จวินลั่วยวนนอนจมกองเลือดบนพื้น หายใจรวยริน สะบักสะบอมเหมือนสุนัขเฟิงเย่เสวียนถือกระบี่เดินเข้าไป ยังไม่ทันแทงซ้ำ จู่ๆ ก็มีระเบิดควันหลายลูกถูกโยนเข้ามาปัง!พริบตาเดียว ควันหนาทึบพวยพุ่งเขาขมวดคิ้ว รีบคว้าไปทางจวินลั่วยวน แต่ควันที่หนาทึบบดบังวิสัยทัศน์ ยังไม่ทันเข้าใกล้ เห็นเพียงจวินลั่วยวนถูกคนชุดดำคนหนึ่งแบกไว้บนไหล่ และหนีออกไปอย่างรวดเร็วทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงสามวินาที“องครักษ์อาภรณ์เทพของเสด็จพ่อ!”จวินชิงอวี่จำได้ในปราดเดียวคนกลุ่มนี้สังกัดราชวงศ์หนานยวน มีการสืบทอดต่อกันมานานหลายร้อยปี ลึกลับมาก วรยุทธ์ของพวกเขาสูงมาก แต่ละคนสามารถหนึ่งสู้ร้อย ล้วนเป็นมือดีที่ลงมือไม่เคยพลาดพวกเขาช่วยจวินลั่วยวนไปแล้ว“ดูเหมือนเสด็จพ่อรู้เรื่องที่เจียงหนานแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโต เขารักหยวนเอ๋อร์ที่สุด”ต่อให้ฮ่องเต้หนานยวนรู้ว่าจวินลั่วยวนไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ก็ยังคงปกป้องและรักนางเหมือนเมื่อก่อนจวินอวี้หยางขมวดคิ้ว“เสด็จพ่ออาจจะไม่รู้ว่าจวินลั่วยวนทำอะไรลงไป รอหลังจากเขารู้แล้ว ก็คงจะรู้สึกเหมือนพวกเรา”ทั้งสามคิดไม่ถึงว่าองครักษ์อาภรณ์เทพจะมาแขกที่ไม่ได้รับเชิญไม่ทันตั้งตัว
คนตายแล้ว จะไปไหน?ฉู่เชียนหลีก็ไม่รู้ตอนนางตกจากกำแพงเมือง สูญเสียสติสัมปชัญญะเสี้ยวสุดท้าย ราวกับว่านางตกลงไปในความมืดอันไร้ที่สิ้นสุด ไร้ขอบเขต ไร้เสียง ไร้ทิศทาง ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด ไม่รู้สึกหิว ล่องลอยอยู่กลางอากาศมีชีวิต?ตายแล้ว?วัฏสงสาร?กลับชาติมาเกิด?นางไม่รู้อะไรเลยและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ลืมตาขึ้นอีกครั้ง พบว่าตัวเองกลับมาอยู่ในทำเนียบแล้วนางเบิกตากว้างอย่างตะลึง มองดูร่างกายและมือที่สะอาดของตัวเอง และแสงแดดอันเฉื่อยชาเหนือศีรษะ ราวกับว่านางอยู่ในความฝันที่ยาวนานมากนางยังไม่ตาย?“ท่านอ๋อง ท่านกินอะไรหน่อยเถอะ…” ข้างนอก มีเสียงพูดฉู่เชียนหลีเงยหน้ามองไป เห็นผู้ติดตามหลายคนเดินตามหลังเฟิงเย่เสวียน เฟิงเย่เสวียนเข้าไปในห้องเพียงลำพัง สั่งให้พวกเขาออกไปพลันนางดีใจ“อาเฉิน!”รีบวิ่งเข้าไป ตอนที่เข้าใกล้เขา ร่างกายของนางกลับทะลุผ่านร่างกายเฟิงเย่เสวียนไร้แก่นสาร!พริบตานั้น รอยยิ้มบนใบหน้านางแข็งทื่อ ราวกับเลือดแข็งตัวนาง…ตายแล้วนางในตอนนี้เป็นวิญญาณนางเห็นเฟิงเย่เสวียนเปิดประตูเข้าห้อง และยังเห็นร่างกายของนางที่นอนอยู่บนเตียง!หมอส
สามวันแล้วที่เฟิงเย่เสวียนอยู่ข้างกายนางไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียวอย่างหมดอาลัยตายอยาก ฉู่เชียนหลีก็เฝ้าเขาสามวันเต็มๆ แล้วคนรับใช้ที่เป็นห่วงมาแล้วก็ไป ไปแล้วก็มา พยายามเกลี้ยกล่อมไม่หยุด“ท่านอ๋อง ท่านต้องสู้นะ”“พระชายาถูกฝังไปแล้ว ถ้าหากนางมาเห็นท่านในเวลานี้ จะต้องปวดใจแน่นอน”“เว่ยซีกับจื่อเยี่ยจะเสียใจ…”มนุษย์ต้องกินอาหาร ไม่ได้กินหนึ่งมื้อยังทนได้ แต่หนึ่งวัน สองวัน สามวันล่ะ? หิวตายได้เลยนะฉู่เชียนหลีเพิ่งจะรู้ พิธีศพของตัวเองเสร็จสิ้นแล้ว และเฟิงเย่เสวียนปิดบังทุกคน ขุดศพของนางขึ้นมา ใช้วิธีป้องกันการเน่าเปื่อยแบบพิเศษ เก็บนางไว้ข้างกายมองดูเขาที่ซูบผอมและเศร้าโศก รู้สึกปวดใจมาก“อาเฉิน ถ้าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป สุขภาพของเจ้าจะแย่เอานะ”“เส้นทางของวันข้างหน้ายังอีกยาวไกล เว่นซีกับจื่อเยี่ยล้วนต้องการเจ้า ต่อให้เจ้าไม่คำนึงถึงตัวเอง ก็ต้องคิดถึงลูกด้วย…”“อย่าทำเช่นนี้เลย…”อาจเพราะได้ยินเสียงหัวใจของนาง จู่ๆ แววตาที่เหม่อลอยของเฟิงเย่เสวียน ก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นแล้ว“ลูก…”เขาค่อยๆ ฟื้นคืนสติสัมปชัญญะ รีบมองซ้ายมองขวา“ซีเอ๋อร์ จื่อเยี่ย…ลูก…”เหมือนกับค้นพบเป้าหมาย
ในเวลาต่อมา กลางคืนฉู่เชียนหลีอยู่กับเฟิงเย่เสวียน นอนกับเขา กลางวันอยู่กับลูก มองดูลูกทั้งสองเติบโตขึ้นวันแล้ววันเล่าเป็นเช่นนี้ สามเดือนผ่านในสามเดือนนี้ เฟิงเย่เสวียนไม่ได้ออกจากทำเนียบเลย หนึ่งวันสิบสองชั่วยาม อยู่ในห้องสิบชั่วยาม ที่เหลืออีกสองชั่วยามไปดูลูก เมื่อนานวันเข้า เขาเริ่มดูซูบผอม สีหน้าเศร้าหมอง ดูแก่กว่าวัยสิบกว่าปี ทุกคนล้วนกังวลมาก ถ้าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป อ๋องเฉินจะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ แต่ใครเกลี้ยกล่อมก็ไม่มีประโยชน์ฉู่เชียนหลีเห็นเห็นแล้วปวดใจนางคุยและเกลี้ยกล่อมเขาทุกวัน แต่เขาไม่ได้ยินอยู่ใกล้แค่เอื้อมกลับเหมือนอยู่ไกลสุดขอบฟ้าความเจ็บปวดเช่นนี้ ไม่มีใครสามารถเข้าใจเวลานี้ ทำทำเหมือนเช่นเคย เข้านอนพร้อมกับเฟิงเย่เสวียน แต่จู่ๆ ก็ถูกพลังอันทรงพลังสายหนึ่งดูดเข้าไปในความมืด ไม่รู้จากทิศทางใด มีเสียงที่ชราภาพและน่าเกรงขามสายหนึ่งดังขึ้น “เจ้าตายแล้ว ไม่ควรอยู่ในโลกคนเป็น ทำลายความสมดุลหยินหยาง”เสียงที่ทรงพลังนี้ ราวกับดังมาจากขอบฟ้าอันไกลโพ้น แต่ก็เหมือนอยู่ใกล้แค่ข้างหู ไร้ตัวตน จับต้องไม่ได้ใครกำลังพูด?สะเทือนจนทำให้นางแสบแก้วหู“ข้าจะ
องค์หญิง?คุณชายเซิ่น?ฉู่เชียนหลีไม่ได้รับความทรงจำใดๆ เพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก สับสนและงงงวยเล็กน้อยยังไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีเสียงฝีเท้าที่ยุ่งเหยิงและเสียงต่อต้านดังมาจากนอกประตู “ใต้เท้าหลิง! ใต้เท้าหลิง ต่อให้ท่านบีบคั้นข้าจนตาย ข้าก็ไม่แต่งงานกับนาง!”“ตั้งแต่ต้นจนจบ ในใจข้ามีเพียงองค์หญิงยวนเอ๋อร์เท่านั้น!”ยวนเอ๋อร์?องค์หญิง?ฉู่เชียนหลีเงยหน้ามองไป เห็นชายหนุ่มสวมชุดเพ้าสีขาวและที่ครอบผมหยก กำลังลากผู้ชายที่ท่าทางสุภาพเหมือนคนเรียนหนังสือเข้ามานางตระหนักถึงบางอย่าง รีบดึงสาวใช้ที่อยู่ข้างกายมาถามเบาๆ“ที่นี่คือแคว้นหนานยวน?”สาวใช้ “?”องค์หญิงเป็นอะไรไป?เหตุใดถามคำถามเช่นนี้?“องค์หญิง ท่าน…”“อย่าพูดไร้สาระ ตอบข้า!”สาวใช้ตกใจ รีบกล่าว “ท่านคือหลิงเหยี่ย องค์หญิงต่างแซ่ของแคว้นหนานยวน ใต้เท้าคือมหาราชครูของแคว้นหนวนยวน เป็นพี่ชายแท้ๆ ของท่าน เพราะใต้เท้าชำนาญการทำนาย เคยช่วยแคว้นสามครั้ง สร้างคุณประโยชน์มากมาย ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์หญิงต่างแซ่…”คำพูดที่เหลือ ฉู่เชียนหลีมองข้ามโดยตรงสิ่งเดียวที่นางคิดคือ นางถูกส่งมาเป็นองค์หญิงต่างแซ่ อีกท
เซิ่นสือเฉิน “?”เหตุใดวันนี้รู้สึกว่าหลิงเหยี่ยแปลกๆ?เมื่อก่อนนางชอบเขามากเลยไม่ใช่หรือ? เวลาที่เขาอ่านหนังสือ นางชอบมาอยู่ข้างๆ ฝนหมึกพัดลมให้เขา เวลาที่เขาเขียนหนังสือ นางชอบแอบที่นอกหน้าต่าง จับจิ้งหรีดเล่น เวลาที่เขางีบหลับ นางมักจะชงชาหิมะชั้นดีมาให้เขานางยังบอกว่าจะแต่งงานกับเขาคนเดียวเหตุใดแค่วันเดียว ก็ปล่อยวางได้แล้ว?“องค์หญิงหลิง ข้าขอโทษ” เขากล่าวอย่างรู้สึกผิดที่จริงเขาก็ชอบหลิงเหยี่ยเช่นกัน แต่องค์หญิงยวนบอกเขาว่าหลิงเหยี่ยนิสัยไม่ดี ชอบรังแกคนรับใช้ หาเรื่องชาวบ้าน ใส่ร้ายโยนความผิดให้ผู้อื่นด้วยวิธีที่น่ารังเกียจ และทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายเขาเป็นคนเรียนหนังสือ นิสัยซื่อตรง ไม่สามารถยอมรับคนที่จิตใจอำมหิตอย่างหลิงเหยี่ยเมื่อเปรียบเทียบกัน เขาชอบจวินลั่วยวนที่ไร้เดียงสา จิตใจดี และร่าเริงมากกว่า“เมื่อก่อนท่านส่งข้าเรียนหนังสือ ช่วยข้าหาอาจารย์ ใช้เส้นสาย ทำให้ข้าสอบติดขุนนาง…บุญคุณส่วนนี้ ข้า ข้าทำได้เพียงตอบแทนท่านชาติหน้าแล้ว…”ฉู่เชียนหลียิ้มอย่างอ่อนโยน“ไม่เป็นไร แค่เรื่องเล็กน้อย”“ได้ยินมาว่าองค์หญิงยวนได้รับบาดเจ็บ พวกเราเข้าวังไปดูนางกันเ
ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน นางค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เตียง จวินลั่วยวนนอนหลับแล้ว ไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน หน้าซีดซูบผอม เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกฉู่เชียนหลีเหลือบมองแวบหนึ่ง“เหตุใดข้อมือของนางยังมีเลือด?”สามเดือนแล้ว แผลยังไม่หาย?นางกำนัลที่อยู่ข้างๆ ตอบ“หมอหลวงบอกว่า จะใช้ยาพิเศษรักษาเอ็นมือและเท้าที่ขาดขององค์หญิง จำเป็นต้องเปิดแผล ขยับเอ็นที่ขาดไปรวมกันทุกวัน จนกระทั่งเชื่อมต่อกัน”“ฮืม?”ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้วด้วยความสนใจเช่นนี้ก็เท่ากับว่า จวินลั่วยวนต้องทนกับความเจ็บปวดที่ใช้มีดเปิดปากแผลทุกวันติดต่อกันสามเดือนเต็มๆ น่าสังเวชน่าจะเจ็บมากกระมัง?นางค่อยๆ นั่งลง จับข้อมือของจวินลั่วยวนเบาๆ มองผ้าพันแผลที่ถูกพันห้าหกรอบอย่างครุ่นคิดทันใดนั้นออกแรงกดที่นิ้ว“ซี้ด…!”จวินลั่วยวนเจ็บจนตื่น ลืมตาทันทีฉู่เชียนหลีรีบปล่อยมือ “โอ๊ย…ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจแตะตัวท่าน ดูท่านเจ็บมากเลยนะ ขอโทษจริงๆ”“!”หลินเหยี่ยมาอยู่ในตำหนักของนางได้อย่างไร?นางรังเกียจผู้หญิงคนนี้ที่สุด!อาศัยที่พี่ชายของตัวเองเป็นราชครู แสร้งทำเป็นช่วยเหลือชาวบ้าน ทำแต่ความดีทุกวัน มีแต่คนบอกว่าองค์หญ
ณ จวนอ๋องเฉิน แคว้นตงหลิง “สารเลว!” “โอ๊ย!”เสียงตวาดแผดขึ้น ร่างผอมบางร่างหนึ่งถูกถีบจนกระเด็นเข้าชนกับเสาที่ผนัง ก่อนกระแทกกับพื้นอย่างแรง ปิ่นเงินร่วงลง เส้นผมสีดำกระจายลงบนพื้นเจ็บ...เจ็บจัง...เธอเพิ่งเสร็จสิ้นการผ่าตัดใหญ่ที่นานถึงสามสิบแปดชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก พอออกมาจากห้องผ่าตัดก็หมดสติล้มลงกับพื้น แต่ทำไมตัวเธอถึงได้เจ็บขนาดนี้นะ?จากนั้น ความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยกลุ่มหนึ่งก็เบียดเข้ามาในหัวสมองและฉายให้เห็นอย่างรวดเร็ว ฉู่เชียนหลี คุณหนูสี่ผู้ไม่เป็นที่ชื่นชอบของจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ ใบหน้าอัปลักษณ์ไร้ซึ่งความงาม นางแต่งเข้าจวนเฉินอ๋องเมื่อสามเดือนก่อน ไม่เคยได้รับความชื่นและต้องอยู่ลำพังในห้องว่างเปล่าเรื่อยมาวันนี้อ๋องเฉินรับอนุภรรยา นางถูกเรียกให้มาปรนนิบัติอนุภรรยา แต่เพราะพลั้งเผลอปัดน้ำชาหกไปลวกถูกอีกฝ่าย จึงถูกอ๋องเฉินถีบจนตายในคราวเดียว!เป็นผู้ชายที่โหดจริงๆ!แต่ในเมื่อมาแล้ว ก็ทำใจอยู่อย่างสงบเสียฉู่เชียนหลีรับเรื่องราวต่างๆ เข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว ฝืนทนความเจ็บปวด เงยหน้าขึ้นมาห้องหอที่ประดับตกแต่งด้วยสีแดงแห่งงานมงคล ชายหญิงในชุดแต่งงานคู่หนึ่งอย
ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน นางค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เตียง จวินลั่วยวนนอนหลับแล้ว ไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน หน้าซีดซูบผอม เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกฉู่เชียนหลีเหลือบมองแวบหนึ่ง“เหตุใดข้อมือของนางยังมีเลือด?”สามเดือนแล้ว แผลยังไม่หาย?นางกำนัลที่อยู่ข้างๆ ตอบ“หมอหลวงบอกว่า จะใช้ยาพิเศษรักษาเอ็นมือและเท้าที่ขาดขององค์หญิง จำเป็นต้องเปิดแผล ขยับเอ็นที่ขาดไปรวมกันทุกวัน จนกระทั่งเชื่อมต่อกัน”“ฮืม?”ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้วด้วยความสนใจเช่นนี้ก็เท่ากับว่า จวินลั่วยวนต้องทนกับความเจ็บปวดที่ใช้มีดเปิดปากแผลทุกวันติดต่อกันสามเดือนเต็มๆ น่าสังเวชน่าจะเจ็บมากกระมัง?นางค่อยๆ นั่งลง จับข้อมือของจวินลั่วยวนเบาๆ มองผ้าพันแผลที่ถูกพันห้าหกรอบอย่างครุ่นคิดทันใดนั้นออกแรงกดที่นิ้ว“ซี้ด…!”จวินลั่วยวนเจ็บจนตื่น ลืมตาทันทีฉู่เชียนหลีรีบปล่อยมือ “โอ๊ย…ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจแตะตัวท่าน ดูท่านเจ็บมากเลยนะ ขอโทษจริงๆ”“!”หลินเหยี่ยมาอยู่ในตำหนักของนางได้อย่างไร?นางรังเกียจผู้หญิงคนนี้ที่สุด!อาศัยที่พี่ชายของตัวเองเป็นราชครู แสร้งทำเป็นช่วยเหลือชาวบ้าน ทำแต่ความดีทุกวัน มีแต่คนบอกว่าองค์หญ
เซิ่นสือเฉิน “?”เหตุใดวันนี้รู้สึกว่าหลิงเหยี่ยแปลกๆ?เมื่อก่อนนางชอบเขามากเลยไม่ใช่หรือ? เวลาที่เขาอ่านหนังสือ นางชอบมาอยู่ข้างๆ ฝนหมึกพัดลมให้เขา เวลาที่เขาเขียนหนังสือ นางชอบแอบที่นอกหน้าต่าง จับจิ้งหรีดเล่น เวลาที่เขางีบหลับ นางมักจะชงชาหิมะชั้นดีมาให้เขานางยังบอกว่าจะแต่งงานกับเขาคนเดียวเหตุใดแค่วันเดียว ก็ปล่อยวางได้แล้ว?“องค์หญิงหลิง ข้าขอโทษ” เขากล่าวอย่างรู้สึกผิดที่จริงเขาก็ชอบหลิงเหยี่ยเช่นกัน แต่องค์หญิงยวนบอกเขาว่าหลิงเหยี่ยนิสัยไม่ดี ชอบรังแกคนรับใช้ หาเรื่องชาวบ้าน ใส่ร้ายโยนความผิดให้ผู้อื่นด้วยวิธีที่น่ารังเกียจ และทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายเขาเป็นคนเรียนหนังสือ นิสัยซื่อตรง ไม่สามารถยอมรับคนที่จิตใจอำมหิตอย่างหลิงเหยี่ยเมื่อเปรียบเทียบกัน เขาชอบจวินลั่วยวนที่ไร้เดียงสา จิตใจดี และร่าเริงมากกว่า“เมื่อก่อนท่านส่งข้าเรียนหนังสือ ช่วยข้าหาอาจารย์ ใช้เส้นสาย ทำให้ข้าสอบติดขุนนาง…บุญคุณส่วนนี้ ข้า ข้าทำได้เพียงตอบแทนท่านชาติหน้าแล้ว…”ฉู่เชียนหลียิ้มอย่างอ่อนโยน“ไม่เป็นไร แค่เรื่องเล็กน้อย”“ได้ยินมาว่าองค์หญิงยวนได้รับบาดเจ็บ พวกเราเข้าวังไปดูนางกันเ
องค์หญิง?คุณชายเซิ่น?ฉู่เชียนหลีไม่ได้รับความทรงจำใดๆ เพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก สับสนและงงงวยเล็กน้อยยังไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีเสียงฝีเท้าที่ยุ่งเหยิงและเสียงต่อต้านดังมาจากนอกประตู “ใต้เท้าหลิง! ใต้เท้าหลิง ต่อให้ท่านบีบคั้นข้าจนตาย ข้าก็ไม่แต่งงานกับนาง!”“ตั้งแต่ต้นจนจบ ในใจข้ามีเพียงองค์หญิงยวนเอ๋อร์เท่านั้น!”ยวนเอ๋อร์?องค์หญิง?ฉู่เชียนหลีเงยหน้ามองไป เห็นชายหนุ่มสวมชุดเพ้าสีขาวและที่ครอบผมหยก กำลังลากผู้ชายที่ท่าทางสุภาพเหมือนคนเรียนหนังสือเข้ามานางตระหนักถึงบางอย่าง รีบดึงสาวใช้ที่อยู่ข้างกายมาถามเบาๆ“ที่นี่คือแคว้นหนานยวน?”สาวใช้ “?”องค์หญิงเป็นอะไรไป?เหตุใดถามคำถามเช่นนี้?“องค์หญิง ท่าน…”“อย่าพูดไร้สาระ ตอบข้า!”สาวใช้ตกใจ รีบกล่าว “ท่านคือหลิงเหยี่ย องค์หญิงต่างแซ่ของแคว้นหนานยวน ใต้เท้าคือมหาราชครูของแคว้นหนวนยวน เป็นพี่ชายแท้ๆ ของท่าน เพราะใต้เท้าชำนาญการทำนาย เคยช่วยแคว้นสามครั้ง สร้างคุณประโยชน์มากมาย ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์หญิงต่างแซ่…”คำพูดที่เหลือ ฉู่เชียนหลีมองข้ามโดยตรงสิ่งเดียวที่นางคิดคือ นางถูกส่งมาเป็นองค์หญิงต่างแซ่ อีกท
ในเวลาต่อมา กลางคืนฉู่เชียนหลีอยู่กับเฟิงเย่เสวียน นอนกับเขา กลางวันอยู่กับลูก มองดูลูกทั้งสองเติบโตขึ้นวันแล้ววันเล่าเป็นเช่นนี้ สามเดือนผ่านในสามเดือนนี้ เฟิงเย่เสวียนไม่ได้ออกจากทำเนียบเลย หนึ่งวันสิบสองชั่วยาม อยู่ในห้องสิบชั่วยาม ที่เหลืออีกสองชั่วยามไปดูลูก เมื่อนานวันเข้า เขาเริ่มดูซูบผอม สีหน้าเศร้าหมอง ดูแก่กว่าวัยสิบกว่าปี ทุกคนล้วนกังวลมาก ถ้าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป อ๋องเฉินจะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ แต่ใครเกลี้ยกล่อมก็ไม่มีประโยชน์ฉู่เชียนหลีเห็นเห็นแล้วปวดใจนางคุยและเกลี้ยกล่อมเขาทุกวัน แต่เขาไม่ได้ยินอยู่ใกล้แค่เอื้อมกลับเหมือนอยู่ไกลสุดขอบฟ้าความเจ็บปวดเช่นนี้ ไม่มีใครสามารถเข้าใจเวลานี้ ทำทำเหมือนเช่นเคย เข้านอนพร้อมกับเฟิงเย่เสวียน แต่จู่ๆ ก็ถูกพลังอันทรงพลังสายหนึ่งดูดเข้าไปในความมืด ไม่รู้จากทิศทางใด มีเสียงที่ชราภาพและน่าเกรงขามสายหนึ่งดังขึ้น “เจ้าตายแล้ว ไม่ควรอยู่ในโลกคนเป็น ทำลายความสมดุลหยินหยาง”เสียงที่ทรงพลังนี้ ราวกับดังมาจากขอบฟ้าอันไกลโพ้น แต่ก็เหมือนอยู่ใกล้แค่ข้างหู ไร้ตัวตน จับต้องไม่ได้ใครกำลังพูด?สะเทือนจนทำให้นางแสบแก้วหู“ข้าจะ
สามวันแล้วที่เฟิงเย่เสวียนอยู่ข้างกายนางไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียวอย่างหมดอาลัยตายอยาก ฉู่เชียนหลีก็เฝ้าเขาสามวันเต็มๆ แล้วคนรับใช้ที่เป็นห่วงมาแล้วก็ไป ไปแล้วก็มา พยายามเกลี้ยกล่อมไม่หยุด“ท่านอ๋อง ท่านต้องสู้นะ”“พระชายาถูกฝังไปแล้ว ถ้าหากนางมาเห็นท่านในเวลานี้ จะต้องปวดใจแน่นอน”“เว่ยซีกับจื่อเยี่ยจะเสียใจ…”มนุษย์ต้องกินอาหาร ไม่ได้กินหนึ่งมื้อยังทนได้ แต่หนึ่งวัน สองวัน สามวันล่ะ? หิวตายได้เลยนะฉู่เชียนหลีเพิ่งจะรู้ พิธีศพของตัวเองเสร็จสิ้นแล้ว และเฟิงเย่เสวียนปิดบังทุกคน ขุดศพของนางขึ้นมา ใช้วิธีป้องกันการเน่าเปื่อยแบบพิเศษ เก็บนางไว้ข้างกายมองดูเขาที่ซูบผอมและเศร้าโศก รู้สึกปวดใจมาก“อาเฉิน ถ้าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป สุขภาพของเจ้าจะแย่เอานะ”“เส้นทางของวันข้างหน้ายังอีกยาวไกล เว่นซีกับจื่อเยี่ยล้วนต้องการเจ้า ต่อให้เจ้าไม่คำนึงถึงตัวเอง ก็ต้องคิดถึงลูกด้วย…”“อย่าทำเช่นนี้เลย…”อาจเพราะได้ยินเสียงหัวใจของนาง จู่ๆ แววตาที่เหม่อลอยของเฟิงเย่เสวียน ก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นแล้ว“ลูก…”เขาค่อยๆ ฟื้นคืนสติสัมปชัญญะ รีบมองซ้ายมองขวา“ซีเอ๋อร์ จื่อเยี่ย…ลูก…”เหมือนกับค้นพบเป้าหมาย
คนตายแล้ว จะไปไหน?ฉู่เชียนหลีก็ไม่รู้ตอนนางตกจากกำแพงเมือง สูญเสียสติสัมปชัญญะเสี้ยวสุดท้าย ราวกับว่านางตกลงไปในความมืดอันไร้ที่สิ้นสุด ไร้ขอบเขต ไร้เสียง ไร้ทิศทาง ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด ไม่รู้สึกหิว ล่องลอยอยู่กลางอากาศมีชีวิต?ตายแล้ว?วัฏสงสาร?กลับชาติมาเกิด?นางไม่รู้อะไรเลยและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ลืมตาขึ้นอีกครั้ง พบว่าตัวเองกลับมาอยู่ในทำเนียบแล้วนางเบิกตากว้างอย่างตะลึง มองดูร่างกายและมือที่สะอาดของตัวเอง และแสงแดดอันเฉื่อยชาเหนือศีรษะ ราวกับว่านางอยู่ในความฝันที่ยาวนานมากนางยังไม่ตาย?“ท่านอ๋อง ท่านกินอะไรหน่อยเถอะ…” ข้างนอก มีเสียงพูดฉู่เชียนหลีเงยหน้ามองไป เห็นผู้ติดตามหลายคนเดินตามหลังเฟิงเย่เสวียน เฟิงเย่เสวียนเข้าไปในห้องเพียงลำพัง สั่งให้พวกเขาออกไปพลันนางดีใจ“อาเฉิน!”รีบวิ่งเข้าไป ตอนที่เข้าใกล้เขา ร่างกายของนางกลับทะลุผ่านร่างกายเฟิงเย่เสวียนไร้แก่นสาร!พริบตานั้น รอยยิ้มบนใบหน้านางแข็งทื่อ ราวกับเลือดแข็งตัวนาง…ตายแล้วนางในตอนนี้เป็นวิญญาณนางเห็นเฟิงเย่เสวียนเปิดประตูเข้าห้อง และยังเห็นร่างกายของนางที่นอนอยู่บนเตียง!หมอส
จวินลั่วยวนนอนจมกองเลือดบนพื้น หายใจรวยริน สะบักสะบอมเหมือนสุนัขเฟิงเย่เสวียนถือกระบี่เดินเข้าไป ยังไม่ทันแทงซ้ำ จู่ๆ ก็มีระเบิดควันหลายลูกถูกโยนเข้ามาปัง!พริบตาเดียว ควันหนาทึบพวยพุ่งเขาขมวดคิ้ว รีบคว้าไปทางจวินลั่วยวน แต่ควันที่หนาทึบบดบังวิสัยทัศน์ ยังไม่ทันเข้าใกล้ เห็นเพียงจวินลั่วยวนถูกคนชุดดำคนหนึ่งแบกไว้บนไหล่ และหนีออกไปอย่างรวดเร็วทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงสามวินาที“องครักษ์อาภรณ์เทพของเสด็จพ่อ!”จวินชิงอวี่จำได้ในปราดเดียวคนกลุ่มนี้สังกัดราชวงศ์หนานยวน มีการสืบทอดต่อกันมานานหลายร้อยปี ลึกลับมาก วรยุทธ์ของพวกเขาสูงมาก แต่ละคนสามารถหนึ่งสู้ร้อย ล้วนเป็นมือดีที่ลงมือไม่เคยพลาดพวกเขาช่วยจวินลั่วยวนไปแล้ว“ดูเหมือนเสด็จพ่อรู้เรื่องที่เจียงหนานแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโต เขารักหยวนเอ๋อร์ที่สุด”ต่อให้ฮ่องเต้หนานยวนรู้ว่าจวินลั่วยวนไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ก็ยังคงปกป้องและรักนางเหมือนเมื่อก่อนจวินอวี้หยางขมวดคิ้ว“เสด็จพ่ออาจจะไม่รู้ว่าจวินลั่วยวนทำอะไรลงไป รอหลังจากเขารู้แล้ว ก็คงจะรู้สึกเหมือนพวกเรา”ทั้งสามคิดไม่ถึงว่าองครักษ์อาภรณ์เทพจะมาแขกที่ไม่ได้รับเชิญไม่ทันตั้งตัว
“พวกเจ้าทุกคนล้วนเป็นฆาตกร อย่าคิดจะให้ข้ารับผิดชอบคนเดียว พวกเจ้าทุกคนล้วนมีความผิด! ต่อให้ฉู่เชียนหลีกลายเป็นผี ปล่อยปรากฏตัวในฝันของพวกเจ้า ชาติหน้า ชาติหน้าหน้า ก็ไม่มีวันให้อภัยพวกเจ้า!”“ฮ่าๆๆ! ฮ่าๆๆๆ!”จวินลั่วยวนแหงนหน้าหัวเราะเหมือนบ้าไปแล้วสีหน้าของฮองเฮาหนานยวน และพวกจวินอวี้หยางน่าเกลียดมากคำพูดของจวินลั่วยวนแทงใจดำพวกเขา พวกเขาเม้มปากแน่น แต่ละคนเถียงไม่ออกสักคำ กำมือที่ห้อยอยู่ข้างกายแน่น แม้แต่ร่างกายก็กำลังสั่นเฟิงเย่เสวียนย่อมจะสั่งสอนพวกเขาทีละคน เริ่มจากจวินลั่วยวนคือคนแรก!พลันแทงกระดูกไหปลาร้าของนาง“อ๊ะ!”เสียงหัวเราะที่บ้าคลั่ง ถูกแทนที่ด้วยเสียงกรีดร้อง“ในเมื่อเจ้าก่อกรรมทำเข็ญมากมายเช่นนี้ มือสองข้างนี้เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์!” สิ้นเสียงที่เย็นชา ฟันกระบี่ออกไปฉึก…ตรงข้อมือ เลือดพุ่งกระฉูด เส้นเอ็นสีขาวที่เปื้อนเลือดถูกตัดจนขาดมือสองข้างของนางห้อยลงทันที และสูญเสียความรู้สึก ไม่ว่านางจะออกแรงอย่างไร สิบนิ้วก็ไม่ขยับ ฝ่ามือทั้งสองข้างก็ใช้งานไม่ได้แล้ว“มือของข้า…อ๊า!”นางกลายเป็นคนพิการแล้ว!ไม่!องค์หญิงแห่งแคว้นหนานยวน จะเป็นคนพิการได้อย
นางโมโหจนตาแดง ใช้มือผลักอย่างแรงจนคนล้มโดยตรง “เจ้าไม่รู้สึกผิดเลย ทำเรื่องชั่วช้ามากมาย ยังทำเหมือนว่าตัวเองมีเหตุผล ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ความสัมพันธ์แม่ลูกสิบเจ็ดปีของพวกเรา จบลงเพียงเท่านี้!”“เสด็จแม่!”จวินลั่วยวนเบิกตากว้าง รีบกระโจนเข้าไป คว้าชายกระโปรงของฮองเฮาหนานยวน “เสด็จแม่ อย่านะ!”นางจะเป็นองค์หญิง!นางไม่อยากเป็นคุณหนูลูกอนุภรรยาของจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ นางเป็นองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียวของแคว้นหนานยวนนะ!“เสด็จแม่ หม่อมฉันจะเป็นเด็กดี จะกตัญญูต่อท่าน จะทำในสิ่งที่ท่านมีความสุข ความสัมพันธ์สิบเจ็ดปีของพวกเรา บอกจะตัดก็ตัดเลยได้อย่างไร? แม้พวกเราไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด แต่ในใจของหม่อมฉัน เสด็จแม่ก็คือมารดาแท้ๆ ของหม่อมฉัน!”หลักๆ คือตำแหน่งองค์หญิงนางที่เป็นองค์หญิงผู้อรชรอ้อนแอ้น จะลดตัวไปจวนอัครมหาเสนาบดี นับอนุภรรยาคนหนึ่งเป็นแม่ได้อย่างไร?ฮองเฮาหนานยวนมองนางอย่างไร้เยื่อใย“ฮืม การแสดงความกตัญญูต่อข้าของเจ้า ก็คือวางยาพิษข้า ทำให้ข้าเป็นใบ้?”ร่างกายจวินลั่วยวนสั่นสะท้าน เงยหน้าอย่างตะลึง สบตากับดวงตาที่เย็นชาของฮองเฮาหนานยวนนางรู้ความจริงแล้ว…พร