ซือเย่เจ๋วส่งข้อความไปหาหลัวเชว่ ผ่านไปครู่หนึ่ง หลัวเชว่เหมือนสืบพบอะไรแล้วตอบกลับเขาซือเย่เจ๋ววางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ "ผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า?"เขามองดูแล้วพยักหน้าเจียงเซิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พนักงานหญิงคนนี้ชื่อ ชื่อหยางเหมี่ยว?เธอไม่ได้มาจากฝ่ายธุรการเหรอ?เธอผิดใจกับซูหลิงโหรว?เจียงเซิงมองไปทางซือเย่เจ๋ว "คุณรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเธอ"ซือเย่เจ๋วตอบอย่างเรียบเฉย "เธอขาดงานโดยไม่มีเหตุผลหลายวันแล้ว จะหาข้อมูล ไม่ใช่เรื่องยากจางเหมี่ยวขาดงานโดยไม่มีเหตุผล เพื่อนร่วมงานของเธอไม่รู้ว่าเธอไปไหน และติดต่อเธอไม่ได้ แม้แต่ข้าวของของเธอก็ยังคงอยู่บนโต๊ะ หัวหน้าฝ่ายธุรการได้รายงานเรื่องนี้กับหลัวเชว่ และบังเอิญได้ยินชายผู้นี้พูดอย่างนี้ในวันนี้พอดี เขาจึงนึกขึ้นได้ชายคนนั้นกล่าวต่อว่า "เหล่าสือฆ่าเธอ แล้วให้ผมจัดการศพ ผมจึงนำศพของเธอไว้ที่ป่าชานเมือง ฝังเอาไว้"เจียงเซิงเม้มริมฝีปากแน่น ผ่านไปเป็นเวลานาน จึงมองเขาแล้วพูดขึ้น "พวกคุณทำเรื่องพวกนี้ ไม่กลัวกรรมตามสนองเหรอ?""พวกเราคนประเภทนี้ ทำงานแทนคนอื่น ตัดสินเองไม่ได้ ยังจะกลับกรรมตามสนองอะไร?"ชายคนนั้นหัวเราะแล้วสูบบุหรี่อีก
ซือเย่เจ๋วจับมือเธอแน่นเหมือนกับตั้งใจ เจ็บจนเธอร้องออกมา "คนบ้า ถามประโยคเดียวต้องโมโหด้วยเหรอ?"เขายิ้ม “ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ จะมีเหตุผลอะไรมากมายขนาดนั้น?”เจียงเซิงดึงมือออกแล้วกอดอก “คุณไม่เคยชอบผู้หญิงคนอื่นบ้างเลยเหรอ?”ซือเย่เจ๋วขยับดวงตาไปมา "ไม่มี"ขณะพูดก็ถามเธอ “แล้วเธอล่ะ?”ก่อนมาเจอเขา เธอเคยชอบผู้ชายคนไหนมาบ้าง?"เจียงเซิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้มพูด "มีสิ ตอนมหาลัยแอบรับรุ่นพี่ที่โตกว่ารุ่นหนึ่ง"เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เคร่งขรึมรอบตัวซือเย่เจ๋ว เธอหลุดหัวเราะแล้วพูดขึ้น "ผู้หญิงที่แอบชอบเขาเยอะมาก หน้าตาหล่อคะแนนก็ดี ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่ชอบ อีกอย่างเขาไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำ""หึ ยังอยากจะรู้จักอีกเหรอ?"ซือเย่เจ๋วพูดอย่างหึงหวงเจียงเซิงยิ้มอย่างสดใส "ไม่อยากไม่อยาก ในเมื่อผู้ชายอย่างคุณก็ดีเลิศขนาดนี้และหล่อขนาดนี้แล้ว ฉันจะกล้าคิดถึงคนอื่นได้อย่างไร......""เพิ่งพูดจบ ซือเย่เจ๋วถือโอกาสตอนที่จอดรถรอไฟแดงตรงทางแยก ฝ่ามือใหญ่จับท้ายทอยของเธอและจูบปากของเธอเจียงเซิงตกตะลึง แก้มแดงระเรื่อในทันทีเธอผลักเขาออกไปเบา ๆ และพึมพำ "อย่าเล่น!"ซือเย่เจ๋วเลิ
ต้องการรอที่จะให้ท่านผู้เฒ่าเห็นภาพที่เธอกับกุงเห้อเจอหน้ากันไม่ใช่เหรอ?ซือเย่เจ๋วเหมือนกำลังครุ่นคิดคำพูดของเธอ เจียงเซิงประคองคางครุ่นคิด "ถ้าหากคนของเธอจับตาดูฉัน งั้นเธอสามารถให้คนของเธอลงมือต่อฉันได้ หรือว่าจับตาดูฉันและสะกดรอยตามแค่นั้นเหรอ?"ซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืน ดวงตาขยับไปมา "ดูท่าเธอใช้ประโยชน์คนที่อยู่ข้างกาย""คนข้างกาย? แต่ว่าวันนั้นคนที่ฉันไปหนานหยางนอกจากคุณกับ......" เธอเหมือนจะนึกถึงใครได้ จากนั้นสูดหายใจเข้าลึก ๆซือเย่เจ๋วกลับยิ้มออกมา "กลับไปควรจะสั่งสอนเธอสักหน่อยว่า อะไรเรียกว่าจิตใจคนโหดเหี้ยม"วันต่อมาหลัวหยิงถูกซือเย่เจ๋วเรียกไปที่สำนักงานบริหาร เธอเกาหัวเดินเข้าไป หลังจากเห็นหลัวเชว่จึงถามขึ้น "ท่านเจ๋ว คุณเรียกฉันเหรอคะ?""วันนั้นฉันให้เธอไปรับเซิงเซิงที่หนานหยาง เธอได้เอาเรื่องนี้บอกใครบ้าง?" ซือเย่เจ๋วในมือถือเอกสารแล้วพลิกไปมา ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองหลัวหยิงพูดโดยไม่ครุ่นคิด "พี่หลิงโหรว วันนั้นตอนเช้าเธออยู่กับฉันพอดี ท่านเจ๋วโทรหาฉัน ดังนั้นฉันจึงบอกกับเธอ"หลัวเชว่กุมขยับแล้วกัดฟันพูด "หลัวหยิง เธอเป็นควายเหรอ? เรื่องอะไรก็บอกซูหลิงโหรวไปหมด? เธ
ซูหลิงโหรวยกกาแฟเดินมาที่ข้างหน้าโต๊ะ จากนั้นวางกาแฟลงบนโต๊ะ เห็นท่านผู้เฒ่าช่วงนี้มีท่าทางที่เย็นชาต่อตัวเอง เธอรู้ว่าคืนนั้นที่ซือเย่เจ๋วเกือบจะ "เกิดเรื่อง" ขึ้น ท่านผู้เฒ่ามีความไม่พอใจต่อตัวเธอเธอกัดริมฝีปาก พูดด้วยสีหน้าน้อยใจ "คุณปู่ คืนนั้นเรื่องที่เย่เจ๋วเกือบจะได้รับบาดเจ็บหนูได้สืบชัดเจนแล้ว เป็นฝีมือของเหล่าสือ"ท่านผู้เฒ่าหยุดชะงัก และลดหนังสือพิมพ์ลง เงยหน้ามองเธอ สีหน้าแย่ลงในทันที "เหล่าสือ? นั่นเป็นคนที่ฉันยกให้เธอไม่ใช่เหรอ?"ท่านผู้เฒ่าจะไม่รู้จักเหล่าสือได้อย่างไร เหล่าสือคือคนจากค่ายฝึกที่สอบไปองค์กรเย่เยี่ยน เป็นเพื่อนกับหลัวหู่ที่ทำงานร่วมกันที่องค์กรเย่เยี่ยน เพียงแค่ภายหลังเขาจัดแจงเหล่าสือให้ซูหลิงโหรวซูหลิงโหรวนั่งลงข้างกายเขาแล้วพูดอธิบาย "ใช่ค่ะ เป็นเขา คุณปู่ เหล่าสือทำเรื่องนี้หนูไม่รู้จริง ๆ""ไม่รู้?" ท่านผู้เฒ่าวางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ "เขาฟังคำสั่งของเธอ ถ้าไม่ใช่เธอเสี้ยงสอน เขาจะกล้าทำเรื่องแบบนี้เหรอ?"เห็นใบหน้าของท่านผู้เฒ่าที่เต็มไปด้วยความสงสัย ซูหลิงโหรวบีบน้ำตาออกจากหางตา "คุณปู่ คุณรู้ถึงความรู้สึกที่หนูมีต่อเย่เจ๋ว ต่อให้หนูยอมรับว่า
หลัวหยิงไม่ไว้หน้าเธออีกต่อไปซูหลิงโหรวสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นรีบพูดขึ้น: "หลัวหยิง เธอพูดอะไรน่ะ คนอื่นพูดอะไรกับเธอใช่ไหม? ฉันไม่รู้เรื่องจริง ๆ......""พี่ยังเสแสร้งอีก ก่อนที่คนคนนั้นจะตายเขาสารภาพหมดแล้วว่าพี่เป็นคนทำ วั่งฉีกับพ่อแม่ของวั่งฉีเป็นพี่ที่ใช้ให้พวกเขาฆ่า!"คำพูดของหลัวหยิงทำให้ท่านผู้เฒ่าสีหน้าเคร่งขรึมอย่างอดไม่ได้ จากนั้นมองซูหลิงโหรวซูหลิงโหรวสีหน้าเคร่งขรึม "หลัวหยิง เธอรู้ไหมว่าเธอพูดแบบนี้กำลังใส่ร้ายป้ายสีฉันอยู่ เรื่องของพวกวั่งฉีไม่เกี่ยวข้องกับฉัน!""ก็ได้ ในเมื่อเรื่องนี้เป็นการใส่ร้ายพี่ งั้นเรื่องที่คืนนั้นท่านเจ๋วเกือบจะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ คงไม่ได้ใส่ร้ายพี่หรอกนะ?"หลัวหยิงมองดูเธอและพูดอีก "เรื่องนั้นเป็นพี่ที่ใช้ให้เหล่าสือทำสินะ เหล่าสือเป็นคนของพี่!"ซูหลิงโหรวสองมือกำแน่น "ใช่ เหล่าสือเป็นคนทำ เมื่อครู่ฉันบอกกับคุณปู่แล้ว เหล่าสือฝ่าฝืนคำสั่งของฉันแอบไปทำเรื่องนั้นเอง! ฉันไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ!"เห็นหลัวหยิงไม่เชื่อใจ เธอจับแขนของหลัวหยิงไว้ "หลัวหยิง พวกเราเมื่อก่อนอยู่ด้วยกันที่ค่ายฝึก ฉันปฏิบัติต่อเธออย่างไรเธอไม่รู้เหรอ ความ
คุณท่านซือยกแก้วชาขึ้นมาจิบ จากนั้นหัวเราะหึหึพูดขึ้น "ไม่รู้เรื่อง?"เขาวางแก้วชาลงและพูดด้วยความสงบเยือกเย็น "นั่นเป็นเพราะเหล่าสือกับคนคนนั้นตายไปหมดแล้ว พวกเขาไม่สามารถยืนยันได้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเธอถูกไหม?"ซูหลิงโหรวตัวสั่นเห็นเพียงแค่คุณท่านซือพูดกับหลัวหู่ "ไปพาคนคนนั้นเข้ามา"คนคนนั้น?พาใครมา?ซูหลิงโหรวลมหายใจติดขัด สีเลือดบนใบหน้าของเธอหายไปจนหมดไม่นานนัก หลัวหู่พาครูฝึกหลีที่บนตัวยังมีบาดแผลอยู่เข้ามาข้างในเมื่อเห็นครูฝึกหลี ซูหลิงโหรวตกตะลึงไปหมดเขายังมีชีวิตอยู่อีก!เหล่าสือไม่ได้ฆ่าเขาให้ตายย!คุณท่านซือเห็นครูฝึกหลี "พูดออกมาให้หมดเถอะ"แรกเริ่มครูฝึกหลีไม่ได้อยากจะทรยศหักหลัง แต่ทว่าหลังจากที่รู้ว่าพี่ชายของตัวเองเสียชีวิต ครูฝึกหลีไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว "ผู้นำตระกูลซือ ท่านผู้เฒ่า คุณหนูซูเป็นตัวการจริง ๆ การเสียชีวิตของวั่งฉีในตอนนั้น เป็นคุณหนูซูที่เอาชีวิตพี่ชายของผมมาบีบบังคับให้ผมข่มขู่วั่งฉี ผมก็เพิ่งจะรู้ว่า คุณเจียงถูกงูพิเศษกัดจนบาดเจ็บก็เป็นเพราะคุณหนูซูที่ใช้ให้เหล่าสือทำ""นาย......นายพูดซี้ซั้ว!" ซูหลิงโหรวยังอยากจะเถียงข้าง ๆ
"คุณปู่ คุณรู้หนูรักเย่เจ๋ว หนูทำเรื่องมากมายขนาดนี้ก็เพราะเย่เจ๋วนะคะ!"ท่านผู้เฒ่าสะบัดเธอออก "ทำเพื่อเย่เจ๋ว? แม้แต่ชีวิตของเย่เจ๋วเธอยังไม่สนใจ เธอยังบอกว่าทำเพื่อเขา?"ซูหลิงโหรวรูม่านหดลงทันที "ไม่ใช่นะคะ เรื่องนั้นหนูไม่ได้ทำจริง ๆ หนูยอมรับ เรื่องของวั่งฉีเป็นฝีมือของหนู แต่เรื่องเย่เจ๋วเป็นเหล่าสือที่ทำโดยพลการ หนูไม่รู้เรื่องจริง ๆ นะคะ!"ท่านผู้เฒ่าไม่มองใบหน้าที่ร้องห่มร้องไห้ของเธอ "เดิมทีฉันอยากจะเชื่อเธอ ฉันเคยพูดไว้แล้ว ฉันปกป้องเธอได้ แต่เรื่องที่เธอทำเกินเส้นตายของฉันไปแล้ว ยิ่งกว่านั้น เย่เจ๋วคือหลานชายของฉัน!"ขณะพูด ท่านผู้เฒ่าก็มองดูคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยความเย็นชาอีกครั้ง "แม้แต่เรื่องฆ่าคนเธอยังทำได้ มีเรื่องอะไรอีกที่เธอจะทำไม่ได้ เธอจะให้ฉันเชื่อได้อย่างไรว่าเธอคือไม่มีความผิด?"ต่อให้เรื่องในคืนนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับซูหลิงโหรว แต่ความผิดครั้งนี้ของซูหลิงโหรวไม่ใช่แค่ความผิดเล็ก ๆ เท่านั้น แต่ได้ละเมิดเส้นตายของความเป็นมนุษย์ไปแล้วเก็บคนที่ไม่สนใจชีวิตของคนอื่นไว้ข้างกายหลานชายตัวเอง เขาจะวางใจได้เหรอ?ท่านผู้เฒ่าหันหลังไป "ไปมอบตัวเถอะ"มอบตั
เหมือนกับคุยอยู่กับตัวเองเจียงเซิงลดตาลงต่ำและเม้มริมฝีปาก: "คุณดีขึ้นแล้วยัง?""ดีขึ้นแล้วมีประโยชน์อะไรล่ะ?" คุณวั่งหัวเราะเยาะตัวเองขึ้นมา "ภรรยาของฉันเสียชีวิตแล้ว ลูกสาวก็เสียชีวิตแล้ว ทำไมฉันยังมีชีวิตอยู่อีก"คุณวั่งยอมรับความจริงเรื่องนี้ไม่ได้เปลี่ยนเป็นคนอื่น ต่างก็ยอมรับไม่ได้เจียงเซิงลดตาลงต่ำ "คุณน่าจะเข้าใจดี ทำไมถึงเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้น"คุณวั่งตกตะลึงก้มหน้าลงเงียบ ๆ และรู้สึกละอายใจ: "ใช่ ฉันยอมรับ พวกเราไม่ควรโลภเงินก้อนนั้น"เขานึกอะไรได้และพูดต่อ "อันที่จริงตอนที่พวกเราได้รับข่าวการเสียชีวิตของลูกสาว ผมกับภรรยาของผมก็เสียใจอย่างมาก ตอนที่พวกเราไปสอบถามที่ค่ายฝึกก็ได้รับลูกว่าลูกสาวของพวกเราฆ่าตัวตาย มันยากที่จะสงบจิตใจจริง ๆค่ายฝึกชดเชยเงินบำรุงให้พวกเราส่วนหนึ่ง บอกว่ารอให้ผลการชันสูตรพลิกศพออกมา พวกเราจึงพักอยู่ที่ในโรงแรมเมืองหลวงแต่มีวันหนึ่ง มีผู้หญิงคนหนึ่งมาหาพวกเรา"คุณวั่งกำหมัด เหมือนกับมีหินที่หนักมาก ๆ กดทับจนเขาหายใจไม่ออก: "เธอบอกพวกเรา การเสียชีวิตของลูกสาวของพวกเราเกี่ยวข้องกับคุณ เป็นคุณที่บีบบังคับวั่งฉีจนตายเธอเอาที่อยู่ที่ทำงา
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ