“ฉินเหยี่ยนเย่ว์ เจ้ารู้สึกไม่พอใจข้า เป็นเพราะในใจพี่หลี่มีเพียงข้าอยู่ในใจใช่หรือไม่”“พี่หลีชอบข้า หาใช่ความผิดของข้าไม่ เจ้าเอาความโกรธโมโหของตนมาลงที่ตัวข้าเช่นนี้ มิคิดว่ามันเกินไปหน่อยหรือ?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์สะบัดมือไปในทันที “ซูเตี่ยนฉิง เจ้าอย่าได้หลงตัวเองเกินไปนัก เจ้าหมายความว่าข้าอิจฉาเจ้
“นังสารเลว เจ้าเอาอันใดให้ข้ากินกัน?” หลังจากที่แม่นมหลี่ขยับตัวได้แล้วนั้น ดวงตาของนางพลางเบิกกว้างออกมาในทันที พร้อมทั้งเกาไปที่ลำคอของตนอย่างบ้าคลั่งเม็ดยาที่ละลายในลำคอออกไปแล้วนั้น ทำให้ไม่สามารถหยิบมันออกมาได้“ส่งยาถอนพิษมาให้ข้าเดี๋ยวนี้” แม่นมหลี่พลันรีบวิ่งเข้ามา“นังสารเลว มอบยาถอนพิษมาให
ฉินเหยี่ยนเย่ว์หรี่ตาลง พร้อมทั้งยกมือขึ้นมาพร้อมทั้งเสียงเพี้ยะที่ดังขึ้นมา! เพี้ยะ! เสียงตบพลันดังกึ่งก้องไปทั่ว โดยเฉพาะลมหนาวที่พัดพาจนลึกเข้ากระดูกเช่นนี้ แม่นมหลี่ถูกตบจนตะลึงไปในทันทีใบหน้าของนางพลันค่อย ๆ แสดงความเจ็บปวดออกมา ลิ้นคล้ายกับถูกไฟไหม้ ทำเอานางรู้สึกเจ็บปวดเสียจนทนแทบไม่ไหว“เ
หน้าผากของฉินเหยี่ยนเย่ว์เต้นตุบ ๆ อยู่หลายครั้งนางกำลังสับสนนางคิดอยู่เสมอว่าตงฟางหลีไม่ลังเลเลยที่จะตัดเอ็นข้อมือของตนเพื่อปกป้องซูเตี่ยนฉิงเมื่อได้ฟังคำพูดบางคำของซูเตี่ยนฉิงแล้ว ก็ราวกับมีสายฟ้าสีน้ำเงินฟาดเข้าที่หน้าผากหาก...หากยามนั้น ตงฟางหลีไม่ตัดเอ็นข้อมือจนขาด นางอาจจะถูกซูเตี่ยนฉิงผล
นี่คือใบหน้าที่แท้จริงของซูเตี่ยนฉิงภายใต้รูปลักษณ์ภายนอกที่งามล่มเมืองกลับมีหัวใจอันดำมืดซุกซ่อนอยู่“เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าข้าจะโง่งมจัดการกับเจ้าแบบเดียวกับที่จัดการกับสาวใช้และแม่นมของเจ้า?” เสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์เบา คิ้วขมวดเข้าหากัน“ซูเตี่ยนฉิง ที่เจ้าส่งคนทั้งหมดออกไป เป็นเพราะกลัวว่าใบหน้า
“ได้สิ” น้ำเสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์ราบเรียบ นางเดินไปหาซูเตี่ยนฉิงทีละก้าว “ข้าสามารถให้ยาถอนพิษแก่เจ้าได้ แต่กลับกันแล้ว เจ้าก็ต้องชดใช้”ซูเตี่ยนฉิงขมวดคิ้ว “ท่านต้องการทำอะไรกันแน่?”“ฮ่าฮ่า” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หยิบเข็มยาชาที่ถูกปัดร่วงขึ้นมา “เจ้าเดาสิ”ซูเตี่ยนฉิงถอยหลังไปสองก้าวทันทีที่นางเคลื่อนไ
เนื่องจากนางหอบหายใจถี่ อุณหภูมิร่างกายจึงสูงขึ้น จากนั้นตุ่มสีแดงก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็วซูเตี่ยนฉิงรับรู้ได้ว่าใบหน้าเต็มไปด้วยตุ่มสีแดง และในที่สุดก็ทรุดตัวลงไปใบหน้าคือชีวิตของนางสิ่งที่นางทนไม่ได้ที่สุดในชีวิตก็คือการที่มีคนมาลงมือกับใบหน้าของนางซูเตี่ยนฉิงโกรธมากจนตัวสั่นไปหมด ตะโกนว่าต้อง
ฉินเหยี่ยนเย่ว์กางมือแล้วพูดขึ้น “หม่อมฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น นี่ ว่ากันว่าหมีเก่งกาจมักจะตายเพราะหญิงงาม คนโบราณไม่เคยหลอกหม่อมฉันเลย”คิ้วงามของตงฟางหลีขมวดเข้าหากัน “เอายาถอนพิษให้ข้า”“ยาถอนพิษ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หัวเราะเยาะ “เหลวไหลน่า”“ตงฟางหลี หม่อมฉันขอกล่าวตามตรงแล้วกัน เป็นแม่นางฉิงเอ๋อร์ข
นางยื่นกระดาษขาวไปตรงหน้าพวกนาง “หรือว่า พวกเจ้าคิดจะขัดพระราชโองการ?”เหล่าแม่นมมีเหงื่อเย็นผุดขึ้นมาที่หน้าผากเล็กน้อยพวกนางขัดขวางไว้ไม่ได้ ทำได้เพียงเปิดประตูให้ “พระชายาอ๋องเจ็ด องค์ชายสิบ เชิญเข้าไปได้เพคะ”ครั้นฉินเหยี่ยนพับกระดาษเก็บไว้ในแขนเสื้อเรียบร้อยแล้ว ก็พาเจ้าสิบเดินเข้าไปข้างในแม่
ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นตงฟางอิงวิ่งเข้ามาด้วยความเบิกบานใจ ก็ปรายตามองเขาแวบหนึ่ง “เจ้าให้ลูกอมกับเสด็จพ่อหรือ?”ตงฟางอิงรีบซ่อนมือทันควัน “ไม่นี่ พี่สะใภ้เจ็ดอยากกินลูกอมหรือ?”“เลิกเสแสร้งได้แล้ว ข้าได้ยินได้เห็นทั้งหมดแล้ว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูด “เจ้ากำลังอยู่ในวัยเปลี่ยนฟัน กินน้ำตาลให้น้อยลงหน่อย ต่อไ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถึงตระหนักได้ว่าตอนนี้ยังอยู่ต่อหน้าเจ้าสิบนางโบกมือเป็นพัลวัน “ท่านอย่าเข้าใจผิด ลูกมิได้พูดถึงเรื่องพวกนั้นเพคะ”“ท่านก็เห็นแล้ว ว่าหลังจากพระพันปีเป่าเป็นโรคเบาหวานทรมานมากเพียงใด นี่เกี่ยวกับที่พระนางติดหวานเป็นชีวิตจิตใจเป็นอย่างมาก”ครั้นเห็นว่าฮ่องเต้ไม่มีท่าทีไม่พอใจ นางก็พูด
“พูดมา”“เสด็จพ่อ โปรดอภัยที่ลูกพูดตรง ๆ ด้วยเพคะ ผลที่ตามมามิใช่สิ่งที่สามารถรักษาได้ หรือก็คือ ต่อให้พระพันปีเป่าจะถูกช่วยชีวิตให้กลับมาได้ ก็จะไม่เหมือนเดิมแล้วเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดโรคบางโรค หากเป็นแล้ว ก็จะเป็นไปตลอดชีวิต จำเป็นต้องกินยาไปทั้งชีวิต ถึงจะสามารถควบคุมอาการได้“หมายความว่าอย่าง
ไป๋หลินยวนไม่เหมือนกับจีอู๋เยียนจีอู๋เยียนเพื่ออวี้เอ๋อร์แล้วได้ทำเรื่องแปลกประหลาดลงไปมากมาย พูดได้ว่าทุกคนต่างรังเกียจเดียดฉันก็ไม่เกินไปไป๋หลินยวนรังเกียจที่จะคบหากับมนุษย์ธรรมดาสามัญ ชื่อเสียงโด่งดัง ภายนอกดูสะอาดสะอ้านมีเพียงนางที่รู้ว่าเขาเป็นคนโรคจิตคนหนึ่ง“เทพพิษและหมอเทวดามีชื่อเสียงทัด
ฮ่องเต้ยังคงมิตรัสสิ่งใดบรรยากาศจึงดูมืดมนเดิมทีตงฟางอิงคิดจะแอบขอร้องเสด็จพ่อ ให้เสด็จพ่ออนุญาตให้พี่สะใภ้เจ็ดสอนวิชากลให้เขาครั้นเห็นเสด็จพ่อมีสีหน้าไม่สู้ดี และมีทีท่าจะลงโทษพระสนมเหยา ก็ไม่สนใจเรื่องนี้อีก รีบพูดขึ้นมา “เสด็จพ่อ พระสนมเหยาต้องถูกใส่ร้ายแน่นอน ขอร้องท่านปล่อยพระสนมเหยาไปเถิดพ่
“พวกแม่นมออกไปก่อนเถิด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หลุบตาลงเรื่องนับจากนี้ นางไม่อยากให้คนที่ไม่มีความสำคัญเห็นเท่าใดนักบรรดาแม่นมต่างมองหน้ากัน“ออกไป” ฮ่องเต้ทรงตรัสเสียงเย็นชาครั้นตงฟางอิงเห็นคนออกไปหมดแล้ว ก็เม้มปากพูดขึ้นว่า “พี่สะใภ้เจ็ด ท่านต้องเชื่อข้านะ พระสนมเหยามิได้ทำเรื่องเช่นนั้นจริง ๆ ท่านต้อง
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจโรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่รู้จักกันดี และโดยทั่วไปไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตทว่า โรคเบาหวานอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้โรคแทรกซ้อนสิ ถึงจะเป็นกุญแจสู่ความตาย“พูดให้ถูกต้องก็คือ โรคของพระพันปีเป่าไม่ได้เรียกว่าโรคกระหายน้ำ แต่เรียกว่าโรคเบาหวาน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “
สาลี่เป็นผลไม้ และก็เป็นยาจีนชนิดหนึ่งเมื่อเข้าสู่เส้นลมปราณของไตและปอด จะขจัดความร้อนและแก้เสมหะ ผลิตของเหลวทำให้ความแห้งกร้านชุ่มชื้น และมีประสิทธิภาพมากในการรักษาโรคกระหายน้ำจากการบอกเล่าของหมอหลวงและแม่นม ตลอดจนการวินิจฉัยของนาง เกือบจะยืนยันอาการป่วยของพระพันปีเป่าได้“พระชายาอ๋องเจ็ด” หมอหลว