ดังนั้น เขาเป็น "สารเลว" จริง ๆ เหรอ?เห็นคุณท่านซือมองไปทางซือเย่เจ๋ว เจียงเซิงก็พูดขึ้นช้า ๆ "พ่อคะ ซือเย่เจ๋วเขา...""เรื่องของเขาพ่อรู้แล้วล่ะ" คุณท่านซือยกมือขึ้นขัดจังหวะ จากนั้นมองเธอแล้วพูดขึ้น "ไม่ต้องเป็นกังวล พ่อไม่มีทางโทษหนู ไอ้หมอนี่เป็นอย่างไรก็คือชีวิตของเขา เพียงแค่ยังหายใจอยู่ก็พอแล้ว"ซือเย่เจ๋ว "..."เขาคือลูกชายที่พ่อเก็บกลับมาเหรอ?กลับมาถึงที่ห้อง เธอเพิ่งเดินถึงช่องทางเดิน ด้านหลังก็มีเงาขยับเข้าใกล้กะทันหัน ซือเย่เจ๋วมือค้ำกำแพงและกอดเธอเอาไว้ "เราคุยกันหน่อย"เจียงเซิงหยุดชะงัก จากนั้นก็ยิ้มอย่างสวยงามขึ้นมา "ท่านเจ๋วอยากจะคุยอะไรกับฉัน?""เมื่อก่อน ผมเคยทำเรื่องที่ผิดต่อคุณใช่ไหม? ผมมีชู้เหรอ หรือว่า..." ซือเย่เจ๋วถามอย่างระมัดระวังแสงสีขาวในโถงทางเข้าส่องบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ทำให้โหนกคิ้วกับดั้งจมูกที่ตั้งโด่ดูอ่อนโยนขึ้น ดวงตาของเขาสดใสและลึกล้ำราวกับแสงที่โผล่ออกมาจากใต้ทะเลลึกเจียงเซิงยกมือขึ้นและลูบคิ้วย่นของเขา "บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า รอให้คุณนึกขึ้นได้เอง"เขาจับปลายนิ้วอันเย็นชาของเธอไว้ อาจเป็นเพราะช่วงเวลาค่ำคืนจึงกระตุ้นให้คนรู้สึกสั
“ใช่” เจียงเซิงปิดหนังสือพิมพ์และเงยหน้าขึ้น “วันนี้ฉันจะกลับไปที่บริษัทหน่อย ไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนคุณแล้ว”“คุณต้องไปทำงานด้วยเหรอ?”"ไม่งั้นคุณเลี้ยงฉันเหรอ?" เธอเลิกคิ้วแล้วยิ้มพูด จากนั้นก็หยิบแก้วนมที่อยู่บนโต๊ะและจะลุกขึ้นยืน"หรือว่าผมเลี้ยงดูคุณไม่ไหวเหรอ?" ซือเย่เจ๋วดวงตาเป็นประกายมองดูเธอ เขาตกต่ำจนต้องให้ภรรยาของเขาไปทำงานเลยเหรอ?ได้ยินแบบนี้ เจียงเซิงอดหัวเราะออกมาไม่ได้ มือค้ำอยู่บนโต๊ะและก้มตัวไปหาเขา แสร้งทำเป็นน่าสงสาร "คุณรังเกียจที่ฉันฟุ่มเฟือย ฉันถึงได้ออกไปทำงาน คุณบอกว่าคุณชอบผู้หญิงที่ฉลาดและยืนอยู่ลำแข้งตัวเอง""ผม...เคยพูดแบบนี้เหรอ?" ซือเย่เจ๋วขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ไร้ผลเจียงเซิงนิ้วมือกดลงที่ริมฝีปากของเขา ไร้เดียงสาและมีเสน่ห์ "ที่รัก ฉันจะไปทำงานแล้ว ไม่ต้องคิดถึงฉันมากนะคะ"ซือเย่เจ๋วกลืนน้ำลาย แต่เจียงเซิงไม่รอให้เขาตอบสนองกลับด้วยซ้ำ หลังจากทำสำเร็จก็ดึงตัวออกแล้วเดินจากไปเขาตัวแข็งทื่ออยู่บนที่นั่ง ข่มความวู่วามกลับไป ทำไมถึงรู้สึกว่าเธอหยอกล้อเขาจนเสพติดแล้วนะ?"บริษัท Soul จิวเวลรี่เจียงเซิงเดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์ พนักงานต้อนรับม
เจียงเซิงมึนงง และเหมือนจะประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่าคุณนายหนานจิ่นจะยุติช่องทางความร่วมมือของแทนซาไนต์กับ soul แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่พอจะให้อภัยได้ในเมื่อช่องทางความร่วมมือของแทนซาไนต์ เป็นเธอที่ไปเจรจาต่อรองกับคุณนายหนานจิ่น เพื่อผลประโยนช์ส่วนตัวของเธอเอง เธอ "เกิดอุบัติเหตุ" ขึ้น คุณนายหนานจิ่นไม่กล้าเชื่อว่าคนอื่นจะสามารถนำผลประโยชน์มาให้เธอได้ เธอจึงขอยุติความร่วมมือก็เป็นเรื่องปกติเพียงแต่เธอไม่คิดว่า คุณนายหนานจิ่นจะไม่ได้ยุติ หรือพูดว่าคุณนายหนานจิ่นรู้ว่าเธอจะกลับมา?“ว่าแต่ คนที่เมืองหลวงคงไม่ได้คิดว่าฉันตายไปในอุบัติเหตุครั้งนั้นแล้วหรอกนะ?” เจียงเซิงถามขึ้นทันทีแฟรงค์ตอบกลับ “ในปีนั้นหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ท่านเจ๋วก็ปิดข่าวทั้งหมด คนส่วนใหญ่ก็น่าจะไม่รู้เรื่องน่ะ”ในตอนที่เขาพูดนั้น ก็มองเธอแล้วพูดขึ้นอีกว่า “เซิงเซิง ในเมื่อคุณกลับมาแล้ว งั้นก็ถือได้ว่า ผมสามารถคืนอำนาจใน Soul จิวเวลรี่ให้คุณได้แล้ว”คฤหาสน์ตระกูลซือ ห้องหนังสือซือเย่เจ๋วพลิกหน้าหนังสืออย่างเหม่อลอย ขณะที่ใบหน้าที่เยือกเย็นนั้นเผยให้เห็นถึงอาการร้อนใจที่อยู่ไม่เป็นสุขออกมาหลัวเชว่นำเอกสารเดินเข้า
เธอโอบกอดเจียงเซิงเอาไว้เต็มอกเจียงเซิงเห็นซือเย่เจ๋วแล้ว แต่ยังไม่ทันตั้งตัว เซียวเถียนเถียนก็เขย่าตัวเธอแล้วพูดโอดครวญ “เธอคืนดีกับท่านเจ๋วสารเลวคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไหนเธอบอกจะไม่ให้อภัยเขาไม่ใช่เหรอ เธอยังแอบคืนดีกับเขาลับหลังฉันอีก!”เจียงเซิงถูกเขย่าจนเวียนหัว และกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็มีแขนมาโอบเธอเอาไว้ ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังคล้ายกับกำลังปกป้องลูกน้อยเอาไว้ และพูดกับเซียวเถียนเถียนด้วยใบหน้าเย็นชา “เขย่าอะไร ไม่เห็นเหรอว่าเธอเวียนหัวแล้ว?”เซียวเถียนเถียนมึนงงในทันที แม้ว่าเธอจะไม่ได้เจอกับซือเย่เจ๋วมาสามปีแล้ว แต่ในความทรงจำ ซือเย่เจ๋วเป็นแบบนี้เหรอ?เธอกอดอกและพูดพึมพำ "หึ ตอนนี้แสร้งทำเป็นแสดงความรักอะไร เซิงเซิง ผู้ชายคนนี้ง้อเธอนิดหน่อย ก็หลอกเธอกลับไปได้แล้ว"เซียวเถียนเถียนที่ยังไม่รู้ความจริง ก็รู้สึกว่าซือเย่เจ๋วเป็น "คนเลว" อยู่แล้วซือเย่เจ๋วขมวดคิ้ว จากที่ฟังจากปากเธอก็รู้ว่าเธอไม่ชอบเขาเป็นอย่างมาก และนั่นก็เพราะเจียงเซิงเขาก้มมองคนที่ยังอยู่ในอ้อมแขน ริมฝีปากบางขยับเล็กน้อย “ผมหลอกอะไรคุณเหรอ?”"เอ่อ..."ไม่รอให้เจียงเซิงตอบกลับ เซียวเถียนเถียนก็พูดออ
ในความทรงจำของเขาไม่มีเจียงเซิง เดิมทีเขาไม่ควรได้รับผลกระทบ แต่หัวใจของเขากลับได้รับผลกระทบจากเธอ เหมือนกับว่าถูกเธอดึงดูด ทำให้รู้สึกเจ็บ รู้สึกตัดไม่ขาด ถึงขั้นที่อดไม่ได้ที่อยากจะแนบแน่นกับเธอมากยิ่งขึ้นหัวใจของเขาเต้นตุบ ๆ เหมือนกับกลอง ไม่สามารถควบคุมชีพจรและอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ได้ ฝ่ามือของเจียงเซิงที่แนบลงมาร้อนผ่าวจนน่าตกใจเธอตั้งสติได้ในทันที และประคองใบหน้าของเขาเอาไว้ ริมฝีปากแดงยกขึ้นเล็กน้อย “คุณกำลังสารภาพรักกับฉันอยู่เหรอ?”เขาหรี่ตาลงและไม่พูดอะไรเจียงเซิงกอดเอวของเขา และวางแก้มของเธอลงบนหน้าอกที่เต้นแรงของเขา "ซือเย่เจ๋ว ฉันจะรอให้คุณจะได้ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน คุณยังติดค้างคำมั่นสัญญากับฉัน คุณจะต้องจำให้ได้"ซือเย่เจ๋วเม้มริมฝีปากบาง มือค่อย ๆ ลูบผมที่อยู่ด้านหลังของเธอ เขาติดค้างเธอประโยคหนึ่ง มันคืออะไรนะ?เขาจะต้องนึกขึ้นได้แน่หลังจากซือเย่เจ๋วกลับไป เซียวเถียนเถียนก็นั่งพิจารณาตัวเองอยู่บนโซฟาอย่างว่าง่าย "เซิงเซิง ฉันก็ไม่รู้ว่าท่านเจ๋วจะความจำเสื่อม ฉันพูดคำพูดเหล่านั้น ต่างเป็นคำพูดที่ใส่อารมณ์"เจียงเซิงพลิกดูเอกสาร "อืม ถือโอกาสด่าเขาตอน
ผู้บริหารเหล่านั้นค่อนข้างประหลาดใจ 3 ปีมานี้ท่านเจ๋วไม่ได้สนใจเรื่องบริษัทแล้ว ได้ยินมาว่าเขาป่วยหนักจะต้องรักษาร่างกาย ตอนนี้ท่านเจ๋วกลับมาแล้ว แสดงว่าหายดีแล้วสินะคุณท่านซือปิดเอกสารแล้วกล่าวว่า "พวกคุณออกไปก่อนเถอะ"คนพวกนั้นพยักหน้าพร้อมเดินออกไปคุณท่านซือหมุนเก้าอี้เบาะหนัง และมองดูเขา "ได้เด็กบ้า นายแน่ใจว่าจะรับช่วงต่อบริษัทในตอนนี้?"ซือเย่เจ๋วนั้นพิงโซฟา และวางแขนไว้ตรงขอบของโซฟา "ผมได้อ่านเอกสารแล้ว สิ่งที่ควรจำก็จะได้แล้ว ผมทำได้"คุณท่านซือยืนขึ้นช้า ๆ "งั้นก็ได้ ฉันก็ไม่ห้ามปรามนาย ตอนนี้บริษัทไม่ได้เหมือนกับตอนที่นายเพิ่งรับมือในตอนนั้น เรื่องที่นายจำไม่ได้สามารถถามหลัวเชว่ได้"ตอนที่เขาเพิ่งรับมือ TG ก็เพิ่งอายุสิบหกสิบเจ็ดปี เขาเรียนกหนังสือไปด้วยเรียนรู้การบริหารของบริษัทไปด้วยถึงแม้ความทรงจำของเขาในตอนนี้จะหยุดอยู่ที่ในอดีต แต่เขามีประสบการณ์ ข้างกายก็ยังมีหลัวเชว่ช่วยเหลือเขา ทำความคุ้นชินในระยะเวลาสั้น ๆ น่าจะไม่มีปัญหาขอเพียงแค่ความทรงจำของเขาฟื้นฟูกลับมาเร็วหน่อยคุณท่านซือเดินไปที่ประตู แล้วบอกอะไรบางอย่างกับหลัวเชว่ หลัวเชว่มองดูเขาจากไป จากนั้นจึง
เซียวเถียนเถียนตัวแข็งทื่อ พ่อของเธอช่วงนี้บ่นเกี่ยวกับการแต่งงานของเธอกับตระกูลลู่อยู่ตลอด พ่อของเธอยอมให้เธออยู่บ้าน เพราะคิดว่าเธอตัดสินใจที่จะแต่งงานแล้วถ้าจู่ ๆ บอกว่าไม่อยากแต่งขึ้นมา เธอจะถูกไล่ออกจากบ้านไหม?เธอหันหลังกลับเดินไปนั่งที่โซฟา มองไปที่ลู่ลี่เซิน "แต่ถ้าตระกูลลู่ของคุณจะยกเลิกการแต่งงานก่อน พ่อของฉันคงไม่สามารถบังคับให้ฉันแต่งได้"ดวงตาของลู่ลี่เซินกลอกไปมา "ทุกคนในเมืองหลวงรู้เกี่ยวกับการแต่งงานระหว่างสองตระกูลของเรา คุณคิดว่ามันง่ายที่จะยกเลิกเหรอ? ถึงแม้ว่าตระกูลลู่จะถอนหมั้นฝ่ายเดียว แต่ฝ่ายที่จะขายขี้หน้าก็ยังเป็นฝ่ายตระกูลเซียวของคุณ พ่อของคุณจะยอมเสียหน้าเหรอ?"เซียวเถียนเถียนพูดไม่ออกเจียงเซิงกับกุงหลี่หลี่เดินลงไปชั้นล่าง เมื่อกุงหลี่หลี่เห็นพวกเขาทั้งสองคนก็อยู่ด้วย จึงยิ้มแล้วพูดขึ้น "เถียนเถียน กำลังคุยอะไรกับลี่เซินอยู่เหรอ"“คุณป้ากุง ฉัน……”“แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องแต่งงานกันครับ” ดวงตาของลู่ลี่เซินเต็มไปด้วยความลึกซึ้งกินใจ “ถึงเวลาที่จะต้องกำหนดการแต่งงานแล้วใช่ไหม?”สีหน้าของเซียวเถียนเถียนเปลี่ยนไป "คุณ…… "เมื่อเห็นรอยยิ้มที่เจ้าเ
ใบหน้าของซือเย่เจ๋วไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หลังจากที่เขาเห็นเจียงเซิง ก็ชะงักงันอยู่ครู่หนึ่ง ขณะที่เจียงเซิงจะพูดอะไรบางอย่าง เขาก็กอดเธอและซุกหน้าไว้ที่คอของเธอเจียงเซิงหลังแข็งทื่อ และปล่อยให้เขากอดเธอไว้ ไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตารึเปล่า ทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนกับว่าซือเย่เจ๋วกำลังทำเหมือน "ออดอ้อน" และต้องการให้ปลอบใจ?เธอพูดเสียงเบา “ซือเย่เจ๋ว?”เขากอดเธอแน่น “แม้แต่พื้นที่แบ่งเขตภายในบริษัทผมก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำ ผมมันน่าขำมากใช่ไหม?”เจียงเซิงมึนงง รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นในดวงตา หมอนี่ฝืนแบกหน้าเอาไว้เพื่อกลับมา "ออดอ้อน" เธอ ไม่รู้ว่าถ้าเกิดความทรงจำของเขากลับมา ถ้านึกถึงเรื่องนี้ได้จะแสดงสีหน้าอย่างไรเธอพูดเกลี้ยกล่อมเบา ๆ "อยู่ที่บริษัทของตัวเอง ยังจะกลัวคนอื่นหัวเราะเยาะคุณเหรอ?"ซือเย่เจ๋วผลักเธอออกไป และจับไหล่เธออีกครั้ง จากนั้นจ้องมองเธอ "ถ้าพวกเขาหัวเราะเยาะผมล่ะ?"เจียงเซิงเงยคางขึ้น เลิกคิ้วเล็กน้อย “ใครกล้าหัวเราะเยาะผู้ชายของฉัน?”ซือเย่เจ๋วมองดูเธอครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่จู่ ๆ เจียงนวนนวนก็โผล่หัวเล็ก ๆ ออกมา “หม่ามี้ กำลังกอดจูบกับแด๊ดดี้อยู่เหรอ?”หัวท
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ