หากไม่ปกปิดไว้สักหน่อย จะส่งผลต่อรูปลักษณ์ของเจ้าสิบเอาได้ดอกบัวที่แกะสลักนี้อยู่บนหัว ปกปิดรอยแผลเป็นได้พอดีซึ่งดูมีเอกลักษณ์อยู่บ้าง“พี่สะใภ้เจ็ด ท่านว่าดูดีหรือไม่?” ตงฟางอิงคว้ามือนางไว้“ดูดีทีเดียว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จับมือเล็ก ๆ ของเขาแน่น และเดินไปข้างหน้า “พี่รองจื่อเล่า? เขาเป็นอย่างไรบ้าง?
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้ยินเสียงของไป๋หลินยวน ร่างพลันสั่นสะท้านไม่รู้ตัวนางตบไหล่ตงฟางอิงและเด็กน้อย “พวกเจ้าสองคนไปเล่นกันเถอะ”“เฮะเฮะ พี่สะใภ้เจ็ด ท่านอยากจะอยู่กับอาจารย์ตามลำพังหรือ?” ตงฟางอิงไพร่มือไว้ข้างหลังเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อย “ท่านอยากคบชู้?”“เหลวไหลอันใด?”“หากพี่เจ็ดรู้เรื่องนี้เข้าจะต้องโก
วงจรสมองของคนวิปริตคนนี้แตกต่างจากคนอื่น ๆโดยเฉพาะทางด้านการใช้ยาพิษ เป็นอัจฉริยะท่ามกลางอัจฉริยะทั้งหลาย นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยหากไม่ใช่เขาเป็นคนให้ยาพิษแก่นางด้วยมือตัวเอง นางก็คงไม่กล้าใช้เรื่องของอวี้เอ๋อร์ ไม่อาจเกิดข้อผิดพลาดได้แม้แต่น้อยในที่สุดฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็เดินเข้าไปหาเขา ก่อนจะ
“ไป๋หลินยวน ข้าเตือนท่านแล้วนะ ถ้าท่านกล้าทำอะไรกับข้า ข้าจะตายตรงหน้าท่านทันที ท่านอย่าคิดว่าท่านเป็นคนเดียวในโลกที่สามารถใช้พิษเป็นนะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตำหนิอย่างรุนแรง ยาพิษของนางอาจไม่มีผลกับไป๋หลินยวนทว่า การฆ่าตัวตายก็เพียงพอแล้ว“ข้าชอบอารมณ์ฉุนเฉียวของท่านมาก” ไป๋หลินยวนหัวเราะเบา ๆ“ข้าเกลี
“อะไรนะ!”“เมื่อเร็ว ๆ นี้ท่านไปพบเจออะไรมา?” ไป๋หลินยวนเคาะที่วางแขนของเก้าอี้ “หรือว่า เจอของอะไรแปลก ๆ กินอาหารอะไรแปลก ๆ ?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกตะลึงอยู่ในใจพิษกู่!สิ่งนี้มาอีกแล้วไสยศาสตร์เป็นสิ่งลวงตา ทว่าพิษกู่นั้นมีอยู่จริงบุคคลเดียวที่เกี่ยวข้องกับพิษกู่ นางนึกขึ้นได้เพียงพระสนมอวิ๋นเท่านั
ฉินเหยี่ยนเย่ว์จมดิ่งกับความคิดเดิมคิดว่าจับงูเพลิงแดงได้แล้ว ทุกอย่างคงจะดีขึ้นผู้ใดจะรู้ สถานการณ์กลับซับซ้อนกว่าที่จินตนาการไว้มากงูเพลิงแดงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ในระหว่างนี้ อาจยังมีแผนการอันน่ากลัวยิ่งกว่าซุกซ่อนอยู่“พระชายาอ๋องเจ็ด?” หมอหลวงหลินเห็นว่าสีหน้าของนางไม่ดีนัก หัวใจเต้นแ
“พระชายาอ๋องเจ็ด นี่ไม่เหมือนกับที่ตกลงกันไว้นะพ่ะย่ะค่ะ นี่ควรทำอย่างไรดี หากไม่สามารถถอนพิษได้ คนก็จะอยู่ได้ไม่เกินสามวัน” หมอหลวงหลินยังคงพึมพำอยู่นอกรถม้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเขาหากพบเจอคนไข้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยกะทันหันบนท้องถนน นางจะช่วยเหลือคน ๆ นั้นโดยไม่ลังเล และยึดมั่นในหลักจ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์หยิบขนมจากโต๊ะเตี้ยมา “ยกตัวอย่างเช่น ขนมชิ้นนี้อาจเป็นขนมธรรมดาสำหรับท่าน ทว่า สำหรับหม่อมฉันแล้วอาจเป็นยาพิษได้”ตงฟางหลีไม่เข้าใจ“เป็นปัญหาทางร่างกายน่ะเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “เช่นคราวที่แล้วที่พระสนมเหยาให้น้ำแกงเห็ดหูหนูขาวแก่ไทเฮาเป่า จนทำให้ไทเฮาเป่าป่วยหนัก ตัวน้ำแกงเห็ดห
“ภายหลัง ตู้จ้งได้เจอกับหญิงม่ายคนหนึ่ง หญิงม่ายยังมีบุตรวัยสามขวบด้วยคนหนึ่ง” สายตาของเขาผินมองไปนอกหน้าต่าง “นั่นก็คือช่างปักคนนั้น เป็นเพราะเขาถูกหลอกมาหลายครั้ง ข้าถึงได้ฝากให้เจ้าช่วยสืบสักหน่อย”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอามือเท้าคาง นิ้วก็เคาะที่โต๊ะอย่างไม่เป็นจังหวะช่างปักคนนั้นหน้าตาหมดจด ใบหน้าดูใ
“พระชายาคิดว่าข้าโง่ เช่นนั้นข้าก็โง่” ตงฟางหลีฉวยจังหวะจุมพิตหน้าผากของนางก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากที่ไกล ๆตู้จ้งและตู้เหิงเกรงว่าคงจะมากันแล้วเขามุ่นหัวคิ้ว ประทับบนริมฝีปากของนางหนัก ๆ “ตู้จ้งจะมารายงานข่าว”“ต้องให้หม่อมฉันหลบหรือไม่?”ตงฟางหลีนัยน์ตาเป็นประกาย “อืม ข้าได้ให้คนตัดเย
“ท่านอธิบายให้หม่อมฉันฟังเสียดี ๆ!” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หน้าบึ้งหันหน้าไปอีกทาง“ยามเช้าข้าให้เฝ่ยชุ่ยเอายาไปให้เจ้า เจ้าไม่ได้รับหรือ?” ตงฟางหลีผินใบหน้านางให้หันกลับมา เผชิญหน้ากับนาง “ข้าตั้งใจให้ลู่ซิวทำขึ้นมาในคืนเดียวเชียวนะ”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะนึกถึงขวดขนาดเล็กที่เฝ่ยชุ่ยมอบให้นาง
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจนิสัยของสองพี่น้องนี้ ช่างมีนิสัยตรงข้ามกันเสียจริงตงฟางหลีดื่มชาในถ้วยรวดเดียวหมดไอจากชาลอยบดบัง แสงดาวที่หว่างคิ้วน่ามองคู่นั้นประกายวับวาบยามที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์เหลือบตาขึ้นมอง ได้เห็นแสงดาวในแววตาของตงฟางหลีเข้าพอดีแสงนั้นสองสว่าง ดั่งดวงดาวนับพันหมื่นดวง
“ข้าถูกใส่ร้าย” ตงฟางหลีชูมือขึ้น “อยู่ดี ๆ คิดไปถึงเรื่องพวกนั้นได้อย่างไรกัน? มิใช่ตกลงกันแล้วหรือว่าจะไม่เอาเรื่องเก่าขึ้นมาพูดอีก? เรื่องในอดีตเป็นความผิดของข้า มิใช่ว่าเจ้าลงโทษข้าไปแล้วหรือ? พวกเราปรับความเข้าใจกันแล้วมิใช่หรือ?”“ลงโทษแล้ว แล้วก็ทุบตีไปแล้ว แต่หม่อมฉันยังอารมณ์ไม่ดีอยู่เพคะ”
ในขณะนั้นเองภายในศาลาสูงที่ลานด้านหลังของตำหลังหมิงอวี้ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำลังดื่มชาตรงข้ามตงฟางหลีเมื่อครู่หลังจากตู้เหิงมาเคาะประตูรายงาน และถูกตงฟางหลีไล่ออกไป นางที่เดิมมิได้หลับสนิทก็ได้ตื่นขึ้นมา เมื่อสอบถามอย่างละเอียด ถึงได้รู้ว่าฮูหยินซูมาขอพบนางนึกสงสัยอยู่บ้างว่าฮูหยินซูเอาของขวัญอะไรมา
“ขอร้องเจ้าอย่าทำเช่นนี้ ปล่อยซวงเอ๋อร์ลงเถิด”ตู้เหิงหาได้สนใจไม่ลมหนาวพัดมาหวีดหวิวกลิ่นอายสังหารบนร่างกายของเขาแผ่กำจายไปทั่วทุกทิศทาง และเลือนราง และมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวออกไป ฮูหยินซูตกใจจนขาอ่อนยวบ นางกลัวว่าซูเตี่ยนซวงจะถูกบีบคอตายจริง ๆ จึงเดินเข้ามาดึงแขนของตู้เหิงตู้เหิงไม่ชอบให้สตรีส
ซูเตี่ยนซวงคิดจะวิ่งไปทางตำหนักหมิงอวี้“ท่านจะทำอะไร?” ตู้เหิงขวางนางไว้ กลิ่นอายบนร่างกายพลันเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก “พระชายาไม่ต้อนรับแขก ท่านฟังภาษาคนไม่เข้าใจจริง ๆ หรือ?”“เจ้าสุนัขรับใช้หลีกไป” ซูเตี่ยนซวงถ่มน้ำลายใส่เขา “หากเจ้ากล้าขวางทางข้าอีก ข้าจะตีเจ้าให้ตายเสีย”“ท่านว่าอย่างไรนะ?”“ข้า
เมื่อเรื่องเกี่ยวพันกับชีวิตของบุตรสาว นางจำต้องถ่อมตนเข้าไว้ ทำได้เพียงกดเพลิงโทสะไว้ “องครักษ์ตู้ บุตรสาวคนเล็กไม่รู้จักความ ล่วงเกินที่ใดไปก็ขออภัยให้ด้วย ข้าขอโทษเจ้าแทนบุตรสาวคนเล็กด้วย”“ท่านแม่ ไยท่านต้องไปขอโทษบ่าวรับใช้คนนี้ด้วย?” ซูเตี่ยนซวงไม่พอใจ “ท่านดูท่าทีนี้ของเขาสิเจ้าคะ ไม่เห็นพวกเ