"อะไรนะ พรุ่งนี้เขาสั่งปิดที่นี่เหรอ?" กลับมาห้องทำงานทรงอัปสรก็ได้รับรายงานจากข้าวปุ้น ว่าหุ้นส่วนใหญ่สั่งปิดคลับในวันพรุ่งนี้"ใช่ค่ะเพิ่งได้รับคำสั่งมา""เขาจะบ้าเหรอ พรุ่งนี้วันทำเงินเลยนะ..หรือว่า?""หรือว่าอะไรคะ""แต่มันก็ไม่น่าใช่""อะไรคะคุณหนู""ก็พรุ่งนี้ผู้หญิงของเขาจะไป มอบของขวัญวันเกิดของเด็กที่สถานสงเคราะห์น่ะสิ แต่ทำไมต้องปิด?""คุณหนูจะไปไหนคะ" พูดกันอยู่ดีๆ ทรงอัปสรก็ลุกเดินออกไป"ก็จะไปถามเขานะสิว่าทำไมต้องหยุด" คนอุตส่าห์เตรียมชุดว่ายน้ำใหม่มาว่าจะโชว์สักหน่อยทรงอัปสรเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องของผู้บริหารอีกคน.."คุณ..ตุนท์""ครับผมตุนท์..ทำไมคุณอัปสรถึงแยกออกล่ะครับ" ตอนที่พูดกับทรงอัปสรตุนท์ก็เอื้อมมือไปเปิดประตูห้องเจ้านายรอให้เธอเข้าไปแล้ว"ก็วันนั้นฉันคุยกับคุณทันน์แล้วคุณทันน์บอกว่าผมของคุณตุนท์จะแหวกข้าง""ไอ้ทันน์เนี่ยนะครับบอกคุณแบบนั้น?""ใช่ค่ะ ทำไมคะ""ผมแค่แปลกใจครับไอ้หมอนี่มันไม่ค่อยชอบพูดกับคนเท่าไรครับ""ฉันก็เห็นว่าเขาพูดดีอยู่นี่คะ""สงสัยเพราะคุณสวยมั้งครับมันเลยพูดดีด้วย""คุณก็ว่าไป ที่นี่ก็มีแต่คนสวยๆ ทั้งนั้น""คุยอะไรกัน" นเรศวรที่นั่งอยู่ด้า
วันต่อมาหลังจากที่จัดวันเกิดให้เด็กๆ ที่สถานสงเคราะห์แล้วโอ๊ยแค่สองวันก็ถึงงานแต่งเอายังไงดีเนี่ย เราจะมีผัวแบบงงๆ จริงเหรอ ถ้าจะคุยตกลงกับคนบ้ากามแบบไอ้เสี่ยนั่นมันจะยอมตกลงกับเราไหมเนี่ย สมัยตอนที่เรียนมัธยมอยู่เธอก็เคยชอบอ่านหนังสือนิยายและดูละครทีวี ส่วนมากเขาจะแต่งงานกันหลอกๆ เธอคิดว่าอยากจะคุยกับอีกฝ่ายดูแต่งงานกันไปสักพักแล้วเลิก แต่นี่มันหวังจะเคลมเธอตลอดเวลา มันคงไม่ปล่อยให้เธอรอดพ้นไปได้หรอก..คิดแล้วก็ปวดหัว"ทำไมต้องหิวข้าวตอนนี้ด้วย คนยิ่งกำลังปวดหัวอยู่ ไม่หิวสักวันได้ไหม" พาลโมโหไปถึงท้องของตัวเองที่รู้สึกหิวเซ็งๆ แบบนี้ไปใช้เงินดีกว่า หญิงสาวลุกขึ้นมาแต่งเนื้อแต่งตัวด้วยชุดแบรนด์เนมที่เธอเพิ่งได้มาใหม่ ชุดนี้ถ้าผู้ชายไม่มองเหลียวหลังคงไม่ใช่ผู้ชายแท้แน่ทรงอัปสรเดินผ่านห้องของเพื่อนบ้านมาหยุดอยู่ที่หน้าลิฟต์ ..พอประตูลิฟต์ปิดลงเจ้าของห้องข้างๆ ก็เปิดประตูออกมาจะรีบไปไหนแต่เช้า ..เห็นชุดที่เธอใส่ออกจากห้องก็ชักจะไม่พอใจ นเรศวรกดออกจาก App กล้องวงจรปิดแล้วก็โทรออกไปหาลูกน้องถ้าจะไปห้างอื่นมันก็ไกลแถมรถติดด้วย ทรงอัปสรเลยเลือกมาที่ห้างเดิม และห้างนี้ก็มีร้านแบรนด์เนมไม
"ฉันนอนที่นี่ก็ได้ แต่ว่าคุณต้องปล่อยฉันก่อน""กอดกันนอนแบบนี้แหละจะได้อบอุ่นหน่อย""บ้าใครจะไปนอนหลับล่ะ ถ้าคุณไม่ปล่อยฉันจะกลับ"คำขู่นั้นได้ผลชายหนุ่มยอมปล่อย แต่เขาก็ยังคงนอนตะแคงข้างหันมาทางที่เธอนอนอยู่ทรงอัปสรนอนแบบระแวงไม่ไว้ใจคนที่นอนร่วมเตียงด้วย แต่ด้วยความเพลียก็ทำให้เธอหลับไปได้ชายหนุ่มที่พยายามบังคับตัวเองให้หลับ ต้องมาสะดุ้งตื่นตอนที่ถูกคนข้างๆ เอาขามาพาดทับอดเปรี้ยวไว้กินหวานทนเอาหน่อยนะไอ้ลูกชาย พรุ่งนี้เดี๋ยวจะพาลงสนามแล้วถ้าเธอยอมง่ายๆ เขาก็คงไม่ถึงกับต้องจัดงานแต่งหรอก แต่นี่เธอเล่นปฏิเสธทุกครั้ง เขาอยากลองดูซิว่าถ้าต้อนเธอจนหลังชนฝาแล้วจะไปยังไงต่อได้อีกเช้าวันต่อมา.."กรี๊ดดด" ทรงอัปสรลืมตาขึ้นมาก็พบว่ามีผู้ชายนอนอยู่เตียงเดียวกับเธอ"จะกรี๊ดทำไม""คุณมานอนห้องฉันได้ยังไง" พอเห็นว่าเป็นเขาเธอก็ผงกศีรษะขึ้นมอง"นี่ห้องใครก็ดูให้ดีหน่อยสิ"ได้ยินแบบนั้นทรงอัปสรเลยเงยหน้าไปมองรอบๆ ห้อง ห้องเขาจริงๆ ด้วย "คุณทำอะไรฉันหรือเปล่า ปล่อยฉันก่อนสิ"นเรศวรไม่ได้ตอบโต้เขาเพียงแค่มองต่ำลงไปดู เพราะตอนนี้เธอแทบจะสิงร่างเขาอยู่แล้วคนอะไรจะนอนดิ้นขนาดนี้"แล้วทำไมคุณไม
"ทีแรกนึกว่ามันพูดเล่น นี่มันแต่งงานกับหุ้นส่วนจริงๆ เหรอ" สมิงดำถามขุนรามเพราะขุนรามใกล้ชิดกับนเรศวรมากที่สุด วันนั้นที่มาเยี่ยมที่นี่ยังเห็นจะกินเลือดกินเนื้อกันอยู่เลย"กูจะรู้เหรอ""แล้วนี่มึงมองหาอะไร" สมิงดำยังคงสงสัยในตัวขุนราม มาร่วมงานแต่งเพื่อนแท้ๆ แต่ไม่ได้มองที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเลย เอาแต่มองไปรอบๆ งานเหมือนหาอะไรบางอย่าง"แล้วมึงจะมาสนใจกูทำไม สนใจเจ้าบ่าวเจ้าสาวโน่น""กูไม่พูดกับมึงแล้ว" สมิงดำเลยหันไปพูดกับสิงขรที่เอาแต่นั่งเงียบอยู่งานแต่งของนเรศวรเพื่อนแก๊งมาเฟียทั้ง 6 ของพวกเขาวันนี้ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา แต่มันก็ไม่เหมือนวันวานแล้ว เพราะมีอยู่สองคนที่ไม่พูดคุยกัน ส่วนอีกคนที่เป็นหุ้นส่วนลับๆ ของนเรศวรก็ขอตัวกลับก่อนเพราะมีงานต้องทำคู่บ่าวสาวเดินขอบคุณแขกจนมาถึงโต๊ะที่เพื่อนๆ เขานั่งอยู่"อ้าว ยังไม่ได้ขอบคุณเพื่อนคุณเลย""ไม่ต้องขอบคุณพวกมันหรอกมาทางนี้""ไม่ได้ค่ะต้องขอบคุณทุกคน" เจ้าสาวที่ถูกเจ้าบ่าวลากแขนออกจากโต๊ะนั้นแกะมือของเขาออกก่อนจะเดินกลับไป "สวัสดีค่ะคุณขุนราม""สวัสดีครับ""สวัสดีค่ะ" หลังจากที่ไหว้ขุนรามแล้วทรงอัปสรก็หันไปไหว้เพื่อนๆ ของเขาที่นั่งอยู่ด
"อื้อ ไอ้ลามกนายทำอะไร" หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ "อยู่นิ่งๆ สิ""เอาใบหน้าคุณออกไปเลยนะ!" มือเรียวพยายามดันใบหน้าของเขาให้ออกไปจากตรงนั้น"พูดเหมือนไม่เคย ผู้หญิงส่วนมากก็ชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ""คุณก็ไปทำแบบนี้กับผู้หญิงส่วนมากสิ!""คุณไม่ชอบ?" ทีแรกคิดว่าเธอแค่มารยา แต่ดูท่าทีแล้วเธอห้ามแบบจริงจังมากเลย"ไม่!" ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้เรื่องแบบนี้เธอก็ต้องรู้แหละอายุขนาดนี้แล้ว แต่พอคิดว่ามีปากหรือลิ้นของใครมาสัมผัสอวัยวะส่วนนั้นเธอก็รู้สึกสยิวขนลุกยังไงไม่รู้"ถ้างั้นเตะเข้าโกลเลยนะ" ผู้หญิงคนนี้ทำไมแปลกจัง เคยเห็นแต่ผู้หญิงส่วนมากอยากให้ทำให้ดีๆ หน่อยชายหนุ่มขยับกายขึ้นมาก่อนจะจับดักแด้ที่เพิ่งออกจากฝัก ไม่สิต้องเรียกว่ามังกรผงาดฟ้าสะท้านไปถึงดิน ออกมาชักรูด 2-3 ครั้งเพื่อไม่ให้มันตึงมากทรงอัปสรหลับตาปี๋เพราะความเกร็งแทบจะลืมหายใจเลยด้วยซ้ำจังหวะที่เจ้าหนอนผีเสื้อถูกเจ้าของมันจับเสียดสีกับกลางร่อง "โอ๊ย" แต่เขาเสียดสีอยู่แค่ครู่ก่อนจะดันยอดปลายของมันเข้ามา"ซี๊ดด" ตอนที่ดันเข้าไปเขาไม่ได้ระวัง คิดว่ามันจะไม่ได้เข้ายากขนาดนี้ เกือบหักแล้วไหมล่ะ"เจ็บนะโว้ย!" ดันเข้ามาไม่ด
"เอามือออกไปนะ" หลังจากที่ทุกอย่างผ่านไปเขายังคงนอนกอดเธอไว้แน่น"ถ้าไม่อยากถูกทำประตูอีกก็นอนอยู่นิ่งๆ""ฉันอึดอัด ใครจะไปนอนหลับได้ล่ะ" จำได้ว่าเคยถูกนอนกอดแบบนี้ครั้งสุดท้ายตั้งแต่สมัยเรียนประถมมั้ง และอ้อมกอดนั้นมันก็อบอุ่นมากเพราะมันคืออ้อมกอดของแม่"อีกสักประตูไหม""ไม่!""ครั้งเดียวก็จอดแล้วเหรอนึกว่าจะเก่ง" ชายหนุ่มพูดพลางขยับตัวออกทุกครั้งถ้าถูกเขาท้าทายแบบนี้เธอคงหันไปต่อว่าเสียๆ หายๆ แล้ว แต่ครั้งนี้เธอปล่อยไปก่อน เพราะร่างกายที่บอบช้ำจาก การถูกมันทำประตูมาเช้าวันต่อมา.. ทรงอัปสรตื่นขึ้นมาก็ไม่พบคนที่นอนอยู่ข้างๆ แล้ว เธอคิดว่าเขาคงให้ลูกน้องมารับออกไป หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งเนื้อแต่งตัวเสร็จเธอก็ลงมาข้างล่าง"?" ก้าวลงมายังไม่ถึงบันไดขั้นสุดท้ายก็ได้ยินเสียงหัวเราะของคนในบ้าน พอมองไปก็เห็นว่าเป็นเสียงน้องสาวที่กำลังหัวเราะเริงร่ากับพี่เขยอยู่ทรงอัปสรเดินลงมาก็เดินตรงออกไปหน้าบ้านโดยไม่ได้หันไปมองพวกนั้นอีก"ขอตัวนะครับ" ที่จริงคนที่นั่งร่วมวงสนทนาก็ยังมีพ่อของเธออยู่ด้วย แต่ท่านนั่งหันหลังและอยู่ชิดกำแพงเธอเลยมองไม่เห็น"คุณหนูจะกลับแล้วเหรอคะ" ข้าวปุ้นกำลัง
"หยุดนะคุณ!" คนตัวเล็กที่ถูกทับอยู่ใช้แรงทั้งหมดดันร่างเขาให้ออกไป"จะหวงอะไรกับผัว""ฉันไม่ได้โรคจิตเหมือนคุณ นี่มันห้องทำงานและเวลานี้ก็เป็นเวลาทำงาน""เราเป็นเจ้าของกิจการจะไปซีเรียสทำไม"เขาพูดมาแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน และเธอก็คิดว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว"ที่รักคะ" แหวะ..พูดออกไปแล้วก็อยากจะอ้วก"หือ?" เมื่อครู่ยังเหวี่ยงยังวีนใส่อยู่เลยชักจะไม่ดีแล้วสิมือเรียวที่ผลักดันเขาออกเมื่อครู่ค่อยๆ วางแนบลงกับเนคไทก่อนจะขยับมันให้เข้าที่เล็กน้อย "คุณยังสนใจหุ้นฉันอยู่ไหมคะ"ว่าแล้วต้องมีอะไรสักอย่างแน่ถึงกับลงทุนเรียกที่รักเลยเหรอ"ถ้าคุณยังสนใจ ฉันก็จะขายให้ค่ะ""ทำไมผมต้องซื้อหุ้นของเมียตัวเองด้วย คุณเคยได้ยินสุภาษิตเรือล่มในหนองไหม""คุณคิดจะฮุบหุ้นฉันหรือไง" เสียงอ่อนเสียงหวานเมื่อคู่เปลี่ยนไปในพริบตา"มันก็น่าคิดนะ" "อย่าบอกนะที่แต่งงานกับฉันเพราะต้องการหุ้นของฉันฟรีๆ" จากที่กำลังยั่วยวนเพื่อขายหุ้นอยู่เมื่อครู่ เธอก็ใช้แรงดันเขาจนอีกฝ่าย ร่างกระเด็นตกโซฟาลงไป ..เรือล่มในหนองงั้นหรือ อย่าบอกนะว่ามันคิดจะฆ่าเราอีกคน"อะไรอีกล่ะ" กำลังจะลงสนามอยู่แล้วเชียว"ฉันจะออกไปแล้ว" ทรงอ
"คุณหนูเป็นอะไรคะ" ข้าวปุ้นเห็นทรงอัปสรกุมท้องเดินเข้ามา"เปล่าหรอกสงสัยว่าหิวข้าว" ที่จริงไม่ได้หิวหรอกแต่จุก"เดี๋ยวโรคกระเพาะก็ถามหาหรอกค่ะ ข้าวปุ้นไปหาอะไรมาให้ทานก่อนนะคะ""ขอบใจจ้ะ" หลังจากที่ข้าวปุ้นออกไปแล้วทรงอัปสรถึงได้ค่อยๆ วางสะโพกลงกับเก้าอี้ "อือ" เจ็บขนาดนี้จะทำงานไหวไหมเนี่ย พรุ่งนี้ถ้ายังถูกเขาทำอะไรแบบนี้อีก แล้วเธอจะโชว์ชุดว่ายน้ำยังไงเวลาผ่านไปอีกชั่วโมงกว่า เธอคิดว่าคงนั่งทำงานต่อไม่ไหวแล้ว เลยบอกข้าวปุ้นว่าจะกลับก่อน"คุณหนูไม่สบายหรือเปล่าคะ""ก็นิดหน่อยข้าวปุ้นดูงานแทนฉันหน่อยนะ""ได้ค่ะ ถ้าพรุ่งนี้คุณหนูทำงานไม่ไหวก็ไม่ต้องมานะคะ""นอนพักสักหน่อยคงดีขึ้น"หลังจากที่ทรงอัปสรออกไปได้พักใหญ่ นเรศวรก็เดินมาดูเธอที่ห้องทำงาน"คุณอัปสรกลับไปแล้วค่ะ เห็นว่าเธอไม่สบาย""ไม่สบายเป็นอะไร""สงสัยปวดท้องค่ะ""ปวดท้อง?" แค่เจอเข้าไปสองนัดก็ไม่ไหวแล้วเหรอทำงานอีกไม่นานนเรศวรก็กลับมาที่คอนโด อยากจะเข้าไปดูเธอในห้อง แต่ถ้าเธอรู้ว่าเขารู้แล้วกลัวว่าเธอจะโกรธ เลยต้องเดินกลับมาที่ห้องของตัวเองเพิ่งแต่งงานกันไปแค่คืนที่สองก็ต้องแยกห้องนอนกันแล้ว อะไรวะเนี่ย..ถ้าเพื่อนรู้อายเ
ขุนราม [มาเฟียร้ายรัก] บทที่ 97 ตอนจบเธอไม่รู้หรอกว่าท่านให้มาบริษัททำไม แต่รินรดาก็แต่งตัวเรียบร้อยให้ดูเป็นหน้าเป็นตาของสามีตอนที่เขาพาเธอเดินเข้ามาพนักงานต่างก็ทำความเคารพกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา"เข้ามาด้วยกันสิคะ" หญิงสาวเห็นว่าพนักงานยืนรอลิฟต์กันหลายคน พอเธอกับสามีเดินเข้ามาพนักงานก็ไม่กล้าเข้ามาด้วย"เอ่อ..""เข้ามาสิ" จริงๆ ตอนที่เขาใช้ลิฟต์ไม่มีใครกล้าใช้ด้วย แต่พอท่านรองประธานอนุญาตให้เข้าพนักงานก็เข้าไปแต่ก็เข้าไม่กี่คนรินรดาขยับให้พนักงานยืนกันจนหลังเธอพิงเข้ากับร่างของขุนราม เขาเลยเอื้อมมือมาโอบเอวเธอไว้ พนักงานไม่ได้หันไปมองหรอกแต่มองผ่านผนังของลิฟต์ที่เป็นกระจก เห็นภาพนั้นแล้วต่างก็อมยิ้มไปตามๆ กันจนลิฟต์มาเปิดที่ชั้นผู้บริหาร ส่วนพนักงานออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว"ไปห้องทำงานผมก่อน" เขาคิดว่าห้องประชุมคงยังไม่เรียบร้อย ค่อยพาเธอไปทีหลังแล้วกันแต่พอเข้ามาในห้องทำงานไม่นานเลขาก็มาตามให้เข้าห้องประชุมห้องประชุมใหญ่ของบริษัทณโยดม.."มานั่งนี่สิ" รัตติกาลที่นั่งตำแหน่งประธานบริษัทแทนสามีที่เสียไป เรียกให้ลูกชายมานั่งประจำที่ของนาง"ครับ?" ทุกครั้งที่เขาจะนั่งตรงนั้นก็ตอนท
คืนนั้นที่บ้านณโยดม..ก๊อกๆ "ที่รักครับ เปิดประตูให้ผัวหน่อย""คุณไปนอนห้องอื่นเลยค่ะฉันจะนอนกับลูก""คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ" ชายหนุ่มไม่ได้พูดเสียงดังเพราะกลัวแม่จะได้ยินว่าเธอไม่ให้เขาเข้าห้องด้วย"ถ้าคุณยังพูดอยู่แบบนี้เดี๋ยวลูกก็ตื่น" ขุนเขาเข้ามารอแม่ตั้งแต่เล่นกับคุณย่าเสร็จแล้ว จนตอนนี้แกนอนหลับรออยู่ในห้อง พี่เลี้ยงที่ดูแลก็ออกไปตอนที่เห็นคุณผู้หญิงกลับมา พอเข้ามาในห้องเธอก็จัดการล็อกห้องไม่ให้เขาตามเข้ามาได้"ไหนเราเคลียร์กันรู้เรื่องแล้วไง เปิดประตูให้ผมหน่อยนะ""รู้เรื่องแค่คุณน่ะสิคะ จำไว้ว่าอย่าทำแบบนี้อีก" ตอนที่รู้ว่าพี่ชายเปลี่ยนยาคุมกำเนิดเป็นยาบำรุงให้กับทรงอัปสรเธอก็รู้สึกโมโหมากพออยู่แล้ว พอมาเจอกับตัวยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวเขามากมายแต่เธอต้องดัดนิสัยเขาบ้าง จะได้ไม่มีความคิดแผลงๆ แบบนี้อีก"คุณเมียครับ พรุ่งนี้ผัวต้องไปทำงาน""ก็ไปนอนห้องอื่นสิคะ" ในใจก็แอบรู้สึกสงสาร เพราะเขาต้องรับผิดชอบบริษัทที่ใหญ่โต ผ่านไปสักพักรินรดาก็รู้สึกว่าด้านนอกเงียบไปแล้ว เธอเลยเดินมาเปิดประตูดู "อุ้ยคุณ"เธอประเมินความอดทนของเขาต่ำไป เขารู้ว่าถ้าเงียบเธอต้องม
"ดูเหมือนคุณจะตกใจจังเลยนะคะ มีอะไรหรือเปล่า""ปะเปล่าา ผมจะมีอะไรล่ะก็นั่นน้องสาวผม""ไม่มีอะไรแน่นะคะ" เธอรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าแผนการ แถมสายตาที่มองเพื่อนดูมีพิรุธมันต้องมีอะไรแน่"อีกสามวันก็เป็นวันเกิดหุ้นส่วนอีกคนแล้ว" นเรศวรรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะถ้าไม่งั้นเขาคงถูกจับได้แน่ว่ามีส่วนร่วมแต่มีหรือที่ทรงอัปสรจะปล่อยไป เธอคิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ ฉับพลันนั้นทรงอัปสรก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เพราะเธอยังไม่ได้จัดกระเป๋าใหม่ แสดงว่าเจ้าสิ่งนั้นมันยังคงอยู่ในกระเป๋า"อยู่ไหนนะ""คุณอัปสรหาอะไรเหรอคะ""ลิปสติกน่ะสิคะว่าจะเติมสักหน่อย" เธอแสร้งทำเป็นค้นหาของในกระเป๋าแต่ระหว่างนั้นคนในห้องก็คุยเรื่องวันเกิดของหุ้นส่วนอีกคนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่องอื่น"ปีนี้มันจะจัดวันเกิดเหรอ" พวกเขาไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันเกิดมากนักนอกจากครอบครัวจะเป็นคนจัดให้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีครอบครัวก็ชวนเพื่อนมาดื่มกินที่บ้านหรือไม่ก็นัดกันที่ร้านอาหาร"มันบอกว่าจะมาสังสรรค์กันที่นี่แหละ""จะปิดร้านเลี้ยงวันเกิดเหรอ""ไม่ได้ปิดแต่มันบอกว่าถ้าลูกค้าคนไหนมาใช้บริการคืนนั้นมันจะเป็นคนเลี้ยงเอง""ไอเดียเจ๋งนี่""
"ที่คุณพูดหมายความว่ายังไงคะ" หญิงสาวตามเขาขึ้นมาข้างบน แต่ยังไม่ถึงห้องทำงานเลยด้วยซ้ำเธอก็อดถามเรื่องนี้ไม่ได้"สวัสดีค่ะท่านรอง" แต่ก่อนที่เขาจะตอบเธอก็ได้ยินเสียงนี้ก่อน"?" ทั้งสองที่เดินตามกันมาหยุดแล้วก็มองคนที่กล่าวสวัสดีเมื่อครู่ ก่อนที่ขุนรามจะหันไปมองดูสายตารินรดา "คุณเป็นใคร""ชะเอมเป็นเลขาคนใหม่ที่มาแทนคุณเอวาค่ะ""เธอไปทำงานแผนกอื่น เปลี่ยนเลขาคนใหม่มา""แต่ชะเอมสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้วนะคะ""ตกลงใครเป็นเจ้าของบริษัท""เอ่อ.."เขาไม่รอฟังคำอธิบายก็พาเธอเข้าไปในห้องทำงานก่อน"คุณยังไม่บอกฉันเลย""ผมไม่ได้หาเลขาเองเลยไม่รู้ว่าเขาส่งใครมา""ฉันไม่ได้หมายถึงผู้หญิงคนเมื่อกี้""อ้าวแล้วคุณหมายถึงอะไรล่ะ""เรื่องที่คุณบอกว่าเลขาคนเก่าอยู่โรงพักไงคะ""ไม่ใช่แค่เลขาคนเก่าหรอกที่อยู่โรงพัก ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นตอนนี้อยู่โรงพักทั้งหมด""อะไรนะคะ คุณส่งพวกนั้นให้กับตำรวจเหรอคะ""ข้อหาพยายามฆ่า""พยายามฆ่า?""ใช่ ผมแจ้งความจับทั้งหมดเลย ผมจะไม่ให้ใครทำร้ายคุณได้อีก""อย่าบอกนะคะว่าที่คุณรับสมัครพนักงานใหม่?""อืม" ชายหนุ่มตอบเธอไปโดยการเปล่งเสียงออกมาจากลำคอเบาๆ สายตามองดูผู้หญิ
"อื้อ" สะโพกงามเด้งรับเรียวลิ้นที่ตวัดเลียวนอยู่กึ่งกลางร่อง "อ่ะอ่ะอ่ะมะไม่ไหวแล้วค่ะ"ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางมันก็ยิ่งทำให้เขาเร่งความเร็วที่กำลังทำอยู่ เพราะเขาต้องการเห็นเธอเสร็จก่อนโดยที่ยังไม่สอดใส่และเขาก็ทำได้สำเร็จ ชายหนุ่มค่อยๆ ชักนิ้วออกมาก่อนจะขยี้นิ้วให้เธอเห็นว่าเขาเก่งไหมที่ทำให้เธอหลั่งได้โดยที่ยังไม่เจอไม้เด็ด"ทำบ้าอะไรของคุณ""แต่ก่อนชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ""ยังจำได้อยู่เหรอ นึกว่าจำแต่เรื่องผู้หญิงคนอื่นได้""ผู้หญิงคนอื่นที่ไหนไม่มีหรอก" ขณะที่เอ่ยร่างหนาก็ขยับขึ้นมา ก่อนจะคว้ามือเล็กมาโอบอุ้มความแข็งแกร่งเพื่อให้เธอวัดขนาด และในเวลาเดียวกันเขาก็จับมือเธอรูดชักขึ้นและลง"พูดเหมือนฉันจะเชื่อ"ใบหน้าหล่อคมเผลอเผยรอยยิ้มออกมา แต่ก็รีบซ่อนอาการนั้นไว้"ปล่อยนะ!" ถึงแม้จะรู้ว่าเขาคงไม่เก็บร่างกายตัวเองไว้ใช้แค่กับเธอ แต่ก็อยากได้ยินเขาพูดอะไรออกมาบ้าง แม้ว่ามันจะเป็นคำโกหก"จะจบเกมคนเดียวได้ยังไง แบบนี้ผมก็เคว้งคว้างน่ะสิ""คุณก็ไปปล่อยกับผู้หญิงพวกนั้นสิ""หึงผัวเหรอ""อึบ!" รินรดากัดฟันใช้แรงที่อุ้งมือ"ซี๊ดดดอ๊อยย ถ้ามันขาดจะมีใช้ไหม" ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง"ไม่มีก็ไม่ใ
"ถึงแบบนั้นก็เถอะค่ะ ข้อหาพยายามฆ่ามันไม่รุนแรงเกินไปเหรอคะ" เอวาก็เป็นลูกของผู้มีฐานะท่านหนึ่ง ไม่ยอมเจอข้อหาอะไรแบบนี้ง่ายๆ อยู่แล้ว"รุนแรงเกินไป? เธอจะให้ฉันรอจนเมียกับลูกฉันเป็นอะไรไปงั้นเหรอ" ชายหนุ่มหันหน้ามาประชันกับผู้หญิงที่เขาไม่เคยเห็นค่าเลย"แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมรับข้อหานี้" ในขณะที่พูดใบหน้าเอวาก็เชิดขึ้นแบบหยิ่งผยอง"แสดงว่าเธอยอมรับแล้วว่าเป็นตัวบงการ คุณตำรวจได้ยินหรือยังครับ""เชิญคุณเอวาไปที่โรงพักด้วยครับ""ฉันยอมรับตอนไหน! คุณแม่คะช่วยเอวาด้วยค่ะ" เอวาที่ถูกตำรวจพาออกไปตะโกนเข้ามาขอให้แม่ของเขาช่วย "ถึงยังไงเอวาก็ไม่ยอมถูกจับ""และก็เชิญพนักงานทุกท่านขึ้นรถด้วยนะครับ" ตำรวจหันมาบอกพนักงานที่อยู่ในที่นี้ทั้งหมด และรถที่ตำรวจเตรียมมาก็คันใหญ่พอที่จะขนคนพวกนี้ไปได้"พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะคะ เราไม่ได้แตะตัวภรรยาของท่านรองเลยค่ะ" ในคลิปกล้องวงจรปิดก็ไม่เห็นว่าคนพวกนี้ทำอะไร แค่มีแต่คำพูดที่วิพากษ์วิจารณ์"นั่นแหละมันคือข้อหาของพวกเธอ เห็นคนถูกทำร้ายร่างกายทำไมไม่ช่วย แถมยังยืนพูดให้ร้าย" เขาไม่คิดจะปล่อยใครไปง่ายๆ แน่ ยิ่งคนยืนมุงนี่แหละสำคัญเล
"ถ้างั้นเอวาขอลงไปรอข้างล่างก่อนนะคะคุณแม่" เอวาคิดว่าลงไปรอข้างล่างดีกว่า ถ้าขุนรามเห็นคงไม่ให้เธอไปด้วยแน่ หรือไม่เขาอาจจะไม่ออกไปเลย"ดีเหมือนกันถ้างั้นหนูไปรออยู่ที่รถนะ" ถึงยังไงเอวาก็เป็นบุตรสาวของเพื่อนรัก ถ้าทั้งสองไม่มีบุญวาสนาต่อกันจริงๆ ยังทิ้งความเป็นเพื่อนไว้อยู่เอวาลงมาข้างล่างก็เห็นว่าพนักงานกำลังยืนมุงอะไรกันอยู่"มีอะไรกัน" เธอเลยรีบเดินตรงไปดู นี่มันยังไม่ไปอีกเหรอ? ออกมาก็เห็นว่าคนที่ถูกมุงอยู่ก็คือรินรดา"คุณเอวามาโน่นแล้ว" พนักงานที่ยืนมองดูกันอยู่ต่างก็ขยับออกให้เอวาเดินเข้ามา"ดูมันสิคะ ยังหน้าด้านหน้าทน""เธอนี่ทนทายาทจริงๆ เลยนะ ใครก็ได้รีบลากตัวมันออกไป" จะปล่อยให้รินรดาอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว เพราะเดี๋ยวอีกหน่อยขุนรามก็จะลงมา"ปล่อยฉันนะ" พอได้รับคำสั่งรปภ.ที่อยู่ตรงนั้นก็รีบมาลากตัวรินรดาออกไป ส่วนเธอไม่ยอมให้พวกนั้นถูกเนื้อต้องตัวได้ง่ายๆ เลยมีการดิ้นรน"แล้วจะมายืนมุงอะไรนักหนาไม่ไปกินข้าวกันหรือไง" เอวาหันไปตะคอกพนักงานที่ยืนมุงกันอยู่"พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้!" เพราะเธอดิ้นรนจนทำให้เสื้อที่ใส่อยู่ถูกกระชากจนขาดหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เป็นผู้ชา
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นอะไรมาก" หลังจากตรวจอาการดูแล้วคุณหมอก็ให้แค่ยาทาแก้ฟกช้ำภายนอก"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว""คุณจะไปไหน" เขาไม่ได้ขับรถกลับทางเดิมเธอเลยสงสัย"กลับบ้านเรา""กลับบ้าน?" รินรดามองดูทางที่เขาขับไปอีกรอบ ทางนี้ก็ไม่ได้กลับบ้านเธอนี่ "คุณจะพาฉันไปบ้านหลังไหน"[คฤหาสน์ณโยดม]"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม""ลูกอยู่ที่นี่แล้ว""ทำไมลูกถึงมาอยู่ที่นี่""ผมจะไม่ยอมให้คุณกลับไปทำงานที่เสี่ยงอันตรายแบบนั้นอีก""มันก็ไม่ได้เสี่ยงขนาดนั้น""กี่ครั้งแล้วที่ผมเห็นคุณตกอยู่ในอันตราย แล้วไอ้ที่ผมไม่เห็นล่ะกี่ครั้ง""ฉันจะพยายามดูแลตัวเอง""คุณไม่ต้องพยายามเดี๋ยวผมจะดูแลคุณเอง""คุณก็รู้ว่าฉันกับแม่คุณไม่ค่อย..""ท่านยอมไปตามถึงที่บ้าน คุณไม่รู้เลยหรือไงว่าท่านยอมเราสองคนแล้ว"พอเขาลงจากรถเธอก็ไม่ยอมตามลงไป จนขุนรามเดินมาเปิดประตูรถให้ เธอยังคงนั่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่"สงสัยอยากจะให้ผมอุ้ม""อุ๊ยคุณจะทำอะไร ปล่อยฉันลงนะ""อย่าดิ้นเดี๋ยวก็หลุดมือ""ฉันเดินเองได้""อุ้ยคุณผู้ชาย" แม่บ้านได้ยินเสียงรถเลยมาเปิดประตูให้ พอประตูเปิดออกก็เห็นว่าคุณผู้ชายกำลังอุ้มภรรยาอยู่"ปล่อยฉันลงได้หรือยัง" หลังจากที่
"แม่มาทำไมครับ""แกทำไมถามแม่แบบนี้""แม่อย่ามาก่อเรื่องที่นี่ดีกว่าครับ""แกอย่าลืมนะว่าฉันมีลูกแค่คนเดียว และแกก็มีแม่แค่คนเดียวด้วย"รินรดาที่เดินตามหลังเขามายกมือไหว้ท่านแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร และกำลังจะเข้าไปในบ้าน"ฉันอยากคุยอะไรกับแกและก็เมียแกหน่อย"ขุนรามหันมองไปดูเธอที่เดินเข้าไปในบ้านแต่พอได้ยินแม่เขาพูดแบบนั้นเธอก็หยุดแล้วหันกลับมา"แม่จะคุยอะไรครับ""คุยเรื่องของแกนี่แหละ บริษัทก็ไม่รู้จักเข้า ฉันแก่มากแล้วแกจะให้ฉันทำงานไปถึงไหน" หลายวันแล้วที่ลูกชายไม่เข้าบริษัท และนางก็ต้องเป็นคนดูแลเองทั้งหมด"แล้วแม่ทำตามที่ผมขอหรือยังล่ะครับ""ฉันถึงจะมาคุยกับแกอยู่นี่ไง""ถ้างั้นแม่ก็เข้ามาในบ้านก่อนสิครับ" ตอนที่ชวนแม่เข้าบ้านเขาไม่ลืมที่จะมองไปดูหน้าเธอก่อน แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร"นี่ห้องรับแขกเหรอ แล้วทำไมไม่ติดแอร์สักตัว""แม่ครับ" ขุนรามตำหนิแม่"จะไม่ให้ฉันพูดอะไรเลยหรือไง ร้อนๆ แบบนี้หลานฉันอยู่ยังไง""ผมอยู่ในห้องกับแม่ครับ" ขุนเขาเป็นคนตอบคุณย่าเอง ช่วงนี้อากาศร้อนมาก อุณหภูมิถึง 40 องศาเลยแหละ"แม่จะพูดอะไรก็รีบพูดมาสิครับ""ฉันจะมาบอกให้แกกลับไปทำงานที่บริษัท เรื่องนั้นเดี๋ยว