เธอพูดกับชายวัยกลางคนเห็นได้ชัดว่าเขาถูกไล่ออกแล้ว แต่เขาก็ไม่มีคำพูดโอดครวญ สามารถมีชีวิตจาไปได้เขาก็พอใจมากแล้วเจียงเซิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วตอบข้อความของเซียวเถียนเถียน สามปีมานี้เธอแอบติดต่อกับเถียนเถียนอยู่จริง ๆ นั่นแหละ แต่เธอไม่ได้บอกที่อยู่ของเธอกับเถียนเถียน เถียนเถียนรู้แค่ว่าเธออยู่ที่ต่างประเทศจากการติดต่อส่วนตัวกับเถียนเถียน เธอรู้ว่าตระกูลลู่กับคุณตาของเธอต่างกำลังตามหาเธอ ส่วนเด็ก ๆ ก็อยู่ที่ตระกูลซือใช้ชีวิตอย่างดี เหยียนเหยียนสืบทอดซือเย่เจ๋วกลายเป็นคนที่ตระกูลซือบ่มเพาะเลี้ยงดู ติดตามอยู่ข้างกายท่านผู้เฒ่าแต่ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เธอไม่กล้าที่จะถามเรื่องของซือเย่เจ๋วกับเถียนเถียนทำไมเหยียนเหยียนที่อายุน้อยเพียงเท่านี้ก็แทนที่ซือเย่เจ๋ว ทำไมจู่ ๆ ตระกูลซือถึงได้บ่มเพาะเด็ก ๆ สามคนนั้น......เจียงเซิงหยิบรูปถ่ายขึ้นมา เธออยู่ในประเทศ M มาสามปีแล้วและไม่เคยเปิดเผยหน้าตา สื่อประเทศ M ไม่รู้จักรูปร่างหน้าตาของเธอ พวกเขารู้แค่ว่าคุณเฮนรี่มีลูกสาวเพิ่มมาหนึ่งคนก็คือ "อลิซ"แต่ตอนนี้กลับมีคนใช้คนงานในพระราชวังฮันแอบถ่ายเธอ หรือว่ามีคนรู้ว่าเธออยู่ที่นี่จะเป็นเ
เธอตอบกลับ "ฉันไม่กล้ายืนยัน เพราะก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น ฉันเห็นซูหลิงโหรว แต่ฉันไม่กล้ามั่นใจว่าใช่เธอหรือไม่"ซูหลิงโหรวชื่อนี้ก็หายสาบสูญไปสามปีแล้ว สามปีมานี้ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยสั่งคนแอบไปสืบสวน แม้แต่ไปสืบที่ประเทศ S ก็ไม่มีข่าวคราวใด ๆเรเวียร์วางแก้วลง และนำรูปภาพใบหนึ่งที่อยู่ในกระเป๋าออกมาวางลงบนโต๊ะ "หนึ่งปีก่อนผมได้รับรูปภาพใบนี้ คิดว่าคงอยากจะให้ผมตรวจสอบ"เจียงเซิงเห็นรูปภาพ ในสถานที่เกิดเหตุมีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวในกลุ่มคน เธอสวมหน้ากากและหมวก รูปร่างเหมือนกับซูหลิงโหรวอย่างมาก!เธอเงยหน้าอย่างตกตะลึง "คุณลุงเรเวียร์ รูปภาพสถานที่เกิดเหตุใบนี้ใครเป็นคนส่งให้คุณคะ?"เรเวียร์เค้นเสียงออกมาจากในลำคอ "เขา"เจียงเซิงไม่ได้ถาม เพียงแค่ในดวงตาหม่นมัวลงเล็กน้อย เธอไม่กล้ายืนยันว่าเป็นเขา และเขายังคงตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อนสุดท้ายเรเวียร์ก็ถามเธอประโยคหนึ่ง "เซิงเซิง คุณเกลียดเขาไหม?"เกลียดเหรอ?"อันที่จริงเจียงเซิงไม่รู้ว่าตัวเองเกลียดหรือไม่เกลียด เพราะว่าเขาไม่เคยทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเกลียดชังมาก่อน เธอเพียงแค่รู้สึกขุ่นเคือง ขุ่นเคืองที่เขาผิดคำพูด เ
"เรื่องนี้คุณต้องไปถามเอง บางทีอาจจะถามอะไรออกมาได้" เรเวียร์เลิกคิ้วหยอกล้อ "แต่ว่าด้วยสถานะของคุณในตอนนี้ยังจะใส่ใจคนในอดีตอีกเหรอ ตอนนี้เขาเป็นผู้ป่วยขี้โรคที่จะตายแหล่ไม่ตายแหล่ มีเวลาอยู่ได้อีกไม่กี่ปีแล้ว""อีกอย่าง เป็นเขาที่เสนอหย่า คุณยังจะกลับไปอีกเหรอ?"คำพูดประโยคนี้ ทำให้เจียงเซิงชะงักอยู่กับที่ ความคิดที่เลือกยากเริ่มดำดิ่มสู่ความมืดมิด**เซียวเถียนเถียนยังคงทำงานในร้านกาแฟเดิม เนื่องจากตอนเช้าตรูยังไม่มีลูกค้า เมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้าประตู เธอเงยหน้าขึ้น "ยินดีต้อนรับค่ะ ไม่ทราบว่ารับอะไรคะ?""ลาเต้แก้วหนึ่ง"เซียวเถียนเถียนมือสั่น ได้ยินเสียงนี้ถึงได้เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นลู่ลี่เซินอีกแล้ว เธอจึงยิ้มออกมา "ทำไมถึงเป็นคุณอีกแล้ว?""ผมไม่คู่ควรที่จะสั่งกาแฟเหรอ?" ลู่ลี่เซินขมวดคิ้วเซียวเถียนเถียนสั่งเรียบร้อยแล้ว "คู่คูวร จะไม่คู่ควรได้อย่างไร"เธอหันกลับไปทำ รอให้ทำเสร็จก็เอาวางไว้บนโต๊ะ "ลาเต้ของคุณค่ะ"เขาพูดขึ้นช้า ๆ “ใส่ถุง”เซียวเถียนเถียนหยิบกล่องแก้วมา ส่วนลู่ลี่เซินสองมือวางบนโต๊ะจ้องมองเธอ "ไม่ได้ติดต่อกันจริง ๆ เหรอ?"เห็นเขาถามอีก เซียวเถ
แต่เมื่อเธอกำลังจะตอบอะไรกลับ จู่ ๆ โทรศัพท์ถูกดึงไป เซียวเถียนเถียนตกใจจนหน้าซีด "ลู่ลี่เซิน คุณเอาโทรศัพท์ของฉันคืนมานะ!"เธอแทบจะวิ่งตาม อยากจะแย่งชิงโทรศัพท์กลับมา ลู่ลี่เซินเห็นอะไรบางอย่าง เมื่อเหลือบเห็นร่างที่เข้ามาใกล้ จู่ ๆ เขาชูมือขึ้นสูงด้วยความสูง 190 เซนติเมตร เซียวเถียนเถียนไม่สามารถเอื้อมถึงมือของเขาด้วยซ้ำ"กระโดดขึ้นมาหยิบสิ" ลู่ลี่เซินยังตั้งใจยั่วเธอ "คนแคระ"เซียวเถียนเถียนเหมือนกับแมวที่ขนลุกซู่ แยกเขี้ยวยิงฟันทันใดนั้นเธอก็ยกเท้าเตะหัวเข่าของเขา ลู่ลี่เซินแทบไม่ได้ระวัง เขาย่อตัวลง เงยหน้าขึ้น ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน "เซียวเถียนเถียน!"เซียวเถียนเถียนเอาโทรศัพท์กลับมาแล้วถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นยิ้มอย่างพึงพอใจ "อยากซ่าดีนัก""หึหึ" ลู่ลี่เซินลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มออกมา "ดีมาก เซียวเถียนเถียน คุณจำฝ่าเท้านี้ไว้ ผมจะต้องมาหาผมแน่นอน"เขาหน้าตาบึ้งตึงหันหลังเดินออกไปหลังจากที่เขาจากไปแล้ว เซียวเถียนเถียนก็ตอบกลับข้อความของเจียงเซิงทันทีแต่ทว่า จู่ ๆ เธอได้รับข้อความหนึ่ง ทำให้เซียวเถียนเถียนสูดหายใจเข้าอย่างแรงตอนเที่ยง รถแท็กซี่คันหนึ่งจอดที่หน้าประตูใหญ่
เซียวเถียนเถียนหันหลังจะเดินออกไป หลัวเชว่ก็เอ่ยปากพูด "ท่านเจ๋ว มีความลำบากใจของเขา"เธอฝ่าเท้าหยุดชะงัก ตอนที่หันหน้ากลับไป หลัวเชว่เดินเข้าไปข้างในแล้วในห้องหนังสือ สายตาของซือเย่เจ๋วมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่รู้ว่าเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ความเย็นเยือกที่ปกคลุมอยู่บนตัวของเขาเปลี่ยนไปเฉียบคมทิ่มแทงกระดูก แม้แต่ในตอนที่หลัวเชว่เข้าห้อง ก็ยังสามารถสัมผัสได้"ท่านเจ๋ว คุณเซียวกลับไปแล้วครับ" เขาเอ่ยปากพูด"อืม" ซือเย่เจ๋วใจจดใจจ่อ แต่เพียงแค่พยักหน้าเท่านั้นเห็นซือเย่เจ๋วไม่ได้ถามอะไร หลัวเชว่ขมวดคิ้วพูด "ท่านเจ๋ว คุณไม่คิดจะถามการมาถึงของเธอเหรอครับ?"ใบหน้าของซือเย่เจ๋วไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ แต่มือที่วางอยู่บนขากลับยังคงกำแน่นเหมือนเดิม และดวงตาของเขาเย็นเยือก "ไม่จำเป็นแล้ว"หลัวเชว่เหลือบมองดูเขา และก็ไม่พูดอะไรอีก พูดว่าไม่สำคัญ ก็แค่หลอกตัวเองก็เท่านั้นแหละคุณเจียงสำคัญกับท่านเจ๋วมากแค่ไหน เขาเป็นคนที่สนิทกับท่านเจ๋วมากที่สุด จะมองไม่ออกเหรอ?ไม่สำคัญ เขาก็ไม่มีทางที่ยังตรวจอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อน ไม่สำคัญ เขาก็คงไม่สืบข่าวของเธอไปทั่วโลก ไม่สำคัญ เขาก็คงไม่มีทางส่งค
เซียววางเอกสารลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองเธอ “คุณตาของหนูเกิดปัญหานิดหน่อย หนูจะกลับตระกูลกุงไปดูหน่อยไหม?”เจียงเซิงตกตะลึง “เขาเกิดปัญหา?”ตอนนี้คนที่ยังมีความสัมพันธ์เป็นครอบครัวของเธอ ก็มีแค่กุงเห้อคุณตาคนนี้แล้ว เขาเกิดเรื่องขึ้นได้อย่างไรนะ?เซียวพยักหน้า "คนของฝ่ายซ้ายของราชวงศ์ลงมือกับปู่ของหนู ตระกูลกุงตอนนี้วุ่นวายมาก พวกเขาก็ถือโอกาสในช่วงที่วุ่นวายยึดถิ่นฐานของตระกูลกุง เดาว่าเป็นเพราะการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ กังวลว่าคุณตาของหนูจะเข้าแทรก"ทุก ๆ หกปีประเทศ S จะเลือกผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ราชวงศ์ไม่แทรกแซงรัฐบาล เรเจลยื่นมือไปทางรัฐบาล คิดว่าเป็นเพราะต้องการพึ่งพารัฐบาลเพิ่มกำลังอำนาจของตัวเอง หรืออาจเป็นเพราะ เรเจลไม่ได้ต้องการแค่ราชสำนัก แต่เป็นทั้งประเทศ Sเห็นเจียงเซิงเคร่งขรึม เซียวพูดขึ้นช้า ๆ "ถ้าหากหนูไม่อยากไป ฉันก็ไม่ฝืนใจหนู""หนูอยากไปค่ะ" เจียงเซิงมองดูเขา สายตาแน่วแน่ "ต่อให้ฉันไม่ต้องการของของตระกูลกุง แต่จะให้คนอื่นมาครอบครองไปไม่ได้"เซียวยิ้มและพยักหน้า "ได้ งั้นฉันจะให้สิบเจ็ดติดตามหนูไป"พูดจบ เขาก็เรียกสิบเจ็ดมา เจียงเซิงเห็นคนที่เดิน
รถจอดอยู่ที่ด้านนอกลานคฤหาสน์สโตน คฤหาสน์สโตนใหญ่โตมาก ด้านนอกมีดอกไอริสปลูกเต็มไปหมด แค่มองดูก็รู้ว่าเป็นฝีมือของเซียวเจียงเซิงลงมาจากรถ คนที่อยู่ด้านข้างที่รอคอยอยู่พูดขึ้นว่า "คฤหาสน์สโตนเป็นสถานที่ที่คุณเฮนรี่ได้ซื้อไว้ในตอนที่มาจัดการธุระที่ประเทศ S ที่นี่ล้วนเป็นคนของคุณเฮนรี่ คุณมีเรื่องอะไรสั่งมาได้เต็มที่"เจียงเซิงพยักหน้า จากนั้นสาวใช้ก็พาเข้าไปในคฤหาสน์ สไตล์ภายในคฤหาสน์คล้ายคลึงกับพระราชวังฮัน เห็นได้ชัดว่าใช้เงินก้อนใหญ่ในการตกแต่งเธอเดินไปนั่งลงบนโซฟา แล้วมองคนคนนั้น "เรื่องของตระกูลกุง พวกคุณรู้ไหม?"“ตระกูลกุง?” คนคนนั้นหยุดชะงักและตอบกลับ “ว่ากันว่าหลายปีมานี้ตระกูลกุงต่อสู้กับตระกูลหลานมาโดยตลอด ข่มตระกูลหลานอย่างรุนแรง แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนกุงเห้อถูกโจมตีและยังไม่รู้สภาพความเป็นไป คนของเรเจลจึงถือโอกาสยึดถิ่นฐานของตระกูลกุง ลูกน้องเหล่านั้นของกุงเห้อตอนนี้วุ่นวายไปหมดแล้ว”เจียงเซิงหรี่ตาลง ไม่ได้พูดอะไรจู่ ๆ เธอก็นึกถึงคำพูดของเซียวในปีนั้นได้ แม่ของเธอติดเชื้อไวรัสเป็นเพราะภายใต้การถูกหลอกลวงคุณตาได้ฉีดวัคซีนให้คุณแม่และเซียวก็เคยพูดว่ามีคนศึกษาการทดลอง
ตระกูลเรเจลเสียงแก้วแตกดังขึ้นมาจากห้องหนังสือ ชายชราผมหงอก ร่างกายกำยำ ดวงตาสีเขียวครามเฉียบคมเหมือนกับนกอินทรี "พวกงี่เง่า เป็นฝีมือของใครกัน!""ท่านลอร์ด พวกเราก็ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนทำกันแน่ วิธีการของพวกเขา ไม่มีการไว้ชีวิต คล้ายคลึงกับคนคนนั้นขององค์กรต้าตู" ชายวัยกลางคนพยักหน้าตอบกลับคนคนนั้นขององค์กรต้าตูไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นสิบเจ็ดลูกน้องของเฮนรี่ สิบเจ็ดมีชื่อเสียงในเรื่องความโหดร้าย โหดเหี้ยมยิ่งกว่าวิธีการของซือหลิงอวิ๋น ซือหลิงหยุนวิธีการวิปริต แต่อย่างน้อยก็ยังไว้ชีวิตคนส่วนสิบเจ็ดคนคนนี้ไม่มีทางไว้ชีวิตคน คนที่ตกอยู่ในมือของเธอพูดได้ว่าไม่เหลือแม้แต่ซากศพสิบเจ็ดเป็นผู้หญิงอำมหิตที่มีชื่อเสียงในองค์กรต้าตู เฮนรี่ไม่อยู่ที่องค์กรต้าตู สิบเจ็ดก็เป็นหัวหน้าของคนในองค์กรต้าตูเหล่านั้น เธอเป็นตัวแทนของเฮนรี่ นี่ยืนยันได้ว่า เธอเข้ามาแทรกก็เป็นความต้องการของเฮนรี่มือที่กำแน่นของเรเจลมีเส้นเลือดปูดขึ้นมา "บ้าจริง ๆ ไอ้พวกสารเลวองค์กรต้าตูเข้าแทรกเรื่องของตระกูลกุง ไปตรวจสอบให้ชัดเจน!"ในตอนนี้ อีกด้นหนึ่งหลัวเชว่กับผู้ชายอีกคนหนึ่งเดินไปที่ห้องอย่างรีบร้อน ภายในห้อง
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ