Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2025-04-18 16:06:35

“ขับรถประสาอะไรเนี่ย! ไม่มีตาใช่ไหม! ฉันจะแช่งให้ตาบอดเลย ขับรถไม่เห็นใจคนเดินเท้า ไม่เห็นหรือไงว่าน้ำขังเยอะแยะ แล้วนี่ฉันเปียกหมดใครจะรับผิดชอบ เอกสารของฉัน ชุดทำงานของฉัน” ปั้นหยาต่อว่ายาวเหยียดด้วยความหัวเสีย

“เอาเท่าไหร่!” ตฤณตัดจบเธอจะได้เลิกบ่น แต่เธอสิอึ้ง      

“อะไรนะ! เมื่อกี้คุณว่าอะไร” ปั้นหยาถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

“ถามว่าจะเอาเท่าไหร่ ค่าเสียหาย จะได้จบๆ ผมเองก็รีบ มีงานสำคัญ ไม่มีอารมณ์จะทะเลาะด้วย” ตฤณบอกอย่างหัวเสีย

“คิดว่าขับรถไม่มีมารยาทแล้วจะใช้เงินแก้ปัญหาได้เหรอ เงินมันทำไม่ได้ทุกอย่างหรอกนะ” 

“ไอ้ที่บ่นอยู่เนี่ยอยากได้ค่าเสียหายไม่ใช่เหรอ หนึ่งหมื่นหรือห้าหมื่นดี” พอฟังตัวเลขที่เขาให้มา ก็ยิ่งทำให้เธออึ้งไปอีก 

“เก็บเงินของคุณเอาไว้ไปล้างรถเถอะ ล้างความสกปรกบนตัวคุณด้วย ฉันไม่อยากได้” 

“แล้วกร่นด่าเพื่ออะไร ผมออกมารับผิดชอบแล้วไง” 

“ถ้าไม่ด่าจะออกมาไหม คนรวยอย่างพวกคุณนี่โคตรเห็นแก่ตัวเลย”

“ตกลงจะเอาอะไร อยากได้อะไร ถามหาว่าความรับผิดชอบผมก็จะให้ จะได้จบๆ ผมมีงานต้องทำมากกว่าคุณด้วยซ้ำ” 

“แล้วฉันไม่ต้องทำงานหรือไง เห็นไหมชุดอะไร ชุดไปสมัครงาน! แล้วนี่เอกสารเสียหายหมดเลย เกิดฉันชวดงานนี้ไปคุณจะรับผิดชอบยังไงไหว” เธอว่าคราวนี้น้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำ 

“โอ๊ย! โอเค ตกลงจะเอายังไง ผมขอโทษที่ขับรถไม่ดู รีบไปหน่อย แล้วก็หลบมอร์เตอร์ไซค์ด้วย ถ้าคุณเห็น” ตฤณอธิบายด้วยความใจเย็นลง ขณะที่ปั้นหยาไม่รู้จะเอาผิดเขายังไงดี เงินก็ไม่ได้อยากได้ แต่เขาทำให้เธอเสียเวลา เสียโอกาส มันเป็นความรู้สึกเสียใจมากกว่า โกรธและอยากจะด่ารัวๆ เลย

“เฮ้! ไม่ร้องไห้สิ ผมขอโทษแล้วไง บทจะขี้แยก็ขี้แยซะงั้น เมื่อกี้ยังด่าฉอดๆ อยู่เลย”

“คุณไม่เข้าใจหรอก” 

ปั้นหยาบอกพร้อมกับปาดน้ำตา แล้วเก็บเอกสารกับกระเป๋า เขานึกสงสารเพราะเห็นสภาพก็เข้าใจ ว่าทำไมเธอจึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้

“มี... มีอะไรให้ผมช่วยไหม” เขาแสดงความมีน้ำใจ ทว่าเธอกลับตวัดหางตามองแบบขวางๆ ทั้งที่น้ำตาอาบแก้ม 

“ฉันไม่ต้องการน้ำใจจากพวกคนรวยอย่างคุณ ไม่มีความเห็นอกเห็นใจใคร ขออย่าให้ฉันเจอคนแบบคุณอีกเลย สาธุ”

“ทำไมคุณพาลแบบนี้เนี่ย ผมก็จะรับผิดชอบแล้วไง”  

“ก็ฉันเสียใจ! ฉันหวังจะได้ไปสัมภาษณ์งาน ได้ทำงานหาเงิน แล้วดูคุณทำสิ กว่าจะกลับไปเปลี่ยนชุด เตรียมเอกสารใหม่ เขาก็ตัดสิทธิ์ฉันแล้ว” เธอบอกเสียงสั่นแต่ยังมีน้ำโหอยู่

“หึ งั้นฟังเรื่องผมหน่อยไหม เช้านี้ผมมีประชุมธุรกิจพันล้านของผม คิดดูว่ามันจะเสียหายขนาดไหนถ้าผมไปไม่ทัน คราวนี้คิดว่าผมหรือคุณที่เสียหายกว่ากัน” 

“แหงล่ะ มันจะเทียบกันได้ยังไงกับชนชั้นใต้ล่างสุดของห่วงโซ่แบบฉัน” พูดจบเธอก็เดินกลับเพื่อจะไปบ้าน ทว่าเขาเรียกเอาไว้ก่อน

“นี่! เดี๋ยวคุณ คุณ!” เขาเรียกพร้อมกับเดินตาม ทว่าเพราะความโกรธอยู่ เธอจึงหันไปผลักอกเขาแรงๆ มองตาขวางๆ 

“ขออย่าให้เราเจอกันอีก” เธอว่า พร้อมกับน้ำตาร่วง แล้วเดินจากไป ต้องให้เขารู้สึกยังไงบ้างวะเนี่ย เขาถามตัวเองพลางถอนใจ จะโกรธหรือสงสาร ให้ตายสิ สุดท้ายได้แต่เดินกลับไปขึ้นรถดังเดิม 

“ว่ายังไงบ้างครับคุณท่าน” 

“จะให้ว่ายังไง ทะเลาะกันจนคนมอง ออกรถเถอะ” ตฤณตัดบทอย่างเครียดๆ พลางเอามือกุมขมับ แต่อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเธอที่กำลังเดินจากไป 

กริ้ง! กริ้ง! กริ้ง! ขณะเดียวกันเสียงโทรศัพท์ของปั้นหยาดังขึ้น ทำให้เธอหยุดเดินแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าสะพาย

“สวัสดีค่ะ” ปั้นหยารับสายด้วยน้ำเสียงหม่น   

“สวัสดีค่ะ คุณปั้นหยาใช่ไหม ดิฉันจะโทรมาแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายบุคคลขอเลื่อนนัดสัมภาษณ์ออกไปจาก 8.30 น.เป็น 9.30 น. ค่ะ” เสียงนี้ดั่งเสียงสวรรค์ ทำให้ปั้นหยาดีใจมากเพราะมีโอกาสต่อเวลาอีกครั้ง

“ขยายเวลาออกไป ดีจัง” ปั้นหยาดีใจจนพลั้งปาก

“อะไรนะคะ” ปลายสายถามย้ำอีกครั้ง

“ออเอ่อ เปล่าค่ะ คือ ฉันบอกว่าดีจัง เพราะตอนนี้รถติดมากค่ะ อาจจะไปช้านิดนึง” 

“ค่ะ พอดีเช้านี้มีประชุมด้วย เกรงว่าจะกินเวลานาน แล้วทางเจ้านายก็ให้ผู้บริหารประชุมทั้งหมด ซึ่งมันชนกับตารางสัมภาษณ์พอดี” 

“ขอบคุณนะคะ ยังไงฉันจะไปให้ทันเวลาค่ะ” 

“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นแล้วเจอกันนะคะ” 

“ค่ะ สวัสดีค่ะ” ปั้นหยารับคำพร้อมกับวางสาย อย่างน้อยในความแย่ยังมีเรื่องดีมาต่อชีวิตให้อีกสักหน่อยก็ยังดี ว่าแล้วจึงรีบเดินจ้ำอ้าวกลับไปที่บ้านเพื่อเปลี่ยนชุดให้เร็วที่สุด แต่เอกสารนี่สิมันเป็นสำเนาที่ต้องถ่ายเอกสารใหม่ ทำให้เสียเวลามาก กว่าจะเรียบร้อยก็ครึ่งชั่วโมง 

จากนั้นก็ออกจากบ้าน คราวนี้ไม่เดินมันแล้ว นั่งวินฯ ไปเลยจะดีกว่า แม้จะขับอันตรายแต่ก็ต้องยอม เรียกว่าเหมาไปเลยละกัน 

“พี่ หนูเหมาไปบริษัทศิริทรัพย์ พร้อพเพอร์ตี้เลยได้ไหมพี่” 

“มันไกลนะน้อง ต้องเหมาแล้วเนี่ย”

“ไกลดีกว่ารถติดน่า เหมาก็เหมา หนูกลัวไปไม่ทัน นี่สายมากแล้ว” 

“เออๆ งั้นขึ้นมาใส่หมวกด้วย” ว่าแล้วปั้นหยาก็ขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายด้วยการนั่งเบี่ยงและใส่หมวกกันน็อกเป็นอย่างดี จากนั้นคนขับก็ บิดตามที่เธอต้องการ เรียกว่าขับเหมือนที่เธอบ่นนั่นแหละ “รีบไปตาย” สุดท้ายตัวเองก็ได้มานั่งเองเพราะต้องรีบไปให้ทันเวลา

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านประธานขาอย่าดุ   บทที่ 114 (จบ)

    “ก็คุณเจ้าเล่ห์เก่งนี่คะ”“ไม่เจ้าเล่ห์จะได้คุณเหรอ หืม”“คุณได้หยา ไม่ใช่เพราะคุณเจ้าเล่ห์เก่ง เพราะหยารักคุณต่างหาก ท่านประธาน มีเรื่องหนึ่งที่ค้างคา”“อะไรจ๊ะ”“ครั้งแรกที่เจอกันคุณบอกว่าจะรีโนเวทห้อง จะพาหยาไปดูสถานที่จริง” นี่เธอซื่อจริงหรือว่าแกล้งถาม เขาคิด“ก็เข้าไปเห็นห้องแล้ว น่าอยู่ดีไหมล่ะหรือว่าต้องแก้ไขอะไรอีกครับ”“นี่เจ้าเล่ห์เหรอคะ ไม่ได้อยากจะทำจริงๆ ใช่ไหม หืม”“ก็คนมันอยากได้นี่”“ก็ต้องเอาให้ได้ ร้ายกาจนัก”“ร้ายกาจเหรอ แล้วไม่ชอบหรือไง เป็นเมียท่านประธานแบบนี้ ดีหรือเปล่า?” เขาเปลี่ยนเรื่องคุยเสียอย่างนั้น“ไม่รู้สิคะ ต้องดูกันระยะยาว”“แล้วชอบแบบนี้หรือเปล่า”“แบบนี้? ชอบดุดุ”“หึๆ ไหนบอกไม่ชอบดุไง”“เวลาคุณดุแล้ว ดูร้อนแรงดีจะตาย”&

  • ท่านประธานขาอย่าดุ   บทที่ 113

    “อ้อนผมก่อน แล้วผมจะตามใจ” สิ้นคำเขาก็กดจูบตรงกลีบเสียวนุ่มนิ่มเบาๆ ความร้อนจากเรียวปากทำเอาสะดุ้งแอ่นเด้งขึ้นลง“อืม ท่านประธานอย่ากินดุนักสิคะ” เธอออดอ้อนตามที่เขาปรารถนา“เลียดุด้วย” เขาเสริมขึ้นก่อนจะปาดลิ้นเลียเม็ดเสียวแผ่วเบา ที่กระตุกตอดลิ้นตุบๆ“ซี๊ด! อืม” เธอครางเบาๆ เช่นกัน เหมือนกำลังถูกเขาหยอกเย้าให้ทรมาน และความเสียวซ่านกำลังก่อเกิดอีกครั้ง เมื่อปลายลิ้นร้อนลากเลียผ่านร่องรักจากล่างขึ้นบนเชื่องช้า จนทำให้เธอแทบจะบิดเร้าไปทั้งตัวและจิกลงไปบนที่นอน“อูยยยย อ่า” ยิ่งเลียช้าก็ยิ่งเสียวสะท้าน เนินสวาทถึงกับแอ่นยกขึ้นลง พลางส่งเสียงครางพะแผ่วออกมาอย่างสุดจะกลั้น“ตฤณขา สะ สะ เสียวมากเลยค่ะ อื้อ!” เสียงหวานเว้าวอนเมื่อกลีบอวบถูกชำแรกรักด้วยลิ้นปาดเลียเร็วขึ้น ทั้งขดงอดุนดันสลับงับดูดน้ำหวานที่ไหลออกมาเพราะความเสียวซ่าน น้ำหวานฉ่ำแฉะไปทั้วกลีบเขาก็ยิ่งดูดเลียหนักหน่วง ไม่มีคำว่าเบาหรือปราณีตามที่ออดอ้อน“ซี๊ด! โอ้ว! ตฤณขา ตฤณ! อ๊ะ ดูดแรงเหลือเกินตฤณขา”

  • ท่านประธานขาอย่าดุ   บทที่ 112

    “ซี๊ด โอ้ว! หยา... หยา... เสียว หยาจะ... อื้อ!” เธอร้องครวญครางก่อนจะกระตุกเกร็งไปทั้งตัว พร้อมกับหายใจหอบหนักๆ ร่างกายปลดปล่อยพุ่งทะยานไปสู่ขอบฟ้า น้ำรักพุ่งพ่นหลั่งไหลออกมาใส่ปากร้อนที่ดูดกลืนกินอย่างไม่อิ่มเอม เธอยังคงกระตุกเสียวซ่านและหายใจระรัว เมื่อรู้ว่าเธอจึงจุดหมายเขาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทว่ายังคงจับขาข้างเดิมของเธอเอาไว้ในข้างหนึ่ง แล้วยื่นหน้าเข้าไปประกอบจูบดูดดื่มเขาไม่อ้อยอิ่งรีบขยับรูดแท่งร้อนระรัว เมื่อพร้อมรบเขาก็จับจ่อตรงปากทางรัก แล้วกดสอดแทรกผ่านเรือนกายอันบอบบางคับแน่น สะโพกกดอัดนำพาแท่งร้อนเข้าไปจนสุดทางและลึกจนรู้สึกได้ เนื้อกายสาวบีบรัดรึงแท่งร้อนเอาไว้จนเสียว “ขอท่านี้ได้ไหมครับ” เขาถอนจูบออกมากระซิบแผ่วเบา ไม่ต้องขอแล้วเพราะเขาพร้อมจะขยับตัว เธอไม่ตอบแต่กลับรั้งเขามาจูบอีกครั้ง จากนั้นบทรักจึงได้เริ่มต้นสะโพกแกร่งเคลื่อนไหวอัดแท่งร้อนเข้าออกทางรัก เข้าสุด ออกสุด ทำเอาเธอเสียวซ่านยิ่งกว่าเดิม แต่ขยับตามไม่ได้ด้วยว่าเขาจับขาข้างหนึ่งยกไว้ แท่งร้อนสอดแหย่กระแทกกระทั้น เข้าออกครั้งแล้วครั้งเล่า

  • ท่านประธานขาอย่าดุ   บทที่ 111

    “เร็วๆ อยากแช่น้ำเย็นๆ แล้วร้อนมาก” ตฤณบอกขณะที่ปั้นหยาเปิดน้ำตีฟองใส่อ่างจากุชชี่ให้ ขณะเดียวกันเขาก็เปิดหน้าต่างรับลมเย็นๆ จากด้านนอก เรียกว่าแช่น้ำไปด้วย ชมทุ่งข้าวไปด้วย“รอหน่อยสิคะ อ่างตั้งใหญ่กว่าน้ำจะเต็ม” เธอบอก โดยที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าไว้รอแล้ว ใส่แค่เสื้อคลุมเท่านั้น ทว่าน้ำได้เพียงครึ่งอ่างเขาก็ถอดเสื้อคลุมออกแล้วก้าวลงไปแช่ทันที“อุ้ย นี่ยังไม่เสร็จเลยค่ะ”“แช่ไปด้วย เปิดน้ำไปด้วยไง ผมอยากแช่อยากผ่อนคลาย แล้วก็อยากได้คนนวดหลัง ทั้งเครียดทั้งเหนื่อยมาหลายวันติดต่อกัน ไม่มีเวลาอ้อนคุณเลย”“อยากอ้อนก็ไม่บอก” ปั้นหยาว่าก่อนจะก้าวลงไปในอ่าง อ้อมไปทางด้านหลังของเขา แล้วนั่งตรงขอบเพื่อให้เขานั่งตรงหวางขาพอดี จะได้นวดถนัด จากนั้นก็เริ่มนวดตรงหัวไหล่ ต้นคอ แล้วกลับมาแขนสลับกันไปมาให้เขาได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกลิ่นน้ำมันหอมระเหยคละคลุ้งทั่วไปทั้งห้อง เขาหลับตาพิงเธออย่างผ่อนคลาย“หยารู้สึกอะไรไหม ตั้งแต่เกิดเรื่อง เราไม่ได้ใกล้กันแบบ

  • ท่านประธานขาอย่าดุ   บทที่ 110

    “แม่เจ้าซันด์ รถคว่ำตกทางด่วน เพราะกำลังมาที่นี่ ตายคาที่พร้อมกับเลขา” ชาติชายพูดด้วยน้ำเสียงเหม่อลอย น้ำตาไหล ทว่าตฤณกลับช็อกพอๆ กัน ตฤณไม่ได้อยากให้เกิดโศกนาฏกรรมแบบนี้ แต่มันเรียกว่ากรรมหรือเปล่า“เพราะมึง! เพราะมึงไอ้ตฤณ! ไอ้ชาติชั่ว! เพราะมึงที่ทำให้มันเป็นแบบนี้” ชาติชายหันไปกล่าวหาตฤณ พร้อมกับพุ่งตัวเข้าไปจะทำร้าย แต่ถูกตำรวจสกัดเอาไว้ก่อน“หยุด! คุณชาติ หยุด! ไม่งั้นคุณจะมีความผิดไปมากกว่านี้”“มีความผิดเหรอ ไหนๆ กูก็ไม่เหลืออะไรแล้ว เมียกูตายเพราะมึงไอ้ตฤณ ทุกอย่างเพราะมึง” ชาติชายตะคอกลั่นโรงพยาบาล ด้วยความคุ้มคลั่งเสียใจและช็อกอย่างหนัก พยายามปรี่เข้าไปทำร้ายร่างกายตฤณ แต่ถูกตำรวจและบอร์ดี้การ์ดกันเอาไว้เสียก่อน ชาติชายอาศัยช่วงชุลมุนกระชากปืนจากตำรวจแล้วเล็งไปที่ตฤณ ทว่าวินาทีเดียวกันนั้นตฤณก็เอาปืนพกออกมาเล็งกลับไปอย่างรวดเร็ว เพราะเขาเตรียมพร้อมเสมอ ยิ่งอยู่กับศัตรูยิ่งไว้ใจไม่ได้ไม่“ใจเย็นๆ ทุกคนใจเย็น” ตำรวจร้องห้าม พร้อมเปิดทางออก

  • ท่านประธานขาอย่าดุ   บทที่ 109

    “ก็เหมือนกับที่เขาชอบซุบซิบกันสไตล์สองพ่อลูกนั่นแหละครับ บังเอิญผมได้ยิน แต่ไม่ทันซะละ อีกอย่างผมจะบอกใครได้ ใครจะเชื่อเพราะผมมันเด็ก แต่เผื่อคุณชาติจะไม่ทราบว่าคนขับรถที่ตายพร้อมกับท่านประธานคนก่อนน่ะ คือพ่อผม แต่คุณพูดวันนี้ก็ดี ตำรวจจะได้รู้ความจริง”“ไอ้ก้อง ไอ้เด็กเวร มึง! กูจะเอามึงให้ตายตามพ่อมึงไป” ด้วยความเดือดดาลโกรธ กลัว ไร้สติจนหลุดปากออกมาหมด ตำรวจก็รวบรวมไว้ทั้งหมดเหมือนกัน“เอาล่ะๆ ถกกันพอแล้ว เรื่องเมื่อเจ็ดปีก่อนตำรวจชุดใหม่จะจัดการต่อ รับรองว่าท่านที่เสียชีวิตไป จะได้ตายตาหลับเสียที ส่วนคดีที่เกิดขึ้นปัจจุบันลูกชายคุณเป็นคนทำทั้งหมด หลักฐานพยานมัดตัวเขาไว้หมดรวมทั้งผู้สมรู้ร่วมคิด”“คดีนี้ปิดง่ายดีนี่คุณตำรวจ” ตฤณประชดเบาๆ“ครับ ยังเหลือแต่คุณชาติชาย จะบอกเราได้ไหมว่าสมรู้ร่วมคิดเรื่องอุ้มคุณตฤณกับคนอื่นๆ หรือเปล่า หรือคุณไม่รู้เรื่อง”เอาแล้วสิเจอคำถามยาก ครั้นจะบอกว่าไม่รู้เรื่องก็จะเป็นการทิ้งลูกชาย แ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status