เพราะไทฮองไทเฮาเกี่ยวโยงกับผลประโยชน์ของทุกคน ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเห็นผลลัพธ์แบบนี้แววตาราชครูกู้มีความครุ่นคิด เขาเห็นฉู่อี้หานที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้าเคร่งเครียดซับซ้อนเหมือนกัน พอเขามองซูเนี่ยนที่อยู่ด้านหลังต่อ แววตาก็มีประกายปรากฎขึ้นแวบหนึ่งสองวันนี้คนที่อี๋ซิวพูดถึงกับเขาบ่อยที่สุดก็คือซูเนี่ยนคนนี้ ถ้าไทฮองไทเฮาไม่ไหวไปจริงๆ เช่นนั้นเขาก็ต้องช่วยไท่จื่อให้นั่งบัลลังก์ได้มั่นคงอาศัยแค่บุญคุณนี้ ต่อให้ตอนนั้นกู้อี๋ซิวแต่งไปแล้ว ไท่จื่อก็จะดูแลนางเป็นอย่างดีเพียงแต่แบบนี้ก็จะผิดต่อฉู่อี้หาน อย่างน้อยฉู่อี้หานก็เป็นนักเรียนของเขา เพียงแต่สองขาของฉู่อี้หานพิการ ซ้ำยังมีชายาเอกแล้ว ถูกกำหนดว่าไร้วาสนากับอี๋ซิวน่าเสียดาย น่าเสียดายที่ต่อให้ฉู่อี้หานมีความสามารถโดดเด่นแค่ไหน ชื่อเสียงโด่งดังแค่ไหน ชีวิตนี้ฐานะสูงสุดก็เป็นได้แค่ชินอ๋อง ไร้วาสนากับตำแหน่งนั้นในขณะที่เขาก็ได้ทำการเลือกนานแล้วราชครูกู้มองซูเนี่ยนอีกครั้ง ในใจมีแผนการซูเนี่ยนหรี่ตามองไป ก่อนที่ความเย้ยหยันจะเติมเต็มขอบตา นางมองออกว่าราชครูกู้เป็นคนใจอำมหิต อย่างน้อยฉู่อี้หานก็เคยเป็นนักเรียนของเขาต่อให้ตอนนี้
แต่นางกลับทำไม่ได้ รอนางจัดการเรื่องทั้งหมดแล้ว ระเบิดจวนพวกใต้เท้าสักไม่กี่หลังน่าจะไม่เป็นปัญหามั้งสายตาของซูเนี่ยนค่อยๆ กวาดผ่านราชครูกู้ยังไงเสียราชครูกู้ก็เป็นขุนนางในราชสำนักมาหลายปี ปล่อยให้ซูเนี่ยนมองเขา เขาเองก็ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเพียงแต่สีหน้าเขาไม่แสดงออกแต่ในใจกลับตื่นตระหนกอยู่บ้าง การที่ซูเนี่ยนมีมาดเช่นนี้เป็นเรื่องที่เขาคาดยังไงก็คาดไม่ถึงแต่ถ้าวิชาแพทย์ของซูเนี่ยนล้ำเลิศจริง ถ้างั้นนางก็ไม่สามารถรั้งอยู่ข้างกายฉู่อี้หาน คอยเป็นกำลังเสริมให้ฉู่อี้หานได้อีกจิตสังหารแวบผ่านแววตาของราชครูกู้ ซูเนี่ยนมองเห็นก็แทบจะอ้วกออกมา"เสด็จพ่อ ลูกเองก็ได้ยินเรื่องนี้ ไม่สู้ให้พระชายาหลีตรวจให้เสด็จย่าทวด" จิ้งอ๋องสวมชุดสีขาว พูดขึ้นอย่างถูกเวลาบางคนเหมาะจะสวมชุดขาวตั้งแต่เกิด ตัวอย่างเช่นหรงฉี ขณะที่บางคนสวมชุดขาวเพียงเพื่อจะปกปิดความทะเยอทะยานของตัวเอง คนที่ไม่รู้ก็จะถูกเขาหลอก คนที่รู้เห็นแล้วมีแต่รู้สึกสะอิดสะเอียนสีหน้าของซูเนี่ยนราบเรียบเหมือนที่คนพวกนี้พูดถึงไม่ใช่นางจักรพรรดิเต๋อคังเหลือบมองซูเนี่ยน ในเมื่อราชครูกู้กับจิ้งอ๋องพูดแบบนี้ทั้งคู่ ถ้างั้นก็
"พระชายาหลีอย่ามาโยนโทษให้ข้า นี่มันพูดเหลวไหลสิ้นดี" พอถูกโทษใหญ่เช่นนี้กล่าวหา ราชครูกู้ก็มีสีหน้าดำคล้ำ ซูเนี่ยนผู้นี้พูดจาเหลวไหลด้วยท่าทีจริงจังได้ยังไงกัน?แต่เหตุใดนางถึงพูดได้ดูสมเหตุมาก? เพียงแต่นางถึงกับเอาชื่อเสียงของตัวเองมาเป็นชนวน ไม่สนใจชื่อเสียงขนาดนี้เลยเหรอ?ซูเนี่ยนก้มหน้า มุมปากกระดกขึ้น ชื่อเสียงมีมูลค่าเท่าไหร่กัน? นางยังมีของอย่างชื่อเสียงด้วยเหรอ?น่าตลกจริงๆ"เช่นนั้นราชครูหมายความเช่นไร? ถ้าท่านเชื่อข่าวลือของเมืองหลวง ฝีมือการรักษาข้าล้ำเลิศ เช่นนั้นก็เท่ากับว่าข้าไม่รู้จักหนังสือ แต่นี่ก็ย้อนแย้งกัน บัณฑิตไม่ใช่สนใจเรื่องความละเอียดเป็นที่สุดหรือ ทำไมดูแล้วราชครูเหมือนไม่ใช่คนที่ละเอียดเลยล่ะ" ซูเนี่ยนดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากอกเสื้อ เช็ดน้ำตาบนใบหน้า มองราชครูกู้ด้วยสีหน้าไร้เดียงสา"เจ้า..." ราชครูกู้โมโหมาก ซูเนี่ยนปากดีจริงๆ"ราชครู" ไท่จื่อส่ายหัว พูดกับจักรพรรดิเต๋อคังที่มีสีหน้าครุ่นคิดว่า "เสด็จพ่อ ลูกเชื่อว่าข่าวลือก่อนหน้านี้มีข้อผิดพลาด พระชายาหลีไม่มีทางใช่คนที่ไม่รู้หนังสือแน่"คำพูดของซูเนี่ยนเหมือนจะปิดบังทางออกทุกช่องทาง บอกว่าข่าวลือในเม
"ได้ ตามนี้ก็แล้วกัน รีบเข้าไปดูไทฮองไทเฮาเถอะ" จักรพรรดิเต๋อคังสีหน้าอ่อนล้า ซูเนี่ยนเสียงดังเกินไปแล้ว เสียงดังจนเขาปวดหัวไปหมด เหตุใดเมื่อก่อนไม่เห็นรู้ว่าซูเนี่ยนเป็นคนพูดเก่งขนาดนี้นะ?อีกอย่าง สมัยก่อนซูเนี่ยนก็ไม่มีไหวพริบดีแบบนี้ การกระทำและคำพูดของนางในวันนี้ช่างเหนือความคาดหมายของเขาไปมาก ดูท่าแล้วเรื่องที่เขาลือกันในเมืองหลวงก็คงจะไม่ใช่เรื่องไม่จริงไปซะหมดแต่ว่าเขาเป็นห่วงไทฮองไทเฮาเหลือเกิน ก็เลยคร้านที่จะสนใจว่าเหตุใดซูเนี่ยนถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้"หม่อมฉันรับบัญชา แต่มีอยู่อีกเรื่องหนึ่ง" ซูเนี่ยนพูดขึ้นมาอีกครั้ง"ยังมีเรื่องอะไรอีกเจ้ารีบพูดมาสิ" จักรพรรดิเต๋อคังเริ่มหมดความอดทน หากไม่ใช่ว่าฉู่อี้หานยังอยู่ที่นี่ เขาก็คงจับตัวนางเข้าไปแล้ว คงไม่ปล่อยให้นางมาพูดเจื้อยแจ้วแบบนี้ต่อหรอก"ได้ยินว่าแม่นางกู้วิชาแพทย์สูงส่ง ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าเหตุใดราชครูกู้ถึงไม่ยอมให้แม่นางกู้มารักษาไทฮองไทเฮา แต่ไทฮองไทเฮาเป็นถึงผู้อาวุโสแห่งต้าสุย ในฐานะที่แม่นางกู้เป็นธิดาของราชครู เป็นราษฎรแห่งต้าสุย ถึงอย่างไรก็ควรแสดงความกตัญญู ไม่เช่นนั้นคงเป็นการไม่ภักดี?" ซูเนี่ยนผายมือทั้ง
สายตาของเขาฉายแววผิดหวังเล็กน้อย เดิมทีกำหนดคู่ครองให้องค์รัชทายาทเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถทางการแพทย์สูงส่ง มีชาติตระกูลที่ดี ดูท่าคงต้องพิจรณาใหม่แล้ว"หมอหลวงหู หมอหลวงหยาง พวกเจ้าสองคนเข้าไปช่วยเป็นลูกมือของพระชายาหลีซะ""พ่ะย่ะค่ะ" หมอหลวงหูกับหมอหลวงหยางตอบอย่างนอบน้อมซูเนี่ยนไม่ลังเลอีกต่อไป รีบหมุนตัวไปรับกล่องยาจากมั่วอีที่ยืนรออยู่ด้านนอกตำหนัก แล้วเดินเข้าไปในตำหนักทันทีราชครูกู้แทบจะโมโหตายแล้ว เดิมทีซูเนี่ยนคนนี้ก็คิดจะรักษาอาการให้กับไทฮองไทเฮาอยู่แล้ว แต่ดันจะวกมาหาเรื่องพวกเขาอีกก็จริง ฉู่อี้หานให้ความสำคัญกับไทฮองไทเฮามาก ในเมื่อซูเนี่ยนเองก็มีฝีมือการรักษาทำไมจะไม่รักษาให้ไทฮองไทเฮาล่ะแต่ในเมื่อฉู่อี้หานกล้าให้ซูเนี่ยนรักษา นั่นก็หมายความว่าเขาวางในใจวิชาแพทย์ของซูเนี่ยนองค์รัชทายาทเองก็คิดได้เช่นนี้ รวมถึงตัวอ๋องจิ้งด้วยมีเพียงฉู่อ๋องกับเฉิงอ๋องสองคนที่ยังคงมองหน้ากันด้วยความงุงงงมั่วอียื่นกล่องยาให้กับซูเนี่ยนด้วยความเคารพ เขายิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้นขึ้นทุกที เรื่องนี้เขาจะต้องกลับไปเล่าให้สิบแปดองครักษ์ฟังสามารถพูดตอกหน้าราชครูกู้ได้แบบนี้ ทั้งต้าสุ
"ไทฮองไทเฮาเป็นโรคน้ำตาลในเลือดสูง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าโรคเบาหวาน โรคนี้ก็เหมือนกับชื่อของมัน เป็นโรคที่ไม่สามารถกินน้ำตาลหรือของหวานได้ หากว่าน้ำตาลในร่างกายสูงเกินไป สถานเบาก็อาจแค่ไม่สบาย สถานหนักอาจหมดสติเป็นอันตรายถึงชีวิต" ซูเนี่ยนมองไปที่ใบหน้าขาวซีดของไทฮองไทเฮาแล้วได้แต่ถอนหายใจเบาๆไม่ใช่เจ้าของร่างเดิมไม่เคยเจอไทฮองไทเฮา แต่สองครั้งนั้นเป็นเพราะนางคอยตอแยฉู่อี้หาน ไทฮองไทเฮาไม่อยากให้นางแต่งเข้าจวนอ๋องหลี ก็เลยสั่งโบยนางสองครั้งแต่ในตอนนั้นซูเนี่ยนให้ความสำคัญกับฉู่อี้หานมากยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง ก็เลยไม่สนใจ ดังนั้นซูเนี่ยนจึงไม่เป็นที่โปรดปราณของไทฮองไทเฮานัก เมื่อคิดถึงยายแก่ชั่วร้ายในตอนนั้นกำลังนอนหายใจรวยรินอยู่ตรงนี้ ซูเนี่ยนก็อดที่จะถอนหายใจอย่างปลงๆ ออกมาไม่ได้นางเข้าใจไทฮองไทเฮา หากไม่ใช่เพื่อฉู่อี้หาน ไทฮองไทเฮาก็คงไม่ทำกับนางเช่นนั้น นางเป็นหมอ ก็คงไม่อาจปล่อยให้คนตายไปโดยไม่ช่วยได้"เช่นนั้น จะรักษาอย่างไรเหรอ" หมอหลวงหูพูดพึมพำ"คนที่ป่วยเป็นโรคน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเพราะตับอ่อนเสียหายหรือไม่ก็เสื่อมสมรรถภาพ ทำให้ร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลได้อย่างปกติ
จากนั้นก็ส่งใบสั่งยาให้กับหมอหลวงหู หมอหลวงหูกับหมอหลวงหยางทั้งสองคนรีบออกไปตามมอบหมายอย่างรวดเร็ว"พระชายา เรียบร้อยแล้ว" แม่นมไป๋ที่ถอดเสื้อของไทฮองไทเฮาออกเรียบร้อยมองมาที่ซูเนี่ยน"แม่นม สั่งให้หญิงรับใช้ไปต้มน้ำร้อนมา จากนั้นรอให้ข้าฝังเข็มเรียบร้อยป้อนน้ำอุ่นให้ไทฮองไทเฮา จำไว้ยิ่งเยอะยิ่งดี" ซูเนี่ยนสั่งการโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ ใบหน้าของนางสงบนิ่ง ทั้งร่างกายราวกับแผ่พลังไอเย็นออกมา แม่นมไป๋เห็นแล้วก็ตกใจนางพยักหน้ารับคำ จากนั้นก็วิ่งไปสั่งการหญิงรับใช้ที่อยู่ด้านนอกจักรพรรดิเต๋อคังที่เฝ้าอยู่ด้านนอกตำหนักมองดูคนวิ่งเข้าวิ่งออก แววตาเคร่งขรึม เขามองไปยังฉู่อี้หานที่ยังคงสงบนิ่งอย่างพิจรณาด้านในตำหนัก ซูเนี่ยนถอดเสื้อผ้าของไทฮองไทเฮาออกทั้งหมด ในมือกำเข็มเงินไว้ จากนั้นก็รวมรวมสมาธิเริ่มทำการฝังเข็มให้กับไทฮองไทเฮาแม่นมไป๋มองดูมือของซูเนี่ยนที่เคลื่อนไปมาอยู่บนตัวของไทฮองไทเฮาอย่างเงียบๆ ท่าทางการฝังเข็มของนางว่องไว เดิมทีใบหน้าที่ไร้การตอบสนองของไทฮองไทเฮาก็เริ่มขมวดคิ้วขึ้นมาน้อยๆแม่นมไป๋ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจดังๆ เกรงว่าจะเป็นการรบกวนสมาธิของซูเนี่ยน ฝีเท้าก็เคล
"นี่คือ..." แววตาที่ซูเนี่ยนมองไปยังเฟิ่งเอ๋อร์แฝงด้วยประกายแปลกประหลาด เหตุใดเข็มเก้ารอบปรับสมดุลตามตำราของแม่นางถึงมาอยู่กับเฟิ่งเอ๋อร์ได้?นางรู้สึกมานานแล้วว่าเฟิ่งเอ๋อร์มีเรื่องปิดบังนางอยู่ ตกลงว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่?ก่อนหน้านี้นางก็แอบสังเกตได้ว่าเฟิ่งเอ๋อร์มีสีหน้าประหลาดๆ ในบางครั้ง เพียงแค่ก่อนหน้านี้นางไม่อยากที่จะสงสัยนางเท่านั้นเองแต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ ทำให้นางอดสงสัยไม่ได้"พระชายา รีบฝังเข็มให้ไทฮองไทเฮาเถอะเพคะ หากไม่มีเข็มนี้ วิชาเก้ารอบปรับสมดุลคงไม่อาจเป็นผลได้ ส่วนเรื่องที่มาของเข็มนี้อีกเดี๋ยวบ่าวจะอธิบายให้ท่านฟังทีหลัง" เฟิ่งเอ๋อร์มองไปที่ซูเนี่ยนอย่างร้อนใจนางปาดตาไปมองไทฮองไทเฮาที่นอนอยู่บนเตียงหนึ่งที แล้วก็อดพูดเร่งซูเนี่ยนขึ้นมาไม่ได้หากว่ามัวเสียเวลาต่อไป เกรงว่าไทฮองไทเฮาจะทนไม่ไหวซูเนี่ยนพยักหน้า นางเชื่อว่าเฟิ่งเอ๋อร์ไม่มีทางทำเรื่องที่เป็นภัยต่อนาง ในเมื่อตอนนี้มีเข็มแล้ว ก็เท่ากับว่ามีผู้ช่วยเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแรงซูเนี่ยนรับเอาห่อผ้ามา แกะเอาเข็มกลัดห่อผ้าออก ชั่วขณะที่หยิบเอาเข็มทองออกมาก็มีเสียงดังเบาแบบเบามากๆ ดังขึ้น ซูเนี่ยนแอบ
ซูเนี่ยนกรอกตาบน ครั้งแรกเลยที่ได้เห็นคนระลึกความหลังกันแบบนี้กลิ่นยาสมุนไพรลอยมา ขอบตาแดงๆ ของฉู่อี้หานค่อยๆ จางหายไป กลับมาสดใสอีกครั้ง เมื่อเห็นซูเนี่ยนมองค้อนเขาทีหนึ่ง เขาก็กลับมามีสติอีกครั้งมีพวกเราอยู่ก็มีความหวังอย่างนั้นเหรอ?ประโยคนี้ตอนนั้นดูเหมือนเสด็จแม่ของเขาก็เคยพูดไว้ เหตุใดซูเนี่ยนถึงได้พูดประโยคเดียวกัน?เพลงเซียวเซียงเยียนอวี่ที่ซูเนี่ยนเล่นใรงานชมดอกท้อ ความจริงแล้วเป็นบทเพลงที่เสด็จแม่ของเขาเคยบรรเลงร่วมกับลู่เจียว พวกเขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก วิธีการดีดพิณก็เหมือนกันในหลายจุดซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถดีดพิณได้ วิธีการดีดยังได้รับการสืบทอดมาจากลู่เจียว ครั้งก่อนเขาได้ยินแล้วตอนอยู่อีกเรือน แถมยังส่งมั่วอีไปแอบดูมาแล้วด้วยเขาอยากฟังอีกสักครั้งจัง"ท่านอ๋อง รบกวนหลีกทางหน่อย" ซูเนี่ยนโบกมือไล่ฉู่อี้หานอย่างรำคาญแม่นมไป๋ที่อยู่ด้านหลังรีบเข็นฉู่อี้หานออกไปด้านข้างทันทีไทฮองไทเฮาเม้มปาก มองดูซูเนี่ยนที่ดึงมือของตัวเองไป ความจริงนางค่อนข้างตื่นเต้น เพราะว่านางไม่อยากกินยา และไม่อยากฝังเข็มซูเนี่ยนจับชีพจรให้ไทฮองไทเฮาอย่างละเอียด ทั้งยังตรวจดู
"หึ" แววตาของฉู่อี้หานค่อนข้างร้อนแรง ซูเนี่ยนรู้สึกตกใจจนต้องชักมือกลับไป"ข้าเห็นเจ้าเปลือยหมดแล้ว เจ้าเองก็เห็นข้าเปลือยหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ข้ายังไม่เอาเรื่องที่เจ้ามองข้าเลยนะ" น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้ง สายตาของฉู่อี้หานจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็กๆ ขาวสะอาดของซูเนี่ยน"หุบปากนะ!" ซูเนี่ยนหน้าดำ นางเห็นเขาเปลือยตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ท่านอ๋อง พระชายา ไทฮองไทเฮาตื่นแล้วเพคะ" ในขณะที่ซูเนี่ยนกำลังจะพูดอะไร แม่นมไป๋ก็เดินเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยความดีใจ"ตื่นแล้ว? ไปดูสิ" ซูเนี่ยนพยักหน้า ดูจากเวลา ตอนนี้ไทฮองไทเฮาก็ควรจะตื่นแล้วซูเนี่ยนเดินอยู่ด้านหน้า ฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อตามมาอยู่ด้านหลัง พวกเขาเดินอย่างรีบร้อนเข้าไปในตำหนักของไทฮองไทเฮาตอนนี้ไทฮองไทเฮากำลังนั่งเอนหลังกินข้าวต้มเปล่าด้วยการดูแลของนางกำนัลอยู่บนศรีษะของนางไม่มีเครื่องประดับผมใดๆ สีหน้าขาวซีด ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ใบหน้าเล็กมาก เห็นได้ชัดว่าในตอนสาวๆ ก็เป็นหญิงงามคนหนึ่ง"ไทฮองไทเฮา ท่านอ๋องหลีกับพระชายาหลีมาแล้วเพคะ" แม่นมไป๋พูดรายงานอย่างนอบน้อม"ไม่กินแล้ว" ไทฮองไทเฮาโบกมือให้กับนางกำนัล ข้าวต้ม
มั่วอีค้อมตัวเล็กน้อย เหตุใดใบหน้าของท่านอ๋องถึงมีรอยช้ำได้นะ?ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่าพระชายาคงเป็นคนต่อยแน่ หรือว่าท่านอ๋องทำเรื่องอะไรไม่ดีกับพระชายาอีกแล้วเหรอ?มั่วอีคิดอย่างใจลอย เมื่อสายตาเย็นเยียบของฉู่อี้หานมองมา มั่วอีจึงต้องเร่งมือขึ้นอีกเขาเข็นฉู่อี้หานออกจากบ่อน้ำร้อน อ๋องคังกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ที่หน้าประตูเมื่อเห็นหน้าของฉู่อี้หานเขาก็ดีใจ แต่เมื่อเห็นรอยช้ำบนใบหน้าเขาก็ต้องยืนอึ้งอยู่อย่างนั้นใครกันที่ไม่กลัวตายแอบลอบทำร้ายเสด็จพี่! ใครกันที่บังอาจขนาดนี้ เขาจะต้องไปพบสักหน่อยแล้ว"ฮ่าๆๆ เสด็จพี่ มะ มุมปากท่าน" อ๋องคังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้าเย็นชา มีแผลมาประดับไว้ ช่างดูมีสีสันเหลือเกินแค่รู้สึกตลกไปสักหน่อย"มั่วอี พาท่านอ๋องคังไปประลองดาบที่เรือนหน่อยสิ ไม่ต้องรุนแรงมากล่ะ อย่าได้รบกวนไทฮองไทเฮา ข้าอยากจะรู้ว่าหลายปีนี้ท่านอ๋องคังมีฝีมือดีขึ้นบ้างไหม" ฉู่อี้หานหรี่ตาลง มองไปที่อ๋องคังอย่างน่ากลัว เขาอยากจะยกมุมปากขึ้นเหลือเกิน แต่ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ฉับพลันความโกรธก็ฉายขึ้นมาในแววตายัยซูเนี่ยนนั่น ไม่ออมมือเลยสักนิด"เอ่อ ฮ่าๆๆ" เดิมทีอ๋องคังก
ท่าทางการต่อสู้ของซูเนี่ยนแปลกประหลาด หลังจากที่ฉู่อี้หานแกล้งนางไปสักพักก็ไม่กล้าที่จะดูถูกฝีมือนางอีกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยทำตามกติกาเลยหลังจากที่ซูเนี่ยนทุบตีจนพอใจก็รู้สึกโล่งที่ได้ระบายความแค้น ไม่อยากที่จะมองฉู่อี้หานอีก คิดที่จะออกไปจากสระน้ำทันทีแต่นางไม่ทันสังเกตว่าผ้าม่านที่นางใช้พันร่างกายตรงหน้าอกไว้ค่อยๆ ร่วงหล่นลงจากการที่นางขยับร่างกายมากเกินไปผ้าม่านนั้นได้ล่วงลงในจังหวะเดียวกันกับที่ซูเนี่ยนหมุนตัวเดิมทีฉู่อี้หานที่คิดจะคว้าตัวนางไว้ก็ต้องนิ่งอึ้งไปกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้าซูเนี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ นางรีบหันไปมองฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่อย่างตกใจในหัวสมองของฉู่อี้หานตอนนี้ถูกเจ้าลูกกลมๆ เด้งๆ สองลูกทำเอาเบลอไปหมด ในหัวสมองมีแต่สองคำนี้วนเวียนอยู่ใหญ่...มาก..."อ๊า!"ซูเนี่ยนกรี๊ดออกมาเสียงดัง รีบเอาผ้าม่านกลับมาพันไว้ทันที นางไม่อาจอดกลั้นความโกรธในใจได้อีกต่อไปเตะขาออกไปอย่างแรง จนฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่ต้องล้มลงไปในน้ำ"ข้าจะตีท่านให้ตาย ข้าจะทำให้ท่านจมน้ำตายไปเลย! ลามก! สารเลว!"เสียงตะโกนอย่างโกรธจัดของซูเนี่ยนดังขึ้นไม่หยุด นางกำนัลสองคนที่เฝ
เมื่อซูเนี่ยนมองไปในดวงตาของเขา ก็พบว่าดวงตาของเขายิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าก็ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นางจึงล้มเลิกความคิดที่จะกลั่นแกล้งฉู่อี้หานไปนางอย่าได้ไปหาเรื่องคนโหดร้ายอย่างเขาเลย"หากข้าบอกว่าได้ล่ะ" เขากอดร่างกายของซูเนี่ยนที่พยายามดิ้นแน่นขึ้น ฉู่อี้หานพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับมองใบหน้าขาวละเอียดของซูเนี่ยนไปด้วยความสวยของซูเนี่ยนดูไกลๆ ก็น่าประทับใจแล้ว ดูใกล้ๆ ยิ่งราวกับรูปสลักของนางฟ้าบนสวรรค์ ตอนนั้นความสวยของลู่เจียวเป็นที่พูดถึงกันในเมืองหลวงเท่าไร ซูเนี่ยนก็ยิ่งเป็นมากกว่านั้นอีกเพียงแต่เมื่อก่อนซูเนี่ยนเป็นคนอ่อนแอเอาแต่เก็บตัว คนอื่นก็เลยละเลยความสวยของนาง แต่ในตอนนี้ซูเนี่ยนเปล่งประกายความมั่นใจและสงบเยือกเย็นออกมาจากภายใน ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้กับใบหน้าที่น่าหลงไหลนี้ เพียงแค่ไม่นานก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนริมฝีปากของซูเนี่ยนกระตุก ทำไมนางถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กำลังหยอกล้อฉู่อี้หาน แต่เป็นฉู่อี้หานที่กำลังหยอกล้อนางกันนะเมื่อมองฉู่อี้หานใกล้ๆ ก็ทำให้ซูเนี่ยนอดที่จะพิจรณาใบหน้าของคนเย็นชาอย่างเขาไม่ได้ โดยเฉพาะตอนที่เขาจ้องหน้าของนาง ราวกับว่านางเ
ใครให้ฉู่อี้หานดึงเสื้อของนางล่ะ เช่นนั้นนางก็จะทำกับเขาแบบเดียวกัน ดึงเสื้อของนาง นางก็จะให้เขารับรู้ความรู้สึกของการโดนดึงเสื้อบ้าง!ในตอนที่เสื้อถูกดึงออก นอกจากแผ่นหลังที่แข็งแรงและผิวขาวเนียนที่ซูเนี่ยนเห็นแล้ว ก็ยังมีรอยแผลเป็นริ้วๆ ตรงด้านหลังด้วยมีทั้งแผลจากมีดและดาบ รอยโดนลวก...เยอะจนนับไม่ไหว แต่แผลพวกนั้นไม่เพียงไม่ได้ทำให้ฉู่อี้หานน่าเกลียด กลับยังเพิ่มเสน่ห์แบบดิบๆ ให้เขาอีกด้วยฉู่อี้หานเพิ่งพบว่าเขาดูถูกฝีมือของซูเนี่ยนไป ใบหน้าปรากฎเป็นรอยยิ้มอันตรายแววตามีความสนุก ไม่เลว กล้าดึงเสื้อของเขา กล้าไม่เบา แต่ในเมื่อกล้าดึงเสื้อของเขา เช่นนั้นก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วยซูเนี่ยนเก็บความได้ใจของตัวเองไป นางสัมผัสได้ถึงความอันตราย หลังจากโยนเสื้อทิ้งไปซูเนี่ยนก็เตรียมหันหลังจะหนี แต่ฉู่อี้หานก็ตามติดนางไม่ปล่อยอีกทั้งฉู่อี้หานยังไม่อยากที่จะเล่นเกมไล่จับอีกต่อไป เขารวบรวมกำลังภายในที่ฝ่ามือ กระแทกน้ำจนสาดกระเซ็นตัวของซูเนี่ยนกระเด็นลอยไปในอากาศ จากนั้นก็จะร่วงลงมาอย่างแรงหากว่าร่วงลงไปแบบนี้ นางคงไม่พ้นตายก็พิการแน่"ฉู่อี้หาน..."ซูเนี่ยนตะโกนออกมาอย่างดัง ใบหน้าเล
คลื่นน้ำนั้นพุ่งกระแทกมาทางซูเนี่ยนอย่างแรงซูเนี่ยนตกใจมาก รีบยื่นมือออกไปคว้าเสื้อเอาไว้ทันทีแต่แรงกระแทกจากคลื่นน้ำนั้นรุนแรง ทำให้ซูเนี่ยนคว้าไว้ได้เพียงแค่เสื้อชั้นในเท่านั้นหมุนตัวหลบการโจมตีจากคลื่นน้ำ ซูเนี่ยนอาศัยจังหวะระหว่างนั้นใช้เสื้อชั้นในห่อร่างกายของตัวเองไว้ แต่เนื่องจากรีบร้อนทำให้เสื้อชั้นในสามารถปกปิดไว้ได้เพียงส่วนสำคัญเท่านั้น ร่างกายส่วนอื่นยังเปิดเผยอยู่อย่างเห็นได้ชัดฉู่อี้หานหรี่ดวงตาทั้งสองข้างมองไปยังเรือนร่างเล็กที่ๆ ที่กำลังหันหลังว่ายหนีตัวเองอย่างรวดเร็วอยู่คิดหนี? ต้องดูด้วยว่าเขายินยอมหรือไม่!เดิมทีเขาก็ไม่วางใจทางด้านไทฮองไทเฮาอยู่แล้ว ดังนั้นเลยส่งสิบแปดองค์รักษ์มาคอยแอบคุ้มกันอีกที คิดไม่ถึงว่าจะมีแอบเข้ามาถึงบ่อน้ำร้อนนี้ได้ แถมยังถูกเขาจับได้พอดี เขาไม่มีทางปล่อยนางไปแน่!ฉู่อี้หานรีบคว้าเอาเสื้อที่อยู่ริมสระน้ำมาสวม จากนั้นก็ยื่นมือคว้าไปทางซูเนี่ยนซูเนี่ยนรับรู้ได้ถึงพลังรุนแรงของฝ่ามือจากด้านหลัง ก็ตกใจรีบหลบทันทีไอน้ำขุ่นมัวล้อมรอบทั้งสองคนเอาไว้ เนื่องจากควันจากไอน้ำหนาเกินไป อีกทั้งซูเนี่ยนก็หัวเหอยุ่งเหยิง ทำให้มองเห็นหน้าไม
"ทำยังไงดีพระชายายังอยู่ข้างในเลย" นางกำนัลที่เฝ้าอยู่ด้านนอกมีสีหน้ากระวนกระวายทำไมอ๋องหลีถึงมาตอนนี้ล่ะ ก่อนหน้านี้อ๋องหลีก็มาแช่น้ำร้อนของไทฮองไทเฮาเช่นกัน ไม่มีใครเคยขวาง แต่ละคนต่างก็เคยชินแล้ว ก็เลยไม่มีใครรายงานก่อนแต่ว่าวันนี้มันต่างกัน ที่ในบ่อน้ำร้อนยังมีคนอื่นอยู่ด้วย"ไม่ต้องกลัว ด้านในก็ไม่ใช่ใครอื่นสักหน่อย เป็นพระชายาอ๋องหลีนะ ท่านอ๋องกับพระชายาจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่เรื่องดีหรือยังไง" นางกำนัลอีกคนหนึ่งไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาเรื่องนี้จะโทษพวกนางไม่ได้ เป็นท่านอ๋องหลีที่น่ากลัวเกินไป พวกนางเจอทีไรเป็นต้องพูดติดๆ ขัดๆ ตลอด รอตอนที่พวกนางจะพูดจริง ก็สายไปซะแล้ว อ๋องหลีเข้าไปแล้วมั่วอีที่ได้ยินบทสนทนาของนางกำนัลทั้งสองคนก็ตกใจ แต่ตอนนี้ใครก็ไม่สะดวกเข้าไปแล้ว จะขวางท่านอ๋องได้อย่างไร?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่อยากขวาง ก็เหมือนกับที่นางกำนัลสองคนนี้พูด ให้ท่านอ๋องกับพระชายาใช้เวลาอยู่ร่วมกันก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอมั่วอีเปลี่ยนทิศทางการเดิน สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีเลสนัย เดินออกไปทางนอกตำหนักฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อไปทางสระน้ำ ที่ปากของหงส์ท
เยือกเย็นมาก สงบมาก ลักษณะเช่นนี้ขนาดลูกคุณหนูตระกูลใหญ่ทั่วไปยังทำไม่ได้เลยอีกทั้งการปฏิบัติตัวกับคนอื่นก็โอบอ้อมอารี มีมารยาท ใส่ใจแต่เรื่องพวกนี้ นางคิดว่าซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถเป็นฐานะพระชายาอ๋องหลีได้ แถมยังคู่ควรกับอ๋องหลีอีกด้วยอีกอย่างดูจากท่าทางของอ๋องหลีเมื่อคืนนี้ เกรงว่าเขาก็คงมีใจให้กับซูเนี่ยนเหมือนกันสิ่งที่แม่นมไป๋คิดอยู่ในใจ ซูเนี่ยนไม่ได้รู้เลยสักนิด นางคิดเพียงอยากจะรีบอาบน้ำ ตอนนี้นางเหม็นตัวเองจะตายอยู่แล้วแม่นมไป๋เดินนำซูเนี่ยนมาจนถึงบ่อน้ำร้อนนี่คือบ่อน้ำร้อนที่จักรพรรดิเต๋อคังสร้างให้ไทฮองไทเฮาโดยเฉพาะ ภายในยังใส่สมุนไพรจีนไว้มากมาย มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากซูเนี่ยนเป็นหมอย่อมต้องดมรู้อยู่แล้วภายในบ่อน้ำร้อนมีควันพวยพุ่ง ขมุกขมัว บ่อน้ำร้อนใหญ่มาก มีปุ่มกดรูปหงส์สยายปีกสร้างไว้โดยรอบ แม่นมไป๋กดปุ่มรูปหงส์อันหนึ่ง ก็เห็นว่าน้ำในบ่อถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็วไม่ใช่บ่อสมุนไพรอีกต่อไป แต่กลายเป็นบ่อน้ำนมสีขาวที่มีกลีบดอกท้อลอยอยู่ด้านบนแทนอุณหภูมิน้ำที่อุ่นทำให้กลิ่นหอมจากกลีบดอกท้อลอยโชยขึ้นมาในอากาศ ซูเนี่ยนสูดหายใจเข้าไปลึกๆ รู้สึกว่าหอมมากสมแ