เซียวเถียนเถียนตัวแข็งทื่อ พ่อของเธอช่วงนี้บ่นเกี่ยวกับการแต่งงานของเธอกับตระกูลลู่อยู่ตลอด พ่อของเธอยอมให้เธออยู่บ้าน เพราะคิดว่าเธอตัดสินใจที่จะแต่งงานแล้วถ้าจู่ ๆ บอกว่าไม่อยากแต่งขึ้นมา เธอจะถูกไล่ออกจากบ้านไหม?เธอหันหลังกลับเดินไปนั่งที่โซฟา มองไปที่ลู่ลี่เซิน "แต่ถ้าตระกูลลู่ของคุณจะยกเลิกการแต่งงานก่อน พ่อของฉันคงไม่สามารถบังคับให้ฉันแต่งได้"ดวงตาของลู่ลี่เซินกลอกไปมา "ทุกคนในเมืองหลวงรู้เกี่ยวกับการแต่งงานระหว่างสองตระกูลของเรา คุณคิดว่ามันง่ายที่จะยกเลิกเหรอ? ถึงแม้ว่าตระกูลลู่จะถอนหมั้นฝ่ายเดียว แต่ฝ่ายที่จะขายขี้หน้าก็ยังเป็นฝ่ายตระกูลเซียวของคุณ พ่อของคุณจะยอมเสียหน้าเหรอ?"เซียวเถียนเถียนพูดไม่ออกเจียงเซิงกับกุงหลี่หลี่เดินลงไปชั้นล่าง เมื่อกุงหลี่หลี่เห็นพวกเขาทั้งสองคนก็อยู่ด้วย จึงยิ้มแล้วพูดขึ้น "เถียนเถียน กำลังคุยอะไรกับลี่เซินอยู่เหรอ"“คุณป้ากุง ฉัน……”“แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องแต่งงานกันครับ” ดวงตาของลู่ลี่เซินเต็มไปด้วยความลึกซึ้งกินใจ “ถึงเวลาที่จะต้องกำหนดการแต่งงานแล้วใช่ไหม?”สีหน้าของเซียวเถียนเถียนเปลี่ยนไป "คุณ…… "เมื่อเห็นรอยยิ้มที่เจ้าเ
ใบหน้าของซือเย่เจ๋วไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หลังจากที่เขาเห็นเจียงเซิง ก็ชะงักงันอยู่ครู่หนึ่ง ขณะที่เจียงเซิงจะพูดอะไรบางอย่าง เขาก็กอดเธอและซุกหน้าไว้ที่คอของเธอเจียงเซิงหลังแข็งทื่อ และปล่อยให้เขากอดเธอไว้ ไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตารึเปล่า ทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนกับว่าซือเย่เจ๋วกำลังทำเหมือน "ออดอ้อน" และต้องการให้ปลอบใจ?เธอพูดเสียงเบา “ซือเย่เจ๋ว?”เขากอดเธอแน่น “แม้แต่พื้นที่แบ่งเขตภายในบริษัทผมก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำ ผมมันน่าขำมากใช่ไหม?”เจียงเซิงมึนงง รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นในดวงตา หมอนี่ฝืนแบกหน้าเอาไว้เพื่อกลับมา "ออดอ้อน" เธอ ไม่รู้ว่าถ้าเกิดความทรงจำของเขากลับมา ถ้านึกถึงเรื่องนี้ได้จะแสดงสีหน้าอย่างไรเธอพูดเกลี้ยกล่อมเบา ๆ "อยู่ที่บริษัทของตัวเอง ยังจะกลัวคนอื่นหัวเราะเยาะคุณเหรอ?"ซือเย่เจ๋วผลักเธอออกไป และจับไหล่เธออีกครั้ง จากนั้นจ้องมองเธอ "ถ้าพวกเขาหัวเราะเยาะผมล่ะ?"เจียงเซิงเงยคางขึ้น เลิกคิ้วเล็กน้อย “ใครกล้าหัวเราะเยาะผู้ชายของฉัน?”ซือเย่เจ๋วมองดูเธอครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่จู่ ๆ เจียงนวนนวนก็โผล่หัวเล็ก ๆ ออกมา “หม่ามี้ กำลังกอดจูบกับแด๊ดดี้อยู่เหรอ?”หัวท
“แม้ว่าท่านผู้เฒ่าจะหัวรั้น แต่บุญคุณที่เขามีต่อตระกูลซูยังคงจดจำอยู่ในใจ หากซูหลิงโหรวไม่ได้เป็นคนของตระกูลซู ท่านผู้เฒ่าก็คงจะไม่ลำเอียงขนาดนี้”คุณท่านซือถอนหายใจ "เขายังคงมีความเกลียดตระกูลสูงศักดิ์อยู่ บวกกับที่เขาถูกซูหลิงโหรวพูดกรอกหู ไม่รอให้เขาเห็นความจริงด้วยตาของตัวเอง ผู้เฒ่าหัวแข็งคนนี้คงกัดไม่ปล่อย"เจียงเซิงสามารถเข้าใจความหมายคำพูดของคุณท่านซือได้ หลังจากที่เกิดเรื่องซูหลิงโหรวขึ้น ท่านผู้เฒ่าก็ไม่ยืนกรานที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระหว่างเธอกับซือเย่เจ๋วอีกแล้วคนดื้อรั้นจนไม่รับฟังคำแนะนำใด ๆ ทำได้เพียงรอให้เขาเห็นความจริงที่โหดร้าย แม้ว่าการมองเห็นความจริงนี้เกือบจะฆ่าซือเย่เจ๋วแล้วก็ตามยามค่ำคืนค่อย ๆ มาถึงในห้องน้ำ ซือเย่เจ๋วเจียงเฉินเฉินสองพ่อลูกกำลังอาบน้ำอยู่ เจียงเฉินเฉินที่กำลังนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเล่นกับเป็ดสีเหลืองตัวน้อยในมือซือเย่เจ๋วที่ยืนหัวฟูอยู่เปิดฝักบัวออก และปรับอุณหภูมิของน้ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม น้ำไหลไปทั่วใบหน้าของเขา และคิ้วของเขาดูเหมือนจะปกคลุมไปด้วยไอน้ำ นิ้วมือของเขาเสยไรผมที่เปียกชื้นขึ้นไป ก็เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาเจียงเฉ
ซือเย่เจ๋วในตอนนี้ ไม่เหมือนกับตอนก่อนหน้าที่จะความจำเสื่อมที่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความยั่วยวนปลุกปั่น เขาสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ดวงตาลึกซึ้งจับจ้องมองเธอ ไม่ได้ตั้งใจเผยความคิดแรกเริ่มออกมา แต่กลับมีท่าทีจริงจังเจียงเซิงหัวใจเต้นเร็วขึ้นครึ่งหนึ่ง ฝ่ามือที่จับเขาอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นไม่หยุด รวดเร็วจนแทบจะถึงขีดสุด"ซือเย่เจ๋ว คุณอย่า..."ริมฝีปากของเขาแตะสัมผัสโดนใบหูของเธอ เหมือนกับจะจูบ "นึกไม่ออก ก็ทำไมไม่ได้เหรอ?"เจียงเซิงนิ่งอึ้งลงหายใจร้อนระอุของเขารดกรุ่นเธอ รอยยิ้มที่มุมปากกว้างขึ้นเรื่อง ๆ "ชอบเย้าแหย่ผมไม่ใช่เหรอ?"เจียงเซิงเม้มริมฝีปากแน่น สัมผัสใกล้ชิดกันแบบนี้ ทำให้เธอแสร้งทำเป็นแน่นิ่งไม่ได้“เซิงเซิง” ซือเย่เจ๋วกระซิบเรียกข้างหูเธอ ยั่วยวนเธอ “คุณเป็นภรรยาของผม คุณต้องรับผิดชอบต่อผม”ริมฝีปากของเขาขยับออก และประกบลงบนริมฝีปากของเธออย่างแนบแน่นสถานการณ์อยู่เหนือการควบคุมเจียงเซิงถูกเขาลากลงไปในเหวลึก ลืมเรื่องที่ซือเย่เจ๋วความจำเสื่อมไปซือเย่เจ๋วอุ้มเจียงเซิงไปที่ห้องน้ำ และลงไปในอ่างอาบน้ำกับเธอ เจียงเซิงเอนตัวพิงเข้าในอ้อมแขนของเขาอย่างอ่อนระทวย ความสุขยังคงห
พนักงานจำนวนมากใน TG กรุ๊ปกำลังพูดคุยกันถึงเรื่องบนข่าว"ว่ากันว่าท่านเจ๋วออกจาก TG กรุ๊ปสามปีเพราะป่วยหนัก ไม่รู้เหมือนกันว่าป่วยเป็นอะไร ถึงขั้นที่ความจำเสื่อม""ถึงว่าเมื่อวานฉันได้ยินว่าตอนที่ประชุมในช่วงป่าย ท่านเจ๋วไปสายเพราะไปผิดห้องประชุม และก็เป็นพนักงานทำความสะอาดที่บอกทางให้เขา"พนักงานหญิงคนหนึ่งที่กำลังแต่งหน้าอยู่ตรงหน้ากระจกมองดูพวกเธอ "ห้องประชุมที่ท่านเจ๋วไปถึงถูกปรับปรุงเป็นห้องรับรองตั้งหลายปีแล้ว และก็เป็นคำสั่งของท่านเจ๋วด้วย"แม้แต่ห้องประชุมที่เขาเป็นคนเปลี่ยนแปลงเองตัวเองก็จำไม่ได้ ไม่ใช่ความจำเสื่อมหรือจะถูกดูดวิญญาณไปแล้ว?พนักงานหญิงอีกคนทอดถอนใจ “ภรรยาของเขาประสบอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อน เขาสูญเสียภรรยาบวกกับป่วยหนัก และตอนนี้ก็สูญเสียความทรงจำอีก ไม่มีใครน่าอนาถไปกว่าเขาแล้ว”สำนักงานบริหารซือเย่เจ๋วขว้างนิตยสารไปใต้โต๊ะแล้วยกมือขึ้นเพื่อปิดหน้า เส้นเลือดที่หลังมือก็ปูดขึ้นมา "ภรรยาเสียชีวิต หมายความว่าอย่างไร?"หลัวเชว่หยิบนิตยสารขึ้นมาอย่างจนปัญญา ท่านเจ๋วใส่ใจแค่เรื่อง "ภรรยาเสียชีวิต?""ท่านเจ๋ว เหมือนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญนะครับ..."“พ
เขาหัวเราะ "ดังนั้นเพื่อเพื่อนรักของเธอ นี่เธอนัดฉันออกมาสั่งสอนฉันยกหนึ่งเหรอ?"เจียงเซิงก็ไม่อ้อมค้อม “พี่ พี่อยากแต่งงานกับเถียนเถียนจริง ๆ เหรอ?”ลู่ลี่เซินขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตานกฟีนิกซ์เรียวสวยของเขาไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เลย นิ่งเงียบอย่างมากเธอยกแก้วในมือขึ้นมา "ฉันรู้ว่าพวกพี่สองตระกูลทำเพราะแต่งงานเพื่อความสัมพันธ์ วงศ์ตระกูลฐานะเท่าเทียมกัน การแต่งงานเพื่อให้สนิทชิดเชื้อกันมากขึ้นเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่อยากเห็นแต่จะทำเพื่อแต่งงานเกี่ยวดองกันแล้วสละความสุขของพวกพี่ไปไม่ได้ คนหนึ่งคือเพื่อนรักของฉัน อีกคนคือลูกพี่ลูกน้องของฉัน ถึงเวลาเกิดความขัดแย้งกัน ฉันที่เป็นคนกลางก็อยู่ยากนะ"พนักงานเสิร์ฟนำกาแฟมาวางตรงหน้า เขายกแก้วขึ้นแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง "จะไม่มีความขัดแย้งกัน"เจียงเซิงรู้สึกสับสนเขาจิบกาแฟร้อนแล้วดึงสายตากลับ "ต่อให้ฉันไม่แต่งกับเซียวเถียนเถียน แม่ของฉันก็จะให้ฉันแต่งงานกับผู้หญิงแปลกหน้า ฉันถือว่าค่อนข้างคุ้นเคยกับเซียวเถียนเถียน การแต่งงานนี้ฉันไม่คัดค้าน""ดังนั้นพี่จะยอมถูไถไปเหรอ?" เจียงเซิงมือข้างหนึ่งค้ำคางเอาไว้ "การแต่งงานของผู้ชายสามารถถูไถไปได้ เพราะว่า
เจียงเซิงยิ้มแห้ง ๆ "ดูท่าฉันต้อง 'ฟื้นคืนชีพ' แล้ว" เธอหยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้น เซียวเถียนเถียนมองดูเธอ "กลับแล้วเหรอ?""ถ้ายังไม่กลับอีก คนพวกนั้นจะปีนขึ้นหัวฉันแล้วย่ะ" เจียงเซิงเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองเซียวเถียนเถียนโบกมือให้เธอ "สนมเอกช่างมีอานุภาพซะจริง ๆ!"ณ TG กรุ๊ปเจียงเซิงกับสิบเจ็ดเดินผ่านเคาเตอร์รีเซฟชั่น พนักงานต้อนรับที่กำลังพูดคุยกันอยู่ที่เคาเตอร์สังเกตเห็นเงาสองเงาที่เดินผ่านไป ก็พากันเงยหน้าขึ้นร่างทั้งสองเดินไปเข้าไปถึงที่หน้าลิฟต์ตั้งนานแล้ว แผ่นหลังของผู้หญิงผมยาวหนึ่งในนั้นค่อนข้างคุ้นตา แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน“ผู้หญิงคนนั้นดูคุ้น ๆ ไหม?”"น่าแปลก พวกเธอทำไมถึงกล้าใช้ลิฟต์พิเศษของท่านเจ๋ว?""แย่แล้ว!"พนักงานหญิงสองคนนั้นสังเกตถึงอะไร ก็รีบวิ่งไปทางเธอ ในตอนที่เจียงเซิงจะเดินเข้าไปในลิฟต์ มือข้างหนึ่งรีบจับเธอเอาไว้ "คุณผู้หญิงท่านนี้คะ!"พนักงานหญิงคนนั้นหอบหายใจ แต่ยังคงมีรอยยิ้มอย่างมืออาชีพ “ขอโทษนะคะ ลิฟต์นี้มีไว้สำหรับท่านเจ๋วของเราโดยเฉพาะ คุณไม่สามารถใช้งานได้ค่ะ!”“เหรอ?” เจียงเซิงไม่ได้ถอดแว่นกันแดด เพียงแค่มองพวกเธอ แล้วถามขึ้นอย่างไ
หานเซิงกับประธานหานเมื่อเผชิญหน้ากับคนที่บุกเข้ามา ก็ชะงักงันอยู่ครู่หนึ่งเจียงเซิงวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ โซ่โลหะกระทบบนโต๊ะจนเกิดเสียงดังขึ้นทำให้หานเซิงตกใจอย่างมากเจียงเซิงอ้อมหน้าโต๊ะเดินไปนั่งลงที่ด้านข้างซือเย่เจ๋ว จากนั้นหมุนตัวนั่งลงในอ้อมแขนของเขา ดวงตาของเธอแดงก่ำ และตบตีเขา "เย่ คนชั่ว เมื่อคืนอยู่บนเตียงบอกว่าจะแต่งงานแค่กับฉันคนเดียว ตอนนี้กลับมาพบกับเพื่อนสนิทลับหลังฉันเหรอ?"ซือเย่เจ๋วจับมือของเธอไว้ และมองผู้หญิงที่เอะอะโวยวายในอ้อมแขน "ไม่ใช่สักหน่อย""คุณทำมันจริง ๆ!" เจียงเซิงตีไปที่หน้าอกของเขา และทำท่าน้อยใจอย่างมาก "รูปร่างของฉันไม่ดีพอ หรือว่าไม่สวยพอ คนหลอกลวงที่เนรคุณ มีฉันอยู่แล้วยังไม่ดูแลอีก!"ภายในห้องทำงานเงียบเชียบทันทีสีหน้าของประธานหานกับหานเซิงแข็งทื่อเล็กน้อย แม้แต่หลัวเชว่ที่อยู่หน้าห้องก็ตกตะลึงตาค้างขึ้นมาหานเซิงถามขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ "พี่เจ๋ว เธอคือใครกัน?""เธอเรียกใครว่าพี่เจ๋ว?"เจียงเซิงมองเธออย่างไม่พอใจ ต่อให้แว่นตากันแดดขนาดใหญ่สีดำที่ปกปิดใบหน้าครึ่งหนึ่งของเธอ แต่ก็ไม่ได้ลดความดุดันและความหยิ่งยโสของใบหน้าลงแม้แต่น้อย "ถือว่าซือ
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ