ซูซียิ้มบาง "จริงนั่นแหละค่ะ""ว่าแต่ เมื่อก่อนคุณหนูซูทำงานอยู่ที่ลักชัวรี่ใช่ไหมคะ?"คำพูดของเธอ ทำให้รอยยิ้มที่มุมปากของซูซีแข็งทื่อ "ใช่ค่ะ ทำไมเหรอ?"เจียงเซิงเห็นเธอยอมรับ สีหน้ายังคงนิ่งเฉย "งั้นก็น่าแปลกนะคะ เมื่อเก้าปีก่อนฉันก็อยู่ที่ลักชัวรี่ คุณไม่รู้จักฉันเหรอ?"ซูซีจับกระเป๋าเอาไว้แน่น แต่ไม่เผยสีหน้าลนลานใด ๆ ออกมา "ฉันเคยเกิดอุบัติเหตุบางอย่าง หลาย ๆ คนกับเรื่องบางเรื่องก็จำไม่ได้แล้วค่ะ"เธอก้มหน้ามองดูเวลา "ฉันยังต้องกลับไปหาอาจารย์และคิดแผนรับมือ ฉันไม่รบกวนแล้วนะคะ"พูดจบ เธอก็เดินตรงผ่านข้างกายเจียงเซิงไป ส่วนเจียงเซิงก็มองดูแผ่นหลังของเธอที่เดินจากไป และครุ่นคิดอะไรบางอย่างเจียงเซิงเดินไปถึงนอกห้องพักผู้ป่วย ก็ได้ยินบทสนทนาของซือเย่เจ๋วกับหลัวเชว่พอดีหลัวเชว่กำลังรายงานเรื่องราวบางอย่างกับซือเย่เจ๋ว บอกว่าช่วงนี้เรเจลได้พบหน้ากับคุณเสวี่ยองค์รัชทายาทของกลุ่มนายทุนประเทศ Y ที่เรเจลรีบร้อนดึงองค์รัชทายาทกลุ่มนายทุนประเทศ Y มาเป็นพวก ก็เพียงเพราะเห็นถึงความสำคัญของกำลังเงินขององค์รัชทายาทกลุ่มนายทุนประเทศ Y ก็เท่านั้นหลังจากที่คลังเงินอย่างร็อบล่มสลาย ทรัพ
เธอพูดว่าเกิดอุบัติเหตุจำคนและเรื่องราวไม่ได้ แต่กลับยังจำได้ว่าเธออยู่ที่ลักชัวรี่ อุบัติเหตุร้ายแรงแค่ไหนกันถึงได้เปลี่ยนแปลงหน้าตาจนหมด?เธอไม่ใช่ซูซี ต่อให้ศัลยกรรมก็ควรจะศัลยกรรมให้มีความคล้ายซูซีอยู่บ้าง แต่เธอศัลยกรรมได้ไม่เหมือนซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าใบหน้าของเธอเคยทำศัลยกรรมมาก่อน เห็นได้ชัดว่าก่อนที่เธอจะศัลยกรรมอาจจะเคยเสียโฉมมาก่อน จึงตัดสินใจศัลยกรรมหน้าตาในตอนที่ "ซูซี" เกิดอุบัติเหตุในเมื่อเธอสามารถรู้ได้ว่าซูซีอยู่ที่ลักชัวรี่ และก็แอบอ้างตัวตนของเธอ คิดว่าจะต้องสนิทสนมกับซูซีแน่นอนเพียงแค่ตรวจสอบดูว่าเมื่อสามปีก่อนซูซีได้ติดต่อกับใครบ้าง ก็ชัดเจนแล้วและเธอก็นึกอะไรออกจึงพูดขึ้น "เมื่อครู่ได้ยินหลัวเชว่พูดถึงองค์รัชทายาทกลุ่มนายทุน เจ้าของลักชัวรี่ในตอนนี้ก็คือเขาพอดี ดังนั้นคุณเสวี่ยที่มาจากประเทศ Y คนนี้ ก็คือกุมารทองนำทรัพย์ของเรเจลเหรอ?"ซือเย่เจ๋วหลุดหัวเราะออกมา "บางทีเขาอาจแค่อยากทำธุรกิจการกุศลล่ะ?"เจียงเซิงพูดพึมพำ “คุณเข้าใจแบบนี้เหรอ?”เขาก้มหน้านวดฝ่ามือของเธอ "เขาคือคนของตระกูลเสวี่ย ถือว่ามีความสัมพันธ์กับตระกูลซือของพวกเราอยู่นิดหน่อย""ความสั
"คุณอยากจะได้ยาต้านหลอดนั้นจากตัวผมสินะ?" เซียวเปิดโปงข้ออ้างของเขาอย่างนิ่งเฉย อารีย์หน้าเสียเล็กน้อย แต่กลับไม่พูดจาเซียวลุกขึ้นยืน เดินไปข้างหน้าโต๊ะ สองมือค้ำอยู่บนโต๊ะ "ยาต้านหลอดนั้นผมให้คุณได้ แต่คุณต้องรับปากผมเรื่องหนึ่ง"ซูซีที่กำลังจะเคาะประตูได้ยินอะไรบางอย่าง สีหน้าก็ตกตะลึง เซียวตัวจริง ที่แท้ก็คือเฮนรี่ขององค์กรต้าตู?เขามียาต้านที่สามารถรักษาซือเย่เจ๋วได้?สีหน้าของซูซีค่อย ๆ อึมครึม เมื่อนึกอะไรได้ ก็ยิ้มมุมปากอย่างเย็นชาฟ้าย่อมมีทางออกเสมอจริง ๆ ถ้าหากเธอเอายาต้านหลอดนั้นมาได้ และช่วยซือเย่เจ๋วเอาไว้ เช่นนั้นเธอก็สามารถอยู่ด้วยกันกับซือเย่เจ๋วอย่างเปิดเผยได้แล้ว!เจียงเซิงมาถึงอะพาร์ตเมนต์ที่เกิดไฟไหม้เมื่อสามปีก่อน อะพาร์ตเมนต์แห่งนี้อยู่โซนที่อยู่อาศัยตรงไชน่าทาวน์ คนที่อาศัยอยู่แถบนี้ส่วนมากเป็นคนจีนตึกอะพาร์ตเมนต์ถูกปรับปรุงใหม่แล้ว แต่เป็นเพราะเคยมีคนถูกไฟคลอกตาย ห้องนั้นกลายเป็นห้องเก็บของไปแล้วเธอสอบถามเจ้าของบ้าน "คุณหนูซูที่อาศัยอยู่นห้องนั้นเมื่อก่อนเคยติดต่อกับใครบ้างไหม? อย่างเช่นเพื่อนอะไรทำนองนั้น"เจ้าของบ้านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบกลับ
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายของโทรศัพท์พูดว่าอย่างไร ซูซีตอบกลับ "อารีย์ไม่ได้คิดจะช่วยคุณเรเจลด้วยซ้ำ มีแค่ฉันที่สามารถช่วยได้ เพียงแค่ฉันเอายาต้านที่อยู่ในมือของเซียวมาได้ และช่วยซือเย่เจ๋วเอาไว้ ก็สามารถทำให้ประชาชนเชื่อถือและศรัทธาได้ แค่ดูว่าพวกคุณยอมที่จะทำการค้าขายนี้ไหม"ซูซีจบการสนทนา จากนั้นเดินออกจากทางเดินไปโดยไม่หันกลับมามอง ส่วนสิบเจ็ดก็เดินออกมาจากตรงทางเดิน มองดูแผ่นหลังที่เดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยด้วยสีหน้าเย็นชาเจียงเซิงนั่งอยู่ในรถ ลดหน้าต่างลงครึ่งหนึ่ง สายตามองไปที่นอกหน้าต่างจนกระทั่งสิบเจ็ดเดินออกมาจากโรงพยาบาล และขึ้นรถ เธอจึงถามขึ้นมา "ซูซียังไม่กลับอีกเหรอ?""ยังค่ะ" สิบเจ็ดตอบกลับเจียงเซิงลดสายตาลง ถึงแม้ซือเย่เจ๋วจะแสร้งทำเป็น "มีความรู้สึก" ต่อซูซี ให้ซูซีคิดว่าเธอมีโอกาส แต่เธอก็อยู่นานเกินไปหน่อยไหม?คงไม่ได้เกาะติดซือเย่เจ๋วไม่ยอมกลับไปหรอกนะ? ชายหญิงอยู่กันตามลำพังในห้องพักผู้ป่วย ถ้าหากเธอเก็บอารมณ์ไม่อยู่โผเข้าหา จากอาการป่วยของซือเย่เจ๋วในตอนนี้จะผลักออกได้ไหม?หาเรื่องทรมานตัวเองชัด ๆ"คุณหนู ซูซีรู้สถานะของคุณเฮนรี่แล้ว"คำพูดประโยคเดียว ดับความคิ
......"อะไรนะ ยาต้านถูกแย่งชิงไปแล้ว?" อารีย์จับไหล่ของบอดี้การ์ดคนนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป "ใครแย่งไป?"บอดี้การ์ดก้มหน้าลง "คนของท่านลอร์ดครับ"อารีย์ปล่อยเขาออก และถอยไปที่หน้าโต๊ะ และกัดฟันกราม จากนั้นฟังบอดี้การ์ดคนนั้นพูดต่อ พวกเขาถูกดักระหว่างทางที่กลับมา พวกเขามีคนเยอะมาก และมีปืน เป้าหมายก็คือกล่องนั้นอารีย์หยิบกล่องบุหรี่ขึ้นมาเทออก แต่กลับว่างเปล่า เขากำกล่องบุหรี่เอาไว้จนยับและปาไปบนพื้น "บ้าชะมัด!"กว่าจะได้ยาต้านของเซียวมาทำการวิจัย แต่กลับถูกคนของเรเจลแย่งชิงไป!เขารู้ว่าตอนนั้นเซียววิจัยยาต้านระดับสูงไว้สองหลอด ยาต้านสองหลอดนั้นสามารถควบคุมอาการของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโม่จ้วงได้ แน่นอนว่ามีขอบเขตแค่ผู้ป่วยติดเชื้อระยะกลางเท่านั้นยาต้านสองหลอดนั้น ยาต้านสองหลอดนั้นมีปัจจัยทางพันธุกรรมที่แยกเซลล์ที่ติดเชื้อออกจากกันได้ ถึงแม้ความเป็นไปได้จะน้อยมาก แต่ไม่ว่าจะโอกาสน้อยแค่ไหนแต่ก็มีการค้นพบที่ยิ่งใหญ่มากเขาแทบรอไม่ไหวที่จะเอายาต้านนั้นมาทำการวิจัย แต่กลับถูกชิงไปในเวลาสำคัญนี้ เขาจะไม่โมโหได้อย่างไร?โจนส์ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกพอดี "คุณอา"อารีย์เงยหน้าขึ้นมองเธอ โ
เขาเงยหน้าขึ้น "นี่คือยาต้านของเซียว ต่อให้ไม่ได้ผล ก็ไม่มีทางพรากชีวิตฉันได้"หลัวเชว่ชะงักงัน เหมือนกำลังคาดเดาว่าเขากำลังพูดถึง "เซียว" คนไหน"งานแถลงข่าวอีกสองวันข้างหน้า น่าจะเตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม?" ซือเย่เจ๋วถามหลัวเชว่หลุดจากภวังค์ "เตรียมพร้อมแล้วครับ"เขายิ้มแล้วพับหนังสือพิมพ์ สายตาเย็นชามองออกไปนอกหน้าต่าง "คงจะน่าสนุกมาก"งานแถลงข่าวอีกสองวันต่อมา นักข่าวและสื่อที่มาถึงที่เกิดเหตุต่างก็ตั้งตารอช่วงเวลานี้ในเมื่อถ้าหากซือเย่เจ๋วถูกยาต้านรักษาหายจริง ๆ งั้นก็จะเป็นปาฏิหาริย์ในประวัติศาสตร์วงการแพทย์ในอดีตโม่จ้วงไวรัสแพร่กระจายไปทั่วประเทศ S ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก หลังจากที่ตระกูลหลานล่มสลายเรื่องวัคซีนปลอมก็ถูกเปิดโปงออกมา ยิ่งทำให้คนรู้สึกโมโหโรคระบาดที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ เกือบทำให้ทั้งประเทศ S ตกอยู่ในนรกที่ลุกเป็นไฟ และยาแก้พิษที่เซียวสร้างขึ้นในตอนนั้นสามารถควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสได้ก็ยิ่งใหญ่มากแล้วซือเย่เจ๋วนั่งอยู่บนรถเข็นโดยมีหลัวเชว่เป็นคนเข็น และปรากฏตัวที่หน้ากล้องของสื่อข่าวและผู้หญิงที่ตามมาอยู่ด้านข้างเขาก็คือซูซีนักเรียนของ "เซียว" ที่ถ
เธอเป็นคนนำยาต้านมา เธอเป็นคนช่วยซือเย่เจ๋ว ตอนนี้ท่านผู้เฒ่ามีแต่จะให้ความสำคัญกับเธอมากขึ้น เพียงแค่ซือเย่เจ๋วกับท่านผู้เฒ่าอยู่ข้างเธอ ต่อให้อารีย์มา เธอก็ไม่กลัวแล้ว!ซือเย่เจ๋วที่นั่งอยู่บนรถเข็นลุกขึ้นช้า ๆ ทุกคนต่างประหลาดใจ เดิมทีได้ยินข่าวว่าเขาป่วยหนักแทบจะไม่รอด ออกเดินทางทำได้แค่นั่งรถเข็น แต่ทว่าตอนนี้เขากลับลุกขึ้นยืนได้แล้วหรือว่ายาต้านมีประสิทธิผลจริง ๆ?สามารถทำให้คนที่ใกล้ป่วยตายฟื้นฟูได้เร็วถึงขนาดนี้เลยเหรอ?เซียวหยุดลงตรงหน้าเขา ส่วนซือเย่เจ๋วก็ยิ้มบาง และเป็นฝ่ายยื่นมือออกไป "ยินดีที่ได้พบหน้ากันครั้งแรกนะครับคุณเซียว"เซียว?!นักข่าวต่างพูดไม่ออก"เฮนรี่ก็คือเซียว?""แม่เจ้า ข่าวนี้สะเทือนเลือนลั่นไปหน่อยไป!"ซูซีชะงักงัน สายตาจับจ้องไปที่ตัวซือเย่เจ๋ว เขารู้ได้อย่างไรว่าเฮนรี่ก็คือเซียว!เซียวจับมือกับซือเย่เจ๋ว "ได้ยินชื่อเสียงของคุณซือมาตั้งนานแล้ว อยากจะเจอหน้ามาโดยตลอด คุณซือเป็นคนอายุน้อยที่มีความสามารถ ถึงว่า อลิซถึงได้จดจำอยู่ในใจถึงขนาดนี้ซือเย่เจ๋วอมยิ้มที่มุมปาก จากนั้นหันมองไปทางซูซี "เซียวคืออาจารย์ของคุณไม่ใช่เหรอ? จะต้องขอบคุณคุณมากจริ
เขาพูดอย่างไม่พอใจ "ยาต้านหลอดนั้นเซียวให้ฉันนำมาวิจัย ไม่สามารถรักษาไวรัสบนตัวของเขาได้ เขาติดเชื้อโม่จ้วงชนิดใหม่ โม่จ้วงชนิดนี้ไม่มีระยะฟักตัว ยาหลอดนั้นที่เซียวเอาให้เป็นยาต้านที่ผลิตออกมาเมื่อสิบกว่าปีก่อน มีผลต่อผู้ติดเชื้อโม่จ้วงชนิดทั่วไปเท่านั้น เธอไม่รู้เรื่องอะไรแล้วยังกล้าให้เขาใช้?"ซูซีตัวสั่น ในตอนนี้คนที่อยู่โดยรอบเหมือนกับหยุดชะงักกันหมด แม้แต่เสียงก็หายไปครึ่งหนึ่งส่วนอารีย์ก็มองไปทางกลุ่มนักข่าว "พวกเราทำไมต้องวิจัยยาต้าน วัคซีนไวรัสที่ตระกูลหลานผลิตออกมาวัตถุประสงค์ก็เพื่อต้านมะเร็ง อยากจะใช้เซลล์ไวรัสปรับปรุงยีนของมนุษย์ เพื่อให้คนหลีกเลี่ยงจากความทรมานจากโรคภัยเป็นความคิดที่สวยงามอย่างมาก แต่น่าเสียดาย ตระกูลหลานล้มเหลว จึงทำให้เกิดภัยพิบัติที่ร้ายแรงในปีนั้น สิ่งที่พวกเราวิจัยก็เหมือนกับที่ตระกูลหลานวิจัยในตอนนั้น มีเพียงสิ่งเดียวที่ต่างกันคือ พวกเราไม่มีทางใช้คนทำการทดลองนี้"อารีย์พูดจบ ก็หันหน้ามองไปทางซูซี "เธอติดตามฉันมาสามปี แม้แต่หลักการณ์นี้เธอก็ไม่เข้าใจเหรอ?"นักข่าวเริ่มกระซิบกระซาบกันขึ้นมาหลังจากเรื่องที่ตระกูลหลานวิจัยไวรัสถูกเปิดโปง ประชาช
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ