“สวัสดีจ๊ะ น้องมิ้นท์ คุณเจมส์ และธันวา ไม่เจอกันนานเลยนะ” ประโยคแรกทักทายน้องและมือขวาของหนุ่มที่ตนหมายปอง ประโยคหลังทักทายเพื่อนสนิทของแฟนเก่า เพราะเมื่อก่อนเข้ากลุ่มกับชายหนุ่มบ่อยๆ
“สวัสดีนีน่า ไม่คิดว่าจะได้เจอที่นี่” ธันวาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยชาเช่นเดียวกับมิ้นท์ แน่นอนเขาไม่พอใจเพราะหญิงสาวสวยตรงหน้าเป็นคนทำให้กลุ่มเพื่อนสนิทของเขาทั้งสามคนแตก
นีน่ากำมือแน่นเมื่อเห็นสายตาและได้ยินน้ำเสียงที่เฉยชาแบบนั้น เมื่อเห็นปกรณ์กำลังมองมาที่ตนอยู่นั้น หญิงสาวจึงแสร้งทำเป็นหน้าหงอยและสำนึกผิด
“ธัน เรารู้ว่าเธอไม่พอใจเรา เราไม่ได้ตั้งใจ ตอนนั้นที่เราทำแบบนั้น เพราะเราต้องการที่จะให้กรณ์ไปต่างประเทศอย่างสบายใจ เราจึงต้องทำแบบนั้น เราก็เจ็บปวดใจเช่นเดียวกัน” นีน่าพูดออกมาพร้อมกับมีหยดน้ำตาน้อยๆ ไหลออกมา ทำให้หน้าสวยนั้นดูน่าหลงใหลมากขึ้น
แต่....
“การที่เธอไปนอนกับไอ้กฤษในห้องไอ้กรณ์ก็อยู่ในแผนของเธอเพื่อให้กรณ์ตัดใจด้วยเหรอ ช่างเปลืองตัวจริงๆ มันฟังไม่ขึ้นหรอกนะ”
นีน่าตกใจ คิดไม่ถึงว่าปกรณ์จะกล้าเล่าเรื่องนี้ให้ธันวาฟัง คิดว่าเขาจะอับอายที่โดนทรย
เย็นเดียวกันนั้น ในคอนโดหรูแห่งหนึ่งนีน่านอนกอดก่ายอยู่กับทวีด้วยอาการเหนื่อยอ่อน“เป็นไง คิดถึงผมเหรอ ตั้งแต่เข้าห้องมาก็ดึงผมมาที่เตียงเลย” ว่าแล้วทวีก็เกลี่ยปลายผมที่ปกคลุมด้านหน้าของหญิงสาวออก“ค่ะ นีคิดถึงคุณ และก็เครียดๆ ด้วยค่ะ” นีน่าเงยหน้าที่ดูอ่อนแรงแต่ยังคงความยั่วยวนอยู่ในที จ้องไปที่หน้าทวี เจ้านายหนุ่มและชู้รัก ถึงแม้เขาจะไม่หล่อเท่าปกรณ์ แต่เขาก็มีฐานะ เป็นถึงประธานบริษัท และดูแลเธอมาอย่างดี ติดที่เขาแต่งงานแล้ว และเธอต้องการที่เป็นตัวจริงเท่านั้น“ตอนนี้คุณก็ได้ไปอยู่ใกล้กับเทพบุตรของคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมดูไม่มีความสุขอย่างนั้นหละ” ทวีถามเสียงแค่นออกมาเขาอยากจะเก็บนีน่าไว้ข้างตัวตลอดไป แต่ก็รู้ว่าทำไม่ได้ เพราะภรรยาของเขาคงไม่ยอมแน่ๆ แต่จะให้เลิกกับภรรยาเพื่อมาอยู่กับนีน่าก็ไม่สามารถทำได้ เพราะหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นของภรรยาและครอบครัว เขาเป็นแค่เขยที่แต่งเข้ามาช่วยดูแลกิจการเท่านั้น เนื่องจากภรรยาเป็นลูกสาวและเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลดังนั้น เมื่อนีน่าต้องการออกจากบริษัทเพื่อมาอยู่ใก
“ครับ เจ้านาย”“ถ้ารู้เรื่องก่อนทานข้าวจะดีมาก” ปกรณ์สั่งเรียบๆ แล้วเดินออกจากห้องรับรองกลับไปยังห้องทำงานของตัวเองทันทีไม่วายในมือรีบส่งข้อความถึงคู่หมั้นสาวหล่อไร้รัก: ทำอะไรอยู่ครับ ยุ่งอยู่หรือเปล่าครับฟ้าใสใส: กำลังคิดงานให้ลูกค้ารายใหม่อยู่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าค่ะหล่อไร้รัก: เย็นนี้ไปทานข้าวนอกบ้านกันนะครับ พอดีลูกค้าอยากจะแสดงความยินดีกับพวกเราครับฟ้าใสใส: ฟ้าต้องไปด้วยหรือค่ะหล่อไร้รัก: ไปสิครับ คุณเป็นตัวเอกเลยหล่ะว่าแล้วก็ส่งสติ๊กเกอร์รูปชายหนุ่มยิ้มหล่อไปหล่อไร้รัก: เลิกงานแล้วผมไปรับนะครับฟ้าใสใส: โอเคค่ะ แล้วเจอกันค่ะก่อนเลิกงานหนึ่งชั่วโมง เจมส์เข้ามารายงานผลเกี่ยวกับเรื่องของนีน่าและประธานทวี ปกรณ์ฟังไปเลิกคิ้วไป ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งคิดไม่ถึงว่านีน่าจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ และที่สำคัญเขาไม่เข้าใจว่าทั้งสองคนต้องการอะไรจากเขา แต่ในเมื่อเขารู้ความจริงแล้ว เขาก็จะเล่นเกมส์ตามน้ำไป แล้วดูสิว่าพวกเขาจะเล่นลูกไม้อะไรกัน ก่อนเจมส์จะออกจากห้องไป ปกรณ์ให้เขาทำการเชิญนีน
แป้งไม่ปล่อยผ่าน หากลูกน้องทำตัวไม่เหมาะสมก็ควรจะโดนตำหนิ แต่ถ้าเป็นปรกติเธอจะไปตำหนิกันเป็นการส่วนตัว แต่สำหรับหญิงสาวตรงหน้าเธอรู้สึกว่าการตำหนิต่อหน้าคนอื่นจะเป็นทางเดียวที่ทำให้เธอหลาบจำจะได้ไม่ทำอีก หรือหากทนไม่ได้ ก็ให้อีกฝ่ายเป็นคนลาออกไปเองซะ“ก็นีคิดว่ากรณ์ชวน และยังไงเราก็ไปที่เดียวกันอยู่แล้ว และนีกับกรณ์ก็สนิทกัน เลยคิดว่าไปกับกรณ์สะดวกใจกว่า”แป้งยิ่งได้ฟัง ก็ขมวดคิ้วด้วยอาการไม่สบอารมณ์“ข้อแรก ที่นี่บริษัท คุณเป็นพนักงานไม่ควรเรียกท่านประธานด้วยชื่อ”“ข้อสองคุณเป็นลูกน้องของฉัน เราต้องไปพบลูกค้าด้วยกัน ดังนั้นเราควรไปพร้อมกัน ยกเว้นว่ามีการตกลงกันก่อนแล้วว่าคุณจะไปเอง แค่มารยาทพื้นฐานในการเข้าสังคมการทำงานก็ไม่รู้เหรอ”แป้งไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น เพราะเห็นว่านีน่าเองก็ไม่คิดไว้หน้าเธอเช่นเดียวกัน ในเมื่อเจ้าหล่อนพยายามจะทำให้เห็นว่าตัวเองสนิทกับชายหนุ่มต่อหน้าคนอื่นเพียงใด วันนี้แป้งพร้อมที่จะทำให้เธอหน้าแตกเท่านั้น“และข้อสามการที่คุณมาดักรอท่านประธานที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วเพื่อไปทานข้าวก
“หา คุณรู้ได้ยังไงค่ะ” ฟ้าใสอุทานออกมาอย่างตกใจ“ผมเพิ่งให้เจมส์ไปสืบมาตอนช่วงบ่าย”“ถ้าคุณรู้อย่างนี้แล้ว ทำไมคุณอยากให้คุณนีน่ามาทานข้าวพร้อมกับเราและพร้อมกับคุณทวีค่ะ”“เพราะผมอยากรู้ว่าเขาทั้งสองคนจะทำหน้ายังไง” ปกรณ์นิ่งไปสักพักแล้วเอ่ยต่อ“ผมอยากรู้ว่าเขามีแผนอะไร ทำไมคุณทวีถึงพยายามช่วยนีน่าให้เข้ามาใกล้ชิดผม”เมื่อได้ฟังดังนั้น ฟ้าใสก็คิดตาม“หรือมันมีอะไรมากกว่าการที่อยากได้คุณกลับไปอยู่ข้างเธอ”“นั่นหล่ะที่ผมอยากรู้ คุณช่วยผมหน่อยนะ ต่อหน้านายทวี ผมอาจจะทำอะไรบางอย่างให้คุณไม่พอใจ แต่อยากให้รู้ว่าทุกอย่างคือแผนการ โอเคมั้ย”ฟ้าใสจ้องมองตาชายหนุ่มอย่างอยากรู้ อยากหาคำตอบว่าที่เขาพูดจริงแค่ไหน แต่ก็ไม่กล้าถาม“ค่ะ”“เชื่อใจผมนะ”ว่าแล้วปกรณ์ก็ยกมือของหญิงสาวขึ้นมาแนบแก้มตัวเอง อย่างหักห้ามใจตัวเองไม่อยู่ฟ้าใสทำได้แค่พยักหน้าแล้วก้มหน้าเพื่อซ่อนความเขินอาย ก็เป็นจังหวะเดียวกับสัญญาณไฟเป
นีน่าเดินเข้ามาในห้องอาหารท่ามกลางความรู้สึกที่หลากหลายของหลายๆ คนทวีตกใจที่นีน่ามาร่วมทานอาหารด้วย ในขณะที่วิจิตราไม่พอใจอย่างมาก ถึงเธอจะจับไม่ได้คาหนังคาเขาว่าสองคนนี้แอบคบชู้กัน แต่เธอก็ไม่เคยมีความรู้สึกที่ดีกับหญิงสาวสวยตรงหน้าเลย เธอรู้สึกดีใจมากที่ฝ่ายหญิงยอมลาออกจากบริษัทไปหลังจากข่าวอื้อฉาวตอนนั้นส่วนแป้งนั้น ไม่พอใจที่ลูกน้องของตัวเองมาสาย ‘นี่ขนาดนัดกับลูกค้านะเนี่ย’ส่วนฟ้าใสและปกรณ์แค่คอยลอบมองปฏิกิริยาของทั้งทวีและนีน่า แค่คิดก็สนุกแล้วทีแรก นีน่ายังไม่ทันได้เห็นทวีและวิจิตรา เพราะในสายตาเธอนั้นกำลังจ้องไปที่ที่นั่งว่างข้างปกรณ์ เมื่อได้นั่งลงแล้วหันไปมองหน้าลูกค้าทั้งสอง นีน่าก็มีอาการหน้าซีดเผือด แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ จึงรีบยกมือไหว้แสดงอาการกลบเกลื่อน“สวัสดีค่ะ คุณทวี สวัสดีค่ะ คุณวิจิตรา”‘ทำไมไม่มีใครบอกว่าวันนี้เลี้ยงคุณทวีนะ หรือว่าปกรณ์จะรู้เรื่องของเรา’นีน่ารีบหันไปมองหน้าปกรณ์ทันทีเมื่อคิดว่าเรื่องของตัวเองอาจจะถูกร่างสูงด้านข้างรู้เข้าให้แล้ว“คุณทวี คนนี้ ผมคงไม่ต้องแนะนำใช่มั้ยครับ” ปกรณ์พูดพร
ปกรณ์เมื่อได้เห็นและได้ยินที่นีน่าพูดออกมา ก็ยิ่งยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน“นีน่า ทำไมผมต้องทำอย่างนั้นกับคุณด้วยหล่ะ”“เพราะคุณทั้งรักทั้งแค้นนีน่ายังไงหล่ะค่ะ คุณต้องการให้นีเจ็บเหมือนที่คุณเจ็บ ใช่ค่ะ ตอนนี้นีเจ็บ เจ็บมากด้วย” นีน่าพูดพลางน้ำตาก็ไหลออกมาทวีเมื่อเห็นชู้รักของตนร้องไห้ ก็เข้าไปกอดปลอบและมองหนุ่มรุ่นน้องด้วยสายตาโกรธแค้น โดยที่ปกรณ์ได้แต่มองแล้วยิ้มอย่างเหยียดหยัน เหมือนกับว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่นีน่าพูดมา“คุณนี่มันจริงๆ เลย รังแกได้แม้กระทั่งผู้หญิงอ่อนแอ ทำไมต้องทำร้ายเธอขนาดนี้ด้วย”แต่...ทวีคงลืมไปว่าวันนี้เขาไม่ได้มาคนเดียว เขามากับ....ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายฝ่ายวิจิตตราที่นั่งทนอยู่นานตั้งแต่สามีของตนลุกขึ้นไปดึงผู้หญิงคนนั้นเข้าหาตัวเอง จากกิริยาที่ปกป้องผู้หญิงคนนั้นเกินกว่าคำว่าลูกน้องเก่า และยังถึงขั้นโกรธเคืองไปยังคู่หมั้นของเพื่อนสนิทน้องสาวเพื่อนนั้นก็บ่งบอกอะไรบางอย่าง มันทำให้คิดว่าสิ่งที่เธอเคยสงสัยและรู้สึกไม่ดีกับผู้หญิงคนนี้มาตลอดน่าจะเป็นเรื่องจริง ขณะที่กำลังจะลุกขึ้นยืนเพื่อเข้าไปหาสามีตัวเอง
เมื่อได้ยินประโยคนั้น ทวีหันมามองหน้าปกรณ์ด้วยความโกรธแค้น“คุณปกรณ์ คุณคิดดีแล้วใช่มั้ยที่มาทำกับผมแบบนี้”“ผมก็ไม่อยากทำ เพราะตอนแรกผมเห็นว่ามันเรื่องส่วนตัวของคุณ แต่คุณกลับเล่นไม่ซื่อกับผมก่อน โดยการส่งนีน่าเข้ามาเพื่อใกล้ชิดและสอดแนมผม อันนี้ผมก็ต้องป้องกันตัวเองเหมือนกัน”ว่าแล้วก็นั่งลงไขว่ห้างเอนหลังมือประสานกันอย่างใจเย็น“คุณ คุณรู้ตั้งแต่แรกแล้วเหรอ” ทวีหันไปมองนีน่าทันที“เธอหักหลังฉันเหรอ” ทวีตวาดใส่นีน่า“ฉันเปล่านะคะ คุณทวี ถ้าฉันหักหลังคุณวันนี้ฉันจะโดนพวกเขาถากถางกันอย่างนี้เหรอค่ะ” นีน่าแสร้งบีบน้ำตา“ถ้าคุณไม่ได้บอก พวกเขาจะรู้ได้ยังไง” ทวีเดินมาบีบไหล่นีน่าอย่างแรง“คุณทวี นีน่าเจ็บนะคะ ไหนจะโดนคุณวิตบอีก ฮือ ฮือ ฮือ” ทวีปล่อยแขนนีน่าและผละออกอย่างไม่ใส่ใจ“คุณปกรณ์ คุณคิดดีแล้วเหรอ ที่จะมาเล่นกับผม ยังไงผมกับวิก็เป็นสามีภรรยากันมานาน และวิกับคนในตระกูลก็ยังต้องพึ่งพาผมอยู่ดี ถึงแม้คุณฟ้าใสจะรู้จักกับภรรยาผม แต่อำนาจการตัดสินใจเรื่องของบริษัทยังอยู่กับผม..” ว่าแล้วเหลือบมองไปที่ฟ้าใสด้วยสายตาโลมเลีย
“ไม่จริง คุณโกหก ถ้าคุณไม่คิดอะไรกับนี คุณจะช่วยนีทำไม คุณยังพูดจาดีๆ กับนี คุณยังแสดงความเป็นห่วงเป็นใยนี คุณโกหก คุณกลัวใช่มั้ย คุณกลัวว่าถ้าแม่คุณรู้ว่าคุณยังรักนี ยังอยู่กับนี ท่านจะเสียใจ ท่านจะมาขัดขวางเราสองคน ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะคะ นีขอแค่อยู่กับคุณ นีไม่เอาฐานะอะไรก็ได้ นียอมอยู่เงียบๆ แค่คุณรักนีเหมือนเดิม มีเวลาให้นีบ้าง นียอมเป็นน้อย เป็นแค่คู่นอนก็ได้ค่ะ”นีน่าพูดประโยคเหล่านี้ออกมาด้วยน้ำตา พร้อมกับคลานมากอดขาปกรณ์อย่างน่าสงสาร บางคำพูดพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ค่อยสติเท่าไหร่ฟ้าใส แป้ง ธันวาและเจมส์มองไปที่นีน่าแล้วเงยขึ้นไปที่ปกรณ์ เพื่อดูว่าเขาจะทำอย่างไรปกรณ์ก้มตัวลงไปจับแขนของนีน่าแล้วพยุงให้เธอลุกขึ้นแป้งเห็นดังนั้นก็ไม่เข้าใจ พลางหันไปมองหน้าฟ้าใสที่ดูตะลึงกับการแสดงออกครั้งนี้ของปกรณ์ หน้าของหญิงสาวเริ่มเปลี่ยนเป็นขาวซีด ปากเม้มเข้าหากันแน่น ‘ไม่ไหวแล้วโว้ย’“คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง คุณปกรณ์ คุณก็เห็นว่านังคนนี้มารยาสาไถขนาดไหน คุณยังจะเชื่อเขาอีกเหรอ”ว่าพลางพร้อมเดินไปผลักนีน่า
“ทำอะไรกันนะ”เสียงทุ้มดังขึ้นมา ทำให้ทั้งสองสะดุ้งทันที ฟ้าใสหันมาเจอกับปกรณ์ที่มีสีหน้าทะมึงถึงพร้อมกับสายตาของเขาที่จ้องไปที่มือทั้งสองที่ยังคงจับกันอยู่ ในขณะที่พีทก้มหัวทักทายปกรณ์เล็กน้อย แต่เมื่อมองตามสายตาของปกรณ์ไปก็ตกใจรีบปล่อยมือตัวเองออกจากแฟนสาวของท่านประธานทันที“ตกใจหมดเลยกรณ์ ทำไมต้องเสียงดังด้วย เบาหน่อยสิค่ะ เดี๋ยวเรื่องก็แตกหรอก” ฟ้าใสบ่นไปยังแฟนตัวเอง แล้วยกนิ้วชี้ปิดที่ปากของตัวเอง พร้อมกับส่งเสียง จุ๊ ๆ พลางมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นออยออกมาจากห้องก็ถอนหายใจออกมา แล้วหันไปทำตางอนๆ ใส่แฟนตัวเอง“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้ แล้วนี่ทำอะไรกัน ทำไมมาอยู่กันสองคน พร้อมจับไม้จับมือกันอยู่ ไม่อยากให้คนเข้าใจผิดก็ไม่ควรทำ” ปกรณ์เอ่ยออกมาอย่างตำหนิ น่าหยิกแฟนตัวเองดีนัก“ขอโทษครับ พอดีผมตื่นเต้นและดีใจเกินไปหน่อย” พีทขอโทษออกมาอย่างรู้สึกผิดที่ทำให้ทั้งสองคนตรงหน้ากำลังเข้าใจผิดซึ่งกันและกันปกรณ์เหลือบมองฝ่ายชายอย่างไม่ค่อยใส่ใจ ถึงแม้เขาพอจะรู้แล้วว่าเพื่อนคนนี้ของแฟนสาวมีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็เคยช
“ฟ้ารู้ใช่มั้ยว่าพีทรักฟ้า” พีทไม่ตอบคำถามหญิงสาว แต่กลับถามกลับไปแทน“ฟ้าไม่รู้ เพิ่งรู้วันนั้นแหล่ะ แต่วันนี้ฟ้าจะพูดให้ชัด ฟ้าไม่ได้มองพีทเป็นอย่างอื่น นอกจากเพื่อน” เสียงหญิงสาวอ่อนลงแต่หนักแน่นเพื่อให้เพื่อนของตัวเองรู้ว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอน“หึหึ พีทรู้อยู่แล้วหล่ะ พีทผิดเองที่พึ่งรู้ใจตัวเอง เมื่อมันสายไป แต่เราสองคนยังเป็นเพื่อนกันได้ใช่มั้ย” พีทหันไปจ้องที่หญิงสาวที่ตัวเองหลงรักมานานหลายปี“ได้สิ ถ้าพีทไม่คิดกับเราเกินเพื่อนเราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม” ฟ้าใสยิ้มบางๆ ให้กับคนตรงหน้า“อืม” พีทฝีนยิ้มออกมา เขาต้องทำให้ได้เพราะตอนนี้เขามีอีกสองชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ“แล้วออยหล่ะ พีทจะทำยังไง” ฟ้าใสถามออกมาอีกครั้ง“พีทจะรับผิดชอบออยกับลูก พีทว่าพีทก็เริ่ม...” พีทยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงแหบแห้งพูดออกมา“ไม่ต้อง ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เราไม่ใช่ตัวสำรองของใคร” เสียงออยดังขึ้นมา จริงๆ แล้วหญิงสาวรู้สึกตัวตั้งแต่ไ
“แล้วแกไม่โกรธมันเหรอ” ออยถามหยั่งเชิงนิดๆ อยากรู้ว่าเพื่อนรักรู้สึกอะไรกับนายนั่นหรือเปล่า“อืม จะพูดยังไงดีหล่ะ รู้นะว่ามันเมา มันไม่ได้ตั้งใจ แต่แค่ไม่คิดว่ามันจะคิดกับฉันแบบนั้น”“แกไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันเลยเหรอ” ออยถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง“ไม่ได้คิดอะไรเลย คิดเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น อีกอย่าง...”“อีกอย่างอะไร” เสียงอยากรู้ออกมาทันที จนฟ้าใสนึกเอ็นดูเพื่อน“อีกอย่างตอนนี้ฉันกับคุณกรณ์ก็ตกลงเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการแล้ว”“หา! ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขายอมบอกรักแกแล้วเหรอ”“อืม เมื่ออาทิตย์ที่แล้วหล่ะ” ฟ้าใสตอบไปด้วยมีริ้วแดงขึ้นบนหน้าไปด้วย แสดงออกถึงความเขินอายเล็กน้อย“เฮ้ย ยินดีด้วยนะ” ออยจับมือฟ้าใสขึ้นมาแล้วยิ้มออกมาอย่างจริงใจ“ว่าแต่แกยังไม่บอกเลย ว่าโกรธอะไรกับมัน”“เอ่อ มีเรื่องทะเลาะกับมันนิดหน่อย ตอนนี้ยังไม่อยากคุยกับมัน ฟ้าอย่าสนใจเลย เดี๋ยวพออะไรๆ ดีขึ้น เรากับมันก็คุยกันเ
“ฟ้า ทบทวนเรื่องของเราสองคนอีกรอบได้มั้ย”ฟ้าใสหันไปมองหน้าชายหนุ่มอย่างงุนงง ทบทวนอะไรเหรอ“ทบทวนเรื่องความรู้สึกของเราสองคนไงหล่ะ เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้กรณ์ไม่อยากรอถึงสองปีแล้ว ถ้าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับฟ้า กรณ์คงอยู่ไม่ได้แน่ๆ กรณ์อยากจะสามารถปกป้องฟ้าได้อย่างเต็มที่ ฟ้าเป็นแฟนกับกรณ์นะ”พูดจบก็ยิ่งกระชับไหล่ที่โอบไว้แน่นขึ้นร่างบางเมื่อได้ยินร่างสูงพูดความในใจออกมาก็เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ หากเมื่อคืน เธอโดนพีทล่วงเกิน แม้จะแค่จูบ เธอก็คงจะรู้สึกกับเขาเช่นกันตอนนี้เธอค่อนข้างจะมั่นใจตัวเองแล้วว่าเธอรักเขามากจริงๆ แต่เขาหล่ะ“กรณ์แน่ใจแล้วเหรอว่า กรณ์รักฟ้า ไม่ใช่แค่ความใกล้ชิด”ร่างหนาพยักหน้าอย่างแรงจนเธอนึกเอ็นดู“จริง ตอนนี้กรณ์รู้ใจตัวเองแล้ว ว่ากรณ์รักฟ้า กรณ์ไม่อาจเสียฟ้าไปได้ เราแต่งงานกันนะฟ้า”เพี๊ยะ เสียงตีดังขึ้น พร้อมกับรอยแดงที่แขน แต่แปลก หน้าคนตีก็แดงด้วย“เร็วไปแล้วค่ะ เป็นแฟนกันก่อนก็พอ”“อ้าวเหรอ ก็อยากข้ามขั้นอ
“มึง ไอ้พีท”พีทโดนกระชากออกจากตัวฟ้าใสทันที ปกรณ์ตามเข้าไปต่อยชายหนุ่มที่บังอาจทำกับคนของเขาแบบนั้น ส่วนฟ้าใสก็ตัวสั่นอยู่ภายในอ้อมกอดของแป้ง โดยมีมิ้นท์ยืนอยู่ข้างๆออยวิ่งเข้ามาดูเป็นคนสุดท้ายเพราะออกไปรับโทรศัพท์ที่ระเบียงมา เมื่อเห็นเพื่อนโดนปกรณ์ทั้งต่อย ทั้งเตะ และมองไปเห็นฟ้าใสตัวสั่นด้วยความกลัว ก็พอจะเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นออยเดินเข้าไปหาฟ้าใสแล้วถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง“ฟ้า เป็นยังไงบ้าง เกิดอะไรขึ้น”เหมือนฟ้าจะได้สติขึ้นมา จึงรีบเดินเข้าไปจับมือปกรณ์ที่กำลังง้างเพื่อต่อยเขาอีก“พอเถอะกรณ์ พีทไม่ได้ตั้งใจหรอก เขาเมาหนะ” ฟ้าพูดด้วยเสียงที่สั่นเทาปกรณ์หันหน้ามาหาหญิงสาวแล้วโอบกอดเธอไว้ พร้อมมองไปที่ร่างของชายหนุ่มที่นอนกองอยู่กับพื้น ไม่ถึงกับสลบแต่ก็น่าหายเมาพอสมควร“ยังจะไปแก้ตัวแทนมันอีก” ปกรณ์ดันหัวฟ้าเข้าหาตัวเอง แล้วพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเช่นกัน เขาคิดไม่ออกว่าถ้าหญิงสาวเป็นอะไรไป เขาจะทำยังไงพีทเมื่อเริ่มได้สติ หันไปเห็นคนที่ตัวเองแอบรักมาหลายปี มีอา
ฟ้าใสรีบเดินออกมาจากห้องครัวอย่างเร็วเพื่อเดินไปเปิดประตูทันทีแกร๊ก“สวัสดีพี่ฟ้าใส” เสียงใสดังขึ้นหน้าประตูทันที“สวัสดีจ๊ะ น้องมิ้นท์ คุณเจมส์” ฟ้าใสยิ้มทักทายทั้งสองคนมิ้นท์ชูของขวัญให้กับว่าที่พี่สะใภ้ หันไปส่งให้เจมส์เป็นคนถือ จากนั้น ก็รีบควงแขนพี่สะใภ้คนโปรดเข้าไปในห้องทันที“อ้าวสวัสดีค่ะ พี่กรณ์ และก็พี่ๆ ทุกคนค่ะ”มิ้นท์ทักทายทุกคนอย่างไม่ถือตัว“เอาหละค่ะ ในเมื่อทุกคนมากันครบแล้ว งั้นเราเริ่มตั้งหม้อเลยมั้ย” ฟ้าใสยิ้มบอกกับทุกคน“เย้ เอาเลย หิวแล้ว” ทุกคนเอ่ยพร้อมกันฟ้าใสรีบเข้าไปในครัวเพื่อจัดการเทน้ำซุปที่ต้มไว้แล้ว เมื่อกำลังจะยก ปกรณ์รีบมาช่วยยกแทนหญิงสาวเอง แต่ก่อนเดินออกไปก็แอบหอมแก้มร่างบางตอนเผลอแล้ววิ่งออกไปทันทีฟ้าใสยืนจับแก้มตัวเอง แต่ก็แอบอมยิ้มเขินๆ ไปด้วยปกรณ์เมื่อยกเตาชาบูมาวางบนโต๊ะกินข้าว ก็เดินเข้าไปเตะขาเพื่อนสนิท กับมือขวาตัวเอง ที่นั่งอยู่บนโซฟาเล่นโทรศัพท์อยู่“เฮ้ย อยากกินก็ไปช่วยกันดิ”
เมื่อเข้ามาที่โต๊ะอาหาร ก็เห็นอาหารวางอยู่บนโต๊ะหลายอย่าง“อ๋อ ที่ทำเป็นงอนกลับห้องเนี่ย แอบไปสั่งอาหารเนี่ยเอง กลิ่นหอมจัง” ฟ้าใสยิ้มตาหยี ถูมือไปมา อยากกระโจนเข้าหาอาหารเต็มที่แล้ว เข้าเช้ามีแค่โจ๊กรองท้องไปเอง“หิวก็กินสิ ผมไม่ใช่คนใจร้ายแบบใครบางคนหรอก เวลาผมทำอะไรก็คิดถึงฟ้าตลอดแหละ” ว่าแล้วก็เดินหน้าตึงไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามทันที พร้อมกับยื่นอาหารซึ่งเป็นของโปรดของฟ้าใสออกมาฟ้าใสยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี ก็เลยเดินเข้าไปยืนใกล้ๆ ร่างสูงปกรณ์เงยมองฟ้าใส ยกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยว่ามายืนทำอะไรยังไม่ทันได้ตั้งตัว ฟ้าใสก็ก้มลงหอมแก้มชายหนุ่มไปหนึ่งฟอดทันที แล้วรีบเดินกลับไปนั่งลงตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม พร้อมทั้งกับดึงอาหารจานโปรดมากินอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าหูกับแก้มมีสีแดงเรื่อๆ ออกมาเล็กน้อยส่วนปกรณ์เมื่อรู้ว่าโดนจู่โจม ก็ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีทันที แล้วนั่งทานข้าวอย่างมีความสุขเมื่อทานกันเสร็จแล้ว ปกรณ์ก็เลยอาสาเดินไปกับถือของให้กับฟ้าใสเพื่อเตรียมสำหรับงานเลี้ยงคืนนี้เมื่อซื้อของเสร
ฟ้าหันหาเพื่อนทันที ทำหน้างงๆ“ใครนะ พีทนะเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า ออยคิดอะไรเนี่ย”เมื่อได้ยินที่เพื่อนรักถามออกมา ก็หัวเราะออกมาอย่างหนัก“ขำอะไรอะ ก็เห็นนายนั่นเข้ามาหาแกมากขึ้น เห็นหลายๆ คนเริ่มพูดถึงเรื่องนี้กันด้วย ก็เลยมาถามแกก่อนไง ว่าแต่ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่อะ”ออยมีสีหน้าอยากรู้อยากเห็นมากจริงๆ ฟ้าใสมองอย่างนั้นก็อมยิ้ม ส่ายหัวไปมา“ไม่มีอะไรหรอก จำไม่ได้เหรอ เมื่ออาทิตย์ก่อนที่ฉันขอไปนอนห้องแกแล้วแกไม่อยู่ห้อง หลังจากนั้นแกก็เอาเบอร์พีทมาให้ไงหล่ะ”“อ๋อ จำได้แล้ว และสรุปวันนั้นแกไปนอนที่ไหนอะ พีทมันหาที่ให้แกนอนเหรอ”ฟ้าใสนิ่งสักพักก่อนจะพยักหน้า ไม่แน่ใจว่าควรจะบอกเพื่อนดีมั้ย ว่าไปนอนห้องชายหนุ่มแต่นึกถึงที่เพื่อนไม่อยู่ห้องก็ยังอุตส่าห์พยายามหาคนมาช่วยเหลือก็เลยยอมเล่าความจริงให้เพื่อนฟัง“อืม นอนห้องมันหนะ”ออยพยักหน้าแล้วยิ้ม แต่พอนึกได้ว่าเพิ่งได้ยินอะไรก็ทำหน้าตกใจ รีบถามเพื่อนเสียงดังอีกครั้ง“อะไรนะ แกว่าแกไปนอนห้องพีทเหรอ&rdqu
“คุณกรณ์” เสียงฟ้าใสตะโกนขึ้นมาอย่างเหลืออด อะไรจะงี่เง่าขนาดนี้เนี่ย“ไม่เป็นไรฟ้า คุณกรณ์คงไม่ได้ตั้งใจ” พีทเอ่ยออกมาอย่างอ่อนโยน“หึ หึ ปกติเห็นแต่ผู้หญิงที่จะทำตัวเสแสร้งแกล้งเป็นคนดี นึกไม่ถึงว่าผู้ชายก็ทำเป็นด้วย”ปกรณ์เอ่ยออกมาอย่างประชดประชันพีทหันมามองหน้าปกรณ์ แล้วยิ้มเยาะออกมา เขาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดของปกรณ์แม้แต่น้อยผิดกับฟ้าใส ที่รู้สึกว่าวันนี้คู่หมั้นหนุ่มไปกินยาอะไรผิดสำแดงหรือเปล่า ทำไมดูหงุดหงิดแปลกๆ“เอาล่ะ ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว ถ้าพีทไม่เป็นอะไรแล้ว เราขอตัวกลับก่อนนะ ขอบใจมากนะที่ช่วยเหลือเรา ไว้ไปทานข้าวเที่ยงกันนะ เราเลี้ยงเอง”ฟ้าใสตัดบท เพราะเริ่มรู้สึกปวดหัว ตุบๆ กับทั้งสองคนนี้พีทพยักหน้ารับ “โชคดีฟ้า จำไว้ ถ้ามีปัญหาอะไรเราพร้อมเป็นที่ปรึกษาให้ฟ้าเสมอ”พูดจบก็ยิ้มออกมาอย่างมีเสน่ห์ ไม่วายเหลือบไปยิ้มเหยียดให้กับปกรณ์ที่ยืนถือกระเป๋ามือสั่นอยู่ไม่ไกลฟ้าใสเดินไปขึ้นรถกับปกรณ์ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ส่วนชายหนุ่มนั้น รู้ตัวว่า