จัดการคนชุดดำที่เหลือ คนที่องค์จักรพรรดิส่งมาก็รีบร้อนมาถึงเช่นกันเจิ้นหนานอ๋องพาทหารกลุ่มหนึ่งรีบร้อนมาถึง ใต้เท้าจ้าวด้านหลังมีสีหน้าย่ำแย่ วิ่งจากกรมยุติธรรมมาถึงนี่ถึงกับมีคนไม่สนชีวิตหมายลอบสังหารหลีอ๋อง หาเรื่องตายจริงๆ! ใต้เท้าจ้าวด่าทอในใจ พอมาถึงที่และเห็นว่าฉู่อี้หานปลอดภัยดี ภายในใจก็พอจะสงบลงมาบ้างมีบางคำเขาไม่กล้าพูดแต่มันเป็นความจริง ต่อให้องค์จักรพรรดิไม่อยากยอมรับยังไงแต่ก็ต้องบอกว่าจวนแม่ทัพกับจวนเจิ้นหนานอ๋องไม่สามารถเทียบกับหลีอ๋องได้เลย หากไม่ใช่มีหลีอ๋องคุมอยู่ ทหารชายแดนเกรงว่าคงบุกมาตอนนี้แล้วตอนนี้แต่ละแคว้นล้วนมีสภาพไม่ดี ผลเกษตรไม่ดี เสบียงอาหารมีน้อย ชาวบ้านลำบากยากแค้น เมื่อใดถึงจะสิ้นสุดกัน ใต้เท้าจ้าวถอนหายใจ ตอนนี้เมืองหลวงยังคงว้าวุ่นอยู่เลย"หลีอ๋อง คนชุดดำพวกนี้ตายหมดแล้วหรือ?" เจิ้นหนานอ๋องมองศพที่กองเกลื่อน พูดเสียงเข้มออกไป"เป็นดั่งที่พระมาตุลาเห็น คนพวกนี้ตายหมดแล้ว เพียงแต่ เรื่องบางเรื่อง พระมาตุลาต้องดูด้วยตนเอง" ฉู่อี้หานกุมแขน ส่งสายตาไปให้ซูเนี่ยนกับมั่วอี"หลีอ๋องบาดเจ็บเหรอ?" เจิ้นหนานอ๋องขมวดคิ้วเจิ้นหนานอ๋องเป็นพี่น้องกับจัก
ซูเนี่ยนขยับแขน ชาวบ้านทางนั้นก็ทยอยกันออกมาแล้ว หงเย่เองก็เดินตามออกมา ตรวจดูว่าบนร่างของซูเนี่ยนมีบาดแผลไหมด้วยความเห็นกังวลซูเนี่ยนปล่อยให้นางตรวจดู หงเย่มีสีหน้าเป๋นห่วง ขณะที่นางกำลังคิดจะปลอบสักสองประโยค ทางด้านฉู่อี้หานก็มีเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก ดวงตาแดงก่ำ ฟัดกัดกรอดมั่วอีลอบถอนหายใจพลางพูดว่าแย่แล้ว เขารีบพาฉู่อี้หานกลับไปที่จวนอ๋๋องหลีทุกวันที่สิบห้าของเดือน ล้วนเป็นวันที่พิษกู่ความมืดของฉู่อี้หานกำเริบ แต่วันนี้ฉู่อี้หานได้รับบาดเจ็บ พิษกู่จึงกำเริบก่อนเรือนทิงจู๋คือเรือนของหลีอ๋อง มั่วอีวางฉู่อี้หานไว้บนเตียง ซูเนี่ยนตามอยู่ด้านหลัง ไม่ใช่นางอยากตามมาแต่มั่วอีไม่ให้นางไปแต่ดูจากลักษณะ ฉู่อี้หานเกรงว่าจะมีโรคอะไร เมื่อครู่ตอนสู้กับคนชุดดำ เขาทาบเส้นชีพจรของฉู่อี้หานดูไปบ้าง แต่สถานการณ์ตอนนั้นวิกฤต นางจึงไม่ได้ดูอย่างละเอียด"พระชายา ท่านวิชาแพทย์ล้ำเลิศ รบกวนท่านดูให้ท่านอ๋องหน่อย" มั่วอีมองซูเนี่ยนด้วยสีหน้าอ้อนวอน ตอนนี้หลิวฝูเฟิงยังไม่ได้กลับเมืองหลวง วิชาแพทย์ของพวกหมอหลวงสำนักหมอหลวงสู้ซูเนี่ยนไม่ได้เลยอีกทั้งหลายวันนี้เรื่องที่ซูเนี่ยนทำทุกคนก็เห็นกับตา เขา
มั่วอีคำรามเสียงต่ำ แต่ไม่ทันแล้วฉู่อี้หานกำลังภายในล้ำเลิศ เขายื่นมือ ห้านิ้วกุมเข้าหากัน ซูเนี่ยนก็ถูกลากไปทั้งแบบนั้นแล้วกำลังภายในที่น่ากลัวขนาดนี้ ตอนที่ฉู่อี้หานอยู่ที่เรือนลั่วสุ่ยก็เคยใช้มาก่อน แต่กำลังตอนนั้นไม่รุนแรงเท่าตอนนี้ แค่คิดก็รู้ว่าฉู่อี้หานในยามนี้น่ากลัวขนาดไหน"แค่กๆ เจ้า...มารดามันสิ...บีบ...บีบคอข้าอีกแล้ว" ซูเนี่ยนโมโหมาก ฉู่อี้หานบีบคอนางกี่ครั้งแล้ว? ทุกครั้งล้วนบีบคอ เป็นบ้ารึเปล่า?"ท่านอ๋อง ปล่อยพระชายานะ""ปล่อยพระชายาข้านะ"มั่วอีกับหงเย่รีบรุดมาด้านหน้า แต่กลับถูกฉู่อี้หานสะบัดแขนเสื้อปัดกระเด็น"แค่กๆ" หงเย่กระอักเลือดหนึ่งคำ มือกุมอก มองฉู่อี้หานอย่างตื่นตระหนกแข็งแกร่งมาก เป็นกำลังภายในที่น่ากลัวมาก!กำลังภายในนี้เกรงว่าต่อให้เหล่าเก๋อจู่มาก็ควบคุมไม่ได้"ท่านอ๋อง นั่นคือพระชายา แค่กๆ..." สภาพมั่วอีดีกว่าหงเย่หน่อยแต่มุมปากก็มีคราบเลือด เปล่งเสียงอย่างยากลำบากทหารที่เฝ้าด้านนอกได้ยินเสียงก็ตามมาแต่กลัวถูกฉู่อี้หานปัดกระเด็นไม่มีข้อยกเว้นซูเนี่ยนมองบน มุมปากกระตุกแรง นางเสียใจที่ไม่ได้เรียนกำลังภายใน กำลังภายในนี้เป็นของดีจริงๆฉู่อี
มั่วอีกับหงเย่ตัวแข็งเป็นหินกันแล้วจริง ๆองครักษ์ที่ถูกโยนจนตัวลอยต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก พลางอุทานในใจว่าท่านอ๋องของพวกเขานั้นช่างดุดันเสียจริง เพียงแต่นี่มันดูจะเอิกเกริกเกินไปหรือเปล่า?ซูเนี่ยนหอบหายใจอยู่บนเตียง เธอไม่ใช่มั่วอีที่เอาแต่หดหัวหดหางไม่กล้าทำอะไรฉู่อี้หาน เธอใช้ทักษะจากค่ายทหารในชาติก่อนตรึงฉู่อี้หานไว้อย่างคล่องแคล่วริมฝีปากเผยอขึ้นเตรียมที่จะเรียกให้คนมาช่วย แต่ฉู่อี้หานกลับพลิกร่างกดซูเนี่ยนไว้ใต้ลำตัวซูเนี่ยนขยับไม่ได้อีกต่อไป ขณะที่ฉู่อี้หานเองก็หมดความอดทนแล้วเช่นกัน"ฉู่อี้หาน คิดจะทำอะไรกันห๊ะ ถ้าเจ้ากล้าลวนลามข้าล่ะก็ แม่จะจับตอนมันเสียเดี๋ยวนี้แหละ" ซูเนี่ยนโมโหเป็นฟืนเป็นไฟฉู่อี้หานทำที่เป็นไม่ได้ยินของบนเตียงหล่นลงไปหมดแล้ว และก็ไม่มีอะไรบดบังพวกเขาอีกต่อไป มั่วอีและคนอื่น ๆ ต่างได้เห็นกันอย่างจะจะตาฉู่อี้หานมองริมฝีปากของซูเนี่ยนอย่างไร้ความอดทน เขาก้มหน้าลงแล้วอุดปากของซูเนี่ยนไว้ด้วยปากของตนเอง"โครม"ซูเนี่ยนรู้สึกตัวเองใจเต้นรัวจนแทบกระเด็นออกจากอก หูทั้งสองข้างอื้ออึงไปหมด มีเพียงสัมผัสบนริมฝีปากเท่านั้นที่ถูกขยายให้รับรู้ได้อย่างไร้ข
"นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?" หลิวฝูเฟิงมองมั่วอีด้วยใบหน้าตกตะลึงฉู่อี้หานเป็นคนรักสะอาดจะตาย ห้องของเขามักถูกเก็บกวาดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอ แต่สภาพตอนนี้ราวกับถูกโจรบุกเสียอย่างนั้น นี่เขาไม่ได้มาผิดที่ใช่หรือไม่หลิวฝูเฟิงเหลือบสายตาไปเห็นซูเนี่ยนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ดวงตาพลันเปล่งประกายขึ้นมาทันที เขาลอบส่งเสียงชื่นชมขึ้นมาในใจ ช่างเป็นสตรีที่สวยงามอะไรเช่นนี้!สตรีงามนางนี้ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหรือเรือนร่างเขาก็ล้วนยกให้เป็นอันดับหนึ่ง ช่างดูสง่างามและเย็นชา หากว่าสตรีงามนั้นดูจากภายในมิใช่ภายนอก แม่หญิงนางนี้ก็ควบความงามทั้งสองอย่างไปหมดแล้วหลิวฝูเฟิงมองซูเนี่ยนด้วยใบหน้ายิ้มหวาน ขณะที่กำลังจะเอ่ยวาจา ซูเนี่ยนกลับส่งยิ้มให้เขาเสียก่อน"ดวงตาของเจ้านี่ช่างงดงามเสียจริง"ซูเนี่ยนยิ้มให้หลิวฝูเฟิงจนชายหนุ่มตัวลอยไปชั่วขณะ อย่าบอกนะว่าสตรีนางนี้สนใจเขา?เขามั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมาก จึงยิ้มตอบซูเนี่ยนกลับไปทันที"ควักออกมาดองเหล้าดีที่สุด" ซูเนี่ยนตอบกลับเสียงเย็น คนคนนี้คงเป็นหลิวฝูเฟิงที่มั่วอีพูดถึงกระมัง เดิมทีเธอคิดว่าจะเป็นชายชราผู้สง่างามและเปี่ยมด้วยคุณธรรมเสียอีก ไม่
หญ้าเซียนเมามายที่ท่านอาจารย์ทิ้งไว้ต้นนั้น ถูกนำมาทำเป็นโอสถสะกดพิษกู่ความมืดให้ฉู่อี้หานทั้งหมด หญ้าเซียนเมามายคือหนึ่งในสิบสมุนไพรที่ดีที่สุดในใต้หล้า สามารถรักษาพิษได้นับร้อยชนิด ทั้งยังยับยั้งพิษกู่ความมืดได้อีกด้วย ร้อยปีจึงจะได้มันมาสักต้นหนึ่งมีเพียงต้นหนึ่งที่อยู่กับไป๋หลี่เฟิง ทั้งยังถูกเขาใช้ไปแล้ว ซูเนี่ยนคงไม่มีทางครอบครองมันสามปีแล้วที่เขาพยายามค้นหาวิธีถอนพิษกู่ความมืดไปพร้อมกับการเฟ้นหาสมุนไพรที่สามารถยับยั้งพิษนี้ได้ ซึ่งมันไม่ง่ายเลยกว่าจะค้นพบสมุนไพรที่ใช้ทดแทนหญ้าเซียนเมามาย หากแต่พิษของฉู่อี้หานมันจะถูกสะกดได้ง่ายเพียงนี้เชียวหรือ?เลือดของซูเนี่ยนรึ?ว่ากันว่ามีเทพโอสถอยู่ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกป้อนยาวิเศษต่าง ๆ เพื่อปรับสภาพร่างกายตั้งแต่ยังเด็กในหมื่นคนจึงจะมีเทพโอสถสักคน คนประเภทนี้มีร่างกายที่พิเศษกว่าใครอื่น ทนทานยิ่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป และนอกจากจะมีชีวิตอยู่แม้จะดื่มแปลก ๆ ไปมากขนาดนั้น เลือดของเขาก็ยังเป็นโอสถเซียนที่ใช้ช่วยชีวิตคนได้อีกด้วยแต่หลิวฝูเฟิงยังสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง เขาเคยสังเกตสีหน้าของซูเนี่ยนเมื่อสามปีก่อน เห็นได้ชัดว่านางถูกพิษ หากซูเนี่ย
"นี่เจ้า... เจ้าจะแย่งของเด็กทำไม ไม่อายบ้างรึ?"เสียวเป่าจ้องฉู่อี้หานด้วยดวงตากลมโตราวลูกองุ่นดำถังหูลู่ในมือฉู่อี้หานหายไปแล้ว เหลือเพียงไม้โล่ง ๆ แท่งหนึ่ง เสียวเป่าผุดลุกขึ้นพร้อมกับชี้มืออวบไปทางฉู่อี้หานอย่างกล่าวโทษเนื้อบนใบหน้าอวบสั่นกระเพื่อมเป็นจังหวะ เสียวเป่าโมโหมากจริง ๆโตจนป่านนี้แล้วยังมาแย่งของเด็กกินอีก ทำตัวไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่เอาเสียเลย!"เสียวเป่า เกิดอะไรขึ้น?" ซูเนี่ยนเดินออกมาจากห้องครัวในสภาพคาดผ้ากันเปื้อนพร้อมกับถือตะหลิวในมือ หลังจากได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก"เขาเอาถังหูลู่ของข้าไปกินหมดเกลี้ยงเลย" เสียวเป่าหน้างอ ครั้นเห็นซูเนี่ยนออกมาก็รีบโถมตัวเข้าไปในอ้อมอกของนางทันที จากนั้นจึงชี้นิ้วไปทางฉู่อี้หานพลางกล่าวโทษ"หา?" ซูเนี่ยนมองไปทางฉู่อี้หานอย่างอึ้ง ๆ บนปากของเขายังมีเศษผลชานจากับเกล็ดน้ำตาลเปื้อนอยู่ ริมฝีปากสีแดงก่ำ ครั้นเห็นซูเนี่ยนจ้องมาทางเขา ชายหนุ่มก็แลบลิ้นออกมาเลียมุมปากเบา ๆ"ตู้ม"ซูเนี่ยนที่เห็นริมฝีปากของฉู่อี้หาน ภาพเหตุการณ์เมื่อช่วงบ่ายก็ผุดเข้ามาจนใบหน้าขึ้นสีทันควัน"ฉู่อี้หาน เล่นอะไรของเจ้ากัน? แกล้งเด็กรึไง?"เสียวเป่
หากซูเนี่ยนเป็นเทพโอสถจริง เช่นนั้นเลือดของนางจะต้องได้ผลรุนแรงอย่างแน่นอน แม้จะสะกดพิษของฉู่อี้หานได้ ทว่าร่างกายของฉู่อี้หานจะต้องรับไม่ไหวเป็นแน่ กอปรกับลมปราณของฉู่อี้หานที่แปรปรวนเมื่อก่อนจนชีพจรได้รับความเสียหาย เกรงว่าฟื้นขึ้นมาอาจจะมีบางอย่างผิดปกติไปแต่กลับคาดไม่ถึงว่าฉู่อี้หานจะสูญเสียความทรงจำ ซึ่งจิตใจของเขาในตอนนี้เป็นเพียงแค่เด็กเจ็ดขวบเท่านั้นและฉู่อี้หานไม่เพียงสูญเสียความทรงจำเท่านั้น ตอนนี้แม้แต่ตนเป็นใครเขาก็ยังไม่รู้ ลืมแม้กระทั่งองค์หญิงใหญ่และไทเฮา จำได้เพียงซูเนี่ยนเพียงคนเดียวเท่านั้น ใครใช้ให้เขาดื่มเลือดของซูเนี่ยนเข้าไปกันล่ะตอนนี้เขาเห็นซูเนี่ยนเป็นที่พึ่งพิง หลังจากฟื้นขึ้นมาจึงรีบตามหาเธอทันทีมั่วอีสีหน้าไม่สู้ดี ท่านอ๋องเป็นเช่นนี้ หากมีบุคคลภายนอกมาเห็นเข้าเกรงว่าจะเกิดเรื่องเป็นแน่?หากท่านอ๋องคืนสติกลับมาได้เมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าจะฆ่าปิดปากพวกเขาทั้งหมดหรือไม่?มั่วอีตัวสั่นขึ้นมาทันที เขามองซูเนี่ยนด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนและดูไร้หนทาง ทำท่าคล้ายจะเอ่ยบางอย่างทว่าอึกอักไม่ยอมเอ่ยออกมาซูเนี่ยนพอจะคิดตามได้บ้างแล้ว เธอเดาว่าฉู่อี้หานคงมีผลข้างเคียง
ซูเนี่ยนกรอกตาบน ครั้งแรกเลยที่ได้เห็นคนระลึกความหลังกันแบบนี้กลิ่นยาสมุนไพรลอยมา ขอบตาแดงๆ ของฉู่อี้หานค่อยๆ จางหายไป กลับมาสดใสอีกครั้ง เมื่อเห็นซูเนี่ยนมองค้อนเขาทีหนึ่ง เขาก็กลับมามีสติอีกครั้งมีพวกเราอยู่ก็มีความหวังอย่างนั้นเหรอ?ประโยคนี้ตอนนั้นดูเหมือนเสด็จแม่ของเขาก็เคยพูดไว้ เหตุใดซูเนี่ยนถึงได้พูดประโยคเดียวกัน?เพลงเซียวเซียงเยียนอวี่ที่ซูเนี่ยนเล่นใรงานชมดอกท้อ ความจริงแล้วเป็นบทเพลงที่เสด็จแม่ของเขาเคยบรรเลงร่วมกับลู่เจียว พวกเขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก วิธีการดีดพิณก็เหมือนกันในหลายจุดซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถดีดพิณได้ วิธีการดีดยังได้รับการสืบทอดมาจากลู่เจียว ครั้งก่อนเขาได้ยินแล้วตอนอยู่อีกเรือน แถมยังส่งมั่วอีไปแอบดูมาแล้วด้วยเขาอยากฟังอีกสักครั้งจัง"ท่านอ๋อง รบกวนหลีกทางหน่อย" ซูเนี่ยนโบกมือไล่ฉู่อี้หานอย่างรำคาญแม่นมไป๋ที่อยู่ด้านหลังรีบเข็นฉู่อี้หานออกไปด้านข้างทันทีไทฮองไทเฮาเม้มปาก มองดูซูเนี่ยนที่ดึงมือของตัวเองไป ความจริงนางค่อนข้างตื่นเต้น เพราะว่านางไม่อยากกินยา และไม่อยากฝังเข็มซูเนี่ยนจับชีพจรให้ไทฮองไทเฮาอย่างละเอียด ทั้งยังตรวจดู
"หึ" แววตาของฉู่อี้หานค่อนข้างร้อนแรง ซูเนี่ยนรู้สึกตกใจจนต้องชักมือกลับไป"ข้าเห็นเจ้าเปลือยหมดแล้ว เจ้าเองก็เห็นข้าเปลือยหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ข้ายังไม่เอาเรื่องที่เจ้ามองข้าเลยนะ" น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้ง สายตาของฉู่อี้หานจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็กๆ ขาวสะอาดของซูเนี่ยน"หุบปากนะ!" ซูเนี่ยนหน้าดำ นางเห็นเขาเปลือยตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ท่านอ๋อง พระชายา ไทฮองไทเฮาตื่นแล้วเพคะ" ในขณะที่ซูเนี่ยนกำลังจะพูดอะไร แม่นมไป๋ก็เดินเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยความดีใจ"ตื่นแล้ว? ไปดูสิ" ซูเนี่ยนพยักหน้า ดูจากเวลา ตอนนี้ไทฮองไทเฮาก็ควรจะตื่นแล้วซูเนี่ยนเดินอยู่ด้านหน้า ฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อตามมาอยู่ด้านหลัง พวกเขาเดินอย่างรีบร้อนเข้าไปในตำหนักของไทฮองไทเฮาตอนนี้ไทฮองไทเฮากำลังนั่งเอนหลังกินข้าวต้มเปล่าด้วยการดูแลของนางกำนัลอยู่บนศรีษะของนางไม่มีเครื่องประดับผมใดๆ สีหน้าขาวซีด ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ใบหน้าเล็กมาก เห็นได้ชัดว่าในตอนสาวๆ ก็เป็นหญิงงามคนหนึ่ง"ไทฮองไทเฮา ท่านอ๋องหลีกับพระชายาหลีมาแล้วเพคะ" แม่นมไป๋พูดรายงานอย่างนอบน้อม"ไม่กินแล้ว" ไทฮองไทเฮาโบกมือให้กับนางกำนัล ข้าวต้ม
มั่วอีค้อมตัวเล็กน้อย เหตุใดใบหน้าของท่านอ๋องถึงมีรอยช้ำได้นะ?ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่าพระชายาคงเป็นคนต่อยแน่ หรือว่าท่านอ๋องทำเรื่องอะไรไม่ดีกับพระชายาอีกแล้วเหรอ?มั่วอีคิดอย่างใจลอย เมื่อสายตาเย็นเยียบของฉู่อี้หานมองมา มั่วอีจึงต้องเร่งมือขึ้นอีกเขาเข็นฉู่อี้หานออกจากบ่อน้ำร้อน อ๋องคังกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ที่หน้าประตูเมื่อเห็นหน้าของฉู่อี้หานเขาก็ดีใจ แต่เมื่อเห็นรอยช้ำบนใบหน้าเขาก็ต้องยืนอึ้งอยู่อย่างนั้นใครกันที่ไม่กลัวตายแอบลอบทำร้ายเสด็จพี่! ใครกันที่บังอาจขนาดนี้ เขาจะต้องไปพบสักหน่อยแล้ว"ฮ่าๆๆ เสด็จพี่ มะ มุมปากท่าน" อ๋องคังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้าเย็นชา มีแผลมาประดับไว้ ช่างดูมีสีสันเหลือเกินแค่รู้สึกตลกไปสักหน่อย"มั่วอี พาท่านอ๋องคังไปประลองดาบที่เรือนหน่อยสิ ไม่ต้องรุนแรงมากล่ะ อย่าได้รบกวนไทฮองไทเฮา ข้าอยากจะรู้ว่าหลายปีนี้ท่านอ๋องคังมีฝีมือดีขึ้นบ้างไหม" ฉู่อี้หานหรี่ตาลง มองไปที่อ๋องคังอย่างน่ากลัว เขาอยากจะยกมุมปากขึ้นเหลือเกิน แต่ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ฉับพลันความโกรธก็ฉายขึ้นมาในแววตายัยซูเนี่ยนนั่น ไม่ออมมือเลยสักนิด"เอ่อ ฮ่าๆๆ" เดิมทีอ๋องคังก
ท่าทางการต่อสู้ของซูเนี่ยนแปลกประหลาด หลังจากที่ฉู่อี้หานแกล้งนางไปสักพักก็ไม่กล้าที่จะดูถูกฝีมือนางอีกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยทำตามกติกาเลยหลังจากที่ซูเนี่ยนทุบตีจนพอใจก็รู้สึกโล่งที่ได้ระบายความแค้น ไม่อยากที่จะมองฉู่อี้หานอีก คิดที่จะออกไปจากสระน้ำทันทีแต่นางไม่ทันสังเกตว่าผ้าม่านที่นางใช้พันร่างกายตรงหน้าอกไว้ค่อยๆ ร่วงหล่นลงจากการที่นางขยับร่างกายมากเกินไปผ้าม่านนั้นได้ล่วงลงในจังหวะเดียวกันกับที่ซูเนี่ยนหมุนตัวเดิมทีฉู่อี้หานที่คิดจะคว้าตัวนางไว้ก็ต้องนิ่งอึ้งไปกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้าซูเนี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ นางรีบหันไปมองฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่อย่างตกใจในหัวสมองของฉู่อี้หานตอนนี้ถูกเจ้าลูกกลมๆ เด้งๆ สองลูกทำเอาเบลอไปหมด ในหัวสมองมีแต่สองคำนี้วนเวียนอยู่ใหญ่...มาก..."อ๊า!"ซูเนี่ยนกรี๊ดออกมาเสียงดัง รีบเอาผ้าม่านกลับมาพันไว้ทันที นางไม่อาจอดกลั้นความโกรธในใจได้อีกต่อไปเตะขาออกไปอย่างแรง จนฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่ต้องล้มลงไปในน้ำ"ข้าจะตีท่านให้ตาย ข้าจะทำให้ท่านจมน้ำตายไปเลย! ลามก! สารเลว!"เสียงตะโกนอย่างโกรธจัดของซูเนี่ยนดังขึ้นไม่หยุด นางกำนัลสองคนที่เฝ
เมื่อซูเนี่ยนมองไปในดวงตาของเขา ก็พบว่าดวงตาของเขายิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าก็ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นางจึงล้มเลิกความคิดที่จะกลั่นแกล้งฉู่อี้หานไปนางอย่าได้ไปหาเรื่องคนโหดร้ายอย่างเขาเลย"หากข้าบอกว่าได้ล่ะ" เขากอดร่างกายของซูเนี่ยนที่พยายามดิ้นแน่นขึ้น ฉู่อี้หานพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับมองใบหน้าขาวละเอียดของซูเนี่ยนไปด้วยความสวยของซูเนี่ยนดูไกลๆ ก็น่าประทับใจแล้ว ดูใกล้ๆ ยิ่งราวกับรูปสลักของนางฟ้าบนสวรรค์ ตอนนั้นความสวยของลู่เจียวเป็นที่พูดถึงกันในเมืองหลวงเท่าไร ซูเนี่ยนก็ยิ่งเป็นมากกว่านั้นอีกเพียงแต่เมื่อก่อนซูเนี่ยนเป็นคนอ่อนแอเอาแต่เก็บตัว คนอื่นก็เลยละเลยความสวยของนาง แต่ในตอนนี้ซูเนี่ยนเปล่งประกายความมั่นใจและสงบเยือกเย็นออกมาจากภายใน ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้กับใบหน้าที่น่าหลงไหลนี้ เพียงแค่ไม่นานก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนริมฝีปากของซูเนี่ยนกระตุก ทำไมนางถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กำลังหยอกล้อฉู่อี้หาน แต่เป็นฉู่อี้หานที่กำลังหยอกล้อนางกันนะเมื่อมองฉู่อี้หานใกล้ๆ ก็ทำให้ซูเนี่ยนอดที่จะพิจรณาใบหน้าของคนเย็นชาอย่างเขาไม่ได้ โดยเฉพาะตอนที่เขาจ้องหน้าของนาง ราวกับว่านางเ
ใครให้ฉู่อี้หานดึงเสื้อของนางล่ะ เช่นนั้นนางก็จะทำกับเขาแบบเดียวกัน ดึงเสื้อของนาง นางก็จะให้เขารับรู้ความรู้สึกของการโดนดึงเสื้อบ้าง!ในตอนที่เสื้อถูกดึงออก นอกจากแผ่นหลังที่แข็งแรงและผิวขาวเนียนที่ซูเนี่ยนเห็นแล้ว ก็ยังมีรอยแผลเป็นริ้วๆ ตรงด้านหลังด้วยมีทั้งแผลจากมีดและดาบ รอยโดนลวก...เยอะจนนับไม่ไหว แต่แผลพวกนั้นไม่เพียงไม่ได้ทำให้ฉู่อี้หานน่าเกลียด กลับยังเพิ่มเสน่ห์แบบดิบๆ ให้เขาอีกด้วยฉู่อี้หานเพิ่งพบว่าเขาดูถูกฝีมือของซูเนี่ยนไป ใบหน้าปรากฎเป็นรอยยิ้มอันตรายแววตามีความสนุก ไม่เลว กล้าดึงเสื้อของเขา กล้าไม่เบา แต่ในเมื่อกล้าดึงเสื้อของเขา เช่นนั้นก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วยซูเนี่ยนเก็บความได้ใจของตัวเองไป นางสัมผัสได้ถึงความอันตราย หลังจากโยนเสื้อทิ้งไปซูเนี่ยนก็เตรียมหันหลังจะหนี แต่ฉู่อี้หานก็ตามติดนางไม่ปล่อยอีกทั้งฉู่อี้หานยังไม่อยากที่จะเล่นเกมไล่จับอีกต่อไป เขารวบรวมกำลังภายในที่ฝ่ามือ กระแทกน้ำจนสาดกระเซ็นตัวของซูเนี่ยนกระเด็นลอยไปในอากาศ จากนั้นก็จะร่วงลงมาอย่างแรงหากว่าร่วงลงไปแบบนี้ นางคงไม่พ้นตายก็พิการแน่"ฉู่อี้หาน..."ซูเนี่ยนตะโกนออกมาอย่างดัง ใบหน้าเล
คลื่นน้ำนั้นพุ่งกระแทกมาทางซูเนี่ยนอย่างแรงซูเนี่ยนตกใจมาก รีบยื่นมือออกไปคว้าเสื้อเอาไว้ทันทีแต่แรงกระแทกจากคลื่นน้ำนั้นรุนแรง ทำให้ซูเนี่ยนคว้าไว้ได้เพียงแค่เสื้อชั้นในเท่านั้นหมุนตัวหลบการโจมตีจากคลื่นน้ำ ซูเนี่ยนอาศัยจังหวะระหว่างนั้นใช้เสื้อชั้นในห่อร่างกายของตัวเองไว้ แต่เนื่องจากรีบร้อนทำให้เสื้อชั้นในสามารถปกปิดไว้ได้เพียงส่วนสำคัญเท่านั้น ร่างกายส่วนอื่นยังเปิดเผยอยู่อย่างเห็นได้ชัดฉู่อี้หานหรี่ดวงตาทั้งสองข้างมองไปยังเรือนร่างเล็กที่ๆ ที่กำลังหันหลังว่ายหนีตัวเองอย่างรวดเร็วอยู่คิดหนี? ต้องดูด้วยว่าเขายินยอมหรือไม่!เดิมทีเขาก็ไม่วางใจทางด้านไทฮองไทเฮาอยู่แล้ว ดังนั้นเลยส่งสิบแปดองค์รักษ์มาคอยแอบคุ้มกันอีกที คิดไม่ถึงว่าจะมีแอบเข้ามาถึงบ่อน้ำร้อนนี้ได้ แถมยังถูกเขาจับได้พอดี เขาไม่มีทางปล่อยนางไปแน่!ฉู่อี้หานรีบคว้าเอาเสื้อที่อยู่ริมสระน้ำมาสวม จากนั้นก็ยื่นมือคว้าไปทางซูเนี่ยนซูเนี่ยนรับรู้ได้ถึงพลังรุนแรงของฝ่ามือจากด้านหลัง ก็ตกใจรีบหลบทันทีไอน้ำขุ่นมัวล้อมรอบทั้งสองคนเอาไว้ เนื่องจากควันจากไอน้ำหนาเกินไป อีกทั้งซูเนี่ยนก็หัวเหอยุ่งเหยิง ทำให้มองเห็นหน้าไม
"ทำยังไงดีพระชายายังอยู่ข้างในเลย" นางกำนัลที่เฝ้าอยู่ด้านนอกมีสีหน้ากระวนกระวายทำไมอ๋องหลีถึงมาตอนนี้ล่ะ ก่อนหน้านี้อ๋องหลีก็มาแช่น้ำร้อนของไทฮองไทเฮาเช่นกัน ไม่มีใครเคยขวาง แต่ละคนต่างก็เคยชินแล้ว ก็เลยไม่มีใครรายงานก่อนแต่ว่าวันนี้มันต่างกัน ที่ในบ่อน้ำร้อนยังมีคนอื่นอยู่ด้วย"ไม่ต้องกลัว ด้านในก็ไม่ใช่ใครอื่นสักหน่อย เป็นพระชายาอ๋องหลีนะ ท่านอ๋องกับพระชายาจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่เรื่องดีหรือยังไง" นางกำนัลอีกคนหนึ่งไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาเรื่องนี้จะโทษพวกนางไม่ได้ เป็นท่านอ๋องหลีที่น่ากลัวเกินไป พวกนางเจอทีไรเป็นต้องพูดติดๆ ขัดๆ ตลอด รอตอนที่พวกนางจะพูดจริง ก็สายไปซะแล้ว อ๋องหลีเข้าไปแล้วมั่วอีที่ได้ยินบทสนทนาของนางกำนัลทั้งสองคนก็ตกใจ แต่ตอนนี้ใครก็ไม่สะดวกเข้าไปแล้ว จะขวางท่านอ๋องได้อย่างไร?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่อยากขวาง ก็เหมือนกับที่นางกำนัลสองคนนี้พูด ให้ท่านอ๋องกับพระชายาใช้เวลาอยู่ร่วมกันก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอมั่วอีเปลี่ยนทิศทางการเดิน สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีเลสนัย เดินออกไปทางนอกตำหนักฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อไปทางสระน้ำ ที่ปากของหงส์ท
เยือกเย็นมาก สงบมาก ลักษณะเช่นนี้ขนาดลูกคุณหนูตระกูลใหญ่ทั่วไปยังทำไม่ได้เลยอีกทั้งการปฏิบัติตัวกับคนอื่นก็โอบอ้อมอารี มีมารยาท ใส่ใจแต่เรื่องพวกนี้ นางคิดว่าซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถเป็นฐานะพระชายาอ๋องหลีได้ แถมยังคู่ควรกับอ๋องหลีอีกด้วยอีกอย่างดูจากท่าทางของอ๋องหลีเมื่อคืนนี้ เกรงว่าเขาก็คงมีใจให้กับซูเนี่ยนเหมือนกันสิ่งที่แม่นมไป๋คิดอยู่ในใจ ซูเนี่ยนไม่ได้รู้เลยสักนิด นางคิดเพียงอยากจะรีบอาบน้ำ ตอนนี้นางเหม็นตัวเองจะตายอยู่แล้วแม่นมไป๋เดินนำซูเนี่ยนมาจนถึงบ่อน้ำร้อนนี่คือบ่อน้ำร้อนที่จักรพรรดิเต๋อคังสร้างให้ไทฮองไทเฮาโดยเฉพาะ ภายในยังใส่สมุนไพรจีนไว้มากมาย มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากซูเนี่ยนเป็นหมอย่อมต้องดมรู้อยู่แล้วภายในบ่อน้ำร้อนมีควันพวยพุ่ง ขมุกขมัว บ่อน้ำร้อนใหญ่มาก มีปุ่มกดรูปหงส์สยายปีกสร้างไว้โดยรอบ แม่นมไป๋กดปุ่มรูปหงส์อันหนึ่ง ก็เห็นว่าน้ำในบ่อถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็วไม่ใช่บ่อสมุนไพรอีกต่อไป แต่กลายเป็นบ่อน้ำนมสีขาวที่มีกลีบดอกท้อลอยอยู่ด้านบนแทนอุณหภูมิน้ำที่อุ่นทำให้กลิ่นหอมจากกลีบดอกท้อลอยโชยขึ้นมาในอากาศ ซูเนี่ยนสูดหายใจเข้าไปลึกๆ รู้สึกว่าหอมมากสมแ