แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: จี้เสียวหน่วน
ถังหว่านหนิงก้มมองหนังสือพิมพ์บนพื้น เห็นตัวอักษรตัวโตเขียนว่า: "ตระกูลลี่ถอนความร่วมมือกับตระกูลถัง โครงการ 2500 ล้านถูกยกเลิกการลงทุน"

ถังหว่านหนิงขมวดคิ้วเล็กน้อย

หากเธอจำไม่ผิด โครงการ 2500 ล้านนี้คือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ตระกูลถังกำลังพัฒนา การก่อสร้างเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่พอลี่เป่ยยวนถอนเงินลงทุนออกไป การก่อสร้างก็ไม่สามารถดำเนินต่อได้ จำเป็นต้องหานักลงทุนรายใหม่

แต่พอข่าวว่าตระกูลลี่ถอนความร่วมมือถูกแพร่ออกไป ในหลินเฉิงยังจะมีใครกล้าร่วมงานกับตระกูลถังอีกเหรอ?

สุดท้าย โครงการ 2,500 ล้านนี้ก็ต้องล้มเหลว และตระกูลถังก็จะขาดทุนทรัพย์สินไปไม่น้อย

ถังหว่านหนิงก้มตัวลงไป หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาดู และพบว่ามันยังอุ่นอยู่ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งถูกพิมพ์แล้วส่งตรงมาที่ตระกูลถัง

การเคลื่อนไหวของลี่เป่ยยวนเร็วขนาดนี้ ดูเหมือนเขาต้องการสั่งสอนเธอ

เพื่อให้เธอรู้ว่าในหลินเฉิง ใครคือคนที่มีอำนาจชี้ขาด

"ถังหว่านหนิง เธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลถัง ทำอะไรเพื่อตระกูลบ้างจะเป็นอะไรไป? แค่เอาใจผู้ชายมันลำบากนักหรือไง? เป็นผู้หญิง หน้าตาสวยเสียเปล่า แต่ดันไม่รู้จักใช้มันให้เป็นประโยชน์!"

หลิวจินกุ้ยระบายความไม่พอใจออกมา "ดูจากสภาพแบบนี้แล้ว เธอยังคิดจะเป็นผู้บริหารของตระกูลถังอีกเหรอ? ฉันขอเตือนนะ รีบยกตระกูลถังให้น้องชายของเธอซะ! แล้วไปเอาใจคุณนายใหญ่ แต่งเข้าตระกูลลี่น่ะ ถึงจะเป็นเรื่องที่ควรทำ!"

"พูดพอหรือยัง!"

ถังหว่านหนิงมองหลิวจินกุ้ยด้วยสายตาเย็นชา "ฉันจะทำยังไง ไม่ต้องให้คุณน้ามากังวลหรอก ถ้าคุณน้าร้อนรนมากขนาดนั้นก็แต่งไปเองสิ เพราะดูท่าคุณน้าจะเก่งเรื่องเอาใจคนมากกว่าฉันเยอะ"

"แก! เด็กบ้านี่ พูดอะไรออกมา!"

ลี่เป่ยยวนถอนการลงทุน...นี่นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างคาดไม่ถึง

ถังหว่านหนิงจำได้ว่าในชาติที่แล้ว โครงการนี้ทำกำไรได้อย่างมหาศาล แต่เพราะลี่เป่ยยวนลงทุนไป 2,500 ล้านและเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ สุดท้ายเงินที่แบ่งมาถึงตระกูลถังจึงมีไม่มาก

ตอนนี้เมื่อลี่เป่ยยวนถอนการลงทุน ตระกูลถังก็จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด หากเธอสามารถดำเนินการโดยไม่พึ่งนักลงทุน โครงการนี้ก็จะทำกำไรทั้งหมดให้กับตระกูลถัง

แต่ปัญหาคือ...เธอต้องกู้เงินจากธนาคารให้ได้ในจำนวนที่เพียงพอ

2,500 ล้าน มันไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ

เช้าวันรุ่งขึ้น เจียงเหยียนนัดถังหว่านหนิงพบหน้าอย่างไม่คาดฝัน

ถังหว่านหนิงจำได้ว่าในชาติที่แล้ว เธอกับเจียงเหยียนไม่ได้เกี่ยวข้องกันมากนัก

เจียงเหยียนไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มต้นที่จะพบหน้าเธอ

ครั้งนี้ คงเป็นเพราะเธอเสนอถอนหมั้นกับลี่เป่ยยวน ทำให้แผนการของเจียงเหยียนปั่นป่วน

ในร้านกาแฟ

ถังหว่านหนิงเห็นเจียงเหยียนนั่งรออยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างแล้ว ภายในร้านว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเธอกับเจียงเหยียน

เจียงเหยียนมีใบหน้าที่ดูเรียบง่ายและงดงาม แต่เพราะเหตุการณ์กรีดข้อมือ สีหน้าของเธอดูแย่มาก ขณะนั้น เธอวางถ้วยกาแฟลงแล้วพูดว่า "คุณหนูถัง ฉันมาที่นี่เพื่อขอโทษคุณ"

"คุณหนูเจียงเรียกฉันมานี่ คงไม่ใช่แค่เพื่อขอโทษใช่ไหม?"

ถังหว่านหนิงถามอย่างตรงไปตรงมา เจียงเหยียนเม้มปากเล็กน้อยก่อนตอบ "ฉันมาเพื่อเตือนคุณหนูถัง ไม่ให้ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ คุณกับเป่ยยวนคือคู่ที่เหมาะสม ฉันจะไม่เข้ามาขวางอะไร ฉันหวังจริงๆ ว่าคุณสองคนจะได้หมั้นกัน"

"หวังว่าเราจะหมั้นกัน? คุณหนูเจียง นี่คงเป็นเรื่องตลกใช่ไหม?"

ถังหว่านหนิงยิ้มก่อนพูด "ถ้าคุณหนูเจียงหวังให้เราหมั้นกันจริง คุณคงไม่กรีดข้อมือในคืนวันหมั้นของฉันกับลี่เป่ยยวน ใช่ไหมล่ะ?"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเจียงเหยียนพลันเปลี่ยนไปทันที "คุณหนูถัง ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ถ้าคุณโกรธเรื่องนี้ ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด แต่มีเพียงคุณหนูถังเท่านั้นที่เหมาะสมกับเป่ยยวน และมีแค่ทรัพยากรของตระกูลถังเท่านั้น ที่จะช่วยให้ตระกูลลี่ก้าวขึ้นไปอีกขั้น คุณหนูถังคือคนที่เหมาะสมกับเป่ยยวนที่สุด"

พูดจบ เจียงเหยียนก็ทรุดตัวลงคุกเข่าบนพื้นและพูดว่า "คุณหนูถัง ฉันขอสัญญาว่าจากนี้ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเป่ยยวนอีกต่อไป ฉันแค่ขอร้องคุณ เพื่อเป่ยยวนและตระกูลลี่ ถ้าคุณยังวุ่นวายแบบนี้ต่อไป มันจะไม่เป็นผลดีต่อครอบครัวตระกูลถังเลย!"

คำพูดของเจียงเหยียนเต็มไปด้วยความห่วงใยที่มีต่อลี่เป่ยยวน

แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นว่า ลี่เป่ยยวนแต่งงานกับเธอเพียงเพราะต้องการทรัพยากรจากตระกูลถังเท่านั้น

"คำพูดของคุณหนูเจียงช่างจับใจยิ่งนัก เพียงแต่...ทำไมฉันต้องคิดแทนลี่เป่ยยวนและตระกูลลี่ด้วยล่ะ?"

ได้ยินดังนั้น เจียงเหยียนถึงกับอึ้งไป

ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา เจียงเหยียนมองเห็นความชื่นชอบที่ถังหว่านหนิงมีต่อลี่เป่ยยวน

เธอเคยได้ยินมาว่า ถังหว่านหนิงพูดเองว่าทำอะไรก็ได้เพื่อลี่เป่ยยวน

แต่ทำไมถังหว่านหนิงถึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน?

"คุณหนูถัง ถ้าคุณพูดเพราะกำลังโกรธ ฉันขอโทษ ฉันแค่หวังว่าคุณจะดีกับเป่ยยวน ฉันจะยอมถอนตัวจากความสัมพันธ์นี้ และจะไปอยู่ที่ที่ลี่เป่ยยวนหาฉันไม่เจอ..."

เมื่อเห็นเจียงเหยียนยังพูดจาเสแสร้ง ถังหว่านหนิงก็พูดตัดบทด้วยน้ำเสียงเย็นชา "คุณหนูเจียง สิ่งที่คุณพูดทั้งหมดนี้เป็นแค่ความหวังของคุณ ฉันจะใช้ชีวิตร่วมกับผู้ชายที่ในใจมีผู้หญิงคนอื่นไปเพื่ออะไร? คุณหนูเจียงไม่คิดว่าคำพูดแบบนี้มันเกินไปหน่อยเหรอ?"

"คุณหนูถัง ฉันรู้ว่าคุณเข้าใจฉันผิด แต่ตราบใดที่มันเพื่อเป่ยยวน ฉันยินดีทำทุกอย่าง"

เจียงเหยียนหยิบบัตรธนาคารจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ถังหว่านหนิง "ฉันรู้ว่าเป่ยยวนเข้าใจคุณผิด และเล่นงานตระกูลถัง ตระกูลถังกำลังขาดเงิน นี่คือ 2,500 ล้าน ฉันยินดีชดเชยให้คุณหนูถัง ขอแค่คุณหนูถังยอมคืนดีกับเป่ยยวน และอย่าถอนหมั้นเลย"

เมื่อเห็นสีหน้าเว้าวอนของเจียงเหยียน

ถังหว่านหนิงกลับหัวเราะเย็นในใจ

ชาติที่แล้ว เจียงเหยียนก็เป็นแบบนี้ แสร้งผลักลี่เป่ยยวนออกไปไกล แต่กลับยังคงความสัมพันธ์แบบครึ่งๆ กลางๆ เพื่อรั้งอีกฝ่ายไว้

สาเหตุที่เจียงเหยียนเร่งรัดให้เธอหมั้นกับลี่เป่ยยวน ก็เพราะรู้ว่าคุณนายใหญ่ลี่จะไม่มีวันให้เจียงเหยียนเข้าตระกูลลี่ อีกทั้งตระกูลถังไม่มีผู้สืบสกุลที่แข็งแรง เธอ ถังหว่านหนิง ไม่มีใครพึ่งพาได้ สุดท้ายเมื่อตระกูลลี่ใช้ประโยชน์จากตระกูลถังจนหมด ก็แค่เตะเธอออกไป

ยิ่งไปกว่านั้น คนทั้งเมืองหลินเฉิงต่างรู้ว่าเธอ ถังหว่านหนิง มีใบหน้าคล้ายเจียงเหยียนถึงสามส่วน

เจียงเหยียนย่อมไม่รอให้ลี่เป่ยยวนแต่งงานกับคุณหนูตระกูลใหญ่ที่มีภูมิหลังและพ่อแม่เป็นที่พึ่งในอนาคต สู้ให้ลี่เป่ยยวนหมั้นกับเธอ คนที่เป็นเพียงตัวแทนที่ใครๆ ก็รู้จักดีกว่า

ในอนาคต หากเจียงเหยียนคืนดีกับลี่เป่ยยวน ผู้คนก็จะชมเพียงว่าคู่รักในวัยเยาว์ได้กลับมารักกันอีกครั้ง

และตอนนี้ คุณนายใหญ่ลี่ก็อายุมากแล้ว เจียงเหยียนแค่ต้องรอวันที่คุณนายใหญ่ลี่จากไป แล้วพึ่งพาลี่เป่ยยวนเพื่อขึ้นเป็นคุณนายของตระกูลลี่

"คุณหนูเจียง ลี่เป่ยยวน...รู้หรือเปล่าว่าคุณมาพบฉัน?"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงเหยียนถึงกับอึ้ง

"คุณหนูเจียง คุกเข่านานขนาดนี้ หัวเข่าต้องเจ็บแน่ๆ ใช่ไหม? ฉันช่วยพยุงคุณขึ้น"

พูดจบ ถังหว่านหนิงก็ก้มตัวลงเพื่อช่วยพยุงเจียงเหยียน แต่ในวินาทีถัดมา ประตูร้านกาแฟก็ถูกเปิดออก พร้อมเสียงกระดิ่งดังตามมา ลี่เป่ยยวนผลักเธอออกไปอย่างแรง "ถังหว่านหนิง! เธอกำลังทำอะไรอยู่?"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 10

    ลี่เป่ยยวนมองเธอด้วยสายตาอาฆาต คำพูดของเขาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ราวกับว่าเขาจะฉีกเธอเป็นชิ้นๆ ในวินาทีถัดไป“เป่ยยวน! อย่าทำแบบนี้เลย คุณเข้าใจคุณหนูถังผิดแล้ว ฉันเป็นคนเลือกที่จะคุกเข่าเอง...”“อาเหยียน คุณใจดีเกินไป เลยโดนคนอื่นรังแก! ผมบอกแล้วว่าคุณไม่จำเป็นต้องพบเธอ”มองภาพที่ลี่เป่ยยวนปกป้องเจียงเหยียนถังหว่านหนิงไม่ได้แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยเจียงเหยียนมักจะบาดเจ็บทุกครั้งที่ลี่เป่ยยวนปรากฏตัวตั้งแต่เจียงเหยียนเริ่มคุกเข่า ถังหว่านหนิงก็รู้สึกถึงความผิดปกติแต่เธอก็เลือกที่จะให้เจียงเหยียนใช้โอกาสนี้ได้อย่างไรเสีย ขอเพียงลี่เป่ยยวนเกลียดเธอ การถอนหมั้นก็จะเกิดขึ้นโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม“ถังหว่านหนิง ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าเธอเป็นแค่คนหน้าไหว้หลังหลอก แต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะเลวร้ายขนาดนี้! อาเหยียนร่างกายอ่อนแอ หากเธอเป็นอะไรไป ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไว้แน่!”พูดจบ ลี่เป่ยยวนก็จูงมือเจียงเหยียนเดินจากไปตลอดเวลานั้น เจียงเหยียนมีโอกาสมากมายที่จะอธิบาย แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเงียบ พร้อมกับมองถังหว่านหนิงด้วยสายตาที่ดูเหมือนจะขอโทษแต่ถังหว่านหนิงจับความสะใจเล็กๆ ในสายต

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 11

    หลิวจินกุ้ยหวังอย่างยิ่งว่าถังหว่านหนิงจะรีบคืนดีกับลี่เป่ยยวนให้เร็วที่สุดเพราะท้ายที่สุด หากถังหว่านหนิงได้แต่งเข้าตระกูลลี่ ก็จะส่งผลดีต่อพวกเธอสองแม่ลูกเมื่อเห็นหลิวจินกุ้ยดูร้อนรนขนาดนี้ ถังหว่านหนิงจึงยิ้มพลางเลิกคิ้วตอบว่า “ใช่ค่ะ”“จริงเหรอ! ดีมากเลย!”หลิวจินกุ้ยพูดด้วยความตื่นเต้น “ฉันรู้ว่าประธานลี่ต้องยังมีใจให้เธออยู่แน่ๆ ไม่งั้นเขาจะนัดเธอออกไปทำไม?”“คุณน้า คุณน้าเข้าใจผิดแล้ว” ถังหว่านหนิงกล่าว “ประธานลี่นัดฉันออกไปเพื่อพูดเรื่องถอนหมั้น”“อะไรนะ...”ในขณะที่หลิวจินกุ้ยมองเธอด้วยสายตาไม่สบายใจ ถังหว่านหนิงพูดชัดถ้อยชัดคำ “ถอน หมั้น แล้ว”“อะไรนะ! ถอนหมั้น?!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิวจินกุ้ยแทบจะเป็นลมถังเจ๋ออวี่รีบเข้าไปประคองหลิวจินกุ้ย พร้อมตวาดใส่ถังหว่านหนิงด้วยความโกรธ “ถังหว่านหนิง เธอนี่มันเกินไปแล้ว! เรื่องถอนหมั้นทำไมไม่ปรึกษาที่บ้านก่อน เธอคิดจะตัดสินใจเองแบบนี้เหรอ? เธอยังเห็นหัวพวกเราอยู่หรือเปล่า!”“เรื่องแต่งงานของฉัน แน่นอนว่าฉันต้องเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่จำเป็นต้องปรึกษาใคร ตั้งแต่วันนี้ไป ฉันจะเข้ามาดูแลกิจการของบริษัทอย่างจริงจัง คุณน้าไม่ต้

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 12

    “คุณหนูใหญ่ เอกสารพวกนี้ไม่มีอะไรสำคัญหรอกครับ คิดว่าคุณคงไม่สนใจ ไปพักผ่อนในห้องรับรองก่อนดีกว่าครับ”ผู้จัดการหวังพูดยิ้มแหยๆไม่ว่าจะพูดยังไง ก็พยายามไม่ให้ถังหว่านหนิงเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องใดๆ ในบริษัทเมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้น ถังหว่านหนิงก็ยื่นมือออกไปพร้อมพูดว่า “เอามาให้ฉันดู”“เอ่อ...”“หรือว่าผู้จัดการหวังคิดว่าตระกูลถังเป็นของคุณแล้ว?”เมื่อเผชิญกับท่าทีเด็ดขาดของถังหว่านหนิง ผู้จัดการหวังรีบตอบ “ผมจะกล้าได้ยังไงครับ? คุณหนูใหญ่จะดู ผมก็ต้องให้ดูอยู่แล้ว เพียงแต่เกรงว่าคุณหนูจะดูไม่เข้าใจ...”“งั้นไม่ต้องไปห้องรับรองแล้ว ไปที่ห้องทำงานประธานบริษัทเลยดีกว่า แล้วเอาเอกสารทุกอย่างที่ต้องการลายเซ็นมาให้ฉันดูด้วย”“คุณหนูใหญ่...”ถังหว่านหนิงไม่รอให้ผู้จัดการหวังพูดจบ เธอกวาดตามองไปที่เลขาโจวก่อนพูดว่า “เสี่ยวโจวใช่ไหม? ไปเอาเอกสารมาให้ฉันหน่อย ส่วนผู้จัดการหวัง ช่วยพาฉันไปที่ห้องทำงานด้วย”“ได้... ได้ครับ”ผู้จัดการหวังตอบรับเสียงสั่น เหงื่อเย็นเริ่มซึมออกมาที่หน้าผากคุณหนูคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่? ถ้าเธอตรวจพบปัญหาในบัญชีขึ้นมา เขาคงจบสิ้นแน่ๆ!ผู้จัดการหวังเดินนำถ

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 13

    "ไม่จำเป็น ฉันแค่ดูผ่านๆ เท่านั้น"ถังหว่านหนิงพูดพลางแสร้งทำเป็นตั้งใจตรวจสอบรายงานการเงินเธอค่อยๆ พลิกหน้ากระดาษทีละหน้าอย่างช้าๆ ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้ายฝ่ายผู้จัดการหวังที่ยืนอยู่ตรงหน้า รู้สึกเหมือนถูกกดดันจนขาเริ่มอ่อนแรง แทบจะยืนไม่ไหวการยักยอกเงินบริษัทกว่าหลายร้อยล้านบาท... ถ้าถูกจับได้ หมายถึงชีวิตที่เหลืออยู่ของเขาจะต้องหมดไปในคุก!'ปัง!'ถังหว่านหนิงโยนรายงานการเงินลงบนโต๊ะเสียงดังผู้จัดการหวังสะดุ้งจนแทบทรุดลงไปกับพื้น แต่สิ่งที่เขาได้ยินกลับเป็นเสียงถังหว่านหนิงที่พูดอย่างไม่พอใจว่า “นี่มันอะไรกัน? ตัวเลขเต็มไปหมด ใครจะไปเข้าใจ?”คำพูดนั้นทำให้ผู้จัดการหวังนิ่งอึ้งไปถังหว่านหนิงดูไม่เข้าใจจริงๆ เหรอ?เลขาโจวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ขมวดคิ้วเช่นกัน สายตาเต็มไปด้วยความผิดหวังลูกสาวของประธานถัง... กลับอ่านรายงานการเงินไม่ออกหรือ?ผู้จัดการหวังเช็ดเหงื่อ ก่อนจะยิ้มแหยๆ แล้วพูดขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่ ผมบอกแล้วว่าถ้าคุณอยากรู้เรื่องบริษัท ผมสามารถอธิบายให้ฟังได้ จะได้ไม่ต้องยุ่งยากเดินทางมาที่บริษัทบ่อยๆ”“ก็จริงนะ แต่เอกสารพวกนี้ยังไงก็ต้องเซ็นอยู่ดี”ถังหว่านหน

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 14

    "คุณหนูใหญ่ก็เลยแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องเพื่อจับคนทำผิดใช่ไหม?""ใช่" ถังหว่านหนิงตอบรับทันที ก่อนจะพูดต่อ "อย่าเพิ่งทำให้พวกเขารู้ตัว เราต้องค่อยๆ รวบรวมหลักฐาน พวกเขายักยอกทรัพย์สินของบริษัทมากมายขนาดนี้ ทำให้ผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย รอให้หลักฐานครบถ้วน และค่อยๆ ตัดสายสัมพันธ์ของพวกเขาในบริษัทให้หมดสิ้น ถึงเวลานั้นก็จะได้ส่งพวกเขาเข้าคุก"เลขาโจวจ้องมองถังหว่านหนิงอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดว่า "คุณหนูใหญ่...ดูไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย"เมื่อก่อน คุณหนูใหญ่เป็นคนอ่อนโยนและสง่างาม แม้จะฉลาด แต่ไม่เคยมีเล่ห์เหลี่ยมในโลกธุรกิจมาก่อนแต่สิ่งที่เธอพูดเมื่อครู่นั้น ล้วนฟังดูสมเหตุสมผลเลขาโจวอดรู้สึกชื่นชมไม่ได้"เสี่ยวโจว คุณทำงานที่นี่มาหลายปีแล้ว คุณพ่อของฉันเคยสนับสนุนคุณมาก่อน ฉันหวังว่าคุณจะช่วยฉันในเรื่องนี้""ผมจะช่วยคุณหนูใหญ่ ไม่ปล่อยให้ผู้จัดการหวังและคุณนายทำลายบริษัทที่ประธานถังทิ้งไว้แน่นอน""ดี""แต่..." เลขาโจวลังเลเล็กน้อยก่อนพูด "ถึงแม้ผู้จัดการหวังจะพูดเกินจริง แต่ตระกูลลี่ก็โจมตีเราอย่างหนักในช่วงนี้ โดยเฉพาะวันนี้""วันนี้?"เลขาโจวพยักหน้า "วันนี้ ตระกู

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 15

    "ถังหว่านหนิงถ้ามาหาฉัน บอกไปเลยว่าฉันไม่ว่าง""แต่...ประธานลี่ไม่ได้ต้องการให้คุณหนูถังยอมอ่อนข้อเหรอครับ?""ฉันต้องการให้เธอหมดหนทางขอความช่วยเหลือ ไร้ที่พึ่งพา"สายตาของลี่เป่ยยวนฉายแววเย็นชา ก่อนจะพูดต่อ "ฉันจะให้เธอ คุกเข่าขอโทษอาเหยียน"ในเวลาเดียวกัน ถังหว่านหนิงกำลังเลือกซื้อของในห้าง เธอเลือกของบำรุงสุขภาพและเครื่องประทินผิวหลายอย่างในขณะที่เธอกำลังจะลงไปซื้อกาแฟ ก็เหลือบเห็นบอดี้การ์ดในชุดดำที่ตามเธออยู่บอดี้การ์ดนั้นดูโดดเด่นจนคนในห้างพากันมอง ถังหว่านหนิงเห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ลี่เป่ยยวนดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับเธอมาก ส่งคนมาคอยจับตาดูเธอเสมอไม่รู้ว่าเขากลัวว่าเธอจะทำร้ายเจียงเหยียน หรือว่าอยากเห็นเธอทุกข์เพราะปัญหาของบริษัทกันแน่เธอไม่รีบร้อน หลังซื้อกาแฟเสร็จ เธอก็เดินเข้ากลุ่มคนในห้างอย่างรวดเร็วบอดี้การ์ดพยายามตามไป แต่ด้วยความที่คนในห้างหนาแน่น และถังหว่านหนิงจงใจเดินเลี้ยวไปทางที่พลุกพล่าน พวกเขาจึงหลุดจากการติดตามในไม่ช้า"เลขาหวัง ผมทำคนหลุดไปแล้ว!"ปลายสายบลูทูธ เลขาหวังได้รับข่าวร้ายจากทีมที่ห้าง และรีบนำไปรายงานลี่เป่ยยวน"หลุด?" ลี่เป่ยยวนขม

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 16

    "หว่านหนิง เขาขอโทษเธอหรือยัง?"เมื่อถูกคุณนายใหญ่ลี่ถาม ถังหว่านหนิงแสร้งหันไปมองลี่เป่ยยวนอย่างจงใจลี่เป่ยยวนที่สังเกตเห็นท่าทีไม่บริสุทธิ์ใจของเธอ รีบก้าวเข้าไปคว้าถังหว่านหนิงขึ้นมา "คุณย่า ผมมีเรื่องจะพูดกับคุณหนูถังเป็นการส่วนตัว ขอขึ้นไปชั้นบนก่อนนะครับ"พูดจบ ลี่เป่ยยวนก็ลากถังหว่านหนิงขึ้นไปชั้นบนโดยไม่รอคำตอบคุณนายใหญ่ลี่ที่เห็นเหตุการณ์รีบร้องตาม "เป่ยยวน! เจ้าเด็กคนนี้นี่...อย่างไรเสียเธอก็เป็นผู้หญิง ถ้าลูกกล้ารังแกหว่านหนิง ย่าไม่ยอมแน่!"บนชั้นสอง ลี่เป่ยยวนผลักถังหว่านหนิงลงบนเตียงก่อนจะล็อกประตูห้องทันที"ประธานลี่ คุณทำอะไรของคุณ?"ถังหว่านหนิงนั่งพิงขอบเตียง มองลี่เป่ยยวนที่ยืนอยู่ตรงประตูด้วยท่าทางยิ้มเยาะ "คุณทำแบบนี้ ถ้าคุณหนูเจียงรู้เข้าจะไม่ดีนะ คุณหนูเจียงน่ะขี้หึงจะตายไป""ถังหว่านหนิง!"ลี่เป่ยยวนพุ่งเข้ามา บีบคอถังหว่านหนิงไว้แน่น เขาพูดเสียงเย็นชา "ฉันให้หน้าเธอมากไปหรือไง? ใครให้สิทธิ์เธอเข้ามาในบ้านฉัน!""คุณย่าอยากเจอฉัน ฉันก็ต้องมาดูแลท่านสิคะ"ถังหว่านหนิงเงยหน้ามองเขา แม้ลี่เป่ยยวนจะออกแรง แต่เขาก็ไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเกินไปสายตาเจ้าเล่ห์

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 17

    "งั้นแปลว่าเราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว?""เธอคิดว่าไงล่ะ?"ถังหว่านหนิงรู้อยู่แล้วว่าลี่เป่ยยวนไม่ใช่คนที่จะถูกข่มขู่ง่ายๆ การมาครั้งนี้ของเธอเป็นเพียงการเตือนให้เขารู้ว่า ทุกอย่างต้องมีขอบเขต เพราะแม้แต่สุนัขที่จนตรอกยังสู้กลับ และเธอเองก็ไม่ใช่คนที่จะถูกบีบง่ายๆ"ประธานลี่ สนใจจะพนันกับฉันไหม?""พนันอะไร?""พนันว่าถ้าคุณยังเล่นงานฉัน ปีนี้คุณจะซวยหนักแน่""...?"ถังหว่านหนิงลุกขึ้น เดินไปที่ประตู ก่อนจะหยุดและพูดขึ้น "จริงสิ ประธานลี่ ฉันลืมบอกไปเลย เรื่องที่คุณกลั่นแกล้งฉัน ฉันยังไม่ได้เล่าให้คุณย่าฟัง คุณว่า ถ้าฉันเล่า คุณย่าจะเข้าข้างใคร?""ถังหว่านหนิง!""ลี่เป่ยยวน ฉันไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณเล่นงานตระกูลถัง นั่นถือเป็นความเมตตาสูงสุดของฉันแล้ว เก็บกลอุบายไร้เดียงสาของคุณไว้เถอะ ฉันไม่มีวันยอมคุณง่ายๆ และเชื่อเถอะว่าปีนี้คุณจะซวยแน่นอน""เธอ!"ถังหว่านหนิงพูดจบก็เดินออกจากห้อง พร้อมปิดประตูตามหลังอย่างสง่างามลี่เป่ยยวนรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างจุกอยู่ในอก ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแค่ข่มขู่เขา แต่ยังกล้าสาปแช่งเขาอีก?เธอคิดว่าเขาจะสนใจเรื่องไร้สาระพวกนี้เหรอ? ฝันไปเถอะ!ตอ

บทล่าสุด

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 40

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนในวงการนี้มองถังหว่านหนิงเป็นตัวตลกในสายตาของพวกเขา ผู้หญิงอย่างถังหว่านหนิงที่ยอมพลีกายเพื่อเข้าใกล้คนรวย ก็สมควรแล้วที่จะโดนพวกเขาหยอกล้อเสิ่นจือเยี่ยนเห็นว่าโจวเยว่เกือบจะร้องไห้ด้วยความร้อนใจ เขาทนไม่ไหวจนหันสายตาไปมองลี่เป่ยยวนแต่กลับเห็นลี่เป่ยยวนนั่งพิงโซฟา ดื่มวิสกี้ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย"ลี่เป่ยยวน!"เสิ่นจือเยี่ยนเดินมาหยุดตรงหน้าลี่เป่ยยวน ลดเสียงลงพูดว่า "เกินไปแล้วนะ! พอได้แล้ว ถ้าคุณหนูใหญ่ถังมาจริงๆ จะทำยังไง? นายจะปล่อยให้เธอกลายเป็นตัวตลกของทั้งหลินเฉิงหรือไง?""ถ้าเธอเต็มใจจะทำให้ตัวเองขายหน้า ฉันจะห้ามเธอทำไม?"น้ำเสียงของลี่เป่ยยวนเย็นชาเสิ่นจือเยี่ยนพูดด้วยความไม่พอใจ "วันนี้เป็นงานของเจียงเหยียน! ถ้านายทำเรื่องให้วุ่นวายขนาดนี้ เจียงเหยียนก็ลำบากไปด้วย"เจียงเหยียนเองก็จับแขนลี่เป่ยยวนไว้ พูดด้วยท่าทีลำบากใจ "ใช่แล้วเป่ยยวน...หรือว่าโทรหาคุณหนูถัง บอกเธอว่าอย่ามาเถอะนะ""หว่านหนิงทำให้เธอต้องอับอายต่อหน้าคุณย่า ฉันพูดไว้แล้วว่าหว่านหนิงจะต้องคุกเข่าขอโทษเธอ"น้ำเสียงของลี่เป่ยยวนแฝงไปด้วยความเย็น

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 39

    โจวเยว่ทำหน้าบึ้งตึงถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ของเธอยืนกรานให้เธอมางานเลี้ยงวันเกิดนี้ เธอคงไม่มาเด็ดขาด! คนพวกนี้น่ารังเกียจ พูดจาน่ารังเกียจทั้งนั้น!"โจวเยว่ ใครๆ ก็รู้ว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทของถังหว่านหนิงใช่ไหม? เธออย่าปกป้องเพื่อนเธอเลย! หรือว่าเธอจะโทรหาถังหว่านหนิงให้หน่อย แล้วบอกให้เธอมา! บอกว่าเป็นวันเกิดของคุณหนูเจียง ประธานลี่กำลังจะจูบคุณหนูเจียงอยู่แล้ว เธอเชื่อไหมว่าถังหว่านหนิงจะรีบวิ่งมาทันที!"พูดจบ เสียงหัวเราะดังลั่นทั่วห้องทันทีโจวเยว่โกรธจนหน้าขึ้นสี "พวกเธอ... พวกเธอ!""ไม่โทรใช่ไหม? งั้นฉันโทรเอง!"ชายหนุ่มคนหนึ่งรีบเข้ามาแย่งโทรศัพท์ของโจวเยว่ไปทันที โจวเยว่หน้าซีดเผือด "เอาคืนมาให้ฉัน!"เสิ่นจือเยี่ยนทำหน้าบึ้งตึง พูดว่า "คุณชายเจิ้น! พอได้แล้ว คืนโทรศัพท์ให้โจวเยว่เถอะ!""โทรติดแล้ว! โทรติดแล้ว!"กลุ่มเศรษฐีหนุ่มที่ดื่มไปแล้วก็เริ่มคึกคะนองทันใดนั้น เสียงที่เย็นชาและขี้เกียจของถังหว่านหนิงดังขึ้นจากปลายสาย "มีเรื่องอะไร?"ทันใดนั้น ห้องส่วนตัวก็เงียบสงัดชายหนุ่มคนหนึ่งพูดด้วยความตื่นเต้น "คุณหนูถัง ประธานลี่ดื่มจนเมาแล้ว! กำลังจะจูบเจียงเหยียน! คุณจะมา

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 38

    "ทำไม? หรือว่านายก็สนใจเธอ?"เมื่อได้ยินคำถามของลี่เป่ยยวน เสิ่นจือเยี่ยนรีบปฏิเสธทันที "ฉันจะกล้าได้ยังไงล่ะ! คุณหนูใหญ่ตระกูลถังเขาหลงรักนายหมดหัวใจ ฉันไม่คู่ควร! แต่ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังไปสนิทสนมกับคู่ปรับของนายอย่างกู้เหยียนหลี่มากๆ หลังจากงานประมูลครั้งก่อน สองคนนี้เจอกันแทบทุกวัน แถมยังแอบเจอกันอีกด้วย!"เมื่อได้ยินดังนั้น ลี่เป่ยยวนขมวดคิ้วทันทีจากนั้นก็หัวเราะเย็นชาไม่แปลกใจเลย... ไม่แปลกใจที่ถังหว่านหนิงกล้าทำตัวอวดดีต่อหน้าเขาที่แท้ก็เพราะเธอไปเกาะกู้เหยียนหลี่เมื่อคืนยังกล้าบอกเขาว่ากู้เหยียนหลี่เป็นแค่คนรู้จักธรรมดาคิดจริงๆ หรือว่าเขาเป็นคนโง่ที่จะหลอกได้ง่ายๆ!"แล้วยังมีอีกนะ รู้จักเฮ่อหย่วนไหม? หมอนั่นหมายปองคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมานานแล้ว! หมอนั่นช่างประจบประแจงสุดๆ ได้ยินว่าวันนี้เป็นวันเกิดเจียงเหยียน หมอนั่นก็มาเหมือนกัน แถมยังให้ฉันถามนายว่า ถ้านายจะเลิกกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจริงๆ เขาขอจีบต่อได้ไหม"เสิ่นจือเยี่ยนไอเบาๆ สองครั้ง ก่อนพูดต่อ "เอ่อ ถึงแม้ฉันไม่ควรยุ่งเรื่องนี้ แต่ก็รู้นี่ว่าเฮ่อหย่วนมันเป็นคนเลวแค่ไหน คุณหนูถังถึงแม้ก่อนหน้านี

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 37

    เมื่อได้ยินดังนั้น ลี่เป่ยยวนขมวดคิ้วทันทีหลังจากที่ถังหว่านหนิงเดินจากไป หลินเหยาก็รีบเดินเข้ามา พร้อมกับกล่าวตำหนถังหว่านหนิงโดยไม่ปิดบังว่า "ประธานลี่ เป็นเพราะพี่สาวฉันไม่มีความรู้จักดีพอ... ฉันขอโทษแทนเธอค่ะ...""ไสหัวไป!"เสียงตวาดอย่างเกรี้ยวกราดของลี่เป่ยยวนทำให้หลินเหยาหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจหลินเหยาไม่กล้าทำให้ลี่เป่ยยวนโกรธอีก จึงได้แต่ร้องไห้พลางวิ่งหนีไปนอกห้องทำงาน เลขาหวังเดินเข้ามา พร้อมกับสีหน้าที่ดูไม่สู้ดีนัก กล่าวขึ้นว่า "ประธานลี่... คุณหนูถัง... ไปแล้ว"ใบหน้าของลี่เป่ยยวนยิ่งดูน่ากลัวขึ้นไปอีก เลขาหวังจึงไม่กล้าพูดอะไรต่อในห้องทำงานเงียบสงัดไปนาน ลี่เป่ยยวนจึงเอ่ยขึ้นว่า "เมื่อก่อนฉันปฏิบัติกับเธอแย่มากหรือไง?""...ประธานลี่อยากฟังความจริงไหมครับ?"เมื่อได้ยินดังนั้น ลี่เป่ยยวนกวาดสายตามองเลขาหวัง เลขาหวังรีบก้มหน้าลง ไม่กล้าตอบลี่เป่ยยวนพูดด้วยใบหน้ามืดมนว่า "นั่นก็เป็นเพราะเธอมสมควรโดน! เธอเป็นคนเสนอตัวเองให้ฉัน!""ถูก ถูกต้อง... ประธานลี่พูดถูก""เธอเต็มใจเอง ตอนนี้จะมาน้อยใจอะไรอีก?""...ถูกต้องแล้ว ประธานลี่ เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะคุณห

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 36

    “พี่ พี่คะ”หลินเหยาเมื่อเห็นถังหว่านหนิงก็ลุกขึ้นด้วยความตกใจ และกำลังจะถอยหลังหนี แต่ถูกลี่เป่ยยวนคว้าข้อมือไว้ลี่เป่ยยวนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ว่า “หนีอะไร? ยังเช็ดไม่เสร็จเลย ฉันยังไม่ได้บอกให้หยุด ก็คุกเข่าเช็ดต่อไป”“...ค่ะ ประธานลี่”หลินเหยาคุกเข่าลงบนพื้นอีกครั้ง เช็ดรองเท้าให้ลี่เป่ยยวนลี่เป่ยยวนเอนตัวพิงเก้าอี้สำนักงาน มองถังหว่านหนิงแล้วพูดว่า “ถังหว่านหนิง บางอย่างเธอไม่ทำ ก็มีคนทำแทนเธอ และยังทำได้ดีกว่าเธอด้วยซ้ำ”“ประธานลี่ ฉันมาไม่ได้เพื่อจะดูคุณทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง”ถังหว่านหนิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาลี่เป่ยยวนพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแสว่า “แค่เธอคุกเข่าขอโทษอาเหยียน ฉันก็จะถือว่าเรื่องที่ผ่านมามันไม่เคยเกิดขึ้น และงานหมั้นในอีกสองวันจะยังคงจัดขึ้นตามกำหนด นอกจากนี้ ฉันยังจะลงทุนก้อนโตให้ตระกูลถังด้วย”เมื่อเห็นถังหว่านหนิงยังคงนิ่งเงียบ ลี่เป่ยยวนหัวเราะเยาะเบาๆ แล้วพูดว่า “ก็แค่คุกเข่าขอโทษ เธอถังหว่านหนิงก็ไม่ได้ขาแข็งอะไรสักหน่อย เมื่อก่อนก็เคยคุกเข่า ทำไม? ตอนนี้ทำไม่ได้แล้วเหรอ?”พูดถึงตรงนี้ ลี่เป่ยยวนลุกขึ้นเดินมาที่ด้านข้างของถังหว่านหนิง แล้วพูดต่อว่า

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 35

    เมื่อหลิวจินกุ้ยมองรอยยิ้มของถังหว่านหนิง ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหนึ่งชั่วโมงต่อมา ถังหว่านหนิงเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขาสั้นยีนส์ที่ดูคล่องตัว ด้านบนสวมเพียงเสื้อกล้ามรัดรูปสีขาวพร้อมแจ็คเก็ตยีนส์ทับพนักงานหลายคนที่อยู่นอกอาคารบริษัทตระกูลหลี่ ล้วนจดจ้องสายตาไปที่ถังหว่านหนิง พากันจับจ้องมาที่เธอจนแทบลืมหายใจถังหว่านหนิงสวมแว่นกันแดด เดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ต้อนรับและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ฉันมาพบประธานลี่”พนักงานต้อนรับมองเธอด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวที่มีผิวขาวสะอาดสะอ้าน หน้าตาสวยงาม และขายาวดูโดดเด่น เธอจึงถามอย่างสุภาพว่า “ขอโทษนะคะ คุณนัดไว้หรือเปล่าคะ?”เมื่อเห็นว่าพนักงานต้อนรับไม่รู้จักเธอ ถังหว่านหนิงจึงถอดแว่นกันแดดออก พร้อมพูดอย่างใจเย็น “ฉันคือถังหว่านหนิง”เมื่อได้ยินชื่อ พนักงานต้อนรับถึงกับตกตะลึง “คุณ...คุณหนูถัง?”“ฉันขึ้นไปได้หรือยัง?”“ได้ ได้ค่ะ! ได้แน่นอนค่ะ!”พนักงานต้อนรับรีบใช้บัตรเปิดลิฟต์ให้ถังหว่านหนิงขึ้นไป“พวกเธอเห็นไหม? คนเมื่อกี้คือคุณหนูถัง”“คุณหนูถังแต่งตัวแบบนี้ได้ยังไง?”“เธอสวยมากเลยนะ ปกติเหมือนจะไ

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 34

    สีหน้าของหลิวจินกุ้ยยิ่งดำคล้ำลง“การเป็นเจ้าของบ้านตระกูลถังเรามันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ คุณน้าถ้าไม่มีวิธีแก้ปัญหาเรื่องเงินทุน ก็ควรรีบหนีไปซะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”หลิวจินกุ้ยถึงกับพูดไม่ออกเธอทำงานหนักในตระกูลถังมาหลายปี ทนทุกข์ทรมานจนในที่สุดสามีตาย แต่บริษัทกลับมีปัญหาใหญ่ขนาดนี้ แล้วยังจะต้องให้เธอชดใช้หนี้แทนอีก? เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!“หว่านหนิง น้ารู้ว่าเธอเป็นเด็กมีเหตุผล เธอคงไม่ปล่อยให้น้าต้องชดใช้หนี้หรอกนะ ถือว่าน้าขอร้องล่ะ ช่วยไปพูดกับประธานลี่สักคำ ถ้าประธานลี่ใจอ่อน ปัญหาของบริษัทก็จะหมดไปทันที!”เมื่อเห็นท่าทางอ้อนวอนจนเกือบจะก้มหัวของหลิวจินกุ้ย ถังหว่านหนิงยิ้มเล็กน้อย “คุณน้า จะให้ฉันไปก็ได้ค่ะ”“น้ารู้อยู่แล้วว่า หว่านหนิงของเราเป็นเด็กดี ต้องไม่ปล่อยให้บริษัทล่มแน่ๆ!”“อย่าเพิ่งรีบดีใจ ฉันยังไม่ได้บอกเงื่อนไขเลย”เมื่อได้ยินดังนั้น หลิวจินกุ้ยถึงกับอึ้ง “เงื่อนไข? ยังมีเงื่อนไขอีกเหรอ?”“คุณน้ามาขอให้ฉันช่วย ฉันตอบตกลง แน่นอนว่าต้องมีเงื่อนไขสิ”ถังหว่านหนิงพูดอย่างใจเย็นพลางพิงโซฟาอย่างสบายใจ ท่าทางของเธอทำให้หลิวจินกุ้ยโกรธแต่ไม่กล้าพูดอะไร เธอพูดว่า

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 33

    ลี่เป่ยยวนพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “งั้นก็ปล่อยให้เธอเก็บกวาดปัญหาของตัวเองไปสิ ไม่มีตระกูลถัง คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลถังก็จะไม่เหลืออะไรเลย”ขณะนั้นเอง โทรศัพท์ในสำนักงานก็ดังขึ้นลี่เป่ยยวนรับสาย เสียงจากพนักงานต้อนรับดังมาจากปลายสาย “ประธานลี่ มีผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่ามาจากตระกูลถัง เธอต้องการพบคุณค่ะ”เมื่อได้ยินว่าถังหว่านหนิงมาแล้ว ลี่เป่ยยวนเอนตัวพิงเก้าอี้พร้อมหัวเราะเยาะ “ให้เธอขึ้นมา”“ค่ะ ประธานลี่”พนักงานต้อนรับวางสายไม่นาน หลินเหยาก็ขึ้นมาถึง เธอสวมชุดกระโปรงผ้าชีฟองสีขาวที่ดูคล้ายกับสไตล์ของเจียงเหยียน เธอผลักประตูเข้ามาและเห็นลี่เป่ยยวนก้มหน้าดูเอกสารลี่เป่ยยวนไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ว่าไง? มาอ้อนวอนแล้วเหรอ?”“ประธานลี่...ฉันเองค่ะ หลินเหยา”เมื่อได้ยินว่าไม่ใช่ถังหว่านหนิง ลี่เป่ยยวนขมวดคิ้วทันทีพอเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเสียงที่ได้ยินคือหลินเหยาจริงๆหลินเหยาเอ่ยเสียงแผ่วพร้อมกับก้มหน้าด้วยความประหม่า ใบหน้าของเธอแดงก่ำ “ประธานลี่ ฉัน…”“ใครอนุญาตให้เธอมาที่นี่?”น้ำเสียงของลี่เป่ยยวนเย็นชาหลินเหยาอึ้งไป เมื่อเห็นว่าท่าทีของลี

  • ท่านประธานหยุดเถอะ! ชาตินี้ ฉันขอไม่แต่ง!   บทที่ 32

    เช้าวันถัดมา บริษัทในเครือตระกูลถังทั้งหมดประกาศหยุดดำเนินการข่าวนี้ทำให้เหล่าผู้ถือหุ้นของตระกูลถังแตกตื่นราวกับมดในหม้อร้อน การหยุดดำเนินการหมายความว่าห่วงโซ่การเงินของตระกูลถังมีปัญหาร้ายแรง!ถ้าหากไม่แก้ไขโดยเร็ว ตระกูลถังอาจล้มละลายจากการผิดนัดชำระหนี้!ในห้องประชุม บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด ทุกคนต่างรอการตัดสินใจจากหลิวจินกุ้ย เพราะในช่วงที่ผ่านมา เธอเป็นคนบริหารบริษัทไม่นานนัก ผู้จัดการหวังเปิดประตูห้องประชุม หลิวจินกุ้ยเดินเข้ามาเมื่อผู้ถือหุ้นเห็น ต่างก็กรูเข้ามาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน “คุณผู้หญิง! ตอนนี้โครงการทั้งหมดหยุดชะงัก เราจะทำยังไงดี?”“ใช่แล้ว! ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป บริษัทเราคงพังแน่ๆ!”เมื่อเห็นความร้อนรนของทุกคน หลิวจินกุ้ยเองก็รู้สึกไม่มั่นใจเช่นกันที่จริงแล้ว เธอแค่ต้องการรีบมาจัดการทำลายหลักฐานก่อนที่ถังหว่านหนิงจะตรวจสอบบัญชี แต่ใครจะไปคิดว่าในวันรุ่งขึ้น บริษัทกลับเกิดปัญหาใหญ่!ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของถังหว่านหนิง! เพราะเธอไปยั่วยุประธานลี่จนเขาถอนทุน ทำให้ตระกูลถังไม่มีทางออกแบบนี้!คิดถึงตรงนี้ หลิวจินกุ้ยโมโหมาก แต่ภายนอกยังคงรักษารอย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status