— Talk Singha“เพราะพริ้งเป็นเมียพี่สิงห์ไงคะ อึก”“ใครอนุญาตให้เธอเป็นเมียฉัน?”คนตัวเล็กที่กำลังนั่งอยู่บนตักผมเธอแสดงอาการไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อผมพูดจบจู่ ๆ เธอก็ลุกขึ้นแล้วหมุนตัวหันหน้ามาหาผมก่อนจะย่อนตัวนั่งลงบนตักผมเหมือนเดิม“มองหน้าฉันทำไม?”“ทำไมต้องขออนุญาตด้วยคะ” ดูก็รู้ว่าเธอเมาขนาดไหน ยังจะอวดดีดื่มไปตั้งหลายแก้ว แล้วดูสภาพเธอตอนนี้มันน่ามองที่ไหน น่าหงุดหงิดชะมัด“ไอ้สิงห์ มึงไม่กลัวคู่หมั้นมึงมาเห็นเหรอวะ นั่นน้องสาวเมียมึงนะเว้ย” ไอ้รามท้วงผมขึ้น แต่ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไรมัน พริ้งเธอก็หันหน้าไปตอบแทนผมเรียบร้อยแล้ว“ไม่ใช่น้องเมีย พริ้งเป็นเมียพี่สิงห์ค่ะก่อนพี่มารีด้วย”“อะไรวะ ไอ้สิงห์...”“มึงไปดูมารีเอาไว้ เดี๋ยวค่อยมาเสือกเรื่องของกู ส่วนกูขอไปจัดการเด็กแสบก่อน”“อื้อ พี่สิงงง”ผมไม่สนใจอะไรถึงแม้เธอจะพยายามแกะมือผมออก ผมลากเธอขึ้นไปชั้นบน คงต้องอบรมกันสักหน่อยแต่ไม่รู้ว่าพูดอะไรไปตอนนี้มันจะเข้าสมองเธอไหม เมาขนาดนั้น“โอ้ยยยเดินช้า ๆ หน่อยได้ไหมพี่สิงห์พริ้งจะอ้วก”ผมเปิดประตูแล้วยัดตัวเธอเข้าไปในห้องทำงานของผมเองจากนั้นก็ปิดประตู ผมจับเธอนั่งลงบนโซฟ
— Talk Prink“ฉันไม่คิดจะผูกมัดกับใคร อย่าล้ำเส้นกับฉัน”คำของพี่สิงห์ทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ ของฉันมันเหมือนถูกบีบรัดแน่น ทำไมเจ็บจัง...สติของฉันเริ่มจะกลับมาบ้างแล้วแหละถึงแม้ว่ามันจะยังมึนหัวอยู่บ้าง แต่ฉันก็คงไม่โทษพี่สิงห์ที่เขาพูดแบบนั้น เพราะเรื่องของเรามันไม่ได้เกิดจากความรักตั้งแต่แรกอยู่แล้วต้องโทษตัวฉันเองที่ตัดเขาออกไปไม่ขาดตั้งแต่แรก พอรู้ตัวมันก็รู้สึกดีไปแล้ว“ค่ะ พริ้งขอโทษ ต่อไปนี้พริ้งจะไม่ล้ำเส้นพี่สิงห์อีกแล้วค่ะ” ฉันเอาแต่ก้มหน้ารับความผิดของตัวเองที่ไปงี่เง่าแบบนั้นทั้งที่ไม่มีสิทธิ์“เดี๋ยวฉันจะให้ลูกน้องไปส่งเธอที่บ้าน”“ค่ะ”“มานี่ !!”“อ่ะ...” ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจเพราะจู่ ๆ พี่สิงห์ก็กระชากฉันฉันให้ลุกขึ้นให้เดินตามเขาไปด้วยความที่ยังมึนหัวอยู่พอเจอพี่สิงห์ลากไปเร็ว ๆ แบบนี้มันเลยทำให้ฉันเซตัวโอนเอนไปมาเดินไม่ตรงเท่าไหร่ แต่พี่สิงห์ก็ไม่สนใจอะไร เขาพาฉันออกมาด้านนอกคลับ แต่ไม่ได้พาออกมาทางที่เข้าตอนแรกพี่สิงห์พาฉันเดินตรงไปที่รถคันหนึ่งจากนั้นก็เปิดประตูรถจับตัวฉันยัดเข้าไปด้านใน“ไปส่งเธอที่บ้าน” พี่สิงห์พูดกับลูกน้องของเขา“ครับนาย”พอลูกน้องของพี่สิงห
ยิ่งเข้าใกล้ผู้ชายตรงหน้ามากเท่าไหร่ ฉันยิ่งรู้สึกว่าเขาน่าค้นหา จากที่ฉันไม่เคยเห็นแก่ตัว แต่ตอนนี้ฉันกลับเปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน“แล้วต้องทำยังไงคะ พริ้งถึงจะเป็นคนได้คุมเกม”“มันคงไม่มีวันนั้น” พี่สิงห์โน้มใบหน้าลงมาตะโบมดูดดุนหน้าอกของฉัน เขาขยำมันอย่างรุนแรงจนฉันรู้สึกว่าหน้าอกของตัวเองมันคงจะหลุดติดไปกับมือของพี่สิงห์แล้วตอนนี้“อื้อ พริ้งเจ็บ อ๊า...”“อื้มม...” เสียงทุ้มของพี่สิงห์ครางออกมาในลำคอ เบา ๆ เขาพึงพอใจกับการกระทำของตัวเอง แต่สำหรับฉันมันเจ็บปวดเกินไป“พี่สิงห์ พะ พริ้งเจ็บ เบา ๆ หน่อยได้ไหม”“ลุกขึ้น” พี่สิงห์เงยหน้าขึ้นมาพูดออกคำสั่งฉันไม่ถามอะไร ลุกขึ้นตามที่พี่สิงห์บอก พอฉันลุกขึ้นพี่สิงห์ก็รูดซิบกางเกงของตัวเองควักท่อนเอ็นที่มันผงาดแข็งทื่อออกมา“ตะ ตรงนี้เหรอคะ” ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำตรงนี้จริง ๆพี่สิงห์กระตุกยิ้มมุมปาก เขาจับสะโพกของฉันในนั่งลงอีกครั้งก่อนจะแหวกกางเกงขาสั้นตัวบางของฉันออกแล้วสอดใส่เอ็นลำใหญ่เข้าไป ทั้งที่ฉันไม่ได้ถอดกางเกงออกแต่เพราะขากางเกงมันกว้างมันเลยไม่เป็นอุปสรรคอะไร“อะ อ๊าา... ซี๊ด”“อ๊า ความคับแน่นของเธอมันทำใ
เช้าวันต่อมา...ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไปกรุงเทพวันนี้เพราะบอกพี่สาวแล้วก็บอกพี่สิงห์เอาไว้แล้ว ไม่ไปมันคงจะดู แปลก ๆ ว่าไหม“พี่มารีไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอคะที่พี่สิงห์พาผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามาอยู่ในบ้าน” ฉันถามพี่มารีระหว่างที่เรากำลังนั่งทานข้าวกันอยู่สองคน“รู้สึกแล้วยังไงล่ะ ฉันห้ามเขาได้รึไง” พี่มารีดูเป็นกังวลอยู่มากพอสมควรเมื่อฉันถามถึงเรื่องที่พี่สิงห์พาผู้หญิงเข้ามาอยู่ในบ้านมันก็จริงอย่างที่พี่มารีว่า ไม่มีใครห้ามพี่สิงห์ได้ นอกจากตัวเขาเอง...“แล้วนี่เพื่อนแกจะมารับกี่โมง”“กำลังมาค่ะ คงใกล้จะถึงแล้วแหละ”พี่มารีพยักหน้าตอบจากนั้นเราทั้งคู่ก็นั่งทานข้าวกันต่อ ในขณะที่กำลังทานข้าวอยู่ พี่สิงห์เดินลงมาจากบนบ้าน เขาเดินไปคุยกับพี่มารีเรื่องจะไปส่งผู้หญิงที่เขาพามาเมื่อคืนฉันจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วแท้ ๆ แต่พี่สิงห์ไม่แม้แต่จะมองหน้าฉันเลย ทำไมจู่ ๆ ถึงเย็นชาใส่กันได้ขนาดนี้“พี่มารีสวัสดีค่ะ ^_^”สายธารเดินเข้ามาในบ้านสวนทางกับพี่สิงห์ที่เพิ่งเดินออกไปกับผู้หญิงคนนั้นพอดี สายธารถึงกับต้องหันหลังกลับไปมองพี่สิงห์แล้วทำหน้าเหมือนสงสัยอะไรอยู่สักอย่าง“รอแป๊บนะแกฉันไปเอากระเป๋าก่อ
วันต่อมา...ฉันตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเคาะห้องที่ดังราวกับว่าคนที่เคาะกำลังมีเรื่องด่วนอะไร ฉันหอบสังขารร่างกายที่ยังสะลึมสะลือจากการที่เพิ่งจะตื่นนอนเดินไปเปิดประตูและคนตรงหน้าก็ทำให้ฉันอึ้งทำอะไรไม่ถูกพร้อมกับหัวใจที่มันหยุดเต้นไปชั่วขณะ“พะ พี่สิงห์” ใช่แล้วค่ะ คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน คนที่มาเคาะห้องฉัน คนนั้นคือพี่สิงห์พี่สิงห์มองฉันสายตานิ่ง ๆ เขาไม่พูดอะไรและเดินแทรกตัวเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะ“มะ มาทำไมคะ ละ แล้วทำไมไม่บอกพริ้งก่อนว่าจะมา” ฉันพูดกับแผ่นหลังกว้างที่เดินไปหยุดตรงกลางห้องของฉัน“ฉันไม่คิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องบอกให้เธอรู้ว่าฉันจะมา” พี่สิงห์หันหน้ามามองหน้าฉัน สายตาเขาที่กำลังมองฉันอยู่มันเหมือนกับว่าพี่สิงห์กำลังจับผิดฉัน“...”“หรือว่าเธอซ่อนใครเอาไว้?”“หื้อ! ไม่มีค่ะพริ้งจะกล้าทำอะไรแบบนั้นได้ยังไง”พี่สิงห์ดูท่าว่าเขาจะไม่เชื่อที่ฉันบอกเลย เขาหันหลังกลับไปแล้วก็เดินสำรวจไปจนทั่วห้องของฉัน เปิดตู้เสื้อผ้าดู เปิดประตูระเบียงห้องดู เปิดทุกอย่างเลยก็ว่าได้อะไรกัน มาหาฉันแต่กลับเอาแต่ค้นห้อง เขาเป็นอะไรของเขากันเนี่ย ฉันไม่ได้แอบซ่อนใครไว้สักหน่อย“พี่สิงห์กำลังหาอ
สายธารมองหน้าฉันสายตาเลิ่กลั่กมากตอนนี้ ส่วนฉันก็นั่งเกร็งจนแทบกลั้นหายใจ พี่สิงห์นะพี่สิงห์จะทำเสียงดังทำไมกัน“สะ เสียงอะไรน่ะแก”“เอ่อ...”“หะ ห้องแกมีผีเหรอ ฉันกลัวนะ”“บ้า! คงเป็นเสียงอะไรตกมั้งแกคิดมากไปได้”ฉันแอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ดีที่สายธารคิดว่าเป็นผีถ้าเกิดคิดว่าฉันซ่อนใครไว้ละก็ตาย แน่ๆ“อื้อ! มาคุยเรื่องพี่ชิม่อนต่อดีกว่า”“พอเลย ฉันไม่ได้คิดอะไรแล้ว” ฉันรีบพูดดักคอเพื่อนเอาไว้ก่อน ขืนปล่อยให้พูดต่อไปคงไม่ใช่แค่เสียงเตะประตูแน่“เหรออออ!! จ้าฉันจะรอดูก็แล้วกัน”ฉันนั่งคุยกับสายธารต่อสักพักก่อนที่สายธารจะแยกตัวกลับไปที่ห้องของตัวเองหลังจากที่สายธารออกไปแล้วฉันก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำอาบน้ำ ตลอดเวลาที่อาบน้ำอยู่ฉันพยายามคิดตลอดเวลาว่าฉันลืมอะไรหรือเปล่า มันรู้สึกเหมือนตัวเองลืมอะไรไปสักอย่างปัง! ปัง! ปัง! (เสียงดังมาจากตรงระเบียงห้อง)ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำได้ยินเสียงตรงระเบียงห้องดังขึ้น นั่นทำให้ฉันอุทานออกมาเบา ๆ ทันทีเพราะรู้แล้วว่าตัวเองลืมอะไรไป“พะ พี่สิงห์...”ฉันรีบเดินไปเปิดประตูตรงระเบียงให้พี่สิงห์เข้ามาในห้องทันที ตอนนี้ใบหน้าของ
เวลาผ่านมาจนถึงวันเปิดภาคเรียนวันแรกทั้งฉันแล้วก็สายธารต่างตื่นเต้นกันทั้งคู่ เราอยู่ในชุดนักศึกษากำลังเดินไปยังตึกคณะบริหาร ใจมันเต้น ตุบ! ตุบ! ตุบ! รัว ๆ เลยตอนนี้มหาวิทยาลัยนี้ไม่มีรับน้อง แต่จะมีเรียกรวมเพื่อให้ทุกคนในคณะแนะนำตัวไม่ว้าก ไม่โหด นี่แหละที่ฉันชอบ และเป็นอีกเหตุผลที่เลือกเรียนที่นี่วันแรกของการมาเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เคยคิดเอาไว้เลย แล้ววันนี้ก็ยังไม่ได้เริ่มเรียนแบบจริงจัง เหมือนมาซ้อมไว้มากกว่า จะได้ไม่หลงทางสำหรับนักศึกษาปีหนึ่งที่เข้ามาใหม่“พริ้ง นั่น ๆๆๆๆ !!” สายธารเขย่าแขนฉันรัว ๆ แล้วก็พูดอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่องเลย“อะไรของแกเนี่ยสายธาร”“พี่ชิม่อน พี่ชิม่อนที่แกเคยแอบชอบเดินมาทางนี้”ฉันหันไปมองสายตาของสายธาร ผู้ชายที่กำลังเดินตรงมาทางฉันกับสายธารคือพี่ม่อนจริง ๆ ด้วยแต่ฉันกลับไม่รู้สึกตื่นเต้น ไม่รู้สึกหัวใจเต้นแรงเหมือนสมัยแอบชอบเขาตอนอยู่ ม.ปลาย เลยสักนิดฉันไม่มีความรู้สึกแบบนั้นแล้ว...“น้องสายธารกับน้องพริ้งใช่ไหม?” พี่ม่อนเดินมาหยุดตรงโต๊ะที่ฉันนั่งแล้วก็ถามเราสองคน“ใช่ค่ะ สายธารเอง ^_^”“น้องพริ้งหรือเปล่าครับ?”“ค่ะ ^_^
ร้านเนื้อย่าง...“เราสองคนน่ะกินเยอะ ๆ นะดูสิแขนเล็กอย่างกับตะเกียบ พี่ล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ เลยว่าทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงได้คลั่งผอมกันนัก”“ก็ผอมแล้วสวยไงคะ” สายธารรีบพูดแย้งพี่ม่อนทันที“อื้ม สวยจริง ๆ พี่ไม่เถียง” พี่ม่อนพูดตอบสายธารแต่สายตากลับเอาแต่มองใบหน้าของฉัน“มะ มองพริ้งทำไมคะ หรือที่หน้าพริ้งมีอะไรเลอะ” ฉันรีบเอามือมาถู ๆ หน้าของตัวเอง“ไม่มีอะไรเลอะหรอก พริ้งน่ารักขึ้นกว่าตอนเรียน ม.ปลาย เยอะเลยนะ ^_^”“...” ฉันทำหน้าไม่ถูกเลย จู่ ๆ มันก็รู้สึกเขินจนไม่กล้ามองหน้าพี่ม่อนฉันเคยแอบชอบพี่ม่อนมาก่อน ถึงตอนนี้จะไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว แต่บางเวลาที่พี่ม่อนมองฉันด้วยสายตาแบบนี้มันก็ทำให้ฉันรู้สึกหวั่นใจอยู่เหมือนกันนะ“ยัยพริ้ง! พี่ม่อนชอบแกชัวร์”สายธารกระซิบพูด เบา ๆ ไม่รู้ว่าพี่ม่อนจะได้ยินหรือเปล่าเพราะเขาก็นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนี่เอง ฉันมองเพื่อนสายตาดุ ๆ ก่อนจะเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินเนื้อย่าง อยากให้หมดเร็ว ๆ อยากกลับห้องแล้วเวลา 21:50 น.ตอนแรกฉันคิดว่าคงจะมากินเนื้อเสร็จแล้วก็คงจะกลับ แต่มันไม่ใช่แบบที่ฉันคิดน่ะสิเพราะพี่ชิม่อนดันชวนฉันกับสายธารไปเที่ยวกันต่อที่คลับแน่นอนว่าเ
— Talk Singhaหึ!! คิดว่าผมไม่รู้หรือไงว่าเมียตัวเองแอบหนีไปเที่ยว เธอคงไม่รู้ว่าผมให้ลูกน้องคอยตามดูเธอเอาไว้ ว่าแล้ว ไล่ผมมาจัง กลับไปเจอดีแน่ ๆที่เธอไม่กล้าบอกผมก็เพราะรู้ว่าบอกผมยังไงผมก็ไม่ให้ไป ผมหวง ถ้าจะไปผมต้องไปด้วย ดูท่าเพื่อนของเธอคงจะเป็นต้นคิดแน่ ๆโชคดีที่งานอีกงานที่ผมต้องไปพรุ่งนี้ถูกยกเลิก ผมเลยคิดว่าจะบินกลับไทยไปตอนนี้เลยจริง ๆ ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรมากมาย ผมแค่ไม่ชอบให้พริ้งไปเที่ยว เพราะเวลาเธอเมามันเหมือนคนอื่นเขาซะที่ไหนกันล่ะ แต่วันนี้ลูกน้องผมบอกว่าเธอดื่มน้ำเปล่า ค่อยโล่งใจหน่อย ถ้าผมรู้ว่าเธอดื่มเหล้าคงจะหัวเสียมากกว่านี้หลังจากที่ผมแน่ใจว่าเมียผมหลับไปแล้ว ผมก็กดวางสายก่อนจะนั่งรถไปขึ้นเครื่องกลับไทยจริง ๆ ผมไม่ชอบมางานสังคมแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่เพราะพ่อเป็นคนขอให้ผมมา จะเอาเมียมาด้วยก็ไม่ยอมมา คงเพราะมีแผน อุตส่าห์ซื้อของขวัญไว้ให้ เตรียมจะเซอร์ไพรส์ รู้แบบนี้มันน่าให้ไหมวะ เมียผมแม่งดื้อ !!!#ประเทศไทยมาถึงผมก็สั่งให้ลูกน้องเอาของที่ผมจะให้เมียมาที่คอนโด เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก เมื่อคุยกับลูกน้องเสร็จผมก็รีบเดินขึ้นไปที่ห้อง รอเวลาเ
หนีเที่ยว พรุ่งนี้พี่สิงห์จะต้องไปดูงานที่ต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าฉันไปด้วยไม่ได้เพราะต้องเรียน วันนี้เขาก็เลยจะงอแงเป็นพิเศษ แถมจะเอาฉันไปด้วยให้ได้เลย “ไปแค่สองวันเอง ไม่ได้รึไง?” พี่สิงห์ยกหัวขึ้นมานอนบนหน้าตักของฉันแล้วทำหน้าอ้อน ตอนนี้เราอยู่กันในห้อง พี่สิงห์เพิ่งจะไปรับฉันกลับมาจากมหาวิทยาลัย “ก็นั่นสิคะ แค่สองวันเองนะ” ฉันย้อนคำพูดของพี่สิงห์ทันที“เดี๋ยวนี้รู้จักเถียง” พี่สิงห์มองฉันตาดุ ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มของฉัน “อื้อ พี่สิงห์ ก็พริ้งบอกว่าพริ้งมีเรียนไง” ฉันจับมือพี่สิงห์ออกจากแก้มแล้วก็อธิบายเหตุผลเดิม ๆ ที่ฉันพูดไปเป็นร้อยครั้งแล้ว ให้พี่สิงห์ฟัง “ไม่อยากห่างเธอ” พี่สิงห์พูดเสียงจริงจัง“เราก็วิดีโอคอลคุยกันไงคะ ^_^”“มันเหมือนกันไหมล่ะ คอลคุยแล้วฉันได้กอดเธอไหมล่ะ” นั่นไง งอแงอีกแล้ว คนแก่นี่จริง ๆ เลยนะ “ยังไงก็ไปไม่ได้ค่ะ พี่สิงห์เข้าใจพริ้งหน่อย”“เธอใจร้ายชะมัด”“แล้วนี่เก็บกระเป๋ายังคะ?”“นี่อยากให้ฉันไปมากว่างั้น เธอมีพิรุธ !!” พูดจบพี่สิงห์ก็ลุกขึ้นมองหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง เขามองฉันด้วยสายตาที่กำลังจ้องจะจับผิดฉันอยู่“เปล่า พริ้งแค่จะเก็บกระเป๋าให้ไ
ทะเล...ที่พี่สิงห์บอกว่าจะพาฉันมาเที่ยวทะเลน่ะ ตอนแรกฉันคิดว่าทะเลที่ไทย แต่ที่ไหนได้เขาพาฉันไปเที่ยวทะเลที่ต่างประเทศ ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของคุณพ่อพี่สิงห์มา และแน่นอนว่ารวยระดับพี่สิงห์ต้องเป็นเกาะส่วนตัวนี่เดี๋ยวกลับไปจากเที่ยวก็ต้องไปงานแต่งของพี่มารีต่อด้วย เรามากันแค่สองวันหนึ่งคืนเท่านั้น เพราะมีเวลาแค่นี้จริง ๆ “ไปใส่ชุดนี้หน่อย”ในขณะที่ฉันกำลังนั่งมองบรรยากาศยามเช้าที่ชิงช้าริมหาดพี่สิงห์ก็ยื่นถุงอะไรบางอย่างมาให้ฉัน แถมเขายังทำหน้าอ้อนฉันอีกด้วย “อะไรคะ?” ฉันรับถุงมาจากพี่สิงห์ก่อนจะปิดดูข้างใน เมื่อเห็นว่าของข้างในนั้นมันมีสีแดงสดฉันก็รีบปิดถุงทันที มันคือบิกินี่ที่พี่สิงห์ซื้อให้ฉัน “บะ บ้า ก็พริ้งบอกว่าไม่ใส่ไง”พี่สิงห์นี่จริง ๆ เลยนะ ฉันอุตส่าห์ตั้งใจแล้วแท้ ๆ ที่จะไม่หยิบบิกินี่มา ไม่รู้ว่าพี่สิงห์แอบเอาใส่กระเป๋ามาด้วยตั้งแต่เท่าไหร่ “อุตส่าห์ซื้อมาตั้งแพง” พี่สิงห์บ่น แต่ฉันไม่ได้บอกให้เขาซื้อให้เลยนะ พี่สิงห์น่ะอยากจะซื้อเองต่างหาก “ก็พริ้งบอกแล้วว่าไม่ต้องซื้อ”“ก็อยากให้เมียใส่ ที่นี่มีแค่ผัวเธอนะ เธอจะอายทำไม”“ก็พริ้งอายนี่นา...” ฉันทำหน้ามุ่ยตอบพี่สิงห์
เชื่อไหมคะถ้าฉันจะบอกว่าตอนนี้ฉันถูกพี่สิงห์ลากตัวมาที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อที่จะมาเลือกซื้อชุดบิกินี่ตามที่เขาได้พูดเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่อยากจะใส่มันเลยสักนิด“พี่สิงห์ไม่เอา พริ้งบอกแล้วไงว่าไม่อยากใส่” ฉันปัดมือพี่สิงห์ออก เพราะเขาเอาบิกินี่สีแดงสดมาทาบลงบนตัวของฉัน“เซ็กซี่ดี เอาอันนี้ แล้วสีไหนอีกดี” รับบทเป็นคนหูหนวกไปแล้วค่ะแฟนฉันตอนนี้ ฉันถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จะทำยังไงกับเขาดีเนี่ยพูดไม่ฟังเลยพี่สิงห์หยิบชุดบิกินี่มาประมาณสามชุดได้แต่ละชุดควไม่ต้องให้พูดถึงความโป๊ของมันนะ ถ้าแบบนี้ให้ฉันแก้ผ้าเลยยังจะดีกว่า“ยิ้มหน่อยสิ ดูทำหน้าเข้า” พี่สิงห์บอกฉันหลังจากที่จ่ายเงินค่าชุดเดินออกมาจากร้านเรียบร้อยแล้ว“พี่สิงห์น่ะ บอกไม่ฟังเลย”“หิว กินอะไรดี เธออยากกินอะไร?” ค่ะ!! สุดท้ายพี่สิงห์ก็คือพี่สิงห์ ฉันควรชินได้แล้วจริง ๆ“อะไรก็ได้ค่ะ”“อะไรก็ได้ มันไม่มีขายหรอกนะ”“กวน... เหรอคะ” ฉันพูดเว้นคำมันก็แล้วแต่พี่สิงห์จะไปเติมคำในช่องว่าง“นั่นปากใช่ไหม ใครให้พูดกับคนที่อายุเยอะกว่าแบบนี้ อีกอย่างใครใช้ให้พูดกับผัวแบบนี้ ฮะ” พี่สิงห์มองฉันสายตาเกรี้ยวกราดเขายกมือขึ้นมาเท้าเอว
ภายในห้อง... เมื่อมาถึงพี่สิงห์ก็ยังงอนตุ๊บป่องอยู่ แต่ฉันต้องไปให้อาหารแมวก่อน ดูสิพอเห็นคนเดินเข้ามาในห้องนางร้องใหญ่เลย อึเอาไว้หลายกองด้วยนะ“ค้าบบ แม่กำลังจะเอาอาหารให้กินอยู่นี่ไงสิงห์” ฉันปรามแมวน้อยเพราะเอาแต่ร้องแล้วก็จะปีนกรงท่าเดียว“เหมี๊ยว เหมี๊ยว ~” ดูมันทำท่าเข้าสิน่ารักซะไม่มีหลังจากเอาอาหารให้แมวเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องมาง้อแฟน เฮ้อ!! เป็นฉันนี่มันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ“พี่สิงห์ งอนอะไรพริ้งอีก” ฉันถามเขาแต่พี่สิงห์ก็เอาแต่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงไม่สนใจฉันเลย“ทำไมคนแก่ชอบขี้งอนจัง ไม่กลัวพริ้งเบื่อเหรอคะ”“กล้าเบื่อฉันก็ลองดู !!” พี่สิงห์ละสายตาออกจากหน้าจอโทรศัพท์ เขาจ้องฉันตาเขม่งเลยตอนนี้“พริ้งแค่คุ้นหน้าผู้ชายคนนั้น เขาน่าจะแอบกิ๊ก ๆ กันกับยัยสารธาร”“อื้ม” พี่สิงห์พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ เขามองโทรศัพท์ในมือต่อ แต่ฉันดูออกว่าแบบนี้น่ะยังไม่หายงอนหรอกฉันถอนหายใจออกมาเบา ๆ จากนั้นก็คลานเข่าขึ้นไปบนเตียง นั่งคร่อมตรงช่วงสะโพกของพี่สิงห์แล้วก็มุดหน้าลงไประหว่างแขนสองข้างของพี่สิงห์ที่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่“พี่สิงห์ทำไมขี้งอนขนาดนี้เนี่ย” ฉันบนพึมพำบนแผงอกก
เช้าวันใหม่... ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนจะรีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงเพราะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนฉันแช่ชุดนักศึกษาเอาไว้แล้วยังไม่ได้เอาไปตากเลยเพราะเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนที่พี่สิงห์อาบน้ำอยู่เมื่อเดินเข้าไปดูในห้องน้ำฉันก็ไม่เห็นชุดนักศึกษาของตัวเองแล้ว หายไปไหนกัน“พี่สิงห์ พี่สิงห์เห็นชุดที่พริ้งแช่เอาไว้เมื่อคืนไหม” ฉันเดินไปนั่งลงบนเตียงแล้วถามพี่สิงห์ที่กำลังนอนหลับอยู่พี่สิงห์ปรือตาขึ้นมามองฉันแต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นที่เขามองหน้า สายตาของพี่สิงห์ค่อย ๆ เลื่อนมองตรงระดับหน้าอกของฉันอย่างหื่นกามแป๊ะ!! ฉันฟาดไปที่ไหล่กว้างของพี่สิงห์แรง ๆ เพราะเขาเอาแต่บ้ากามไม่สนใจคำถามของฉันเลย“โอ้ย! เธอตีแรงไปไหมวะพริ้ง” พี่สิงห์จ้องหน้าฉันสายตาดุ ๆ เขายกมือขึ้นไปลูบตรงที่เพิ่งโดนฉันฟาดไปเมื่อกี๊“พริ้งถามน่ะ ไม่ได้ยินเหรอคะ”“เอาไปตากให้แล้ว” พี่สิงห์ตอบก่อนที่เขาจะเอาหัวของตัวเองมาวางไว้บนหน้าตักของฉัน จะว่าไปพี่สิงห์ก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ยมีตากผ้าให้ด้วย“ขอบคุณนะคะ ^_^”“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็น...”“ไม่ค่ะ หยุดบ้ากามก่อนจะได้ไหม พริ้งอยากกลับห้องแล้ว แมวพริ้งไม่มีอาหารกิน”“แมวกับผัวอะไรสำคัญกว่า
ฉันดันตัวพี่สิงห์ออกเพื่อที่จะให้ตัวเองหลุดออกจากอ้อมกอดของเขา แต่พี่สิงห์กลับไม่ยอมปล่อยฉัน เขาเอาแต่จ้องไปหน้าของฉันไม่ละสายตา จนฉันต้องถอนหายใจออกมาเพราะความหนักใจกับอาการที่เหมือนเด็กของพี่สิงห์ ไม่สิ! เด็กบางคนยังพูดรู้เรื่องกว่าเขาอีกนะ“นานตรงไหนคะ แค่ไม่กี่ปีเอง”“สำหรับฉันหนึ่งเดือนก็ถือว่านานมาก” พี่สิงห์ยังคงงอแงไม่ยอมเลิก ฉันจะจัดการกับผู้ชายคนนี้ยังไงดี“เราเลิกคุยกันเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ”“ยังคุยไม่รู้เรื่อง” พี่สิงห์ขัดขึ้น เขาพ่นลมหายใจแรง ๆ รดใบหน้าของฉันด้วย“พริ้งรู้เรื่องแล้ว แต่พี่สิงห์น่ะไม่รู้เรื่อง” ฉันพูดด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง“ถ้าพี่สิงห์ยังพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้งั้นคืนนี้พริ้งขอกลับไปนอนที่คอนโดนะคะ” ฉันพูดตัดปัญหาไป เพราะขืนถ้ายังคุยกันไม่รู้เรื่องแบบนี้แล้วต้องมานอนด้วยกันพี่สิงห์ก็คงต้องหยิบเรื่องหมั้นขึ้นมาพูดอีกแน่ ๆ“เธอทำไมใจร้ายแบบนี้วะพริ้ง แม่ง!!” นั่นไง!! พอไม่ได้ดั่งใจเขาก็โวยวาย ก็เขาพูดเองว่ารอได้แล้วจะมาอะไรเนี่ย งานหมั้นเชียวนะ มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยพี่สิงห์ปล่อยกอดออกจากฉันจากนั้นก็เดินหน้าบึ้งพร้อมกับกระแทกเท้ากลับไปน
พี่สิงห์มองค้อนฉัน แอบคิดในใจนะว่านี่ฉันคิดดีแล้วใช่ไหมที่ให้อภัยเขา ดูความเอาแต่ใจของเขาสิ แต่ก็นะถ้าฉันกลับคำพูดก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน “พะ พี่สิงห์ทำแบบนี้มันสกปรกนะคะ” ฉันเบิกตากว้างเพราะ จู่ ๆ พี่สิงห์ก็ถอดเสื้อตัวเองออกมาเช็ดคราบน้ำกามของเขาที่ติดอยู่บนหน้าท้องของฉันออก แล้วก็เช็ดน้ำกามที่ติดอยู่ตรงหว่างขาให้ฉันด้วย “ถ้าไม่เอาเสื้อฉันเช็ดแล้วเธอจะเอาอะไรเช็ด เสื้อเธอไหม?” พี่สิงห์เลิกคิ้วถาม ฉันเงียบไม่ได้เถียงอะไรต่อเพราะพูดไปก็คงไม่ชนะเขาหรอก ฉันลุกขึ้นแต่งตัวโดยมีพี่สิงห์จ้องมองตลอดเวลา ส่วนเขาน่ะยังไม่ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าเลย ไม่อายเลยรึไง นี่เขาโป๊อยู่นะ ทำหน้ากวนฉันด้วยนะ“พี่สิงห์ใส่เสื้อผ้าได้แล้ว” ฉันทนมองไม่ไหวเลยต้องบอกให้พี่สิงห์ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า“นึกว่าเธออยากมอง” ดูเขาพูดสิ ไหนคำว่าอายไม่มีเลยจริง ๆ “บะ บ้าเหรอคะ ใครจะอยากมองกันล่ะ ไม่เห็นจะหน้ามองเลยสักนิด”“ก็เธอไง ไม่รู้ตัวเหรอว่าเธอจ้องมันอยู่”พอพี่สิงห์พูดแบบนั้นฉันถึงกับต้องรีบหันหน้าไปทางอื่นทันที ใบหน้ามันร้อนผ่าวฉัน ฉันรู้สึกได้เลยตอนนี้ “ไม่ต่อเหรอ?”“ตะ ต่ออะไรเล่า บะ บ้า สั่งให้นักบินเอาเครื
พอจบคำพูดของพี่สิงห์ฉันก็แสร้งทำเป็นหาวนอนยกมือขึ้นมาปิดปาก“พริ้งง่วงจังค่ะ อยากนอนแล้วเอาเครื่องลงได้แล้ว” ฉันพูดออกไปน้ำเสียงงัวเงียเพื่อให้มันดูสมจริงยิ่งขึ้น“ง่วง? นี่เธอล้อฉันเล่นหรือเปล่า” พี่สิงห์ขมวดคิ้วหนาเป็นปมพร้อมกับยืนเอามือท้าวเอวมองค้อนฉัน เขาดูจะไม่ค่อยเชื่อฉันสักเท่าไหร่“ง่วงจริง ๆ นะคะ ตาจะปิดแล้วเนี่ย”“งั้นเธอนอนไปเดี๋ยวทำเอง” พูดจบพี่สิงห์ก็ทำท่าเหมือนจะขึ้นมาคร่อมตัวฉัน เห็นแบบนั้นฉันรีบขยับหนีเขาทันทีพร้อมกับดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเอาไว้ ไม่ชอบเลยที่มีเตียงนอนอยู่บนเครื่องแบบนี้ มันเข้าทางพี่สิงห์ไปหมดทุกอย่าง“ง่วงหรือไม่อยากให้ทำ?” พี่สิงห์เลิกคิ้วขึ้นเชิงถาม ตอนนี้เขาอยู่ในท่าที่มือทั้งสองข้างวางค้ำยันกับที่นอนเอาไว้พร้อมจะคลานเข่าเข้ามาหาฉันตลอดเวลา“มะ ไม่อยากทำ” ฉันเม้มปากแน่น คือแบบฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงอะนะ คือก็คนมันยังไม่พร้อมจะให้ทำแบบนั้นนี่นา แต่แทนที่พี่สิงห์จะเข้าใจเปล่าเลยค่ะ เขาคลานเข่าเข้ามาใกล้ฉันเรื่อย ๆ“พี่สิงห์...” มันรู้สึกร้อนวูบวาบกับสายตาแบบนี้ของเขายังไงก็ไม่รู้ มันเหมือนกับว่าพี่สิงห์กำลังสื่อบอกฉันว่ายังไงครั้งนี้เขาก็ไม่ยอมปล่อยฉันไปแ