หญิงสาวเอ่ยชื่อของเขาออกมาแผ่วเบา ก่อนจะมองซ้าย มองขวาว่ามีใครอยู่แถวนี้หรือไม่ และเมื่อพบกว่าพนักงานที่ออกมายังลานจอดรถบางคนไปที่รถของตัวเองแล้ว เธอก็รีบวิ่งอย่างเร็วเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถของเขาด้วยท่าทางลนลาน แล้วยังเอนตัวพิงเบาะแล้วปรับให้มันเอนไปเป็นเบาะนอน แล้วบอกให้เขาออกรถและรีบปิดกระจก
“ทำอะไรของเธอ”
เสียงห้าวเอ่ยถามขณะเคลื่อนรถออกไปจากบริษัท แล้วหันมามองคนที่ค่อยๆ ลุกขึ้นมองกระจกซ้ายขวาด้วยทางระแวงระวัง
“ทำอะไรของเธอ”
เขาถามอีกครั้งทำให้โชติกาหันขวับมามองเขาแล้วทำหน้ายุ่งใส่อย่างลืมตัว
“ก็เดี๋ยวมีคนมาเห็นไงคะ เรื่องของเรามันยังเป็นความลับอยู่นะคะ”
“แล้วเธอขึ้นมาบนรถของฉันทำไมล่ะ”
โชติกานิ่งงันและเริ่มรู้สึกตัว ก่อนจะขยับตัวนั่งหลังตรงคอเชิด เมื่อรู้ตัวว่าตนเองได้ทำผิดมหันต์เลยทีเดียว
นี่เธอลืมไปได้ยังไง ว่าสัญญาระหว่างเธอกับเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว และสิ้นสุดลงก่อนกำหนดด้วย แล้วสามวันที่ผ่านมา เธอก็ย้ายออกจากคอนโดกลับไปอยู่บ้านของตัวเอง ที่เธอจ้างคนมาทำความสะอาด และดูแลอยู่เสมอ และบางครั้งเธอก็จะกลับไปนอนที่บ้านโดยมีพิมพ์ผกาไปนอนเป็นเพื่อน
และในเมื่อเธอกับเขาสิ้นสุดความสัมพันธ์ลับๆ กันแล้ว แล้วเธอขึ้นรถมากับเขาทำไมกันล่ะเนี่ย...
“งั้นจอดตรงป้ายรถเมล์ข้างหน้าด้วยค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะนั่งแท็กซี่กลับไปเอารถที่บริษัท”
เธอพยายามอย่างที่สุดที่จะปั้นน้ำเสียงห่างเหินออกมา และมันก็สำเร็จ
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันไปส่ง ไหนๆ เธอก็กระโดดขึ้นรถฉันมาแล้วนี่นะ”
เขาพูดเรื่อยๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่คนฟังเจ็บจี๊ดในใจเลยทีเดียว ก็ใช่สินะ เธอไม่เคยมีความสำคัญอะไรกับเขามากไปกว่านางบำเรอลับๆ ที่เขาจะมีของขวัญ มีดอกไม้ให้บ้างบางโอกาส แต่ทุกอย่างมันจบแล้ว วิคเตอร์ก็ไม่ต้องมาใส่ใจอะไรเธอ มันก็ถูกต้องแล้ว ที่เขาจะไปส่งก็คงจะแค่จำใจ เพราะเธอกระโดดขึ้นรถของเขามาเอง
แต่... แต่ว่าทำไมวิคเตอร์จะต้องมาจอดรถตรงนี้ ทำเหมือนว่ามารับเธอเหมือนทุกครั้งก่อนหน้าล่ะ...
“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันกลับเองได้ ไม่รบกวนท่านประธานหรอกค่ะ แต่ว่า.. แล้วทำไมท่านประธานถึงขับรถมาจอดตรงหน้าดิฉันล่ะคะ”
หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะถามออกไป คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันยุ่ง
“ฉันไม่ได้จะจอดรับเธอสักหน่อย แค่ฉันจะแวะคุยอะไรบางอย่างกับเธอเท่านั้น”
สีหน้าและแววตาของเขาเรียบเฉย ไร้ความรู้สึก นี่เธอคงไม่ได้มีความหมายกับเขาแล้วจริงๆ สินะ มีแต่เธอที่อาลัยอาวรณ์เขาเหมือนคนบ้า โชติกาสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพูดออกไป
“งั้นดิฉันต้องขอโทษด้วยนะคะที่บังอาจขึ้นรถของท่านประธานโดยที่ท่านไม่ได้เชิญ จอดตรงหน้าตรงนั้นก็ได้ค่ะ ดิฉันจะกลับเอง และก็เชิญท่านประธานพูดธุระของท่านมาได้เลยค่ะ”
เธอเห็นเขาปรายตามองเธอแวบหนึ่ง มุมปากหยักได้รูปของเขายกขึ้นน้อยๆ เป็นรอยยิ้ม แต่คงจะเป็นรอยยิ้มหยันเสียมากกว่าจะเป็นรอยยิ้มของความพึงพอใจ
“ห่างเหินจังนะ”
น้ำเสียงของเขามีแววประชดประชัน แต่เธอไม่สนใจหรอก ระหว่างเธอกับเขามันเป็นอดีตไปแล้ว
“พูดธุระของท่านประธานมาเถอะค่ะ แล้วก็จอดรถให้ดิฉันลงตรงป้ารถเมล์ด้านหน้าด้วยจะเป็นพระคุณอย่างมากเลยค่ะ”
“ไม่เป็นไร ไหนๆ เธอก็ขึ้นรถฉันมาแล้ว ฉันจะไปส่งที่คอนโดละกัน”
“ดิฉันไม่ได้อยู่ที่คอนโดนั้นแล้วค่ะ”
เธอรีบบอก และเห็นเขาเหมือนจะอึ้งๆ ไปเล็กน้อย เขาคงไม่รู้สินะว่าเธอขนข้าวของออกมาจากคอนโดหรู ที่เขาซื้อไว้ให้เธออยู่ระหว่างที่เป็นนางบำเรอของเขา และเธอต้องบอกทุกคนว่า บ้านอยู่ไกล การมาอยู่คอนโดใกล้ที่ทำงานกว่า แม้ว่ามันจะจริง แต่เธอก็รู้สึกอึดอัด และละอายใจเกินกว่าที่จะบอกใครๆ ว่าเธอเป็นนางบอกเรอของวิคเตอร์ แม้แต่กับพิมพ์ผกาเธอก็ไม่ได้บอก พิมพ์ผกาเองก็ไม่เคยถามและให้พื้นที่ความเป็นส่วนตัวระหว่างเพื่อนอย่างเข้าใจ เธอรู้สึกผิดต่อพิมพ์ผกามาก โชติกาวางแผนในใจไว้ว่าจะบอกเรื่องความลับนี้ ให้พิมพ์ผการับรู้ในวันพรุ่งนี้
“งั้นก็คงกลับไปอยู่ที่บ้านสินะ”
เพราะวิคเตอร์เองก็เคยไปค้างที่บ้านของเธอ เขาจึงรู้เส้นทางเป็นอย่างดี
โชติกาไม่พูดอะไรต่อ แต่รอฟังว่าวิคเตอร์จะพูดธุระของเขากับเธอเรื่องอะไร ทำไมทำท่าทางเหมือนว่าเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งๆ ที่เธอก็ไม่ใช่คนสำคัญอะไรในชีวิตอันสมบูรณ์แบบของเขาแล้ว...
ไม่นานรถหรูคันงามก็แล่นมาจอดที่หน้าบ้านไม้กึ่งปูนชั้นครึ่งหลังกะทัดรัด และร่มรื่นน่าอยู่ อาจจะเป็นเพราะ โชติกามักหาต้นไม้ดอกมาปลูกไว้บ่อยๆ และคนดูแลก็ชอบต้นไม้ดอกไม้และรักความสะอาด ชอบชีวิตสงบ จึงทำให้เธอกับ มัลลิกา หรือ มะลิ คนดูแลบ้านเข้าใจกันและกลายเป็นได้เพื่อนที่รู้ใจมาอีกคน แต่จริงๆ แล้ว เธอกับมัลลิกาก็มีศักดิ์เป็นญาติห่างๆ กัน และเธอก็สงสารมัลลิกาที่ขาดพ่อ อยู่กับแม่ที่ขี้เมา และมีสามีใหม่อยู่เรื่อยๆ ทำให้ชีวิตของมัลลิกาน่าสงสารอยู่ไม่น้อย และโชติกาก็กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับมัลลิกา
ในงานศพบิดามารดาของเธอ มัลลิกาก็มาร่วมงานและช่วยงานจนทุกอย่างเสร็จสิ้น แต่สีหน้าเศร้าๆ ของมัลลิกา บวกกับรอยช้ำเป็นจ้ำๆ ตามตัว ทำไห้เธอถามถึงสาเหตุ มัลลิกาจึงเล่าความจริงให้ฟังว่าถูกแม่ทุบตี และผัวใหม่แม่พยายามจะข่มขืนเธอมัลลิกาต่อต้านจึงถูกทำร้าย และหนีไปอยู่บ้านเพื่อน
ตอนที่7.ทุกๆ วันมัลลิกาต้องอยู่กับความหวาดระแวง ดังนั้นโชติกาจึงชวนมัลลิกามาอยู่ที่บ้านด้วยกัน และให้เป็นคนดูแลบ้านหลังนี้นั่นเอง...“พี่แก้มกลับมาแล้ว...”เสียงใสๆ ของหญิงสาววัยยี่สิบที่น่ารักสดใสวิ่งออกมาเปิดรั้วเมื่อเห็นว่า โชติกาเดินลงมายืนอยู่หน้าบ้าน“ไม่รู้จะวิ่งหน้าตาตื่นมาทำไม พี่มีกุญแจ”โชติกาส่ายหน้ายิ้มๆ เมื่อมัลลิกาเปิดประตูรั้วให้อย่างเต็มใจ ก่อนจะมองไปยังรถคันใหญ่“นั่นคุณวิคนี่ ไม่เชิญเขาเข้าบ้านเหรอ”“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก ปิดรั้วแล้วก็ไปทำหน้าที่ตัวเองซะยายจอมยุ่ง” .โชติกาก้มลงมากระซิบพร้อมทั้งเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากมนเบาๆ อย่างมันเขี้ยว ยายจอมยุ่งที่นับวันยิ่งยุ่งจนเธอหัวจะปวด กับความแก่นแก้ว แก่นกะลา ร่าเริงของมัลลิกา ที่เปลี่ยนแปลงไปราวกับคนละคนหลังจากที่ย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ สาวน้อยแววตาเศร้าและมักก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบตาใครอยู่เสมอ ทั้งยังขี้กลัว กลายเป็นสาวน้อยสวยสดใส และมักมีเรื่องสนุกมาเล่าให้ฟังเสมอ ยามที่เธอกลับมาที่บ้าน“งอนกันเหรอ..”“เข้าบ้านไปเลยยายจอมยุ่ง”“อย่างอนกันนานน้า ผู้ชายหล่อๆ อย่างคุณวิคหาไม่ได้ง่ายๆ นะคะ”พูดแล้วก็ขยิบตาให้อย่างซุกซน ก่อนร่าง
ตอนที่ 8.อย่าหวั่นไหว อย่าหลงเสน่ห์เขาเด็ดขาดนะแก้ม เธอกับเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไปแล้ว... หญิงสาวพยายามบอกตัวเอง“พูดธุระของคุณมาเถอะค่ะ อย่ามัวเสียเวลาเลย”“สิ่งที่ฉันอยากจะบอกกับเธอก็คือ หากจะหาที่หมายใหม่ ก็ต้องไม่ใช่ราเมศ..”โชติกาหันมามองเขาอีกครั้ง หลังจากที่พยายามหักห้ามหัวใจไม่ให้เจ็บปวด กับคำพูดดูแคลนของเขา“คุณคิดแบบนั้นหรือคะ”แววตาของเธอซ่อนความเจ็บปวดและเสียใจไว้ไม่มิด นี่เขาคิดว่าเธอ ง่าย หรือ ต้องการใครสักคนมาแทนที่เขาเร็วขนาดนั้นเชียวหรือเธอยังคงรักเขาอยู่ และไม่มีใครมาแทนที่ในหัวใจเธอได้ และที่สำคัญ เธอไม่ได้คิดอะไรกับราเมศเลย...“ฉันเห็นนะว่าเธอทำอะไร”“โอเคค่ะ ธุระของคุณจบแล้วใช่มั้ยคะ”หญิงสาวลุกขึ้น แล้วเดินไปที่ประตูบ้าน มันคือการ ไล่แขก โดยไม่ต้องเอ่ยปาก เธอเห็นวิคเตอร์ขบกรามแน่น ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วเดินมายังประตูที่เธอยืนอยู่ โชติกาพยายามห้ามร่างกายของตัวเองไม่ให้สั่นเทาและยืนให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ร่างสูงใหญ่ของเขาเดินผ่านไปโดยไม่พูดอะไร ท่าทางของเขาดูเย็นชาและไร้เยื่อใยอย่างที่สุด...“ลาก่อนค่ะ คุณวิค”หญิงสาวเอ่ยกับตัวเองเบาๆ เมื่อรถห
ตอนที่9 .“กวนจงกวนใจที่ไหนกันล่ะวิคเตอร์ ก็ลูกไม่ค่อยกลับมาบ้าน ก็ได้ตามรามนี่ล่ะมาหามาพูดคุยด้วย หากไม่มีตาราม สองตายายอย่างแม่กับพ่อก็คงเหี่ยวเฉา เพราะมีลูกก็เหมือนไม่มี”คุณวิคกี้ หรือ วิภาดา มารดาของเขาเอ่ยประชดประชันทั้งยังทำแง่งอนใส่ ซึ่ง คุณโรแนน ผู้เป็นบิดาก็เออออไปด้วย“ใช่ครับที่รัก”สองสามีภรรยาต่างก็พากันมองค้อนผู้เป็นลูกชายที่เดินเข้ามาโอบกอดมารดาแล้วหอมแก้มนวลที่แม้จะเหี่ยวย่นไปตามวัย แต่ก็ยังคงเค้าความงดงามในวัยสาวเอาไว้ให้เห็นอย่างเด่นชัด ไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อที่ยังคงหล่อเหลาและดูดีในวัยหกสิบปลาย“โธ่ คุณแม่ครับ ผมก็แค่งานยุ่ง”“งานยุ่งหรือยุ่งเรื่องตามง้อหญิงครับพี่ชาย”“ไอ้จอมยุ่ง นายรีบกลับบ้านไปเลยไป” วิคเตอร์เดินไปผลักศีรษะราเมศอย่างหมั่นไส้“โอ๊ยยย คุณป้าครับ พี่วิคแกล้งผมอีกแล้ว”“ตาวิคนี่ ทำไมชอบแกล้งน้องนักนะ เจ้าตัวดีนี่เป็นตัวเองนั่นล่ะ ตัวดีนักเชียว”คุณวิคกี้บ่นลูกชายพร้อมกับหยิกต้นแขนแข็งแรงของเขาอีกหนึ่งหมับ“แล้วเรื่องที่เราซุกเมียเอาไว้นี่จริงมั้ยเจ้าวิค”คนเป็นพ่อถาม วิคเตอร์นิ่งงันไปก่อนจะปรายตามองไปที่ราเมศที่ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะรีบเอ่ยปากขอตัว“
ตอนที่10.“ฮื่อ.. ไม่โกรธที่เธอไม่ได้บอกฉัน แต่แอบเคืองที่เธอเห็นว่ายายเด็กตะกละนี่ ดีกว่าฉัน ได้รับรู้ทุกอย่างมากกว่าฉันเนี่ย” พูดจบพิมพ์ผกาก็ยกจานขนมหนีมือเล็กของมัลลิกาที่กำลังเอื้อมมาหยิบขนมชั้นที่ทำเป็นรูปดอกไม้หลากสีสวยงามใส่ปาก“แหม.. พี่หนมผิงคนสวยขา ขอมะลิกินขนมอีกชิ้นเดียวไม่ได้เหรอค้า” มัลลิกาทำตาปริบๆ ออดอ้อนน่าสงสาร“ไม่ต้องมาออดอ้อนออเซาะหรอกย่ะ แม่ตัวแสบ รู้อะไรแล้วเงียบไม่ยอมแอบกระซิบพี่หนมผิง ทำโทษอดกินขนมอร่อยๆ ไปทั้งปี”“พี่หนมผิงอะ ใจร้าย”“ไม่รู้ไม่ชี้” พิมพ์ผกากอดอกเชิดหน้าทำไม่รู้ไม่ชี้แต่มุมปากกลับยกยิ้มน้อยๆโชติกามองทั้งคู่แล้วส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเอ่ยขอโทษขอโพยเพื่อนอีกครั้ง“แต่ฉันก็ขอโทษเธอจริงๆ นะผิง ที่ปิดเรื่องนี้มาตลอด คือฉัน...”“ฉันรู้ และเข้าใจเธอนะแก้ม ถึงไม่ได้ก้าวก่ายหรือละลาบละล้วงไง เราโตๆ กันแล้ว แม้เราจะรักและสนิทสนมกันแค่ไหน แต่เราก็ต้องเว้นระยะห่างและให้ความเป็นส่วนตัวซึ่งกันและกัน และฉันก็รู้ดีว่าเรื่องนี้มันเปราะบาง ละเอียดอ่อน”พิมพ์ผกาเอื้อมมือมาบีบมือเพื่อนอย่างปลอบโยนและเข้าใจ เรื่องแบบนี้เป็นใครอยากจะประชาสัมพันธ์ตัวเองให้โลกรู้ล่ะ ยิ่
ตอนที่ 11.พิมพ์ผกาถึงกับกุมขมับเมื่อเห็นพี่ชายกับมัลลิกาวิ่งไล่จับกันเหมือนทอมกับเจอร์รี่ ที่วิ่งวนอยู่รอบตัวคุณตาที่หัวเราะชอบใจ“คิดจะเป็นแม่สื่อก็ต้องจับคู่ใหม่แล้วมั้ยเพื่อนรัก” โชติกาเอ่ยยิ้มๆ“หึ.. ยายตัวดีอีกคนก็คือเธอนี่ล่ะแก้ม” แล้วสองสาวก็หัวเราะให้กันอย่างขบขันเช้าวันนี้เป็นอีกวันที่เธอจะต้องตื่นขึ้นมาและจะต้องไปทำงาน และจะต้องพบเจอกับวิคเตอร์ที่เดี๋ยวนี้ไม่รู้กินอะไรผิดสำแดง ถึงได้มาที่แผนกของเธอบ่อยนัก แต่โชติกาก็พยายามไม่สนใจเขา และวันนี้เธอก็ได้ยื่นใบลาออกกับฝ่ายบุคคลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้จะเหลือเวลาอีกสองเดือน ตามที่วิคเตอร์เคยได้บอกเธอไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะต้องรอให้ครบสามเดือนเสียก่อน เธอถึงจะไปจากที่นี่ได้ แต่การเห็นหน้าเขาทุกวัน มันทรมานจนเธอไม่อาจจะทนได้อีกต่อไป“เสียดายจังนะคะที่น้องแก้มจะลาออกเสียแล้ว พี่ยังหาคนมาแทนไม่ทันเลย”“แก้มต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ พอดีว่าแก้ม มีเรื่องจำเป็นจริงๆ ที่จะต้องไปจัดการ พี่นกอย่าตำหนิแก้มเลยนะคะ”หญิงสาวไหว้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลที่สูงวัยกว่าอย่างขอโทษขอโพย“พี่เข้าใจจ้ะ ไม่เป็นไรหรอก แก้มก็ดูแลตัวเองดีๆ นะ”“ขอบคุณมากค่ะพี่นก งั้นแก้มลา
ตอนที่12.“เราต้องคุยกัน” เขาบอกพร้อมกับปิดประตูห้องและจ้องหน้าเธอเขม็งเหมือนว่า เธอทำผิดต่อเขา“ไม่ค่ะ แก้มไม่ใช่พนักงานของคุณ ไม่ใช่นางบำเรอของคุณ คุณจะมาวางอำนาจกับแก้มไม่ได้อีกแล้ว”เมื่อหญิงสาวต่อต้าน ทั้งยังมีท่าทางดื้อดึงกว่าตอนที่อยู่กับเขาในฐานะคนในความลับ ทำให้คนที่ฉุนเฉียวจากการลาออกของเธอและท่าทางที่หมางเมินเย็นชาของเธออยู่แล้วยิ่งโมโห“อวดดี.. เธอยังมีสัญญาเหลืออยู่อีกสองเดือนนะอย่าลืมสิ”“คุณต่างหากที่ลืม คุณเป็นคนบอกเลิกแก้มเองแท้ๆ”หญิงสาวแย้งเสียงเขียวมองเขาตาขุ่น เธอไม่เข้าใจเลยว่าวิคเตอร์ต้องการอะไรกันแน่ เขาบอกเลิกสัญญาเองแท้ๆ แต่ยังมาทำวางอำนาจทั้งยังถือวิสาสะเข้ามาในห้องของเธออีก“ฉันไม่ได้ลืม”“ไม่ลืมแล้วคุณทำแบบนี้ทำไม มาวุ่นวายกับนางบำเรอที่คุณเขี่ยทิ้งแล้วทำไมอีก คุณบอกว่าให้เราต่างคนต่างอยู่ และอย่าให้คนรู้เรื่องของเรา แต่ดูคุณทำสิ คุณมาวุ่นวายกับแก้มอีกทำไมกัน”โชติกาพูดเสียงขุ่นเขียว มองเขาอย่างไม่พอใจ ซึ่งท่าทางแบบนี้ของเธอ ก็เป็นสิ่งที่วิคเตอร์ไม่เคยเห็นมาก่อนเช่นกันเพราะเท่าที่เขาได้อยู่กับเธอมาตลอดสามปี โชติกา น่ารักอ่อนหวาน และช่างเอาอกเอาใจ เธอยอมตาม
ตอนที่13.“อื้มม..” หญิงสาวครางเบาๆ เมื่อลิ้นร้อนร้ายกาจกำลังร่ายมนต์สวาทเข้าใส่ จนเธอหลงเพริดไปกับเขาอย่างง่ายดาย ทุกความคิดที่ว่าจะไม่ยอม จะต่อจ้าน จะขัดขืนเขาหายไป ตั้งแต่ที่วิคเตอร์กักเธอไว้ในวงแขนแข็งแรงของเขาแล้ว แม้จะบอกตัวเองว่าอย่าหลงใหลไปกับสิ่งที่เขาปรนเปรอให้ แต่สุดท้ายแล้วโชติกาก็พ่ายแพ้ให้กับคนที่แก่ประสบการณ์กว่าอย่างง่ายดาย อีกทั้งยังตอบสนองเขาอย่างน่ารักอีกด้วยวิคเตอร์ครางออกมาอย่างถูกใจ เมื่อหญิงสาวตอบสนองจุมพิตเร่าร้อนของเขาอย่างน่ารัก“อื้มมม เกรซจ๋า น่ารักที่สุดเลย คิดถึงจัง...”ชายหนุ่มจูบซับแก้มนวลที่แดงระเรื่อ เรื่อยลงมาที่ลำคอระหงต่ำลงมาตามรอยแยกของสาบเสื้อตัวสวยก่อนจะตัดใจจากผิวเนื้อหอมหวาน ช้อนร่างอรชรขึ้นมา แล้วตรงไปที่ห้องนอนของเธอทันที ด้วยความคุ้นเคยวิคเตอร์วางร่างบางลงบนเตียงนุ่มสีหวาน ดวงตาคมจดจ้องมองสบประสานกับดวงตากลมโต สื่อความหมายความต้องการของตนผ่านแววตา ที่กำลังคุโชนด้วยเพลิงเสน่หา ในขณะที่มือหนาก็ปลดกระดุมเสื้อตัวสวยไปทีละเม็ดๆ โดยที่หญิงสาวไม่ได้ปัดป้องขัดขืน แต่นอนหน้าแดงก่ำด้วยความขัดเขินแทนจนเมื่อสาบเสื้อแยกออกจากกัน เผยปทุมถันอวบอิ่มที่เ
ตอนที่14.“ทำไมต้องกลับด้วย คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่”“ไม่ได้นะคะ” หญิงสาวหน้าตาตื่น ดวงตากลมโตเบิกกว้างราวกับไข่ห่านเลยทีเดียว ซึ่งท่าทางของเธอนั้นก็น่าเอ็นดูไม่น้อย หัวใจของเขาพลันชุ่มชื่นขึ้นมาทันที การได้ต่อปากต่อคำกับโชติกา มันทำให้ชีวิตของเขามีสีสันขึ้นเยอะเลย และยิ่งตอนเธอแสดงอาการฉุนเฉียวใส่เขานี่ เป็นภาพที่แปลกตา แต่กลับทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวานี่สินะ ชีวิตคู่.. ชายหนุ่มอมยิ้ม“ยิ้มอะไรของคุณ รีบกลับไปสิคะ เดี๋ยวผิงกับมะลิก็จะกลับมาแล้ว วันนี้พวกเรานัดกินหมูกระทะกัน”“แล้วยังไง”“แล้วยังไง ก็จะให้ทั้งสองคนนั้นเห็นคุณไม่ได้น่ะสิคะ กลับไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”หญิงสาวชี้มือไปที่ประตู ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ในลำคอแล้วโน้มหน้าลงมาหาพลางเอ่ย“อย่าลืมว่าเราทำสัญญาใหม่กันแล้วนะ และที่สำคัญ อย่าลืมเรียกฉันว่าพี่ล่ะ น้องเกรซ”“คุณ..”“อ๊ะๆ สงสัยลืมแน่ๆ เลยว่า ถ้าเรียกพี่ว่าคุณ จะโดนอะไร”แก้มของโชติกาแดงก่ำขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ และรู้สึกหมั่นไส้พ่อคนสุดหล่อที่ทำท่ายียวนตรงหน้านี้นัก ทำไมเธอต้องพ่ายแพ้เขาตลอดด้วย ทั้งที่พยายามแล้ว ตั้งใจแล้วว่าจะไม่ยอมเขาอีกต่อไป“คนร้ายกาจ” หญิงสาวพึมพำออกมาเบาๆ
ตอนที่36. ตอนอวสาน“เป็นไงล่ะหมดสภาพเลยเหรอจ๊ะพี่เลี้ยงคนเก่ง”“ไม่ไหวๆ มะลิของนอนงีบสักหน่อย ตาจะปิดแล้ว”พูดจบมัลลิกาก็หลับไปทันที โชติกาหัวเราะร่วนอย่างขบขันแกมเอ็นดู สมน้ำหน้าและสงสารในเวลาเดียวกัน“เป็นไงครับที่รัก เด็กแสบสามคนหลับแล้วหรือ”วิคเตอร์เดินมาโอบเอวภรรยาแล้วหอมแก้มนวลอย่างรักใคร่“หมดฤทธิ์สิ้นสภาพตามที่เห็นค่ะ”แล้วทั้งสองก็หัวเราะออกมาพร้อมกันอีกครั้งเมื่อมองไปยังลูกๆ และมัลลิกาที่นอนน้ำลายยืดแข่งกับน้องๆ พร้อมด้วยเสียงกรนเบาๆ“ให้เด็กๆ พักกันเถอะ ส่วนเราก็...”สายตาพราวพรายของสามีทำให้แก้มสาวแดงปลั่งขึ้นมาอย่างขัดเขิน โชติกาจึงทุบต้นแขนของสามีเบาๆ แก้เก้อเขิน“บ้า พี่วิคเนี่ย ไหนว่าทนได้ไงคะ”“ก็ทนได้แหละครับ แต่ถ้าที่รักจะเมตตา...”เขาเว้นวรรคไว้ให้เข้าใจกันสองคน โชติกเมิหน้าหนีดวงตาคมพราวระยับของเขาแล้วอมยิ้ม“ก็ไปที่ห้องเราสิคะ จะมายืนทำตาเจ้าชู้ใส่แก้มทำไม”พูดแล้วเธอก็เดินนำหน้าเขาไปก่อน วิคเตอร์ดีใจจนกระโดดตัวลอยก่อนจะรีบเดินแกมวิ่งไปโอบกอดร่างอรชรของภรรยา แล้วอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน เดินเร็วๆ เข้าห้องไป เหมือนว่าเธอเดินช้าไม่ทันใจอย่างไรอย่างนั้นประตูห้องที่ปิดส
ตอนที่35หญิงสาวพูดพร้อมกับทำท่าแง่งอนไม่จริงจังนัก แต่มุมปากก็มีรอยยิ้มน้อยๆ วิคเตอร์มองภรรยาอย่างรักใครหลงใหลจนหมดหัวใจ“ยายตัวร้ายก็คือเมียพี่นี่เอง”“แน่นอนค่ะ แม้แก้มจะเป็นหญิงสาวที่ดูอ่อนแอ บอบบางน่าทะนุถนอม แต่แก้มน่ะเป็นนักสู้นะคะแล้วก็ไม่ยอมใครง่ายๆ ด้วย แต่ที่ยอมพี่วิคง่ายๆ ก็เพราะแก้มรักพี่วิคไงคะ”“โถ.. ที่รักของพี่ พี่ก็รักเกรซครับ ทั้งรักทั้งหลงจนไปไหนไม่ได้แล้ว เกรซจะบีบพี่ก็ตาย จะคลายพี่ก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น..”ชายหนุ่มบอกพร้อมทั้งหอมแก้มนวลซ้ายขวาอย่างแสนรักแม้ว่าเขาจะสามารถออกเสียงเรียกชื่อเล่นของเธอได้อย่างชัดเจนแล้ว แต่วิคเตอร์ก็ยังเรียกเธอว่าเกรซ เขาให้เหตุผลว่า เธอเป็นแก้มของใครๆ แต่เกรซเป็นของเขาคนเดียว มีเขาเท่านั้นที่มีสิทธิ์เรียกเธอว่า เกรซ เกรซ... ผู้ซึ่งเป็นหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในใจ เป็นผู้หญิงที่เขารักเทิดทูน ให้เกียรติ ให้ความรักความเอาใจใส่เธอด้วยความรักทั้งหมดของหัวใจ“ทูนหัวของแก้ม” หญิงสาวประคองใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างรักใคร่เช่นกัน“งั้นให้รางวัลพี่อีกครั้งได้มั้ยครับ”“ไม่ได้ค่ะ พอแล้ว..”หญิงสาวแก้มแดงจัดพร้อมทั้งบิดเนื้อที่เอวสอบไปหนึ่งทีอย่างขัด
ตอนที่34.“ผิงน่ะมาตรฐานสูงค่ะพี่พัน ใครจะมาเป็นสามีผิง บอกเลยต้องหล่อและรวยมากเท่าๆ กับท่านประธาน และต้องช่างเอาอกเอาใจ ไม่เถียง ไม่พูดมาก ไม่ออกนอกลูกนอกทาง เชื่อฟัง ตามใจผิงทุกอย่าง ห้ามขัดใจ และผิงต้องเป็นที่หนึ่ง หนึ่งเดียวเท่านั้น ที่สำคัญพวกเจ้าชู้กระลิ้มกระเหรี่ยไปทั่วเนี่ย อย่าหวัง...”พิมพ์ผกาเองก็กอดอกเชิดหน้าอย่างมาดมั่น ทั้งปรายตามองราเมศเหมือนจะบอกให้รู้เป็นนัย“ได้ยินแล้วนะไอ้ราม”“ชัดๆ เต็มๆ สองหูเลยเพื่อนรัก..”“เอ๊ะ พี่พันเนี่ย มันเกี่ยวอะไรกับอีตานี่ด้วย”“ไม่รู้ไม่ชี้”พนาหัวเราะร่วน พลางแปะมือกับราเมศอย่างถูกอกถูกใจ ยิ่งทำให้พิมพ์ผกาหน้างอง้ำกว่าเดิม“เนี่ยล่ะนะเขาว่ากันว่า คู่กันแล้วจะไม่แคล้วกัน”โชติกาเอ่ยขึ้นหลังจากเธอกับวิคเตอร์นั่งเป็นผู้ชมมานาน“เธอก็เป็นกับเขาด้วยนะยายแก้ม”“แหม.. ก็แค่อยากให้เพื่อนมีความสุขเหมือนกัน ใช่มั้ยคะพี่วิค” โชติกาหันไปออดอ้อนสามีเสียงหวาน“ใช่ครับที่รัก พี่ว่าเราอาจจะได้ไปงานแต่งใครสักคนเร็วๆ นี้แน่นอน”วิคเตอร์เองก็เออออไปกับภรรยา ซึ่งท่าทางหวานชื่นของทั้งสองทำเอาทุกคนต่างเหลือบตามองบนอย่างหมั่นไส้“โอ้ยยย เลี่ยนจะแย่แล้วไปหาอะไ
ตอนที่33.“พี่รักเกรซ นายวิคเตอร์สุดหล่อคนนี้รักเกรซที่สุด รักมานานแล้ว และเพราะกลัวว่า ความรักจะทำให้ชีวิตพังก็เลยเลือกที่จะปฏิเสธหัวใจตัวเองและฉีกสัญญาของเรา ทำท่าเย็นชาหมางเมินใส่ แต่สุดท้ายแล้ว นายวิคเตอร์สุดหล่อคนนี้ ก็หนีหัวใจตัวเองไม่พ้น อย่างที่เกรซรู้ว่าพี่พูดไม่เก่ง เก่งแสดงมากกว่า แต่มักแสดงออกตรงข้ามกับความรู้สึก จนเมื่อจะเสียเกรซไปจริงๆ พี่ถึงได้รู้ตัวว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้เกรซหนีไป ก็เลยทำทุกวิถีทางและวางแผนต่างๆ เพื่อให้ได้เกรซกลับมาอยู่ในชีวิตพี่อีกครั้ง พี่หลอกเกรซมาแต่งงานด้วย โดยการอ้างสัญญางี่เง่าเอาแต่ใจ ทั้งยังหลอกว่าคุณแม่เป็นโรคหัวใจ ส่วนมะลิก็ไปสร้างเรื่องว่าป้าวีนาเป็นโรคร้าย แต่จริงๆ แล้วเรื่องโกหกทั้งนั้น และจริงๆ แล้ว สัญญางี่เง่านั้นพี่ฉีกมันทิ้งไปนานแล้ว และก็ไม่คิดจะทำตามสัญญาด้วย เพราะพี่จะไม่ยอมหย่ากับเกรซเด็ดขาด ที่ผ่านมาพี่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เกรซเห็นถึงความจริงใจของพี่ และหวังว่าเกรซจะเห็นมัน เกรซ... อยู่กับพี่นะ อยู่เป็นภรรยาของพี่ตลอดไป นี่คงเป็นคำพูดที่ยาวที่สุดแล้ว แต่คำสั้นๆ ที่ว่า พี่รักเกรซ นั้นจะยืนยาวตลอดไป...”โชติกาน้ำตาซ
ตอนที่32..“เป็นไรมากมั้ยจ๊ะหนูแก้ม” นางเองก็อดถามอย่างห่วงใยลูกสะใภ้ไม่ได้“ไม่ ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่”“จริงนะเกรซ ไม่เป็นไรจริงๆ นะ”วิคเตอร์ยังลูบหลังลูบไหล่ภรรยาอย่างห่วงใย แววตาของเขาแสดงออกถึงความรักใคร่อย่างจริงใจจนหญิงสาวหัวใจพองโต ก่อนจะยิ้มบางๆ ให้เขา“แก้มไม่เป็นไรแล้วค่ะ”“เอาล่ะๆ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว นี่จ้ะรายละเอียดของที่พัก แม่จองให้เต็มที่เลยสองอาทิตย์”“สองอาทิตย์เลยหรือคะ”“ใช่จ้ะ จะมากกว่านี้ก็ได้นะจ๊ะ เรื่องงานไม่ต้องห่วงเลยเพราะน้องรามสุดหล่อของแม่จะจัดการแทนเอง”“งั้น ผมก็ขอบคุณคุณแม่มากเลยนะครับ”“แม่ไม่กวนแล้ว จะออกไปทำผมเสียหน่อย แล้วก็จะไปซื้อของไว้ใส่บาตรพรุ่งนี้ด้วย แม่ไปก่อนนะจ๊ะ”ว่าแล้วคุณวิคกี้ก็เดินออกไปจากห้องนั่งเล่น ปล่อยให้หนุ่มสาวอยู่กันเพียงลำพัง“เราไปเตรียมของเดินทางกันเถอะ” วิคเตอร์เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งดึงมือเธอให้ลุกขึ้นตาม“แต่ว่า..”“ไม่มีแต่ครับที่รัก เราจะไปฮันนีมูนกันสองอาทิตย์ และเราจะไม่ทำให้พวกผู้ใหญ่ผิดหวัง ด้วยการมีเจ้าตัวเล็กมาฝากพวกเขา”“บ้า.. พูดอะไรแบบนี้คะ เราแค่แต่งงานกันหลอกพวกผู้ใหญ่เท่านั้นเอง”แม้จะเขินอายกับคำพูดของเขา แต่สัญญาที่ม
ตอนที่31.จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เกือบจะสามเดือนแล้ว ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาวิคเตอร์ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า ไม่เคยล่วงเกินหรือเอาแต่ใจตัวเองข่มเหงน้ำใจเธอ แต่เขากลับให้เกียรติ และเอาใจใส่เธออย่างดี เขาเปิดเผยสถานะของเธออย่างไม่ปิดบัง และดูเขาจะยินดีและภาคภูมิใจที่ได้แต่งงานกับเธอ ทุกคนในครอบครัว รวมถึงคนรอบข้างต่างก็ให้การยอมรับเธอและการแต่งงานครั้งนี้ ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี เธอไม่ต้องอยู่ในความลับ ไม่ได้เป็นนางบำเรอของเขาอีกแล้ว แต่เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา...“พี่ต้องการเกรซ”เสียงแหบพร่าของเขาทำให้โชติกาตื่นจากภวังค์คิดอันแสนสับสน แก้มนวลร้อนจัดลามไปทั่วทั้งกายสาว ความวาบไหวรัญจวนโอบล้อมทุกทิศทาง ทำให้เธอไม่อาจจะต้านทานมนต์เสน่ห์แห่งเพศรสที่เคยมีร่วมกันได้“พะ พี่วิค..”“ได้ไหมครับ...”หญิงสาวไม่ได้เอ่ยออกมา แต่ดวงตากลมโตหลับพริ้มลงช้าๆ เป็นคำตอบ และนั่นก็ทำให้หัวใจหนุ่มพองโต ความสุขจนล้นอกมันเป็นแบบนี้นี่เองวิคเตอร์ครางเสียงพร่าชิดริมฝีปากสาวแสนหวาน เขารู้สึกปวดร้าวไปทั้งกายแกร่ง โดยเฉพาะกึ่งกลางลำตัวที่กำลังร้อนระอุ แทบแตกระเบิดด้วยความต้องการที่เก็บกักมาน
ตอนที่30.หัวใจของเธอเต้นแรงเหมือนวันแรกที่ได้พบเขาไม่มีผิดเลย... เหมือนว่าเธอตกหลุมรักวิคเตอร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตกหลุมรักเขาทุกวันอย่างไม่อาจจะหยุดรักเขาได้เลยและไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตามที่เขากลับเข้ามาในชีวิตของเธออีกครั้ง เขากลับน่ารักและน่าหลงใหลมากกว่าเดิมมากมาย จนเธอยิ่งถลำลึกรักเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น แม้จะพยายามไม่รักเขาแล้วก็ตาม...“ฝันดีนะครับ”เขาบอกเสียงนุ่มเมื่อเธอก้าวขึ้นเตียงและดึงผ้าห่มมาคลุมจนถึงลำคอดวงตากลมโตมองคนที่กำลังจะเดินไปที่โซฟานิ่ง ในหัวกำลังครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรดี เพราะวคเตอร์นอนที่โซฟาตัวยาวริมหน้าต่างมาตั้งแต่คืนเข้าหอ จนเข้าสัปดาห์ที่สองแล้ว เธอกับเขาก็ยังคงไม่ได้นอนเตียงเดียวกัน และวิคเตอร์ก็ไม่ได้แตะต้องเธอมากกว่าการจับมือ และบางครั้งก็หวีผมให้ ช่วยถักเปียทำผมให้เธอบ้างบางวันเขาก็มีชุดสวยๆ มาฝาก หลังเลิกงานก็มักจะมาทำอาหารเย็นให้เธอรับประทาน ตอนเช้าก็ปลุกเธอและช่วยจัดเตรียมของใช้ให้ ทั้งที่มันควรจะเป็นหน้าที่ของเธอ เพราะก่อนหน้านี้ที่อยู่กับเขาเธอก็เป็นคนที่จัดเตรียมให้เขาแต่ตอนนี้กลับกัน กลายเป็นว่าเธอเป็นคนที่รอรับการบริการที่แสนอบอุ่นจากเขาแทน ซึ่งเธอก็ชอบ
ตอนที่29.วิคเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง และมันก็บ้ามากที่เธอพยักหน้าตอบรับเขาไปเสียงเบา“ค่ะ..”“อาหารเย็นแสนอร่อยเสร็จแล้วใช่มั้ยค้า มาค่า มะลิจะช่วยยกออกไปที่โต๊ะกินข้าว”เสียงใสๆ ของมัลลิกาดังขึ้น ทำให้สองหนุ่มสาวที่กำลังมองหน้ากันนิ่งผละออกจากกัน ก่อนที่วิคเตอร์จะหันมายิ้มให้กับมัลลิกา“มะลิยกพวกจานกับช้อนไปก็แล้วกัน ส่วนพวกกับข้าวพี่ยกเอง”“รับทราบค่า”นอกจากจะยังตื่นตกใจกับอาการเหม่อลอยของตัวเองที่เกือบจะโดนมีดบาด เธอยังมาตกใจกับคำพูด ท่าทาง และสรรพนามที่วิคเตอร์พูดกับมัลลิกาอีกเป็นครั้งที่สอง“นี่พี่วิคตัวจริงมั้ยเนี่ย...”โชติกาพึมพำกับตัวเองเบาๆ ขณะมองตามร่างสูงใหญ่ที่ยกถาดอาหารออกไปจากห้องครัว จนแล้วจนรอด เธอก็ยังไม่อยากเชื่อสายตาและสิ่งที่ได้เห็นได้ยินเลยว่าคือเรื่องจริงหรือว่า วิคเตอร์เปลี่ยนไปแล้วเพื่อเธออย่างที่พิมพ์ผกาพูดนะ...และถ้าเป็นเช่นนั้น นั่นก็หมายความว่าวิคเตอร์รักเธอจริงๆ อย่างนั้นหรือ...หญิงสาวเต็มไปด้วยความสับสน แต่ลึกๆ แล้วก็รู้สึกว่าหัวใจของตนมันพองโต อย่างไม่อาจจะหักห้ามได้“นี่จะช่วยให้พี่วิคกับพี่แก้มสมหวังกันจริงๆ แบบพันเปอร์เซ็นต์ค่ะ เชื่
ตอนที่28.มัลลิกาพูดพลางดึงแขนวิคเตอร์เข้าไปในบ้านอย่างสนิทสนม ซึ่งเมื่อก่อนวิคเตอร์แทบไม่พูดคุยกับใครเลย เขาถือตัวมากๆ แต่ตอนนี้ เขารู้แล้วว่า การมีมิตรสหายที่ดี แม้จะมีมัลลิกาเป็นยายตัวยุ่งไปบ้าง แต่มันก็คือสีสันของชีวิต คือการใช่ชีวิตกับผู้คนจริงๆเขามีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่คนเดียวในโลกส่วนตัวเสียอีก และเขาหัวเราะได้บ่อยขึ้น ยิ้มได้กว้างขึ้น เพราะผู้คนเหล่านี้ โชติกา พิมพ์ผกา มัลลิกาและราเมศ รวมไปถึงครอบครัวของพิมพ์ผกาด้วย แม้ไม่ได้ไปมาหาสู่กันบ่อย แต่ก็ทำให้เขารู้สึกไว้วางใจเสมอ“พาสามีมาให้ค่าพี่แก้ม”โชติกาทำได้เพียงทำตาดุๆ แล้วบ่นอุบอิบอยู่ในลำคอซึ่งท่าทางของเธอก็ทำให้มัลลกาหัวเราะคิกคัก“วันนี้พี่แก้มจะทำอาหารให้พวกเรากินกันเย็นนี้นะคะ แล้วก็จะมีพี่วิคช่วยทำด้วย ส่วนหนูมะลิเด็กดีกับพี่หนมผิงแสนสวยก็จะนั่งดูการ์ตูนรอนะคะ”“อาหารสด แห้ง ผักผลไม้ เครื่องปรุงทุกสิ่งทุกอย่างเราเตรียมไว้ให้แล้วนะจ๊ะเพื่อนรัก ฉันนี่รอกันของอร่อยๆ จากเธอเลยนะแก้ม”“นี่แต่ฉันยังไมได้บอกว่าจะทำ... นะ.. นี่...”โชติกาพูดยังไม่จบประโยคดีเลยสองสาวก็จูงมือกันวิ่งเข้าห้องมัลลิกาไปแล้ว“นี่.. ยายตัวเร้ายทั้