ทันทีที่ถังหว่านหนิงพูดจบ เลขาผู้ช่วยส่วนตัวของลี่เป่ยยวนก็รีบวิ่งเข้ามาจากด้านนอก ลี่เป่ยยวนเป็นคนที่ต่อให้ภูเขาไท่ซานถล่มอยู่ตรงหน้า ใบหน้าก็ยังไม่เปลี่ยนสี แม้แต่ตอนที่เธอพูดถึงการถอนหมั้นเมื่อครู่ ลี่เป่ยยวนยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แต่ตอนนี้กลับเห็นได้ชัดว่าดวงตาของเขาหดเกร็ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล ถังหว่านหนิงรู้ทันทีว่านั่นต้องเป็นข่าวเรื่องเจียงเหยียนกรีดข้อมือ เมื่อเห็นลี่เป่ยยวนทำหน้าบึ้งและกำลังจะจากไป ถังหว่านหนิงก็เดินเข้าขวางทางเขาทันที "ประธานลี่ เรื่องระหว่างคุณกับฉันยังไม่ได้พูดให้ชัดเจน" "หลีกไป" น้ำเสียงของลี่เป่ยยวนเย็นชา แฝงไปด้วยความน่ากลัว สำหรับเขา ผู้หญิงตรงหน้าเป็นเพียงเครื่องมือเพื่อเอาใจตระกูลลี่และคุณย่า เขาไม่เคยมีความรู้สึกใดๆ ต่อเธอ เขาอาจจะแต่งงานกับถังหว่านหนิงได้ แต่ถ้าเจียงเหยียนเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ เขาไม่มีทางปล่อยไว้เฉยๆ ถังหว่านหนิงไม่มีทีท่าจะถอยแม้แต่น้อย เธอถามว่า "ประธานลี่รีบร้อนแบบนี้ จะไปหาคุณหนูเจียงเหรอ?" เมื่อได้ยิน ลี่เป่ยยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน "เธอคิดว่าไงล่ะ? อาเหยียนถูกพวกเธอบีบจนต้องกรีดข้อมือ ฉันข
ที่ห้องข้างๆ โจวเยว่ดื่มเบียร์ขวดเขียวไปสามขวดแล้วร้องเพลง “แม้นตายแล้วจะยังรัก” เสียงดังลั่น ถังหว่านหนิงมองกระแสข่าวในโทรศัพท์ ยิ่งดูยิ่งรู้สึกผิดปกติ เธอดึงแขนเสื้อโจวเยว่ก่อนถามว่า "ฉันพูดตอนไหนว่าลี่เป่ยยวนมีปัญหาทางเพศ?" "โอ๊ย! ฉันเขียนเอง ข่าวก็ต้องแรงๆ หน่อยสิ ถึงจะน่าสนใจ" สีหน้าถังหว่านหนิงมืดลงทันที "แต่เธอคิดถึงผลที่จะตามมาบ้างไหม" โจวเยว่ที่ใบหน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ คว้าไมโครโฟนก่อนตะโกน "ผลเหรอ? จะมีผลอะไร! ลี่เป่ยยวนจะเอามีดมาจ่อคอฉัน บังคับให้ฉันลบข่าวหรือไง?" ปัง!ประตูห้องถูกเตะเปิดออกด้วยแรงเต็มที่ เสียงเพลงในห้องหยุดลงทันที ถังหว่านหนิงมองไปที่ประตู เห็นลี่เป่ยยวนยืนอยู่ที่นั่น ใบหน้ามืดมนจนหัวใจเธอแทบหยุดเต้น ถังหว่านหนิงรู้ดีว่าลี่เป่ยยวนจะต้องมาหาเธอ แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะมาถึงตัวเร็วขนาดนี้ "ข่าวนั่น เธอเป็นคนปล่อย?" น้ำเสียงของลี่เป่ยยวนเต็มไปด้วยความเย็นชา โจวเยว่รีบหลบไปอยู่ข้างหลังถังหว่านหนิงด้วยความกลัว ส่วนถังหว่านหนิงแสร้งทำเป็นใจเย็นแล้วตอบ "ฉันเป็นคนปล่อยเอง" "เธอ?" ลี่เป่ยยวนหัวเราะเยาะเย็นชา ก่อนเดินเข้
เช้าวันถัดมา ลี่เป่ยยวนเดินลงมาชั้นล่าง เห็นคนรับใช้กำลังจัดเก็บสัมภาระ เขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า "ทำอะไรอยู่?""คุณผู้ชาย ของพวกนี้เป็นของคุณหนูถังค่ะ เมื่อวานเธอโทรมา บอกว่าต่อไปจะไม่มารบกวนอีกแล้ว ให้เราจัดเก็บของทั้งหมดไปส่งให้เธอ"มองไปยังกระเป๋าเดินทางตรงหน้า ภาพของถังหว่านหนิงก็แวบเข้ามาในความคิดของลี่เป่ยยวนปกติเวลานี้ ถังหว่านหนิงจะเตรียมอาหารเช้าเสร็จแล้ว และรอเขาลงมาด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความหวังจากนั้นจะช่วยดึงเก้าอี้ให้เขานั่ง พร้อมกับชวนคุยเรื่องเล็กน้อยที่ไม่น่าสนใจแต่วันนี้ ร่างนั้นไม่อยู่แล้ว ทำให้เขารู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่างไปเมื่อรู้ตัวว่ากำลังคิดถึงถังหว่านหนิง ลี่เป่ยยวนจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "รีบเก็บให้เสร็จ อย่าเอาของพวกนี้มาขวางหูขวางตาฉัน!""ค่ะ คุณผู้ชาย"ลี่เป่ยยวนนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องรับแขก เห็นโต๊ะอาหารยังว่างเปล่าก็ถามด้วยความไม่พอใจ "อาหารเช้ายังไม่เสร็จอีกเหรอ?""ขอโทษค่ะคุณผู้ชาย ปกติเวลานี้คุณหนูถังจะเป็นคนทำอาหารเช้า แม่บ้านคนใหม่ยังไม่คุ้นกับเวลา...""เร็วๆ หน่อย ฉันต้องไปทำงาน"ลี่เป่ยยวนมองนาฬิกาข้อมือ พลันรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาไม่นาน
เมื่อเห็นเอกสารโอนหุ้น สีหน้าของหลิวจินกุ้ยเปลี่ยนไปทันที เธอปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงและพูดประจบ "หว่านหนิง เจ๋ออวี่ยังไงก็เป็นน้องชายของเธอ อนาคตก็จะดูแลบริษัทต่อไป เพื่อให้ตระกูลถังมีผู้สืบทอด และยังช่วยเป็นหลักให้เธอในฐานะพี่สาวอีกด้วย หลังจากนี้เธอก็จะได้แต่งงานกับประธานลี่อย่างสบายใจ แบบนี้ไม่ดีเหรอ?" พูดจบ หลิวจินกุ้ยรีบดึงถังเจ๋ออวี่เข้ามา "ทำไมไม่รีบขอโทษพี่สาวของเธอ? ใครอนุญาตให้แกเข้าห้องพี่สาวแต่เช้ากัน?" ถังเจ๋ออวี่ทำหน้าบึ้ง พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ "ยังไงตระกูลถังก็ต้องเป็นของฉันในอนาคตอยู่ดี! เธอกล้าถอนหมั้น ตัดอนาคตฉัน ฉันก็ต้องมาถามให้รู้เรื่องสิ!" ถังหว่านหนิงมองดูเหตุการณ์ด้วยสายตาเย็นชา เธอไม่คิดเลยว่าน้องชายคนนี้ของเธอจะเริ่มจ้องมรดกของตระกูลถังตั้งแต่ตอนนี้ ทั้งที่อายุยังน้อย เขากลับมั่นใจว่าตัวเองคือเจ้าของตระกูลถังในอนาคต เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการอบรมอย่างตั้งใจของหลิวจินกุ้ย "เด็กคนนี้พูดจาเหลวไหล หว่านหนิง อย่าเก็บไปคิดเลย เอกสารนี่ให้ฉันเก็บไว้แทนเธอนะ" สายตาของหลิวจินกุ้ยจับจ้องอยู่ที่เอกสารฉบับนั้น ในเอกสารระบุไว้อย่างชัดเจ
ช่วงบ่าย โทรศัพท์ของคุณนายใหญ่ลี่ก็ติดต่อมาถึงถังหว่านหนิงถังหว่านหนิงรู้ดีว่าคุณนายใหญ่ลี่ไม่ชอบเจียงเหยียนเพราะเจียงเหยียนเป็นเพียงเด็กกำพร้าของตระกูลเจียง อีกทั้งยังมีนิสัยหยิ่งยโสแม้ว่ามรดกทั้งหมดของตระกูลเจียงจะอยู่ในมือของเจียงเหยียน แต่เพราะความบาดหมางระหว่างตระกูลเจียงและตระกูลลี่ คุณนายใหญ่ลี่จึงไม่ชอบเจียงเหยียนเธอมองว่าเจียงเหยียนแสร้งทำตัวสูงส่ง จึงไม่ยอมให้ลี่เป่ยยวนไปยุ่งเกี่ยวกับเจียงเหยียน ในทางกลับกัน ตัวเธอเองทั้งเรียบร้อยว่านอนสอนง่าย มีพื้นเพครอบครัวที่สะอาดหมดจด ไม่ว่าจะเป็นบุคลิก รูปลักษณ์ หรือการศึกษา ล้วนเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นสะใภ้ของตระกูลลี่ แต่การที่คุณนายใหญ่ลี่ปฏิบัติดีกับเธอ ก็เป็นเพียงการแสดงเพื่อผลประโยชน์ เวลานี้ ถังหว่านหนิงได้นั่งรถของตระกูลลี่มาถึงคฤหาสน์ของตระกูลลี่แล้ว ทันทีที่ถังหว่านหนิงเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ คุณนายใหญ่ลี่ก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า "หว่านหนิง มานี่สิ" คุณนายใหญ่ลี่ตบเบาๆ บนโซฟาข้างตัว ถังหว่านหนิงพยักหน้า เดินไปยังข้างๆ คุณนายใหญ่ลี่ และทันใดนั้นเธอก็สังเกตเห็นเจียงเหยียนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม เจียงเหยียนยัง
"หว่านหนิง เป่ยยวนเด็กคนนี้ก็แค่หลงใหลในผู้หญิงตระกูลเจียงคนนั้น เธอไม่ต้องกังวลนะ ฉันจะให้เขามาขอโทษเธอให้ดีๆ เธอคือสะใภ้ของตระกูลลี่ที่ฉันเลือกไว้ ใครก็เปลี่ยนไม่ได้" น้ำเสียงของคุณนายใหญ่ลี่เต็มไปด้วยความเมตตา ถังหว่านหนิงยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดว่า "คุณนายใหญ่ ในเมื่อประธานลี่ตัดสินใจแล้ว ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด ขอให้เขากับคุณหนูเจียงมีความสุขค่ะ" พูดจบ ถังหว่านหนิงลุกขึ้นยืนแล้วพูดต่อว่า "คุณนายใหญ่ หากต่อไปท่านต้องการอะไร ฉันก็จะมารับใช้อย่างเดิม เพียงแต่... เรื่องหมั้นหมายระหว่างฉันกับประธานลี่ คงต้องจบเพียงเท่านี้ค่ะ" "หว่านหนิง..." คุณนายใหญ่ลี่พยายามจะพูดเกลี้ยกล่อมอีกสองสามคำ แต่ถังหว่านหนิงส่ายหน้าพูดว่า "คุณนายใหญ่ ที่บ้านของฉันยังมีเรื่องต้องจัดการ ฉันขอตัวก่อน ไว้วันหลังฉันจะมาเยี่ยมท่านอีกค่ะ" พูดจบ ถังหว่านหนิงก็หันหลังเดินจากไป คุณนายใหญ่ลี่มองตามแผ่นหลังของถังหว่านหนิงที่เดินจากไป แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ในอดีต ถังหว่านหนิงไม่ใช่เด็กสาวที่ไม่รู้ความหนักเบาแบบนี้ ที่หน้าประตูคฤหาสน์ลี่ ถังหว่านหนิงเพิ่งผลักประตูออก ก็ถูกเงาสีดำข้างตัวปิดปากและจมูกไว้
ถังหว่านหนิงก้มมองหนังสือพิมพ์บนพื้น เห็นตัวอักษรตัวโตเขียนว่า: "ตระกูลลี่ถอนความร่วมมือกับตระกูลถัง โครงการ 2500 ล้านถูกยกเลิกการลงทุน" ถังหว่านหนิงขมวดคิ้วเล็กน้อย หากเธอจำไม่ผิด โครงการ 2500 ล้านนี้คือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ตระกูลถังกำลังพัฒนา การก่อสร้างเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่พอลี่เป่ยยวนถอนเงินลงทุนออกไป การก่อสร้างก็ไม่สามารถดำเนินต่อได้ จำเป็นต้องหานักลงทุนรายใหม่ แต่พอข่าวว่าตระกูลลี่ถอนความร่วมมือถูกแพร่ออกไป ในหลินเฉิงยังจะมีใครกล้าร่วมงานกับตระกูลถังอีกเหรอ? สุดท้าย โครงการ 2,500 ล้านนี้ก็ต้องล้มเหลว และตระกูลถังก็จะขาดทุนทรัพย์สินไปไม่น้อย ถังหว่านหนิงก้มตัวลงไป หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาดู และพบว่ามันยังอุ่นอยู่ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งถูกพิมพ์แล้วส่งตรงมาที่ตระกูลถัง การเคลื่อนไหวของลี่เป่ยยวนเร็วขนาดนี้ ดูเหมือนเขาต้องการสั่งสอนเธอ เพื่อให้เธอรู้ว่าในหลินเฉิง ใครคือคนที่มีอำนาจชี้ขาด "ถังหว่านหนิง เธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลถัง ทำอะไรเพื่อตระกูลบ้างจะเป็นอะไรไป? แค่เอาใจผู้ชายมันลำบากนักหรือไง? เป็นผู้หญิง หน้าตาสวยเสียเปล่า แต่ดันไม่รู้จักใช้มันให้เป็นปร
ลี่เป่ยยวนมองเธอด้วยสายตาอาฆาต คำพูดของเขาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ราวกับว่าเขาจะฉีกเธอเป็นชิ้นๆ ในวินาทีถัดไป“เป่ยยวน! อย่าทำแบบนี้เลย คุณเข้าใจคุณหนูถังผิดแล้ว ฉันเป็นคนเลือกที่จะคุกเข่าเอง...”“อาเหยียน คุณใจดีเกินไป เลยโดนคนอื่นรังแก! ผมบอกแล้วว่าคุณไม่จำเป็นต้องพบเธอ”มองภาพที่ลี่เป่ยยวนปกป้องเจียงเหยียนถังหว่านหนิงไม่ได้แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยเจียงเหยียนมักจะบาดเจ็บทุกครั้งที่ลี่เป่ยยวนปรากฏตัวตั้งแต่เจียงเหยียนเริ่มคุกเข่า ถังหว่านหนิงก็รู้สึกถึงความผิดปกติแต่เธอก็เลือกที่จะให้เจียงเหยียนใช้โอกาสนี้ได้อย่างไรเสีย ขอเพียงลี่เป่ยยวนเกลียดเธอ การถอนหมั้นก็จะเกิดขึ้นโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม“ถังหว่านหนิง ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าเธอเป็นแค่คนหน้าไหว้หลังหลอก แต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะเลวร้ายขนาดนี้! อาเหยียนร่างกายอ่อนแอ หากเธอเป็นอะไรไป ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไว้แน่!”พูดจบ ลี่เป่ยยวนก็จูงมือเจียงเหยียนเดินจากไปตลอดเวลานั้น เจียงเหยียนมีโอกาสมากมายที่จะอธิบาย แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเงียบ พร้อมกับมองถังหว่านหนิงด้วยสายตาที่ดูเหมือนจะขอโทษแต่ถังหว่านหนิงจับความสะใจเล็กๆ ในสายต
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนในวงการนี้มองถังหว่านหนิงเป็นตัวตลกในสายตาของพวกเขา ผู้หญิงอย่างถังหว่านหนิงที่ยอมพลีกายเพื่อเข้าใกล้คนรวย ก็สมควรแล้วที่จะโดนพวกเขาหยอกล้อเสิ่นจือเยี่ยนเห็นว่าโจวเยว่เกือบจะร้องไห้ด้วยความร้อนใจ เขาทนไม่ไหวจนหันสายตาไปมองลี่เป่ยยวนแต่กลับเห็นลี่เป่ยยวนนั่งพิงโซฟา ดื่มวิสกี้ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย"ลี่เป่ยยวน!"เสิ่นจือเยี่ยนเดินมาหยุดตรงหน้าลี่เป่ยยวน ลดเสียงลงพูดว่า "เกินไปแล้วนะ! พอได้แล้ว ถ้าคุณหนูใหญ่ถังมาจริงๆ จะทำยังไง? นายจะปล่อยให้เธอกลายเป็นตัวตลกของทั้งหลินเฉิงหรือไง?""ถ้าเธอเต็มใจจะทำให้ตัวเองขายหน้า ฉันจะห้ามเธอทำไม?"น้ำเสียงของลี่เป่ยยวนเย็นชาเสิ่นจือเยี่ยนพูดด้วยความไม่พอใจ "วันนี้เป็นงานของเจียงเหยียน! ถ้านายทำเรื่องให้วุ่นวายขนาดนี้ เจียงเหยียนก็ลำบากไปด้วย"เจียงเหยียนเองก็จับแขนลี่เป่ยยวนไว้ พูดด้วยท่าทีลำบากใจ "ใช่แล้วเป่ยยวน...หรือว่าโทรหาคุณหนูถัง บอกเธอว่าอย่ามาเถอะนะ""หว่านหนิงทำให้เธอต้องอับอายต่อหน้าคุณย่า ฉันพูดไว้แล้วว่าหว่านหนิงจะต้องคุกเข่าขอโทษเธอ"น้ำเสียงของลี่เป่ยยวนแฝงไปด้วยความเย็น
โจวเยว่ทำหน้าบึ้งตึงถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ของเธอยืนกรานให้เธอมางานเลี้ยงวันเกิดนี้ เธอคงไม่มาเด็ดขาด! คนพวกนี้น่ารังเกียจ พูดจาน่ารังเกียจทั้งนั้น!"โจวเยว่ ใครๆ ก็รู้ว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทของถังหว่านหนิงใช่ไหม? เธออย่าปกป้องเพื่อนเธอเลย! หรือว่าเธอจะโทรหาถังหว่านหนิงให้หน่อย แล้วบอกให้เธอมา! บอกว่าเป็นวันเกิดของคุณหนูเจียง ประธานลี่กำลังจะจูบคุณหนูเจียงอยู่แล้ว เธอเชื่อไหมว่าถังหว่านหนิงจะรีบวิ่งมาทันที!"พูดจบ เสียงหัวเราะดังลั่นทั่วห้องทันทีโจวเยว่โกรธจนหน้าขึ้นสี "พวกเธอ... พวกเธอ!""ไม่โทรใช่ไหม? งั้นฉันโทรเอง!"ชายหนุ่มคนหนึ่งรีบเข้ามาแย่งโทรศัพท์ของโจวเยว่ไปทันที โจวเยว่หน้าซีดเผือด "เอาคืนมาให้ฉัน!"เสิ่นจือเยี่ยนทำหน้าบึ้งตึง พูดว่า "คุณชายเจิ้น! พอได้แล้ว คืนโทรศัพท์ให้โจวเยว่เถอะ!""โทรติดแล้ว! โทรติดแล้ว!"กลุ่มเศรษฐีหนุ่มที่ดื่มไปแล้วก็เริ่มคึกคะนองทันใดนั้น เสียงที่เย็นชาและขี้เกียจของถังหว่านหนิงดังขึ้นจากปลายสาย "มีเรื่องอะไร?"ทันใดนั้น ห้องส่วนตัวก็เงียบสงัดชายหนุ่มคนหนึ่งพูดด้วยความตื่นเต้น "คุณหนูถัง ประธานลี่ดื่มจนเมาแล้ว! กำลังจะจูบเจียงเหยียน! คุณจะมา
"ทำไม? หรือว่านายก็สนใจเธอ?"เมื่อได้ยินคำถามของลี่เป่ยยวน เสิ่นจือเยี่ยนรีบปฏิเสธทันที "ฉันจะกล้าได้ยังไงล่ะ! คุณหนูใหญ่ตระกูลถังเขาหลงรักนายหมดหัวใจ ฉันไม่คู่ควร! แต่ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้คุณหนูใหญ่ตระกูลถังไปสนิทสนมกับคู่ปรับของนายอย่างกู้เหยียนหลี่มากๆ หลังจากงานประมูลครั้งก่อน สองคนนี้เจอกันแทบทุกวัน แถมยังแอบเจอกันอีกด้วย!"เมื่อได้ยินดังนั้น ลี่เป่ยยวนขมวดคิ้วทันทีจากนั้นก็หัวเราะเย็นชาไม่แปลกใจเลย... ไม่แปลกใจที่ถังหว่านหนิงกล้าทำตัวอวดดีต่อหน้าเขาที่แท้ก็เพราะเธอไปเกาะกู้เหยียนหลี่เมื่อคืนยังกล้าบอกเขาว่ากู้เหยียนหลี่เป็นแค่คนรู้จักธรรมดาคิดจริงๆ หรือว่าเขาเป็นคนโง่ที่จะหลอกได้ง่ายๆ!"แล้วยังมีอีกนะ รู้จักเฮ่อหย่วนไหม? หมอนั่นหมายปองคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมานานแล้ว! หมอนั่นช่างประจบประแจงสุดๆ ได้ยินว่าวันนี้เป็นวันเกิดเจียงเหยียน หมอนั่นก็มาเหมือนกัน แถมยังให้ฉันถามนายว่า ถ้านายจะเลิกกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังจริงๆ เขาขอจีบต่อได้ไหม"เสิ่นจือเยี่ยนไอเบาๆ สองครั้ง ก่อนพูดต่อ "เอ่อ ถึงแม้ฉันไม่ควรยุ่งเรื่องนี้ แต่ก็รู้นี่ว่าเฮ่อหย่วนมันเป็นคนเลวแค่ไหน คุณหนูถังถึงแม้ก่อนหน้านี
เมื่อได้ยินดังนั้น ลี่เป่ยยวนขมวดคิ้วทันทีหลังจากที่ถังหว่านหนิงเดินจากไป หลินเหยาก็รีบเดินเข้ามา พร้อมกับกล่าวตำหนถังหว่านหนิงโดยไม่ปิดบังว่า "ประธานลี่ เป็นเพราะพี่สาวฉันไม่มีความรู้จักดีพอ... ฉันขอโทษแทนเธอค่ะ...""ไสหัวไป!"เสียงตวาดอย่างเกรี้ยวกราดของลี่เป่ยยวนทำให้หลินเหยาหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจหลินเหยาไม่กล้าทำให้ลี่เป่ยยวนโกรธอีก จึงได้แต่ร้องไห้พลางวิ่งหนีไปนอกห้องทำงาน เลขาหวังเดินเข้ามา พร้อมกับสีหน้าที่ดูไม่สู้ดีนัก กล่าวขึ้นว่า "ประธานลี่... คุณหนูถัง... ไปแล้ว"ใบหน้าของลี่เป่ยยวนยิ่งดูน่ากลัวขึ้นไปอีก เลขาหวังจึงไม่กล้าพูดอะไรต่อในห้องทำงานเงียบสงัดไปนาน ลี่เป่ยยวนจึงเอ่ยขึ้นว่า "เมื่อก่อนฉันปฏิบัติกับเธอแย่มากหรือไง?""...ประธานลี่อยากฟังความจริงไหมครับ?"เมื่อได้ยินดังนั้น ลี่เป่ยยวนกวาดสายตามองเลขาหวัง เลขาหวังรีบก้มหน้าลง ไม่กล้าตอบลี่เป่ยยวนพูดด้วยใบหน้ามืดมนว่า "นั่นก็เป็นเพราะเธอมสมควรโดน! เธอเป็นคนเสนอตัวเองให้ฉัน!""ถูก ถูกต้อง... ประธานลี่พูดถูก""เธอเต็มใจเอง ตอนนี้จะมาน้อยใจอะไรอีก?""...ถูกต้องแล้ว ประธานลี่ เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะคุณห
“พี่ พี่คะ”หลินเหยาเมื่อเห็นถังหว่านหนิงก็ลุกขึ้นด้วยความตกใจ และกำลังจะถอยหลังหนี แต่ถูกลี่เป่ยยวนคว้าข้อมือไว้ลี่เป่ยยวนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ว่า “หนีอะไร? ยังเช็ดไม่เสร็จเลย ฉันยังไม่ได้บอกให้หยุด ก็คุกเข่าเช็ดต่อไป”“...ค่ะ ประธานลี่”หลินเหยาคุกเข่าลงบนพื้นอีกครั้ง เช็ดรองเท้าให้ลี่เป่ยยวนลี่เป่ยยวนเอนตัวพิงเก้าอี้สำนักงาน มองถังหว่านหนิงแล้วพูดว่า “ถังหว่านหนิง บางอย่างเธอไม่ทำ ก็มีคนทำแทนเธอ และยังทำได้ดีกว่าเธอด้วยซ้ำ”“ประธานลี่ ฉันมาไม่ได้เพื่อจะดูคุณทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง”ถังหว่านหนิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาลี่เป่ยยวนพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแสว่า “แค่เธอคุกเข่าขอโทษอาเหยียน ฉันก็จะถือว่าเรื่องที่ผ่านมามันไม่เคยเกิดขึ้น และงานหมั้นในอีกสองวันจะยังคงจัดขึ้นตามกำหนด นอกจากนี้ ฉันยังจะลงทุนก้อนโตให้ตระกูลถังด้วย”เมื่อเห็นถังหว่านหนิงยังคงนิ่งเงียบ ลี่เป่ยยวนหัวเราะเยาะเบาๆ แล้วพูดว่า “ก็แค่คุกเข่าขอโทษ เธอถังหว่านหนิงก็ไม่ได้ขาแข็งอะไรสักหน่อย เมื่อก่อนก็เคยคุกเข่า ทำไม? ตอนนี้ทำไม่ได้แล้วเหรอ?”พูดถึงตรงนี้ ลี่เป่ยยวนลุกขึ้นเดินมาที่ด้านข้างของถังหว่านหนิง แล้วพูดต่อว่า
เมื่อหลิวจินกุ้ยมองรอยยิ้มของถังหว่านหนิง ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหนึ่งชั่วโมงต่อมา ถังหว่านหนิงเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขาสั้นยีนส์ที่ดูคล่องตัว ด้านบนสวมเพียงเสื้อกล้ามรัดรูปสีขาวพร้อมแจ็คเก็ตยีนส์ทับพนักงานหลายคนที่อยู่นอกอาคารบริษัทตระกูลหลี่ ล้วนจดจ้องสายตาไปที่ถังหว่านหนิง พากันจับจ้องมาที่เธอจนแทบลืมหายใจถังหว่านหนิงสวมแว่นกันแดด เดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ต้อนรับและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ฉันมาพบประธานลี่”พนักงานต้อนรับมองเธอด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวที่มีผิวขาวสะอาดสะอ้าน หน้าตาสวยงาม และขายาวดูโดดเด่น เธอจึงถามอย่างสุภาพว่า “ขอโทษนะคะ คุณนัดไว้หรือเปล่าคะ?”เมื่อเห็นว่าพนักงานต้อนรับไม่รู้จักเธอ ถังหว่านหนิงจึงถอดแว่นกันแดดออก พร้อมพูดอย่างใจเย็น “ฉันคือถังหว่านหนิง”เมื่อได้ยินชื่อ พนักงานต้อนรับถึงกับตกตะลึง “คุณ...คุณหนูถัง?”“ฉันขึ้นไปได้หรือยัง?”“ได้ ได้ค่ะ! ได้แน่นอนค่ะ!”พนักงานต้อนรับรีบใช้บัตรเปิดลิฟต์ให้ถังหว่านหนิงขึ้นไป“พวกเธอเห็นไหม? คนเมื่อกี้คือคุณหนูถัง”“คุณหนูถังแต่งตัวแบบนี้ได้ยังไง?”“เธอสวยมากเลยนะ ปกติเหมือนจะไ
สีหน้าของหลิวจินกุ้ยยิ่งดำคล้ำลง“การเป็นเจ้าของบ้านตระกูลถังเรามันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ คุณน้าถ้าไม่มีวิธีแก้ปัญหาเรื่องเงินทุน ก็ควรรีบหนีไปซะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”หลิวจินกุ้ยถึงกับพูดไม่ออกเธอทำงานหนักในตระกูลถังมาหลายปี ทนทุกข์ทรมานจนในที่สุดสามีตาย แต่บริษัทกลับมีปัญหาใหญ่ขนาดนี้ แล้วยังจะต้องให้เธอชดใช้หนี้แทนอีก? เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!“หว่านหนิง น้ารู้ว่าเธอเป็นเด็กมีเหตุผล เธอคงไม่ปล่อยให้น้าต้องชดใช้หนี้หรอกนะ ถือว่าน้าขอร้องล่ะ ช่วยไปพูดกับประธานลี่สักคำ ถ้าประธานลี่ใจอ่อน ปัญหาของบริษัทก็จะหมดไปทันที!”เมื่อเห็นท่าทางอ้อนวอนจนเกือบจะก้มหัวของหลิวจินกุ้ย ถังหว่านหนิงยิ้มเล็กน้อย “คุณน้า จะให้ฉันไปก็ได้ค่ะ”“น้ารู้อยู่แล้วว่า หว่านหนิงของเราเป็นเด็กดี ต้องไม่ปล่อยให้บริษัทล่มแน่ๆ!”“อย่าเพิ่งรีบดีใจ ฉันยังไม่ได้บอกเงื่อนไขเลย”เมื่อได้ยินดังนั้น หลิวจินกุ้ยถึงกับอึ้ง “เงื่อนไข? ยังมีเงื่อนไขอีกเหรอ?”“คุณน้ามาขอให้ฉันช่วย ฉันตอบตกลง แน่นอนว่าต้องมีเงื่อนไขสิ”ถังหว่านหนิงพูดอย่างใจเย็นพลางพิงโซฟาอย่างสบายใจ ท่าทางของเธอทำให้หลิวจินกุ้ยโกรธแต่ไม่กล้าพูดอะไร เธอพูดว่า
ลี่เป่ยยวนพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “งั้นก็ปล่อยให้เธอเก็บกวาดปัญหาของตัวเองไปสิ ไม่มีตระกูลถัง คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลถังก็จะไม่เหลืออะไรเลย”ขณะนั้นเอง โทรศัพท์ในสำนักงานก็ดังขึ้นลี่เป่ยยวนรับสาย เสียงจากพนักงานต้อนรับดังมาจากปลายสาย “ประธานลี่ มีผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่ามาจากตระกูลถัง เธอต้องการพบคุณค่ะ”เมื่อได้ยินว่าถังหว่านหนิงมาแล้ว ลี่เป่ยยวนเอนตัวพิงเก้าอี้พร้อมหัวเราะเยาะ “ให้เธอขึ้นมา”“ค่ะ ประธานลี่”พนักงานต้อนรับวางสายไม่นาน หลินเหยาก็ขึ้นมาถึง เธอสวมชุดกระโปรงผ้าชีฟองสีขาวที่ดูคล้ายกับสไตล์ของเจียงเหยียน เธอผลักประตูเข้ามาและเห็นลี่เป่ยยวนก้มหน้าดูเอกสารลี่เป่ยยวนไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ว่าไง? มาอ้อนวอนแล้วเหรอ?”“ประธานลี่...ฉันเองค่ะ หลินเหยา”เมื่อได้ยินว่าไม่ใช่ถังหว่านหนิง ลี่เป่ยยวนขมวดคิ้วทันทีพอเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเสียงที่ได้ยินคือหลินเหยาจริงๆหลินเหยาเอ่ยเสียงแผ่วพร้อมกับก้มหน้าด้วยความประหม่า ใบหน้าของเธอแดงก่ำ “ประธานลี่ ฉัน…”“ใครอนุญาตให้เธอมาที่นี่?”น้ำเสียงของลี่เป่ยยวนเย็นชาหลินเหยาอึ้งไป เมื่อเห็นว่าท่าทีของลี
เช้าวันถัดมา บริษัทในเครือตระกูลถังทั้งหมดประกาศหยุดดำเนินการข่าวนี้ทำให้เหล่าผู้ถือหุ้นของตระกูลถังแตกตื่นราวกับมดในหม้อร้อน การหยุดดำเนินการหมายความว่าห่วงโซ่การเงินของตระกูลถังมีปัญหาร้ายแรง!ถ้าหากไม่แก้ไขโดยเร็ว ตระกูลถังอาจล้มละลายจากการผิดนัดชำระหนี้!ในห้องประชุม บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด ทุกคนต่างรอการตัดสินใจจากหลิวจินกุ้ย เพราะในช่วงที่ผ่านมา เธอเป็นคนบริหารบริษัทไม่นานนัก ผู้จัดการหวังเปิดประตูห้องประชุม หลิวจินกุ้ยเดินเข้ามาเมื่อผู้ถือหุ้นเห็น ต่างก็กรูเข้ามาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน “คุณผู้หญิง! ตอนนี้โครงการทั้งหมดหยุดชะงัก เราจะทำยังไงดี?”“ใช่แล้ว! ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป บริษัทเราคงพังแน่ๆ!”เมื่อเห็นความร้อนรนของทุกคน หลิวจินกุ้ยเองก็รู้สึกไม่มั่นใจเช่นกันที่จริงแล้ว เธอแค่ต้องการรีบมาจัดการทำลายหลักฐานก่อนที่ถังหว่านหนิงจะตรวจสอบบัญชี แต่ใครจะไปคิดว่าในวันรุ่งขึ้น บริษัทกลับเกิดปัญหาใหญ่!ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของถังหว่านหนิง! เพราะเธอไปยั่วยุประธานลี่จนเขาถอนทุน ทำให้ตระกูลถังไม่มีทางออกแบบนี้!คิดถึงตรงนี้ หลิวจินกุ้ยโมโหมาก แต่ภายนอกยังคงรักษารอย