หลังจากวันนั้นทั้งสองก็อยู่ด้วยกันตามปกติ เถียงกัน ด่ากัน เป็นประจำ เพราะคิงส์ก็ชอบพูดจาก่อกวนชวนให้โมโหและเดียร์ก็เป็นคนที่ไม่ยอมอะไรใครง่ายๆ ทั้งสองเลยเถียงกันด่ากันเป็นประจำ แต่ยังดีที่ห้องของเธอเป็นห้องเก็บเสียง เลยไม่เสียงดังรบกวนข้างๆ ห้อง“เดียร์…”“อือว่า?” ร่างบางเลิกคิ้วสูงแต่ไม่ได้หันไปมองต้นเสียง “มีอะไรก็พูดมา ฉันไม่ได้มีเวลามานั่งฟังนายตลอดคืนหรอกนะ”“เธอหายเจ็บหรือยัง”“หายเจ็บอะไร?” เดียร์วางปากกาในมือลงแล้วหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียง “หมายถึงรอยที่คอเหรอ?”พูดจบเธอก็ลูบวนที่ต้นคอของตัวเองเบาๆ เพราะเธอก็ไม่เคยเจ็บตัวจากอะไรเลยนอกจากรอยดูดที่คิงส์ได้กระทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นได้ไม่นานเธอก็รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ และมีรอยเขียวช้ำเพราะถูกดูดอย่างแรงจนเนื้ออักเสบ“เปล่า…” เขาตอบเสียงเรียบ ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงแล้วเดินมาหาเธอที่โต๊ะทำงาน “ฉันหมายถึงตรงนี้ต่างหาก” มือหยาบลูบวนที่หน้าท้องแบนราบไปมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหมายถึงอะไร“นี่นาย…”“หวังว่าเธอจะไม่ลืมนะ ว่าข้อตกลงของเราคืออะไร” เขาพูดย้ำเตือนขึ้นมาอีกครั้ง เพราะกลัวว่าเธอจะลืมข้อตกลงที่เคยพูดกันเอาไว้ก่อนหน้านี้ ข้
“อร๊างง!!” เอวบางยกขึ้นสูงเมื่อลิ้นหยาบแตะลงที่จุดกลางกายของเธอแล้วลากเลียไปตามกลีบร่องสีแดงสด ก่อนจะตวัดเลียรัวๆ ที่รูร่องแคบจนมีน้ำสีใสไหลเยิ้มออกมาเต็มลิ้นของเขา “นะ นายคิงส์ อ๊าา ยะ อย่าทำตรงนั้น”ดูเหมือนว่ายิ่งเธอพยายามขัดขืนมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งทำแรงมากกว่าเดิม แขนแกร่งกดสะโพกมนเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้เธอดิ้นหนีออกไป“อืมมม…” คิงส์ครางผ่านลำคอเบาๆ พร้อมกับตวัดลิ้นรัวๆ ที่เม็ดทับทิมนั้น“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊างนายคิงส์ อื้ออ” เธอร้องครางปานจะขาดใจ แต่เขากลับไม่ได้สนใจเสียงครางของเธอเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าเสียงครางของเธอจะสร้างอารมณ์กำหนัดในกายเขาได้อย่างดี“อืออ…” นิ้วเรียวยาวค่อยๆ แหวกกลีบกุหลาบสีแดงช้ำแล้วค่อยๆ แยงนิ้วเข้าไปในร่องที่เต็มไปด้วยน้ำเยิ้ม ก่อนจะชักรูดเข้าออกเบาๆ จนน้ำไหลออกมามากกว่าเดิม“อ๊าา อ๊างง ยะ อย่าทำ อื้อ” ดูเหมือนว่าร่างกายของเธอจะแสดงตรงกันข้ามกับคำพูด ในขณะที่เธอกำลังร้องขอให้เขาหยุดการกระทำนี้ ร่างกายของเธอกลับเรียกร้องให้เขาทำมากกว่าเดิม“ตอดนิ้วขนาดนี้ ยังจะให้หยุดอีกเหรอ หืม…” เขาเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเธอพร้อมกับกระตุกยิ้มเบาๆ ให้กับเธอ ก่อนจะเลื่อนหน้าก้มลงไป
ปึก!~กายแกร่งลำเขื่องกระแทกเข้าร่องแคบอย่างแรงจนมิดลำ ทำให้หญิงสาวผู้ถูกกระทำถึงกับน้ำตาไหลเพราะความจุก แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเธอถูกพันธนาการติดอยู่กับหัวเตียง“อื้มม ซี๊ดดอ่าส์ แปลกๆ ไงไม่รู้ว่ะ ใส่ถุงยางเนี่ย” เขาเอ่ยขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด เพราะถุงยางมันทำให้เขาไม่รู้สึกกระชับอะไรเลยถุงยางชนิดนี้ถูกสั่งทำขึ้นมาสำหรับคนที่ชอบมีเซ็กซ์แบบรุนแรงจนถุงอาจจะแตก และชนิดนี้หนาพิเศษต่อให้รุนแรงมากแค่ไหนก็ไม่มีทางขาดหรือหลุดได้แน่นอน นอกซะจากจะมีการผิดพลาดก่อนสวมใส่ดวงตาคมผลุบมองต่ำลงที่จุดเชื่อมต่อก่อนจะสาวเอวเข้าออกอย่างเนิบนาบให้เธอรู้สึกกับกายแกร่งนี้“จะ จุก ฉันจุก!”“ทนเอา อีกนิดก็ไม่เจ็บแล้ว” มือหนาเลื่อนขึ้นไปเช็ดน้ำตาให้กับเธอ ก่อนจะใช้กุญแจปลดล็อคกุญแจมือที่พันธนาการตัวเธอเอาไว้ออก เพื่อให้เธอรู้สึกผ่อนคลายมากกว่านี้“ทำไมนายต้องรุนแรงกับฉันด้วย” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า“ฉันชอบแบบนี้” คำตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความและความหมายอย่างชัดเจน มันเป็นรสนิยมทางเพศชนิดหนึ่ง มองภายนอกก็เหมือนคนโรคจิตที่มีรสนิยมทางเพศผิดแปลกไปจากคนอื่น แต่ถ้าใครเข้าไม่ถึงก็จะไม่รู้เลยว่านี่มันเป็นควา
เช้าวันต่อมาชายหนุ่มขยับตัวเล็กน้อยแต่พอร่างกายของเขาสัมผัสกับคนข้างๆ เขาก็รีบดีดตัวลุกขึ้นทันทีเพราะรู้สึกถึงความร้อนระอุในร่างกายของเธอ ซึ่งนั่นมันหมายความว่าเธอกำลังเป็นไข้ตัวร้อนมาก“เดียร์ เดียร์ นี่เดียร์!” เขาเขย่าเธอเบาๆ เพื่อที่จะให้เธอนั้นได้สติขึ้นมา แต่ไร้การตอบรับใดๆ จากเธอ “เวรละ!”คิงส์รีบคว้าผ้าขนหนูมาพันท่อนล่างของตัวเอง ก่อนจะรีบไปหยิบกะละมังน้ำกับยาลดไข้มาให้เธอ“อื้ออ หนาว หนาว” ร่างบางร้องครางเสียงแหบแห้ง เมื่อผ้าเช็ดตัวถูลากไปตามร่างกายของเธอ ซึ่งตอนนี้ตัวของเธอก็ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า คิงส์เลยเช็ดตัวให้กับเธอได้ทุกซอกทุกมุม“เธอนี่มันอ่อนแอจริงๆ เลยนะ โดนเอาแค่นี้ก็ถึงกับไข้แตกเลยเหรอ” ร่างหนาบ่นพึมพำขณะที่กำลังเช็ดตัวให้กับคนตรงหน้า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมีอะไรกับเขาแล้วเป็นไข้หนักอย่างนี้ แต่เขาไม่เคยรู้เลยต่างหาก ถึงแม้ร่างกายภายนอกของเธอจะดูแข็งแรงเหมือนจะไม่เจ็บป่วยอะไรง่ายๆ แต่การเจอศึกหนักแบบนี้ต่อให้ร่างกายแข็งแรงมากแค่ไหนก็ต้องมีเจ็บปวดเป็นธรรมดา“อื้มม พอแล้วพอ ฉันหนาว”“ลุกขึ้นมากินยาก่อนมา จะได้หายไข้”“ไม่กิน ฉันไม่กิน” หญิงสาวปฏิเสธ ก่อนจะพลิกตัวหั
เดียร์ Talk ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีไม่รู้กี่โมงแล้ว แต่ร่างกายของฉันมันก็ดีขึ้นเยอะเลยนะไม่รู้สึกปวดหัวแล้ว นึกว่าจะเป็นไข้จนต้องไปโรงพยาบาลเหมือนครั้งก่อนอีก ไอ้คิงส์บ้าก็รุนแรงอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ฉันไม่ใช่ท่อนไม้นะที่จะไม่รู้สึกอะไรเลยเวลาถูกกระแทกแบบนี้แต่ลืมไปตอนนั้นฉันก็ยั่วยวนเขาเองนี่นา ช่างเหอะขี้เกียจสนใจ“ทำอะไรอะ?” ฉันเดินโซซัดโซเซออกไปข้างนอก เห็นนายคิงส์นั่งอยู่หน้าจอโน๊ตบุ๊คของฉัน“ฉันดูงานที่เลขาส่งเมลมาให้เธอน่ะ” เขาตอบ“อ๋อ แล้วเป็นยังไงล่ะ นายเรียนด้านนี้มาด้วยเหรอถึงรู้” เท่าที่ดูนายนี่น่าจะเรียนด้านบริหารจบมาจากเมืองนอก เพราะฉันไม่เคยเห็นหน้าตาเลยตามมหาวิทยาลัยในไทย อีกอย่างเขาก็ไม่ได้อยู่ในเมืองไทยด้วย มีเงินแบบนี้ก็คงจะไปเรียนอยู่ที่เมืองนอกแหละ“เปล่า แต่ฉันก็พอที่จะมีความรู้ด้านนี้อยู่บ้าง บัญชีการเงินเธอมันแปลกๆ นะ”“แปลกยังไง?” ฉันเดินเข้าไปหาเขาแล้วมองหน้าจอโน๊ตบุ๊คที่คิงส์เปิดไว้ เท่าที่ดูมันก็ไม่เห็นมีอะไรน่าแปลกเลยนี่นา“เธอไม่เคยสังเกตเลยเหรอว่าการเงินมันไม่เคยตรงกันเลยซักเดือน หรือว่าเธอแค่ตรวจยอดสรุปแล้วเซ็นแค่นั้น”“อื้อ…ก็ฝ่ายบัญชีจัดการมาให้ฉัน
บริษัทเดียร์ดีไซน์เนอร์ “สวัสดีค่ะคุณเดียร์ วันนี้มาทำงานเช้านะคะเนี่ย”“แหะๆ ค่ะป้า” ฉันยิ้มตอบรับป้าแม่บ้าน วันนี้ฉันมาทำงานเช้ากว่าปกติเพราะต้องเข้าไปเอาเอกสารในห้องเก็บของด้วย นายคิงส์ย้ำนักย้ำหนาว่าอย่าให้ใครรู้เด็ดขาด และกำชับฉันอย่างดีว่าให้ฉันเอาเอกสารมาให้ได้นี่ฉันเหมือนไม่ใช่เจ้าของบริษัทแล้วอ่ะ เหมือนเป็นโจรผู้ร้ายเข้ามาลักขโมยของในบริษัทและฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องลึกลับขนาดนั้น ทั้งๆ ที่ฉันก็เป็นเจ้าของบริษัทมีสิทธิ์ไปได้ทุกซอกทุกมุมของบริษัทนี้ กับอีแค่ห้องเก็บของเก็บเอกสารเก่าแค่นี้เองฉันรีบเอาของไปเก็บในห้องทำงานของตัวเอง จากนั้นก็รีบไปเอาเอกสารทั้งหมดของปีที่แล้วและปีนี้ไปเก็บไว้ในรถ ก่อนจะเข้าไปทำงานตามปกติอย่างเคย จนพนักงานก็เริ่มทยอยกันมาทำงานเรื่อยๆ“อ้าวคุณเดียร์ ทำไมวันนี้ถึงมาเช้าจังเลยคะ”“พอดีว่าฉันรีบมาเคลียร์เอกสารน่ะ เมื่อวานไม่ได้ทำเลย” ฉันหันไปตอบเลขาพร้อมกับยิ้มให้จางๆ“ขยันจังเลยค่ะ รับกาแฟมั้ยคะ เดี๋ยวดิฉันไปจัดการมาให้”“ไม่เป็นไรจ้ะ พอดีว่ามีร้านกาแฟเปิดใหม่อยู่ตรงนี้พอดีเลย ฉันว่าจะลองไปชิมดูถ้าอร่อยก็จะได้ยึดเป็นร้านประจำเลย” ฉันรู้สึกเข็ดข
คอนโดxxติ๊ด~ร่างบางแตะคีย์การ์ดเข้าไปในห้องตามปกติ ก่อนจะก้าวขาเดินเข้าไปด้วยความอ่อนเพลีย“นายคิงส์ เอกสารยังอยู่ที่รถนะฉันไม่ได้ยกขึ้นมาด้วย วันนี้ฉันเหนื่อยนะอย่าเพิ่งมากวน” เธอหลับหูหลับตาพูดโดยที่ไม่ได้สนใจอะไรเลย ด้วยความที่กลัวว่าชายหนุ่มจะมายุ่งวุ่นวายกับเธอในเวลานี้ เธอรู้สึกเหมือนว่าอาการไข้มันจะกลับมาอีกแล้ว“ตัวร้อนอีกแล้วเหรอ” ร่างบางเซถลาเกือบล้ม ยังดีที่ชายหนุ่มเข้ามาคว้าตัวเธอเอาไว้ได้ทัน“อือ…ฉันรู้สึกปวดหัวตั้งแต่บ่ายแล้วอ่ะ” เธอพูดอึมอำ รู้ตัวว่าป่วยแต่เธอก็ไม่ได้กลับมาตั้งแต่ตอนนั้น เพราะต้องรีบเคลียร์งานที่ค้างเอาไว้อยู่ให้หมด เพื่อที่เลขาจะได้เอาไปจัดการต่อ“แล้วกินยาหรือยัง?”“ยังอะ ฉันไม่ได้พกยาไปเลย”“บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้เอายาติดไปด้วย เห็นไหมไข้กลับมาอีกแล้ว”“ก็คนมันลืมนี่นา นายเองไม่ใช่เหรอที่เร่งให้ฉันรีบไปเอาเอกสารที่บริษัท ต้องโทษนายนั่นแหละที่ทำให้ฉันมีไข้กลับมาอีก”“เข้ามานั่งก่อนมา เดี๋ยวฉันจะไปเอายามาให้กิน”“อือ…” เธอเดินไปนั่งบนโซฟาตามที่เขาบอก ก่อนจะฟุบลงอย่างหมดแรง“อย่าเพิ่งนอน ลุกมากินยาก่อนเดี๋ยวจะเป็นหนักไปมากกว่านี้”“อืม…” เดียร์หยัดกา
หลายวันต่อมา คอนโด…“ยอดสรุปของเธอมันสูงดิ่ง แถมไม่สมเหตุสมผลเลยกับรายได้ที่เข้าในบริษัท”“…” ร่างบางนั่งฟังนิ่งๆ ยิ่งขุดก็ยิ่งเจอเรื่องน่าสงสัย เหมือนกับว่าบริษัทของเธอกำลังมีการฟอกเงินยักยอกทรัพย์ในบริษัทของเธอ“เธอรู้บ้างหรือเปล่าว่าบริษัทของเธอมีการโอนเงินไปบัญชีอื่นอีกไหม ที่ยอดโอนมันสูง หรือมีบัญชีที่น่าสงสัย”“ฉันไม่แน่ใจเลย เรื่องนี้ฝ่ายบัญชีเป็นคนจัดการเอง ฉันมีหน้าที่แค่ตรวจยอดสรุปแล้วเซ็นแค่นั้น” เธอบอกไป เธอพลาด…พลาดอย่างหนักเลยที่ไว้ใจคนใกล้ตัวได้มากขนาดนี้เดียร์เชื่อใจคนอื่นมากเกินไป จนต้องมาเจ็บแบบนี้“แล้วบริษัทของเธอมีลูกค้าเก่าเข้ามาใช้บริการซ้ำอีกหรือเปล่า”“ไม่นะ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้ารายใหม่ที่เข้ามา”“สาเหตุนี้หรือเปล่าที่ทำให้ลูกค้าเก่าๆ ของเธอไม่ยอมมาใช้บริการอีก”“ไม่รู้สิ ฉัแค่คิดว่างานแบบนี้มันไม่ได้จะมีบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการออกแบบภายในตัวบ้าน ห้องนั่งเล่นแบบนี้ ฉันว่าเค้าคงไม่ทำกันบ่อยขนาดนั้นหรอกมั้ง”“ฉันรู้ว่าไม่มีใครมาใช้บริการบ่อยขนาดนั้นหรอก ว่าแต่เธอยังมีเบอร์โทรลูกค้าที่เคยมาใช้บริการบริษัทของเธอหรือเปล่า?”“มีอยู่นะ แต่ต้องไปค้นรายชื่อบัญชีลูกค้าเ
3 ปีต่อมา“คุณลุงขา…” เสียงเด็กน้อยดังมาแต่ไกลทันทีที่ลงมาจากรถ ก่อนที่ร่างอ้วนกลมจะวิ่งเข้าใส่ลุงครามจนเกือบหงายหลังไป “คิดถึงคุณลุงจังเลยค่ะ”“เหรอครับ ลุงก็คิดถึงเด็กอ้วนของลุงเหมือนกันครับ” มือหนาบีบแก้มยุ้ยเบาๆ อย่างมันเขี้ยว“น้องดารินครับ เข้าบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ เล่นมาทั้งวันมีแต่เหงื่อทั้งนั้นเลย” คิงส์พูดขึ้นจากทางด้านหลังลูกสาว“ค่ะคุณพ่อ”แกตอบรับคำพูดของผู้เป็นพ่อแต่โดยดี ก่อนจะวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าไปด้านใน“แล้วมึงล่ะ มีอะไรหรือเปล่าถึงได้แวะมา” ถึงแม้จะเป็นครอบครัวที่สนิทและรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กันบ่อยนัก เพราะทุกคนต่างมีหน้าที่เป็นของตัวเอง จะมาเจอกันสักครั้งก็ต่อเมื่อมีงานหรือปาร์ตี้เล็กๆ ระหว่างครอบครัว“กูเพิ่งกลับมาจากออสเตรเลียน่ะ ก็เลยซื้อของมาฝากหลานสาวกับหลานชาย ไม่ได้แวะเอามาให้สักทีวันนี้ผ่านมาพอดีก็เลยแวะเอามาให้” ครามบอก“อ๋อ ขอบใจมากนะ”“อือ..กูกลับละ”“อืม…ขับรถกลับดีๆ นะมึง อย่าไปไถลเล่นกับฟุตบาทล่ะ”“เออ!”เป็นคำพูดที่ห่วงใยแต่ก็ยังไม่วายสอดแทรกเรื่องกวนบาทาใส่กัน ไม่รู้เลยว่าใครจอมยั่วใครจอมโมโหกันแน่ เพราะทั้งสอง
บ้านพักริมทะเล“อ่า…สดชื่นจัง…” คิงส์กางแขนออกกว้างแอ่นอกรับลมบริสุทธิ์จากผืนทะเล แต่จู่ๆ ก็มีมือปริศนามาผลักเขาออกไป“ยืนกีดขวางฉิบหายมึงเนี่ย!” ครามพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูหงุดหงิด แต่ดูเหมือนจะแกล้งคนข้างๆ มากกว่า“ก็ทางเดินมีตั้งมากมายมึงไม่เดิน มาเดินเอาตรงที่กูยืนอยู่เนี่ยนะ!?” คิงส์หันไปต่อว่า ตรงที่เขายืนเป็นหน้าบ้านก็จริงแต่บ้านก็กว้างพอที่จะไปเดินทางอื่นได้“นี่มันบ้านกู กูจะเดินไปตรงไหนก็ได้ไม่ผิด” ครามทำหน้าเฉยชาใส่คิงส์ ราวกับว่าไม่รู้สึกอะไรกับการกระทำของตัวเองเลย“มันไม่ผิดหรอก มันอยู่ที่มารยาทต่างหากไอ้เวร! กูรู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นของมึง แต่กูมายืนอยู่ตรงนี้ก่อนมึง” คิงส์หันไปเท้าเอวด่าอยู่ด้วยกันสองคนไม่ได้เลยจริงๆ สองคนนี้ มีอันเป็นต้องหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอด ส่วนมากก็จะเป็นเรื่องบ้าๆ บอๆ ที่ด่ากัน“แล้วไง? กูไม่ได้สนใจเรื่องนี้สักหน่อย”“มึงนี่มันกวนตีนไม่เปลี่ยนเลยนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนกูกับมึงก็คงจะวางมวยกันไปแล้ว”“มาดิ ตอนนี้ยังวางได้นะ”“เดี๋ยวกูจะฟ้องเมียมึง” คิงส์พูดขู่“ฟ้องเรื่องอะไร๊ กูไม่ได้มีเรื่องปิดบังอย่างเช่นเรื่องแต่งรถเหมือนมึงสักหน่อย”“ให้กูพูดจริงๆ เ
“กูขออุ้มหลานหน่อย” ครามยื้อแขนที่รอรับเด็กสาวตัวน้อย แต่กลับถูกคิงส์พาเดินหนีออกไป “ไอ้คิงส์! กูบอกขออุ้มหลานหน่อย”“กูไม่ให้อุ้ม” คิงส์หันมาตอบกลับเสียงแข็งกร้าว“แต่นี่หลานกู”“หลานมึง แต่ลูกกู”ทั้งสองยืนเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะไม่มีใครยอมใครเลย อีกคนก็อยากอุ้มหลาน อีกคนก็หวงลูกราวกับจงอางหวงไข่ ไม่ยอมให้ใครได้แตะต้องลูกสาวเลยโดยเฉพาะคราม“เฮ้ย! มึงจะหวงทำไมวะ กูแค่ขออุ้มหลานหน่อยแค่นี้เอง ไม่ได้พาไปไหนสักหน่อย” ครามพูดแย้งออกไป“กูไม่ให้อุ้ม เดี๋ยวมึงเอาลูกกูไป” คิงส์หวงลูกสาวมาก เพราะแกทั้งน่ารักขี้อ้อน ตัวอ้วนกลมแถมแก้มซาลาเปาหน้าหยิกเล่น ใครเห็นก็ต้องเป็นหลง โดยเฉพาะครามที่ชอบเด็กผู้หญิงตัวอ้วนๆ กลมๆ มาก“กูขออุ้มนิดเดียว มึงก็ยืนโด่อยู่ตรงนี้ กูจะเอาลูกมึงไปไหนได้”“มึงอยากได้ลูกผู้หญิงอีก ทำไมมึงถึงไม่ทำเอาเองล่ะ เหอะ! หรือว่าหมดน้ำยาแล้ว?” คิงส์หัวเราะเย้ยหยันคนตรงหน้า“น้ำยากูยังไม่หมดหรอก แต่เมียกูไม่ยอมมีลูกให้อีกนี่หว่า บอกว่ามีแค่สองคนก็พอแล้ว” ครามถอนหายใจเฮือกใหญ่“มึงมันไม่มีน้ำยาเองนี่หว่า”“แล้วมึงล่ะ ทำไมไม่มีอีก”“กูทำหมันแล้วจะมีได้ไงวะ คนอย่างกูอะมันน้
6 เดือนต่อมาบ้านแสนอบอุ่น“แอ้ แอ้” เสียงของน้องดารินดังอ้าวออกมาถึงข้างนอก ฉันชะโงกหน้าเข้าไปมองก็เห็นว่าแกกำลังนั่งเล่นอยู่กับพี่ชายอยู่ ส่วนคิงส์ก็คอยนั่งดูแลอยู่ข้างๆ ตอนนี้พากันหลงเด็กน้อยคนนี้ทั้งพี่ชายทั้งพ่อเลย“ดูท่าคุณหนูไทเกอร์กับคุณคิงส์จะพากันหลงคุณหนูดารินจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วนะคะเนี่ย” ป้าอิ่มพูดขึ้น“ใช่ค่ะป้าอิ่ม” สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดคือกลัวว่าพี่น้องจะไม่รักกัน กลัวว่าจะมีคนมาพูดทำพี่น้องทะเลาะกัน แต่ตอนนี้ฉันไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วน้องไทเกอร์มีวุฒิภาวะของความเป็นพี่มาก คอยดูแลน้องอยู่ตลอด ทุกวันหลังเลิกเรียนก็จะมาเล่นอยู่กับน้อง อายุห่างกันมากไม่ใช่ปัญหาเลย ดีซะอีกที่จะมีพี่ชายคนโตคอยดูแลน้องสาวคนเล็กคนนี้น้องไทเกอร์แกเข้าใจดีว่าทำไมฉันถึงต้องดูแลเอาใจใส่น้องมากเป็นพิเศษ แต่ฉันก็ไม่เคยละเลยแกเลยสักครั้ง ฉันทำให้แกได้เห็นว่าต่อให้จะมีน้องอีกซักกี่คนความรักที่ฉันมีให้แกก็ยังเหมือนเดิม“แล้วคุณเดียร์ ไม่คิดจะมีคุณหนูอีกซักคนเหรอคะ”“ไม่ล่ะค่ะป้า เดียร์ผ่าคลอดน่ะค่ะคุณหมอบอกว่าถ้าท้องอีกอาจจะเสี่ยงแท้งต้องยุติการตั้งครรภ์ค่ะ เดียร์แพ้ยามากค่ะ โดยเฉพาะยาชากับยาสลบ”“ตายจร
โรงพยาบาล“ทำไมต้องวางยาสลบเธอด้วยล่ะครับหมอ ปกติแค่ผ่าคลอดให้แค่ยาชาก็ได้นี่นา” คนตัวสูงเอ่ยถามคุณหมอขณะที่กำลังวุ่นวายกันอยู่ภายในห้อง“คนไข้แจ้งมาล่วงหน้าแล้วนะครับว่าแพ้ยาชา และการวางยาสลบแบบนี้มันจะปลอดภัยดีกว่านะครับ ถ้าคนไข้มีอาการแทรกซ้อนขณะที่กำลังผ่าคลอด อาจจะทำให้เป็นอันตรายทั้งแม่และเด็กได้ครับ”“เธอกับลูกจะปลอดภัยใช่ไหมครับหมอ มีกับลูกของผมจะปลอดภัยใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงสั่นคลอน กลัวว่าลูกและภรรยาจะเป็นอะไรไป ถึงจะรู้มาบ้างว่าเธอแพ้ยา แต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะแพ้หนักขนาดนี้ และคำพูดของเดียร์พี่เคยพูดเอาไว้ก็ลอยเข้ามาในหัวของเขาทันที ( ตอนที่ฉันผ่าคลอดน้องไทเกอร์ ฉันแพ้ยาชาหนักมากจนหัวใจของฉันหยุดเต้นไปหลายครั้ง แต่ฉันก็กลับมาได้ในที่สุด )“ครับผม หมอรับรองครับว่าภรรยาและลูกของคุณจะต้องปลอดภัย”“…” ถึงคุณหมอจะยืนยันและรับรองแบบนั้น ก็ไม่ได้ทำให้เขาสบายใจอยู่ดีคิงส์ยืนรออยู่หน้าห้องผ่าตัดอย่างใจจดใจจ่อ รอคุณหมอออกมาบอกข่าวดีกับเขาเวลาต่อมาแกร่ก~ประตูสีขาวบานใหญ่ถูกเปิดออกตามด้วยร่างสูงที่ใส่ชุดกาวน์ปิดหน้าปิดตาเดินออกมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของคิงส์“เมียกับลูกของผมเป็น
หลายวันต่อมา“อืม…”“เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหมแบบนี้” คิงส์เอ่ยถามภรรยาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พลางไล่บีบนวดตามขาให้เธอบรรเทาอาการปวด“ดีขึ้นเยอะเลยล่ะ เฮ้อ..”“เมื่อไหร่จะคลอดครับลูกสาวพ่อหืม…พ่อตั้งหน้าตั้งตารอแล้วนะ รีบๆ ออกมานะครับ” ว่าแล้วก็พลางลูบที่ท้องใหญ่ไปมา“โอ๊ะ!?” เดียร์ร้องอุทานเพราะตกใจที่ลูกในท้องถีบอย่างแรงเมื่อคิงส์พูดจบ ราวกับว่ารับรู้ได้และอยากออกมาเต็มทนแล้ว เพียงแต่ยังไม่ครบกำหนดที่จะออกมาเท่านั้น“เป็นไร! จะคลอดเหรอ?” คิงส์เอ่ยถามด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินเสียงร้องของภรรยา“เปล่า ลูกดิ้นอะ ดิ้นแรงเลย” เดียร์บอก“เหรอ ขอจับหน่อยนะ” คิงส์เลื่อนมือไปสัมผัสกับหน้าท้องของเธออีกครั้ง เพราะอยากจะรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวภายในนั้น “ดิ้นจริงด้วย ดูสิถีบมือฉันใหญ่เลยอะ”เขาเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจเมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตในท้องใหญ่ของเธอ ดวงตาคมแดงก่ำราวกับคนกำลังจะร้องไห้ มือหนาก็ยังเลื่อนสัมผัสไปมาอยู่แบบนั้น“สงสัยแกจะได้ยินสิ่งที่คุณพูดนะ ดิ้นใหญ่เลย”“เหรอ…รีบๆ ออกมานะครับ พ่ออยากอุ้มอยากหอมแก้มหนูจะแย่แล้ว”ก๊อก ๆ ๆ ๆ“คุณพ่อคุณแม่ครับ นอนหรือยังครับ” เสียงเล็กๆ ด้านนอกตะโก
หกเดือนต่อมาเดียร์ Talkตอนนี้ท้องของฉันมันใหญ่ขึ้นมากเลยแหละ ไม่ได้ลูกแฝดหรอกแต่ได้ลูกผู้หญิงสมใจอยากคุณพ่อเขาเลย พี่ชายก็อยากได้น้องผู้หญิงเหมือนกัน เห็นบอกว่าอยากเป็นพี่ชายคนโตอยากคอยดูแลน้องสาว แต่อายุห่างกันพอสมควรเลยล่ะ กว่าคนในท้องจะคลอดน้องไทเกอร์ก็ปาไปหกขวบแล้ว พี่ชายกับน้องสาวอายุห่างกันหกปีเลยทำไงได้ล่ะ ก็มันมีแต่เรื่องวุ่นวายนี่นา กว่าจะสงบลงได้ก็สาหัสเหมือนกันนะ“อื้ม…ปวดขาจัง” ฉันบ่นพึมพำพลางทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะเอนตัวในท่าที่สบายที่สุด ท้องของฉันมันใหญ่มากทำอะไรก็ลำบากไปหมด ใหญ่กว่าน้องไทเกอร์อีก แต่อาจจะเป็นเพราะน้องไทเกอร์เป็นท้องแรกก็เลยไม่ใหญ่เท่าไหร่“รับของว่างมั้ยคะคุณเดียร์ เดี๋ยวป้าให้เด็กจัดมาให้”“ขอบคุณค่ะป้า” ฉันไม่ได้แค่ท้องใหญ่อย่างเดียวนะ ยังหิวตลอดเวลาอีกด้วยกินเยอะมาก“สักครู่นะคะ”“ค่ะป้า”วันๆ ฉันทำได้แค่นั่งเล่นอยู่ภายในห้อง ออกไปเดินเล่นตามในสวนบ้างเป็นบางครั้ง คิงส์ไม่ยอมให้ฉันเดินออกไปไหนโดยที่ไม่มีเขาไปด้วย เพราะกลัวว่าฉันจะไปลื่นล้มเกิดอุบัติเหตุแล้วเป็นอันตรายแต่ความจริงฉันก็ไม่อยากเดินออกไปไหนหรอก เพราะมันลำบากไหนจะปวดขาอีก เดินก้าวไป
อ้วกก อ้วกก อ้วกกนี่คือเสียงของคิงส์ที่กำลังมีอาการแพ้ท้องแทนเมียอย่างหนัก ชนิดที่ว่าไม่เป็นอันกินอันนอนกันเลยทีเดียว เขาอยากมีลูกอีกคนมากตอนนี้ก็สมใจอยากผู้เป็นพ่อแล้ว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการแพ้ท้องแทนเมียอย่างหนักหน่วง กินอะไรก็แทบจะไม่ได้ แค่ได้กลิ่นอาหารก็อ้วกพุ่งแล้ว กินได้แค่ของเปรี้ยวๆ เท่านั้นที่จะบรรเทาจากอาการพวกนี้“เป็นยังไงบ้างเนี่ยคุณ” เดียร์เข้ามาถามผู้เป็นสามีที่กำลังนั่งหมดแรงอยู่ข้างโถส้วมด้วยความเป็นห่วง ถ้าเทียบกับอาการแพ้ท้องของเธอตอนที่ท้องลูกคนแรกยังถือว่าเบามากกับลูกคนนี้“อืม…ไหวฉันไหว..” คิงส์ทำมือเป็นรูปโอเคส่งให้ภรรยาดู เพราะตอนนี้แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงโต้ตอบกลับแล้ว “ไอ้สังกะสีมัน…เอามะม่วงขึ้นมาให้หรือยัง”“ใกล้แล้วๆ ออกมานั่งข้างนอกก่อนสิ”“อืม…”“ค่อยๆ นะ” เดียร์เข้าไปพยุงร่างใหญ่ให้ออกมานั่งข้างนอกหลังจากที่รู้ว่าตัวเองนั้นกำลังท้องเธอก็แข็งแรงดีทุกอย่างไม่มีความผิดปกติอะไร มีเพียงคิงส์เท่านั้นที่แพ้ท้องเป็นแทนเธอทุกอย่าง“ไอ้สังกะสีมันไปเอามะม่วงถึงไหน ทำไมไปนานจังเลย” คิงส์เริ่มบ่นและก็เริ่มมีอาการหัวเสีย เพราะลูกน้องไม่ได้ดั่งใจ“ใจเย็นก่อนสิ เดี๋ยววาป
หลายวันถัดมาคิงส์ Talkจะว่าผมเร่งมีลูกก็ได้นะครับ แต่ผมก็อายุปานนี้แล้วนี่นาความจริงน่าจะมีลูกอายุเป็นสิบขวบเหมือนกับไอ้ครามได้แล้ว นี่ลูกชายคนโตของผมอายุแค่ห้าขวบเองแต่อายุผมปาไปสามสิบกว่าแล้ว ทำไมผมไม่คิดได้ตั้งแต่แรกนะว่าการมีลูกมันดีขนาดไหน มาคิดได้ก็จนตัวเองจะแก่แล้ว ผมอยากมีลูกสาวอีกสักคนนึงหรือจะเป็นลูกชายก็ได้ หรือจะเป็นแฝดก็ดี ผมได้หมดอะครับตอนนี้ ขอแค่มีผมอยากอุ้มเด็กตัวเล็กๆ เพราะตอนน้องไทเกอร์ผมก็ไม่มีโอกาสได้เจอหรือได้เห็นเลยมารู้อีกทีก็โตแล้ว ผมอยากดูแลตอนที่เดียร์เธอกำลังท้อง ผมรู้ว่ามันทดแทนกันไม่ได้ แต่ผมก็อยากจะทำให้เธอได้รู้ว่าผมใส่ใจเธอมากแค่ไหน ผมพร้อมจะดูแลเธอมากแค่ไหน ผมจะไม่ทำให้เธอต้องรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวอีกแล้ว ผมจะคอยอยู่ข้างๆ เธอ ไม่ทิ้งเธอไปไหนผมรู้ว่าการที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะต้องอุ้มท้องจนกว่าจะคลอดและเลี้ยงลูกคนเดียวมันรู้สึกยังไง ผมยอมรับเลยว่าเธอเก่งมากที่ผ่านจุดนั้นมาได้เธอเก่งมากครับ ไม่แปลกเลยที่น้องไทเกอร์จะรักเธอมากขนาดนี้“คุณพ่อคร้าบ โดดมาเร็ว”“ครับผม” ผมตะโกนตอบลูกชายไป ตอนนี้ผมพาเดียร์กับลูกมาเที่ยวอยู่ที่ทะเล ก่อนที่โรงเรียนของแกจะเปิด