ตอนที่ 48 โรงเตี๊ยมปริศนา [2]“หรือว่านี่คือสิ่งที่ท่านผู้เฒ่านั้นต้องการจะสื่อกับพวกเรากันนะ” เฟยหลงมองตามไปจนเห็นได้ชัดว่าชายคนนั้นเดินหายไปจนลับสายตาออกไปยังอีกด้านของห้องพัก เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเธอจึงขยับตัวเองเดินไปด้านข้างที่เป็นห้องพักของพี่น้องตระกูลเจิงทันที เฟยหลงใช้ใบหูแนบไปกับผนังเพื่อฟังว่าสหายทั้งสองนั้นได้ยินหรือได้เห็นเช่นเดียวกับเธอหรือไม่“ในเวลาเช่นนี้.. ถ้ามีมือถือสักเครื่องก็คงจะดีไม่น้อยเนอะ” เธอบ่นอุบอิบพลางทำหน้าครุ่นคิดหวนนึกถึงมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดเครื่องโปรดที่เพิ่งไปถอยออกมาได้เพียงครึ่งเดือนที่ยังใช้ได้ไม่คุ้ม แต่ก็ทำได้เพียงแค่คิดเท่านั้น หลี่เฟยหลงยังคงเอียงใบหน้าไปใกล้ฝาผนังใช้หูแอบฟังห้องด้านข้างอยู่หลายนาที แต่ไม่ว่าเธอจะตะแคงฟังนานเพียงไหน กลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยแม้แต่น้อย“ถ้าเป็นสองคนนั้นจะได้ยินไหมนะ.. ผนังห้องในยุคสมัยนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะได้มาตรฐาน ไม่น่าจะเก็บเสียงขนาดนั้นแต่ทำไมกลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยละ” เธอยืดตัวมายืนกอดอกครุ่นคิดอยู่อีกนานเกือบนาทีอย่างชั่งใจ แต่เพราะชายผู้นั้นอาจจะเป็นเบาะแสในเรื่องของน้องชายอาเพ่ย และอาจจะเพราะสิ่งนี้ที่ทำใ
ตอนที่ 49 พลาดอีกจนได้ [1]สองพี่น้องเดินหลบร่างไร้วิญญาณ ของเถ้าแก่โรงเตี๊ยมที่นอนจมกองเลือดอย่างน่าอนาถ ดวงตาของเขายังคงเบิกโพลงที่ดูแล้วช่างน่าสยดสยอง สันนิษฐานจิงเจียอวี่ย่อตัวลงด้านข้างศพของเขาใช้ปลายกระบี่ถลกแขนเสื้อของชายผู้นี้ขึ้นเล็กน้อยและก็เป็นอย่างที่ทั้งสองคิด ที่ข้อมือของชายผู้นี้มีสัญลักษณ์รูปประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นจึงสันนิษฐานได้ว่าอาจจะเป็นเครื่องหมายของกลุ่มอื่นที่ร่วมมือกับกลุ่มพยัคฆ์สลายทั้งสองใช้เวลาตรวจสอบศพของชายผู้นี้อีกเล็กน้อยจนเป็นที่พอใจแล้ว สองพี่น้องตระกูลเจิงจึงตัดสินใจที่จะเดินตามชายชุดดำผู้นั้นเข้าไปในถ้ำด้านหลัง“อาอวี่เจ้าไปด้านนั้น ที่นี่อันตรายเกินไป.. ข้าจะเข้าไปด้านในเพียงผู้เดียว” เจิงอวี้เจินสั่งให้น้องชายของเขาไปยืนดูต้นทางอยู่ด้านหน้า เพราะไม่รู้เลยว่าด้านในนั้นจะเกิดอะไรขึ้นและมีคนซ่องสุมกำลังอีกหรือไม่“ถ้าคิดว่าด้านในไม่ปลอดภัย.. พวกเรายิ่งสมควรเข้าไปด้วยกันมากกว่าให้เจ้าเข้าไปคนเดียว.. เจ้าสอนข้าเช่นนี้ไม่ใช่หรือ” บุรุษผู้น้องเอ่ยด้วยใบหน้าที่แสดงออกถึงความหนักแน่นในคำพูด ทำให้พี่ชายเช่นเขาต้องถอนหายใจออกมากับคำพูดนั้น“ได้!” ทั
ตอนที่ 50 พลาดอีกจนได้ [2]“เจ้าทำอะไร! ข้าให้เจ้าหลบมาอยู่หลังข้า.. เจิงเจียอวี่นี่คือคำสั่ง!”“เจ้านั่งให้นิ่งหน่อย! กระบี่ข้าไม่มีตาหากมันออกจากฝักข้าเกรงว่าเจ้าจะรับไม่ไหว” เจียอวี่กำกระบี่ในมือของเขาไว้แน่นแต่เพราะด้านหลังของเขานั้นมีพี่ชายที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งไม่รู้เลยว่ามากน้อยเพียงใดหากเขาใจร้อนวู่วามออกไปอาจเป็นอันตรายได้แสงสว่างจากตะเกียงใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แต่ยังไม่ทันที่คนผู้นั้นจะเดินเข้ามาใกล้ แสงตะเกียงที่สาดเข้ามาพอให้แสงสว่าง ทำให้เจิงอวี้เจินตัดสินใจเบี่ยงตัวเองดึงน้องชายของเขานั้นเข้าไปหลบในซอกหินที่เห็นเพียงเล็กน้อยนั้นชู่ว~“อาอวี้! อาอวี่! พวกเจ้าอยู่ไหนกันอยู่ในนี้หรือไม่” แต่เพราะเสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงที่ทั้งสองคุ้นเคยดี เจียอวี่และอวี้เจินหันมองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างโล่งอกดีใจ แม้จะไม่ค่อยพอใจนักที่เพ่ยเพ่ยเดินเข้ามาในที่อันตรายเช่นนี้ แต่เวลานี้นางเป็นคนเดียวที่จะคลี่คลายสถานการณ์นี้ได้“อาเพ่ย! พวกข้าอยู่ตรงนี้” หลี่เฟยหลงหันตะเกียงนั้นมาตามเสียงทันทีที่ได้ยิน สองเท้าเล็กของเธอก้าวเดินตรงเข้าไปที่สหายทั้งสองที่ซ่อนตัวอยู่ในซอกหลืบ“เกิดอะไรขึ้น..
ตอนที่ 51 ภาพมายา [1]“เป็นอย่างไรบ้างอาเพ่ย” ทันทีที่เฟยหลงเดินออกมานอกห้องพักของพวกเขา เจียอวี่ที่ยืนอยู่หน้าห้องได้เอ่ยถามด้วยความร้อนใจ“หนักเอาการ.. เพราะอาอวี้มีบาดแผลก่อนหน้านั้นที่ข้าทำแผลไว้ให้เกิดอาการอักเสบทำให้มีไข้สูง ตอนนี้ข้าให้กินยาสงบจิตและพักผ่อนแล้ว” เฟยหลงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ สายตาของเธอมองเข้าไปในห้องพักที่เจิงอวี้เจินนั้นนอนอยู่บนเตียงก่อนจะปิดประตูลงอย่างเบามือ“เช่นนั้นให้อาอวี้พักผ่อนไปก่อน” เจียอวี่เดินตามเฟยหลงออกมาด้วยความรู้สึกที่เหมือนจะโล่งใจ แต่ก็ยังโล่งได้ไม่เต็มปอด“อาอวี่.. เมื่อตอนที่ข้าเดินไปตามหาพวกเจ้านั้น ชายที่เสียชีวิตนั้นมิใช่เถ้าแก่โรงเตี๊ยมแห่งนี้งั้นหรือ” ทั้งสองเดินลงมาด้านล่างที่ใช้สายตากวาดมองไปรอบอย่างวิตกในใจ เธอมั่นใจว่าเธอไม่น่าจะจำชายผู้นั้นผิด หากเป็นเช่นนั้นโรงเตี๊ยมแห่งนี้อาจจะมีเบาะแสเกี่ยวกับชายชุดดำ ดีไม่ดีอาจจะมีเบาะแสที่ทำให้ติดตามไปถึงกลุ่มเด็กจาซื่อหลงไห่ที่หายไปรวมถึงเบาะแสของกู่ป๋ายด้วยก็เป็นได้“ใช่” เจียอวี่เองก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกตินี้เช่นกัน ทั้งสองมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะแยกย้ายกันไปเดินสำรวจตามห้องต่าง ๆ
ตอนที่ 52 ภาพมายา [2]“ข้าไม่มีสหายเป็นสตรีนอกจากเจ้า.. สหายของข้าที่หายไปเป็นจิ้งจอกประหลาดตัวผู้นามว่าเสี่ยวจ๋ายเท่านั้น” เจียอวี่ตอบด้วยน้ำเสียงที่ติดจะงุนงงและไม่เข้าใจในคำถามนั้นของเธอ“เป็นเจ้า..” หลี่เฟยหลงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พร้อมมองหน้าสหายอย่างขอโทษ“เจ้าเป็นอะไรกันแน่อาเพ่ย.. หรือว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ เหตุใดเจ้าถึงสงสัยข้าเช่นนี้” เจียอวี่ขยับเข้ามาใกล้เฟฟยหลงด้วยความเป็นห่วง พร้อมทั้งใช้หน้าผากของตนโน้มเข้ามาใกล้ใบหน้าของเธอ แต่ยังไม่ทันที่ใบหน้าทั้งสองจะใกล้กัน เฟยหลงได้ผละใบหน้าของตนเองออกก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่กังวล“เมื่อครู่.. ข้าตามเจ้าลงมาในห้องนี้”“ตามข้า! จะเป็นไปได้อย่างไร”“ก่อนเจ้ามานั้นข้าเห็นว่าเจ้ายืนอยู่ตรงนี้.. พร้อมทั้งยังบอกว่าให้ข้าเดินเข้าไปในประตู” เธอเอ่ยออกมาเสียงเรียบพร้อมทั้งชี้นิ้วไปที่กลางห้องนั้น“ประตู.. ประตูอะไรกันข้าเห็นมีแต่พื้นห้องโล่ง ๆ”“ข้าก็ไม่รู้.. ข้าก็มองไม่เห็น”“เจ้าไม่ได้ป่วยใช่หรือไม่” เจียอวี่เอ่ยถามเธออย่างไม่เข้าใจ เขาใช้มือของตนนั้นแตะไปที่หน้าผากของเธออย่างรวดเร็ว“ข้าไม่ได้เป็นอะไร.. ไม่ได้ป่วย.. อาอวี่
ตอนที่ 53 คาถาลวงใจ“เช่นนั้นเด็กที่เถ้าแก่พูดกับชายชุดดำนั่น.. อาจจะเป็นเด็กที่มาจากหมู่บ้านซื่อหลงไห่ก็เป็นได้” เฟยหลงกวาดสายตามองรอบห้องอีกครั้งอย่างต้องการหาเบาะแส ขอสักนิด.. ขอเบาะแสให้ทั้งสามได้ไปต่ออีกสักนิด เพียงนิดเดียวก็พอและไม่รู้ว่าเพราะคำขอของเธอนั้นได้ผลดีหรือว่าเพราะโลกใบนี้กำลังปลอบโยนเธอให้ได้ไปต่อ ดวงตากลมโตของเธอกวาดมองโดยรอบก่อนจะสะดุดตาเข้ากับโต๊ะตัวหนึ่งที่ดูว่าจะชื้นและเหม็นอับไม่น้อย ใต้โต๊ะตัวนั้นมีเศษกระดาษที่ถูกไฟเผาจนไหม้เกือบหมดปลิวอยู่ใต้นั้นสองเท้าของเธอไม่รอช้าก้าวฉับ ๆ เข้าไปใกล้ย่อตัวหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาดู แม้ว่ามันไหม้จนแทบจะหมด แต่ยังดีที่ยังหลงเหลือเศษเสี้ยวอันน้อยนิดไว้ให้พวกเขาอยู่บ้าง“อาอวี่.. นี่มันหมายความว่าอย่างไร” เพราะเธอไม่เข้าใจสิ่งที่เห็นในเศษกระดาษแผ่นนั้น จึงยื่นมันออกไปให้สหายได้อ่าน“เถียนฉา..”“เถียนฉา.. เจ้าว่านั่นใช่ชื่อหมู่บ้านหรือไม่”“ไม่คุ้น.. ข้าไม่คุ้นกับชื่อหมู่บ้านนี้เกรงว่าจะไม่ใช่”“เช่นนั้นหรือว่า.. ชื่อคน”ปึง! ปึง!! โคร๊ม!!“พวกเจ้าลงไปทำอะไรตรงนั้นกัน!” เสียงของสหายที่น่าจะนอนพักผ่อนได้เอ่ยขึ้นพร้อมใบหน้าที่ด
ตอนที่ 54 หากเป็นไปได้.. ข้าขอไม่พบเจอกับนางตลอดกาลถึงแม้ว่าจะรู้สึกเขินอายตามประสาสตรีอยู่บ้าง จะหงุดหงิดต่ออาการที่ดื้อรั้นของเขาอยู่บ้าง แต่กลับปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารู้สึกดีกับคำพูดของเขาอยู่ไม่น้อย เฟยหลงพยักหน้าให้เขาเบา ๆ เจิงอวี้เจินเห็นเช่นนั้นได้ส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินออกไปจากห้องพักลงไปด้านล่าง พบเจียอวี่ที่นั่งทำหน้าตาที่ดูจะตกใจอยู่มากที่เห็นพี่ชายของตนเองเดินเหินอย่างสะดวก สายตาคมจ้องมองทั้งสองที่เดินออกไปยังนอกโรงเตี๊ยม “นั่นมันเจ้าเหินอ๋าวไม่ใช่หรือ!” หลี่เฟยหลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความดีใจเมื่อเห็นม้าสีเผือกสหายรักที่กำลังนอนเล็มหญ้าอยู่ข้างหงเชว่และฮ่าวเฉวียน“มันคงกลับมาหาเจ้าของ” อวี้เจินหันไปมองหน้าเฟยหลงพร้อมทั้งเอ่ยยิ้ม ๆ ให้กับเธอ เฟยหลงเองไม่ได้สนใจนักหรอกว่าเจ้าม้าเผือกตัวนี้จะกลับมาเพราะเหตุใด แต่เพียงแค่มันกลับมาสำหรับเธอก็ดีมากแล้ว“เหินอ๋าว~ เจ้ามาหาข้างั้นหรือ” หลี่เฟยหลงรีบวิ่งไปหาเจ้าม้าตัวดีอย่างทันใด มือของเธอลูบวนไปที่หัวของมันอย่างเอ็นดู อ่อนโยนและหวงแหน แต่เจ้าม้าตัวนั้นทำเพียงแค่หันหน้ามามองเธอเพียงเล็กน้อยก่อนจะสะบัดหน้าหนีมือของเธอราวกับ
ตอนที่ 55 เด็กคนนั้นกับฉันคนนี้ [1]คำพูดของเจิงเจียอวี่ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึก มันช่างหนาวเหน็บ เยือกเย็นจนทั้งสองได้เพียงแค่มองหน้ากันนิ่ง หลี่เฟยหลงไม่รู้หรอกว่าที่เจียอวี่เอ่ยออกมานั้นหมายความว่าอย่างไร แต่ความหมายของเขามันชัดเจนในคำพูดนั้นอย่างเด่นชัด“เช่นนั้น.. พวกเรายังควรไปเมืองหยางสุ่ยหรือไม่” เพราะอยากจะทำลายบรรยากาศอึมครึมนี้ หลี่เฟยหลงเลือกที่จะเอ่ยถามทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างสดใสไร้เดียงสา“เรื่องส่วนตัวของข้าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อชีวิตของผู้อื่น.. เราเดินทางไปเพื่อตามหาน้องชายเจ้าและช่วยเหลือเด็กที่ถูกจับตัวมา นั่นคือเรื่องหลักเรื่องด่วนที่ควรทำ” เจียอวี่เอ่ยขึ้นมาหนักแน่น สายตาของเขามองทั้งสองอย่างตั้งมั่น“ดี! เช่นนั้นพวกเราไปแจ้งเรื่องนี้ให้ลุงฉีทราบก่อน” เมื่อเห็นความตั้งใจของน้องชายแล้ว อวี้เจิร่องรอยได้พยักหน้าก่อนจะควบม้าไปตามเส้นทางเมืองหยางสุ่ยอย่างไม่มีความกังวลใดทันทีทั้งสามเดินทางแทบไม่ได้พักมาเกือบห้าชั่วยาม จากเส้นทางทางเข้ามายังแคว้นฟาดฟันที่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดมีเพียงต้นไม้ใบหญ้าที่แห้งแร้ง จนเมื่อเริ่มมองเห็นสีเขียวตามต้นไม้ใบหญ้าเป
ตอนที่ 98 เจิงฮูหยิน.. ข้ามาแล้วทั้งสี่ยืนมองเจิงอวี้เจินที่ร้องไห้อย่างน่าสงสาร สองแขนของเขากอดร่างกายของภรรยาเอาไว้แน่น ใบหน้าคมประกบจูบลงที่ริมฝีปากของนางก่อนจะขยับเลื่อนไปหอมแก้มทั้งสองข้างของเธอ พร้อมทั้งจุมพิตที่หน้าผากอย่างอ่อนโยนก่อนจะค่อย ๆ ช้อนตัวของเฟยหลงนั้นขึ้นยืนเต็มความสูงเพื่อเดินอุ้มนางไปวางไว้บนเตียง"ข้าขออยู่ส่งนางจนวินาทีสุดท้ายได้หรือไม่" เขาหันมามองท่านยายหลิงไถที่พยักหน้าให้เล็กน้อย เมื่อเขาได้รับอนุญาตแล้วจึงได้ขึ้นไปนอนคู่กันกับเธอบนเตียง สองแขนกอดร่างกายของเธอเอาไว้แน่นอยากสัมผัสไว้ให้นานที่สุด"พวกเจ้าทั้งสองออกไปรอด้านนอกก่อน ข้าจะเตรียมพิธีและเมื่อถึงเวลาอันสมควรข้าจะให้กู่ป๋ายออกไปเรียกพวกเจ้า" สิ้นสุดคำพูดของท่านยายสหายทั้งสองได้มองใบหน้าของเจิงอวี้เจินและหลี่เฟยหลงอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปรอด้านนอกอย่างว่าง่าย"กู่ป๋าย.. เจ้ากลัวหรือไม่" แม้ว่าเจิงอวี้เจินนั้นจะได้ยินเสียงของท่านยายและน้องชายของแม่นางเพ่ยเพ่ยคุยกัน แต่เขากลับได้หาสนใจไม่ เขาไม่สนใจเลยว่าทั้งสองจะพูดเรื่องอะไร เขาสนใจเพียงแต่เขาอยากจะกอดร่างกายของภรรยาของเขาเอาไว้ให้นานที่สุด น้ำตาของชาย
ตอนที่ 97 หากนางอยู่ที่นี่.. นางจะเจ็บปวด"เหตุใดเจ้าถึงไม่ยินดี.. ในเมื่อเรื่องนี้เราทั้งสองนั้นได้คุยกันมาก่อนแล้วไม่ใช่หรือ ว่าหากจบเรื่องราวทั้งหมด ข้าจะให้ท่านพ่อของข้าไปสู่ขอเจ้า""ท่านพี่.. ข้ารักท่านอย่างที่ไม่เคยรักชายใดมาก่อน ท่านเป็นคนแรกที่ทำให้ข้ารู้จักคำว่ารัก คำว่าห่วงใย เพียงแต่ท่านหลงลืมไปแล้วอย่างนั้นหรือว่าข้ามิใช่คนในโลกใบนี้ หากเมื่อเราทั้งสองนั้นได้ตกลงปลงใจเข้าร่วมพิธีสมรสในครั้งนี้ หากข้าต้องสลายกลายเป็นเถ้าธุลีท่านจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวข้าไม่ยินดีให้ท่านเป็นเช่นนั้น ข้าไม่ยินดีที่ให้งานมงคลสมรสของเราทั้งคู่เป็นสิ่งที่จะเหนี่ยวรั้งท่าน.. ท่านเข้าใจความรู้สึกของข้าหรือไม่""แม่นางหลี่เฟยหลง.. เช่นนั้นเจ้าฟังคำของข้าให้ดี ต่อให้ในโลกใบนี้หรือใบไหน หากเจ้าอยู่ที่ใดข้าขอให้คำมั่นสัญญาต่อฟ้าดินเพื่อเป็นพยาน ข้าจะรักเพียงเจ้าจะติดตามเจ้า ไปทุกที่ หรือต่อให้เจ้าจะทิ้งข้าไว้ในที่แห่งนี้ ทะเลเพลิง ภูเขาน้ำแข็งหรือต้องตายกี่ครั้ง ข้าก็ไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย ขอเพียงแค่ข้าได้รักเจ้าได้ดูแลเจ้าได้อยู่กับเจ้า แม้จะเป็นเพียงหนึ่ง วัน สองวัน เจ็ดวัน หนึ่งเดือน หนึ่งปี หรือตลอดชี
ตอนที่ 96 ข้าไม่ยินดีสำหรับงานมงคลสมรสในครานี้เฟยหลงมองดูแม่นางเพ่ยเพ่ยที่กระโดดโลดเต้นไปมาราวกับว่านางนั้นกำลังทำสิ่งที่เฝ้ารอจนสำเร็จ ด้วยความดีใจของสตรีผู้นี้ที่ดูจะดีใจเกินกว่าปกติทำให้เธอรู้สึกอยากรู้อีกครั้งได้ชะโงกหน้าไปมองที่ตำราเล่มนั้นอีกครา ในตำราหมายเหตุไว้ว่าหากต้องการสิ่งใดให้นึกถึงสิ่งนั้น เป็นการซ้อนวิญญาณของสิ่งมีชีวิตอีกโลกขนานหนึ่ง"สิ่งมีชีวิตอีกโลกหนึ่ง.. เหตุใดในยุคสมัยนี้ถึงรู้เรื่องราวเหล่านี้""ข้าต้องการท่านแม่.. หากข้าสามารถเรียกวิญญาณท่านแม่ได้เรื่องราวพวกนี้ก็จะจบลง แต่หากข้าทำไม่สำเร็จวิญญาณของคนผู้นั้นที่ข้าเรียกมาต้องสะสางเรื่องราวยุ่งเหยิงที่ข้าก่อขึ้นนี้ได้เป็นแน่"แม่นางเพ่ยพูดจบก็ได้วางทุกอย่างลงบนโต๊ะ พร้อมทั้งหยิบเจ้าปลาตัวใหญ่นั้นเดินเข้าไปในครัว แม้ว่าหลี่เฟยหลงจะอยู่ที่นี่อยู่นาน แต่เธอกลับไม่รู้ว่าที่แห่งนี้ส่วนนั้นเป็นครัวที่สามารถทำอาหารได้ เพียงแต่ไม่มีอุปกรณ์ใดที่ใช้ในการทำอาหารอะไรสักอย่าง เธอมองดูแม่นางเพ่ยเพ่ยที่ใช้พลังสีทองของตนในการถอดเกล็ดปลาเสียบไม้แล้วย่าง นางใช้พลังของตนเองในการทำจนหมดสิ้นราวกับไม่ว่าเธอจะไปอยู่ที่แห่งใดย่อมไม่อด
ตอนที่ 95 ซ้อนวิญญาณวิชาต้องห้ามสตรีผู้นี้แผดเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องขัง สาดคำพูดต่อว่าสตรีที่สูงส่งผู้นี้อย่างไม่ได้รู้สึกเกรงกลัว แต่นอกจากที่พระสนมเอกจะไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองหรือไม่พอใจแล้ว นางกลับกำลังยกยิ้มอย่างชอบใจสายตาคู่นั้นของแม่นางเพ่ยเพ่ย มองไปทางน้องชายที่ถูกลากออกไป ราวกับหมูหมากาไก่เปรียบเหมือนว่าเขานั้นไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ความรู้สึกคับแน่นในอกเริ่มทำให้นางไม่มีทางเลือก หากนางไม่ทำตามคำที่สนมเอกบอก ชีวิตของน้องชายนางไม่รอดแน่ แต่หากนางทำเรื่องที่พระสนมต้องการนั่นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเธอ หากมันสำเร็จก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตของเธอและน้องชายจะรอด แต่ก็ไม่ได้มีอะไรการันตีว่าทั้งสองจะไม่รอด"เจ้าคิดให้ดีหากเจ้าทำมันสำเร็จข้ารับรองว่าชีวิตของเจ้าและน้องชายเจ้า จะเดินทางออกจากแคว้นฉวางอย่างปลอดภัยหายห่วง.. แต่หากเจ้าไม่ยินดีข้าจะ นำหัวของน้องชายเจ้ามาคืนให้เจ้า.. เจ้าว่าเช่นนี้ดีหรือไม่"แม่นางเพ่ยเพ่ยทำได้เพียงจ้องมองไปที่น้องชายของตนเอง ที่กำลังหายลับไปจนสุดสายตา ก่อนจะสลับมามองพระสนมเอกที่มีนิสัยละโมบโลภมาก เธอไม่รู้เลยว่าทางออกของเธอควรเป็นอย่างไร เธอรู้เพียงแต่ใน
ตอนที่ 94 เจ้ามันปีศาจเธอตะโกนออกมาด้วยเสียงที่ดังก้องกังวานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนรู้สึกแสบคอ ก่อนจะเด้งตัวมานั่งขัดสมาธิพร้อมทั้งกอดอก อย่างคนที่หงุดหงิด สายตาของเธอกวาดมองไปรอบ ๆ อีกครั้งก่อนจะหลับตาลงเล็กน้อย"ถ้าหงายหลังนอนอีกครั้งจะไปตกที่หลังคาวังหลวงหรือเปล่านะ" แม้ว่าเธอจะคิดเล่น ๆ แต่ทันทีที่เธอหงายหลังนอนลงไปอีกครา ร่างกายของเธอรู้สึกเบาหวิวอีกครั้ง"กำลังเดินทางอีกแล้วสินะ" เธอไม่แม้แต่จะลืมตามามองรอบกาย ทำได้เพียงแค่กอดอกพร้อมปล่อยร่างกายของตัวเองให้ไหลไปตามกระแสลมที่ได้รับฟึ่บ!แต่ครั้งนี้เธอรู้สึกว่าตนเองนั้นตกลงมาที่กองฟางเห็นจะได้ ดวงตาทั้งสองเปิดขึ้นเห็นเพียงแค่ความมืดสนิท เธอค่อย ๆ ใช้มือทั้งสองคลำไปรอบกายรับรู้ได้ว่ามันคือกองฟางจริง ๆ เฟยหลงดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งพร้อมทั้งสอดสายตามองหาแสงสว่าง"จับมัน!" เธอต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงของผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยคำสั่งที่น่ากลัว พร้อมทั้งเสียงฝีเท้าอีกหลายคู่วิ่งเข้ามาในกระท่อมหลังนี้ สองเท้าของเธอก้าวเดินออกไปข้างหน้าตามแสงสว่างที่มีเพียงน้อยนิดนั้น เธอแอบมองจากด้านในเห็นทหารมากมายในชุดดำกำลังจับสองพี่น้องที่ไม่มีทีท่าว่าจะร้
ตอนที่ 93 ความหลังของเพ่ยเพ่ยตู้ม!!แต่ไม่รู้ว่าเป็นเคราะห์ซ้ำหรือกำซัด ทันทีที่ก้นของเธอแตะที่ปุยเมฆขาวนุ่มฟูนั้นร่างกายของเธอก็ได้ตกลงไปในสระน้ำแห่งหนึ่งจนเนื้อตัวเปียกปอนฟู่ว~ทันทีที่เธอนั้นตะเกียกตะกายขึ้นโผล่พ้นน้ำ ริมฝีปากบางได้พ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงเพื่อฮุบเอาอากาศด้านบน สายตาของเธอกวาดมองไปรอบกายเห็นกระท่อมที่คุ้นตา เฟยหลงจดจำกระท่อมหลังนี้ได้แม่นยำอย่างไม่มีวันลืม"ทำไมจู่ ๆ ถึงได้กลับมาที่กระท่อมกลางป่าอีกแล้ว" แม้ว่าจะสงสัยอยู่ไม่น้อย แต่บัดนี้หลี่เฟยหลงกำลังตะเกียกตะกายให้ตัวเองขึ้นมาจากในสระ ทันทีที่ร่างกายที่เปียกปอนของเธอปะทะเข้ากับสายลมที่พัดเข้ามาไม่ขาดสายทำให้รู้สึกหนาวเหน็บอยู่ไม่น้อย สองเท้าค่อย ๆ เดินขึ้นไปทางกระท่อมหลังนั้น ทุกอย่างดูไม่ผิดปกติจากที่เธอเห็นก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่ เพียงแต่ที่แห่งนี้กลับรู้สึกว่ามีชีวิตชีวามากกว่าเมื่อคราวที่เธอมาในครั้งนั้นอยู่มาก"ท่านยาย.. ยาบำรุงนี้ปรุงอย่างนี้ใช่หรือไม่" ยังไม่ทันที่เธอจะผลักประตูเข้าไป หลี่เฟยหลงได้ยินเสียงของคนผู้หนึ่งดังขึ้นภายในกระท่อมหลังนั้น"ไม่ใช่! สมุนไพรชนิดนี้ไม่สามารถเป็นยาบำรุงได้เจ้าไปเอาชิ้นน
ตอนที่ 92 ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะอยู่รอท่านได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ทั้งสองเมื่อได้รับการพ้นโทษจึงได้เร่งเดินทางกลับเข้าจวนทันที ระหว่างทางที่เธอและเขาผ่านนั้น ทั้งคู่พบว่ามีประกาศว่าสกุลเจิงเป็นผู้บริสุทธิ์ทำให้ทั้งสองรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากทั้งสองเดินทางมาจนถึงหน้าจวน เฟยหลงมองไปยังประตูที่ช่างดูเงียบเหงาจนหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ อวี้เจินปรายตามองใบหน้าของเธอเล็กน้อยส่งยิ้มให้เธอก่อนจะใช้มือหนาคว้าข้อมือของเธอไว้ เขาใช้อีกอีกข้างดันเพื่อเปิดประตูหน้าของจวนสกุลเจิง ทันทีที่ประตูจวนเปิดออก ภาพที่เขาเห็นนั้นทำให้ทั้งสองยิ้มกว้างออกมาด้วยความยินดี ท่านแม่ทัพใหญ่เจิงเถาฮ่วน สหายเจิงเจียอวี่ พร้อมด้วยข้ารับใช้ในจวนทั้งหมดกำลังยืนต้อนรับทั้งสอง อยู่ก่อนแล้ว"ยินดีต้อนรับกลับจวนขอรับท่านพ่อ น้องรอง และทุกท่านด้วย" เจิงอบุตรีจินเอ่ยกับทุกคนด้วยน้ำเสียงสดใสพร้อมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม"ยินดีต้อนรับแม่ทัพน้อยเจิงกลับบ้าน" และเป็นเสียงของผู้เป็นบิดาของจวนเอ่ยต้อนรับเขาเช่นกัน"ยินดีต้อนรับแม่นางที่พ้นโทษ.. ได้รับคืนความบริสุทธิ์" ก่อนที่แม่ทัพใหญ่จะหันมาพูดกับเธอด้วยใบหน้าที่นึกขอบคุณไม่เพียงเท่านั้
ตอนที่ 91 ปิดคดีเฟยหลงเอ่ยออกมากับตัวเองเบา ๆ เมื่อยามที่เธอนั้นนั่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำมองดูดอก บัวด้วยสายตาที่ไม่ยินดียินร้ายเดิมทีแล้วท่านยายบอกว่าร่างกายของอาเพ่ยนั้นจะอยู่ได้อีกหนึ่งเดือน แต่สิ่งที่เธอทำผิดพลาดอีกครั้ง คือพลังของเธอไม่สามารถขับพิษในร่างกายของฮ่องเต้ได้จนหมด หากเป็นเช่นนั้นร่างกายของฮ่องเต้ที่เคยชินกับพิษนี้ จะสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ใหม่ สิ่งที่จะทำให้พระองค์หายขาดได้จึงไม่ใช่การขับออก แต่เป็นการดึงพิษทั้งหมดเข้ามาในร่างของเธอต่างหาก"เจ้าอยู่ในวังเบื่อหรือไม่" เสียงของเจิงอวี้เจินดังขึ้นทางด้านหลัง ทำให้เธอนั้นรีบหันไปมองชายอันเป็นที่รักพร้อมทั้งส่งรอยยิ้มให้เขา ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบรับ"ข้าเบื่อมาก" เธอเดินเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่ายก่อนจะใช้สองมือเล็กกอดรอบแขนของเขาเอาไว้อย่างออดอ้อน ใช้ใบหน้าหวานซุกไปที่ทรวงอกของเขาก่อนค่อย ๆ ช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าของบุรุษผู้นี้อวี้เจินหันมองรอบกายซ้ายขวาเล็กน้อยก่อนจะก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็วแล้วผละออก"ท่านทำอะไรเนี่ย""ก็ที่เจ้าออดอ้อนข้าเช่นนี้ไม่ใช่อยากให้ข้าทำเช่นนี้งั้นหรือ""ท่านไปร่ำเรียนความหน้า
ตอนที่ 90 นับเวลาถอยหลังกับชีวิตที่เหลืออยู่"ความยากลำบากที่หม่อมฉันได้รับ! เด็กสาวที่เคยร่าเริง.. ชื่นชอบการอ่านตำรา ปักผ้า ทำอาหาร มีความสุขกับครอบครัว.. เพียงแค่ชั่วข้ามคืน! ต้องกลายเป็นสตรีที่ไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอน! ไม่สามารถบอกใครได้ว่ามาจากตระกูลไหน!”“ทำได้เพียงขอข้าวขอน้ำดั่งขอทานข้างถนน! ไม่มีผู้ใดเหลียวแล.. ซุกหัวนอนตามรางหญ้า บางคราก็ต้องแย่งข้าวกับสุนัขเพื่อประทังชีวิต! โดนทำร้ายหยามเหยียดจนแทบไม่เหลือความเป็นคน! พระองค์รู้หรือไม่กว่าที่หม่อมฉันจะเข้ามาทำให้พระองค์สะดุดตาได้มิใช่เรื่องง่าย ความแค้นที่สุมอยู่ในอกของหม่อมฉันมันเกือบจะสำเร็จอยู่แล้ว.. หากว่านางหมอพิษผู้นั้นไม่หักหลังหม่อมฉัน! ป่านนี้พระองค์ได้ลงไปเฝ้ายมโลกแล้วกับท่านพ่อหม่อมฉันไปแล้ว!""ข้าว่าเจ้าเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว.. ข้ามีเหตุผลของข้า หากเมื่อครานั้นพ่อของเจ้าไม่คิดก่อกบฏข้าย่อมไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์เป็นแน่""โกหก! พระองค์อย่ามาโกหกกับหม่อมฉัน! พ่อของหม่อมฉันไม่มีทางคิดก่อกบฏเป็นแน่! ท่านใส่ร้ายครอบครัวข้า ฆ่าครอบครัวข้าล้างตระกูลยังไม่พอ.. เวลานี้พระองค์ยังคิดจะใส่ร้ายตระกูลข้า! ท่านยังมีความเป็นคนอยู่หรือ