Share

บทที่ 1108

Author: สกุลหยางมีบุตรสาว
พริบตาเดียว ก็ผ่านไปแล้วครึ่งเดือน

ตำหนักเจาหยาง

นี่เป็นวันที่เท่าไรที่ฉู่เชียนหลีถูกขังอยู่ที่นี่ นางจำไม่ได้แล้ว ตั้งแต่เฟิงเจิ้งจื่อเยี่ยมา ทุกๆ วันของนางถูกเติมจนเต็ม

ภายใต้การดูแลอย่างเอาใจใส่ บาดแผลบนแขนของจื่อเยี่ยหายดีแล้ว เจ้าหนูน้อยดูมีชีวิตชีวา ใบหน้าน้อยแดงระเรื่อ ดวงตาสุกใส สดชื่นคึกคัก ร้องอีอาๆ ทุกวัน

จับตรงนี้ ถีบตรงนั้น

ผ้าอ้อมที่เพิ่งเปลี่ยนเสร็จ ถูกเขาถีบจนเบี้ยวเพราะพลิกตัว

“อา!”

เสียงทั้งดังทั้งสดใส

เมื่อฉู่เชียนหลีที่อ่านตำราแพทย์ข้างเปลโยกได้ยินเสียง เงยหน้ามองไป ก็หน้าบึ้งทันที

“เหตุใดถีบอีกแล้ว?”

ทำได้เพียงเก็บตำราแพทย์ สวมผ้าอ้อมให้ดี หยิกแก้มเขาเบาๆ

“เพิ่งกินอิ่ม ห้ามขยับมั่ว เดี๋ยวจะอาเจียนนมนะ รู้หรือไม่?” เสียงดุเหมือนกำลังขู่

จื่อเยี่ยน้อยกระพริบดวงตาที่สุกใสคู่นั้น มองนางอย่างมีชีวิตชีวา แสยะปากน้อยๆ หัวเราะคิกคัก

ฉู่เชียนหลีเพิ่งนั่งลง หยิบตำราแพทย์ขึ้นมาก็ได้ยิน

“อา!”

เสียงดังขึ้น

เจ้าหนูน้อยดึงผ้าอ้อมออก

นาง “...”

ถือว่านางเข้าใจแล้ว เจ้าเด็กน้อยคนนี้ไม่อยากให้นางอ่านตำรา จงใจแกล้งนาง อยากให้หนังเล่นด้วย

ตีด่าก็ทำไม่ลง ทำได้เพียงถอน
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1109

    ทหารรักษาพระองค์คนนี้ถอยออกไป เพิ่งพลบค่ำ เฟิงเจิ้งหลีก็มาแล้วฝีเท้าของเขาเร่งรีบ และยังดีใจเล็กน้อย เดินปรี่เข้าไปในห้อง ประโยคแรกก็ถามอย่างสุขใจ“ทหารบอกว่าเจ้าคิดถึงข้าแล้ว?”“?”นางให้ทหารรักษาพระองค์คนนั้นหาวิธี คิดไม่ถึงว่าจะเป็นวิธีแย่ๆ เช่นนี้…นางไม่ได้ปฏิเสธ “ช่วงนี้ยุ่งมากเลยหรือ?”เฟิงเจิ้งหลีเข้าห้อง “นิดหน่อย”นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย“สีหน้าเจ้าดูไม่ดีนัก ไม่ได้พักผ่อนเลยกระมัง? มีเรื่องอะไรต้องยุ่งทั้งวันทั้งคืนเช่นนี้? ถ้าหากเหนื่อยจนล้มป่วย แผ่นดินที่กว้างใหญ่นี้ ก็ตกไปเป็นของคนอื่นแล้ว”เฟิงเจิ้งหลีหัวเราะพลางส่ายศีรษะมีแต่นางที่กล้าพูดเช่นนี้กับเขาใจกล้า ตรงไปตรงมา และยังประชดประชันเขา ล่วงเกินเขาอย่างไม่เกรงใจเขา แต่เขาดันชอบนางที่เป็นเช่นนี้ช่วงนี้ยุ่งมากจริงๆหลังจากเฟิงเย่เสวียนไปถึงที่ศักดินาในเขตเจียงหนาน วาดเขตแดน ตั้งตนเป็นกษัตริย์ เกณฑ์ทหารเข้ากองทัพ แบ่งดินแดนของแคว้นตงหลิงไปครึ่งหนึ่ง เขากำลังจัดการเรื่องนี้ ชั่วขณะยากที่จะได้ผลลัพธ์“รอผ่านช่วงนี้แล้ว ข้ามาหาเจ้าทุกวัน”ฉู่เชียนหลีเงยหน้า “ฟังที่เจ้าพูด คือตั้งใจจะขังข้าไว้ที่นี

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1110

    เฟิงเจิ้งหลีมาแค่สองเค่อ ก็ไปที่ห้องทรงพระอักษรอย่างเร่งรีบแล้ว เหมือนมีเรื่องเร่งด่วนอะไรบางอย่างฉู่เชียนหลีที่ได้รับอิสรภาพในที่สุด ก้าวออกจากตำหนักเจาหยางอย่างแทบรอไม่ไหวผ่านไปครึ่งเดือน ตอนที่ออกมาเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้งอากาศที่บริสุทธิ์ยังคงสดชื่นฉู่เชียนหลีอุ้มจื่อเยี่ย เตรียมไปเยี่ยมไท่ซ่างหวง เพิ่งเดินออกจากประตูตำหนัก ก็ถูกทหารรักษาพระองค์แปดนายติดตามนางไปที่ไหน พวกเขาไปที่นั่นนางเดินเร็ว พวกเขาก็เดินเร็ว นางเดินช้า พวกเขาก็เดินช้า รักษาระยะห่างไว้ที่สามเมตรตลอดฉู่เชียนหลีนิ่งไปครู่หนึ่งตอนแรกคิดว่าเฟิงเจิ้งหลีรู้สึกผิด ในที่สุดก็ยอมปล่อยนางออกมา ที่แท้แค่เปลี่ยนวิธีจับตาดูนาง แต่ก็ดี สามารถออกมาเดินเล่น อย่างไรก็ดีกว่าถูกขังอยู่ในตำหนักเจาหยางตลอดเวลาไม่คอยท่า นางรีบไปอย่างที่พักของไท่ซ่างหวงทันทีที่นี่ก็ถูกทหารรักษาพระองค์เฝ้าอย่างแน่นหนา เหมือนกับเป็นคุกที่หรูหราแห่งหนึ่ง“พระชายาอ๋องเฉิน ท่านมาแล้ว…”ไม่ได้เจอกันหลายวัน ขมับทั้งสองข้างของเต๋อฝูกลายเป็นสีขาว สีหน้าซีดเซียว เหมือนแก่ขึ้นสิบปี แม้แต่หลังก็คร่อมแล้วเมื่อเห็นฉู่เชียนหลี เต๋อฝูน้ำตาคลอเ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1111

    ห้องทรงพระอักษรเฟิงเจิ้งหลีมาอย่างรีบร้อน เพราะมีรายงานสงครามล่าสุดถูกส่งมาจากเมืองที่อยู่ห่างออกไปหลายลี้ ครึ่งเดือนมานี้ เขากับเฟิงเย่เสวียนประกาศสงครามกัน เฟิงเย่เสวียนรวบรวมกำลังทหาร บุกพิชิตเมือง เตรียมพร้อมข้ามแม่น้ำอูหลาน โจมตีดินแดนในปกครองของเขาตลอดเวลาสถานการณ์ตึงเครียดแม่ทัพกล่าวรายงาน“ฝ่าบาท ในเวลาสั้นๆ ห้าวัน โจรกบฏเฟิงเย่เสวียนบุกตีสองเมืองติดต่อกัน ยังไม่มีท่าทีที่จะหยุด ตามแนวโน้มการเดินทัพของเขา อีกไม่กี่วันก็จะบุกถึงเมืองเทียนสู่พ่ะย่ะค่ะ!”เมืองเทียนสู่ เป็นเมืองที่สำคัญที่สุดของแคว้นตงหลิงมันตั้งอยู่บนเส้นทางสายหลักที่อยู่ตรงกลางสุดของแคว้นตงหลิง ซึ่งทะลุผ่านทั้งแคว้น และเชื่อมโยงเศรษฐกิจทั้งแคว้นเข้าด้วยกัน เป็นสถานที่สำคัญสำหรับการรวมตัวของเหล่าพ่อค้าและการพัฒนาเศรษฐกิจถ้าหากเสียเมืองแห่งนี้ เศรษฐกิจของแคว้นตงหลิงจะซบเซาลงครึ่งหนึ่งและเมื่อไม่มีการสนับสนุนทางเศรษฐกิจ จะมีเงินทำสงครามได้อย่างไร?จุดประสงค์ของเฟิงเย่เสวียนนั่นชัดเจนมาก ถ้าไม่ลงมือก็ไม่ทำอะไรเลย แต่เมื่อไรที่ลงมือแล้ว ก็โจมตีจุดสำคัญโดยตรงเฟิงเจิ้งหลีขมวดคิ้ว “จะเสียเมืองนี้ไม่ได้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1112

    เวลานี้ห่างออกไปพันลี้ ดินแดนเจียงหนาน สี่ฤดูดั่งวสันตฤดู  สภาพอากาศอบอุ่น เป็นสถานที่อยู่อาศัยและพักผ่อนชั้นเยี่ยม เจียงหนานทำเนียบมีการเฝ้าอย่างแน่นหนา คนแปลกหน้าห้ามเข้าใกล้ เหล่าทหารสวมชุดเกราะ อาวุธครบมือ เฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา มีคนวิ่งเข้าวิ่งออกเป็นระยะ แม้แต่ในอากาศก็เต็มไปด้วยอารมณ์ของความกดดันและเคร่งขรึม ภายในห้องหนังสือภาพแผนที่แคว้นตงหลิงติดอยู่บนกำแพง บนนั้นถูกทำเครื่องหมาย วาดวงกลม ปักธงเล็กๆ และอื่นๆหลายเส้นทาง สองมือเฟิงเย่เสวียนยันอยู่บนโต๊ะ กำลังอธิบายแผนการเดินทัพครั้งต่อไปอย่างเป็นระเบียบมีคนนั่งจนเต็มทั้งสองด้านของโต๊ะยาว พวกเขาตั้งใจฟัง พยักหน้าเป็นระยะ“รวบรวมกำลังทหารพร้อมแล้ว พวกเราจะโจมตีเมืองเทียนสู่เมื่อไร?” ผู้ว่าการเจียงหนานถาม“ผู้คนในเมืองเทียนสู่ล้วนเป็นราษฎรของแคว้นเรา เพื่อลดความเสียหายให้ได้มากที่สุด ข้าขอแนะนำให้เจรจาก่อน แล้วค่อยโจมตี” จิ่งอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมคนของสำนักอู๋จี๋ก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน ทุกคนช่วยกันออกแรงหานอิ๋งกล่าว“ตลอดทางที่ฝ่ามา พวกเราอยากใช้วิธีที่สันติ แต่เฟิงเจิ้งหลียอมหรือ? เขาไม่เพียงไม่ยอม และยังใช

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1

    ณ จวนอ๋องเฉิน แคว้นตงหลิง “สารเลว!” “โอ๊ย!”เสียงตวาดแผดขึ้น ร่างผอมบางร่างหนึ่งถูกถีบจนกระเด็นเข้าชนกับเสาที่ผนัง ก่อนกระแทกกับพื้นอย่างแรง ปิ่นเงินร่วงลง เส้นผมสีดำกระจายลงบนพื้นเจ็บ...เจ็บจัง...เธอเพิ่งเสร็จสิ้นการผ่าตัดใหญ่ที่นานถึงสามสิบแปดชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก พอออกมาจากห้องผ่าตัดก็หมดสติล้มลงกับพื้น แต่ทำไมตัวเธอถึงได้เจ็บขนาดนี้นะ?จากนั้น ความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยกลุ่มหนึ่งก็เบียดเข้ามาในหัวสมองและฉายให้เห็นอย่างรวดเร็ว ฉู่เชียนหลี คุณหนูสี่ผู้ไม่เป็นที่ชื่นชอบของจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ ใบหน้าอัปลักษณ์ไร้ซึ่งความงาม นางแต่งเข้าจวนเฉินอ๋องเมื่อสามเดือนก่อน ไม่เคยได้รับความชื่นและต้องอยู่ลำพังในห้องว่างเปล่าเรื่อยมาวันนี้อ๋องเฉินรับอนุภรรยา นางถูกเรียกให้มาปรนนิบัติอนุภรรยา แต่เพราะพลั้งเผลอปัดน้ำชาหกไปลวกถูกอีกฝ่าย จึงถูกอ๋องเฉินถีบจนตายในคราวเดียว!เป็นผู้ชายที่โหดจริงๆ!แต่ในเมื่อมาแล้ว ก็ทำใจอยู่อย่างสงบเสียฉู่เชียนหลีรับเรื่องราวต่างๆ เข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว ฝืนทนความเจ็บปวด เงยหน้าขึ้นมาห้องหอที่ประดับตกแต่งด้วยสีแดงแห่งงานมงคล ชายหญิงในชุดแต่งงานคู่หนึ่งอย

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 2

    เซียวจือฮว่าตกตะลึง “เฉิน…”มิใช่ว่าเขารังเกียจฉู่เชียนหลีเป็นที่สุด ซ้ำยังบอกว่าจะยกตำแหน่งชายาเอกให้นางหรอกหรือ? เห็นอยู่ว่าหนังสือหย่าเขียนจวนจะเสร็จอยู่แล้ว แต่จู่ๆ กลับไม่หย่ากับนาง?ฉู่เชียนหลีเองก็รู้สึกแปลกใจ หากเขาไม่หย่ากับนาง แล้วนางจะได้ท่องเที่ยวในยุคโบราณอย่างสบายอุราและเที่ยวเล่นอย่างมีความสุขได้อย่างไร?“ท่านอ๋อง ข้ามีความผิดนี่!” นางโผเข้าไปกอดต้นขาของชายหนุ่ม เอ่ยประหนึ่งใจแทบขาด “สามเดือนก่อน ข้าวางยาท่าน บีบให้ท่านแต่งกับข้า ข้าผิดหลักคุณธรรม”“เมื่อครู่ ก็จงใจปัดน้ำชาร้อนไปลวกถูกน้องเซียวอีก จิตใจคับแคบนัก”“สตรีที่ใจแคบเช่นไส้ไก่ เจ้าเล่ห์เพทุบายเช่นข้า ไม่มีหน้าจะรั้งตำแหน่งชายาอ๋องเฉินจริงๆ ขอท่านอ๋องให้ผู้ล้ำเลิศกว่ามาแทนที่เถิด!”ภายในใจ 'ผู้ชายบ้า รีบหย่าฉันเร็วๆ ฉันมาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด อยู่มานานกว่านายตั้งหลายพันปี ไอ้เด็กรุ่นกระเตาะที่ขนยังขึ้นไม่หมดอย่างนาย มีสิทธิ์อะไรจะแต่งกับฉัน?'รู้แต่แรก สิบปีก่อนฉันก็จะไม่ช่วยชีวิตนาย ให้นายจมน้ำตายไปเลยก็ดี!เฟิงเย่เสวียนปรี่เข้าไปกุมคอเสื้อนาง “เมื่อครู่เจ้ากล่าวสิ่งใด?”คนที่ช่วยชีวิตเขาเมื่อสิบปีก่

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 3

    ในเรือนหลังเล็กโกโรโกโสสาวใช้เยว่เอ๋อร์กำลังเดินวนเวียนไปมา สองมือกำแน่นอย่างกระวนกระวายใจ และคอยชะเง้อมองข้างนอกตลอดเวลา ยามเห็นร่างที่คุ้นเคยนั้น นางก็พุ่งตัวออกไปทันใด“พระชายา!”นางรีบปรี่เข้าไปกุมมือสองของฉู่เชียนหลี ก่อนตรวจดูทั้งบนล่างซ้ายขวาหน้าหลัง “พระชายา เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” ท่านอ๋องไม่ได้ทำให้ท่านลำบากใช่หรือไม่เจ้าคะ? พระชายารองเซียวนั่นรังแกท่านหรือไม่เจ้าคะ? พวกเขาเรียกท่านไปทำสิ่งใดเจ้าคะ?”ฉู่เชียนหลีกะพริบตาเยว่เอ๋อร์เป็นสาวใช้ที่ปรนนิบัตินางมาสิบปีแล้ว เติบโตมาพร้อมกับนางตั้งแต่เล็ก สนิทกันดังพี่สาวน้องสาวนางส่ายหัวพลางผลักประตูเข้าไปในห้อง เรื่องแรกที่ทำก็คือปรี่เข้าไปที่โต๊ะแต่งหน้า และคว้าเอากระจกทองเหลืองแสนเก่าเขรอะขนาดเท่าฝ่ามืออี๋...น่าเกลียดชะมัด!แม้จะทำใจมาแล้ว แต่เมื่อได้เห็นใบหน้านี้ นางก็ยังต้องตกใจกับตัวเองภาพสะท้อนในกระจกทองเหลืองนั้น ครึ่งหน้าของสตรีหยาบขรุขระ เหมือนถูกเผาด้วยไฟร้อน ผิวหนังยู่ย่น อัปลักษณ์น่าตกใจกลัว เหมือนปีศาจไม่มีผิด ใครพบเห็นเข้า ตกกลางคืนต้องมีอันฝันร้ายเยว่เอ๋อร์กังวลว่าพระชายาจะน้อยเนื้อต่ำใจจึงรีบดึงกระจกท

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 4

    ยามมีคนประคอง ราศีของเซียวจือฮว่ายิ่งดีสูงส่งอย่างเห็นได้ชัด ร่างขาวนวลอ้อนแอ้นบอบบางอรชร ก้าวย่างทีละน้อย ให้ความรู้สึกบอบบางจนแทบจะล้มไปตามลมเมื่อสาวใช้เงยหน้าขึ้นเห็นว่าฉู่เชียนหลียังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับแม้สักนิดราวกับมองไม่เห็นก็อดโมโหไม่ได้พระชายานี่ตาบอด ไม่รู้จักออกมาต้อนรับสักหน่อยรึ?“พี่หญิง...” เซียวจือฮว่าเดินเข้ามาเห็นว่าฉู่เชียนหลีกำลังกินซาลาเปา ที่พำนักผุพังก็รู้สึกปวดใจจนตาแดงก่ำขึ้นทันที “เหตุได้ท่านจึงอยู่ในสถานที่ชนิดนี้ นี่หาใช่ที่สำหรับคนอยู่...”“ไว้ข้ากลับไปจะต้องบอกกับเฉินสักหน่อย”น้ำเสียงนั้น ถ้อยคำเช่นนั้น ราวกับว่านางต่างหากที่เป็นนายหญิงของจวนแห่งนี้ ส่วนฉู่เชียนหลีก็เป็นแค่เด็กสาวบ้านป่าผู้หนึ่งเท่านั้นฉู่เชียนหลีปรายตามองนางเรียบๆ กัดซาลาเปาคำหนึ่ง “ เจ้ามาทำไม?”เมื่อสตรีผู้นี้ปรากฏตัว แน่นอนว่าต้องไม่ได้มาด้วยเจตนาดีก่อนนี้ เจ้าของเดิมของร่างนี้รักใคร่เฉินหวังอย่างล้ำลึก แต่เมื่อใดที่เซียวจือฮว่า ปรากฏตัว พอนางทำตาแดงๆ คราวหนึ่ง เบะปากคราวหนึ่ง ไม่ก็หลั่งน้ำตาครึ่งหยด ถ้านางไม่ถูกถีบกระเด็น ก็ถูกทุบตีอย่างทารุณยกหนึ่งพอเสร็จเรื่อง สตร

Latest chapter

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1112

    เวลานี้ห่างออกไปพันลี้ ดินแดนเจียงหนาน สี่ฤดูดั่งวสันตฤดู  สภาพอากาศอบอุ่น เป็นสถานที่อยู่อาศัยและพักผ่อนชั้นเยี่ยม เจียงหนานทำเนียบมีการเฝ้าอย่างแน่นหนา คนแปลกหน้าห้ามเข้าใกล้ เหล่าทหารสวมชุดเกราะ อาวุธครบมือ เฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา มีคนวิ่งเข้าวิ่งออกเป็นระยะ แม้แต่ในอากาศก็เต็มไปด้วยอารมณ์ของความกดดันและเคร่งขรึม ภายในห้องหนังสือภาพแผนที่แคว้นตงหลิงติดอยู่บนกำแพง บนนั้นถูกทำเครื่องหมาย วาดวงกลม ปักธงเล็กๆ และอื่นๆหลายเส้นทาง สองมือเฟิงเย่เสวียนยันอยู่บนโต๊ะ กำลังอธิบายแผนการเดินทัพครั้งต่อไปอย่างเป็นระเบียบมีคนนั่งจนเต็มทั้งสองด้านของโต๊ะยาว พวกเขาตั้งใจฟัง พยักหน้าเป็นระยะ“รวบรวมกำลังทหารพร้อมแล้ว พวกเราจะโจมตีเมืองเทียนสู่เมื่อไร?” ผู้ว่าการเจียงหนานถาม“ผู้คนในเมืองเทียนสู่ล้วนเป็นราษฎรของแคว้นเรา เพื่อลดความเสียหายให้ได้มากที่สุด ข้าขอแนะนำให้เจรจาก่อน แล้วค่อยโจมตี” จิ่งอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมคนของสำนักอู๋จี๋ก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน ทุกคนช่วยกันออกแรงหานอิ๋งกล่าว“ตลอดทางที่ฝ่ามา พวกเราอยากใช้วิธีที่สันติ แต่เฟิงเจิ้งหลียอมหรือ? เขาไม่เพียงไม่ยอม และยังใช

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1111

    ห้องทรงพระอักษรเฟิงเจิ้งหลีมาอย่างรีบร้อน เพราะมีรายงานสงครามล่าสุดถูกส่งมาจากเมืองที่อยู่ห่างออกไปหลายลี้ ครึ่งเดือนมานี้ เขากับเฟิงเย่เสวียนประกาศสงครามกัน เฟิงเย่เสวียนรวบรวมกำลังทหาร บุกพิชิตเมือง เตรียมพร้อมข้ามแม่น้ำอูหลาน โจมตีดินแดนในปกครองของเขาตลอดเวลาสถานการณ์ตึงเครียดแม่ทัพกล่าวรายงาน“ฝ่าบาท ในเวลาสั้นๆ ห้าวัน โจรกบฏเฟิงเย่เสวียนบุกตีสองเมืองติดต่อกัน ยังไม่มีท่าทีที่จะหยุด ตามแนวโน้มการเดินทัพของเขา อีกไม่กี่วันก็จะบุกถึงเมืองเทียนสู่พ่ะย่ะค่ะ!”เมืองเทียนสู่ เป็นเมืองที่สำคัญที่สุดของแคว้นตงหลิงมันตั้งอยู่บนเส้นทางสายหลักที่อยู่ตรงกลางสุดของแคว้นตงหลิง ซึ่งทะลุผ่านทั้งแคว้น และเชื่อมโยงเศรษฐกิจทั้งแคว้นเข้าด้วยกัน เป็นสถานที่สำคัญสำหรับการรวมตัวของเหล่าพ่อค้าและการพัฒนาเศรษฐกิจถ้าหากเสียเมืองแห่งนี้ เศรษฐกิจของแคว้นตงหลิงจะซบเซาลงครึ่งหนึ่งและเมื่อไม่มีการสนับสนุนทางเศรษฐกิจ จะมีเงินทำสงครามได้อย่างไร?จุดประสงค์ของเฟิงเย่เสวียนนั่นชัดเจนมาก ถ้าไม่ลงมือก็ไม่ทำอะไรเลย แต่เมื่อไรที่ลงมือแล้ว ก็โจมตีจุดสำคัญโดยตรงเฟิงเจิ้งหลีขมวดคิ้ว “จะเสียเมืองนี้ไม่ได้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1110

    เฟิงเจิ้งหลีมาแค่สองเค่อ ก็ไปที่ห้องทรงพระอักษรอย่างเร่งรีบแล้ว เหมือนมีเรื่องเร่งด่วนอะไรบางอย่างฉู่เชียนหลีที่ได้รับอิสรภาพในที่สุด ก้าวออกจากตำหนักเจาหยางอย่างแทบรอไม่ไหวผ่านไปครึ่งเดือน ตอนที่ออกมาเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้งอากาศที่บริสุทธิ์ยังคงสดชื่นฉู่เชียนหลีอุ้มจื่อเยี่ย เตรียมไปเยี่ยมไท่ซ่างหวง เพิ่งเดินออกจากประตูตำหนัก ก็ถูกทหารรักษาพระองค์แปดนายติดตามนางไปที่ไหน พวกเขาไปที่นั่นนางเดินเร็ว พวกเขาก็เดินเร็ว นางเดินช้า พวกเขาก็เดินช้า รักษาระยะห่างไว้ที่สามเมตรตลอดฉู่เชียนหลีนิ่งไปครู่หนึ่งตอนแรกคิดว่าเฟิงเจิ้งหลีรู้สึกผิด ในที่สุดก็ยอมปล่อยนางออกมา ที่แท้แค่เปลี่ยนวิธีจับตาดูนาง แต่ก็ดี สามารถออกมาเดินเล่น อย่างไรก็ดีกว่าถูกขังอยู่ในตำหนักเจาหยางตลอดเวลาไม่คอยท่า นางรีบไปอย่างที่พักของไท่ซ่างหวงทันทีที่นี่ก็ถูกทหารรักษาพระองค์เฝ้าอย่างแน่นหนา เหมือนกับเป็นคุกที่หรูหราแห่งหนึ่ง“พระชายาอ๋องเฉิน ท่านมาแล้ว…”ไม่ได้เจอกันหลายวัน ขมับทั้งสองข้างของเต๋อฝูกลายเป็นสีขาว สีหน้าซีดเซียว เหมือนแก่ขึ้นสิบปี แม้แต่หลังก็คร่อมแล้วเมื่อเห็นฉู่เชียนหลี เต๋อฝูน้ำตาคลอเ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1109

    ทหารรักษาพระองค์คนนี้ถอยออกไป เพิ่งพลบค่ำ เฟิงเจิ้งหลีก็มาแล้วฝีเท้าของเขาเร่งรีบ และยังดีใจเล็กน้อย เดินปรี่เข้าไปในห้อง ประโยคแรกก็ถามอย่างสุขใจ“ทหารบอกว่าเจ้าคิดถึงข้าแล้ว?”“?”นางให้ทหารรักษาพระองค์คนนั้นหาวิธี คิดไม่ถึงว่าจะเป็นวิธีแย่ๆ เช่นนี้…นางไม่ได้ปฏิเสธ “ช่วงนี้ยุ่งมากเลยหรือ?”เฟิงเจิ้งหลีเข้าห้อง “นิดหน่อย”นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย“สีหน้าเจ้าดูไม่ดีนัก ไม่ได้พักผ่อนเลยกระมัง? มีเรื่องอะไรต้องยุ่งทั้งวันทั้งคืนเช่นนี้? ถ้าหากเหนื่อยจนล้มป่วย แผ่นดินที่กว้างใหญ่นี้ ก็ตกไปเป็นของคนอื่นแล้ว”เฟิงเจิ้งหลีหัวเราะพลางส่ายศีรษะมีแต่นางที่กล้าพูดเช่นนี้กับเขาใจกล้า ตรงไปตรงมา และยังประชดประชันเขา ล่วงเกินเขาอย่างไม่เกรงใจเขา แต่เขาดันชอบนางที่เป็นเช่นนี้ช่วงนี้ยุ่งมากจริงๆหลังจากเฟิงเย่เสวียนไปถึงที่ศักดินาในเขตเจียงหนาน วาดเขตแดน ตั้งตนเป็นกษัตริย์ เกณฑ์ทหารเข้ากองทัพ แบ่งดินแดนของแคว้นตงหลิงไปครึ่งหนึ่ง เขากำลังจัดการเรื่องนี้ ชั่วขณะยากที่จะได้ผลลัพธ์“รอผ่านช่วงนี้แล้ว ข้ามาหาเจ้าทุกวัน”ฉู่เชียนหลีเงยหน้า “ฟังที่เจ้าพูด คือตั้งใจจะขังข้าไว้ที่นี

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1108

    พริบตาเดียว ก็ผ่านไปแล้วครึ่งเดือนตำหนักเจาหยางนี่เป็นวันที่เท่าไรที่ฉู่เชียนหลีถูกขังอยู่ที่นี่ นางจำไม่ได้แล้ว ตั้งแต่เฟิงเจิ้งจื่อเยี่ยมา ทุกๆ วันของนางถูกเติมจนเต็มภายใต้การดูแลอย่างเอาใจใส่ บาดแผลบนแขนของจื่อเยี่ยหายดีแล้ว เจ้าหนูน้อยดูมีชีวิตชีวา ใบหน้าน้อยแดงระเรื่อ ดวงตาสุกใส สดชื่นคึกคัก ร้องอีอาๆ ทุกวันจับตรงนี้ ถีบตรงนั้นผ้าอ้อมที่เพิ่งเปลี่ยนเสร็จ ถูกเขาถีบจนเบี้ยวเพราะพลิกตัว“อา!”เสียงทั้งดังทั้งสดใสเมื่อฉู่เชียนหลีที่อ่านตำราแพทย์ข้างเปลโยกได้ยินเสียง เงยหน้ามองไป ก็หน้าบึ้งทันที“เหตุใดถีบอีกแล้ว?”ทำได้เพียงเก็บตำราแพทย์ สวมผ้าอ้อมให้ดี หยิกแก้มเขาเบาๆ“เพิ่งกินอิ่ม ห้ามขยับมั่ว เดี๋ยวจะอาเจียนนมนะ รู้หรือไม่?” เสียงดุเหมือนกำลังขู่จื่อเยี่ยน้อยกระพริบดวงตาที่สุกใสคู่นั้น มองนางอย่างมีชีวิตชีวา แสยะปากน้อยๆ หัวเราะคิกคักฉู่เชียนหลีเพิ่งนั่งลง หยิบตำราแพทย์ขึ้นมาก็ได้ยิน“อา!”เสียงดังขึ้นเจ้าหนูน้อยดึงผ้าอ้อมออกนาง “...”ถือว่านางเข้าใจแล้ว เจ้าเด็กน้อยคนนี้ไม่อยากให้นางอ่านตำรา จงใจแกล้งนาง อยากให้หนังเล่นด้วยตีด่าก็ทำไม่ลง ทำได้เพียงถอน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1107

    “เป็นไปไม่ได้ที่เฟิงเย่เสวียนจะไม่ข้ามแม่น้ำ นอกเสียจากเขาติดปีกบินข้ามไป!”คำพูดของเฟิงเจิ้งหลีเพิ่งสิ้นเสียง ก็มองเห็นร่างกายของทหารคนนั้นสั่น สายตาของเขาเย็นลงทันที พลันกระชากคอเสื้อของเขา“เจ้ากำลังโกหก!”ทหารตกใจจนหน้าซีด“ฝ่า ฝ่าบาท…”“พูด เกิดอะไรขึ้นกันแน่!” เขาตวาดอย่างเย็นชา“กระหม่อม กระหม่อม…กระหม่อม…” ทหารอ้ำอึ้ง เห็นได้ชัดว่าเป็นอาการร้อนตัว มีบางอย่างปิดบังเมื่อเห็นฮ่องเต้พิโรธ รู้ว่าปิดไม่อยู่แล้ว เขากลัวจนยอมพูดสิ่งที่เกิดขึ้น“กระหม่อมพูด! ในคืนเมื่อสามวันก่อน อ๋องเฉินพยายามบุกข้ามสะพาน รถม้าพลั้งตกลงไปในแม่น้ำอูหลาน แม่ทัพหลี่บอกว่าเป็นต้องเห็นคน ตายต้องเห็นศพ ตอนนี้กำลังกู้ศพ เตรียมนำศพของอ๋องเฉินกลับมา ค่อยสารภาพกับพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”“อะไรนะ!” อูหนูอุทานด้วยนิสัยของอ๋องเฉิน จะทำผิดพลาดเรื่องโง่ๆ อย่างรถม้าตกแม่น้ำได้อย่างไร?นางรีบถามต่อทันที“พวกเจ้าเห็นอ๋องเฉินตกแม่น้ำกับตาตัวเองหรือไม่?”คำถามนี้ทำเอาทหารตะลึงโดยตรง“ไม่ ไม่เห็น…คืนนั้น อ๋องเฉินอยู่ในรถม้าตลอด ไม่พูด ไม่แสดงตัว…”เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เขาเข้าใจอะไรบางอย่างทันที หน้าซีดเหมือนกับคนตา

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1106

    “ฝ่าบาท…”ฉู่เจียวเจียวเสียงอ่อน ข่มความโกรธลงไป เดินเข้าไปแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “พระองค์เพิ่งขึ้นครองราชย์ มีเรื่องมากมายต้องทำ เรื่องของผู้หญิงในวังหลัง ให้หม่อมฉันดูแลเองเพคะ”ท่าทางของนางอ่อนโยนเอาใจใส่ วางมาดเหมือนเป็นภรรยาที่รู้หน้าที่เฟิงเจิ้งหลีมองนางอย่างเย็นชา“ให้เจ้าดูแล? แน่ใจหรือว่าไม่ใช่ช่วยจนยุ่ง ทำให้เรายิ่งต้องหนักใจ?”“...”นางก็แค่ให้ฉู่เชียนหลีอดอาหารสามวันไม่ใช่หรือ?ไม่ได้กินข้าวสามวัน ไม่ตายสักหน่อย ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้นางกลับปวดใจฉู่เชียนหลีจนมาถามนาง?ฉู่เจียวเจียวโกรธมาก มือสองข้างก็กำจนแน่นแล้ว เล็บมือจิกเข้าไปในฝ่ามือ กล่าวเสียงเย็น“ฉู่เชียนหลีคือภรรยาของผู้กระทำความผิด ไม่ฆ่านางก็ถือว่าเป็นบุญมากแล้ว หรือยังจะเลี้ยงนางไว้ในวัง ยกย่องให้เป็นแขกคนสำคัญ?”สายตาเฟิงเจิ้งหลีเย็นชา “ภรรยาผู้กระทำความผิด”“นางเป็นภรรยาผู้กระทำความผิดตั้งแต่เมื่อไร? เฟิงเย่เสวียนเขียนหนังสือปลดแล้ว นางเป็นเพียงพระชายาที่ถูกปลด เกี่ยวอะไรกับเฟิงเย่เสวียน? ฉู่เจียวเจียว ระวังคำพูดของเจ้า!”ฉู่เจียวเจียวสะอึกทันที“หม่อมฉัน…”“อีกอย่าง ฉู่เชียนหลียังมีประโยชน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1105

    สิ่งที่เขาต้องการนั้นง่ายมากทุกวันหลังทำงานเสร็จ เมื่อกลับถึงห้อง เห็นนางเลี้ยงลูก เล่นกับลูก นางหัวเราะ พวกเขาทั้งครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า อบอุ่นเหมือนภาพวาดนางนั่งอยู่ตรงหน้าเขานี้เอง เขาเหมือนอยู่ใกล้นางมาก แต่ก็เหมือนอยู่ไกลเกินกว่าจะเอื้อมสายตาของเขาลึกซึ้ง เข้าใกล้นางโดยไม่รู้ตัว จับคางของนางเบาๆฉู่เชียนหลีชะงักเล็กน้อย กำลังจะส่ายศีรษะ“ยังอุ้มเด็กไว้ อย่าขยับ” เขากล่าว ขณะเดียวกันก็ควักยาที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกมาก้อนเล็กๆ ทาลงบนแก้มของนางนิ้วมือนวดเบาๆ อ่อนโยนมากท่าทางที่ระมัดระวังนั่น เหมือนกำลังปฏิบัติต่อสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่งฉู่เชียนหลีหลุบตาลง ปล่อยให้เขาทำต่อไปเขากล่าว“ต่อไป ไม่มีใครสามารถรังแกเจ้าได้อีก”“ฉู่เจียวเจียวจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าอีก”“จำไว้ว่าวันข้างหน้าเจอเรื่องอะไรให้บอกข้า ข้าคือที่พึ่งของเจ้า เจ้าสามารถเชื่อใจข้าโดยไม่มีเงื่อนไข”“แค่เจ้าขมวดคิ้วทีหนึ่ง ข้าก็ไม่มีความสุขแล้ว เจ้าเข้าใจหรือไม่?”เขาถอนหายใจเบาๆ ซ่อนความรักและความอ่อนโยนทั้งหมดของตัวเองไว้ในนั้นหลังจากผ่านไปธูปครึ่งก้านทายาเสร็จก็ปล่อยนางแล้วในที่สุดฉู่เชียนหล

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1104

    “...”ฉู่เชียนหลีถือว่าเข้าใจความหมายของเขาแล้ว อุ้มเด็กมาขู่นาง“ส่งเด็กมาให้ข้า”เฟิงเจิ้งหลีเดินเข้ามา สะบัดชายเสื้อ แล้วนั่งลงที่ข้างโต๊ะสง่างาม “ข้าบอกแล้ว กินข้าวก่อน”“เจ้า…”“อย่าท้าทายความอดทนของข้า นิสัยของข้าไม่ได้ดีตลอด ครู่ต่อมาอาจเปลี่ยนใจก็ได้”“...”สายตาฉู่เชียนหลีเย็นลง กัดฟันแน่น เหลือบมองเขาอย่างเย็นชาแวบหนึ่งนางมองเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ย แล้วหันไปมองเฟิงเจิ้งหลี ทำได้เพียงเดินไปที่ข้างโต๊ะ ยกข้าวขึ้นมาหนึ่งชาม ก็เริ่มกินอย่างเต็มปากเต็มคำเมื่อเฟิงเจิ้งหลีเห็นแล้ว คิ้วจึงจะคลายออก“ดีมาก”ผู้หญิงที่เชื่อฟัง จึงจะคู่ควรกับความรักของผู้ชาย“ดื่มน้ำแกงหน่อย”ฉู่เชียนหลีไม่อยากคุยกับเขา เอาแต่เขี่ยข้าวใส่ปาก แล้วกลืนลงไปโดยไม่เคี้ยว พลันไม่ระวังสำลักแล้วเขาไม่สบอารมณ์ทันที“รีบอะไร?”เขาพลางตบหลังของนาง พลางรินน้ำให้นางหนึ่งแก้ว “เฟิงเจิ้งจื่อเยี่ยอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่มีใครสามารถแย่งเขาไปได้ เจ้ารีบร้อนอะไร?”นางสำลักจนแก้มแดง ผ่านไปหนึ่งนาทีจึงจะดีขึ้น กล่าว“เจ้าสามารถแย่งไปได้”เขา “...”“เทียบกับใช้คำว่าแย่ง ข้าชอบคำว่าเลี้ยงมากกว่า พวกเราเลี้ยงเขาด้ว

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status