แชร์

บทที่ 328

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-20 18:00:00
“อีอี ขอบคุณเธอมากนะ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะดีกับฉันขนาดนี้” ปลายสายกล่าวขอบคุณ “ทำให้เธอต้องลำบากอีกแล้ว”

กู้อีอีพูดว่า “ไม่ต้องขอบคุณหรอก คนที่รังแกเธอก็เหมือนรังแกฉัน ฉันก็ต้องช่วยเพื่อนเต็มที่อยู่แล้ว จะไม่ยอมให้คนเลวได้ชัยชนะหรอกนะ”

“ฉันแค่บ่นกับเธอเฉย ๆ เธอกลับเก็บไปใส่ใจ ฉันรู้สึกซาบซึ้งจริง ๆ เธอดีกับฉันขนาดนี้ การมีเพื่อนอย่างเธอนี่ดีมากจริง ๆ” ปลายสายพูดด้วยความซาบซึ้ง

กู้อีอีเป็นแบบนี้มาตลอด

เธอมักจะจริงใจกับเพื่อนเสมอ

ตั้งแต่เล็กจนโต เธอถูกเลี้ยงดูอย่างประคบประหงม ไม่เคยผ่านความลำบาก

เรื่องร้าย ๆ ในจิตใจคนก็ยิ่งไม่เคยได้สัมผัส

เมื่อได้ยินว่าเพื่อนโดนรังแก สิ่งแรกที่เธอคิดคือการออกหน้าช่วยเหลือ

แม้ว่าในท้ายที่สุด เธอจะต้องเจ็บตัวเองแต่เธอก็ไม่เคยเสียใจ ครั้งหน้าเธอก็จะทำแบบนี้อีก

ปลายสายพูดต่อว่า “ไม่รู้ว่าเธอพอจะมีเวลาไหม ฉันอยากจะชวนเธอไปกินข้าวเพื่อขอบคุณเธอ”

“มีสิ” กู้อีอีกล่าวขณะนอนอยู่บนเตียง “เมื่อไหร่ก็ได้เลยถ้าเธอมีเวลา แต่อย่าขอบคุณเลย เราเป็นเพื่อนกันนี่ เพื่อนก็ควรจะช่วยเหลือกันอยู่แล้ว”

ทั้งสองคนคุยโทรศัพท์กันอยู่นาน

ปลายสายก็พูดถึงเรื่องไม่ดีของเวินหนี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 329

    “ฉันดูเบื้องหลังแล้วนะ ไม่มีใช้สตันท์แมนจริง ๆ ฉากแอ็กชันก็ลื่นไหลมาก เธอดังได้ก็ไม่แปลกเลย!”“เห็นไหม ลู่ม่านเซิงดังแล้ว วันนี้ตลาดหุ้นพุ่งเลย”เวินหนี่ได้ยินพนักงานในออฟฟิศพูดกันแบบนั้นเธอเดินไปที่ห้องน้ำชารินน้ำมาหนึ่งแก้วพอดีหลี่ถิงก็อยู่ที่นั่นด้วย เมื่อเห็นเวินหนี่ก็พูดว่า “พี่เวิน ได้ยินที่พวกเขาพูดกันไหมคะ ประธานเย่ลงเงินไปเยอะมากกับลู่ม่านเซิงถึงทำให้เธอโด่งดังได้ขนาดนี้ ลู่ม่านเซิงนี่ชาติที่แล้วคงเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตประธานเย่ไว้แน่ ๆ!”หลี่ถิงก็ยังไม่เข้าใจว่าลู่ม่านเซิงดังได้ยังไงแค่ละครเรื่องเดียวก็ทำให้เธอโด่งดังได้ขนาดนี้ถึงเธอยังไม่ได้ดูละครเรื่องนั้น แต่ก็ได้ยินคนอื่นพูดว่ามันสนุกแค่ไหนแต่เพราะเธอไม่ชอบลู่ม่านเซิง ต่อให้ละครจะดังแค่ไหน เธอก็ไม่คิดจะดูเวินหนี่มองไปที่หลี่ถิงและยิ้มพลางพูดว่า “ถึงจะดันได้ แต่ก็ต้องดูว่าเธอจะดันตัวเองขึ้นมาได้หรือเปล่า”หลี่ถิงพูดว่า “เธอดังได้เพราะข่าวเสีย ๆ หาย ๆ นั่นแหละ ทุกวันมีแต่ติดเทรนด์ฮอต ไม่ฆ่าตัวตายก็โดนใส่ร้าย ใครจะไม่รู้จักเธอก็ยากแล้ว”แม้ว่าเวินหนี่จะไม่ชอบลู่ม่านเซิง แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธความพยายามของอีกฝ่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-21
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 330

    เมื่อทั้งสองคนมาถึงตัวเมือง เวินหนี่ก็พาหลี่ถิงไปซื้อของก่อน เครื่องดื่มในห้องน้ำชาส่วนใหญ่ก็มักจะซื้อจากร้านนี้ ทุกอย่างจัดการได้เรียบร้อยในทันทีแต่ของที่เธอต้องซื้อกลับยุ่งยากกว่านั้น เมล็ดกาแฟที่เย่หนานโจวชอบดื่มต้องโทรนัดหมายล่วงหน้า โชคดีที่ร้านยังมีของอยู่ เวินหนี่จึงเดินเข้าไป“พี่เวิน เมล็ดกาแฟที่พี่ซื้อให้ประธานเย่ดื่มมันพิเศษขนาดนั้นเลยเหรอคะ? ต้องนัดล่วงหน้าด้วย” หลี่ถิงไม่เข้าใจเลยว่ามันมีเมล็ดกาแฟที่หายากขนาดนี้ด้วยเวินหนี่ตอบ “ประธานเย่ค่อนข้างจะเลือกกินน่ะ”เขาดื่มแค่เมล็ดกาแฟยี่ห้อนี้เท่านั้นหลี่ถิงได้แต่ถอนหายใจว่า โลกของคนรวยนี่ช่างดีเหลือเกิน แม้แต่เมล็ดกาแฟก็ยังต้องเป็นระดับพรีเมียมเวินหนี่ได้นัดกับผู้จัดการร้านไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเข้าไปก็ถามว่า “ผู้จัดการ เตรียมของให้ฉันเรียบร้อยหรือยังคะ? แบบเดิมเหมือนทุกครั้ง”ผู้จัดการดูมีท่าทีลำบากใจเล็กน้อย “คุณเวิน ตอนนี้เหลือแค่ถุงนี้ถุงเดียวค่ะ อาจจะ…”ผู้จัดการร้านดูเหมือนมีบางอย่างที่อยากพูดแต่พูดไม่ออกเวินหนี่มองไปรอบ ๆ และเห็นเจียงซิงถงนั่งดื่มกาแฟอยู่ที่นั่นด้วย “ฉันก็นึกอยู่ว่าใครกันนะช่างมีรสนิยมแบบนี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-21
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 331

    “เธอไม่ต้องพูดแล้ว!” กู้อีอีตัดบท “ที่นี่ไม่มีพี่หนานโจวหรือคุณปู่ของฉัน ไม่ต้องมาแสร้งทำต่อหน้าฉันแล้ว แสดงธาตุแท้ของเธอออกมาเลย ยัยคนร้ายกาจ!”คำพูดนี้ทำให้เวินหนี่ต้องหยุดนิ่งไปชั่วครู่เธอไปเป็นผู้หญิงร้ายกาจตั้งแต่เมื่อไหร่?เธอไม่ได้มีปัญหาอะไรกับกู้อีอีเลยแต่กลับกลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจในสายตาของเธอเวินหนี่ไม่อยากสร้างปัญหา และเมื่อเห็นว่ากู้อีอีอายุน้อยกว่าเธอหลายปี เป็นหลานสาวของคุณปู่กู้ และเติบโตมาโดยไม่มีพ่อแม่ดูแล เธอจึงตัดสินใจยอม “ในเมื่อพวกเธอชอบ งั้นฉันก็ยกให้ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่”แต่หลี่ถิงยังไม่พอใจ เธออยากจะต่อสู้เพื่อเวินหนี่เวินหนี่กลับพูดว่า “หลี่ถิง ไปกันเถอะ”หลี่ถิงตอบ “แล้วเมล็ดกาแฟของประธานเย่ล่ะ ถ้าไม่มี ประธานเย่ไม่โกรธพี่เหรอ?”“ไม่เป็นไร” เวินหนี่ตอบกู้อีอีเห็นว่าเวินหนี่กำลังแสร้งทำตัวเป็นคนดี จึงแค่นหัวเราะเยาะ “ไม่ต้องมาทำตัวใจกว้าง ฉันไม่ขอบคุณเธอหรอก เธอทำให้ฉันโดนคุณปู่ดุ ทำให้ฉันอับอาย เรื่องนี้ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับเธอเลย ฉันไม่มีวันยกโทษให้เธอแน่!”เวินหนี่เห็นว่ากู้อีอีทำตัวเหมือนเด็ก จึงไม่พูดอะไรกับเธอมากเจียงซิงถงที่จริงแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-21
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 332

    เมื่อได้ยินเสียงนั้น เวินหนี่ก็เผลอเหยียบเบรกโดยอัตโนมัติสายตาของเธอมองเข้าไปในตรอกเล็ก ๆ เห็นเพียงกลุ่มผู้ชายย้อมผมทองสองสามคนล้อมกันอยู่ผู้ชายกลุ่มนี้ผอมแห้ง ดูไม่สุภาพ อีกทั้งเมื่อมองเห็นชายเสื้อของเด็กผู้หญิง เวินหนี่ก็รู้สึกคุ้น ๆนั่นมันกู้อีอีไม่ใช่เหรอ?เธอมองอีกสองสามที กู้อีอีถูกกลุ่มผู้ชายผมเหลืองล้อมอยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว เพราะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร สีหน้าของเธอแย่มาก"พวกนายอย่าเข้ามานะ ถ้าพวกนายกล้าแตะต้องฉันแม้แต่ปลายนิ้ว ปู่ของฉันจะไม่ปล่อยพวกนายไปแน่!" กู้อีอีที่เติบโตมาในความสะดวกสบาย ไม่เคยมาที่แบบนี้และไม่เคยถูกคนรังแกมาก่อนเดิมทีเธอคิดว่าจะไปทานข้าวกับเจียงซิงถง ทว่าเจียงซิงถงติดธุระเล็กน้อยจึงกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เธอจึงเดินเล่นแถว ๆ นั้นสักพัก เดินไปอีกไม่กี่ก้าว เธอก็หลงทาง มาในที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายประเภทเธอตั้งใจว่าจะกลับไปหาเจียงซิงถง แต่พอเลี้ยวโค้งไป ก็เห็นผู้ชายสองสามคนทำตัวน่าสงสัยอยู่ตรงนั้นพอพวกเขาเห็นเธอ สายตาก็จ้องเขม็งใส่เธอเหมือนหมาป่าที่หิวโซเธอไม่เคยเจอสายตาแบบนี้มาก่อน จึงก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-21
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 333

    หญิงสาวยืนนิ่งไม่ทันได้ตอบสนองไม่น่าจะเป็นไปได้"แค่หมื่นเดียว" คนที่รับเงินยังคงโลภมาก ไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ "เธอคงมีมากกว่าหมื่นแน่ ๆ"เวินหนี่พูดว่า "นี่เป็นเงินสดทั้งหมดที่เรามีอยู่ ถ้านายต้องการมากกว่านี้ก็ไม่มีแล้ว ปล่อยเธอไปซะ อย่าให้สุดท้ายแล้วพวกนายต้องเดือดร้อนเอง""เธอกำลังขู่พวกเราอยู่เหรอ?" พวกเขาเพียงแต่คิดว่ามันน่าขัน "คิดว่าเราโตมากับการโดนขู่เหรอ? แค่จับพวกเธอสองสามคนขายไปก็ได้มากกว่าหมื่นแน่ ๆ""เงินแค่นี้เอาไปไล่ขอทานยังไม่พอ อย่างน้อยต้องสักแสนหนึ่ง"เวินหนี่ตอบว่า "แสนเหรอ? ใครที่ไหนพกเงินสดแสนหนึ่งติดตัวกัน มันไม่สมเหตุสมผลเลย งั้นเอาแบบนี้ดีไหม พวกนายปล่อยเธอไปก่อน ฉันจะไปกดเงินมาให้""พวกเธอคิดว่าเรายังเป็นเด็กอยู่งั้นเหรอ? ถ้าปล่อยไปแล้ว พวกเธอไม่วิ่งหนีหมดหรือไง!"พวกเขาพูดต่อว่า "ดูจากหน้าตาของพวกเธอแล้ว ถ้าขายไปที่ซ่องก็คงได้ราคาหลายหมื่น ถ้าอยากไถ่ตัวเอง ก็ต้องจ่ายค่าตัวหน่อย!"เวินหนี่เห็นว่าพวกเขากำลังเรียกร้องเกินไป โลภแบบถมเท่าไรก็ไม่พอ เธอขมวดคิ้วแน่นแล้วพูดเบา ๆ ว่า "ฉันหวังดีที่จะเจรจากับพวกนาย ปล่อยเธอไปแล้วเอาเงินหมื่นนี้ไป ดีกว่าไม่ได้อะไร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 334

    หลี่ถิงและกู้อีอีตกใจจนกรีดร้องออกมาดังลั่นโชคดีที่รถของเวินหนี่แข็งแรงพอ ก้อนหินจึงไม่สามารถเจาะเป็นรูได้"รีบขวางไว้ อย่าให้เธอหนีไปได้!"พวกผู้ชายล้อมรอบหน้ารถของเวินหนี่ กั้นไม่ให้เธอออกไป"ทำร้ายพวกพี่แล้วยังคิดจะหนีเหรอ ถ้ากล้าก็ขับรถทับพวกเรามาเลย ฉันอยากเห็นว่าเธอจะหนีไปทางไหน!""ลงมาจากรถเดี๋ยวนี้!"พวกผู้ชายเหล่านี้โมโหมากจนเริ่มคลั่ง พวกเธอที่หลบอยู่ในรถถูกพวกนี้ทุบรถไม่หยุดกู้อีอีตกใจจนหน้าซีด ตัวสั่น และน้ำตาไหลไม่หยุดหลี่ถิงเห็นพวกผู้ชายที่ผอมแห้งเหล่านี้ แต่พละกำลังกลับเยอะผิดปกติ เธอเริ่มกังวลและพูดว่า "พี่เวิน เราจะทำยังไงดี? เราจะทำยังไงดี?"เวินหนี่มองดูเวลาสักพัก แล้วปลอบพวกเธอว่า "ไม่ต้องกลัว ทุกอย่างจะไม่เป็นไร""ขับรถดีขนาดนี้ ดูก็รู้ว่ารวย แต่ให้แค่หมื่นเดียวคิดจะไล่เราไปเนี่ย คิดว่าเราเป็นขอทานหรือไง หรือดูถูกพวกเรากันแน่?"พวกเขาทั้งเตะและทุบรถ"ลงมาจากรถ!"พวกเขาต้องการให้พวกเธอลงมากระจกรถถูกพวกเขาทุบหลายครั้งจนเริ่มมีรอยร้าวเวินหนี่ก็เริ่มใจคอไม่ดี กลัวว่าพวกเขาจะทำลายรถจนพัง และหากเป็นเช่นนั้นจริงพวกเธอก็จะหมดทางหนี"ฉันว่าฉันควรจะลงไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 335

    กู้อีอีรับน้ำมาดื่มไปหนึ่งอึก แต่เพราะความกลัวมากเกินไปทำให้เธอสำลักน้ำจนเปียกไปทั่วตัว"ดื่มช้า ๆ หน่อย" เวินหนี่พูดกู้อีอีหมุนฝาขวดน้ำให้แน่นอีกครั้ง แล้วทำท่าทางเหมือนจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็กลั้นใจพูดออกมา "ขอบคุณเธอเมื่อกี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ฉันคงโดนทำร้ายไปแล้ว"เวินหนี่กลับล้อเลียนว่า "ปกติเธอดูเก่งมาก แต่เมื่อกี้นี้กลัวจนขาสั่นเลยนะ"กู้อีอีกัดริมฝีปาก แล้วก้มหน้าลง "ฉันรู้ว่าฉันทำให้เธอลำบากใจถึงสองครั้ง การที่เธอประชดฉันก็เป็นเรื่องปกติ""ช่างเถอะ ขึ้นรถไป เดี๋ยวฉันจะพาเธอกลับบ้าน ถ้ากลับดึกเกินไป ปู่ของเธอคงเป็นห่วงมากแน่ ๆ" เวินหนี่ช่วยกู้อีอีเพราะนึกถึงคุณปู่กู้ปู่ของเธอมีหลานเพียงคนเดียว ถ้าไม่ช่วย คุณปู่กู้อาจจะเสียใจอย่างมากเธอไม่สามารถเมินเฉยถึงขนาดนั้นได้ทันใดนั้นกู้อีอีก็นึกขึ้นได้ว่า "ซิงถง! โทรศัพท์กับกระเป๋าของฉันอยู่ที่เธอนะ ฉันไม่รู้เลยว่าเธอไปไหนแล้ว!"เมื่อได้ยินเช่นนั้น เวินหนี่เริ่มรู้สึกสงสัย เธอหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า "เธอกับเจียงซิงถงเมื่อกี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ? ทำไมถึงเหลือเธอคนเดียวล่ะ?"กู้อีอีบอกว่า "ซิงถงมีธุระ ฉันไม่ได้อยู่ก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 336

    เขาถามอย่างต่อเนื่องจนเวินหนี่ไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อน"ฉันแค่บาดเจ็บเล็กน้อย ไม่เป็นไร" เวินหนี่เห็นว่าหลี่ถิงอยู่ด้วย เขาเองก็ไม่สนใจสายตาของคนอื่น เธอจึงรู้สึกกังวลเล็กน้อย รีบออกมาจากอ้อมอกของเขา"ทำไมไม่รับโทรศัพท์?" เย่หนานโจวยังคงขมวดคิ้วและใส่ใจมาก ถามซ้ำอีกครั้งว่า "เกิดอะไรขึ้น?"สายตาของเขาหันไปที่กู้อีอี และพบว่าเธออยู่ที่นั่นกู้อีอีรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย และเรียกขึ้นเบา ๆ ว่า "พี่หนานโจว..."เธออยากจะพูดอะไรแต่ก็หยุดไป "พี่สะใภ้ช่วยฉันไว้...ฉันรู้สึกผิดมาก หวังว่าพี่จะไม่โกรธฉัน"เธอไม่เคยคิดฝันเลยว่าเวินหนี่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเธอเมื่อเจอกับคนพวกนั้น ซึ่งอันตรายขนาดนั้น อีกทั้งเธอยังเคยทำให้เวินหนี่โกรธ เธอคิดว่าแม้แต่คนแปลกหน้าคงจะช่วยเธอมากกว่า และเวินหนี่คงจะเพียงแค่เมินเฉยไปการที่เวินหนี่ช่วยเธอ ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากเรื่องที่เธอเคยทำไว้กับเวินหนี่ก็ทำให้เธอรู้สึกเสียใจเวินหนี่ไม่ใช่คนที่เข้าถึงยากหรือเป็นผู้หญิงที่ใจร้ายอย่างที่คนอื่นเคยพูดกู้อีอีรู้สึกผิด หวังว่าเย่หนานโจวจะไม่โทษเธอ และสัญญาว่าจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก"ช่วยเธอเหรอ?" เย่หน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status