“เต็นจ๋า” วาโยถอนนิ้วออกมาจากแอ่งเนื้อสาว เขาเคลื่อนกายลงไปคุกเข่าอยู่ระหว่างสองขาเรียวอย่างรวดเร็ว ดึงรั้งวันพีซสวยเซ็กซี่ทว่าขัดตาเขาออกจากร่างงามจนหลุดพ้นปลายเท้า แล้วโยนทิ้งขว้างไม่แยแส สองมือรีบช้อนข้อพับขาของหญิงสาวชันขึ้นแล้วแยกกว้าง
“เต็น...สวยเหลือเกิน ทูนหัวของพี่” เมื่อได้ชื่นชมความงามของผืนเนื้อสาวเต็มตา หัวใจหนุ่มก็เต้นโครมคราม ลมหายใจสะดุดขาดห้วง ความฉ่ำวาวเปียกชื้นช่างยั่วยวนใจ ให้ต้องก้มหน้าลงแนบชิดเพื่อดื่มด่ำกำซาบกลิ่นหอมหวนและรสชาติแสนหวานของดอกไม้สาว
“พี่โย...” พลอยไพลินสะดุ้งเฮือก สองมือขยุ้มศีรษะทุยของคนที่ซุกหน้าลงกลางกายของตน หญิงสาวออกแรงดึงหวังให้เขาเงยหน้าขึ้นมา ทว่าคนหลงเนื้อนวลนางไม่แม้แต่จะเสียเวลาเหลือบตาขึ้นมองเธอด้วยซ้ำ
ลิ้นสากอุ่นร้อนลากไล้ฉกชิมพื้นที่ความสาวถ้วนทั่ว ริมฝีปากประกบดูดดึงเนื้ออ่อนอย่างมันเขี้ยว น้ำหวานสาวที่อาบชโลมผืนเนื้ออ่อนนุ่มถูกฉกชิมกลืนลงท้องเสือร้ายจนหมดสิ้น คนที่ยังไม่อิ่มเอม จึงกระตุ้นเร้า ใช้ปลายลิ้นฉกซ้ำๆลงบนปุ่มเนื้อสาว สลับกับตวัดระรัวเร็ว ก่อนจะรวบดูดสุดแรง ฉุดกระชากให้หญิงสาวหลุดลอยและแตกกระจายอีกคร
“พี่โย!” พลอยไพลินสะดุ้งเฮือก หญิงสาวร้องเรียกหายาดมอยู่ในใจ ความแข็งขึงร้อนผ่าวและใหญ่มากที่บดเบียดอยู่ตรงสะโพกทำให้เธอรู้สึกวิงเวียน หน้ามืด ตาลาย คล้ายจะเป็นลม เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดจะไม่รู้ว่าที่เขาพูดหมายถึงอะไร และอะไรที่มันดุนๆดันๆอยู่ตรงสะโพกสวยของเธอคืออะไร“ทีนี้ เต็นลองบอกพี่ใหม่สิครับว่าใครเสียเปรียบกันแน่” ชายผู้น่าสงสารเพราะเสียเปรียบน้องถามเอาคำตอบกับน้องอีกครั้ง“พะ...พี่โย อย่าแกล้งน้อง” เสียงหวานเว้าวอนสั่นน้อยๆ“หรือเราควรทำทุกอย่างให้เสมอกัน จะได้ไม่มีใครเสียเปรียบได้เปรียบ”“ไม่ๆ ไม่นะคะ เต็นตอบแล้วๆ”“ตอบว่า...”“พี่โยเสียเปรียบ”“อือฮึ! แล้วใครได้เปรียบครับ” วาโยถามกลับ เขายิ้มในหน้า สุขใจที่ได้เย้าหยอกน้องแบบหื่นๆ“ตะ...เต็นได้เปรียบก็ได้” พลอยไพลินใช้น้ำเสียงกึ่งประชดน้อยๆ“ดังนั้น คนได้เปรียบควรรับผิดชอบคนเสียเปรียบ” น้ำเสียงจริงเขาของคนเสียเปรียบ ทำให้คนได้เปรียบรีบถามอย่างไม่ไว้ใจ“รับผิดชอบยังไงคะ” พลอยไพลินเบี่ยงหน้ากลับมาสบสายตาเขาในระยะห่างกันแค่คืบ วาโยยิ้มบางให้น้อง“เอาไว
ห้องพักประจำของเขาอยู่ใกล้กันกับห้องน้อง ชายหนุ่มเองก็อยากพักผ่อน เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานสำคัญเย็นนี้เช่นกัน“ผมว่า เราควรถามน้องก่อนดีไหมครับ นี่เรากำลังฟังความข้างเดียวกันอยู่นะครับ” เพลิงตะวันเอ่ยขึ้นเมื่อคล้อยหลังวาโยเพียงครู่เดียว“เพลิงไม่เชื่อใจวาโยหรือ” คุณวาทิตถามลูกเขยเสียงราบเรียบ“เปล่านะครับคุณพ่อ เอ่อ...ผมหมายถึงเราควรฟังความสองฝ่าย ที่พี่โยบอกเรามาก็น่าเชื่อถือ แต่เพื่อความชัวร์ เราควรถามกระเต็นด้วย ว่าน้องยอมรับการรับผิดชอบของพี่โยหรือเปล่า” เมื่อถูกพ่อตาถามเหมือนไม่พอใจ คนที่กลัวพ่อตาทวงลูกสาวคืน กลัวเมียรักจะถูกพรากจากอกก็รีบอธิบายเร็วจนลิ้นแทบพันกัน“หรืออาจจะยืดเวลาออกไปอีกนิด ค่อยมาพูดคุยเรื่องนี้กันอีกทีก็น่าจะดีกว่านะครับ ผมไม่อยากให้น้องเสียใจภายหลัง” คนห่วงน้องจริงๆ แบบไม่มีอะไรแอบแฝงรีบเสริมต่อ“พ่อเชื่อว่าวาโยจะไม่ทำให้กระเต็นต้องเสียใจแน่นอน เพลิงก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าวาโยขออนุญาตผู้ใหญ่ทุกคนแล้วก่อนจะเข้าไปใกล้ชิดน้อง” คุณวาทิตพูดยิ้มๆ ผู้สูงวัยพอจะรับรู้ถึงความไม่ลงรอยกันเท่าไรระหว่างน้องเขยกับพี่เมีย“เวลาแค่ปีเดีย
“แต่แม่กับพ่อตอบตกลงไปแล้วนะลูก”“คุณแม่! คุณแม่กับคุณพ่อไปตอบตกลงยกเต็นให้เขาตั้งแต่เมื่อไรคะ ทำไมไม่ถามความสมัครใจของเต็นสักคำ” พลอยไพลินเริ่มโกรธลามมาถึงบิดามารดา ท่านไปตกปากรับคำเขาโดยไม่ถามเธอแบบนี้ได้ยังไง“วาโยเข้ามาขออนุญาตคุณพ่อ ขอไปมาหาสู่และใกล้ชิดกับลูกตั้งแต่ตอนที่จบเรื่องของน้ำฝนกับพี่เพลิง”“แล้วคุณพ่อก็อนุญาต? มิน่าล่ะ...เขาถึงเข้าออกบ้านเราได้ตามอำเภอใจ แล้วก็ชอบทำตัวข่มเต็นตลอดเลย” พลอยไพลินหน้าหงิกลงมากกว่าเดิม เขาเข้าทางพ่อเธอนี่เอง มิน่าล่ะ พี่กระต่ายน้อยที่เคยหวงเธอกับผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้ แต่กลับไม่มีท่าทีจะกีดกันเขาเลย ปล่อยเธอไปกับเสือร้ายให้โดนเอาเปรียบอยู่บ่อยๆ“วาโยเป็นคนดี และเขาก็ดูแลลูกได้ดีสมกับที่พ่อกับแม่ไว้ใจ”“พี่โยไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่ทุกคนเห็นนะคะ เขาเป็นเสือร้าย ชอบเอาเปรียบเต็น”เมื่อลูกสาวพูดบางอย่างที่คลุมเครือด้วยความลืมตัว และสิ่งที่พูดออกมาก็น่าสงสัย แม่กระแตจึงหรี่ตามองอย่างจับผิด“วาโยทำอะไรผิดต่อลูกหรือเปล่า” เสียงของคนเป็นแม่แข็งกระด้าง เพราะหากคนที่ไว้ใจกลับมาทำร้ายลูกสาว ท่านก็จะจัด
คิ้วเข้มเลิกสูง ชายหนุ่มยิ้มกว้างกว่าเดิม“คุกเข่ามันเชยแล้ว ทำอย่างอื่นแทนได้ไหม”เสียงทุ้มคุ้นเคยที่ดังขึ้นข้างหลัง ทำให้พลอยไพลินดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที หญิงสาวมองคนที่มานั่งอยู่บนเตียงเดียวกับเธอด้วยใบหน้าตื่นตกใจ“พี่โย!” แม่นกกระเต็นน้อยรีบขยับถอยเพื่อจะลงจากเตียง ทว่าแขนยาวๆแรงเยอะๆของคนที่นั่งระวังท่าอยู่แล้วก็โอบรัดเอวคอดไว้ได้ทันควัน ร่างสาวปลิวขึ้นไปนั่งบนตักแกร่ง พร้อมกับถูกพันธนาการไว้แน่นหนาด้วยอ้อมกอดแข็งแรง“พี่โย! ปล่อยเต็นนะ” พลอยไพลินเบี่ยงหน้ากลับมาตวาดแว้ด สาดสายตาดุมองคนที่กระทำการเอาแต่ใจกับเธออีกแล้ว“แต่งงานกับพี่นะครับ วันนี้หมั้นกันไว้ก่อน ส่วนงานแต่ง เต็นอยากให้จัดแบบไหน โรงแรมอะไร พี่ให้เต็นเลือกเองทั้งหมด แต่มีข้อแม้ว่าต้องแต่งภายในสามเดือนนี้เท่านั้น”เมื่อครู่ ตอนที่มารดามาบอกว่าเธอจะต้องหมั้นกับเขา เธอรู้สึกเหมือนถูกมัดถือชก แต่ตอนนี้ เมื่อเขาได้ฟังสิ่งที่เขาพูด พลอยไพลินรู้สึกเหมือนถูกมัดมือ มัดเท้า ปิดปาก แล้วโยนขึ้นเวทีให้ชกแบบไม่มีโอกาสได้ออกหมัดสู้เลยด้วยซ้ำ แล้วเรื่องอะไรเธอจะยอมล่ะ“ไม่หมั้น แล้ว
“หมั้นกันแล้วห้ามดื้อนะ ถ้าเต็นดื้ออีกพี่จะไม่รองานแต่ง” วาโยพูดไปก็หอมแก้ม จุ๊บหน้าผาก จุ๊บขมับน้องไปเรื่อย“รู้แล้วค่ะ” พลอยไพลินรับคำเสียงสั่นเบาหวิว สัมผัสจากเขาสร้างความปั่นป่วนกวนใจเธอ อดไม่ได้ที่จะคิดถึงค่ำคืนหวามหวานที่เพิ่งผ่านมา หากเขาจะทำอย่างนั้นอีก เธอก็คงไม่มีแรงต้านทาน เพราะเพียงแค่โดนจูบ เธอก็อ่อนระทวยไปทั้งร่างแล้ว“พี่โยก็ห้ามไปทำแบบนี้กับคนอื่น” เรื่องอะไรจะยอมให้เขากำหนดขอบเขตให้เธออยู่ฝ่ายเดียว หากหมั้นกันแล้ว ก็หมายความว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะแสดงความเป็นเจ้าของเขาได้เต็มที่เช่นกัน“สัญญาครับ” วาโยตอบรับด้วยความเต็มใจ“ห้ามไปไหนมาไหนกับสาว หากไปหาลูกค้าต้องโทรบอกเต็นก่อน แล้วก็ต้องให้คุณวัลลภไปด้วยทุกครั้ง ห้ามอยู่ลำพังกับผู้หญิงคนอื่น”“หืม...” วาโยหรี่ตามองใบหน้าของคนที่นั่งอยู่บนตัก เขายิ้มน้อยๆก่อนพยักหน้ารับ“ครับ”“ถ้าพี่โยผิดคำสัญญา หรือทำผิดข้อตกลงของเรา เต็นมีสิทธิ์ถอนหมั้นทันที” คิดว่านกกระเต็นตัวน้อยอย่างเธอจะยอมให้เสือร้ายเอาแต่ขู่อยู่ฝ่ายเดียวเหรอ เธอก็สู้คนเหมือนกันนะ แม้ว่าสู้ทีไรก็ไม่เคยจะชนะเขาสักครั้
“แล้วทำไมปล่อยลูกสาวมาคนเดียวซะล่ะ โตเป็นสาวแล้วนะนั่น เลิกหวงแล้วเหรอ” ด้วยความแค้นฝังใจที่พ่อของเด็กสาวเคยกล่าวหาลูกชายของตน พ่อเพชรเลยเอ่ยถามกระแนะกระแหน“คิดว่าไม่น่าจะปล่อยมาคนเดียวหรอกครับ” นนท์บอกยิ้มๆ ละแวกนี้ใครๆก็รู้ดีว่าสายฟ้านั้นหวงลูกสาวแค่ไหน ไม่เคยปล่อยให้ไปไหนเพียงลำพังแน่นอน นนท์พูดยังไม่ทันขาดคำ ร่างสูงใหญ่ใบหน้าบึ้งตึงก็เปิดประตูลงมายืนข้างรถ ดวงตาคมดุมองไปยังสองชายหนุ่มที่เดินไปถึงท้ายรถกระบะพอดี ทำให้คนที่นั่งมองอยู่ไม่ไกลพากันหายใจไม่ทั่วท้อง“หนูจ๋าลงมา! ไปนั่งรอพ่อจ๋าบนรถ” สายฟ้าสั่งลูกสาวที่ปีนขึ้นไปอยู่บนท้ายกระบะ และกำลังลากเข่งเลื่อนมายังท้ายกระบะอย่างขะมักเขม้น“หนูจ๋าอยากช่วยนี่คะ พ่อจะได้ไม่เหนื่อยมาก” เด็กสาวไม่เชื่อฟังผู้เป็นพ่อ เธอก้มลงลากเข่งสองใบสุดท้ายมารวมกันกับเข่งอีกสามใบที่เรียงกันอยู่ท้ายกระบะจนเรียบร้อย“เสร็จแล้วค่ะ” หนูจ๋าเช็ดสองมือกับกางเกงเอี๊ยมของเธอ ส่งยิ้มหวานสดใสให้บิดา และเผื่อแผ่ไปถึงสองหนุ่มที่ยืนอยู่ท้ายกระบะด้วย“สวัสดีค่ะพี่เพลิง” เด็กสาวยกมือไหว้เจ้าของไร่ และฉีกยิ้มกว้างยิ่งขึ้นอีก“
“พี่เต็นขา เล่าให้ติ๊บฟังหน่อย ถ้าไม่เล่า งั้นเปลี่ยนเป็นให้ติ๊บถามก็ได้ พี่เต็นต้องตอบคำถามติ๊บนะ นะๆ” พลอยชมพูนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหลังพี่สาว หญิงสาวโน้มใบหน้าเข้าไปออดอ้อนใกล้พี่สาวที่นอนคลุมโปงอยู่“อือๆ ให้ถามข้อเดียวนะ” คนเป็นพี่เริ่มใจอ่อนกับน้อง“สาม” คนเป็นน้องต่อรอง“ข้อเดียว” พลอยไพลินยืนยันเสียงหนักแน่น“สามข้อนะคะ นะๆ”“สอง”“ก็ได้ สองข้อก็ได้” พลอยชมพูยอมรับเสียงอ่อย ที่จริงเธออยากถามสักร้อยข้อด้วยซ้ำ“อืม...พี่เต็นเคยจูบกับพี่โยแล้วใช่ไหมคะ” คำถามแรกของน้องสาวก็เล่นเอาคนเป็นพี่สะดุ้ง พลอยไพลินเปิดผ้าห่มออก พลิกกายนอนหงาย จ้องหน้าน้องด้วยสายตาดุ“ข้อนี้ถามไม่ได้เหรอคะ” สายตาดุของพี่สาวทำให้พลอยชมพูยิ้มแหยๆ“ไม่ได้!” เสียงของคนเป็นพี่นั้นสั้นห้วนและดุ ทว่าน้องสาวตัวดีของพี่สาวกลับยิ้มกว้าง พลอยชมพูถามกลับด้วยน้ำเสียงล้อเลียน“ฮั่นแน่! จูบกันแล้วแน่ๆเลย”“ยัยกระติ๊บ!” พลอยไพลินลุกขึ้นนั่ง คว้าเอาหมอนขึ้นมาหวังจะตีน้อง แต่คนที่ระวังตัวอยู่แล้วกระโดดลงจากเตียงไปยืนอยู่ใกล้ประตู“ทำไมทำร้ายน
“กระแต ฉันง่วงแล้ว กลับห้องเรากันเถอะ” เมื่อก้าวเข้ามาในห้อง พ่อเพชรก็เดินตรงมาหยุดอยู่ข้างเตียง เอ่ยชวนเมียกลับห้องด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน ไม่สนใจลูกสาวอีกสองคนที่นั่งกอดแม่อยู่เลย“ไม่ได้ค่ะ คุณแม่ถูกพวกเราจับตัวไว้แล้ว ถ้าคุณพ่อจะพาคุณแม่กลับไปนอนด้วย จะต้องจ่ายค่าไถ่มาก่อน” พลอยชมพูบอกด้วยท่าทางขึงขัง“ค่าถ่งค่าไถ่อะไรกัน นี่เมียพ่อ เมียก็ต้องนอนห้องเดียวกับผัวสิ”“นี่คุณแม่ของติ๊บกับพี่เต็น แม่ก็ต้องนอนห้องเดียวกับลูกสิคะ” พลอยชมพูบอกบิดาแล้วยิ้มอย่างเป็นต่อ“ลูกโตแล้ว นอนกันเองได้แล้ว แต่พ่อแก่แล้ว ต้องมีเมียคอยดูแล” พ่อเพชรพูดเสียงเศร้า แววตาน่าสงสาร“คุณพ่อต้องจ่ายเช็คเงินสดให้พวกเราคนละสองล้านมาก่อน เป็นค่าไถ่ตัวคุณแม่ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะไม่ยอมปล่อยคุณแม่ออกจากห้อง” พลอยไพลินบอกไปตรงๆไม่อ้อมค้อม“แพงไปไหมนั่น คนละสองร้อยก็พอแล้ว” พ่อเพชรต่อรอง“อะไรกันคะคุณเพชร ค่าตัวหนูแค่สี่ร้อยเองหรือคะ งั้นคืนนี้คุณเพชรก็กลับไปนอนคนเดียวเลยค่ะ หนูจะนอนกับลูก” แม่กระแตมองค้อนสามี เรื่องอะไรมาต่อค่าตัวเมียลงแบบลดฮวบฮาบขนาดนั้น“กระแต
เรือนร่างสาวสวยสะพรั่งเปลือยเปล่าถูกอุ้มมาวางลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุด คนอุ้มสวมเพียงผ้าเช็ดตัวพันเอวสอบอยู่ผืนเดียวถอยห่างไปทันที แต่ไม่ไวไปกว่ามือเรียวบางที่คว้าหมับกระตุกเอาชายผ้าเช็ดตัวหลุดติดมือไป จนเจ้าของผ้าเช็ดตัวต้องถลาตามไปดึงเอาไว้ด้วยความตกใจ แต่กลับพลาดสะดุดขาตัวเองล้มลงทาบทับกายเปลือยนุ่มนิ่มที่นอนหงายอยู่บนเตียงเสียเต็มเปา ยังดีที่เขายั้งตัวเองไว้ได้ทันด้วยการใช้ข้อศอกดันตัวเองไว้ ไม่ให้น้ำหนักตัวทุ่มลงไปบนตัวเธอทั้งหมด ไม่อย่างนั้นคนตัวเล็กอาจจะกระดูกหักก็เป็นได้“กระติ๊บ ทำอะไรของคุณฮึ!” พบรักว่าเสียงเข้มทว่าไม่มั่นคง“นอนๆ นอนด้วยกันค่ะ” พลอยชมพูว่าเสียงอู้อี้ แถมยังใช้สองแขนกอดรัดร่างเกือบเปลือยของคนที่คร่อมทับตัวเองอยู่ไว้แน่น“จะนอนก็นอนไป ปล่อยผม”“ไม่ปล่อย จุ๊บๆก่อนนะคะพี่ต่าย”พบรักถอนหายใจ พลอยชมพูคงเข้าใจว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอ ชายหนุ่มจึงตัดใจหลับตาจุ๊บไปหนึ่งทีที่หน้าผากมน“ฝันดีนะคะ” พลอยชมพูว่าแล้วปล่อยวงแขนออก หญิงสาวหลับตาลงเอาดื้อๆ เป็นพบรักเสียเองที่เริ่มลังเลว่าจะลุกไปจากตรงนี้ทั้งที่มีโอกาสแล้วหรือไม่ เขาไ
“กระติ๊บ” พบรักเรียกคนที่ยังเมาไม่รู้เรื่อง หวังให้เธอได้สติสักน้อยนิดก็ยังดี เขาจะได้บอกให้เธอจัดการอาบน้ำทำความสะอาดตัวสักหน่อย ขืนปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ดีแน่“ขา...” พลอยชมพูเงยหน้าขึ้น ขานรับเสียงยานคางหวานจ๋อย ทว่าดวงตาคู่งามยังหลับพริ้ม ริมฝีปากอิ่มสวยคลี่ยิ้มหวานเย้ายวน“คุณควรอาบน้ำ” พบรักถอนหายใจ แล้วบอกคนที่ยืนอิงแนบอกตัวเองอยู่ ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ควรอาบน้ำหรอก เขาก็ด้วย เพราะเปื้อนไปทั้งตัว ทั้งกลิ่นก็ชวนให้คลื่นเหียนอาเจียนออกมาสมทบกับเธอเหลือเกิน“ไม่อาบ จะนอนค่ะ” พลอยชมพูบอกแล้วซบหน้ากับอกกว้าง“ไม่อาบไม่ได้” พบรักบอกเสียงเข้ม จับบ่าของคนยืนโงนเงนดันตัวเธอออกห่าง“ไม่หวายยย...ง่วงค่ะ มึนหัวด้วย” พลอยชมพูส่ายหน้า โบกไม้โบกมือว่าไม่ไหวจริงๆพบรักถอนหายใจแรง ชักรำคาญยายเมรีขี้เมา ถ้ายังต่อล้อต่อเถียงกับเธออยู่นี่ เขาก็คงไม่ได้พักผ่อนสักที ชายหนุ่มจึงตัดสินใจดันร่างสาวไปยืนใต้ฝักบัว แล้วเปิดน้ำชำระล้างร่างกายเธอ ทว่าเมื่อคนเมาถูกสายน้ำรินรดตัวก็สะดุ้ง กระโดดเข้ามากอดเขาไว้แน่น“กระติ๊บ! ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย” พบรักอยากจะจับแม่ตั
“ถ้าบอกว่าไม่พอใช้ คุณพบจะเพิ่มเงินเดือนให้ติ๊บเหรอคะ” พลอยชมพูถามแล้วยิ้มกว้าง ตาเป็นประกาย“เปล่า จะบอกว่าไม่พอก็ต้องพอ”“โธ่! ก็นึกว่าจะใจดีให้เงินเดือนเพิ่ม” ใบหน้ายิ้มร่าเมื่อครู่หุบลงทันควัน“คนอื่นเขายังพอใช้เลย อยู่ที่นี่บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ ผมไม่เห็นว่ากระติ๊บมีความจำเป็นต้องใช้เงินเลยนะ”“ผู้ชายก็งี้แหละ ไม่เข้าใจผู้หญิงเอาเสียเลย คุณพบรู้ไหมว่าผู้หญิงน่ะ เขามีของที่ต้องซื้อใช้ประจำเดือนเยอะแยะ”“ของใช้ประจำเดือน...หมายถึงผ้าอนามัยเหรอ มันก็ไม่น่าจะแพงอะไรขนาดนั้นนะ”พลอยชมพูถอนหายใจแรง ตาคู่งามเหลือบมองบน“ติ๊บไม่คุยกับคุณพบแล้ว ผู้ชายอะไรไม่เข้าใจความเป็นผู้หญิงเอาเสียเลย ติ๊บขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”ลูกจ้างสาวสวยของพบรักสะบัดค้อนเดินออกจากห้องไปแล้ว ชายหนุ่มมองตามจนกระทั่งประตูห้องปิดลง พบรักเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ถอนหายใจบางเบา ระบายยิ้มเต็มใบหน้าคมเข้ม เธอน่ารักสดใส เวลาได้พูดคุย ได้อยู่ใกล้ๆ เขายอมรับว่าหัวใจเต้นในจังหวะที่แปลกไปจากเดิม“เอ้า! ไชโย!” เสียงเ
“คุณกระติ๊บ” ลำดวนกวักมือเรียกเมื่อเห็นคนที่ตามหามาตั้งแต่เช้าเดินเข้ามาใกล้“กินอะไรมาหรือยังคะคุณกระติ๊บ”“กินแล้วค่ะ อิ่มตื้อเลย” ก็จะไม่ให้อิ่มได้อย่างไร เธอกินขนมมาตลอดทาง และกินหมดคนเดียวไม่แบ่งคนขับรถด้วย“แล้วนี่ไปไหนมาคะ รู้หรือเปล่าว่าวันนี้เป็นวันเงินเดือนออก”“วันนี้เงินเดือนออกหรือคะ แล้วติ๊บต้องไปรับเงินเดือนที่ไหนคะ” พลอยชมพูถามกลับด้วยความตื่นเต้น“ของน้าและของคนอื่นที่เป็นพนักงานประจำก็โอนเข้าบัญชีค่ะ แต่ถ้าเป็นพวกจ้างรายวันมาทำงานบางอย่างก็ให้ไปรับกับการเงินที่ออฟฟิศ”“งั้นติ๊บคงต้องไปรับที่ออฟฟิศ เพราะติ๊บไม่ได้ให้เลขที่บัญชีธนาคารไว้ ติ๊บไปรับตอนนี้เลยได้ไหมคะ” เพราะเป็นเงินเดือนจากน้ำพักน้ำแรงเดือนแรก หลังจากที่ออกจากบ้านมาทำงานที่นี่ พลอยชมพูจึงตื่นเต้นเป็นพิเศษ“ตอนนี้ติดพักเที่ยงค่ะ ไปรับหลังบ่ายโมงดีกว่าค่ะ” พลอยชมพูพยักหน้ารับ ยิ้มหวานวาดฝันถึงเงินเดือนก้อนเล็กๆของเธอ“เอ่อ...คุณพบบอกว่าจะเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้คุณกระติ๊บเองค่ะ”พลอยชมพูโกรธจนควันออกหู เมื่อเธออุตส่าห์เดินไปถึงออ
พยาบาลเงยหน้ามองสบตาญาติผู้ป่วยยิ้มๆ พบรักค้อมศีรษะให้ และเอ่ยคำขอบคุณ เขารอกระทั่งคุณพยาบาลเดินออกไปจากห้องแล้ว จึงก้มลงมองคนที่ยังคงกอดเขาไว้แน่น“ไหนใครบอกจะไม่ร้องไห้นะ”พลอยชมพูผละหน้าที่เปียกปอนน้ำตาออกมาจากอกกว้าง ใช้หลังมือปาดน้ำตา เงยหน้ามองคนล้อเลียนด้วยสายตางอนๆ“ก็ตอนแรกว่าจะไม่ร้องแล้ว ฮึกๆ แต่มันทนไม่ไหว มันเจ็บ ฮึกๆ คุณพบไม่ได้เป็นคนถูกฉีดยานี่ คุณพบไม่เข้าใจหรอก”“เจ็บเท่ามดกัด แค่นี้ทำมาร้อง”“มดกัดไม่เจ็บขนาดนี้หรอก ติ๊บเคยถูกมดกัดนะ ทำไมจะไม่รู้ว่ามันเจ็บแค่ไหน คุณพบน่ะเป็นผู้ใหญ่เสียเปล่า มาโกหกเด็กทำไม”คนถูกกล่าวหาว่าโกหกเด็กยิ้มในหน้า“เด็กโข่งน่ะสิ”พลอยชมพูสะอึกเมื่อถูกเขาว่า หญิงสาวยืดอก เชิดหน้าขึ้น มองเมินไปทางอื่น ปาดน้ำตาอีกสองที บอกเขาด้วยน้ำเสียงงอนๆ“คุณพบไม่เป็นติ๊บคุณพบไม่มีวันเข้าใจหรอก คนเรามีเรื่องที่ทำให้เจ็บแล้วจำฝังใจทั้งนั้นแหละ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ ฉีดเข็มสุดท้ายติ๊บคงไปฉีดที่กรุงเทพ เพราะถึงวันนั้นติ๊บคงกลับบ้านแล้ว คงไม่ได้รบกวนคุณพบอีกแล้วค่ะ”หลังขับรถออกมาจากโรงพยา
“มีคนทำแล้วค่ะ บ้านพักตั้งยี่สิบหลัง ต้องช่วยกันหลายคนหน่อยค่ะ ไม่งั้นเสร็จไม่ทันลูกค้าที่จะเข้าเช็กอินช่วงบ่ายแน่”“อ๋อ! ค่ะ...แล้วทำห้องนี้เสร็จแล้ว เราไปกินข้าวกันได้เลยใช่ไหมคะน้าลำดวน” พลอยชมพูถาม ขณะที่เดินตามลำดวนเข้าไปในห้อง เริ่มลงมือจัดเก็บตามขั้นตอนที่ลำดวนแนะนำและทำให้ดูมาหลายห้องแล้ว“หิวแล้วเหรอคะ” ลำดวนถามยิ้มๆ มือก็จัดการดึงผ้าปูที่นอนขึ้นจากเตียง“นิดหน่อยค่ะ” ก็จะไม่ให้เธอหิวได้อย่างไร เมื่อเช้าหลังจากที่พบรักบอกเธอว่าสัปดาห์หน้าต้องไปฉีดยาเข็มที่สอง เธอก็ตื้อไปหมด กินอะไรไม่ลง การกินข้าวมื้อเช้าน้อยเกินไป เลยส่งผลให้หิวเร็วกว่าปกติ“งั้นก็เร่งมือช่วยกันนะคะ เสร็จแล้วเราไปกินข้าวที่ห้องครัวกัน”“ค่ะ เอ่อ...น้าลำดวนคะ ติ๊บสงสัยอย่างหนึ่งค่ะ”“อะไรหรือคะ”“ที่นี่ไม่มีผู้จัดการรีสอร์ตหรือคะ คือตั้งแต่มาทำงานที่นี่ ติ๊บเห็นคุณพบทำโน่นนี่เองทุกอย่างเลย”“ก็คุณพบไงล่ะคะ คุณพบน่ะเป็นทั้งเจ้าของทั้งผู้จัดการ เธอทำเองทุกอย่าง ทำจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน เพราะไม่อยากมีเวลาว่างให้จิตใจต้องคิดเรื่องอื่นฟุ้งซ่าน” ลำดวนพูดไปด้ว
พลอยชมพูตัดสินใจออกแรงดันอกกว้าง พยายามพาตัวออกจากพันธนาการแสนหวาดเสียว ทว่าตัวเล็กๆแรงน้อยๆอย่างเธอไม่สามารถพาตัวเองขยับไปไหนได้เลย หญิงสาวถอนหายใจออกมาสุดแรง ตัดสินใจแล้วว่า การปลุกเขาให้ตื่นดูจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นเธอคงโดนเขากอดจนขาดอากาศหายใจตายแน่ๆพลอยชมพูสูดหายใจลึก รวบรวมพลังกายพลังใจ บอกตัวเองว่าต้องตั้งมั่นอยู่บนความหาญกล้า ก่อนจะเอ่ยเรียกเขาออกไปด้วยเสียงสั่นน้อยๆ“คุณพบคะ”แต่ดูเหมือนว่างูเหลือมตัวโตที่รัดเธอไว้แน่นจะไม่ได้ยิน เขาไม่รู้สึกตัว ไม่ลืมตา และที่สำคัญไม่ยอมคลายอ้อมแขนออกจากตัวเธอด้วย มิหนำซ้ำยังรัดแน่นขึ้นอีกต่างหาก นี่เขาคิดจะรัดเธอจนกระดูกหัก แล้วหลังจากนั้นก็จะเขมือบเธอลงท้องหรือเปล่า“คุณพบคะ! คุณพบๆๆๆๆๆ” พลอยชมพูเรียกเขาเสียงดังขึ้น และเรียกติดๆกันหลายครั้ง ทั้งออกแรงดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในอ้อมกอดของเขาด้วย และครั้งนี้มันได้ผล เขาค่อยๆลืมตาขึ้น เธอยิ้มดีใจที่เขารู้สึกตัว เขามองสบตาเธอ แต่ครู่เดียวเขาก็หลับตาลงดังเดิม“อ้าว! คุณพบ! ตื่นสิคะ” พลอยชมพูโวยวาย เมื่อกี้ก็ตื่นแล้วนี่ แล้วก็เห็นอยู่ว่าเธอนอนอยู่ตรงนี้
พบรักยกมือขึ้นกอดอก มองตามร่างบางเดินหนีไปด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนหันไปมองบริเวณที่งานแต่งกำลังดำเนินอยู่ แล้วระบายยิ้มบางเบาโดยไม่รู้ตัวหลังพิธีแต่งงานของลูกค้าเสร็จสิ้นลงแล้ว ช่วงค่ำมีงานเลี้ยงแขกผู้มาร่วมงาน พนักงานรีสอร์ตต้องมาคอยทำหน้าที่บริการอาหารและเครื่องดื่ม พลอยชมพู น้ำหวาน และพนักงานชายอีกคนรับหน้าที่ผสมเครื่องดื่ม“สีสวยจังเลย” แม้จะอยู่ประจำจุดผสมเครื่องดื่ม แต่ดูเหมือนว่าพลอยชมพูก็ทำได้แค่เพียงยืนให้กำลังใจเพื่อนพนักงาน และชื่นชมเมื่อพนักงานชายผสมเครื่องดื่มและจัดวางท็อปปิ้งบนแก้วออกมาได้อย่างสวยงาม“อร่อยด้วยนะคะคุณกระติ๊บ” น้ำหวานกระซิบบอก“อร่อยแต่เมาแหงๆ” พลอยชมพูทำหน้าเหยเก“ไม่เมาหรอกค่ะ ผสมเหล้านิดเดียวเอง ลองชิมดูหน่อยไหมคะ” น้ำหวานยื่นแก้วน้ำสีสวยให้พลอยชมพู“ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวเมา เดี๋ยวถูกคุณพบว่า” พลอยชมพูส่ายหน้าปฏิเสธ“ลองชิมดูนิดเดียวเองค่ะ คุณพบไม่เห็นหรอก อย่างน้อยก็จะได้รู้รสชาติ เผื่อวันหลังจะได้มาหัดชงไงคะ” น้ำหวานยื่นแก้วไปแตะมือพลอยชมพู คนถูกคะยั้นคะยอรับมาถือไว้สีหน้าไม่สู้ดีเท่าไร“แก้วเดียวไม่
“เอามันม่วงด้วยนะคะคุณพบ” พลอยชมพูเกาะแขนคนข้างๆ เขย่าอย่างตื่นเต้น ตากลมสุกใสมองมันทิพย์ลูกขนาดพอดีคำทั้งสีขาวสีม่วงที่ถูกปิ้งอยู่บนตะแกรงด้วยความตื่นตาตื่นใจพบรักหลุบตามองมือนุ่มที่เกาะแขนตนอยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปสั่งแม่ค้าให้ พอแม่ค้ายื่นถุงให้ พลอยชมพูก็รับมาถือไว้เอง“ของติ๊บ ติ๊บถือเองค่ะ” เจ้าของมันทิพย์ยิ้มอย่างดีใจ“จะเอาอะไรอีกไหม” พบรักเอ่ยถามคนที่ยังเกาะแขนเขาไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกมือถือถุงขนมไว้พลอยชมพูมองซ้ายขวา ชะเง้อคอมองร้านค้าที่เรียงรายกันอยู่“แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ เรารีบกลับรีสอร์ตกันเถอะ”“แล้วไหนบอกว่าจะซื้ออย่างอื่นด้วย”“ก็ตอนนี้ไม่อยากได้แล้ว ไปเถอะค่ะ” พลอยชมพูดึงแขนที่เธอเกาะอยู่ให้เดินกลับไปที่รถด้วยกัน พบรักยอมเดินตามแต่โดยดี เขายิ้มในหน้า ตาคมอ่อนแสงลงเมื่อหลุบมองมือที่จับอยู่บนแขนของตน“คุณพบรีบๆหน่อยสิคะ” พลอยชมพูเร่ง เมื่อคนขับขับรถด้วยความเร็วที่ไม่ค่อยทันใจเธอเอาเสียเลย“รู้ไหมว่าการขับรถเร็วอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้”“รู้ค่ะ แต่ติ๊บอยากกลับถึงรีสอร์ตก่อนบ