ตอนที่เธอมาถึงประเทศ S เพิ่งอายุสิบสี่ปี แม้แต่ภาษาต่างประเทศก็พูดไม่เป็นสักคำ ทำได้เพียงใช้ชีวิตแออัดที่อดมื้อกินมื้ออยู่กับครอบครัวในเขตสลัมในตอนนั้น คนที่อยู่ในเขตสลัมไม่ได้ถูกคนชั้นสูงเห็นเป็นคนด้วยซ้ำ พวกเขาไม่มีสิทธิมนุษยชน เป็นได้แค่สัตว์เดรัจฉานที่เชื่อฟังว่าง่ายถึงขั้นที่คนที่อยู่ในเขตสลัมเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ได้ จึงส่งลูกสาวไปเป็นคนรับใช้ที่บ้านของคนรวยโดยไม่รู้สึกเสียดายหญิงสาวก็คือหนึ่งในนั้น พ่อแม่ของเธอขายเธอให้กับนักพ่อค้าเศรษฐีที่อายุเยอะและไม่มีบุตร เพื่อแลกกับเงินก้อนหนึ่งเธอที่ตกไปอยู่ในมือของพ่อค้าเศรษฐีใช้ชีวิตได้ไม่ดีนัก นอกจากถูกตบตี กินไม่อิ่มและนอนไม่เพียงพอแล้ว เธอใช้ชีวิตแทบจะไม่เหมือนกับมนุษย์ด้วยซ้ำภายหลังเธอตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ พยายามเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ และเอาอกเอาใจพ่อค้าเศรษฐีอย่างเต็มที่ เป็นฝ่ายเสนอตัวไปดูแลลูกค้าของพ่อค้าเศรษฐีอาศัยที่อายุน้อยหน้าตาสวยและมีความสามารถ ทำให้ลูกค้าเหล่านั้นอารมณ์ดี นำผลประโยชน์มาให้พ่อค้าเศรษฐีมากมายพ่อค้าเศรษฐีดีใจมาก จึงได้เปลี่ยนเธอจากคนรับใช้ที่ไร้คุณค่ามาเป็นลูกบุญธรรมของเขา แต่เธอกลับเปลี
หลานอู๋เหยียนเงยหน้ามองเจียงเซิง "ไม่ต้องให้ผมพูด คุณก็คงจะรู้ถึงตัวตนขององค์หญิงใหญ่กับนักเลงกระจอกคนนั้นแล้วสินะ?"เจียงเซิงหัวเราะแห้ง ๆ "ดังนั้นล่ะ ผู้หญิงคนที่คุณพูดถึงก็คือคุณย่าของคุณ ผู้หญิงที่เป็นคนก่อตั้งตระกูลหลานของพวกคุณ""ถูกต้อง"ในดวงตาของหลานอู๋เหยียนไม่มีการเปลี่ยนแปลง และก็ไม่มีความรู้สึกใด ๆ "พ่อค้าเศรษฐีคนนั้นไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับพวกเราสักนิด ต้องขอบคุณคุณย่าของผม ที่มีพวกเราคนรุ่นหลังสืบทอดตระกูลต่อให้เขา"เรื่องขององค์หญิงใหญ่ที่เกิดกบฏในครั้งนั้น เป็นฝีมือของคุณปู่ของคุณเหรอ?"เขาเอ็นหลังพิงไปที่เก้าอี้ และเผยอมยิ้มเย้ยหยัน มองดูเธอ "โดยทั่วไปแล้วสิ่งของที่ไม่ได้ครอบครอง ทำลายทิ้งซะจึงจะดีกว่าอันที่จริง ท่านลอร์ดมีอำนาจและยศศักดิ์ทุกวันนี้ได้ ต้องขอบคุณคุณปู่ของผม"คุณปู่ดึงลอร์ดเรเกิ้ลลูกนอกสมรสที่ไม่ได้รับความสำคัญจากราชวงศ์มาเป็นพวก เพียงแค่ล้มอำนาจขององค์หญิงใหญ่ได้ และได้รับการสนับสนุนจากคนเหล่านั้น จากนั้นประคับประคองเรเจลขึ้นตำแหน่ง เขาก็ได้เป็นคนที่มีตำแหน่งอัครเสนาบดีน่าเสียดายแผนการของพวกเขามักจะถูกซือหลิงหยุนกับองค์หญิงใหญ่ทำลาย เม
เรื่องราวเกิดขึ้นแล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว เป้าหมายของเรเจลคือตระกูลซือ ตระกูลกุงก็แค่หมากตัวหนึ่งในแผนที่เขาใช้จัดการตระกูลซือ""งั้นคุณกับซือเย่เจ๋วล่ะ มีความแค้นอะไรกัน?" เธอหัวเราะขึ้นมาอย่างเหยียดหยาม "หรือเป็นเพียงเพราะคุณเป็นหมาของเรเจลจนเสพติดแล้ว?"หลานอู๋เหยียนเดาะลิ้น ก้าวเท้าเดินไปตรงหน้าเจียงเซิง มองดูสีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความแค้นเคือง "คุณเจียง ให้ผมพูดมากขนาดนี้ เพราะอยากยื้อเวลาให้คนมาช่วยคุณเหรอ?"เจียงเซิงไม่ได้พูดอะไรเขาหัวเราะในลำคอ "น่าเสียดายที่ไม่มีคนมาช่วยคุณหรอก ตอนที่คุณหมดสติ ของที่อยู่บนตัวคุณถูกคนเอาไปแล้ว ไม่มีเครื่องติดตามจีพีเอส ใครจะหาสถานที่นี้เจอ?"มือที่ถูกมัดอยู่ด้านหลังของเจียงเซิงแอบคลายออก เธอรู้ว่าจากความระมัดระวังของหลานอู๋เหยียน เขาจะต้องให้พวกเขาเก็บสิ่งของติดตัวของเธอไปมีเพียงแหวนเท่านั้นที่ไม่พบว่ามีความผิดปกติเขาโน้มตัวไปข้างหน้าและสายตาเคร่งขรึมจ้องมองเธอ "เรื่องที่ซือเย่เจ๋วติดเชื้อไวรัสคงจะถูกเปิดเผยในไม่ช้าสินะ?"เมื่อเห็นดวงตาของเจียงเซิงสั่นคลอนอย่างเห็นได้ชัด เขายื่นมือออกไปจับคางของเธอ "ซือเย่เจ๋วมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล
ฝ่ามือใหญ่ของเขาบีบคอของเธอ "ทำไม คุณคิดว่ายังจะมีคนมาช่วยคุณเหรอ?"เจียงเซิงถูกบีบจนหน้าแดงก่ำ หายใจติดขัดขึ้นมา แต่เธอยังคงฝืนยิ้มออกมา "ห้องใต้ดินลึกลับขนาดนี้ ฉันคิดว่าไม่ได้มีแค่ตัวโม่จ้วงไวรัสหรอกนะ? น่าจะมีไวรัสชนิดอื่นอีกด้วยถ้าหากเกิดการรั่วไหลขึ้นมา คนที่อยู่ในนี้จะหนีออกไปได้ไหม?"หลานอู๋เหยียนยังไม่มีการตอบสนองใด ๆจู่ ๆ เจียงเซิงก็ยกเท้าเตะไปที่เป้าของเขา เขารู้สึกเจ็บปวด สีหน้าคลุมเครือ สายตาเฉียบคมเหมือนจะกินคนเธอรีบสะบัดเชือกที่มัดเธอออกอย่างรวดเร็ว และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เหล่านั้นที่อยู่ด้านหลังเขาพากันชักปืนออกมา แต่กลับไม่กล้ายิงออกไปหากสัมผัสโดนไวรัสตัวอื่น ต่อให้พวกเขาสวมชุดป้องกัน แต่ไม่ได้ใส่หน้ากากป้องกันพิษ เมื่อสูดก๊าซไวรัสตัวอื่นเข้าไป นั่นก็จบเห่แน่นอน!เจียงเซิงวิ่งไปที่ด้านหลังสิ่งทดลองอย่างรวดเร็ว ด้านในกล่องสีเงินมีหลอดที่เป็นสีฟ้าทั้งหมดวางอยู่ข้างใน"เจียงเซิง รนหาที่ตาย!" หลานอู๋เหยียนชักปืนออกมา เจียงเซิงหลบเลี่ยงอย่างรวดเร็ว"เสียงดังกราว!"ตู้ที่ใส่ฟอร์มาลีนอยู่ด้านหลังถูกยิงจนเกิดรอยร้าว"คุณชายหลาน ห้ามยิงเด็ดขาดนะ!" เจ้าหน้าที่ทา
เจียงเซิงมองดูเขา และพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง "ฉันกำลังคิดอยู่ว่า ทำไมตระกูลหลานของพวกคุณถึงพยายามอย่างหนักเพื่อจะได้รับความสำคัญจากเรเจลและตระกูลสูงศักดิ์เหล่านั้นเพราะว่าเนื้อแท้ของพวกคุณนั้นต่ำต้อย พวกคุณใช้ทรัพย์สินของคนอื่นก่อร่างสร้างตัว สายเลือดบรรพบุรุษของพวกคุณไม่ใช่สกุลหลานด้วยซ้ำ และก็ไม่ใช่ลูกหลานของพ่อค้าเศรษฐี แต่เป็นครอบครัวคนธรรมดาที่แอบลักลอบเข้ามาก็เท่านั้นตระกูลกุงเป็นตระกูลสูงศักดิ์ที่แท้จริง แต่ตระกูลหลานของพวกคุณไม่ใช่ พวกคุณอยากได้รับความสำคัญ ดังนั้นเพียงแค่ค้นคว้าวิจัยยาที่ระงับมะเร็วและอาการเจ็บปวดให้พวกเขาได้ นั่นถึงจะเป็นความหมายที่แท้จริงในการมีตัวตนอยู่ของพวกคุณสินะ?"หลานอู๋เหยียนพูดไม่ออก และกระอักเลือดออกมาอีกมากมายเธอยิ้มเยาะ "หลานอู๋เหยียน นี่คือโทษที่คุณสมควรได้รับ คุณบอกว่าชีวิตคนเราก็คือการเดิมพัน ถูกต้องแล้ว ฉันตั้งใจให้สิบเจ็ดคุ้มกันฉัน ฉันหนีไป อันที่จริงฉันก็กำลังเดิมพันอยู่ ว่าพวกคุณจะจับตัวเพียงแค่ฉัน"เธอค่อย ๆ ถอดแหวนออก แสงไฟสีแดงที่สว่างอยู่ภายในแหวนคือเครื่องติดตามขนาดเล็กมาก"และการเดิมพันครั้งนี้ ฉันชนะแล้วรถตำรวจหลายคันปิดล้อมท
ตอนที่หลานอู๋เหยียนถูกพาออกมา เป็นเพราะได้รับเชื้อจากก๊าซพิษ ปอดกับหัวใจเกิดการสูญเสีย บวกกับบาดแผลที่ขาเสียเลือดมากเกินไป จะช่วยเหลือก็สายเกินไปแล้วเจียงเซิงเคลื่อนไหวดวงตา ไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วมองดูเธอ "ทางด้านตำรวจผมอธิบายแทนคุณแล้ว คุณป้องกันตัวเองถึงได้ยิงปืน และคุณก็ไม่ได้คิดจะฆ่าเขา ดังนั้นจึงยิงแค่ที่ขา"เธอยิ้ม “ถ้าหากฉันต้องการฆ่าเขาจริง ๆ ล่ะ”เขาหรี่ตาลงไม่พูดจาเจียงเซิงหันหน้ามองไปทางนอกหน้าต่าง "อุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อนเขาเป็นคนวางแผน คนที่ลงมือคือซูหลิงโหรว ถึงแม้ตอนนั้นฉันคิดอยากจะยิงหัวเขาให้กระจุยจริง ๆ แต่เมื่อได้เห็นกรรมที่เขาได้รับ ฉันก็ไม่ได้เสียดายขนาดนั้นแล้ว""เซิงเซิง"ซือเย่เจ๋วโน้มตัวมองเธอ จับใบหน้าของเธอให้หันมาจ้องตากับตัวเอง "รับปากผม ต่อไปไม่ว่าทำอะไร ก็ห้ามเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงอีก"เจียงเซิงหยุดนิ่ง จากนั้นก็ยิ้มขึ้นมา “แล้วคุณล่ะ?”เขาไม่ได้พูดอะไรเธอถาม "ซือเย่เจ๋ว สามปีก่อนคุณกันกระสุนแทนฉัน คุณไม่เคยคิดเลยว่า ถ้าหากคุณเป็นอะไรขึ้นมาจริง ๆ ฉันจะทำอย่างไร?"ซือเย่เจ๋วลดหน้าผากแตะหน้าผากของเธอและพูดเสียงเบา "งั้นต่อไปพวกเราสองคนห้
ซือเย่เจ๋วหยุดฝีเท้าลง แต่ไม่ได้หันกลับไป "ฉันไม่กลัวตาย ฉันแค่กลัวจะตายต่อหน้าเธอ"เขาหันหน้ามา "พรุ่งนี้ให้เหยียนเหยียนมาอยู่เป็นเพื่อนเธอเถอะ"**วันต่อมา เจียงเซิงนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสือพิมพ์เป็นอย่างที่คิด หลานอู๋เหยียนตายไป หลังจากที่ความจริงของไวรัสถูกเปิดเผย คนเหล่านั้นผลักเรื่องทุกอย่างไปที่ตระกูลหลานแม้แต่เรื่องที่พวกเขากับตระกูลหลานทำก็ไม่ได้เอ่ยถึง พวกกเขาใช้ประโยชน์ตระกูลหลานศึกษาเทคนิคนี้ จนถึงตอนสุดท้ายตระกูลหลานล้มแล้ว หลานอู๋เหยียนตายแล้ว เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับผลกระทบไปด้วย"หม่ามี้!"เมื่อได้ยินเสียงใครบางคน เจียงเซิงมองไปทางนอกประตูอย่างประหลาดใจดวงตาของเธอแดงก่ำในทันที "เหยียนเหยียน?"เจียงเหยียนเหยียนเดินมาข้างเตียงอย่างรวดเร็ว เจียงเซิงกอดเขาเอาไว้ทันที "เหยียนเหยียน ใช้ลูกจริง ๆ เหรอ หม่ามี้คิดถึงพวกลูกมาก!"ตอนนี้ลูก ๆ อายุแปดขวบแล้ว ตอนนั้นยังเล็กกระจิดริดอยู่เลย เพิ่งไม่เจอกันสามปี เธอรู้สึกเหมือนนานมาก นานมาก ๆเจียงเหยียนเหยียนก็กอดเธอเอาไว้ "หม่ามี้ พวกเราก็คิดถึงหม่ามี้มาก พวกเราต่างรอหม่ามี้กลับไปอยู่นะครับ""หม่ามี้ เลิ
และสองวันมานี้ นอกจากสิบเจ็ดกับเหยียนเหยียนที่อยู่เป็นเพื่อนเธอในโรงพยาบาล ไม่เห็นเงาซือเย่เจ๋วด้วยซ้ำภายในรถ เจียงเซิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ต้นแปะก๊วยที่อยู่สองข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองเหลืองใบไม้สีทองที่ตกลงบนพื้นเหมือนปูพรมสีทองอร่าม ช่วยเพิ่มสีสันให้กับอาคารที่แปลกตาโดยรอบใบไม้ร่วงหล่นปลิวไปตามรถที่แล่นผ่านไปมาเจียงเซิงพาเจียงเหยียนเหยียนมายังคฤหาสน์สโตน เมื่อเดินเข้าไปในคฤหาสน์ ก็เห็นเซียวรอเธออยู่ในห้องรับแขก"คุณพ่อ" เจียงเซิงจับมือของเจียงเหยียนเหยียนเดินไปหาเขาเซียวมองดูเจียงเหยียนเหยียน "เด็กคนนี้คือ?""เขาคือลูกชายของหนูค่ะ" เจียงเซิงวางมือบนบ่าของเจียงเหยียนเหยียน "เจียงเหยียนเหยียน"เซียววางแก้วชาลงและยิ้มบาง "ที่แท้เธอก็มีลูกชายหนึ่งคน โตขนาดนี้แล้วเหรอ"เจียงเหยียนเหยียนตอบกลับแล้วพูดขึ้น "ไม่ใช่หนึ่งคนครับ แต่เป็นสามคน ผมยังมีน้องชายและน้องสามอีก"เมื่อเห็นสีหน้าของเซียวเผยความประหลาดใจออกมา เจียงเซิงยิ้มบางและไม่พูดจาเธอให้สิบเจ็ดพาเจียงเหยียนเหยียนไปเดินเล่น จากนั้นพูดคุยอยู่ภายในห้องกับเซียว เซียวฟังเล่ห์กลและแผนการระหว
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ