสิว่าฉันจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ ไหม!”เย่จื่อไม่พูดพล่ำทำเพลงเข้าไปต

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 460

    เย่จื่อไม่คาดคิดว่าเย่ซูเฟินจะโทรมาหาเธอ ซึ่งทำให้เธออารมณ์เดือดขึ้นทันที "ทำไม? หรือว่าเป็นลู่ม่านเซิงที่บอกอะไรกับเธอ ฉันจัดการเธอแล้วยังไงล่ะ!""ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?" เย่ซูเฟินพูดด้วยความโกรธ เพราะอยากจะจัดการกับเย่จื่อให้ได้"ฉันต้องบอกด้วยเหรอ? คิดว่าเธอเป็นใคร!" เย่จื่อไม่สนใจที่จะเคี้ยวเมล็ดแตงโมแล้ว ปัดมันออกไปพร้อมกับกำลังมองหาที่ระบายความโกรธเย่ซูเฟินหัวเราะเยาะ "กลัวสินะ กลัวฉันจะหาตัวเจอ ฉันรู้แล้วว่าโรงงานเสริมความงามของเธอโดนพังเสียหายหมด ตอนนี้ถึงกับต้องหลบซ่อนตัวเหมือนเต่าหดหัวแล้ว!""ฉันเนี่ยนะกลัว? ฉันเคยกลัวเธอสักครั้งไหม! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอแต่งงานกับเย่เว่ยถิง ฉันไม่เคยนับเธอเป็นคนของตระกูลเย่ด้วยซ้ำ!" เย่จื่อตอบกลับอย่างกระแทกกระทั้น"งั้นก็ออกมาสิ มาสู้กันต่อหน้า!" เย่ซูเฟินท้าทาย"ก็ได้ ออกมาก็ออกมา เย่ซูเฟิน ถ้าเธออยากจะตัดขาดกับฉันจริง ๆ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว!" พูดจบ เย่จื่อก็ตัดสายทิ้งและหยิบกระเป๋าขึ้น เตรียมออกไปข้างนอกทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้น เวินหนี่รีบพูดขึ้น "คุณอาคะ คุณอาจะไปไหนคะ หนูจะไปด้วย"เย่จื่อหันมามองเวินหนี่ "เธอไม่ต้องไป เย่ซูเฟิ

DMCA.com Protection Status