หลานอู๋เหยียนผลักเธอลงบนเตียง ดึงเสื้อคลุมอาบน้ำบนตัวเธอออกอย่างไร้ความปราณี หันหน้าไปทางร่างกายของเธอ สายตาของเขากลับไม่มีความปรารถนาใดเลย "ตอนนั้นแม่ของซือเย่เจ๋วถูกลักพาตัว เธอยังปัดความผิดได้สะอาดเอี่ยมอ่อง แม้แต่ซืออู๋เทียนไอ้แก่นั่นก็ยังถูกเธอหลอก เธอคิดว่าวิธีนี้ใช้บนตัวฉันจะได้ผลเหรอ?"แทนที่จะรู้สึกละอายใจ ซูหลิงโหรวในตอนนี้กลับมีเพียงความหวาดกลัวเท่านั้น ถึงขั้นที่ไม่กล้าจ้องตาของเขาด้วยซ้ำความน่ากลัวของหลานอู๋เหยียนคือเขาไม่มีหัวใจ ไม่มีความเมตตา เขาเลวทรามยิ่งกว่าตระกูลซือ ถึงขั้นที่ เขาเป็นคนขี้ระแวงอย่างมาก เพียงแค่สบตากับเขา เขาจะรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่เป็นเพราะเธอหวาดกลัวมาก ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงเขาอยู่ตลอด แต่ถ้าถูกเขาจ้องมอง เขาจะเป็นเหมือนงูพิษที่จะพันรอบตัวคุณจนขาดอากาศหายใจเลือดทั่วร่างกายของเธอแข็งตัวตาม "คุณชายเหยียน ฉัน... ฉันไม่กล้าหลอกใช้คุณจริง ๆ ค่ะ"หลานอู๋เหยียนหยิบไวน์แดงบนโต๊ะแล้วเทลงบนตัวของเธอ ไวน์แดงเหมือนกับดอกไม้สีแดงที่บานสะพรั่งราวบนผิวขาวของเธอ ช่างงดงามตระการตา“ดูเหมือนว่าการโยนความผิดให้ตระกูลกุงเธอชำนาญดีนี่ ไม่เช่นนั้นเรื่องที่แม่ข
คุณนายหนานจิ่นหยุดชะงัก “ท่านนี้คือ?”หลุยส์ยิ้มแล้วตอบว่า "ท่านนี้คือคุณหลาน"คุณนายหนานจิ่นได้ยินก็จำได้ทันที “ที่แท้ก็คุณชายหลาน ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว”หลานอู๋เหยียนเดินไปที่ด้านข้างคุณนายหนานจิ่น ใช้วิธีตามมารยาทแบบตะวันตกจับมือของคุณนายหนานจิ่นแล้วจูบลงที่หลังมือ "เป็นเกียรติที่ได้พบคุณนายหนานจิ่นครับ "คุณนายหนานจิ่นก็ยิ้มและพยักหน้าหลังจากที่หลานอู๋เหยียนจับมือกับหลุยส์ ในที่สุดสายตาของเขาก็ตกลงไปที่เจียงเซิงมีรอยยิ้มขี้เล่นและมีสีสันบนคิ้วของเขา "คุณผู้หญิงท่านนี้คือ?"คุณนายหนานจิ่นพูดแนะนำ "นี่คือคุณโซรา ชื่อภาษาจีนของเธอ เจียงเซิง"เจียงเซิงเพียงพยักหน้าให้เขาอย่างสุภาพ"เหรอครับ?" หลานอู๋เหยียนมองดูเธอ ดวงตาสีดำคมกริบคู่หนึ่งที่เฉียบคมราวกับดวงตาของนกอินทรีเผยให้เห็นความคิดที่สนุกสนานไม่มีที่สิ้นสุด "ที่แท้คุณโซราก็นามสกุลเจียง"เจียงเซิงใบหน้าสับสนอย่างเห็นได้ชัด เธอนามสกุลเจียงแปลกมากเหรอ?หลานอู๋เหยียนนั่งข้างหลุยส์ ตรงข้ามเจียงเซิง เขาคุยกับหลุยส์พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน หลุยส์ก็ยิ้มและพูดกับพวกเธอ "ครั้งนี้คุณหลานเข้าร่วมงานแสดงเครื่องประดับเซี่ยน่า และก็
เห็นเจียงเซิง เสียงนั้นเอ่ยปากขึ้น "ฉันเอง"เจียงเซิงตกตะลึง เมื่อไฟในห้องนั่งเล่นเปิดขึ้น เธอก็หันกลับมาและเห็นซือเย่เจ๋ว“คุณมาได้อย่างไร” เจียงเซิงเห็นว่าเป็นเขา ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกซือเย่เจ๋วเดินตามเธอไป "มาดูเธอหน่อย"เขายื่นมือออกไปกอดเธอ วางคางบนไหล่ของเธอ กลิ่นจาง ๆ ของการอาบน้ำที่สดชื่นทำให้ความหงุดหงิดในใจของเขาหายไป “วันนี้ได้พบกับหลานอู๋เหยียนแล้วเหรอ?”เจียงเซิงไม่ได้ผลักเขาออกไป แต่หยุดชะงัก "หลานอู๋เหยียน?"ซือเย่เจ๋วไม่ตอบกลับเจียงเซิงหันกลับมามองเขา มองเข้าไปในดวงตาลึกของเขา " ซือเย่เจ๋ว คุณรู้จักคุณชายหลานไหม?"ริมฝีปากของเธอถูกปิดด้วยความอบอุ่น ซือเย่เจ๋วผลักเธอไปที่บนโซฟา จูบเธอสักพักหนึ่ง มุมปากรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมากะทันหันเจียงเซิงกัดเขาซือเย่เจ๋วที่ถูกกัดริมฝีปากหรี่ตาลงอย่างอันตราย "กัดฉันอีกแล้วเหรอ?"“ฉันถามคุณอยู่ ก็ก็อยากอยาก...” ก่อนที่เธอจะพูดจบ เขาก็โน้มตัวลงมาอีกครั้งและจูบริมฝีปากของเธอแรง ๆกลิ่นเลือดลอยเข้ามาในริมฝีปากและฟัน มือของเธอบนหน้าอกของเขาอ่อนแรง เธอหน้าแดงก่ำเพราะแทบจะขาดออกซิเจน ทำได้เพียงส่งเสียงร้องเบาๆ“เฮือก
“ เซิงเซิง อย่าเล่น.…” เขาเหมือนสิงโตที่กำลังจะตื่นขึ้นมาหลังจากหลับใหลมานับร้อยปี และลมหายใจของเขาก็น่าเปลี่ยนไปน่าสะพรึงกลัวแต่เจียงเซิงยังคงกระทำการโดยประมาท และเลือดในร่างกายของเขาก็เดือดพล่าน แต่เขามักจะระงับตัวเองไว้เสมอว่า "คุณได้เรียนรู้บทเรียนที่เลวร้ายแล้ว"“ทุกคนจะเปลี่ยนไป” เจียงเซิง เอามือโอบรอบคอและเม้มริมฝีปากสีแดงของเขาเล็กน้อย “ไม่อย่างนั้นคุณขอร้องฉันเหรอ?”ซือเย่เจ๋วไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจูบเธอด้วยความสับสน เสียงของเขาต่ำและแหบแห้ง "ได้ ขอร้องล่ะ"............วันต่อมาเจียงเซิงเพิ่งแต่งหน้าเสร็จ จู่ ๆ มีคนเคาะประตู หลัวหยิงไปเปิดประตูให้เธอ เธอเห็นพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งยืนอยู่ข้างนอก ในมือถือกล่องของขวัญสีม่วงอยู่เอาไว้ "นี่คือสิ่งที่เย่เจ๋วขอให้ฉันทำมาส่งที่ห้องนี้"หลัวหยิงรับกล่องของขวัญขึ้นมา ขอบคุณเธอ แล้วพนักงานเสิร์ฟก็จากไปเจียงเซิงเดินออกจากภายในห้องและเห็นกล่องของขวัญในมือของเธอ "นี่คืออะไร?"หลัวหยิงเดินไปหาเธอด้วยรอยยิ้ม "บอกว่าเป็นของขวัญของท่านเจ๋ว จะเปิดดูไหม?"จู่ ๆ เจียงเซิงกลับนึกขึ้นได้ว่าตอนที่ซือเย่เจ๋วกลับไปตอนเช้าบอกว่าจะส่งของขวัญหร
มือที่วางอยู่ข้างกายของเจียงเซิงกำแน่นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ในตอนที่หันกลับไปมองอีกครั้ง ร่างสีน้ำเงินเข้มก้าวเท้าเดินออกไปไกลแล้ว'ขอให้โชคดี 'คำพูดประโยคนี้ของเขาหมายความว่าอย่างไร?เจียงเซิงกำลังนั่งอยู่บนที่นั่งด้านหลังคุณนายหนานจิ่น เธอหันหน้าไปด้วยสัญชาตญาณ ทันใดนั้นก็เห็นผู้หญิงที่คุ้นเคยมากคนหนึ่ง แต่หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นสบตาเธอก็รีบหันหลังกลับไปและหายตัวไปในฝูงชนเธอตกใจ และเห็นชัดเจนว่า ผู้หญิงคนนั้นคือซูหลิงโหรว?เป็นไปได้อย่างไร?ซูหลิงโหรวอยู่ประเทศ S?เมื่อนึกอะไรขึ้นได้ เจียงเซิงก็ลุกขึ้นและเดินไปที่หลังเวทีหลานอู๋เหยียนเห็นเจียงเซิงเดินไปที่หลังเวที เขายิ้มมุมปากอย่างเย็นชาเจียงเซิงถือกระโปรงเดินออกไปยังทางเดินที่กว้างยาวและไม่มีคน ในพริบตาเดียวเธอก็หายตัวไปซูหลิงโหรวมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? เธออยากรู้มาก ๆ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง“คุณหญิงท่านนี้ คุณหาใครอยู่เหรอครับ?” จู่ๆ ชายชุดดำก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเธอเจียงเซิงหันกลับมามองเขา เมื่อเห็นชุดสูทสีดำที่เขาสวมอยู่ เขาคิดว่าเขาเป็นพนักงานในงาน จากนั้นยิ้มพูด "เปล่าค่ะ ฉันเพิ่งเห็นคนรู้จัก
เจียงเซิงหายใจเข้าลึก ๆสีหน้าในตอนนี้ขาวซีดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ "ซูหลิงโหรว เธอไม่กลัวว่าท่านผู้เฒ่ากับซือเย่เจ๋วรู้เรื่องที่เธอทำเหรอ?"ซูหลิงโหรวปล่อยเธอ เดินไปด้านข้างแล้วเยาะเย้ย “รู้หรือไม่ เกี่ยวอะไรด้วยล่ะ?”เธอยืนนิ่ง หันกลับมามองเจียงเซิง "อย่างไรซะ เขาก็ไม่มีทางรู้ว่าฉันเป็นคนทำ ส่วนเธอ ก็ไม่มีโอกาสได้บอกเขาแล้ว"คนสองคนที่สวมชุดป้องกันก้าวไปข้างหน้า เหมือนกำลังเตรียมอะไรอยู่ เจียงเซิงพยายามดิ้นรนต่อต้านขึ้นมาสุดแรง ความหวาดกลัวค่อย ๆ แพร่กระจายไปจนถึงก้นบึ้งหัวใจครั้งนี้เธอจะต้องตายจริง ๆ แล้วเหรอ?ไม่ เธอไม่อยากตายไม่อยากทิ้งลูก ๆ ไปและก็ไม่อยากแยกจากซือเย่เจ๋วนะ!รูขุมขนของเธอสั่นไหว เหมือนกับเลือดของเธอหยุดนิ่ง เมื่อคนที่สวมชุดป้องกันกำลังจะถอดเสื้อผ้าของเธอออก เสียงกระสุนปืนข้างนอกทำให้พวกเขาตื่นตระหนกทันทีซูหลิงโหรวกำลังจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง ประตูก็ถูกเปิดออก เมื่อเห็นชายที่ปรากฎตัวที่นอกประตู ซูหลิงโหรวก็อ้าปากเล็กน้อย เหมือนยังอยากจะอธิบายอะไรบางอย่างซือเย่เจ๋วยิงเธอโดยที่ใบหน้าไม่มีความรู้สึกกระสุนนัดหนึ่งทะลุไหล่ของเธอซูหลิงโหรวล้มลงบนพื้น กุมบาดแ
เธอขมวดคิ้วแน่น อดไม่ได้ที่จะคิดว่า หลานอู๋เหยียนรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมีความสัมพันธ์กับซือเย่เจ๋ว? ซือเย่เจ๋วไม่เคยเปิดเผยตัวตนของเธอในประเทศ S!หรือว่าเป็นซูหลิงโหรว?!มิน่าล่ะ ไม่แปลกใจเลยที่ซูหลิงโหรวจะจับเธอได้คางของซือเย่เจ๋ววางอยู่ด้านบนสุดของผมเธอ หัวใจก็เจ็บปวดขึ้นมาทันที จนกระทั่งเขาไม่กล้าบอกเธอ นี้คือแผนการเขารู้ชัดเจนว่าจะมีคนลงมือกับเจียงเซิง ดังนั้นอัญมณีที่อยู่บนชุดราตรีที่เขามอบให้เธอข้างในมีเครื่องติดตามขนาดเล็ก เพื่อป้องกันไม่ให้เธอเกิดอุบัติเหตุ แต่คิดไม่ถึงว่าคนเหล่านั้นจะลงมือเร็วขนาดนี้และซูหลิงโหรว ก็อยู่พวกเดียวกับพวกเขาจริงๆ“หลานอู๋เหยียน”สายตาของซือเย่เจ๋วก็เย็นชาขึ้นทันที และใช้คำพูดที่พูดกับคนภายนอก "นายคิดว่าก่อนที่ฉันจะมา ฉันไม่ได้เตรียมอะไรเลยเหรอ?"หลานอู๋เหยียนชะงักไปเล็กน้อย ลูกตาดำราวกับนกอินทรีก็มีความดุร้ายซือเย่เจ๋วมองไปบริเวณรอบๆตึกร้าง และพูดสบถขึ้นมา “พวกนายน่าจะลองดูบริเวณรอบๆตึกก่อนเถอะ”หลานอู๋เหยียนเงยหน้าขึ้นมอง นึกไม่ถึงว่าจะมีคนซุ่มโจมตีพวกเขาเขาพูดด่าด้วยคำพูดหยาบคายชายชุดดำเหล่านั้นที่อยู่ข้างหลังเขายังคงถือปืน แต่ไ
ซือเย่เจ๋วเดินเข้ามา ดึงเก้าอี้แล้วนั่งลงตรงหน้าเธอ "เซิงเซิง ยังรู้สึกไม่สบายตรงไหนอีกไหม?"เจียงเซิงส่ายหน้าแล้วถามว่า "ทำไมคุณถึงมาอยู่กับคุณลุงเรเวียร์?"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลง "ฉันขอให้เขามาที่นี่ ฉันกังวลว่าเธอจะเกิดอุบัติเหตุที่นี่ ฉันก็เลยบอกเรเวียร์ อย่างไรซะฉันต้องเตรียมตัวให้พร้อมเต็มที่"“ ซือเย่เจ๋ว พูดตามตรง คุณมาประเทศ S เพราะเรื่องแม่ของคุณใช่ไหม?” เจียงเซิงถามซือเย่เจ๋วหยุดชะงัก ไม่พูดอะไรส่วนเธอก็เดาได้ตั้งนานแล้วเธอลดสายตาลง เม้มริมฝีปากแล้วเอ่ยพูด "ฉันขอโทษ ฉันทำให้คุณต้องลำบาก"ซือเย่เจ๋วจับมือทั้งสองข้างที่เย็นชาเล็กน้อยของเธอ "ความจริงฉันรู้ว่านี้เป็นกับดัก พวกเขามุ่งหวังใช้เรื่องของแม่ฉันเมื่อปีนั้นดึงดูดฉันเพื่อจัดการกับตระกูลซือ ฉันเรียกเรเวียร์เข้ามา เดิมทีคิดว่าถ้าหากฉันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็มีเขาอยู่ คนเหล่านั้นก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ"ส่วนลึกของหัวใจของเจียงเซิงก็สั่นไหวขึ้นมาทั้ง ๆ ที่เขารู้ว่าเป็นกับดัก เขายังเสี่ยงอันตราย?ขนขาของเธอกระตุก "ซือเย่เจ๋วทำไมคุณถึงอยากตรวจสอบเรื่องแม่ของคุณอีกล่ะ? หรือว่า..."ซือเย่เจ๋วมองเธอนานมาก หลังจากนั้นริมฝีปา
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ