“จดหมาย..จากเมืองหลวงอย่างนั้นหรือ?”บอกตามตรงว่าเขารอคอยจนเลิกรอคอยไปนานมากๆแล้ว ว่าจะมีจดหมายสักฉบับที่ถูกส่งมาจากเมืองหลวงมาหาเขารอคอยจนเหนื่อยล้าไปหมดดยุคแมทสันยื่นมือไปรับจดหมายที่ข้ารับใช้กำลังส่งให้เขา จดหมายฉบับนี้ประทับตราด้วยเครื่องหมายของตระกูลฮาสคลาว.. นั่นทำให้ท่านดยุคขมวดคิ้วเล็กน้อยเท่าที่จำได้เขาและดยุคแห่งฮาสคลาวไม่เคยสนทนากันมาก่อน ไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัวและไม่เคยพบเจอหน้ากัน แล้วทำไมดยุคแห่งฮาสคลาวถึงส่งจดหมายมาหาเขากันนะ“ท่านพ่อคะ..ท่านพ่อคงจะแปลกใจมากแน่ๆ ที่ได้รับจดหมายจากฮาสคลาวแทนที่จะเป็นซารังต์ อิไลเสียชีวิตแล้วค่ะ เขาตายไปพร้อมกับทอดทิ้งลูกเอาไว้ที่คฤหาสน์ซารังต์ ลูกไม่รู้ว่าจะอธิบายเช่นไรดี การที่ลูกส่งจดหมายฉบับนี้มาให้ท่านพ่อลูกไม่ได้ต้องการความช่วยเหลืออะไรเลย ชีวิตของลูกมันเลยช่วงเวลาเลวร้ายมามากแล้วในตอนนี้ลูกกำลังจะแต่งงานกับท่าน ดยุคฮาสคลาวค่ะ ลูกเข้าใจอย่างยิ่งหากว่าท่านพ่อจะมาร่วมงานไม่ได้แต่ถึงอย่างนั้นลูกก็ยังอยากจะบอกกล่าวท่านพ่ออยู่ดี ลูกขอโทษที่ไม่เชื่อฟังคำของท่านเกี่ยวกับอิไล ขอโทษที่ตัดสินใจตามอารมณ์ตัวเองมากไป วันนี้ลูกได้รับ
“ดูนั่นสิ ช่างเป็นความงดงามที่ชวนให้รู้สึกถึงความประหม่าเลยใช่ไหม..เลดี้แมทสันผู้นั้นงดงามมากจริงๆ ว่าไหมอิไล”เมื่อสหายรักของเขาชี้นิ้วไปที่สตรีผู้หนึ่งซึ่งกำลังเดินเข้ามาร่วมงานเลี้ยง ใบหน้านั้นของนางทำให้เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในภวังค์ที่ไร้ซึ่งทางออก และไม่ใช่แค่เขาเพียงผู้เดียวเท่านั้น บุรุษผู้อื่นก็อยู่ในสภาพที่ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก ทุกคนต่างลุ่มหลงอยู่กับความงดงามที่ราวกับไม่มีจริงของเลดี้แมทสันด้วยกันทั้งนั้น“ข้าได้ข่าวมาว่านางไม่เคยออกงานสังคมมาก่อน เพราะแบบนั้นใครก็ตามที่เข้าถึงตัวนางก่อนย่อมทำให้นางสนใจได้ไม่ยาก สตรีงดงามที่ไร้เดียงสา..อีกทั้งบ้านของดยุคแมทสันก็ร่ำรวยมากทีเดียว ผู้ที่สามารถพิชิตใจสาวงามจะได้ทั้งสตรีที่งดงามที่สุดในจักรวรรดิและได้ตกถังข้าวสารด้วยล่ะ นั่นมันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มเลยว่าไหม..”คำกล่าวของชายผู้นั้นทำให้อิไลรู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก สตรีผู้นั้น..เลดี้แมทสันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังตกหลุมรักล่ะ เขาตกหลุมรักนางเพียงแค่เห็นหน้าและในวันนี้เขาต้องได้เต้นรำกับนางคนแรกให้ได้เลย“อิไลครับ อิไล ซารังต์”ตระกูลเคาน์จนๆ ของเขาอาจทำให้หัวใจของส
มีเรื่องบางเรื่องที่เข้าใจไม่ได้ในระยะเวลาอันสั้น อย่างเช่นเรื่องที่ท่านพ่อของโรวีนาตอบกลับจดหมายกลับมา..ท่านตอบว่าจะเข้าร่วมงานหมั้นของฉันและจะเข้าร่วมงานแต่งด้วย อีกทั้งท่านส่งเอกสารแนบมานั่นคือการฝากเงินจำนวนห้าร้อยเหรียญที่ถูกฝากใส่บัญชีของฉันทุกเดือนเพื่อเป็นของขวัญการแต่งงาน..ว่าแต่ว่าบัญชีเงินฝากของฉันนั้นมันอยู่ที่ไหนกันล่ะ? โรวีนามีบัญชีเงินฝากด้วยงั้นเรอะฉันควรเริ่มต้นเช้าของวันด้วยการเดินทางไปที่ธนาคารสินะ“สีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะครับ มีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่า?”นับจากวันนั้น..วันที่ฉันกล่อมท่านดยุคให้นอนหลับด้วยการเล่านิทาน จากวันนั้นเป็นต้นมาเขาก็เข้ามานอนในห้องของฉันตลอดเลย ถึงแม้ว่าจะแค่นอนเฉยๆ ก็เถอะแต่มันเหมือนกับว่าเราสนิทสนมกับอีกขั้นหนึ่ง..“เมื่อวานฉันได้อ่านจดหมายที่ท่านพ่อส่งมาค่ะ แล้วมีเรื่องไม่เข้าใจอยู่เรื่องหนึ่งคือบัญชีเงินฝากของฉันมันอยู่ที่ไหนกัน? ท่านพ่อน่าจะส่งเงินมาให้ทุกเดือนแต่ว่าฉันไม่เคยได้รับเงินในส่วนนั้นเลย..”ฟลอยด์ลุกขึ้นจากเตียงนอน เขาเสยผมตัวเองไปด้านหลัง ก่อนจะจับข้อมือของโรวีนาเอาไว้ เธอกำลังสวมชุดเดรสอยู่และมีปัญหากับกระดุมที่อยู่ด้านหลังของ
“เช่นนั้นก็ไม่ต้องกลับไปใช้ชีวิตคนเดียวสิ..ฮาสคลาวต้องการดัชเชสและข้าต้องการเจ้า..มาเถิดโรวี่ ในยามนี้เจ้าไม่ควรวิตกกังวลเรื่องของเรามากเกินไป แต่จงวิตกกังวลกับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เถอะนะ”ฟลอยด์เดินลงจากรถม้าก่อนที่เขาจะยื่นมือเพื่อให้โรวีนาจับมือของเขาแล้วเดินลงจากรถม้ามาด้วยกัน ที่นี่คือธนาคารที่ใหญ่มากที่สุดในจักรวรรดิ แน่นอนว่านี่ก็คือหนึ่งในกิจการของตระกูลเวลลิงตัน ความร่ำรวยของเจโรมนั้นมันน่าหมั่นไส้มากทีเดียว แต่ฮาสคลาวก็ไม่น้อยหน้า จริงอยู่ที่เวลลิงตันนั้นร่ำรวยจากการเป็นเจ้าของธนาคารและเป็นเจ้าของโรงพยาบาลแต่ในเรื่องการเดินทางและกิจการต่างๆ ทั้งเรื่องรถไฟ เรือสำเภา กิจการร้านค้าต่างๆ ในย่านการค้าล้วนแล้วแต่เป็นของฮาสคลาวทั้งนั้น ฟลอยด์ไม่เคยคิดว่าตัวเองด้อยกว่าเจโรมเลยในเรื่องของความร่ำรวย อีกทั้งเรื่องของฐานะทางสังคม เขาก็เหนือมากกว่า..เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกังวลใจเกี่ยวกับเจโรมเลย“ข้าต้องการตรวจดูบัญชีที่มีชื่อของตัวเองค่ะ”พนักงานธนาคารมองหน้าของโรวีนาสลับกับมองหน้าของท่านดยุคฮาสคลาว“รอสักครู่นะครับเลดี้โรวีนา”“ไม่ใช่เลดี้ครับ นี่คือดัชเชสฮาสคล
อิไลยังไม่ตาย..ฉันลังเลเล็กน้อยที่จะบอกเล่าเรื่องนี้ให้เมลลี่ฟัง แต่ว่า..หากหมอนั่นยังไม่ตายอย่างที่ท่านดยุคบอก เขาจะต้องมาที่นี่เพื่อมาขัดขวางงานแต่งของเธออย่างแน่นอนเพราะแบบนั้น..ต้องบอกเมลลี่ก่อน ให้เมลลี่รู้จากปากของฉันน่าจะดีมากกว่าให้นางรับรู้ในตอนที่อิไลปรากฏตัวขึ้นมาฉันมองหน้าของฟลอยด์เพื่อถามความเห็นจากเขา“บอกลูกไปเถอะที่รัก ไม่มีเรื่องอะไรต้องเป็นกังวล..คุณอยู่กับเมลลี่ไปก่อน เดี๋ยวผมจะพาคาเรนไปเตรียมตัว องค์จักรพรรดิใกล้มาถึงแล้ว..คุณเองก็จะต้องเตรียมตัวเหมือนกัน”นั่นสินะ..ฉันพยักหน้าให้ฟลอยด์ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเมลลี่แล้วจับมือของลูกสาวเอาไว้“แม่จะพาลูกไปเปลี่ยนชุดนะ วันนี้และวันพรุ่งนี้ลูกอาจจะเหนื่อยหน่อยเพราะจะมีแขกมาที่นี่เยอะมากทีเดียว.."เมลลี่เงยหน้าขึ้นเพื่อมองหน้าของท่านแม่ ใบหน้าของท่านแม่ราวกับกำลังฉายแววความไม่มั่นใจออกมาเด็กน้อยจับมือของท่านแม่ผู้งดงามเอาไว้“ท่านแม่..กังวลเหรอคะ”กังวลสิแต่ไม่ใช่เรื่องงานหมั้น..“เมลลี่..แม่มีเรื่องจะบอกลูก มันอาจจะทำใจรับได้ยากนิดหน่อย..พ่อของลูกยังไม่ตายและเขาอาจจะมาที่นี่ มาขัดขวางงานแต่งของแม่และท่านดยุค..”รอยยิ้มขอ
องค์หญิงริโอนาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเมื่อพระองค์เดินทางมาถึงคฤหาสน์ฮาสคลาว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางจะต้องเข้าร่วมงานของบุรุษที่นางหลงรักแน่นอนว่าความรู้สึกนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ครั้งแรกนางเสียใจ ร่ำไห้ โศกเศร้าที่ตัวเองพ่ายแพ้สตรีที่มีนามว่าเบลินดา แต่ทว่าในครั้งนี้บนใบหน้าขององค์หญิงนั้นกลับไม่มีร่องรอยของความเสียใจแม้แต่น้อย เพราะว่าอีกไม่นาน นางมั่นใจว่าท่านพี่ฟลอยด์และสตรีผู้นั้นจะต้องหย่ากันอีกแน่ๆจริงอยู่ที่นางเสียกำลังสำคัญอย่างวิเวียนไป แต่นั่นก็ทำให้นางล่วงรู้ว่าอารมณ์ในตอนนี้ของท่านพี่ฟลอยด์นั้นไม่คงที่เท่านั้น เขากำลังสั่นไหวและต้องการ..ใครสักคนเพื่อปลอบใจเธอนี่แหละที่จะเป็นสตรีผู้นั้นให้เขาเอง..“นี่คืองานที่ทุกคนควรแสดงความยินดี เพราะแบบนั้นแม่จึงอยากจะเน้นย้ำกับลูกอีกสักครั้ง แม่หวังอย่างยิ่งว่าลูกจะไม่สร้างปัญหาหรือว่าทำเรื่องน่าขายหน้าให้แก่ราชวงศ์อีกนะ..ริโอนา”จักรพรรดินีกล่าวเน้นย้ำกับองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียวของจักรวรรดิ พระนางรู้ดีถึงความร้ายกาจของริโอน่า ผู้ที่หล่อหลอมให้องค์หญิงเป็นเช่นนี้จะเป็นใครอีกเล่า หากมิใช่องค์จักรพรรดิ“กล่าวอันใดเช่นนั้นชาล็อต องค์หญ
“อาขอแสดงความยินดีด้วยนะ กับเรื่องงานแต่งของหลาน..ขอให้หลานมีความสุข มากๆ”จักรพรรดินีกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม พระนางจับมือของฟลอยด์เอาไว้“เป็นพระมหากรุณาธิคุณแล้วพ่ะย่ะค่ะ การที่เสด็จอาเดินทางมาที่นี่เพื่ออวยพรหลานก็นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดในชีวิตของหลานแล้ว”ใจจริงจักรพรรดินีชาล็อตนั้นอยากให้ ฟลอยด์มีความสุขและพบเจอสตรีที่รักเขาจริงๆดูๆ ไปแล้วโรวีนาเองก็ถือเป็นสตรีที่ใช้ได้อยู่เหมือนกัน นางอาจจะทำให้ฟลอยด์มีความสุขก็เป็นได้“ทำไมถึงเลื่อนงานแต่งเข้ามาล่ะ ตามกำหนดเดิมคืออีกสองเดือนไม่ใช่รึไง? แล้วทำไมถึงเลื่อนเข้ามาเป็นอีกสองสัปดาห์..”ฟลอยด์ส่งยิ้มให้กับองค์จักรพรรดิ มีหลายสาเหตุที่เขาเลื่อนงานแต่งให้เข้ามาเร็วขึ้นจากกำหนดเดิม ทั้งเรื่องขององค์หญิงที่ทำให้โรวีนาอาจจะไม่สบายใจ และเรื่องที่ว่าอิไลยังมีชีวิตอยู่ด้วย..มีหลายเรื่องที่ทำให้เขากังวลใจเมื่อนึกถึงเพราะอย่างนั้นเขาถึงได้เลื่อนงานแต่งเข้ามาให้เร็วมากที่สุด เพื่อที่จะไม่ให้มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นมา“เพราะว่าหลานอยากจะใช้ชีวิตเป็นสามีและภรรยาที่ถูกต้องกับโรวีนาพ่ะย่ะค่ะ นางคือสตรีที่ทำให้หลานอยากจะใช้ชีวิตด้วย..ตลอดไป”เ
มีคำถามมากมายก่อตัวขึ้นมาในใจ ว่าคนเรานั้นจะสามารถตกหลุมรักคนคนหนึ่งได้มากมายขนาดไหนกันนะ คำถามนั้นฉันกำลังเฝ้าถามตัวเองในยามนี้ว่าคำตอบของคำถามนั้นมันเป็นอย่างไรกันแน่นะ ฉันกำลังตกหลุมรักชายที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้านี้อีกครั้งหนึ่งโดยที่ตัวเองนั้นไม่มีหนทางใดๆ มาโต้แย้งหรือว่าตอบโต้เขาเลย ฉันได้แต่ยินยอมจมลงไปในห้วงแห่งความหลงใหลอันไร้ที่สิ้นสุดนี้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีทางขัดขืน เขาเดินเข้ามาใกล้เธอก่อนจะจับเธอให้หันหลังมาให้เขา ปลายนิ้วของฟลอยด์กำลังถอดกระดุมเสื้อที่ด้านหลังของเธออย่างแผ่วเบามากที่สุด โรวีนาในยามที่เธอเปียกปอนไปด้วยน้ำ นั้นดูน่าหลงใหลในแบบที่เขาละสายตาออกไปจากใบหน้านั้นไม่ได้เลย เขาได้แต่เทิดทูนและบูชาเธอในใจ พร้อมกับอุ้มเธอวิ่งขึ้นมาในห้องนี้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้มีใครหน้าไหนมองเห็นเธอในยามที่เธอเย้ายวนใจมากที่สุด ใจจริงเขาอยากจะสั่งให้ข้ารับใช้ทุกคนหลับตาลงในขณะที่เขาพาโรวีนาก้าวเดินผ่านไป เขาไม่อยากให้ใครจดจำใบหน้านี้เอาไว้..อยากเก็บซ่อนเพื่อไม่ให้ใครหน้าไหนมองเห็นเธอ เขาคงบ้าไปแล้ว..ฟลอยด์คิดว่าตัวเขาคงบ้าไปแล้วแน่ๆ กับอา
ดวงตาของริโอน่าสั่นไหวพอๆ กับมือทั้งสองข้างที่สั่นเทาไม่หยุด เธอยืนอยู่ที่ด้านหน้าห้องทำงานของเสด็จพ่อ ทั้งคู่มีปากเสียงที่รุนแรงมากเสียจนเธอที่ยืนอยู่ด้านนอกได้ยินชัดเจนทั้งหมดเสด็จแม่กำลังจะหย่ากับเสด็จพ่ออย่างนั้นหรือ? ต้นเหตุมาจากเธอเนี่ยนะ?ขณะที่ใบหน้าของริโอนากำลังชา ประตูห้องทำงานของเสด็จพ่อก็เปิดออก เสด็จแม่เดินออกมาและสายพระเนตรของพระองค์กำลังจ้องมองหน้าเธออยู่“ได้ยินหมดแล้วอย่างนั้นสินะ หากว่าครั้งนี้ลูกไม่ยินยอมรามือ แม่จะออกไปจากที่นี่จริงๆ นะริโอนา ฟลอยด์ควรจะมีชีวิตดีๆ ได้แล้ว ที่ผ่านมาลูกยังทรมานเขาไม่พอรึไง?”เธออ้าปากค้างก่อนจะหัวเราะออกมา“ลูกนั้นหรือทรมานท่านพี่ฟลอยด์ ลูกทำไปเพราะความรักนะเพคะเสด็จแม่ หากไม่ให้ลูกรักท่านพี่ เช่นนั้นเสด็จแม่ควรจะเอ่ยห้ามตั้งแต่แรกสิ ทรงทำท่าทางเห็นดีเห็นงามด้วยทำไม ในตอนที่เสด็จพ่อเลือกฟลอยด์มาเป็นสามีของลูกน่ะ..”จักรพรรดินีชาล็อตแค่นหัวเราะ“เช่นนั้นแม่จะทำให้ลูกรู้สึกถึง..ความรักที่แม่มีต่อลูกบ้างดีไหมริโอนา แม่จะส่งอัศวินของพระราชวังเข้าไปในห้องนอนของลูก ให้เขาหยิบจับและพยายามขโมยข้าวของส่วนตัวขององค์หญิงไปขายที่งานประมูล หลัง
“เจ้าควรจะต้องขอบคุณที่ข้าหาเจ้าเจอก่อนคนของฮาสคลาวนะ..เอาล่ะเคาน์ซารังต์ เรามาพูดคุยกันสักหน่อยเป็นไง”อิไลไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเคาน์เวลลิงตันต้องการอะไรจากเขากันแน่ เขากำลังนั่งรถม้าเพื่อเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงแต่กลับถูกชายผู้นี้จับตัวมาอย่างเสียมารยาท“ที่ท่านจับตัวข้าและภรรยามา เพราะว่าท่านต้องการพูดคุยกับข้าอย่างนั้นหรือครับ? อันที่จริงท่านควรจะส่งบัตรเชิญไปให้ข้าน่าจะดีกว่าการกระทำที่ไร้มารยาทเช่นนี้”เจโรมหรี่ตามองหน้าของอิไล เขาไม่ชอบพูดคุยกับคนโง่เท่าไหร่นักเพราะว่ามันเปลืองเวลา แต่ทว่าอิไลนั้นอาจจะสามารถเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่เขาจะสามารถนำไปวางเอาไว้ที่ด้านหน้าคฤหาสน์ฮาสคลาวได้“เจ้าจะตายอิไล..ตอนนี้ทั้งทหารของ ฮาสคลาวและทหารของแมทสันกำลังไล่ล่าตัวเจ้าอย่างบ้าคลั่ง เพื่อที่พวกเขาจะฆ่าเจ้าปิดปาก..เจ้าจะไม่มีปากได้พูดอวดดีเช่นนี้อีกเลยด้วยซ้ำ หากว่าข้าไม่พาเจ้ามาที่นี่..ไม่ต้องขอบคุณก็ได้แค่เค้นความฉลาดของเจ้าออกมาหน่อย เพราะเรื่องที่ข้าจะพูดออกมานี้มันจำเป็นต้องใช้สมองนิดหน่อย..”อิไลถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินที่เจโรมกล่าว หมายความว่าท่าน ดยุคแมทสันรู้แล้วสินะว่าเขาเป็นคนเอาเงิ
บางสิ่งในอกรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ค่อยๆแผ่ซ่าน ฉันมองแผ่นหลังของเขาในขณะที่ฟลอยด์กำลังกอบกุมมือของฉันเอาไว้เพื่อพาฉันเดินกลับเข้าไปในงาน เขาไม่พูดอะไรแต่ท่าทีที่เขาแสดงออกมานั้นมันเหมือนกับว่าเขาไม่พอใจที่ฉันอยู่กับท่านลอร์ดแห่งเวนสันหรือว่าฟลอยด์จะหึงงั้นเหรอ? ไหนบอกว่าเราไม่ควรรักกันยังไงล่ะ แล้วทำไมเขาถึงได้แสดงท่าทีที่ไม่ปกติเช่นนี้ออกมากันนะ หรือว่าเพราะเราอยู่ในฐานะของสามี ภรรยา เขาจึงต้องการความสมจริงอย่างงั้นเหรอ?“อย่าออกไป..คุยกับบุรุษอื่นโดยที่ไม่มีผมอยู่ตรงนั้นอีกนะครับ..ผมไม่ใช่คนใจกว้างอะไร อีกทั้งอาจจะมีข่าวลือแปลกๆ เกิดขึ้นมาก็ได้..ชื่อเสียงของฮาสคลาวมันคือสิ่งที่คุณเองควรจะรักษาเอาไว้”บ้าชะมัด นี่เขาโมโหจนพูดอะไรออกมากันเนี่ย เขาแค่ไม่อยากให้เธอไปคุยกับบุรุษอื่น ไม่ว่าจะที่ไหนหรือว่าเมื่อไหร่ เขาไม่อยากให้โรวีนาห่างหายไปจากสายตาของเขาเลย..อ่า..ที่แท้ท่านดยุคก็ไม่ต้องการให้ชื่อเสียงของฮาสคลาวเสื่อเสียอย่างนั้นเองสินะ เป็นเธอเองที่คิดมากเกินไป ดันไปเผลอเข้าข้างตัวเองซะได้“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะไม่ทำให้ชื่อเสียงของฮาสคลาวเสื่อมเสียอย่างแน่นอน..ขอโทษด้วยนะคะ"ฟลอยด์ไม่
ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะได้โอกาสมาพูดคุยกับพี่ชายของเลดี้เบลินดา ภรรยาเก่าของท่านดยุคและเป็นมารดาของคาเรน“ข้ารู้ครับว่าตัวเองกำลังรบกวนท่านดัชเชส แต่ว่าเบลินดาสุขภาพแย่มาตั้งแต่ตอนที่นางเป็นเด็ก และมันแย่ลงหนักมากยิ่งขึ้นเมื่อนางคลอดคาเรนออกมา เบลินดานั้นรักลูกชายของนางจากใจจริงๆ แต่ทว่าท่านดยุคกลับไม่ยินยอมให้เบลินดาและคาเรนได้พบหน้ากัน น้องสาวของข้าเก็บตัวเงียบที่คฤหาสน์ นางไม่ออกงานมานานมากๆ แล้วครับ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะตั้งใจจัดงานขึ้นมาเพื่อหักหน้าท่านดัชเชส แต่เบลินดาไม่ได้คิดร้ายต่อท่านอย่างแน่นอน ช่วยไปพบเจอนางสักครั้งได้ไหมครับ ช่วยรับฟังคำขอของน้องสาวข้าสักครั้ง..ถือซะว่าเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็ได้..”เราอยู่ในสวนด้านหน้าของคฤหาสน์ฮาสคลาว เพราะท่านลอร์ดดูเหมือนว่าจะต้องการพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว และเธอเองก็พอเดาได้ว่าเขาต้องการร้องขอเรื่องใดกับเธอ คราแรกโรวีนาคิดว่าท่านลอร์ดจะร้องขอให้เธอพาคาเรนไปพบเบลินดาซะอีก แต่ทว่ามันเหนือการคาดหมายเล็กน้อยตรงที่สตรีผู้นั้นร้องขอเพื่อให้ได้พบเธอ..“เรื่องนั้น..มันไม่นับว่าเป็นการรบกวนอะไรเลยค่ะ เพียงแต่ท่านล
ถึงแม้ว่าเบลินดาจะอยากไปที่งานเลี้ยงของตระกูลฮาสคลาวมากแค่ไหนก็ตามที แต่ทว่าการไปร่วมงานเลี้ยงของสามีเก่าที่กำลังจะแต่งงานกับภรรยาใหม่นั้นดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก เธอนั่งลงบนโซฟาก่อนจะยกมือขึ้นมาภาวนาด้วยมือที่สั่นเทา“ท่านพี่..ขัดขวางไม่สำเร็จอย่างนั้นหรือคะ ทำไมกำหนดการแต่งงานของท่านดยุคและเคาน์เตสซารังต์ยังคงอยู่เหมือนเดิม..”น้ำเสียงที่เบลินดาเอ่ยถามพี่ชายของเธอนั้นมันสั่นเทาไปหมด ในยามนี้บาทีอัสกำลังมองหน้าน้องสาวของเขาด้วยแววตารู้สึกผิดก่อนหน้านี้เขาได้มีการพูดคุยกับท่านเคาน์เวลลิงตันเรื่องแผนการที่จะทำให้เคาน์เตสซารังต์และดยุคฮาสคลาวยกเลิกงานแต่ง คือให้เขาไปลักพาตัวของเคาน์เตสซารังต์มา หลังจากนั้นให้เขาแสร้งทำเป็นว่าตัวเองและสตรีผู้นั้นมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน เพียงแค่ได้ฟังแผนการของท่านเคาน์ก็ทำให้เขารู้สึกผิดในแบบที่แทบรับตัวเองไม่ได้“ลินดา..เจ้าและท่านดยุคหย่ากันไปตั้งนานแล้วนะ เรื่องราวความรักของเจ้าและท่านดยุคมันจบลงไปนานหลายปีแล้ว เจ้าไม่ควร..ยึดติดอะไรขนาดนั้น..ปล่อยวางมันบางเถอะน้องรัก เจ้ายังมีพี่อยู่นะ..”หยาดน้ำตาของเบลินดารินไหลลงมาอาบแก้ม เธอมองพี่ชายด้ว
ทั้งๆ ที่ก่อนที่เขาจะเข้ามาในห้องนี้ ท่านดยุคและโรวีนากำลังพูดคุยกันอย่างออกรสแท้ๆ แต่ทว่าเมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องนี้บรรยากาศในห้องกลับแตกต่างออกไป“ขอบคุณท่านดยุคมากนะครับ ที่เดินทางมาร่วมงานที่น่ายินดีของผมและโรวีนา..ท่านเดินทางมาไกล พักให้หายเหนื่อยหลายๆ เดือนก่อนก็ได้ครับแล้วค่อยเดินทางกลับ..ทางฮาสคลาวยินดีต้อนรับท่านอยู่แล้วครับ ทั้งคาเรนและเมลลี่เองก็คงจะดีใจมากแน่ๆ ที่ท่านตาของพวกเขาพักอยู่ที่นี่นานหน่อย”คราแรกดยุคแมทสันตั้งใจว่าเขาจะแกล้งทำหน้าตึงใส่ว่าที่ลูกเขยสักหน่อย แต่ทว่าดยุคฮาสคลาวกลับกล่าวในสิ่งที่เขาอยากได้ยินอยู่พอดี“เรื่องนั้นขอบคุณดยุคฮาสคลาวมากนะครับ..ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถขัดขวางงานแต่งนี้ของโรวีนาได้เพราะว่าองค์จักรพรรดิได้ลงนามในหนังสือสมรสเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่อยากให้โรวี่เลือกสามีผิดเป็นครั้งที่สองหรอกนะครับ..”ฟลอยด์ยื่นมือไปจับมือของโรวีนาเอาไว้ เขาส่งยิ้มให้เธอก่อนจะมองหน้าท่านดยุคด้วยแววตาที่ไร้ซึ่งความหวั่นเกรง“เรื่องนั้นท่านดยุคแมทสันไม่ต้องเป็นกังวลเพราะว่าผมจะดูแลโรวีนาให้ดีที่สุดเท่าที่บุรุษผู้หนึ่งจะสามารถกระทำได้..ไม่มีอะไรจะต้องเป
ดยุคแมทสันวางคาเรนลงบนโซฟา มือของเขานั้นจับมือของเมลลี่และคาเรนเอาไว้อย่างแนบแน่นแต่กลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยนเขาส่งกล่องของขวัญเล็กๆ ให้แก่เมลลี่และคาเรนคนละหนึ่งกล่อง“เพราะว่าตาไม่เคยพบเจอหลานๆ มาก่อน เพราะแบบนั้นตาจึงไม่รู้ว่าหลานๆ ชอบอะไร นี่คือของขวัญแรกพบชิ้นแรกที่ตาจะให้หลานทั้งสองคนนะ”เขาสืบเรื่องของบุตรชายท่านดยุคมาล่วงหน้า และก็พบว่าคาเรนเป็นเด็กน่าสงสารมากจริงๆ เด็กคนนี้ไม่มีท่านตาหรือว่าท่านยายมาก่อน และถึงแม้ว่าเราทั้งสองคนจะไม่ได้มีสายเลือดใดๆ ร่วมกันเลยก็ตาม แต่โรวีนาบอกกล่าวกับเขาผ่านทางจดหมายว่านางยินดีรับคาเรนเป็นลูกชาย ด้วยเหตุนั้นเองไม่ว่าเราจะมีสายเลือดเดียวกันหรือว่าไม่มี เขาก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะรับคาเรนเป็นหลานชายคาเรนไม่เคยได้รับของขวัญจากคนอื่นมาก่อนเลย เขามองหน้าของท่านพี่เมลลี่ก็พบว่าท่านพี่กำลังยิ้มแย้มด้วยความดีใจ พร้อมกับลูบหลังของเขาเบาๆ“เรามีท่านตาแล้วนะคาเรน..มาเปิดกล่องของขวัญของท่านตาออกพร้อมกันเลยดีไหม?”คาเรนพยักหน้า หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาแบบไม่เคยเป็นมาก่อนเลย เขารู้มาพักหนึ่งแล้วว่าการมีท่านแม่และพี่สาวมันดีมากๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะสามารถท
คำถามนั้นของเขา พาให้รู้สึกสั่นไหวจนควบคุมสีหน้าไม่ได้เลย เธอชอบที่เขาเป็นคนทำ และชอบท่านี้มากทีเดียวเพราะมันทำให้เธอมองเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน.. “ก็ต้องชอบ..ที่ท่านเป็นคนทำอยู่แล้วค่ะ” เมื่อได้คำตอบตามที่หัวใจต้องการจะได้ยิน ฟลอยด์ก็แสยะยิ้มออกมา เขาดึงปลายนิ้วที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานสีใสออกมา ก่อนจะกดแทรกแก่นกายของเขาเข้าไปด้านในอย่างช้าๆ ยามที่กดแทรกส่วนนั้นเข้าไป ช่องทางรักของเธอที่ทั้งเปียกเยิ้มและลื่นก็ทำให้มันเข้าไปด้านในได้อย่างง่ายๆ เขากัดกรามแน่ เอวสอบแอ่นตอกอันแรงๆ หลายครั้งติดๆ กันราวกับเขากำลังเก็บเกี่ยวความรู้สึกที่แสนงดงามนั้นเข้ามาในจิตใต้สำนึกและความทรงจำของเขา ปลายเท้าพลันเขย่งลอยขึ้นมา เมื่อเขากระทำรุนแรงในแบบที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว “อะ..อ๊า!..ดะ..เดี๋ยวก่อนค่ะ อื้อ!..ฟลอยด์..” ถึงแม้ว่าเธอจะร้องห้ามแต่ร่างกายกับตอบสนองแบบตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง ความรุนแรงพวกนั้นของเขาทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความสุขสมที่เหนือคำบรรยาย เธอชื่นชอบในทุกอย่างที่เป็นฟลอยด์ ไม่ว่าเขาจะทำรุนแรงมากแค่ไหนมันก็กลายเป็นความสุขให้เธออยู่ดี เขายกขาของเธอขึ้นมา มือ
มีคำถามมากมายก่อตัวขึ้นมาในใจ ว่าคนเรานั้นจะสามารถตกหลุมรักคนคนหนึ่งได้มากมายขนาดไหนกันนะ คำถามนั้นฉันกำลังเฝ้าถามตัวเองในยามนี้ว่าคำตอบของคำถามนั้นมันเป็นอย่างไรกันแน่นะ ฉันกำลังตกหลุมรักชายที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้านี้อีกครั้งหนึ่งโดยที่ตัวเองนั้นไม่มีหนทางใดๆ มาโต้แย้งหรือว่าตอบโต้เขาเลย ฉันได้แต่ยินยอมจมลงไปในห้วงแห่งความหลงใหลอันไร้ที่สิ้นสุดนี้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีทางขัดขืน เขาเดินเข้ามาใกล้เธอก่อนจะจับเธอให้หันหลังมาให้เขา ปลายนิ้วของฟลอยด์กำลังถอดกระดุมเสื้อที่ด้านหลังของเธออย่างแผ่วเบามากที่สุด โรวีนาในยามที่เธอเปียกปอนไปด้วยน้ำ นั้นดูน่าหลงใหลในแบบที่เขาละสายตาออกไปจากใบหน้านั้นไม่ได้เลย เขาได้แต่เทิดทูนและบูชาเธอในใจ พร้อมกับอุ้มเธอวิ่งขึ้นมาในห้องนี้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้มีใครหน้าไหนมองเห็นเธอในยามที่เธอเย้ายวนใจมากที่สุด ใจจริงเขาอยากจะสั่งให้ข้ารับใช้ทุกคนหลับตาลงในขณะที่เขาพาโรวีนาก้าวเดินผ่านไป เขาไม่อยากให้ใครจดจำใบหน้านี้เอาไว้..อยากเก็บซ่อนเพื่อไม่ให้ใครหน้าไหนมองเห็นเธอ เขาคงบ้าไปแล้ว..ฟลอยด์คิดว่าตัวเขาคงบ้าไปแล้วแน่ๆ กับอา