แชร์

บทที่ 295

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-09 18:51:42
เมื่อเสิ่นฉือได้ยินแบบนั้น เขาก็รู้สึกมีความหวัง “เราอยู่ที่คลับม่ายเซ่อห้องส่วนตัว 409 รีบมาเร็ว ๆ นะ คืนนี้ผมต้องเข้าเวร และรีบไปก่อนแล้ว”

“...โอเค”

แม้ว่าเสิ่นฉือจะไม่ได้บอกว่าต้องเข้าเวร แต่ในเมื่อเขาโทรหาเธอ เธอก็ไม่สามารถนิ่งเฉยไม่สนใจเย่หนานโจวได้

เสิ่นฉือได้ยินสัญญาณจากปลายสาย ก็ตระหนักได้ว่าหลังเวินหนี่วางสายไปแล้ว เขาจึงยัดโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าของเย่หนานโจว

เขามองฮั่วเยี่ยนและลู่ปั๋วเหนียน

ทั้งสามถอยกลับออกไป

แต่ทันทีที่พวกเขาก้าวออกไปเย่หนานโจวก็ลืมตาขึ้น

ดวงตาสีดำของเย่หนานโจวมืดมน และในขณะนี้เขาก็ดูไม่เหมือนคนเมาเลยแม้แต่น้อย

เวินหนี่รีบมาถึงม่ายเซ่อในหนึ่งชั่วโมงต่อมา

เธอนั่งแท็กซี่จากเย่กรุ๊ปมายังม่ายเซ่อ แต่ถนนถูกปิดกั้น

จึงเสียเวลาในการเดินทางกว่าหนึ่งชั่วโมง

เธอติดตามเย่หนานโจวและเป็นเลขาของเขามาเจ็ดปี เวินหนี่ได้มาสถานที่แบบนี้ค่อนข้างบ่อย

แต่เมื่อมาถึงโถงทางเดิน ชายคนหนึ่งก็เดินโซเซเข้ามา

ดวงตาของชายคนนั้นหรี่ลงเล็กน้อย ดูรู้เลยว่าเมา

อีกทั้งผู้ชายคนนั้นตัวโตและดูแข็งแกร่ง

เมื่อชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ เวินหนี่ก็เบี่ยงตัวหลบอัตโนมัติ

แต
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 296

    เสียงห้าวของชายคนหนึ่งดังมาจากฝั่งตรงข้าม “ไอ้เวร! ไอ้หน้าขาวโผล่มาจากไหน คิดจะเล่นบทฮีโร่ช่วยสาวรึไง? ทำฉันหมดสนุก ฉันเอาแกตายแน่”เสียงของชายคนนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆเขาพุ่งเข้ามาด้วยท่าทีดุดันแต่…เย่หนานโจวเพียงยกเท้าขึ้น และในชั่วพริบตา ชายคนนั้นก็ปลิวไปกระแทกพื้น“ปัง!”เสียงกระแทกดังสนั่นขณะที่ชายคนนั้นหล่นลงกระแทกพื้นอย่างแรงเย่หนานโจวใช้มือข้างหนึ่งโอบเวินหนี่ไว้ ขณะที่อีกมือหนึ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ฮั่วเยี่ยน นายส่งคนมาจัดการไอ้สวะที่อยู่หน้าห้องนี้ด้วยนะ แล้วบอกเสิ่นฉือให้เอากล่องปฐมพยาบาลมาหาฉันที่ห้องนี้ด้วย”เขาพูดจบก็ตัดสายทันที แล้วพาเวินหนี่เข้าไปในห้องส่วนตัวเพียงแค่สองครั้งที่เย่หนานโจวออกแรง ชายคนนั้นก็ไม่สามารถเข้าใกล้พวกเขาได้ อีกทั้งเสียงที่เย่หนานโจวใช้โทรศัพท์เรียกคนก็เย็นชาจนสร้างความกดดัน ชายคนนั้นจึงเริ่มตระหนักว่าเย่หนานโจวไม่ใช่คนธรรมดาด้วยสัญชาตญาณ เขาจึงรีบวิ่งหนีทันทีแต่เขาจะหนีไปได้อย่างไร?ฮั่วเยี่ยน เสิ่นฉือ และลู่ปั๋วเหนียน ทั้งสามคนนี้กว่าจะนัดเจอกันได้ก็ยากลำบากและเพราะเสิ่นฉือนั้นใช้โทรศัพท์ของเย่หนานโจวโทรหาเวินหนี่ เย่หนานโจวถึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 297

    “ขอบคุณนะคะ”เวินหนี่ตัดสินใจพูดขอบคุณ เพราะไม่ว่าจะอย่างไร เย่หนานโจวก็ช่วยเธอไว้จริง ๆแต่เย่หนานโจวยังอารมณ์ไม่ดีอยู่เพราะตอนนี้เขาก็ยังไม่สร่างดีและคำพูดของชายคนนั้นก็ยิ่งเหมือนเติมเชื้อไฟให้กับความโกรธตอนนี้เวินหนี่มาขอบคุณเขาอีก?ริมฝีปากของเย่หนานโจวยกขึ้นอย่างเย็นชา “คำขอบคุณไม่จำเป็น พวกเราต่างแค่ทดแทนบุญคุณก็เท่านั้น”เวินหนี่รู้สึกจุกแน่นในลำคอเขาแค่คืนบุญคุณที่ติดค้างไว้ก็ดีแล้วจากนี้ไปพวกเขาจะได้ไม่ติดค้างกันเวินหนี่เม้มปาก และหลังจากเงียบไปสักพัก เธอจึงถามต่อ “เราจะกลับบ้านกันไหม?”“รออีกสักพัก”“อืม”เวินหนี่ไม่ได้คิดอะไรมากเย่หนานโจวยื่นก้อนน้ำแข็งให้เวินหนี่ โดยจับมือเธอเอาไว้พร้อมกับพูดว่า “ประคบให้ดีหน่อย ตอนนี้เธอยังไม่ได้ออกจากงานและยังเป็นภาพลักษณ์ของบริษัทอยู่”น้ำเสียงของเขาเรียบเย็นเวินหนี่พยักหน้า “เข้าใจแล้วค่ะ”เขาช่วยเธอเพราะเธอยังเป็นภรรยาของเขา เพราะเธอยังเป็นเลขาของเขาและเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของบริษัทตระกูลเย่และอีกอย่างก็เพราะสิ่งที่เขาพูดไว้ว่า “บุญคุณต้องทดแทน”เขาขีดเส้นระหว่างเขาและเธออย่างชัดเจน…ฮั่วเยี่ยนสั่งให้คนจับชา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 298

    เวินหนี่ล้างหน้า โดยใช้โฟมล้างหน้าล้างไปหลายครั้งแม้กระทั่งสบู่เหลวและเจลอาบน้ำก็ใช้ไปด้วยในอากาศยังคงมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกพุด นี่คือกลิ่นน้ำหอมที่เวินหนี่ชอบการที่เธอทำแบบนี้ ก็เพื่อกำจัดกลิ่นที่ติดมาจากตัวเย่หนานโจวเขาจะมีกลิ่นอะไรติดมาบ้างล่ะ?กลิ่นควันบุหรี่ที่ฉุนจัด กลิ่นแอลกอฮอล์ที่แรง และยังมีกลิ่นคาวเลือดจากชายคนนั้นมือของเวินหนี่หยุดชะงักและเธอก็อึ้งไปชั่วขณะแต่เธอรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “คุณคิดมากไปแล้วล่ะ ฉันจะหย่ากับคุณและคุณก็รู้ดีว่าทำไม”ก็แค่มันถึงเวลาแล้วนอกจากนี้เขาไม่เคยมีความจริงใจที่จะให้เธออยู่ต่อถ้าเธอไม่ไปล่ะ? จะให้อยู่ดูเขากับลู่ม่านเซิงพัฒนาความสัมพันธ์กันต่อไปหรือไง?ริมฝีปากของเย่หนานโจวยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะเขารู้จริง ๆเธอต้องการกลับไปหาอาจ้านและลู่เซินเมื่อเย่หนานโจวนึกถึงภาพที่เธอนั่งคุยกับลู่เซินอย่างมีความสุขที่ข้างแปลงดอกไม้ในวันนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงมันอีกโดยเฉพาะท่าทางของเวินหนี่ในตอนนี้เธอดูสงบนิ่งมากตั้งแต่เธอกลับมา เธอไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลยสักคำในที่สุดเย่หนานโจวก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อีกต่อไป เข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 299

    คำพูดของลู่ปั๋วเหนียนชัดเจนและราบเรียบเวินหนี่ตกตะลึงไปทั้งตัวสองเดือนครึ่ง... ตอนนั้นเธอจะท้องได้สี่เดือนแล้วและเริ่มมีหน้าท้องให้เห็นถ้าถึงเวลานั้นเย่หนานโจวจะยิ่งไม่ยอมให้เธอไปไหนแต่เวินหนี่ก็ตระหนักถึงบางอย่างได้อย่างรวดเร็วเธอยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเย็นชา "ฉันคงต้องเรียกคุณว่า เพื่อนของเย่หนานโจว สินะคะ?"สายตาของลู่ปั๋วเหนียนแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา แต่เขาก็ยิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว “พี่สะใภ้นี่ตาแหลมจริง ๆ”แม้ลู่ปั๋วเหนียนจะดูเหมือนใจเย็น แต่ในใจเขากลับชื่นชมเวินหนี่เวินหนี่สามารถมองออกได้ในพริบตาว่าเขาคือคนของเย่หนานโจว“ในเมื่อคุณไม่จัดการคดีหย่าของฉัน งั้นก็ลาก่อน”พูดจบเวินหนี่ก็หันหลังและเดินออกไปหลังจากเวินหนี่เดินออกไป ลู่ปั๋วเหนียนก็โทรหาเย่หนานโจวทันทีเย่หนานโจวยังคงหลับอยู่เขาดื่มเหล้ามากเกินไปและตอนนี้ถูกปลุกขึ้นมา ทำให้รู้สึกปวดไปทั้งตัวลู่ปั๋วเหนียนได้ยินเสียงแหบ ๆ ของเย่หนานโจวก็หัวเราะเบา ๆ "ยังนอนอยู่อีกเหรอ? เมียนายมาตาม หาฉันแต่เช้า แถมยังรู้ว่าฉันเป็นใคร ฉันว่านายควรใส่ใจเธอให้มากกว่านี้นะ!"ความเหนื่อยล้าในแววตาของเย่หนานโจวจางหาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 300

    เจียงซิงถงเดินตรงเข้ามาหาเวินหนี่ในตอนนี้ บนใบหน้าของเจียงซิงถงประดับด้วยรอยยิ้มเมื่อเทียบกับเมื่อวาน ท่าทีของเจียงซิงถงในตอนนี้ดีขึ้นมากเวินหนี่จึงยิ้มรับและตอบกลับ “ไม่เป็นไรค่ะ ซ่งฉือ มาทักทายคู่ค้าของเราหน่อยสิ”เย่หนานโจวกำชับให้ซ่งฉือเป็นคนต้อนรับผู้จัดการของบริษัทเจียง แม้ว่าเจียงซิงถงจะเปลี่ยนท่าทีไปแล้วก็ตาม เวินหนี่ก็ยังต้องพาซ่งฉือมาแนะนำให้เจียงซิงถงรู้จักแม้ว่าในใจของเจียงซิงถงจะไม่พอใจ แต่ภายนอกเธอก็ยังคงแสดงท่าทางสุภาพ“เลขาเวิน ช่วงนี้กำลังฝึกเด็กใหม่อยู่หรือคะ?”เย่หนานโจวยังไม่มาปรากฏตัว ทำให้เจียงซิงถงไม่พอใจนัก แต่เธอก็ไม่สามารถแสดงออกมาได้ตอนนี้จึงทำได้เพียงพูดคุยกับเวินหนี่ไปเรื่อย ๆเวินหนี่ตอบกลับ “คุณเจียงกังวลว่าจะทำให้การร่วมงานล่าช้าใช่ไหมคะ? ไม่ต้องกังวลค่ะ ประธานเย่จะตรวจสอบทุกความร่วมมือด้วยตัวเองเสมอ”เจียงซิงถงเม้มปาก “ถ้าอย่างนั้นไปคุยกันที่บริษัทเย่ดีกว่าค่ะ เลขาเวินคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับข้อเสนอความร่วมมือคะ?”หลังจากที่เวินหนี่ออกไป เจียงซิงถงก็ได้รู้ความจริงที่แท้เวินหนี่ทำงานเป็นเลขาของเย่หนานโจวมานานถึงเจ็ดปีเจียงซิงถงต้องการใช้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 301

    เวินหนี่เองก็ไม่ได้คาดคิดว่าเจียงซิงถงจะรับถ้วยชาไว้ไม่มั่น“คุณเจียง คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ ฉันไม่ได้ผูกใจเจ็บอะไร มันเป็นเพราะคุณเองที่ถือไม่มั่นคงค่ะ” เวินหนี่พูดขึ้นอย่างเรียบๆเธอจ้องกลับไปยังดวงตาดำคมของเจียงซิงถง ซึ่งในตอนนี้มีประกายเย็นเยียบแวบผ่าน“ฉันถือไม่มั่น? ฉันจะถือชาถ้วยเดียวไม่อยู่เหรอ? ประธานเย่ ฉันมาเจรจาด้วยความจริงใจเต็มที่ แต่เลขาของคุณกลับหยิ่งยโสแบบนี้?”เจียงซิงถงตั้งคำถามกลับถึงสองครั้งประโยคสุดท้ายเธอหันไปมองเย่หนานโจวโดยตรงเย่หนานโจวยืนอยู่ไม่ไกล สายตาของเขาเย็นชาพร้อมแฝงความดูถูกเล็กน้อย “หรือผมควรให้คุณเจียงดูภาพจากกล้องวงจรปิดสักหน่อยเพื่อทบทวนความจำ?”เย่หนานโจวรู้ดีว่าเวินหนี่เป็นคนอย่างไรเวินหนี่ไม่เคยสนใจหากมีใครแย้งเธอในระหว่างที่ยังไม่ได้ลาออก เวินหนี่จะไม่ทำงานแบบขอไปที เธอจะทำงานของตัวเองให้ดีที่สุดเจียงซิงถงทำแบบนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นการจงใจใส่ร้ายเวินหนี่เมื่อเย่หนานโจวพูดจบ สีหน้าของเจียงซิงถงก็ดูอึดอัดขึ้นมาทันทีเธอเป็นแค่เลขา แต่ทำไมเย่หนานโจวถึงปกป้องขนาดนี้?เจียงซิงถงมีท่าทีเย็นชาและพูดขึ้น “ประธานเย่ ฉันเข้าใจว่าคุณปกป้องลู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 302

    สีหน้าของเจียงซิงถงเริ่มแข็งกระด้าง “ประธานเย่ก่อนหน้านี้ฉันกับเลขาของคุณมีเรื่องเข้าใจผิดกัน และตอนนี้ฉันเชื่อว่าถ้ามีคนสิบคน อย่างน้อยเจ็ดคนคงคิดว่าเธอตั้งใจทำแน่ ๆ”“อีกอย่างคุณจำฉันไม่ได้จริง ๆ เหรอคะ?”ยิ่งพูดเจียงซิงถงก็ยิ่งควบคุมอารมณ์ไม่อยู่สายตาของเย่หนานโจวเย็นชา ไม่มีแม้แต่ความอบอุ่น และยังแฝงไปด้วยความเยือกเย็น “คนของผมเป็นคนแบบไหน ไม่จำเป็นต้องให้คุณเตือนและถึงแม้ว่าเธอจะตั้งใจจริงแล้วไงล่ะ?”ประโยคเดียวของเย่หนานโจวทำให้เจียงซิงถงนิ่งอึ้งไปทันทีสายตาของเขาและคำพูดสุดท้ายที่ไม่ได้ตอบกลับ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาไม่มีความทรงจำใด ๆ เกี่ยวกับเจียงซิงถงเลยเจียงซิงถงทั้งโกรธทั้งอับอายทันใดนั้นเสียงของเวินหนี่ก็ดังขึ้นข้างหูเธอ "คุณเจียง นี่น้ำแข็งที่ฉันเอามาให้ค่ะ"เวินหนี่แสดงสีหน้าเรียบเฉย สงบใจอย่างสมบูรณ์ ไม่มีท่าทีว่าได้รับผลกระทบใด ๆเมื่อมองไปทางเย่หนานโจว สายตาของเขาก็เย็นชาไร้ความรู้สึก อีกทั้งยังแฝงด้วยความกดดันและเยือกเย็นอย่างชัดเจน นั่นแสดงให้เห็นท่าทีชัดเจนว่า หากเธอไม่ขอโทษเวินหนี่ การเจรจาความร่วมมือในวันนี้จะไม่มีทางสำเร็จและความร่วมมือนี้เธอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 303

    ตอนนี้ยังต้องสละกำไรอีก 20% เธอรู้สึกขาดทุนอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเธอต้องเสี่ยงเผชิญกับชื่อเสียงที่ไม่ดีด้วย เย่หนานโจวยังถามคำถามนี้อีก ซึ่งมันเหมือนการตอกย้ำบาดแผลแต่ตอนนี้ เธอไม่สามารถพูดอะไรได้เลยเธอทำได้แค่รักษารอยยิ้ม "ประธานเย่ เราควรมองไปข้างหน้า การสละกำไรสองส่วนก็แค่ทำให้ฉันได้กำไรน้อยลง แต่ฉันสามารถรักษาลูกค้าใหญ่เช่นคุณไว้ได้ ประธานเย่ สองส่วนคือขีดจำกัดที่ฉันให้ได้แล้ว ฉันไม่สามารถถอยหลังได้อีก""ก็ได้" เย่หนานโจวตอบตกลงอย่างรวดเร็วแต่ในใจของเจียงซิงถงกลับเต็มไปด้วยความเคียดแค้น “ในเมื่อเราตกลงกันแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะจัดงานเลี้ยงที่หงเย่วิลล่า หวังว่าประธานเย่จะให้เกียรติมาร่วมงานนะคะ”“อืม”เย่หนานโจวปฏิเสธไม่ได้ จึงต้องตอบตกลงเจียงซิงถงพยักหน้าเล็กน้อยให้เย่หนานโจว “ประธานเย่ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”“เวินหนี่ ส่งแขก”เย่หนานโจวเรียกเวินหนี่เข้ามาแม้เจียงซิงถงจะไม่พอใจมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเมื่อออกมาจากที่ที่ไม่มีเย่หนานโจวอยู่แล้ว เจียงซิงถงก็หันไปพูดกับเวินหนี่อย่างตรงไปตรงมา “วันนี้ที่ฉันขอโทษเธอ ก็เพราะเห็นแก่ประธานเย่เท่านั้น”ความอับอายที่เธ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-09

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status