เธอเป็นคนนำยาต้านมา เธอเป็นคนช่วยซือเย่เจ๋ว ตอนนี้ท่านผู้เฒ่ามีแต่จะให้ความสำคัญกับเธอมากขึ้น เพียงแค่ซือเย่เจ๋วกับท่านผู้เฒ่าอยู่ข้างเธอ ต่อให้อารีย์มา เธอก็ไม่กลัวแล้ว!ซือเย่เจ๋วที่นั่งอยู่บนรถเข็นลุกขึ้นช้า ๆ ทุกคนต่างประหลาดใจ เดิมทีได้ยินข่าวว่าเขาป่วยหนักแทบจะไม่รอด ออกเดินทางทำได้แค่นั่งรถเข็น แต่ทว่าตอนนี้เขากลับลุกขึ้นยืนได้แล้วหรือว่ายาต้านมีประสิทธิผลจริง ๆ?สามารถทำให้คนที่ใกล้ป่วยตายฟื้นฟูได้เร็วถึงขนาดนี้เลยเหรอ?เซียวหยุดลงตรงหน้าเขา ส่วนซือเย่เจ๋วก็ยิ้มบาง และเป็นฝ่ายยื่นมือออกไป "ยินดีที่ได้พบหน้ากันครั้งแรกนะครับคุณเซียว"เซียว?!นักข่าวต่างพูดไม่ออก"เฮนรี่ก็คือเซียว?""แม่เจ้า ข่าวนี้สะเทือนเลือนลั่นไปหน่อยไป!"ซูซีชะงักงัน สายตาจับจ้องไปที่ตัวซือเย่เจ๋ว เขารู้ได้อย่างไรว่าเฮนรี่ก็คือเซียว!เซียวจับมือกับซือเย่เจ๋ว "ได้ยินชื่อเสียงของคุณซือมาตั้งนานแล้ว อยากจะเจอหน้ามาโดยตลอด คุณซือเป็นคนอายุน้อยที่มีความสามารถ ถึงว่า อลิซถึงได้จดจำอยู่ในใจถึงขนาดนี้ซือเย่เจ๋วอมยิ้มที่มุมปาก จากนั้นหันมองไปทางซูซี "เซียวคืออาจารย์ของคุณไม่ใช่เหรอ? จะต้องขอบคุณคุณมากจริ
เขาพูดอย่างไม่พอใจ "ยาต้านหลอดนั้นเซียวให้ฉันนำมาวิจัย ไม่สามารถรักษาไวรัสบนตัวของเขาได้ เขาติดเชื้อโม่จ้วงชนิดใหม่ โม่จ้วงชนิดนี้ไม่มีระยะฟักตัว ยาหลอดนั้นที่เซียวเอาให้เป็นยาต้านที่ผลิตออกมาเมื่อสิบกว่าปีก่อน มีผลต่อผู้ติดเชื้อโม่จ้วงชนิดทั่วไปเท่านั้น เธอไม่รู้เรื่องอะไรแล้วยังกล้าให้เขาใช้?"ซูซีตัวสั่น ในตอนนี้คนที่อยู่โดยรอบเหมือนกับหยุดชะงักกันหมด แม้แต่เสียงก็หายไปครึ่งหนึ่งส่วนอารีย์ก็มองไปทางกลุ่มนักข่าว "พวกเราทำไมต้องวิจัยยาต้าน วัคซีนไวรัสที่ตระกูลหลานผลิตออกมาวัตถุประสงค์ก็เพื่อต้านมะเร็ง อยากจะใช้เซลล์ไวรัสปรับปรุงยีนของมนุษย์ เพื่อให้คนหลีกเลี่ยงจากความทรมานจากโรคภัยเป็นความคิดที่สวยงามอย่างมาก แต่น่าเสียดาย ตระกูลหลานล้มเหลว จึงทำให้เกิดภัยพิบัติที่ร้ายแรงในปีนั้น สิ่งที่พวกเราวิจัยก็เหมือนกับที่ตระกูลหลานวิจัยในตอนนั้น มีเพียงสิ่งเดียวที่ต่างกันคือ พวกเราไม่มีทางใช้คนทำการทดลองนี้"อารีย์พูดจบ ก็หันหน้ามองไปทางซูซี "เธอติดตามฉันมาสามปี แม้แต่หลักการณ์นี้เธอก็ไม่เข้าใจเหรอ?"นักข่าวเริ่มกระซิบกระซาบกันขึ้นมาหลังจากเรื่องที่ตระกูลหลานวิจัยไวรัสถูกเปิดโปง ประชาช
นี่มันเรื่องอะไรกัน?บอดี้การ์ดปล่อยให้พวกเขาผ่านไปเซียวสวมชุดป้องกันเดินออกมาจากห้อง ICU "เอาของมาแล้วยัง?"เรเวียร์ยื่นกล่องสีขาวเงินให้กับเซียว ท่านผู้เฒ่าลุกขึ้นช้า ๆ และมองไปทางพวกเขา "นี่คือ...สามารถช่วยเหลือเย่เจ๋วได้?"เซียวรับกล่องมา "ถ้าหากท่านซือยอมเชื่อ"ท่านผู้เฒ่าไม่ได้พูดอะไรเลย เป็นเพราะยาต้านหลอดนั้นที่ซูซีให้มาทำร้ายซือเย่เจ๋วแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนี้สถานการณ์เป็นแบบนี้แล้ว ต่อให้เขาไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วเซียวถือกล่องเข้าไปในห้องไอซียูซูซีที่ถูกบอดี้การ์ดกีดกันเอาไว้ตะโกนใส่เจียงเซิงและเรเวียร์ "นี่เป็นกับดักของพวกคุณใช่ไหม!"ต้องเป็นฝีมือของพวกเขาแน่นอน!ทั้ง ๆ ที่ยาต้านถูกเธอแย่งชิงมาแล้ว จะมียาต้านที่เหมือนกันได้อย่างไร!นี่ก็คือกับดักของพวกเขา!เจียงเซิงหันหลังมาช้า ๆ แล้วมองไปทางซูซี จากนั้นเผยรอยยิ้มที่มุมปาก "กับดักอะไร?"ซูซีกัดฟัน "เซียวผลิตยาต้านออกมาหนึ่งหลอด พวกคุณมีสองหลอด! เป็นพวกคุณที่เอายาต้านปลอมมาให้ฉัน!"เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว เธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้วในเมื่อยาต้านที่เธอได้มาไม่ได้ผล งั้นยาต้านก็คือของปลอม เป็นแผนการของพวกเขา!เจี
“พูดให้ถูกต้อง ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก”เซียวหันกลับมา “เพียงแต่มีผลข้างเคียงบางส่วนที่ถูกต่อต้านอยู่ภายใน โม่จ้วงไวรัสเป็นเซลล์ที่ค่อนข้างดื้อรั้น ในตอนที่ยาต้านถูกฉีดเข้าไปในร่างกาย เซลล์เหล่านั้นที่แพร่กระจายจะเริ่มทำงานขึ้นมา เร่งการเผาผลาญ ร่างกายของเขาแบกรับไม่ไหว แต่ไม่ถึงกับตาย”เจียงเซิงตกตะลึงและเม้มริมฝีปากแน่น ถ้าหากรู้แต่แรกว่ายาต้านหลอกนั้นมีปฏิกิริยาการต่อต้านที่รุนแรงขนาดนี้ บางทีเธอก็อาจจะไม่เดิมพันในครั้งนี้เซียวพูดปลอบใจเธอ "หนูไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด เดิมทียาต้านตัวนั้นพ่อตั้งใจเอาให้อารีย์ทำการวิจัย ต่อให้หนูไม่ได้รายงานเรเวียร์ให้เขาเตรียมป้องกัน ตอนนั้นในมือของเขาก็มียาต้านอยู่สองหลอด"ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปใช้ชนิดไหน สุดท้ายก็ไม่มีผลเสียใด ๆ ต่อซือเย่เจ๋ว เพียงแต่ไม่ได้ทำให้แผนการของซูซีกับเรเจลสำเร็จได้ก็เท่านั้นหลังจากเซียวจากไป เจียงเซิงยังคงอยู่ยืนอยู่ที่เดิม จนกระทั่งด้านหลังมีเสียงหนึ่งดังขึ้น “คิดไม่ถึงว่าเรื่องยาต้านเป็นฝีมือพวกคุณจริง ๆ ด้วย”เจียงเซิงไม่ได้หันหน้ากลับไป เธอรู้ว่าเป็นซูซีซูซีเดินไปตรงหน้าเธอ มุมปากเผยรอยยิ้มเยาะหยัน “ความตั้งใจเดิมขอ
หลัวเชว่คิดอะไรบางอย่าง "อ่อใช่ หลายวันมานี้ซูซีคนนั้นอยากเจอคุณอยู่ตลอด ไม่รู้เหมือนกันว่าซูซีรู้เรื่องที่คุณเจียงวางกับดักเธอเรื่องยาต้านมาจากไหน และนำเรื่องนี้ไปบอกท่านผู้เฒ่า และท่านผู้เฒ่าก็เชื่อซะด้วย จากนั้นก็ตำหนิคุณเจียง"ซือเย่เจ๋วนิ้วมือหยุดชะงัก หันข้างมา สายตาเคร่งขรึมอย่างเห็นได้ชัดรถคันสีเงินขาวขับเข้ามาช้า ๆ ท่ามกลางป่าพอปลาร์ที่มีสีเหลืองอร่าม สนามหญ้าที่กว้างโล่งกับป่าพอปลาร์ที่สูงตระหง่านอยู่ทั้งสองข้าง เมื่ออยู่ภายใต้สีฟ้าสด สวยงามเหมือนกับภาพเขียนสีน้ำมันชานเมืองที่วิวทิวทัศน์สวยงามและห่างไกลความเจริญ ก็คือที่อยู่อาศัยของอารีย์สิบเจ็ดจอดรถลงที่ด้านนอกของคฤหาสน์สามชั้นและมีสนามสวนตัว ประตูที่อยู่นอกสนามปิดสนิทเจียงเซิงลงจากในรถ สิบเจ็ดก็กดออกที่ประตู ผ่านไปครู่หนึ่ง ถึงได้มีคนออกมาเปิดประตู ชายคนนั้นแง้มประตูและมองออกมาจากด้านใน จากนั้นถามขึ้น "พวกคุณมาหาใคร?""คุณอารีย์อยู่บ้านไหม?""ไม่อยู่" ผู้ชายกำลังจะปิดประตูลง จู่ ๆ สิบเจ็ดก็ถีบประตูออกในตอนที่ผู้ชายกำลังจะชักปืนออกมาป้องกันก็ถูกสิบเจ็ดจับเขาทุ่มลงกับพื้นอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็แย่งปืนของเขาไปแล
สำหรับเหตุผลที่ว่าทำไมตับตัวเอาไว้แค่โจนส์ บางทีอาจเป็นเพราะเบื้องหลังตระกูลของโจนส์ โจนส์เป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลของพวกเขา แตกต่างกับอารีย์หมอเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย เจียงเซิงถามขึ้น "คุณโจนส์เป็นอย่างไรบ้างคะ?"หมอยิ้ม "โชคดีที่มาส่งโรงพยาบาลทันเวลา ไม่ได้ช็อกเพราะเสียเลือดมากเกินไป ผมเย็บบาดแผลให้เขาเรียบร้อยแล้ว เขาเพียงแค่พักผ่อนสองสามวันก็พอแล้ว"เจียงเซิงเดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย โจนส์นอนอยู่บนเตียง เขาดึงสายตาที่มองออกไปนอกหน้าต่างกลับมา และมองดูเธอ "ขอบคุณนะครับ""คุณโจนส์เกรงใจแล้ว" เจียงเซิงยืนอยู่ที่ข้างเตียง "ก่อนหน้านี้พวกเราเจอหน้ากันที่ลักชัวรี่ ฉันถามเรื่องคุณซูซีกับคุณอาของคุณ คุณอยากจะช่วยเก็บความลับแทนคุณอาของคุณสินะคะ?"เพราะว่าต้องเก็บเป็นความลับ ดังนั้นเขาหลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนานี้โจนส์หยุดชะงัก จากนั้นยิ้มด้วยใบหน้าซีดขาว "คุณอาของผมไม่ได้ร่วมมือกับพวกเรเจล เขาเป็นแค่คนที่หลงใหลในการทดลอง จะพูดอย่างไรดีล่ะ เขาใช้เวลาทั้งชีวิตไปกับการทดลอง ไม่สนใจโลกภายนอก และเพิกเฉยต่อการคัดค้านของคนในครอบครัว""ดังนั้นอารีย์จึงออกจากตระกูลของพวกคุณ?" ก่อนหน้านี้เจี
ซือเย่เจ๋วลดสายตาลง และยิ้มเยาะ “หย่าร้างแล้ว หลังจากนั้นล่ะ?”เขาเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่แยแส สีหน้าเย็นชา “ให้ผมยอมรับซูซีเหรอ?”ท่านผู้เฒ่าหยุดชะงัก ถึงแม้ซูซีจะแย่งชิงยาต้านมาจากเซียว แต่เธอทำเพื่อช่วยซือเย่เจ๋ว ถ้าหากพวกเขาไม่สลับเปลี่ยนยาต้าน งั้นซือเย่เจ๋วก็ไม่มีทางตกอยู่ในความอันตรายแต่ว่าตอนนี้เขาก็ไม่ได้เชื่อซูซีไปทั้งหมด จึงไม่มีทางเชียร์ซูซีกับซือเย่เจ๋วอยู่แล้ว “ผู้หญิงคนไหนก็ได้ แต่เจียงเซิงไม่ได้”ซือเย่เจ๋วยิ้มบาง แต่สีหน้าอึมครึม “สามปีแล้ว คุณปู่ยังชอบยุ่งเหมือนเดิมเลยนะครับ”ท่านผู้เฒ่าพูดด้วยความโมโห "ฉันเป็นปู่ของแก ฉันหวังดีกับแก ต่อให้เมื่อสามปีก่อนเรื่องเหล่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเจียงเซิง แต่ถ้าหากไม่มีเจียงเซิงแกก็ไม่มีทางติดเชื้อ และยิ่งไม่มีทางติดกับของพวกเขา!"เขารู้ว่าเจียงเซิงเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ว่าตั้งแต่ที่ซือเย่เจ๋วเจอกับเจียงเซิง ซือเย่เจ๋วเกือบจะเสียชีวิตไปแล้วด้วยซ้ำ อุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อนเขารู้สึกเห็นใจและสงสารเจียงเซิง แต่เดิมทีพวกเขาไม่ควรจะอยู่ด้วยกันอยู่แล้วหย่าร้างก็หย่าไปแล้ว ไม่ควรจะมีความเกี่ยวข้องพัวพันกันมากเกินไป!ซือเย่เจ๋วสา
มองดูคนที่อยู่บนเตียงไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เธอนั่งลงที่ขอบเตียง และสัมผัสมือที่เย็นเยือกของเขา "เย่เจ๋ว คุณจะตายไม่ได้ ฉันไม่เคยคิดอยากจะทำร้ายคุณเลย ฉันอยากจะช่วยคุณก็เท่านั้น"ซูซีดวงตาเปียกชื้น ถึงแม้ได้อยู่ด้วยกันกับซือเย่เจ๋วแค่เวลาสั้น ๆ ต่อให้ใช้ตัวตนของซูซี แต่เธอรู้ว่าซือเย่เจ๋วไม่ได้รังเกียจ "ซูซี" นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีนะกว่าเธอจะมีโอกาส แต่ทำไมถึงช่วยเขาไว้ไม่ได้?"เย่เจ๋ว ขอโทษ เป็นเพราะฉันทำร้ายคุณ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจียงเซิง เธออยากใส่ร้ายฉันถึงได้สลับเปลี่ยนยาต้าน ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่ายาต้านหลอดนั้นส่งผลกระทบต่อคุณอย่างมาก เย่เจ๋ว ฉันไม่อยากให้คุณตายจริง ๆ นะ..."มือของซูซีลูบไล้โครงหน้าของเขา"คุณทำอะไรน่ะ?"ซูซีสะดุ้งกับเสียงที่ดังมาจากด้านนอกประตู เธอหันหน้าไป เจียงเซิงยืนมองอยู่ที่หน้าประตูซูซีมองดูซือเย่เจ๋ว สีหน้าของเธอเคร่งขรึมแล้วลุกขึ้นยืน "พวกคุณสลับยาต้านจนทำให้คุณซือกลายเป็นแบบนี้แล้วยังมีหน้ามาอีกเหรอ?"เจียงเซิงพูดขึ้นช้า ๆ "คุณหนูซูทรยศคุณอารีย์ และร่วมมือกับเรเจล ฉันแค่อยากจะหยุดคุณก็เท่านั้น"ซูซีเม้มริมฝีปากของเธอแน่นเธอเดินไปตรงหน้าซูซี
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ