เจียงเซิงตกตะลึง เธอมองผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าตั้งแต่ด้านล่างไปจนถึงด้านบน ผู้ชายหน้าตาสไตล์ตะวันตก ดวงตาสีฟ้าน้ำแข็งเผยความเฉียบคม เขาดูอายุเท่า ๆ กับเรเวียร์ ออร่าไม่ธรรมดาเช่นเดียวกันเขาสวมชุดสูทลายทางสีเทาเข้ม ผูกเน็กไทสีน้ำเงินนกยูง เข็มกลัดทองบนเน็กไทเป็นสัญลักษณ์ลายงูชายคนนั้นคุกเข่าลงประคองเธอให้ลุกขึ้นจากพื้น จากนั้นมองใบหน้าของเธอครู่หนึ่งแล้วยิ้มบาง "คุณเป็นลูกสาวของเธอจริง ๆ ด้วย เหมือนกันทุกประการ"“คุณเป็นใคร?” เจียงเซิงตกตะลึง“เรเวียร์ไม่ได้บอกคุณเหรอ?” ชายคนนั้นประคองเธอนั่งบนเตียง จ้องมองเธออยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างเรียบเฉย “ดูท่าเขายังไม่ได้บอกคุณ”เขาดึงเก้าอี้ขึ้นแล้วนั่งลงข้างเตียง สองมือประสานกันแล้ววางลงบนขาที่ไขว้ทับกัน "สถานะของผมในตอนนี้ คือเฮนรี่ เรเวียร์เป็นคนขององค์กรต้าตูของผม และก็เป็นกำลังคนที่ผมไว้ใจที่สุด ผมให้เขาติดตามแม่ของคุณ อยู่ข้างกายแม่ของคุณและปกป้องเธอ"ขณะที่เขาพูด สายตาของเขาจ้องมองไปที่แหวนลายงูที่เอาไว้ใช้ป้องกันตัวและชี้ไปที่มัน "ของสิ่งนี้ เรเวียร์เป็นคนให้คุณไว้สินะ? ดูท่าเขาสอนวิชาป้องกันตัวให้คุณแล้ว"เจียงเซิงจับแหวนลายงูท
เขาหยิบสัญญาการหย่าร้างที่ลงนามโดยเจียงเซิง มือแทบจะลูบมุมกระดาษสัญญาจนขาดเซิงเซิงของเขาจากไปแล้วจริง ๆหาเธอไม่พบอีกแล้ว...และในตอนนี้ บนหนังสือพิมพ์เต็มไปด้วยข่าวที่เมื่อสัปดาก่อนซือเย่เจ๋วคุกเข่าอยู่หน้ารถในอุบัติเหตุและร้องไห้อย่างขมขื่น สื่อคาดเดาว่าภรรยาของท่านเจ๋วเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้เกิดความสะเทือนเลือนลั่นเด็กสามคนนั้นที่ถูกปิดบังแทบจะพุ่งกลับมาที่คฤหาสน์ตระกูลซือ เมื่อมาถึงที่ห้อง เจียงเหยียนเหยียนมายังตรงหน้าซือเย่เจ๋ว และตะโกนพูดขึ้น "หม่ามี้ล่ะ?"ซือเย่เจ๋วก้มหน้าอยู่ตลอด และก็ไม่ตอบรับ จนกระทั่งเจียงเหยียนเหยียนเห็นสัญญาหย่าร้างที่ตกอยู่บนพื้นท่านผู้เฒ่าและพ่อบ้านเฉินเดินมาถึงหน้าประตู เมื่อเห็นเด็กสามคนนี้ เขาไม่รู้จะควรจะพูดอะไรปลอบใจเจียงเหยียนเหยียนปาสัญญาหย่าร้างไปที่ตัวซือเย่เจ๋ว "เอาหม่ามี้ของพวกเราคืนมา!"เจียงนวนนวนกับเจียงเฉินเฉินก็ตกใจกลัวเพราะพี่ชายแต่เมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ ว่าหม่ามี้ไม่อยู่แล้ว"เหยียนเหยียน นี่ไม่ใช่ความผิดของแด๊ดดี้พวกนาย" ท่านผู้เฒ่าทำใจเห็นหลานชายของตัวเองถูกตำหนิไม่ได้ น้ำเสีย
พวกเธอถือว่าเจียงเซิงฟังไม่รู้เรื่อง จึงสามารถวางใจ ไม่เกรงใจได้ แต่ในตอนที่สาวใช้สองสามคนกำลังพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของพวกเธอช้า ๆ "ถือโอกาสตอนที่คุณผู้ชายยังไม่โมโห ทางที่ดีพวกเธอหุบปากซะ"สาวใช้สองสามคนนั้นตัวสั่น คำพูดก็หยุดชะงักทันที จากนั้นหันกลับไปก็เห็นแม่บ้านมาจิม ต่างพากันก้มหน้าอย่างเคารพยำเกรง ถึงขั้นที่ไม่กล้าพูดอะไรอีกและรีบถอยออกไปแม่บ้านดันกรอบแว่นตา เดินไปด้านหลังเจียงเซิง "คุณหนู คุณอยู่ตรงนี้เอง คุณผู้ชายเรียกหาคุณค่ะ"เจียงเซิงหันมามองเธอ มาจิมคือแม่บ้านของพระราชวังฮัน อายุก็ประมาณสามสิบสี่สิบปี แต่งตัวก็เรียบร้อยและประณีตเห็นมาจิมยังคงรออยู่ เจียงเซิงถึงได้ลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าเธอ ดวงตาคู่สวยยังคงหม่นหมอง "พาฉันไปเถอะ"มาจิมพาเธอไปที่ห้องหนังสือ ด้านนอกห้องหนังสือมีบอดี้การ์ดสองคนเฝ้าอยู่เมื่อเปิดประตูเข้าไป ห้องหนังสือสีขาวขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยสไตล์ย้อนยุคและความสง่างามอายุนับร้อยปี ตู้ลอยติดผนังมีหนังสือทุกประเทศวางเต็มไปหมด และยังมีหนังสือทางการแพทย์คลาสสิกหลายเล่มเซียวนั่งอยู่หลังโต๊ะใต้โคมระย้า โต๊ะของเขาเรียบร้อยมาก คอมพิ
เซียวยิ้มบาง “ด้วยความสามารถของหนูในตอนนี้ หนูจะทำอะไรได้ล่ะ?”เจียงเซิงเม้มริมฝีปากของเธอแน่นเขามองดูเธอและเอ่ยปากขึ้นช้า ๆ "เรเวียร์ทำไมไม่บอกหนูเรื่องพวกนั้น เพราะเขารู้ว่าหนูตัวคนเดียวไม่สามารถจัดการคนเหล่านั้นได้ อุบัติเหตุที่ประเทศ S เป็นเพียงแค่ก้าวแรก""คุณรู้?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยเซียวประสานมือวางบนโต๊ะและหรี่ตาลง “ไม่มีอะไรที่ฉันไม่รู้ รวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างหนูกับตระกูลซือ”เจียงเซิงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอรู้ว่าบางทีอาจเป็นคุณลุงเรเวียร์บอกกับเขาก็ได้ คุณลุงเรเวียร์เคยพูดไว้ เขาไม่บอกเรื่องมากมายกับเธอเป็นเพราะหวังดีกับเธอ เพราะเขาไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเธอรับมือได้หรือไม่เรื่องที่เกิดขึ้นที่ประเทศ S เมื่อไม่กี่ปีก่อนทำให้เธอเข้าใจแล้ว คนเหล่านั้นทำได้ทุกวิถีทาง และก็ไม่ให้ความสำคัญกับชีวิตคนอุบัติเหตุในครั้งนั้นของเธอ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ๆอารมณ์คงที่ได้ครู่หนึ่ง เจียงเซิงวางแก้วกาแฟลง "คุณเคยค้นคว้าวิจัยตัวแก้พิษสินะคะ เรื่องที่เกี่ยวกับไวรัสคุณบอกฉันหน่อยได้ไหมคะ ทำไมคุณลุงเรเวียร์บอกว่าไวรัสเป็นฝีมือมนุษย์?"เซียวก็ไม
**สามปีต่อมาเมืองหลวงประเทศ Z ค่ำคืนอันมืดมิดลู่ลี่เซินเดินเข้าไปในร้านเหล้า จากนั้นกวาดสายตามองกลุ่มคน สุดท้ายสายตาจ้องมองไปที่ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์เขาจำเซียวเถียนเถียนได้ทันทีเขาเดินไปหาเซียวเถียนเถียน หยิบแก้วไวน์จากในมือของเธอ เซียวเถียนเถียนดูเหมือนจะเมาแล้ว เธอหันหน้ามองเขา ในดวงตาเกิดเป็นเงาทับซ้อนกัน "ทำไมถึงเป็นคุณได้? คุณจะดื่มเหล้าก็ดื่มเหล้า แย่งแก้วเหล้าฉันทำไม?"เซียวเถียนเถียนโซเซยื่นมือออกไปจะหยิบแก้วเหล้า ลู่ลี่เซินจับข้อมือของเธอไว้ "เจียงเซิงไม่อยู่ สามปีมานี้คุณใช้ชีวิตได้สง่าผ่าเผยมากเลยนะ สำมะเลเทเมาทุกวัน?"เมื่อพูดถึงเจียงเซิง เซียวเถียนเถียนหลบสายตาทันที "มาหาฉันมีเรื่องอะไร?"ลู่ลี่เซินวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะแล้วมองดูเธอ "สามปีมานี้ คุณได้ติดต่อเจียงเซิงบ้างไหม?"สามปีก่อน หลังจากที่เจียงเซิงเกิดอุบัติเหตุก็หายตัวไป ตระกูลลู่กับตระกูลกุงตามหาจนแทบบ้าแล้ว แต่เจียงเซิงเหมือนกับหายสาบสูญไปจากโลกนี้แล้วและเซียวเถียนเถียนเป็นเพื่อนสนิทของเจียงเซิง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่ได้ติดต่อกันเซียวเถียนเถียนหัวเราะเบา ๆ "ท่านเจ๋วใช้ให้พวก
ก็แค่เบี่ยงเบนความสนใจของคนเหล่านั้น ทำให้คนเหล่านั้นคิดว่าเขามีชีวิตอยู่ได้แค่ไม่กี่วันแล้วจริง ๆตระกูลลู่กับตระกูลกุง ต่างก็กำลังตามหาคุณเจียง มีเพียงท่านเจ๋วที่รู้เบาะแสของคุณเจียงแต่กลับไม่ไปหา ไม่ใช่ว่าไม่อยากไป แต่เป็นเพราะไม่กล้าไปมากกว่าดวงตาซือเย่เจ๋วเย็นชา แต่กลับไม่ได้ให้คำตอบออกมาเช้าตรู่เซียวเถียนเถียนรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง ราวกับว่าในหัวของเธอกำลังจะระเบิดออก แสงจ้าแสบตาทำให้เธอเอามือบังเอาไว้ เมื่อลืมตาขึ้น นึกอะไรขึ้นได้ก็ลุกขึ้นทันทีเธอเอามือลูบผมที่ยุ่งเหยิง นึกเรื่องเมื่อคืนไม่ออกด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น"ตื่นแล้วเหรอ?"เสียงที่ดังขึ้นกะทันหันทำให้เซียวเถียนเถียนท่าทางหยุดชะงักในทันที จากนั้นหันหน้าไปอย่างตกใจเห็นเพียงแค่ลู่ลี่เซินนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาที่อยู่ด้านข้าง สีหน้าของเขาอึมครึม และมองดูนาฬิกาข้อมือด้วยความหงุดหงิด "คุณนอนเก่งมากนะ"“ลู่ลี่เซิน ทำไมคุณถึงมาอยู่ในบ้านของฉัน!” เซียวเถียนเถียนอุทานด้วยความตกใจ และรีบเปิดผ้าห่มมองดูเสื้อผ้าของตัวเองที่ถูกเปลี่ยน สีหน้าของเธอตื่นตระหนก "คุณ.....คุณคุณคุณเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันเหรอ?"ลู่ลี่เซินไม่ปฏิเ
เธอพูดกับชายวัยกลางคนเห็นได้ชัดว่าเขาถูกไล่ออกแล้ว แต่เขาก็ไม่มีคำพูดโอดครวญ สามารถมีชีวิตจาไปได้เขาก็พอใจมากแล้วเจียงเซิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วตอบข้อความของเซียวเถียนเถียน สามปีมานี้เธอแอบติดต่อกับเถียนเถียนอยู่จริง ๆ นั่นแหละ แต่เธอไม่ได้บอกที่อยู่ของเธอกับเถียนเถียน เถียนเถียนรู้แค่ว่าเธออยู่ที่ต่างประเทศจากการติดต่อส่วนตัวกับเถียนเถียน เธอรู้ว่าตระกูลลู่กับคุณตาของเธอต่างกำลังตามหาเธอ ส่วนเด็ก ๆ ก็อยู่ที่ตระกูลซือใช้ชีวิตอย่างดี เหยียนเหยียนสืบทอดซือเย่เจ๋วกลายเป็นคนที่ตระกูลซือบ่มเพาะเลี้ยงดู ติดตามอยู่ข้างกายท่านผู้เฒ่าแต่ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เธอไม่กล้าที่จะถามเรื่องของซือเย่เจ๋วกับเถียนเถียนทำไมเหยียนเหยียนที่อายุน้อยเพียงเท่านี้ก็แทนที่ซือเย่เจ๋ว ทำไมจู่ ๆ ตระกูลซือถึงได้บ่มเพาะเด็ก ๆ สามคนนั้น......เจียงเซิงหยิบรูปถ่ายขึ้นมา เธออยู่ในประเทศ M มาสามปีแล้วและไม่เคยเปิดเผยหน้าตา สื่อประเทศ M ไม่รู้จักรูปร่างหน้าตาของเธอ พวกเขารู้แค่ว่าคุณเฮนรี่มีลูกสาวเพิ่มมาหนึ่งคนก็คือ "อลิซ"แต่ตอนนี้กลับมีคนใช้คนงานในพระราชวังฮันแอบถ่ายเธอ หรือว่ามีคนรู้ว่าเธออยู่ที่นี่จะเป็นเ
เธอตอบกลับ "ฉันไม่กล้ายืนยัน เพราะก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น ฉันเห็นซูหลิงโหรว แต่ฉันไม่กล้ามั่นใจว่าใช่เธอหรือไม่"ซูหลิงโหรวชื่อนี้ก็หายสาบสูญไปสามปีแล้ว สามปีมานี้ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยสั่งคนแอบไปสืบสวน แม้แต่ไปสืบที่ประเทศ S ก็ไม่มีข่าวคราวใด ๆเรเวียร์วางแก้วลง และนำรูปภาพใบหนึ่งที่อยู่ในกระเป๋าออกมาวางลงบนโต๊ะ "หนึ่งปีก่อนผมได้รับรูปภาพใบนี้ คิดว่าคงอยากจะให้ผมตรวจสอบ"เจียงเซิงเห็นรูปภาพ ในสถานที่เกิดเหตุมีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวในกลุ่มคน เธอสวมหน้ากากและหมวก รูปร่างเหมือนกับซูหลิงโหรวอย่างมาก!เธอเงยหน้าอย่างตกตะลึง "คุณลุงเรเวียร์ รูปภาพสถานที่เกิดเหตุใบนี้ใครเป็นคนส่งให้คุณคะ?"เรเวียร์เค้นเสียงออกมาจากในลำคอ "เขา"เจียงเซิงไม่ได้ถาม เพียงแค่ในดวงตาหม่นมัวลงเล็กน้อย เธอไม่กล้ายืนยันว่าเป็นเขา และเขายังคงตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อนสุดท้ายเรเวียร์ก็ถามเธอประโยคหนึ่ง "เซิงเซิง คุณเกลียดเขาไหม?"เกลียดเหรอ?"อันที่จริงเจียงเซิงไม่รู้ว่าตัวเองเกลียดหรือไม่เกลียด เพราะว่าเขาไม่เคยทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเกลียดชังมาก่อน เธอเพียงแค่รู้สึกขุ่นเคือง ขุ่นเคืองที่เขาผิดคำพูด เ
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ