ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองพระพักตร์ราบเรียบของฮ่องเต้ ในใจก็เต้นดังตุบ ๆ นาง ไม่รู้เลยว่าฮ่องเต้พระองค์นี้คิดจะทำสิ่งใดหากบอกว่าเป็นการลงโทษ พระองค์ก็เพียงแค่ให้นางฝนหมึก รินชางานเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เท่านั้นและหากพูดว่ามิใช่บทลงโทษ ทว่านางต้องคุกเข่า และยังถูกตำหนิ “เสด็จพ่อมิได้รับสั่ง ลูกจึงไม่กล้าล
ฮ่องเต้แค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะโยนฎีกาทิ้งไปอย่างแรง สองมือประสานเข้าหากันพลางปรายตามองนาง “ในใต้หล้านี้ มีแค่เจ้าที่กล้าพูดกับเราเช่นนี้ พูดมาเถอะ เจ้าคิดว่าเหตุใดเราถึงรั้งตัวเจ้าไว้ลำพัง”“ลูกทำผิดเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตอบกลับอย่างว่านอนสอนง่าย“ผิดอันใด?”“ที่ตำหนักใหญ่ลูกมิได้พูดในสิ่งที่เสด็จพ่อต
“ของหวานที่เสด็จพ่อทรงกล่าวถึง มีรสชาติหวาน มีกลิ่นหอมของนม และยังมีไข่มุกให้เคี้ยว เรียกว่าชานมไข่มุกใช่หรือไม่เพคะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถาม“ใช่ คือชื่อนี้ล่ะ” ดวงตาของฮ่องเต้เปล่งประกายระยิบยับแตกต่างจากที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง “ทำเป็นหรือไม่?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับ “หากมีวัตถุดิบ
“ที่แท้ท่านปู่เคยทำให้พระองค์ดื่มแล้ว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตระหนักได้ทันทีชายชราชอบทำของหวาน และชานมไข่มุกเป็นสิ่งที่ทำง่ายที่สุด ไม่แปลกใจที่ฮ่องเต้จะรู้เรื่องเช่นนี้ซึ่งไม่ใช่ของในโลกนี้“ปู่ของเจ้ารึ?” ฮ่องเต้กินไข่มุกไปสองสามเม็ด “นักพรตเต๋าเทียนหลิงเป็นปู่ของเจ้ารึ? ปู่ของเจ้ามิใช่ว่าลาลับโลกนี้ไปน
ฉินเหยี่ยนเย่ว์สับสนเล็กน้อยเมื่อครู่พวกเขายังคงพูดคุยกันเรื่องชานมอย่างมีความสุข ทว่าเหตุใดถึงเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน กลับกลายเป็นซูเตี่ยนฉิงอยากแต่งงานเข้าจวนอ๋องเจ็ดเล่า?นางไม่เข้าใจความหมายของฮ่องเต้ ทำได้เพียงต้องก้มหัวลง “เสด็จพ่อคิดเห็นอย่างไรเพคะ?”“ด้วยสถานะของสกุลซู ซูเตี่ยนฉิงเป็นบุตรีภรร
อย่างไรก็ตาม หากสิ่งใดเกินขีดจำกัด ย่อมก่อให้เกิดอันตรายอยู่แล้ว แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าคนผู้นั้นให้เหมาเหมากินไม้เทียนเหลี่ยวไปมากแค่ไหน และไม่รู้ด้วยว่าได้เพิ่มเติมอะไรเข้าไปข้างในหรือไม่“เจ้าสิบ ไปทูลพระพันปีเสียหน่อยว่าข้าจะพาเหมาเหมาไปเลี้ยงที่จวนอ๋องเจ็ดสักสองสามวัน” นางขมวดคิ้ว “อาการของเหมาเหมา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์กระชับมือที่คล้องคอของตงฟางหลีแน่นขึ้น“ก็ไม่มีอะไรที่พูดไม่ได้หรอกเพคะ ตงฟางหลี เรื่องที่หม่อมฉันกังวลมากที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว เสด็จพ่อบอกหม่อมฉันว่าซูจิ้นถวายฎีกาติดต่อกันหลายวันแล้ว บอกว่าซูเตี่ยนฉิงขู่จะปลิดชีพตนเพื่อให้ได้แต่งงานกับท่าน ซูจิ้นใจอ่อนและร้องขอกับเสด็จพ่อ บอกว่าซูเต
ในท้ายที่สุด ตงฟางหลียังคงมีความคิดที่จะให้ซูเตี่ยนฉิงแต่งงานเข้ามาฉินเหยี่ยนเย่ว์ฝืนยิ้ม รอยยิ้มนั้นสดใส ทว่าแววตากลับเย็นชา “เห็นด้วยเพคะ แน่นอนว่าต้องเห็นด้วย การแต่งงานเป็นงานมงคลที่ยิ่งใหญ่ หม่อมฉันจะไม่เห็นด้วยได้อย่างไร?”ตงฟางหลีจับมือนางทันทีเขารู้ เมื่อนางโกรธหรือผิดหวังถึงจะยิ้มเช่นนี้
ก่อนหน้านี้ก็พูดเพื่อฉินเหยี่ยนเย่ว์ แล้วก็ยังมาขัดขวางการลงโทษตู้เหิงของนาง!“แม้แต่เจ้าก็ทำให้ข้าโกรธ!”“ท่านแม่” ซูจื่อเห็นว่าตู้เหิงจากไปแล้ว สีหน้าพลันทะมึนลง “เรื่องในวันนี้ ลูกไม่รู้ว่าท่านได้รับยาเสน่ห์มาจากผู้ใด แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเหตุใดถึงต้องจับตามองพระชายาอ๋องเจ็ดด้วยเช่นกัน แต่ท่านฟังที
ฮูหยินซูถูกตู้เหิงเพิกเฉย เพลิงโทสะที่สะสมมาในวันนี้พวยพุ่งขึ้นมาไม่หยุดซวงเอ๋อร์ได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างใหญ่หลวง มิอาจจบไปเช่นนี้ได้!“เจ้าสุนัขรับใช้ ข้ากำลังพูดกับเจ้าอยู่นะ เจ้าหูหนวกหรือ?”ตู้เหิงรำคาญเป็นอย่างยิ่งฮูหยินซูผู้นี้เกรงว่าจะเสียสติไปแล้วกระมังเมื่อก่อนเขารู้สึกว่าฮูหยินซูเป็นค
หลังจากลู่จิ้นป้อนยาที่มีชื่อว่ามังกรพ่นมุกนี้ให้นาง ก็ได้ทำลายสมดุลนี้ลงครั้นพิษของปลาทรายแดงครีบทองกลายพันธ์ถูกกดลง พิษของยาอีกหนึ่งชนิดก็จะเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันยาพิษบางชนิดมีพิษมากกว่าพิษจากปลาทรายแดงครีบทอง จึงเท่ากับต้องพิษเป็นครั้งที่สองหลังจากสมดุลถูกทำลาย ซูเตี่ยนฉิงย่อมไม่มีชีวิตที่ดีแล้
“เจ้าตาบอดหรือ? มองไม่ออกว่านี่คือตัวหนอนหรือย่างไร? ก็คือตัวหนอนที่กลายเป็นแมลงวันได้อย่างไรเล่า รักษาให้ดี ๆ เถิด” ลู่จิ้นเอ่ยเสียงเย็นซูจิ้นยืนยันคำตอบอยู่ในใจ สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นไม่น่ามองทันทีคนคนหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากดื่มยาเข้าไปแล้ว เหตุใดถึงอาเจียนเอาของน่ารังเกียจพรรค์นี้ออกมาได้?
หากมีสุรารสเลิศก็ดียิ่งขึ้นไปอีกฉินเหยี่ยนเย่ว์เองก็คิดจะจากไปโดยไม่สนใจสิ่งใดทว่า...นางเหลือบตามองซูเตี่ยนฉิงที่นอนอยู่บนเตียงปราดหนึ่งจากไปทั้งอย่างนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่สมเหตุสมผลเท่าใดนักจำต้องตอบแทนอะไรบางอย่างกลับไปบ้างถึงจะได้ไม่มาเสียเที่ยว“ศิษย์พี่รอสักครู่นะเจ้าคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูด “
“ผู้ใดให้เจ้าไม่ตั้งใจเรียน ให้เจ้าทำยาคุณภาพต่ำออกมามั่วซั่ว หลายปีนี้เจ้ามัวทำอะไร? สิ่งที่เรียนนั้น เรียนไปที่ตัวสุนัขหมดแล้วหรืออย่างไร?” ลูจิ้นตะคอก“กล้าให้ศิษย์น้องหญิงได้รับความทรมานเช่นนั้น ข้าจะตีเด็กสารเลวอย่างเจ้าให้ตาย”ลู่ซิวถึงได้เข้าใจเป็นท่านบรรพบุรุษรังเกียจยาน้ำคุณภาพต่ำที่เขาทำข
ลู่จิ้นกลับไม่สนใจโดยสิ้นเชิงหัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่นก่อนหน้านี้เขาคิดจะปิดประตูข่มขู่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ให้รักษาฉิงเอ๋อร์ แม้ว่าจะเป็นการไม่เคารพต่อพวกเขาสองคนแต่ก็ไม่มีผู้ใดรู้เห็น ขอเพียงยืนกรานไม่ยอมรับ ก็ไม่มีผู้ใดทำอะไรได้ครั้นลู่จิ้นมาถึง สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปแล้วต่อให้เขามีความกล้ายิ่งใ
ซูจื่ออายุยังน้อย ทนต่อการถูกฟาดได้ครั้นปล่อยให้ลู่จิ้นทุบตีระบายอารมณ์ได้ครู่ใหญ่ ก็เจ็บจนต้องแยกเขี้ยวยิงฟัน หากยืนนิ่งไม่ส่งเสียงใด ๆ ออกมาแม้แต่คำเดียวลู่จิ้นที่ทุบตีจนเหนื่อยแล้วถึงได้ฝืนหยุดตี“ลูกชายของข้า” ฮูหยินซูเห็นท่าทีจมูกช้ำเขียวใบหน้าปูดบวมของซูจื่อ หยาดน้ำตาก็ไหลลงมาเป็นสาย ร้องไห้
นี่สิถึงจะเป็นอาวุธวิเศษในการแสร้งป่วยที่ถูกต้อง“ขอบคุณศิษย์พี่เจ้าค่ะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รีบกลืนยาเม็ดลงไปทันที“ไม่ต้องเกรงใจ เรื่องของศิษย์น้องหญิงก็คือเรื่องของข้า” รอจนกระทั่งนางกินยา ลู่จิ้นก็จับชีพจรให้นางอีกครั้งเทียบกับชีพจรยุ่งเหยิงเมื่อครู่แล้ว ชีพจรในยามนี้มั่นคงกว่ามาก ศิษย์น้องหญิงก็รู้