“คงต้องสระผมด้วย” วาโยบ่นงึมงำขณะแกะมวยผมออกให้น้องอย่างเบามือ
“อาบน้ำอย่างเดียวจริงๆเหรอคะ” คนที่เคยร่วมอาบน้ำพร้อมกับเขาถามอย่างไม่ไว้ใจ
วาโยมองสบตาน้อง เขายิ้มกรุ้มกริ่ม ย่อตัวลงอุ้มน้องขึ้นแนบอก แล้วกระซิบตอบเสียงแหบพร่า
“ไม่น่าจะจริงครับ”
“ฮือ...หายไปไหนนะเงินหนึ่งล้านของฉัน”
หลังจากส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอเรียบร้อย แขกเหรื่อก็ร่วมรับประทานอาหารกันและเริ่มทยอยกลับจนเกือบหมดแล้ว บรรดาญาติสนิทที่จะพักค้างคืนที่นี่ก็พาไปรวมตัวกันที่บ้านหลังใหญ่ ปล่อยให้บ่าวสาวอยู่ในห้องหอภายในบ้านไม้เพียงลำพัง แต่คนที่ทำเช็คมูลค่าหนึ่งล้านบาทหายกลับต้องกลับมาที่บ้านไม้อีกครั้ง เพื่อตามหามัน
“เช็คจ๋า ออกมาหาติ๊บเถอะ”
พลอยชมพูก้มหน้าเดินหาไปรอบๆบ้าน เธอมั่นใจว่ามันต้องตกอยู่ข้างล่าง เพราะก่อนก้าวลงจากบันได เธอเอามือจับดูก็พบว่ามันยังอยู่ตรงชายพก ตอนนั้นเธอลงมาแล้ววิ่งไล่จับพี่พร้อมน้องพริ้งช่วยพี่หนูพรรณ เช็คอาจจะหล่นตอนนั้นก็ได้
หญิงสาวในชุดไทยประยุกต์ที่กำลังถลกผ้าถุงเดินไปมา แล้วเอาแต่ก้มหน้าเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่างทำให้คนที
“อ้าว! กลับไปแล้วเหรอ กูนึกว่ามึงจะอยู่ต่ออีกนาน เลยไปเดินเล่นรอ ถูกพี่เมียไล่ตะเพิดอีกล่ะสิ อือๆ งั้นกูกลับเลยแล้วกัน”พบรักเดินหนีไปทันทีที่วางสาย เขาตรงไปยังรถกระบะสี่ประตูของตนที่จอดอยู่ไม่ไกล เขามางานนี้เพราะกวีซึ่งเป็นอดีตสามีของพรรณดาราชวนมาเป็นเพื่อนเผื่อกูถูกไอ้เพลิงยิงตาย มึงจะได้ช่วยเก็บศพกูกลับไปให้พ่อแม่กูทำพิธีนั่นเป็นเหตุผลที่มันบอกกับเขา ตอนที่โทรไปขอร้องให้เขามาเป็นเพื่อนพลอยชมพูมองตามร่างสูงใหญ่เดินห่างออกไป จะตะโกนเรียกก็ไม่รู้จักชื่อ กระทั่งเขาขึ้นรถคันใหญ่ขับออกไปแล้ว หญิงสาวก็ยังมองตามด้วยความหงุดหงิด เธอรู้สึกติดค้างหนี้บุญคุณเขา“ต้องตามไปชดใช้ในชาติหน้าไหมเนี่ย”วาโยยิ้มบางเมื่อเปิดประตูห้องฟิตเนสส่วนตัวเข้ามา แล้วพบว่าภรรยาของตนกำลังเล่นโยคะอยู่บนเบาะรองที่กลางห้อง เธออยู่ในท่วงท่าคลาน เข่าสองข้างห่างกันเล็กน้อย กดเอวลงจนสะโพกยกสูง สองแขนยืดตึง และเงยหน้าเชิดขึ้น ชายหนุ่มรออยู่เงียบๆ กระทั่งเธอเปลี่ยนท่าและมองเห็นเขาเอง“พี่โย มานานแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถาม พร้อมกับเปลี่ยนท่วงท่าไปตา
วาโยใช้นิ้วกดกลางรอยแยกหว่างขา เขาสูดลมหายใจเข้าปอดยาวๆ หัวใจแกร่งเต้นแรง เขาต้องข่มกลั้นอารมณ์เต็มที่เมื่อพบว่ามันเปียกชุ่ม น้ำสวาทสาวซึมผ่านเนื้อผ้าออกมาชายหนุ่มกดปลายลิ้นลงบนเนื้อผ้าเปียกชุ่ม ตวัดช้าๆเน้นหนัก นิ้วโป้งข้างขวาบดขยี้ตำแหน่งปุ่มเนื้อระรัว“อ๊ะ พี่โย อ๊า...” พลอยไพลินเด้งสะโพกสูงส่ายร่อนร้อนร่าน หญิงสาวควานมือลงมาขยุ้มเส้นผมสามีไว้แน่น การสัมผัสผ่านเนื้อผ้าให้อารมณ์เร้าใจแปลกใหม่ เสียดเสียวทรมาน“เต็นจ๋า...เมียพี่หอมเหลือเกิน” วาโยพร่ำเพ้ออยู่กับซอกขาสาว เขากัดขย้ำ ขบเม้ม และลงลิ้นแทงเร็วๆสลับกันไป มือหนาบีบนวดโคนขาหนีบ เร่งเร้าอารมณ์สาวคนถูกสามีกัดกินโดยไม่ปอกเปลือกเสียวกระสันจนมิอาจกลั้นเสียงครวญครางไว้ได้ แรงซุกไซ้จากคนหลงเนื้อนวลเมียส่งผลให้ร่างสาวเขยื้อนกระเพื่อมไหว ยิ่งเขาเพิ่มความรุนแรงในการจ้วงลิ้นแทงมากเท่าไร พลอยไพลินก็เสียดเสียวมากขึ้น เธอกำลังจะระเบิดพร่างทั้งที่เขาไม่ได้แตะต้องโดยตรง“พี่โย พี่โย อ๊ะ! อ๊าย...” พลอยไพลินดีดเด้งสะโพกขึ้นสูง ความเสียดเสียวทิ่มแทงบาดลึกในความรู้สึก จนหญิงสาวหลงลืมตัวตน ยกขาเรียวขึ้นตวัดรัด
ปักลึกในซอกสาว วงแขนแกร่งกอดเกี่ยวร่างบางไว้แน่น ปลดปล่อยหยาดรักถ่ายเทเข้าสู่ร่างสาวจนหมดสิ้น “เต็นจ๋า เมื่อไรเจ้าตัวน้อยจะมาสักที” วาโยรำพึงเบาๆคลอเคลียแก้มเนียน เขาแช่ลำรักร้อนผ่าวในร่องสาว ให้เธอตอดรัดเขาอย่างแสนสุข ร่างเปลือยเปล่าแข็งแกร่ง และร่างเกือบเปลือยแสนเย้ายวนนอนกอดก่ายกันอยู่บนเบาะแคบ พลอยไพลินนอนหนุนอกสามี หญิงสาวก่ายเกยอยู่บนร่างเขา แนบแก้มกับอกกว้าง ฟังเสียงหัวใจแกร่งเต้นเป็นจังหวะหนักแน่น มือบางลูบไล้ผิวเนื้อเรียบตึงอย่างเพลินมือ ใบหน้าสาวอมยิ้ม ทอดถอนใจอย่างมีความสุข วาโยนอนหนุนแขนตัวเองข้างหนึ่ง วงแขนอีกข้างกอดน้องไว้แนบอก และป่ายมือลงไปวางบนสะโพกหนั่นแน่น เคล้นคลึงเบาๆ “พี่โยขา” “ครับ” “เต็นมีอะไรจะบอกค่ะ” พลอยไพลินขยับตัวขึ้นไปนอนคว่ำอยู่บนตัวสามี ดวงตาคู่งามเป็นกระกายวิบวับ หญิงสาวยิ้มน้อยๆให้เขา คิ้วเข้มขมวดมุ่น มองหน้าน้องอย่างจับผิด ท่าทางแบบนี้ต้องมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาอยู่แน่ๆ “เต็
“หยุดอยู่ตรงนั้น! อย่าเข้ามานะ!” เสียงตวาดเบาๆ แต่หน้าตาบูดบึ้งแสดงถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน ทั้งสายตาเคืองขุ่นที่มองมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ และนิ้วเรียวที่ชี้ตรงมาที่เขา ทำให้กวียิ้มมุมปาก“จะเข้า ใครจะทำไม จะเข้าให้ลึกสุดตัวเลยด้วย”คำพูดสองแง่สองง่าม น้ำเสียงยียวน และท่าทางกวนประสาท อีกทั้งสายตาวิบวับไม่น่าไว้ใจของคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งของเตียงทำให้พรรณดาราอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ“คนบ้า! คนลามก!” หากแต่หญิงสาวก็ทำได้เพียงบริภาษออกมาเบาๆ และสาดสายตาดุใส่เขาเท่านั้น เพราะเธอกลัวลูกน้อยทั้งสองที่นอนหลับอยู่บนเตียงจะตื่น“ลามกน่ะใช่ แต่ไม่ได้บ้า” กวีกดเสียงต่ำขู่แม่ของลูกๆ ขายาวก้าวมั่นคงอ้อมไปทางปลายเตียง ขณะที่สายตาหมายมาดจับจ้องร่างอวบอิ่มน่าฟัดของคุณแม่ลูกสองไม่วางตา“คุณวี! ถ้าคุณเข้ามาใกล้ฉันอีกนิดเดียว ฉันจะกรี๊ดให้ลั่นบ้านเลย” พรรณดาราขู่คนที่เดินไม่กี่ก้าวก็มายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ระยะห่างเพียงแค่หนึ่งช่วงแขนแบบนี้ ไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ หญิงสาวก้าวถอยหลังอย่างระวังตัว ทั้งหันซ้ายหันขวา หาทางหนีทีไล่&nb
“คุณวี ฉันเป็นห่วงลูก” พรรณดารามองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน เธอเป็นห่วงลูกจริงๆ กลัวว่าถ้าลูกตื่นมาแล้วไม่เห็นเธอ เจ้าตัวเล็กทั้งสองจะร้องไห้งอแง“อย่าห่วงไปเลย มีคนอาสาดูแลลูกของเราให้แล้วทั้งคืน”“ฉัน...”“ชู่ว์! ตอนนี้ไม่ใช่เวลาพูดครับที่รัก เรามีอะไรต้องทำกันเยอะแยะ”พรรณดาราถอนหายใจเบาๆ หญิงสาวปรายตามองไปทางประตูแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาเงยหน้าจ้องมองคนที่ยืนขวางอยู่ตรงหน้า“คุณวี...” พรรณดาราเรียกเขาด้วยน้ำเสียงทอดอ่อน หญิงสาวเอนกายลงนอนลงบนเตียงเมื่อเขาโน้มตัวลงมาวางสองมือคร่อมร่างเธอ“ว่าง่ายๆ แบบนี้ ค่อยน่ารักหน่อย” กวียิ้มพอใจกับท่าทีอ่อนลงของอดีตภรรยา หัวใจแกร่งเต้นระทึก เขาแทบรอไม่ไหวที่จะส่งตัวตนแข็งกร้าวเข้าไปซุกซบในแอ่งเนื้อนุ่มอุ่นอ้าวคุ้นเคยพรรณดารากำมือทั้งสองข้างแน่น เธอไม่มีวันยอมเขาง่ายๆ หรอก เขาทำให้เธอเจ็บช้ำจนต้องซมซานกลับไปรักษาหัวใจที่บ้านนานเกือบสองปี แล้วอยู่ดีๆ จะมาทำราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะมาทวงสิทธิ์ความเป็นสามี เรียกร้องเอาแต่ใจอย่างนี้ไม่ได้ ถึงแม้เธอกับเขาจะยังไม่ได้หย่าขาดจากกันก็ตามเถอะ นั
“หนูพรรณครับ ตื่นได้แล้วครับ” กวีปลุกคนขี้เซาอีกครั้ง มือหนาบีบขยำแก้มก้นเด้งดึ๋งงอนงามอย่างมันเขี้ยว“ฮื้อ! อย่ากวนได้ไหมคะ” พรรณดาราปัดมือแสนซนออก ร่างอวบอัดขยับตัวขยุกขยิก ขาเรียวยกขึ้นพาดเอวสอบ ยืดแขนกอดรัดร่างใหญ่ที่นอนเบียดอยู่ แล้วถอนหายใจแรงคล้ายหงุดหงิด ก่อนลมหายใจจะค่อยๆผ่อนลง เป็นจังหวะสม่ำเสมอ บอกให้คนที่ถูกกอดรัดรู้ว่า หญิงสาวได้กลับเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งแล้วกวีกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างยากลำบาก ความอวบอิ่ม นุ่มเนียน ทั้งกลิ่นหอมกรุ่นของเมียรักปลุกปั่นอารมณ์เร่าร้อนที่มอดดับไปแล้วเมื่อคืนนี้ให้โหมกระพือขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว“ที่รัก…” กวีกระซิบเรียกเสียงแตกพร่า ชายหนุ่มเลื่อนฝ่ามือลงต่ำ ผ่านหน้าท้องแบนราบ เขาใช้นิ้วกลางเรียวยาวซุกไซ้ในแอ่งอุ่นกลางร่างสาว สำรวจช่องทางรัดรึงด้วยการหมุนควานนิ้วเนิบช้า ร่องรอยความชุ่มฉ่ำจากบทรักหลายตลบเมื่อคืนทำให้หัวใจเต้นระรัว“ทั้งแน่นทั้งนุ่มเลยที่รัก อา…หนูพรรณจ๋า”“อืม…” เสียงหวานครางรับผะแผ่ว สะโพกเต่งตึงขยับน้อยๆ พรรณดาราเคลิบเคลิ้มไปกับความฝันแสนหวาน วาบหวิวซาบซ่าน เป็นความฝันที่คล้ายความจริ
สองพี่น้องปีนขึ้นไปนั่งขนาบคุณแม่บนเตียงกว้าง น้องพริ้งเขย่าแขนคุณแม่เบาๆ“คุณแม่ขา ลงไปทานข้าวกันเถอะค่ะ” น้องพริ้งรีบเอ่ยปากชวน เมื่อมารดาลืมตาตื่นขึ้นมายิ้มให้“คุณแม่ไม่สบายหรือเปล่าครับ ทำไมหน้าตาไม่สดชื่นเลย” พี่พร้อมอังหลังมือกับหน้าผากมารดาด้วยความห่วงใย ใบหน้าเคร่งขรึมราวกับคุณหมอกำลังวินิจฉัยโรคคนไข้เมื่อพี่ชายตั้งข้อสังเกตน้องน้อยก็เอียงคอกะพริบตามองคุณแม่อย่างสำรวจตรวจตรา น้องพริ้งยื่นมือน้อยไปแตะแก้มนุ่มคุณแม่เบาๆ“น้องพริ้งรู้สึกว่าคุณแม่ตัวร้อนนิดนึงนะคะพี่พร้อมขา หรือพี่พร้อมว่าไงคะ” เด็กหญิงมองหน้าพี่ชายอย่างขอคำปรึกษา พี่พร้อมพยักหน้าเห็นด้วยกับน้องสาว“คุณแม่ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ คุณแม่สบายดี” พรรณดารายิ้มให้ลูกทั้งสอง หญิงสาวลุกขึ้นนั่งแล้วกางแขนออก เจ้าตัวเล็กทั้งสองรีบคลานเข้าไปซุกอกอุ่นให้คุณแม่กอดอย่างรู้ใจ“แล้วทำไมคุณแม่ถึงตัวร้อนล่ะคะ” ยายหนูพริ้งยังไม่คลายข้อสงสัย พรรณดาราตวัดสายตาดุไปยังต้นเหตุที่ทำให้เธอตัวร้อน คนหื่นจัดการเธอจนหนำใจแล้วก็แถมบริการอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย แต่หลังจากนั้น แทนที่เขาจะพอ คนมักมากกลับย
หญิงสาวข่มจิตข่มใจอยู่นาน พยายามสงบสติอารมณ์ไม่ให้ตกหลุมพรางของเขา ที่จริงเธออยากจะเปิดประตูออกไปต่อว่าเขาให้หูดับไปสักข้างเลยด้วยซ้ำ แต่รู้ดีว่าถ้าเธอเปิดประตูออกไป นั่นเท่ากับว่าเธอเปิดรับเสือให้เข้ามาขย้ำตัวเอง หญิงสาวจึงกำหนดลมหายใจเข้าออก ยุบหนอพองหนออยู่นาน กว่าจะสงบจิตใจลงได้ กว่านอนหลับก็เกือบค่อนคืนรุ่งเช้าวันใหม่ พรรณดาราและลูกๆเตรียมพร้อมที่จะกลับไร่ภูอิงฟ้า ลุงเพลิงของเด็กๆกำหนดไว้ว่าเธอต้องพาลูกๆกลับถึงไร่ก่อนเก้าโมงเช้า ซึ่งจากบ้านของอดีตสามีที่อยู่ใจกลางตัวเมืองไปถึงไร่ ใช้เวลาเดินทางเกือบหนึ่งชั่วโมง เพื่อไม่ให้เสียเวลา พรรณดาราจึงอยากจะกลับเลย แล้วค่อยแวะซื้ออาหารที่ร้านสะดวกซื้อให้ลูกรองท้องแทนมื้อเช้า แต่คุณปู่กัมพลและคุณย่ากิ่งแก้วรบเร้าให้อยู่ทานอาหารมื้อเช้าก่อน เพราะมื้อนี้คุณย่าเป็นคนเข้าครัวทำข้าวต้มกุ้งเอง จึงอยากให้หลานๆกินฝีมือตัวเอง หญิงสาวจึงไม่อาจปฏิเสธได้ สามแม่ลูกจึงร่วมรับประทานอาหารมื้อเช้าพร้อมกับคุณปู่คุณย่าที่บ้านก่อนครู่เดียวหลังจากที่ทุกคนเริ่มรับประทานอาหารแล้ว กวีก็เดินหน้ายุ่งเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร ที่จริงไม่ได้ยุ่งแต่หน
เรือนร่างสาวสวยสะพรั่งเปลือยเปล่าถูกอุ้มมาวางลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุด คนอุ้มสวมเพียงผ้าเช็ดตัวพันเอวสอบอยู่ผืนเดียวถอยห่างไปทันที แต่ไม่ไวไปกว่ามือเรียวบางที่คว้าหมับกระตุกเอาชายผ้าเช็ดตัวหลุดติดมือไป จนเจ้าของผ้าเช็ดตัวต้องถลาตามไปดึงเอาไว้ด้วยความตกใจ แต่กลับพลาดสะดุดขาตัวเองล้มลงทาบทับกายเปลือยนุ่มนิ่มที่นอนหงายอยู่บนเตียงเสียเต็มเปา ยังดีที่เขายั้งตัวเองไว้ได้ทันด้วยการใช้ข้อศอกดันตัวเองไว้ ไม่ให้น้ำหนักตัวทุ่มลงไปบนตัวเธอทั้งหมด ไม่อย่างนั้นคนตัวเล็กอาจจะกระดูกหักก็เป็นได้“กระติ๊บ ทำอะไรของคุณฮึ!” พบรักว่าเสียงเข้มทว่าไม่มั่นคง“นอนๆ นอนด้วยกันค่ะ” พลอยชมพูว่าเสียงอู้อี้ แถมยังใช้สองแขนกอดรัดร่างเกือบเปลือยของคนที่คร่อมทับตัวเองอยู่ไว้แน่น“จะนอนก็นอนไป ปล่อยผม”“ไม่ปล่อย จุ๊บๆก่อนนะคะพี่ต่าย”พบรักถอนหายใจ พลอยชมพูคงเข้าใจว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอ ชายหนุ่มจึงตัดใจหลับตาจุ๊บไปหนึ่งทีที่หน้าผากมน“ฝันดีนะคะ” พลอยชมพูว่าแล้วปล่อยวงแขนออก หญิงสาวหลับตาลงเอาดื้อๆ เป็นพบรักเสียเองที่เริ่มลังเลว่าจะลุกไปจากตรงนี้ทั้งที่มีโอกาสแล้วหรือไม่ เขาไ
“กระติ๊บ” พบรักเรียกคนที่ยังเมาไม่รู้เรื่อง หวังให้เธอได้สติสักน้อยนิดก็ยังดี เขาจะได้บอกให้เธอจัดการอาบน้ำทำความสะอาดตัวสักหน่อย ขืนปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ดีแน่“ขา...” พลอยชมพูเงยหน้าขึ้น ขานรับเสียงยานคางหวานจ๋อย ทว่าดวงตาคู่งามยังหลับพริ้ม ริมฝีปากอิ่มสวยคลี่ยิ้มหวานเย้ายวน“คุณควรอาบน้ำ” พบรักถอนหายใจ แล้วบอกคนที่ยืนอิงแนบอกตัวเองอยู่ ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ควรอาบน้ำหรอก เขาก็ด้วย เพราะเปื้อนไปทั้งตัว ทั้งกลิ่นก็ชวนให้คลื่นเหียนอาเจียนออกมาสมทบกับเธอเหลือเกิน“ไม่อาบ จะนอนค่ะ” พลอยชมพูบอกแล้วซบหน้ากับอกกว้าง“ไม่อาบไม่ได้” พบรักบอกเสียงเข้ม จับบ่าของคนยืนโงนเงนดันตัวเธอออกห่าง“ไม่หวายยย...ง่วงค่ะ มึนหัวด้วย” พลอยชมพูส่ายหน้า โบกไม้โบกมือว่าไม่ไหวจริงๆพบรักถอนหายใจแรง ชักรำคาญยายเมรีขี้เมา ถ้ายังต่อล้อต่อเถียงกับเธออยู่นี่ เขาก็คงไม่ได้พักผ่อนสักที ชายหนุ่มจึงตัดสินใจดันร่างสาวไปยืนใต้ฝักบัว แล้วเปิดน้ำชำระล้างร่างกายเธอ ทว่าเมื่อคนเมาถูกสายน้ำรินรดตัวก็สะดุ้ง กระโดดเข้ามากอดเขาไว้แน่น“กระติ๊บ! ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย” พบรักอยากจะจับแม่ตั
“ถ้าบอกว่าไม่พอใช้ คุณพบจะเพิ่มเงินเดือนให้ติ๊บเหรอคะ” พลอยชมพูถามแล้วยิ้มกว้าง ตาเป็นประกาย“เปล่า จะบอกว่าไม่พอก็ต้องพอ”“โธ่! ก็นึกว่าจะใจดีให้เงินเดือนเพิ่ม” ใบหน้ายิ้มร่าเมื่อครู่หุบลงทันควัน“คนอื่นเขายังพอใช้เลย อยู่ที่นี่บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ ผมไม่เห็นว่ากระติ๊บมีความจำเป็นต้องใช้เงินเลยนะ”“ผู้ชายก็งี้แหละ ไม่เข้าใจผู้หญิงเอาเสียเลย คุณพบรู้ไหมว่าผู้หญิงน่ะ เขามีของที่ต้องซื้อใช้ประจำเดือนเยอะแยะ”“ของใช้ประจำเดือน...หมายถึงผ้าอนามัยเหรอ มันก็ไม่น่าจะแพงอะไรขนาดนั้นนะ”พลอยชมพูถอนหายใจแรง ตาคู่งามเหลือบมองบน“ติ๊บไม่คุยกับคุณพบแล้ว ผู้ชายอะไรไม่เข้าใจความเป็นผู้หญิงเอาเสียเลย ติ๊บขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”ลูกจ้างสาวสวยของพบรักสะบัดค้อนเดินออกจากห้องไปแล้ว ชายหนุ่มมองตามจนกระทั่งประตูห้องปิดลง พบรักเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ถอนหายใจบางเบา ระบายยิ้มเต็มใบหน้าคมเข้ม เธอน่ารักสดใส เวลาได้พูดคุย ได้อยู่ใกล้ๆ เขายอมรับว่าหัวใจเต้นในจังหวะที่แปลกไปจากเดิม“เอ้า! ไชโย!” เสียงเ
“คุณกระติ๊บ” ลำดวนกวักมือเรียกเมื่อเห็นคนที่ตามหามาตั้งแต่เช้าเดินเข้ามาใกล้“กินอะไรมาหรือยังคะคุณกระติ๊บ”“กินแล้วค่ะ อิ่มตื้อเลย” ก็จะไม่ให้อิ่มได้อย่างไร เธอกินขนมมาตลอดทาง และกินหมดคนเดียวไม่แบ่งคนขับรถด้วย“แล้วนี่ไปไหนมาคะ รู้หรือเปล่าว่าวันนี้เป็นวันเงินเดือนออก”“วันนี้เงินเดือนออกหรือคะ แล้วติ๊บต้องไปรับเงินเดือนที่ไหนคะ” พลอยชมพูถามกลับด้วยความตื่นเต้น“ของน้าและของคนอื่นที่เป็นพนักงานประจำก็โอนเข้าบัญชีค่ะ แต่ถ้าเป็นพวกจ้างรายวันมาทำงานบางอย่างก็ให้ไปรับกับการเงินที่ออฟฟิศ”“งั้นติ๊บคงต้องไปรับที่ออฟฟิศ เพราะติ๊บไม่ได้ให้เลขที่บัญชีธนาคารไว้ ติ๊บไปรับตอนนี้เลยได้ไหมคะ” เพราะเป็นเงินเดือนจากน้ำพักน้ำแรงเดือนแรก หลังจากที่ออกจากบ้านมาทำงานที่นี่ พลอยชมพูจึงตื่นเต้นเป็นพิเศษ“ตอนนี้ติดพักเที่ยงค่ะ ไปรับหลังบ่ายโมงดีกว่าค่ะ” พลอยชมพูพยักหน้ารับ ยิ้มหวานวาดฝันถึงเงินเดือนก้อนเล็กๆของเธอ“เอ่อ...คุณพบบอกว่าจะเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้คุณกระติ๊บเองค่ะ”พลอยชมพูโกรธจนควันออกหู เมื่อเธออุตส่าห์เดินไปถึงออ
พยาบาลเงยหน้ามองสบตาญาติผู้ป่วยยิ้มๆ พบรักค้อมศีรษะให้ และเอ่ยคำขอบคุณ เขารอกระทั่งคุณพยาบาลเดินออกไปจากห้องแล้ว จึงก้มลงมองคนที่ยังคงกอดเขาไว้แน่น“ไหนใครบอกจะไม่ร้องไห้นะ”พลอยชมพูผละหน้าที่เปียกปอนน้ำตาออกมาจากอกกว้าง ใช้หลังมือปาดน้ำตา เงยหน้ามองคนล้อเลียนด้วยสายตางอนๆ“ก็ตอนแรกว่าจะไม่ร้องแล้ว ฮึกๆ แต่มันทนไม่ไหว มันเจ็บ ฮึกๆ คุณพบไม่ได้เป็นคนถูกฉีดยานี่ คุณพบไม่เข้าใจหรอก”“เจ็บเท่ามดกัด แค่นี้ทำมาร้อง”“มดกัดไม่เจ็บขนาดนี้หรอก ติ๊บเคยถูกมดกัดนะ ทำไมจะไม่รู้ว่ามันเจ็บแค่ไหน คุณพบน่ะเป็นผู้ใหญ่เสียเปล่า มาโกหกเด็กทำไม”คนถูกกล่าวหาว่าโกหกเด็กยิ้มในหน้า“เด็กโข่งน่ะสิ”พลอยชมพูสะอึกเมื่อถูกเขาว่า หญิงสาวยืดอก เชิดหน้าขึ้น มองเมินไปทางอื่น ปาดน้ำตาอีกสองที บอกเขาด้วยน้ำเสียงงอนๆ“คุณพบไม่เป็นติ๊บคุณพบไม่มีวันเข้าใจหรอก คนเรามีเรื่องที่ทำให้เจ็บแล้วจำฝังใจทั้งนั้นแหละ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ ฉีดเข็มสุดท้ายติ๊บคงไปฉีดที่กรุงเทพ เพราะถึงวันนั้นติ๊บคงกลับบ้านแล้ว คงไม่ได้รบกวนคุณพบอีกแล้วค่ะ”หลังขับรถออกมาจากโรงพยา
“มีคนทำแล้วค่ะ บ้านพักตั้งยี่สิบหลัง ต้องช่วยกันหลายคนหน่อยค่ะ ไม่งั้นเสร็จไม่ทันลูกค้าที่จะเข้าเช็กอินช่วงบ่ายแน่”“อ๋อ! ค่ะ...แล้วทำห้องนี้เสร็จแล้ว เราไปกินข้าวกันได้เลยใช่ไหมคะน้าลำดวน” พลอยชมพูถาม ขณะที่เดินตามลำดวนเข้าไปในห้อง เริ่มลงมือจัดเก็บตามขั้นตอนที่ลำดวนแนะนำและทำให้ดูมาหลายห้องแล้ว“หิวแล้วเหรอคะ” ลำดวนถามยิ้มๆ มือก็จัดการดึงผ้าปูที่นอนขึ้นจากเตียง“นิดหน่อยค่ะ” ก็จะไม่ให้เธอหิวได้อย่างไร เมื่อเช้าหลังจากที่พบรักบอกเธอว่าสัปดาห์หน้าต้องไปฉีดยาเข็มที่สอง เธอก็ตื้อไปหมด กินอะไรไม่ลง การกินข้าวมื้อเช้าน้อยเกินไป เลยส่งผลให้หิวเร็วกว่าปกติ“งั้นก็เร่งมือช่วยกันนะคะ เสร็จแล้วเราไปกินข้าวที่ห้องครัวกัน”“ค่ะ เอ่อ...น้าลำดวนคะ ติ๊บสงสัยอย่างหนึ่งค่ะ”“อะไรหรือคะ”“ที่นี่ไม่มีผู้จัดการรีสอร์ตหรือคะ คือตั้งแต่มาทำงานที่นี่ ติ๊บเห็นคุณพบทำโน่นนี่เองทุกอย่างเลย”“ก็คุณพบไงล่ะคะ คุณพบน่ะเป็นทั้งเจ้าของทั้งผู้จัดการ เธอทำเองทุกอย่าง ทำจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน เพราะไม่อยากมีเวลาว่างให้จิตใจต้องคิดเรื่องอื่นฟุ้งซ่าน” ลำดวนพูดไปด้ว
พลอยชมพูตัดสินใจออกแรงดันอกกว้าง พยายามพาตัวออกจากพันธนาการแสนหวาดเสียว ทว่าตัวเล็กๆแรงน้อยๆอย่างเธอไม่สามารถพาตัวเองขยับไปไหนได้เลย หญิงสาวถอนหายใจออกมาสุดแรง ตัดสินใจแล้วว่า การปลุกเขาให้ตื่นดูจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นเธอคงโดนเขากอดจนขาดอากาศหายใจตายแน่ๆพลอยชมพูสูดหายใจลึก รวบรวมพลังกายพลังใจ บอกตัวเองว่าต้องตั้งมั่นอยู่บนความหาญกล้า ก่อนจะเอ่ยเรียกเขาออกไปด้วยเสียงสั่นน้อยๆ“คุณพบคะ”แต่ดูเหมือนว่างูเหลือมตัวโตที่รัดเธอไว้แน่นจะไม่ได้ยิน เขาไม่รู้สึกตัว ไม่ลืมตา และที่สำคัญไม่ยอมคลายอ้อมแขนออกจากตัวเธอด้วย มิหนำซ้ำยังรัดแน่นขึ้นอีกต่างหาก นี่เขาคิดจะรัดเธอจนกระดูกหัก แล้วหลังจากนั้นก็จะเขมือบเธอลงท้องหรือเปล่า“คุณพบคะ! คุณพบๆๆๆๆๆ” พลอยชมพูเรียกเขาเสียงดังขึ้น และเรียกติดๆกันหลายครั้ง ทั้งออกแรงดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในอ้อมกอดของเขาด้วย และครั้งนี้มันได้ผล เขาค่อยๆลืมตาขึ้น เธอยิ้มดีใจที่เขารู้สึกตัว เขามองสบตาเธอ แต่ครู่เดียวเขาก็หลับตาลงดังเดิม“อ้าว! คุณพบ! ตื่นสิคะ” พลอยชมพูโวยวาย เมื่อกี้ก็ตื่นแล้วนี่ แล้วก็เห็นอยู่ว่าเธอนอนอยู่ตรงนี้
พบรักยกมือขึ้นกอดอก มองตามร่างบางเดินหนีไปด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนหันไปมองบริเวณที่งานแต่งกำลังดำเนินอยู่ แล้วระบายยิ้มบางเบาโดยไม่รู้ตัวหลังพิธีแต่งงานของลูกค้าเสร็จสิ้นลงแล้ว ช่วงค่ำมีงานเลี้ยงแขกผู้มาร่วมงาน พนักงานรีสอร์ตต้องมาคอยทำหน้าที่บริการอาหารและเครื่องดื่ม พลอยชมพู น้ำหวาน และพนักงานชายอีกคนรับหน้าที่ผสมเครื่องดื่ม“สีสวยจังเลย” แม้จะอยู่ประจำจุดผสมเครื่องดื่ม แต่ดูเหมือนว่าพลอยชมพูก็ทำได้แค่เพียงยืนให้กำลังใจเพื่อนพนักงาน และชื่นชมเมื่อพนักงานชายผสมเครื่องดื่มและจัดวางท็อปปิ้งบนแก้วออกมาได้อย่างสวยงาม“อร่อยด้วยนะคะคุณกระติ๊บ” น้ำหวานกระซิบบอก“อร่อยแต่เมาแหงๆ” พลอยชมพูทำหน้าเหยเก“ไม่เมาหรอกค่ะ ผสมเหล้านิดเดียวเอง ลองชิมดูหน่อยไหมคะ” น้ำหวานยื่นแก้วน้ำสีสวยให้พลอยชมพู“ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวเมา เดี๋ยวถูกคุณพบว่า” พลอยชมพูส่ายหน้าปฏิเสธ“ลองชิมดูนิดเดียวเองค่ะ คุณพบไม่เห็นหรอก อย่างน้อยก็จะได้รู้รสชาติ เผื่อวันหลังจะได้มาหัดชงไงคะ” น้ำหวานยื่นแก้วไปแตะมือพลอยชมพู คนถูกคะยั้นคะยอรับมาถือไว้สีหน้าไม่สู้ดีเท่าไร“แก้วเดียวไม่
“เอามันม่วงด้วยนะคะคุณพบ” พลอยชมพูเกาะแขนคนข้างๆ เขย่าอย่างตื่นเต้น ตากลมสุกใสมองมันทิพย์ลูกขนาดพอดีคำทั้งสีขาวสีม่วงที่ถูกปิ้งอยู่บนตะแกรงด้วยความตื่นตาตื่นใจพบรักหลุบตามองมือนุ่มที่เกาะแขนตนอยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปสั่งแม่ค้าให้ พอแม่ค้ายื่นถุงให้ พลอยชมพูก็รับมาถือไว้เอง“ของติ๊บ ติ๊บถือเองค่ะ” เจ้าของมันทิพย์ยิ้มอย่างดีใจ“จะเอาอะไรอีกไหม” พบรักเอ่ยถามคนที่ยังเกาะแขนเขาไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกมือถือถุงขนมไว้พลอยชมพูมองซ้ายขวา ชะเง้อคอมองร้านค้าที่เรียงรายกันอยู่“แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ เรารีบกลับรีสอร์ตกันเถอะ”“แล้วไหนบอกว่าจะซื้ออย่างอื่นด้วย”“ก็ตอนนี้ไม่อยากได้แล้ว ไปเถอะค่ะ” พลอยชมพูดึงแขนที่เธอเกาะอยู่ให้เดินกลับไปที่รถด้วยกัน พบรักยอมเดินตามแต่โดยดี เขายิ้มในหน้า ตาคมอ่อนแสงลงเมื่อหลุบมองมือที่จับอยู่บนแขนของตน“คุณพบรีบๆหน่อยสิคะ” พลอยชมพูเร่ง เมื่อคนขับขับรถด้วยความเร็วที่ไม่ค่อยทันใจเธอเอาเสียเลย“รู้ไหมว่าการขับรถเร็วอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้”“รู้ค่ะ แต่ติ๊บอยากกลับถึงรีสอร์ตก่อนบ