เธอขมวดคิ้วแน่น อดไม่ได้ที่จะคิดว่า หลานอู๋เหยียนรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมีความสัมพันธ์กับซือเย่เจ๋ว? ซือเย่เจ๋วไม่เคยเปิดเผยตัวตนของเธอในประเทศ S!หรือว่าเป็นซูหลิงโหรว?!มิน่าล่ะ ไม่แปลกใจเลยที่ซูหลิงโหรวจะจับเธอได้คางของซือเย่เจ๋ววางอยู่ด้านบนสุดของผมเธอ หัวใจก็เจ็บปวดขึ้นมาทันที จนกระทั่งเขาไม่กล้าบอกเธอ นี้คือแผนการเขารู้ชัดเจนว่าจะมีคนลงมือกับเจียงเซิง ดังนั้นอัญมณีที่อยู่บนชุดราตรีที่เขามอบให้เธอข้างในมีเครื่องติดตามขนาดเล็ก เพื่อป้องกันไม่ให้เธอเกิดอุบัติเหตุ แต่คิดไม่ถึงว่าคนเหล่านั้นจะลงมือเร็วขนาดนี้และซูหลิงโหรว ก็อยู่พวกเดียวกับพวกเขาจริงๆ“หลานอู๋เหยียน”สายตาของซือเย่เจ๋วก็เย็นชาขึ้นทันที และใช้คำพูดที่พูดกับคนภายนอก "นายคิดว่าก่อนที่ฉันจะมา ฉันไม่ได้เตรียมอะไรเลยเหรอ?"หลานอู๋เหยียนชะงักไปเล็กน้อย ลูกตาดำราวกับนกอินทรีก็มีความดุร้ายซือเย่เจ๋วมองไปบริเวณรอบๆตึกร้าง และพูดสบถขึ้นมา “พวกนายน่าจะลองดูบริเวณรอบๆตึกก่อนเถอะ”หลานอู๋เหยียนเงยหน้าขึ้นมอง นึกไม่ถึงว่าจะมีคนซุ่มโจมตีพวกเขาเขาพูดด่าด้วยคำพูดหยาบคายชายชุดดำเหล่านั้นที่อยู่ข้างหลังเขายังคงถือปืน แต่ไ
ซือเย่เจ๋วเดินเข้ามา ดึงเก้าอี้แล้วนั่งลงตรงหน้าเธอ "เซิงเซิง ยังรู้สึกไม่สบายตรงไหนอีกไหม?"เจียงเซิงส่ายหน้าแล้วถามว่า "ทำไมคุณถึงมาอยู่กับคุณลุงเรเวียร์?"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลง "ฉันขอให้เขามาที่นี่ ฉันกังวลว่าเธอจะเกิดอุบัติเหตุที่นี่ ฉันก็เลยบอกเรเวียร์ อย่างไรซะฉันต้องเตรียมตัวให้พร้อมเต็มที่"“ ซือเย่เจ๋ว พูดตามตรง คุณมาประเทศ S เพราะเรื่องแม่ของคุณใช่ไหม?” เจียงเซิงถามซือเย่เจ๋วหยุดชะงัก ไม่พูดอะไรส่วนเธอก็เดาได้ตั้งนานแล้วเธอลดสายตาลง เม้มริมฝีปากแล้วเอ่ยพูด "ฉันขอโทษ ฉันทำให้คุณต้องลำบาก"ซือเย่เจ๋วจับมือทั้งสองข้างที่เย็นชาเล็กน้อยของเธอ "ความจริงฉันรู้ว่านี้เป็นกับดัก พวกเขามุ่งหวังใช้เรื่องของแม่ฉันเมื่อปีนั้นดึงดูดฉันเพื่อจัดการกับตระกูลซือ ฉันเรียกเรเวียร์เข้ามา เดิมทีคิดว่าถ้าหากฉันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็มีเขาอยู่ คนเหล่านั้นก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ"ส่วนลึกของหัวใจของเจียงเซิงก็สั่นไหวขึ้นมาทั้ง ๆ ที่เขารู้ว่าเป็นกับดัก เขายังเสี่ยงอันตราย?ขนขาของเธอกระตุก "ซือเย่เจ๋วทำไมคุณถึงอยากตรวจสอบเรื่องแม่ของคุณอีกล่ะ? หรือว่า..."ซือเย่เจ๋วมองเธอนานมาก หลังจากนั้นริมฝีปา
เจียงเซิงยืนขึ้น ค่อย ๆ เดินไปข้างเขา "คุณบอกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาให้ฉันฟังได้ไหม?"**"ว้าย!"ซูหลิงโหรวถูกเฆี่ยนตีจนทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดและล้มลงกับพื้น แผ่นหลังเนื้อเฟะ บาดแผลแต่ละแผลที่ลึกมากต่างสั่นสะเทือนเธอริมฝีปากแห้งเงยหน้ามองผู้ชายที่นั่งดูดบุหรี่ไฟฟ้าอยู่บนเก้าอี้ตัวยาว "คุณชายเหยียน......ฉัน......ฉันไม่ได้โกหกคุณจริง ๆ ฉันไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเจียงเซิงกับองค์กรต้าตู"หลานอู๋เหยียนพ่นควัน สายตาอันตรายและเย็นชา "กว่าฉันจะรอจนซือเย่เจ๋วติดเบ็ด อีกแค่นิดเดียวฉันก็จะจับเขาได้เป็น ๆ"ริมฝีปากและฟันของซูหลิงโหรวสั่นเทาหลานอู๋เหยียนวางขายาว ลุกขึ้นเดินไปทางเธอ จากนั้นเหยียดมองหญิงสาวที่สภาพน่าอนาถที่อยู่บนพื้น "เป็นเพราะเธอนังสารเลว ไม่สืบเรื่องของผู้หญิงคนนั้นให้ชัดเจนแล้วยังกล้ามาทำลายเรื่องดีของฉัน?"ซูหลิงโหรวยกมือขึ้นแล้วดึงกางเกงของเขา "คุณชายเหยียน ขอโทษ...ให้โอกาสฉันอีกครั้ง ฉัน...ฉันสามารถชดเชยได้ ไม่ว่าคุณจะให้ฉันทำอะไรก็ตาม""หึหึ"หลานอู๋เหยียนนั่งยองๆ ดึงผมของเธอ เส้นผมที่ถูกดึงหนังศีรษะของเธอ เจ็บปวดมากจนเธอไม่กล้าที่จะกรีดร้อง เขาบังคับให้เธอมอ
องค์หญิงใหญ่ได้รับความเคารพจากพลเมืองประเทศ S ถึงขั้นที่เคยได้รับชื่อเสียงว่าเป็นเจ้าหญิงที่เป็นมิตรกับผู้คนมากที่สุด เธอมีอิทธิพลสูงมาก และก็มีความคิดในด้านธุรกิจ กษัตริย์มิลเลอร์เคยพูดไว้ว่าองค์หญิงใหญ่สามารถปกครองได้เหมือนกับผู้ชายแต่เจ้าหญิงที่ห่วงใยประเทศและประชาชนท่านนี้ ตกหลุมรักซือหลิงหยุนที่ไม่เหมาะสมกับสถานะของเธอด้วยเหตุนี้จึง "ล่วงหล่น" ลงมา และสาเหตุที่ทำให้เธอ "ล่วงหล่น" คือความขัดแย้งภายในราชวงศ์ราชวงศ์แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ขุนนางกลุ่มหนึ่งรวมถึงตระกูลหลานในปัจจุบันสนับสนุนลอร์ดเรเกิ้ล ลอร์ดเรเกิ้ลเป็นน้องชายต่างมารดาขององค์หญิงใหญ่ หรือเรียกกันทั่วไปว่ากองกำลังฝ่ายซ้ายภายใน ส่วนอีกฝ่ายสนับสนุนองค์หญิงใหญ่"เหตุการณ์องค์หญิงใหญ่" คือการกบฏภายใน ส่วนความรักของซือหลิงหยุนกับองค์หญิงใหญ่ก็แค่ทำให้ฝ่ายซ้ายมีเหตุผลที่จะผลักดันและต่อต้านเพื่อยึดอำนาจขององค์หญิงใหญ่จากนั้นภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ทำให้สถานะขององค์หญิงใหญ่เริ่มสั่นคลอนแต่ตอนนั้นถ้าหากไม่มีซือหลิงหยุน องค์หญิงใหญ่ก็คงถูกควบคุมและสังหารโดยฝ่ายซ้ายตั้งนานแล้ว ซือหลิงหยุนไม่ได้ฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจอย่างที่ขุนน
เขามองไปที่เจียงเซิงอีกครั้ง “กุงเห้อก็เช่นเดียวกันใช่ไหม จากนิสัยของเขาเมื่อรู้ว่าคุณม่านม่านยังมีลูกสาวอย่างคุณ เขาคงจะรับคุณกลับไปที่ตระกูลกุงตั้งนานแล้ว ดังนั้นกุงเห้อไม่ได้โง่ เขารู้ว่าเมื่อคนของฝ่ายซ้ายรู้ความสัมพันธ์ระดับนี้อย่างชัดเจนจะต้องใช้ประโยชน์คุณแน่นอน”ความประหลาดใจแวบผ่านดวงตาของเจียงเซิงขณะเดียวกันก็นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของกุงเห้อ'เธอคือลูกสาวของม่านม่าน ต่อให้ฉันจะลงมือต่อตระกูลซืออย่างไรก็ไม่มีทางลงมือต่อเธอ แต่คนอื่น ก็ไม่แน่"คนอื่นที่เขาหมายถึง ก็คือคนของฝ่ายซ้ายหลังจากเงียบไปนาน จู่ๆ ก็มีบางอย่างแวบขึ้นมาในหัวของเธอ และเธอก็มองตรงไปที่เรเวียร์ "ฉันยังอยากถามคุณอีกเรื่องหนึ่ง"ดวงตาของเรเวียร์เผยความสงสัยเห็นเพียงแค่เธอเอ่ยปากอย่างไม่รีบร้อน "โรคที่คุณแม่ของฉันติเชื้อ มีความเกี่ยวข้องกับไวรัสไหม?"บรรยากาศในห้องพักผู้ป่วยนิ่งไปครู่หนึ่งผ่านไปเป็นเวลานาน เรเวียร์ก้มหน้าลงพูดเสียงเบา "ใช่"เขามองไปที่นอกหน้าต่าง "เธอติดเชื้อโม่จ้วงไวรัสที่หาได้ยากมาก ซึ่งเกี่ยวข้องกับภัยพิบัติเมื่อสามสิบปีก่อน แม่ของคุณเป็นหนึ่งในผู้ติดเชื้อ"“โรคระบาดเมื่อสามสิบป
น่าเสียดายที่ผลสำเร็จออกมาช้าเกินไป แม่ของคุณหมดทางเยียวยารักษาไม่มีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่หลายปี เธอถึงได้เลือกจากไปเพียงแต่ ตอนที่เธอจากไป เซียวให้เซรั่มภูมิคุ้มกันกับเธอหนึ่งหลอด และเซรุ่มภูมิคุ้มกันชนิดนี้บนโลกมีเพียงแค่สองหลอดเท่านั้น หนึ่งหลอดอยู่ในมือแม่ของคุณ หนึ่งหลอดอยู่ในมือเซียว ผมคิดว่าก่อนที่แม่ของคุณตัดสินใจตั้งครรภ์ เธอน่าจะได้ฉีดเซรุ่มแล้ว ไม่อย่างนั้น พ่อของคุณก็จะติดเชื้อไปด้วย ส่วนคุณ......"เรเวียร์เห็นเธอไม่พูดอะไรเจียงเซิงใจสั่นคลอน "ดังนั้นเลือดของฉันถึงได้พิเศษแบบนี้?"แม่ของเธอได้ฉีดเซรั่มให้ตัวเองในตอนที่คิดจะตั้งครรภ์เธอ แต่เซรั่มหลอดนั้นไม่มีผลต่อแม่แล้ว ส่วนแม่เพื่อที่จะไม่ให้พ่อติดเชื้อ และก็ไม่ให้ไวรัสถ่ายทอดพันธุ์กรรมไปถึงตัวเธอแม่ได้ตัดสินใจแบบนี้ตั้งนานแล้ว ดังนั้นถึงได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะจากโลกนี้ไปโดยไม่ทิ้งความเสียใจเอาไว้เหรอ?แต่ทำไมเธอถึงไม่เลือกเซียวที่เป็นรักแรกของเธอ แต่กลับเป็นคุณพ่อที่เจอหน้ากันครั้งเดียวก็พูดคุยถึงเรื่องแต่งงาน?"เซิงเซิง คุณยังจำได้ไหมที่ผมเคยบอกว่าห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาดว่าเลือดของคุณมีความพิเศษ?" เรเวียร์ถาม
เจียงเซิงหัวเราะด้วยความโกรธ "คุณ คุณเก่งมาก!"หลังจากนั้นไม่นาน เจียงเซิงก็ควบคุมตัวเองซือเย่เจ๋วหัวเราะเบา ๆ จากนั้นค่อยๆ สวมเสื้อผ้าให้เธอ "เซิงเซิงของผมยิ่งอยู่ยิ่งเก่งกาจ ดูท่าปกติผมสอนได้ไม่เลว""ใช่แล้ว ดูคุณดีใจซะ" เจียงเซิงโมโหแก้มป่อง ผู้ชายบ้าคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งหน้าไม่อาย แถมยังเจ้าเล่ห์กับเธอมองดูเจียงเซิงที่ยิ่งอยู่ยิ่งชอบมีน้ำโห ในดวงตาของซือเย่เจ๋วก็มีความอ่อนโยนมากขึ้น ต่างพูดว่าเมื่อผู้หญิงคนหนึ่งรักผู้ชายคนหนึ่งอย่างหมดใจ เธอถึงจะออดอ้อนและชอบเกาะติดเหมือนกับสาวน้อยและสิ่งเหล่านี้ตรงกับตัวเธอจริง ๆ เขาโอบกอดเธอไว้อย่างพึงพอใจและพูดเสียงทุ้มต่ำ "เอาล่ะ วันนี้ผมตรวจสอบเรื่องหนึ่งได้พอดี เรื่องที่แม่ของผมถูกลักพาตัว ซูหลิงโหรวรับรู้เรื่องด้วย"เจียงเซิงหยุดชะงัก: "ดังนั้นเธอปิดบังท่านผู้เฒ่า?"ซือเย่เจ๋วสายตาเคร่งขรึมเด็ดขาด: "เธอปิดบังคุณปู่และทุกคนในองค์กรเย่เยี่ยน โยนความผิดไปให้กุงเห้อ"เจียงเซิงไม่ได้พูดอะไร เมื่อนึกถึงสายตานั้นของซูหลิงโหรวที่วอนขอให้ซือเย่เจ๋วพาเธอจากไปในวันนี้ก่อนที่จะถูกพาตัวไป เธอเหมือนว่าไม่ได้เชื่อฟังหลานอู๋เหยียนโดยสิ้นเชิง หรือบางท
ซือเย่เจ๋วลดสายตาลง ยกมือขึ้นจับท้ายทอยของเธอ เปลี่ยนเป็นฝ่ายรุกและจูบอย่างลึกซึ้งมากขึ้นต่อให้นี่เป็นแค่สัญลักษณ์ของชิงช้าสวรรค์ ตำนานที่มีหรือไม่มีก็ได้ แต่เขากลับยินยอมที่จะเล่นกับเธอ ในตอนที่เธอเล่นสนุกเมื่อการจูบที่ยาวนานสิ้นสุดลง เจียงเซิงหน้าแดงก่ำเกือบขาดอากาศหายใจ ซือเย่เจ๋วลูบศีรษะของเธอและหัวเราะเสียงเบา "นานขนาดนี้แล้ว ยังเปลี่ยนลมหายใจไม่เป็นเหรอ?"เจียงเซิงกะพริบตาไม่พูดอะไร“ดูท่าผมต้องสอนคุณแล้ว” ปลายนิ้วมือของซือเย่เจ๋วจับที่คางของเธอ และจูบอีกครั้งผ่านไปอีกครุ่ใหญ่ เจียงเซิงผละออกจากปากของเขา เธอแก้มแดงและหายใจหอบ กลัวว่าเขาจะจูบอีกครั้ง เธอรีบดันเขาเบา ๆ "เอาล่ะเอาล่ะ ฉันเป็นแล้ว!"ถ้าจูบอีกต้องถูกจูบจนปากบวมแล้วทั้งสองเดินลงจากชิงช้าสวรรค์ และในตอนนี้เอามีเด็กผู้ชายอายุหกเจ็ดขวบสวมหมวกคนหนึ่งหยิบดอกกุหลาบออกมาจากตะกร้าแล้วพูดเป็นภาษาอังกฤษ "Sir, your girlfriend is very beautiful, and it will be more beautiful with roses."“Thank you. I bought them all.” ซือเย่เจ๋วหยิบแบงค์ดอลล่าร์สองสามใบออกมาจากกระเป๋าเงินแล้วส่งให้เด็กผู้ชาย และยังลูบศีรษะน้อย ๆ ของเขา
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ